Q

Mitsubishi Xpander ผลิตที่ประเทศไหน?

รถ Mitsubishi Xpander ส่วนใหญ่ผลิตที่อินโดนีเซีย เป็นรถ MPV 7 ที่นั่งที่ออกแบบมาสำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ และได้รับความนิยมมากในไทยด้วย ด้วยการออกแบบที่ใช้งานได้หลากหลายและราคาที่คุ้มค่า ทำให้หลายครอบครัวเลือกใช้รถรุ่นนี้ ในตลาดไทย Xpander ขายดีมาตลอด เพราะมีพื้นที่กว้างขวางและขับเคลื่อนได้สะดวกบนถนนในเมือง ซึ่งตอบโจทย์คนไทยได้ดี นอกจากอินโดนีเซียแล้ว Mitsubishi ก็มีสายการผลิตในไทยด้วย แต่ตอนนี้ Xpander ส่วนใหญ่ยังนำเข้ามา ไทยเป็นตลาดรถสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้หลายแบรนด์ต่างชาติมาตั้งโรงงานที่นี่ แต่การผลิตแต่ละรุ่นจะขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดและแผนธุรกิจ จุดแข็งของ Xpander คือประหยัดน้ำมันและใช้งานได้จริง ทำให้แข่งในตลาดไทยได้ รวมถึงเครือข่ายบริการหลังการขายของมิตซูบิชิในไทยก็ครอบคลุม ช่วยให้เจ้าของรถสะดวกสบายขึ้น สำหรับคนไทยแล้ว Xpander เป็นตัวเลือกที่ทั้งประหยัดและใช้งานได้จริง โดยเฉพาะครอบครัวใหญ่หรือคนที่ต้องใช้รถบรรทุกผู้บ่อยๆ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
หมวดหมู่ของ Xpander คืออะไร?
รถ Mitsubishi Xpander ในตลาดไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถ MPV 7 ที่นั่ง ซึ่งเน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัวและผู้ที่ให้ความสำคัญกับความประหยัดพื้นที่ ข้อเด่นของรุ่นนี้คือการออกแบบภายในที่กว้างขวางและปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย พร้อมกับระยะความสูงจากพื้นรถ 220 มม. และระบบช่วงล่างที่ถูกปรับให้เหมาะกับสภาพถนนในไทย Xpander เป็นที่นิยมมากในไทยเพราะตอบโจทย์การเดินทางของครอบครัวไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเบาะแถวที่สามที่พับเก็บได้ ช่วยให้สามารถใช้งานได้ทั้งขนของหรือนั่งคนเต็มคัน ส่วนระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ 1.5L MIVEC คู่กับเกียร์ 4AT ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและดูแลรักษาง่าย ที่น่าสนใจคือในไทยยังมีรุ่น Xpander Cross ที่เพิ่มสไตล์ครอสโอเวอร์ด้วยชุดแต่งภายนอกที่สปอร์ตและอุปกรณ์เพิ่มเติม เพื่อตอบโจทย์ครอบครัวรุ่นใหม่ที่ชอบความแตกต่าง ในตลาด MPV ไทยนอกจาก Xpander แล้วยังมีคู่แข่งอย่าง Toyota Avanza และ Suzuki Ertiga ที่เน้นความคุ้มค่าในด้านพื้นที่ใช้สัยเหมือนกัน เวลาจะเลือกซื้อจริงๆ ลูกค้ามักจะดูจากความชอบในแบรนด์ ศูนย์บริการใกล้บ้าน และโปรโมชั่นเป็นหลัก
Q
Xpander เป็น SUV หรือ MPV?
