Q
Mazda 3 เป็นรถที่ดีสำหรับครอบครัวหรือไม่?
Mazda 3 เป็นรถยนต์ที่เหมาะสำหรับใช้งานในครอบครัว โดยมาพร้อมเบาะนั่ง 5 ที่นั่ง ซึ่งรองรับการเดินทางของครอบครัวทั่วไปได้อย่างเพียงพอ ด้านพื้นที่ภายใน หากยกตัวอย่างรุ่นซีดาน ตัวรถมีความยาว 4,662 มม. กว้าง 1,797 มม. สูง 1,445 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,725 มม. ผู้โดยสารที่มีความสูงปานกลางสามารถนั่งที่เบาะหลังได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งในด้านพื้นที่ช่วงขาและศีรษะ แม้ว่าในตำแหน่งเบาะหลังตรงกลางจะมีสันนูนของพื้น แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบมากนักสำหรับการโดยสารระยะสั้นในชีวิตประจำวัน พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังก็ถูกออกแบบมาอย่างลงตัว และสามารถพับเบาะหลังแบบแยกได้ ช่วยให้รองรับสัมภาระขนาดใหญ่ได้อย่างยืดหยุ่น ในด้านระบบความปลอดภัย รถมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางของสมาชิกในครอบครัว ด้านสมรรถนะ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 121 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร การส่งกำลังมาอย่างนุ่มนวล ขับขี่ได้ดีทั้งในเมืองและบนทางหลวง โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามข้อมูลจากผู้ผลิตอยู่ที่ 6.3 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าประหยัดพอสมควร นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกอย่างเซนเซอร์ถอยหลังและกล้องช่วยจอดที่ช่วยให้การขับขี่และจอดรถเป็นเรื่องง่ายขึ้น ดังนั้นโดยภาพรวม Mazda 3 ถือว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับครอบครัว
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Mazda 3 นีอะไรบ้าง?
แม้ว่า Mazda3 จะได้รับความนิยมในตลาดไทยจากดีไซน์ที่สวยงามและสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ยังมีข้อสังเกตบางประการที่ควรพิจารณา
อย่างแรกคือพื้นที่เบาะหลังค่อนข้างแคบ ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวไทยที่มักโดยสารหลายคน โดยเฉพาะในกรณีเดินทางไกล พื้นที่วางขาอาจรู้สึกอึดอัด
นอกจากนี้ ช่วงล่างของ Mazda3 ถูกเซ็ตมาในแนวสปอร์ต แม้จะให้ความมั่นคงและควบคุมดีในทางโค้ง แต่เมื่อเจอสภาพถนนที่ไม่เรียบในบางพื้นที่ของไทย จะรู้สึกกระด้างและไม่ค่อยสบาย
อีกจุดที่ควรพิจารณาคือค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอะไหล่แท้จากศูนย์ซึ่งมีราคาสูงกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน อาจเป็นภาระกับผู้ใช้งานบางกลุ่ม
แม้เทคโนโลยี Skyactiv จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี แต่เมื่อเปิดแอร์ในสภาพอากาศร้อนแบบไทย อัตราการสิ้นเปลืองจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สุดท้ายคือเรื่องของระบบเก็บเสียง ที่ยังมีจุดให้พัฒนา โดยเฉพาะเวลาขับเร็วหรือใช้งานในเมืองที่มีเสียงรบกวนมาก
ถึงแม้จะมีข้อด้อยเหล่านี้ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของ Mazda3 ที่เน้นความสนุกในการขับขี่มากกว่าความอเนกประสงค์ เหมาะกับผู้บริโภคชาวไทยรุ่นใหม่ที่ชอบความโดดเด่นและประสบการณ์หลังพวงมาลัยเป็นหลัก
Q
Mazda 3 อยู่ใน Segment ไหน?
