Q
Ford Everest คุ้มค่าจะซื้อไหม?
ฟอร์ด Everest นี่แหละเป็น SUV ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับลุยและใช้งานครอบครัวในตลาดไทย โครงสร้างตัวถังแบบแยกช่วงช่างเหมาะกับสภาพถนนทั้งทางเขาสลับซับซ้อนและช่วงหน้าฝน แถมระบบจัดการพื้นผิว Terrain Management System ก็ช่วยให้ขับเคลื่อนได้มั่นใจ ส่วนระยะฐานล้อ 2923 มม. ที่ให้พื้นที่กว้างขวางพอดีกับเก้าอี้ 3 แถว เหมาะมากๆ สำหรับครอบครัวใหญ่แบบไทยๆ ด้านสมรรถนะ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0L เทอร์โบคู่ให้แรงม้า 180 แรงม้า/แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร คู่กับเกียร์ 10AT นี่ประหยัดน้ำมันแต่ยังลากจูงได้แรงตามสไตล์คนไทย ที่สำคัญยังอัพเกรดด้วยเทคโนโลยีอย่างระบบ SYNC 4 ที่รองรับการสั่งงานภาษาไทยและนำทางแบบ локализоваนํ้า ลึกถึง 800 มม. ทำเอาคู่แข่งหลายรุ่นต้องยอมให้ ส่วนเครือข่ายศูนย์บริการฟอร์ดที่กระจายทั่วจังหวัดหลักๆ ก็ช่วยให้มั่นใจได้เรื่องหลังการขาย สำหรับใครที่กำลังคิดจะซื้อ แนะนำให้ลองสักหน่อยกับระบบควบคุมการปีนเขาสภาพจริงแถวทางเชียงใหม่ แต่ต้องอย่าลืมตรวจสอบเรื่องกฎหมายตรวจสภาพรถดีเซลประจำปีของไทยด้วยนะ เพราะ SUV แบบนี้เวลาขายมือสองมักจะราคาดีกว่า SUV เมืองๆ แต่ต้องคอยดูแลระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้พร้อมใช้งานเสมอ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
ประเภทรถยอดนิยม
Q&A ล่าสุด
Q
ปัญหารถ Ford Everest อาจจะมีอะไรบ้าง?
Ford Everest ถือเป็นรถ SUV ขนาดกลางถึงใหญ่ที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย แต่ก็มีปัญหาที่ผู้ใช้บางส่วนรายงานไว้ เช่น อาการกระตุกเล็กน้อยของเกียร์เมื่อเปลี่ยนเกียร์ที่ความเร็วต่ำ และระบบแอร์ที่ในบางครั้งอาจเย็นช้าลงเมื่อใช้งานต่อเนื่องในสภาพอากาศร้อนจัดแบบเมืองไทย
นอกจากนี้ รุ่นเก่าบางรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลอาจพบปัญหาน้ำมันซึมเล็กน้อยเมื่อใช้งานนาน แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลและเข้าศูนย์บริการตามระยะ อีกจุดที่ควรระวังคือท่อระบายน้ำของหลังคาซันรูฟ เพราะในประเทศไทยมีฝนตกบ่อย ควรตรวจสอบและทำความสะอาดทุก 3 เดือนเพื่อไม่ให้เกิดการอุดตัน
ในตลาดไทย ศูนย์บริการฟอร์ดได้มีการแก้ไขด้วยการอัปเกรดซอฟต์แวร์และเปลี่ยนอะไหล่ซีลป้องกัน รวมถึงในรุ่นปรับโฉมปี 2022 เป็นต้นไป ยังมีการปรับปรุงวัสดุซับเสียงและช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนนเมืองไทยมากขึ้น
หากจะซื้อรถมือสอง ควรตรวจสอบว่าเคยลุยน้ำหรือลุยทางวิบากหนักหรือไม่ เพราะบางพื้นที่ในไทยเสี่ยงต่อน้ำท่วม สำหรับกลุ่มรถในระดับเดียวกัน Everest มีข้อได้เปรียบเรื่องโครงสร้างตัวถังแบบแชสซีส์และความสามารถในการลุยน้ำได้ถึง 800 มม. เหมาะกับการขับทางชนบท แต่ถ้าใช้ในเมืองเป็นหลัก แนะนำพิจารณารุ่นไฮบริดเพื่อลดการกินน้ำมันในเวลารถติดในกรุงเทพฯ
Q
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังของ Ford Everest มีขนาดเท่าไหร่??