Xpander เป็นรุ่นรถ 7 ที่นั่งจาก Mitsubishi Motors ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดไทย โดยถูกจัดอยู่ในกลุ่ม MPV (รถยนต์อเนกประสงค์) ไม่ใช่ SUV เพราะเน้นการออกแบบเพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสารและพื้นที่ใช้สัยภายในมากกว่า โครงสร้างรถใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ระยะความสูงจากพื้นปานกลาง ไม่ได้เน้นความสูงเหมือนรถ SUV ที่เหมาะสำหรับการขับลุย แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีบนถนนสภาพซับซ้อนของไทย จุดเด่นของ Xpander อยู่ที่การจัดเรียงเบาะที่นั่งที่ปรับเปลี่ยนได้และพื้นที่เก็บของกว้างขวาง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบเดินทางพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว หรือต้องการรถสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันและท่องเที่ยวในวันหยุด ในตลาดไทยบางครั้งเส้นแบ่งระหว่าง MPV กับ SUV ค่อนข้างคลุมเครือ บางรุ่นอาจผสมผสานคุณสมบัติของทั้งสองประเภท แต่ Xpander ยังคงยึดแนวคิดการออกแบบแบบ MPV อย่างชัดเจน ซึ่งสังเกตได้จากประตูสไลด์ข้างและความรู้สึกในการขับที่ใกล้เคียงรถเก๋ง สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกระหว่าง MPV กับ SUV ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก ถ้าต้องการพื้นที่และความสะดวกสบาย Xpander ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการรถสำหรับเส้นทาง off-road หรือชอบท่าทางการขับขี่ที่สูงกว่า ก็อาจจะมองหา SUV ดีกว่า
Q
ข้อดีของ Xpander คืออะไร?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดประเทศไทย เนื่องมาจากความประหยัดและการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยเป็นอย่างดี เริ่มจากห้องโดยสารที่กว้างขวางแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งเหมาะมากสำหรับครอบครัวใหญ่ในไทย โดยเฉพาะเวลาท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวหรือการเดินทางในชีวิตประจำวันที่มีผู้โดยสารหลายคน นอกจากนี้ยังมีระยะความสูงจากพื้นรถที่เหมาะสมและระบบช่วงล่างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ทำให้สามารถขับเคลื่อนบนถนนสภาพไม่ดีในบางพื้นที่ของไทยได้อย่างสบายๆ ส่วนเครื่องยนต์ 1.5L MIVEC ที่ติดตั้งมานั้นให้สมดุลระหว่างพลังและความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เหมาะสมกับสภาพการจราจรในเมืองที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ พร้อมยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันในระยะยาว อีกทั้งยังมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกอย่างพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันและหน้าจอสัมผัสกลางห้องโดยสาร ที่สำคัญคือขนาดตัวรถที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวางในขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนในซอยแคบๆของไทยได้อย่างคล่องตัว สำหรับการเลือกซื้อรถ MPV นั้น คนไทยไม่เพียงแต่คำนึงถึงความกว้างของห้องโดยสารและอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเท่านั้น แต่ยังควรพิจารณาถึงเครือข่ายบริการหลังการขายซึ่งมีความสำคัญต่อประสบการณ์การใช้รถในระยะยาว ซึ่ง Xpander ก็ทำได้ดีในจุดนี้ด้วยเครือข่ายบริการของ Mitsubishi ที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย
Q
ปัญหาทั่วไปของ Xpander มีอะไรบ้าง?