Mazda3 ในตลาดไทยจัดอยู่ในกลุ่ม C-segment หรือรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็ค ไม่ว่าจะเป็นตัวถังแบบซีดานหรือแฮทช์แบ็ก ซึ่งถือเป็นเซกเมนต์ยอดนิยมในประเทศไทย คู่แข่งหลักคือรถญี่ปุ่นอย่าง Toyota Corolla และ Honda Civic
Mazda3 ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นไทย ด้วยดีไซน์ “KODO – Soul of Motion” ที่โดดเด่น และสมรรถนะการขับขี่ที่สนุก มาพร้อมเทคโนโลยี Skyactiv ที่เน้นความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดของกรุงเทพฯ
ในตลาดไทย Mazda3 มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร โดยรุ่น 2.0 ลิตรจะมาพร้อมระบบ G-Vectoring Control ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเข้าโค้ง ช่วยให้การขับขี่มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Mazda3 รุ่นที่จำหน่ายในไทยยังมีการปรับจูนช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนนในประเทศไทยโดยเฉพาะ รองรับทั้งถนนเมืองและพื้นที่ที่มีสภาพพื้นผิวไม่เรียบ
ราคาจำหน่ายของรถในกลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 800,000 – 1,200,000 บาท ถือเป็นกำลังหลักของตลาดรถบ้านในไทย ผู้บริโภคจำนวนมากเลือกซื้อด้วยระบบผ่อนรายเดือน เพราะ Mazda3 ถือว่ามีมูลค่าคงเหลือ (resale value) ดีในระยะยาว ขายต่อแล้วขาดทุนน้อยเมื่อเทียบกับหลายรุ่นในระดับเดียวกัน
Q
มูลค่าขายต่อของ Mazda 3 คือเท่าไหร่?
Mazda3 ในตลาดรถมือสองของไทยจัดว่ามีมูลค่าคงเหลืออยู่ในระดับกลางค่อนไปทางดี โดยรถที่มีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปี จะมีมูลค่าคงเหลือราว 60-65% ส่วนรถอายุ 5 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 50-55% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถ รุ่นย่อย และความต้องการของตลาดในช่วงเวลานั้น
ในไทย รถญี่ปุ่นได้รับการยอมรับสูง และ Mazda3 ก็เป็นที่นิยมด้วยดีไซน์ KODO ที่โดดเด่น รวมถึงเทคโนโลยี Skyactiv ที่เน้นความประหยัดและทนทาน ทำให้รุ่นนี้เป็นที่ต้องการในตลาดรถมือสอง โดยเฉพาะรุ่นที่มีออปชันสูงหรือรุ่นดีเซล จะมีราคาขายต่อที่ดีกว่า
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาขายต่อ ได้แก่ ประวัติการเข้าศูนย์บริการ การเกิดอุบัติเหตุ และสภาพของตัวถังรถที่อาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศชื้นของไทย แนะนำให้เจ้าของรถเก็บบันทึกการเข้ารับบริการที่ศูนย์ให้ครบถ้วน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือเวลาขายต่อ
เมื่อเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกัน Mazda3 มีอัตราการคงมูลค่าที่ต่ำกว่า Toyota Corolla เล็กน้อย แต่ดีกว่า Honda Civic ส่วนหนึ่งมาจากภาพลักษณ์ของแบรนด์และต้นทุนในการบำรุงรักษาที่ต่างกัน
นอกจากนี้ นโยบายส่งเสริมรถยนต์ประหยัดพลังงาน (Eco Car) และมาตรการภาษีของรัฐบาล อาจทำให้ราคารถใหม่ผันผวน ส่งผลกระทบทางอ้อมต่อราคารถมือสองด้วย ดังนั้นก่อนขาย ควรตรวจสอบราคาตลาดปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้ว ราคาขายต่อในกรุงเทพฯ จะสูงกว่าจังหวัดอื่นประมาณ 5-10%
Q
Mazda 3 มีกี่ CC
มาสด้า 3 รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,998 ซีซี หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า 2.0L แรงม้าเยอะพอสมควร ขับสบายทั้งในเมืองและบนทางด่วน จะแซงหรือเร่งเมื่อไหร่ก็มั่นใจ ทุกรุ่นย่อยของมาสด้า 3 ใช้เครื่องยนต์ขนาดเดียวกันเลย แม้จะต่างกันที่ราคา ยาง หรืออุปกรณ์เสริมบางอย่าง แต่เรื่องกำลังไม่ต้องห่วง ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่มั่นคงและแรงดีทั้งตอนจอดๆ ไปๆ ในเมืองหรือเวลาครูดความเร็วสูงบนทางหลวง เรียกว่าเอาอยู่ทุกสถานการณ์จริงๆ
Q
Mazda3 ใช้เครื่องยนต์อะไร?