ฟอร์ด Everest เป็น SUV ขนาดกลาง-ใหญ่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดไทย โดยมีพื้นที่เก็บของท้ายรถที่ออกแบบมาอย่างคุ้มค่าและใช้งานได้จริง เมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ขึ้นจะมีความจุ 259 ลิตร เหมาะสำหรับใส่ของใช้ในชีวิตประจำวันหรือกระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก แต่ถ้าพับเบาะแถวที่ 3 ลงจะเพิ่มพื้นที่เป็น 898 ลิตร สามารถใส่ของชิ้นใหญ่ได้สบายๆ เช่น รถเข็นเด็กหรืออุปกรณ์ตั้งแคมป์ และถ้าพับเบาะแถวที่ 2 ลงด้วยจะได้พื้นที่สูงสุดถึง 1,776 ลิตร เหมาะมากสำหรับการเดินทางไกลหรือขนของชิ้นใหญ่ สำหรับคนไทยแล้ว การออกแบบพื้นที่แบบปรับเปลี่ยนได้นี้ตอบโจทย์ทั้งการเดินทางกับครอบครัว การไปจ่ายตลาดนัดสุดสัปดาห์ หรือการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง สิ่งที่ควรสังเกตคือความสูงของพื้นกระบะท้ายรถที่พอดี ไม่สูงจนเกินไป ทำให้สะดวกเวลาเก็บของ นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บของเล็กๆ กระจายทั่วภายในรถ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานอีกด้วย ในสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก วัสดุกันน้ำและทำความสะอาดง่ายของ Everest ถือเป็นจุดเด่นที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว Everest ใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเบาะที่พับลงแล้วเรียบเสมอกัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนไทยที่มักจะใช้รถในหลายๆ วัตถุประสงค์
Q
ขนาดของ Ford Everest คือเท่าไหร่?
Ford Everest เป็นรถ SUV ขนาดกลางถึงใหญ่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยมีขนาดตัวถังยาว 4,914 มม. กว้าง 1,923 มม. สูง 1,842 มม. และฐานล้อยาวถึง 2,900 มม. ซึ่งขนาดเหล่านี้ช่วยให้ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เหมาะกับครอบครัวชาวไทยที่ชอบเดินทางหรือใช้รถในเส้นทางที่มีความหลากหลาย
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังสามารถขยายได้มากเมื่อพับเบาะแถวที่สามลง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบขับรถเที่ยวต่างจังหวัด หรือมักพกพาสัมภาระจำนวนมาก
ในประเทศไทย Everest มีขนาดที่สามารถใช้งานได้คล่องตัวทั้งในเมือง และยังสามารถลุยทางขรุขระในต่างจังหวัดได้ดี ด้วยความสูงจากพื้นถึงตัวรถที่มาก ทำให้สามารถขับผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนได้อย่างมั่นใจ
นอกจากนี้ Everest ยังมีโหมดการขับขี่หลายแบบ รวมถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เหมาะกับภูมิประเทศแบบภูเขาในภาคเหนือของไทย จึงยิ่งเพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน
สำหรับผู้บริโภคชาวไทย Everest เป็นรถที่ตอบโจทย์ได้ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการผจญภัยในวันหยุดสุดสัปดาห์ ถือเป็นรถที่ครบเครื่องและใช้งานได้รอบด้านจริง ๆ
Q
ประกันภัยรถยนต์ของ Ford Everest มีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่?
ค่าเบี้ยประกันภัยของ Ford Everest ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามปีของรถ รุ่นเครื่องยนต์ ประเภทของประกัน และเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน โดยทั่วไปแล้ว ค่าเบี้ยประกันภัยรายปีจะอยู่ในช่วงประมาณ 15,000 ถึง 40,000 บาท ทั้งนี้ต้องพิจารณาจากมูลค่าของรถ ประวัติการขับขี่ของเจ้าของรถ และรายละเอียดของกรมธรรม์