รถ Mitsubishi Xpander เป็นรถ MPV 7 ที่นั่งยอดนิยมในตลาดไทย ปัญหาที่มักพบส่วนใหญ่เป็นรายละเอียดเล็กน้อยในการใช้งานประจำวัน เช่น บางเจ้าของรถรายงานว่าการทำความเย็นของแอร์อาจลดลงเล็กน้อยในสภาพอากาศร้อน แนะนำให้ล้างคอนเดนเซอร์และตรวจสอบความดันน้ำยาแอร์เป็นประจำ เพราะอากาศร้อนๆของไทยถือเป็นการทดสอบระบบแอร์อย่างดี นอกจากนี้ระบบช่วงล่างอาจมีเสียงดังเล็กน้อยหลังจากขับบนถนนขรุขระมานาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพถนนบางพื้นที่ของไทย แค่ตรวจสอบบูชช่วงล่างและช็อคอัพเป็นครั้งคราวก็แก้ไขได้ ส่วนเกียร์ CVT อาจมีการกระตุกเบาๆบ้างในสภาพการจราจรติดขัด นี่เป็นลักษณะทั่วไปของเกียร์ประเภทนี้ แค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามกำหนดก็พอ สำหรับชิ้นส่วนพลาสติกภายในรถอาจมีเสียงดังจาการขยายตัวเนื่องจากความร้อน ซึ่งเป็นเรื่องปกติในประเทศเขตร้อน ส่วนระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น หน้าจอควบคุมกลางอาจตอบสนองช้าเป็นครั้งคราว แต่การรีสตาร์ทระบบก็สามารถแก้ไขได้ ปัญหาเล็กน้อยเหล่านี้ไม่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือโดยรวม จุดเด่นของ Xpander ยังคงเป็นพื้นที่ใช้งานสะดวกและประหยัดน้ำมัน ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัวไทย แค่ดูแลรักษารถตามกำหนดก็สามารถรักษาสภาพรถให้ดีได้ นอกจากนี้เจ้าของรถในไทยยังสามารถติดตามโปรโมชั่นดูแลรักษารถตามฤดูกาลจากตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น ซึ่งช่วยบำรุงรักษาสภาพรถได้ดีเลยทีเดียว
Q
Xpander เหมาะกับการขับทางไกลหรือไม่?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่งที่เน้นการใช้งานสำหรับครอบครัว ได้รับความนิยมในตลาดไทยเป็นอย่างมาก ด้วยความกว้างขวางของพื้นที่ภายในและความประหยัดที่ใช้งานได้จริง สำหรับการขับขี่ระยะไกลแล้ว Xpander ทำได้ดีมาก ระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร MIVEC ร่วมกับเกียร์ CVT ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลทั้งบนถนนเรียบและทางลาดชันเล็กน้อยในประเทศไทย อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันก็อยู่ในระดับประหยัด เหมาะกับงบประมาณของครอบครัวที่ชอบท่องเที่ยว ระบบช่วงล่างถูกปรับมาเพื่อความนุ่มสบายเป็นหลัก ช่วยลดแรงกระแทกจากถนนบางส่วนในชนบทของไทยได้ดี ที่นั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเอนได้และแถวที่ 3 พับเก็บได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการจัดเก็บสัมภาระ แต่ควรระวังว่าถ้ามีผู้โดยสารครบ 7 คน พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังจะเหลือน้อย แนะนำให้จัดสรรสัมภาระให้เหมาะสม นอกจากนี้ Xpander ยังมีระยะความสูงจากพื้นรถที่ค่อนข้างดี ช่วยให้ขับผ่านเส้นทางในชนบทช่วงฤดูฝนของไทยได้สะดวก แต่ควรลดความเร็วเมื่อเข้าโค้งเพื่อความมั่นคง เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ แล้ว Xpander มีจุดเด่นในเรื่องค่าบำรุงรักษาและอะไหล่ที่หาง่ายในตลาดไทย อู่ซ่อมรถทั่วไปก็คุ้นเคยกับรุ่นนี้ดี ก่อนออกเดินทางไกลแนะนำให้ตรวจสอบสภาพยางและระบบระบายความร้อน เพราะอากาศร้อนของไทยต้องการการระบายความร้อนที่ประสิทธิภาพ สรุปแล้ว Xpander เป็นรถที่ปรับตัวเข้ากับสภาพการใช้รถในไทยได้ดี และเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับการเดินทางไกลของครอบครัวทั่วไป
Q
Innova หรือ Xpander อันไหนใหญ่กว่ากัน ?