Mazda3 ที่จำหน่ายในตลาดไทย ส่วนใหญ่จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Skyactiv-G แบบไม่มีเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 158 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร โดยกำลังสูงสุดจะออกที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 4,000 รอบ/นาที
เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยีหัวฉีดตรง (Direct Injection) พร้อมฝาสูบและเสื้อสูบผลิตจากอะลูมิเนียม ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่สามารถเปลี่ยนเกียร์เองได้ (แบบ Manual Mode)
Mazda3 ยังมีตัวเลือกเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร สำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดน้ำมันและมีงบประมาณจำกัด ส่วนเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรจะเหมาะกับผู้ที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่มากกว่า ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการและสไตล์การใช้งานของตนเอง
Q
Mazda3 ใช้เกียร์แบบไหน?
Mazda3 ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด (6AT) ซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและต่อเนื่อง ช่วยให้การขับขี่ทั้งในเมืองที่ต้องเจอการหยุด-เคลื่อนตัวบ่อย ๆ หรือการวิ่งทางไกลบนถนนความเร็วสูงเป็นไปอย่างราบรื่น
เกียร์ 6AT นี้สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้อัตโนมัติตามสภาพการขับขี่และลักษณะการเหยียบคันเร่งของผู้ขับ ช่วยให้ขับง่าย ประหยัดแรง และเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีความทนทานและเชื่อถือได้ ช่วยลดความกังวลเรื่องปัญหาเกียร์ในระยะยาว ทำให้ใช้งานได้อย่างสบายใจ
Q
PCD (รูน็อตล้อ) ของ Mazda3 คือขนาดเท่าไหร่?
PCD (Pitch Circle Diameter) ของ Mazda3 อยู่ที่ขนาด 5x114.3 มม. หมายความว่าล้อแม็กของรถรุ่นนี้มีรูน็อต 5 รู และตำแหน่งของรูน็อตจะเรียงกันเป็นวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มม.
ขนาดนี้ถือว่าเป็นสเปกมาตรฐานที่พบได้บ่อยในรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda และ Toyota ทำให้ในไทยสามารถหาอะไหล่หรือเปลี่ยนล้อแม็กได้ง่าย และสะดวกเวลาต้องการอัปเกรดระบบเบรกหรือเปลี่ยนล้อใหม่
การรู้ขนาด PCD เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากเลือกล้อที่มีขนาดไม่ตรง อาจทำให้ไม่สามารถติดตั้งได้ หรืออาจเกิดปัญหาในการขับขี่ เช่น การสั่นหรือไม่ปลอดภัยในระยะยาว
ในสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยของประเทศไทย ควรเลือกใช้ล้อแม็กและยางที่มีคุณภาพดี เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพถนนที่ลื่นหรือขรุขระ และการเลือกรุ่นของยางหรือขนาดล้อที่เหมาะสม ยังช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่และยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย
Q
Mazda3 รองรับ Apple CarPlay ไหม?
Mazda3 รุ่นล่าสุดที่วางจำหน่ายในประเทศไทยรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay แล้ว ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone สามารถใช้งานแอปต่าง ๆ บนหน้าจอรถยนต์ได้โดยตรง เช่น แผนที่นำทาง เพลง หรือการโทรออก-รับสาย เพิ่มความสะดวกในการขับขี่อย่างมาก
โดยทั่วไปแล้ว Mazda3 ตั้งแต่ปี 2019 ขึ้นไป จะมี Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่สำหรับรุ่นที่เก่ากว่านั้น อาจต้องนำรถไปอัปเกรดระบบที่ศูนย์บริการ Mazda ที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย
ในไทย ผู้ใช้จำนวนมากนิยมเชื่อมต่อ CarPlay เพื่อใช้ Google Maps หรือ Waze ในการหลีกเลี่ยงรถติด โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ รวมถึงใช้งานแอปเพลงอย่าง Spotify หรือ Joox เพื่อความบันเทิงระหว่างเดินทาง
แนะนำให้ใช้สายชาร์จแท้หรือสายคุณภาพดีเมื่อต่อ CarPlay เพื่อป้องกันปัญหาการเชื่อมต่อไม่เสถียร และนอกจาก Apple CarPlay แล้ว Mazda3 ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้มือถือระบบแอนดรอยด์อีกด้วย
Mazda3 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในไทยด้วยจุดเด่นด้านการควบคุมที่ดีและความประหยัดน้ำมัน ยิ่งเมื่อผสานกับระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะเหล่านี้ ก็ยิ่งเพิ่มความคุ้มค่าและน่าใช้งานมากขึ้นอีกขั้น
Q
Mazda3 ใช้ยางยี่ห้ออะไร?