ประกันภัยภาคบังคับ (พรบ.) จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ประมาณ 2,000–3,000 บาท ส่วนประกันชั้นหนึ่งหรือประกันภัยแบบครอบคลุม จะมีราคาสูงกว่าเพราะให้ความคุ้มครองมากกว่า
แนะนำให้เจ้าของรถเปรียบเทียบราคาจากหลายบริษัทก่อนตัดสินใจ และพิจารณาบริการเสริม เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือส่วนลดค่าซ่อม
ตลาดประกันภัยในไทยยังมีตัวเลือกเสริม เช่น ประกันแบบไม่หักค่าเสื่อม หรือการเปลี่ยนรถใหม่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความต้องการ
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ หากรถติดตั้งระบบ GPS หรืออุปกรณ์ความปลอดภัย อาจได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน ในขณะที่ผู้ขับขี่อายุน้อย หรือรถที่ใช้ในพื้นที่เสี่ยงสูง อาจมีค่าเบี้ยแพงขึ้น
การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของรถวางแผนงบประมาณประกันภัยได้ดียิ่งขึ้น และมั่นใจว่าได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม
Q
น้ำหนักของ Ford Everest มีค่าเท่าไร?
น้ำหนักรวมของรถยนต์ Ford Everest ในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์เสริม โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 2,100 ถึง 2,400 กิโลกรัม ตัวอย่างเช่น รุ่น 4x4 ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร จะมีน้ำหนักประมาณ 2,350 กิโลกรัม ส่วนรุ่นพื้นฐานแบบ 4x2 จะเบากว่าเล็กน้อย สภาพอากาศร้อนและเส้นทางที่หลากหลายในประเทศไทยมีผลต่อการขับขี่เมื่อบรรทุกน้ำหนัก แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบลมยางและระบบช่วงล่างเป็นประจำเพื่อความปลอดภัย ตัวถัง Everest ที่ผลิตจากเหล็กความแข็งแรงสูงช่วยลดน้ำหนักในขณะเดียวกันก็เพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวรถ เหมาะสมกับเส้นทางในเขตภูเขาและชนบทของไทยเป็นอย่างดี รุ่นอื่นๆในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Fortuner และ Mitsubishi Pajero Sport ก็มีน้ำหนักอยู่ในช่วงใกล้เคียงกัน ผู้บริโภคสามารถเลือกรุ่นขับเคลื่อนตามความต้องการจริงได้ กรมการขนส่งทางบกไทยกำหนดให้น้ำหนักรวมสูงสุดของรถยนต์ส่วนบุคคลต้องไม่เกิน 3,500 กิโลกรัม ซึ่ง Everest ผ่านเกณฑ์มาตรฐานนี้อย่างครบถ้วน ความสามารถในการบรรทุกที่ดีเยี่ยมทำให้ Everest เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทั้งการเดินทางกับครอบครัวและการขนส่งสินค้าของผู้ใช้ในไทย
ดูเพิ่มเติมข้อมูลล่าสุด

Nissan N7 ยอดขายทะลุ 17,000 คันในจีน เตรียมลุยตลาดโลก
LienJul 3, 2025

Nissan ครองอันดับ 1 แบรนด์ตลาดแมสจาก J.D. Power IOS ปี 2025
AshleyJul 2, 2025

Benz-AMG CLS 53 4MATIC+ FINAL Editionข้อเสนอราคาพิเศษ 4,190,000 บาท
ธนวัฒน์Jul 2, 2025

Toyota Hilux GR Sport รุ่นใหม่กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบ คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในสิ้นปีนี้
Kevin WongJul 2, 2025

BYD Seagull ทำยอดขายทะลุ 1 ล้านคันในเวลาเพียง 25 เดือน – ปรากฏการณ์ใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด
วิรุฬห์Jul 2, 2025
ดูเพิ่มเติม