เมื่อมองจากมิติตัวถัง Toyota Innova มักจะนำเสนอรุ่นที่ใหญ่กว่า Mitsubishi Xpander ในตลาดประเทศไทย โดย Innova มักมีความยาวตัวรถเกิน 4.7 เมตร ระยะฐานล้อประมาณ 2.75 เมตร และมาพร้อมกับแบบที่นั่ง 3 แถว เหมาะสำหรับครอบครัวหรือการใช้งานเชิงธุรกิจที่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง ในขณะที่ Xpander มีความยาวตัวรถประมาณ 4.4 เมตร ระยะฐานล้อประมาณ 2.7 เมตร แม้จะมีที่นั่ง 3 แถวเช่นกัน แต่แถวที่ 3 จะเหมาะสำหรับเด็กหรือการเดินทางระยะสั้นกว่า ในถนนเมืองไทยอย่างกรุงเทพฯ ขนาดตัวรถที่เล็กกว่าของ Xpander ทำให้จอดและขับเคลื่อนได้สะดวกกว่า แต่หากต้องเดินทางไกลหรือรับส่งผู้โดยสารบ่อยๆ ความสบายของอินโนวาจะเหนือกว่า ทั้งสองรุ่นเป็นรถ MPV ที่นิยมในตลาดไทย การเลือกควรพิจารณาจากการใช้งานจริง นอกจากนี้คนไทยยังให้ความสำคัญกับความประหยัดน้ำมัน โดยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรของ Xpander จะประหยัดน้ำมันกว่าในเมือง ในขณะที่เครื่องยนต์ 2.0 หรือ 2.4 ลิตรของ Innova ให้พลังที่แข็งแกร่งขึ้น
Q
Xpander รุ่นปี 2020 มีแรงม้าเท่าไหร่?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดประเทศไทย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน MIVEC 1.5 ลิตร แบบประหยัดน้ำมัน ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า (77 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์ออโต้ 4 สปีด เครื่องยนต์ตัวนี้ถูกออกแบบมาให้เน้นความประหยัดน้ำมันและความทนทาน เหมาะกับการใช้งานในเมืองและครอบครัวชาวไทยเป็นอย่างดี Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่ง เป็นที่นิยมในหมู่ครอบครัวไทย เพราะมีระยะยกตัวสูงถึง 205 มิลลิเมตร ที่สามารถขับผ่านเส้นทางต่างจังหวัดได้บ้าง แถมยังมีพื้นที่ภายในที่ปรับแต่งได้หลากหลาย พร้อมฟังก์ชันใช้งานได้จริง เช่นช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมาก สำหรับคนไทยแล้ว กำลังเครื่องขนาดนี้เพียงพอต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวันและพาครอบครัวไปเที่ยววันหยุด แม้ว่ากำลัง 105 แรงม้าอาจจะไม่แรงมากเวลาจะแซงบนทางหลวง แต่เมื่อพิจารณาจากปัญหารถติดและราคาน้ำมันในประเทศไทยแล้ว การตั้งค่าเครื่องยนต์แบบนี้กลับเหมาะสมกับสภาพการใช้งานจริงมากกว่า รถ MPV สำหรับครอบครัวระดับเดียวกันอย่าง Toyota Avanza หรือ Honda BR-V ก็ใช้แนวทางเดียวกันในการออกแบบเครื่องยนต์ นี่แสดงให้เห็นว่า MPV ประเภทนี้เน้นความสมดุลในทุกด้านมากกว่าการเน้นประสิทธิภาพสูงสุดเพียงอย่างเดียว
Q
จุดอ่อนของ Xpander คืออะไร?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander เป็นรถ MPV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยความประหยัดและความทนทานที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ก็มีข้อด้อยบางประการที่ควรรู้ไว้ เช่น พื้นที่เบาะหลังแถวที่สามอาจจะคับเกินไปสำหรับผู้โดยสารที่ตัวสูง อาจรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังเมื่อมีผู้โดยสารครบทุกที่นั่งก็จะเหลือน้อย ไม่เหมาะกับการเดินทางไกลที่ต้องแบกสัมภาระจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีเสียงลมที่ค่อนข้างดังเวลาขับความเร็วสูง ซึ่งส่งผลต่อความสบายในการนั่ง ส่วนด้านกำลังเครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติแม้จะประหยัดน้ำมันและเชื่อถือได้ แต่เมื่อมีผู้โดยสารเต็มคันหรือเวลาขึ้นเนินอาจรู้สึกว่ากำลังไม่ค่อยพอ ส่วนวัสดุภายในห้องโดยสารเป็นพลาสติกแข็งเป็นหลัก ทำให้ความรู้สึกโดยรวมดูธรรมดาไปหน่อย อย่างไรก็ดี Xpander ก็มีจุดแข็งที่เหมาะกับสภาพถนนและอากาศร้อนชื้นของไทย เช่น รอบระยะล้อจากพื้นสูงและมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ดังนั้นสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถครอบครัวในเมือง Xpander ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในด้านความประหยัดและความคล่องตัว แต่ถ้าต้องการใช้งานหนักแบบเดินทางไกลบ่อยๆ หรือมีผู้โดยสารเต็มคันเป็นประจำ อาจต้องพิจารณารถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่านี้หรือระบบกันเสียงที่ดีกว่านี้จะเหมาะสมกว่า