ยางติดรถเดิมของ Mazda3 ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและรุ่นย่อย โดยส่วนใหญ่มักใช้ยางจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น Bridgestone, Dunlop หรือ Yokohama ซึ่งเป็นยางที่ได้รับความนิยมในไทยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะด้านการยึดเกาะบนถนนเปียกและความทนทานที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย
เมื่อต้องเปลี่ยนยางใหม่ ผู้ใช้ในไทยสามารถเลือกแบรนด์อื่นที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เช่น Michelin รุ่น Primacy หรือ Goodyear รุ่น Assurance ซึ่งมีสมรรถนะดีทั้งในช่วงฤดูฝนและอุณหภูมิสูงของไทย อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านยางหรือศูนย์บริการทั่วไป
คำแนะนำสำหรับเจ้าของรถคือ เลือกยางตามลักษณะการใช้งาน เช่น ถ้าต้องการความเงียบและนุ่มสบาย หรือเน้นความทนทานก็ควรเลือกรุ่นที่เหมาะสม และอย่าลืมตรวจสอบลมยางและความลึกของดอกยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนของไทย ควรเน้นยางที่มีประสิทธิภาพในการรีดน้ำเพื่อลดความเสี่ยงในการลื่นไถล
Q
Mazda 3 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
มาสด้า 3 เป็นรถเก๋งขนาดกลางที่ขายดีในตลาดไทย ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ตและทันสมัย พร้อมด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหราและให้ความรู้สึกพรีเมียม แถมยังขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัวเหมาะกับสภาพถนนทั้งในเมืองและนอกเมืองของไทย นอกจากนี้เทคโนโลยี Skyactiv ยังช่วยประหยัดน้ำมันซึ่งเป็นข้อดีในเมื่อราคาน้ำมันไทยค่อนข้างสูง ระบบความปลอดภัยอย่าง i-Activsense ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างวุ่นวายของไทย อย่างไรก็ตาม มาสด้า 3 มีข้อเสียคือพื้นที่เบาะหลังค่อนข้างคับ สำหรับครอบครัวไทยที่ชอบเดินทางพร้อมหน้าพร้อมตาอาจจะรู้สึกอึดอัดหน่อย ส่วนค่าบำรุงรักษาก็สูงกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นอื่นๆ เล็กน้อย และที่สำคัญในอากาศร้อนๆ แบบไทย บางคนอาจรู้สึกว่าแอร์ไม่ค่อยเย็นเท่าที่ควร ถ้าคุณเป็นคนชอบความสปอร์ตและความสวยงามของดีไซน์ มาสด้า 3 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าอยากได้รถที่กว้างขวางและค่าดูแลถูกกว่านี้ อาจต้องมองหารุ่นอื่น ในตลาดไทยยังมีคู่แข่งอย่างโตโยต้า คอร์ลล่า หรือฮอนด้า ซีวิค ที่น่าสนใจเหมือนกัน แนะนำว่าก่อนซื้อควรลองขับเปรียบเทียบดูให้ดี และอย่าลืมเลือกรุ่นที่เหมาะกับอากาศร้อนแบบไทย เช่น มีกระจกกันความร้อนและระบบแอร์ที่แรงพอสู้กับแดดเมืองไทยได้
Q&A ล่าสุด
Q
แรงบิดของ Toyota Vios 2020 คือเท่าไร
รถโตโยต้า Vios รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดประเทศไทย ใช้เครื่องยนต์ 1NZ-FE ขนาด 1.5 ลิตร ให้แรงบิดสูงสุดที่ 140 นิวตันเมตร (ประมาณ 14.3 กิโลกรัมเมตร) ซึ่งจะเข้าถึงจุดแรงบิดสูงสุดที่ความเร็ว 4,000 รอบ/นาที เมื่อทำงานร่วมกับเกียร์ CVT จะให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลในเมือง เหมาะสมกับสภาพการจราจรที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆในกรุงเทพฯ แรงบิดเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บอกความสามารถในการเร่งและปีนเขาของรถ โดย Vios ถูกตั้งค่าให้เน้นประหยัดน้ำมันและใช้งานในชีวิตประจำวัน แรงบิดที่ตอบสนองดีในรอบต่ำทำให้ขับขี่สะดวกทั้งในสภาพการจราจรติดขัดหรือการเดินทางระยะสั้นที่พบได้บ่อยในไทย หากผู้ขับขี่ต้องการพลังมากขึ้น สามารถเลือกรุ่น GR-S ที่เป็นเวอร์ชั่นสปอร์ต (หากมีจำหน่าย) แต่ควรตรวจสอบรายละเอียดเพราะข้อมูลอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีและรุ่นย่อย ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้บำรุงรักษาระบบเกียร์และระบบระบายความร้อนอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาประสิทธิภาพ และควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำอย่าง 0W-20 ที่เหมาะสมกับภูมิอากาศร้อนเพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีขึ้น
Q
ขนาดล้อของ Toyota Vios 2020 คือเท่าไหร่
โตโยต้า วีออส รุ่นปี 2020 ในตลาดไทยมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว จับคู่กับยางขนาด 185/60 R15 ซึ่งให้สมดุลทั้งความสบายในการขับขี่และความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยในไทย ขนาดยางดังกล่าวช่วยยึดเกาะถนนเปียกได้ดีและลดแรงต้านการหมุน ทำให้เหมาะทั้งกับการขับในกรุงเทพที่การจราจรหนาแน่นและการเดินทางไกล หากผู้ใช้ต้องการอัปเกรดล้อ ควรตรวจสอบให้เป็นไปตามกฎหมายจราจรไทย โดยทั่วไปขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อใหม่ไม่ควรต่างจากเดิมเกิน 3 เปอร์เซ็นต์ และต้องเลือกค่า J ของล้อให้เหมาะสมเพื่อรักษาความมั่นคงในการขับขี่ รถในระดับเดียวกันเช่น ฮอนด้า ซิตี้ ก็มักใช้ล้อ 15 นิ้วเช่นกันแต่สเปกยางอาจต่างออกไป ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามการใช้งานจริง ทั้งนี้ควรตรวจสอบการสึกหรอของยางเป็นประจำโดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝน และรักษาความดันลมยางให้อยู่ที่ประมาณ 22 ถึง 24 บาร์ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
Q
รถโตโยต้า วีออส ปี 2020 ประหยัดน้ำมันไหม?