Q
ข้อเสียของ Mitsubishi Xpander คืออะไร
Mitsubishi Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ได้รับการยอมรับในด้านความกว้างขวางและความคุ้มค่าในการใช้งาน แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น เบาะแถวสามมีพื้นที่วางขาแคบ ทำให้ผู้ใหญ่โดยสารได้ไม่สะดวกและไม่เหมาะกับการเดินทางไกล เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติเมื่อบรรทุกเต็มที่หรือขึ้นเขาจะรู้สึกแรงไม่เพียงพอ เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก แต่เวลาต้องเร่งแซงบนทางด่วนควรวางแผนล่วงหน้า ส่วนวัสดุภายในเน้นพลาสติกแข็งทำให้สัมผัสและการเก็บเสียงอยู่ในระดับกลาง ระบบกันสะเทือนมีความแข็งพอสมควร จึงให้ความรู้สึกกระด้างเมื่อขับผ่านถนนชนบทที่ไม่เรียบในบางพื้นที่ อย่างไรก็ตาม Xpander มีความประหยัดน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำ เหมาะกับครอบครัวที่เน้นประโยชน์ใช้สอย หากต้องใช้งานบรรทุกผู้โดยสารเต็มที่และเดินทางไกลบ่อย ควรทดลองขับเพื่อประเมินสมรรถนะและพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสม ในตลาดไทยยังมีตัวเลือกอื่นอย่าง Toyota Avanza หรือ Honda BR-V ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องเครื่องยนต์และวัสดุภายในที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคควรพิจารณางบประมาณและความต้องการส่วนตัวประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ.
Q
วิธีปิดโหมด Eco บน Mitsubishi Xpander
การปิดโหมด Eco ของรถ Mitsubishi Xpander นั้น โดยปกติใช้งานผ่านปุ่มโหมด Eco ใกล้แผงหน้าปัดเครื่องมือ ซึ่งปุ่มนี้อาจจะอยู่ด้านซ้ายของพวงมาลัยหรือแถบกลางคอนโซลหน้า กดสลับโหมดได้เลย แต่ถ้าหาปุ่มไม่เจอแนะนำให้เปิดคู่มือผู้ใช้ดูตำแหน่งให้ชัดเจนอีกที ในสภาพอากาศร้อนของไทย การปิดโหมด Eco จะช่วยให้แอร์เย็นขึ้นแต่จะทำให้กินน้ำมันเพิ่มนิดหน่อย แนะนำว่าเวลาเจอรถติดในกรุงเทพฯ ให้เปิดโหมด Eco ไว้จะช่วยประหยัดน้ำมัน ส่วนเวลาเดินทางไกลหรือขับบนทางด่วนปิดโหมดนี้จะทำให้รถตอบสนองดีขึ้น โปรดทราบว่าวิธีการใช้งานของ Xpander แต่ละรุ่นในแต่ละปีอาจแตกต่างกันเล็กน้อย รถยนต์รุ่นใหม่บางรุ่นยังสามารถปรับโหมดการขับขี่ผ่านเมนูการตั้งค่ารถบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางได้อีกด้วย การใช้โหมด Eco ให้เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้ขับขี่ในหลากหลายสภาพถนนของไทยได้ดี แต่ยังช่วยบาลานซ์ระหว่างประหยัดน้ำมันกับความรู้สึกในการขับได้ แนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้ตามความต้องการจริงจะดีที่สุด

ข้อดี

การออกแบบภายนอกสวยงาม
ภายในกว้างขวางและสบาย
หลอดไฟหน้าแบ่งเป็นสองส่วนและมีลิ้นประดับโครเมียม ทำให้ดูสวยงาม
แผงควบคุมแสดงข้อมูลอย่างครบถ้วน
การออกแบบปุ่มมีประสิทธิภาพและสะดวกในการใช้งาน
ที่นั่งนุ่มนวล

ข้อเสีย

ภายในมีพื้นที่ค่อนข้างแคบ รูปแบบดูเก่า
เครื่องยนต์ไม่มีพลังเพียงพอในการปีนเนิน การขับขี่บนเส้นทางภูเขาไม่ราบรื่น
เกียร์ไม่เพียงพอ เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงเครื่องยนต์มีสปินสูง
พื้นที่ในช่องสัมภาระไม่ใหญ่ ความจุการบรรทุกต่ำ

Q&A ล่าสุด

Q
รถ Mustang รุ่นปี 2020 เป็นรุ่นในเจเนอเรชันที่เท่าไร?
Ford Mustang รุ่นปี 2020 เป็นเวอร์ชั่นที่ผ่านการรีเฟรชในช่วงกลางของรุ่นที่ 6 รหัสว่า S550 ซึ่งรุ่นนี้ผลิตต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2015 ถึง 2023 สำหรับรุ่นปี 2020 นั้นมีการอัปเกรดด้านดีไซน์บริเวณหน้าหลัก ไฟหน้าแบบ LED และกรอบกรองอากาศให้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ คือ 2.3T EcoBoost 4 สูบ และ 5.0L V8 พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ในตลาดไทย Mustang รุ่นนี้โด่งดังมากในหมู่คนรักรถหนุ่มสาวเพราะดีไซน์คลาสสิกแบบรถกล้ามเนื้ออเมริกันและราคาที่เข้าถึงง่ายเมื่อเทียบกับรถสปอร์ตยุโรป โดยเฉพาะรุ่น GT ที่แนะนำให้จับตามอง เพราะระบบไอเสียแบบ Active Valve ที่ปรับเสียงเครื่องยนต์ตามโหมดขับขี่ เหมาะมากสำหรับเมืองที่นิยมดัดแปลงรถ ส่วนอีกจุดเดือดคือรุ่นที่ 6 นี้เป็นมัสแตงรุ่นแรกที่ผลิตแบบพวงมาลัยขวาแบบทางการ แก้ปัญหาความไม่สะดวกของรุ่นนำเข้าขนานพรมแดนแบบพวงมาลัยซ้ายในอดีต อีกทั้งยังมีหน้าปัดดิจิตอล 12 นิ้วและระบบ SYNC 3 ที่รองรับ Apple CarPlay ทำให้เทคโนโลยีล้ำหน้ากว่ารุ่นก่อนๆ แต่สังเกตว่าเบาะหนังในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นต้องการการดูแลอย่างสม่ำเสมอขอแนะนำให้เลือกฟังก์ชั่นการระบายอากาศที่นั่งด้วยจะดีมาก
Q
รถ Ford Mustang ปี 2020 วิ่งได้เร็วแค่ไหน?
รถ Ford Mustang รุ่นปี 2020 นี่ขับแรงโคตรๆ เลย โดยความเร็วสูงสุดจะขึ้นอยู่กับเครื่องยนต์แต่ละแบบ รุ่น GT ที่ใช้เครื่อง 5.0 ลิตร V8 นี่พุ่งไปได้สูงสุดประมาณ 249 กม./ชม. ส่วนรุ่น Ecoboost เครื่อง 2.3 ลิตร เทอร์โบ ก็ทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 233 กม./ชม. แค่นี้ก็แรงพอจะลุยบนทางด่วนหรือถนนเปิดในบ้านเราได้สบายๆ แล้วMustang ในฐานะรถคลาสสิกที่มีกล้ามเนื้อแบบอเมริกันไม่เพียงแต่มีพละกำลังที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับการปรับแต่งแชสซีขั้นสูงและการเลือกโหมดการขับขี่ เช่น โหมดแทร็กที่สามารถยกระดับประสบการณ์การควบคุมให้ดียิ่งขึ้น แถมเสียงไอเสียกับดีไซน์ก็ทำเอาแฟนๆ รถติดหนึบ โดยเฉพาะในเมืองที่ที่วัฒนธรรมการดัดแปลงเป็นที่แพร่หลาย เจ้าของรถหลายคนชอบเอาไปแต่งเพิ่มให้แรงขึ้นอีก แต่ต้องระวังเรื่องกฎหมายจราจรกับมาตรฐานไอเสียของไทยด้วย ถ้าชอบรถสปอร์ตแบบนี้ ลองไปดูรถคู่แข่งอย่างเชฟโรเลต คามาโร หรือดอดจ์ ชาเลนเจอร์ ก็ได้ แต่ถ้าพูดถึงสมรรถนะครบวงจรและโอกาสในการแต่งแล้ว Mustang ยังคงเหนือกว่าครับ
Q
รถ Mustang ปี 2020 ราคาประมาณเท่าไหร่?
รถยนต์ Ford Mustang รุ่นปี 2020 มีให้เลือกหลายเวอร์ชัน ราคาก็แตกต่างกันไป โดยเวอร์ชัน 2.3L EcoBoost ราคาอยู่ที่ 3,599,000 บาท ส่วนเวอร์ชัน 5.0L GT ราคา 4,799,000 บาท ทั้งสองรุ่นเป็นรถสปอร์ตแบบ 2 ประตู 4 ที่นั่ง รุ่น 2.3L EcoBoost มีความจุเครื่องยนต์ 2,253 ซีซี 4 สูบ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันตามมาตรฐานอยู่ที่ 9.4 ลิตร/100 กิโลเมตร ส่วนรุ่น 5.0L GT ความจุเครื่อง 5,038 ซีซี 8 สูบ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยรวมอย่างเป็นทางการ 13 ลิตร / 100 กิโลเมตรซึ่งทั้งหมดใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิงติดตั้งระบบเกียร์ AT ราคาจริงในขณะที่ซื้อรถอาจมีความผันผวนเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่นข้อเสนอของตัวแทนจำหน่ายความแตกต่างในภูมิภาค ฯลฯแนะนำให้ปรึกษาตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นเกี่ยวกับสภาวะตลาดก่อนซื้อรถ
Q
ราคา Mustang GT 2020 มือสองอยู่ที่เท่าไหร่?
ราคาตลาดของ Mustang GT รุ่นปี 2020 แบบมือสองจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 - 2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทาง ออปชั่น และการแต่งเพิ่มเติม เช่น รุ่นเครื่องยนต์ 5.0 ลิตร V8 ที่ให้สมรรถนะสูงมักจะทรงตัวดีในเรื่องราคา ส่วนรถที่ติดตั้งระบบกันสะเทือน MagneRide หรือระบบเสียง B&O ก็จะยิ่งมีราคาสูงขึ้น รถอเมริกันมือสองประเภท Muscle Car เป็นที่นิยมในไทย แต่ต้องเช็คให้ดีว่ารถแปลงพวงมาลัยขวาถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แนะนำให้ตรวจสอบประวัติการบริการและสภาพเครื่องยนต์อย่างละเอียด เพราะค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถเครื่องใหญ่แบบนี้จะสูงกว่ารถเก๋งทั่วไปประมาณ 30% ถ้าเปรียบเทียบกับรถสปอร์ตญี่ปุ่นในราคาใกล้เคียง อาจดูที่ Toyota GR Supra หรือ Nissan 370Z ได้ แต่จุดเด่นของ Mustang GT ยังอยู่ที่เสียงเครื่องและความแรงในการเร่งแบบเส้นตรง ล่าสุดบางโชว์รูมยังมีบริการรถมือสอง Certified Pre-Owned ที่มาพร้อมกับการรับประกันขยายเวลาให้อุ่นใจยิ่งขึ้น
Q
รถ Mustang GT รุ่นปี 2020 มีมูลค่าเท่าไหร่?
รถ Ford Mustang GT รุ่นปี 2020 ตอนนี้ราคาตลาดมือสองอยู่ที่ประมาณ 1.5 - 2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะไมล์ ออปชั่นที่ติดตั้งมา และว่ามีการแต่งเพิ่มเติมหรือเปล่า รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 5.0 ลิตร V8 ให้กำลังสูงสุดถึง 450 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด การขับขี่สมรรถนะสูงมาก แถมด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลังและการออกแบบคลาสสิกสไตล์รถกล้ามเนื้อที่ดึงดูดผู้ชอบรถสปอร์ต ในตลาดไทย Mustang GT ค่อนข้างทรงตัวเรื่องราคา ส่วนหนึ่งเพราะเป็นรถนำเข้าและมีจำนวนไม่มากนัก ถ้าคุณกำลังมองหา Mustang GT มือสอง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติการบริการและอุบัติเหตุอย่างละเอียด รวมถึงต้องระวังเรื่องค่าเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถเก๋งทั่วไป นอกจากนี้พื้นที่เบาะหลังค่อนข้างจำกัด เหมาะสำหรับคนโสดหรือครอบครัวเล็กๆ ส่วนคนที่ชอบความแรงอาจสนใจดูว่ามีการแต่งสำหรับลงสนามหรืออัพเกรดสมรรถนะหรือไม่ เพราะทั้งหมดนี้จะมีผลต่อราคาซื้อขายสุดท้าย
ดูเพิ่มเติม