รถโตโยต้า วีออส รุ่นปี 2020 ในตลาดไทยนั้นประหยัดน้ำมันได้ดีมากครับ ด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดธรรมดา คู่กับเกียร์ CVT ตัวเลขสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจากทางบริษัทบอกไว้ว่าประมาณ 5.5-5.8 ลิตร/100 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองไทยทั้งในเมืองที่ต้องหยุดๆ เริ่มๆ และการเดินทางไกล โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงราคาน้ำมันที่ค่อนข้างสูงในไทย ทำให้จุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันของวีออสนี้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันมาก ส่วนระบบแอร์ที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ดีแม้อากาศร้อนจัดของไทยก็ไม่ทำให้น้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมค่าบำรุงรักษาก็ไม่สูงจนเกินไป เหมาะกับคนงบประมาณจำกัด ถ้าอยากให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น แนะนำให้บริการตามกำหนด ใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสม และขับขี่อย่างมีสติ หลีกเลี่ยงการเหยียบกระแทกหรือเบรกกะทันหัน ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน วีออสยังได้เปรียบเรื่องความทนทานและอัตราการครองรถในตลาดไทย ซึ่งก็นับเป็นปัจจัยที่น่าคิดไม่น้อยเลยครับ
Q
โทโยต้า วีออส มีถุงลมนิรภัยกี่ใบ
จำนวนถุงลมนิรภัยของโตโยต้า วีออสในตลาดไทยขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและออปชันที่เลือก โดยรุ่นใหม่ที่จำหน่ายในปัจจุบันมักติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ได้แก่ คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมด้านข้าง อย่างไรก็ตามผู้บริโภคควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดผ่านเว็บไซต์โตโยต้า ประเทศไทยหรือสอบถามผู้แทนจำหน่ายโดยตรง เนื่องจากแต่ละปีหรือตัวรุ่นพิเศษอาจมีความแตกต่าง ภายใต้สภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยในไทย นอกจากจำนวนถุงลมนิรภัยแล้ว เจ้าของรถควรตรวจสอบระบบเซนเซอร์และสายไฟของถุงลมเป็นระยะเพื่อป้องกันการชำรุดหรือความชื้น อีกทั้งการใช้เข็มขัดนิรภัยควบคู่กันจึงจะป้องกันได้สูงสุด โตโยต้า วีออสซึ่งเป็นรถยอดนิยมในไทยมีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยตามมาตรฐาน ASEAN NCAP สอดคล้องกับความต้องการด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นในตลาดไทย ผู้บริโภคยังสามารถเปรียบเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกันเช่น ฮอนด้า ซิตี้ หรือมาสด้า 2 เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ แต่ท้ายที่สุดควรเลือกตามงบประมาณและการใช้งานจริง
Q
2020 Toyota Vios มีแรงม้าเท่าไร
รถโตโยต้า Vios รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดประเทศไทยมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ แบบธรรมชาติ โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อยด้วยกัน รุ่นมาตรฐานให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า (ประมาณ 79 กิโลวัตต์) ส่วนรุ่นปรับแต่งพิเศษสามารถทำกำลังได้ถึง 110 แรงม้า (ประมาณ 81 กิโลวัตต์) คู่กับเกียร์ CVT หรือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่ออกแบบมาเพื่อประหยัดน้ำมันและตอบโจทย์การขับขี่ประจำวันในเมืองได้ดี โดยเฉพาะระบบระบายความร้อนและแอร์ที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ทำให้ขับสบายแม้ต้องใช้รถนานๆ
จริงๆแล้วแรงม้าไม่ใช่ตัววัดประสิทธิภาพรถเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องดูปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย เช่น แรงบิดที่รอบต่างๆ น้ำหนักตัวรถ และการตั้งค่าเกียร์ สำหรับคนไทยที่กำลังเลือกซื้อรถ ถ้าต้องการขับขึ้นเขาบ่อยหรือขับทางไกลอาจเน้นรถที่ให้แรงบิดสูงที่รอบต่ำ แต่ถ้าอยากประหยัดน้ำมันจริงๆ เกียร์ CVT ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
Vios ถือเป็นรถซีดานคอมแพคขายดีอันดับต้นๆของไทย ที่สำคัญคือความทนทานและบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน โดยตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่มักให้บริการรับประกันนานถึง 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบที่ดึงดูดลูกค้าได้ไม่น้อย
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Mazda 3 ดูดี แต่ไม่ตอบโจทย์? เผยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายไม่ดี
ธนวัฒน์Sep 10, 2024

Mazda 3 Hatchback ราคาเริ่มต้นที่ 166,059 ริงกิต จะเลือกทั้งสองรุ่นนี้อย่างไรดีนะ?"
AshleyJul 15, 2024

Mazda 3 มีราคาตั้งแต่ THB 979,000 เป็นรถเก๋งซี-เซกเมนต์สง่างามที่สุดไหม?
LienJun 12, 2024

สงครามระหว่าง Sedan C-segment ในไทย: Honda Civic RS ปะทะ Toyota Corolla Altis ปะทะ Mazda 3
LienApr 15, 2024

Mazdaออสเตรเลียกล่าวว่าในปัจจุบันจะไม่มีการเปิดตัว BT-50 รุ่นไฟฟ้า
ธนวัฒน์Aug 28, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย