Q
รถ Nissan March เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
รถยนต์ Nissan March เป็นรถขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง ข้อดีของ March คือ ประหยัดน้ำมันมาก ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรและ 1.5 ลิตร ที่วิ่งในสภาพการจราจรติดขัดของไทยได้อย่างคุ้มค่า ค่าบำรุงรักษาไม่สูง ชิ้นส่วนอะไหล่มีพร้อมและราคาไม่แรง ขนาดตัวรถกะทัดรัด ขับเคลื่อนคล่องตัวในซอยแคบๆของกรุงเทพหรือลานจอดรถที่คับคั่ง ภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง มีอุปกรณ์พื้นฐานเช่นแอร์และระบบเสียงที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน แถมยังตั้งราคาเหมาะสม ให้ความคุ้มค่า เหมาะกับผู้บริโภคที่ต้องการความประหยัด
อย่างไรก็ตาม March ก็มีข้อด้อยบ้าง เช่น พื้นที่เบาะหลังค่อนข้างจำกัด อาจไม่สะดวกสบายในการเดินทางไกล ระบบกันเสียงไม่ค่อยดี เวลาขับความเร็วสูงจะได้ยินเสียงลมค่อนข้างชัด ส่วนระบบความปลอดภัยก็เรียบง่าย รุ่นเริ่มต้นมีแถมแค่ถุงลมนิรภัยและ ABS เท่านั้น ดูจะขาดความทันสมัยเมื่อเทียบกับรถรุ่นใหม่ในระดับเดียวกัน
ในตลาดไทย March เหมาะกับหนุ่มสาวออฟฟิศหรือครอบครัวเล็กที่มองหาความประหยัดและใช้งานจริง หากต้องการความสบายหรืออุปกรณ์ครบครันกว่า อาจลองเปรียบเทียบกับ Honda Brio หรือ Toyota Yaris แต่ March ก็ยังคงมีความแข่งแกร่งในเรื่องความทนทานและต้นทุนการใช้ต่ำ แนะนำให้ทดลองขับก่อนซื้อ และพิจารณาตามความต้องการส่วนตัวให้ดี
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Nissan March มีอะไรบ้าง
รถยนต์ Nissan March ในตลาดไทยถูกมองว่าเป็นรถประหยัดตัวท็อปที่ขายดี ด้วยความประหยัดน้ำมัน ขับเคลื่อนคล่องตัว และราคาไม่แรงจนเกินไป แต่ก็มีจุดอ่อนบ้าง เช่น เรื่องพื้นที่ภายในรถที่ค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะช่วงขาหลังและกระโปรงท้ายที่อาจอึดอัดสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ส่วนเวลาขับบนทางด่วนก็จะได้ยินเสียงลมและเสียงยางค่อนข้างชัดเจนเพราะระบบกันเสียงยังไม่สุดยอด อีกทั้งวัสดุภายในห้องโดยสารเป็นพลาสติกแข็งที่อาจดูไม่พรีเมียมเท่ารถคู่แข่งบางรุ่นในระดับเดียวกัน สภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนจัดก็ทำให้ระบบแอร์ของรุ่นพื้นฐานอาจเย็นไม่พอเวลาติดรถนานๆ แนะนำให้อัพเกรดเป็นรุ่นสูงหรือติดฟิล์มกันความร้อนเพิ่ม ส่วนเครื่องยนต์ 1.2L แบบธรรมดานั้นเพียงพอสำหรับขับในเมือง แต่เวลาขึ้นเขาหรือโหลดเต็มคันจะรู้สึกว่าแรงยังไม่ค่อยพอ ต้องบอกว่าคนไทยนิยมรถกระบะกับ SUV มากกว่าเพราะเหมาะกับสภาพถนนบางพื้นที่ แต่จุดเด่นของ March คือขนาดกะทัดรัดที่จอดง่ายในกรุงเทพฯที่รถติดหนัก เลยขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อว่าจะเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองยังไง
Q
Nissan March อยู่ในกลุ่ม Segment ไหน?
Nissan March จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ A-segment หรือที่เรียกกันว่ารถอีโคคาร์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นประเภทของรถยนต์นั่งที่มีขนาดเล็กที่สุดตามมาตรฐานสากล เหมาะมากสำหรับการใช้งานในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ เพราะสามารถขับเคลื่อนและจอดได้คล่องตัวในพื้นที่แคบ ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีของประเทศไทยสำหรับรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,200cc
ด้วยความยาวตัวถังไม่เกิน 4 เมตร และรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.2 เมตร ทำให้เหมาะมากกับการใช้งานในตรอกซอกซอยในเมืองไทย คู่แข่งในกลุ่มนี้ ได้แก่ Honda Brio, Suzuki Swift และ Toyota Yaris Ativ ซึ่งมีจุดเด่นคล้ายกัน เช่น ประหยัดน้ำมัน ขับง่าย และค่าดูแลรักษาต่ำ
ผู้บริโภคในกลุ่ม A-segment ของไทยมักให้ความสำคัญกับพื้นที่ศีรษะและความสูงจากพื้นถนน ทำให้รถรุ่นอย่าง March มักจะมีการออกแบบให้ตัวรถสูงกว่ารุ่นที่ขายในตลาดอื่น และมีการปรับช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนนที่ขรุขระของไทย แม้ว่าในอนาคตจะมีทางเลือกในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นตามนโยบาย EV 3.5 ของรัฐบาล แต่ในปัจจุบัน Nissan March ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและเชื่อถือได้ ด้วยระบบบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
Q
มูลค่าขายต่อของ Nissan March เท่าไหร่?
ราคาขายต่อของรถมือสอง Nissan March จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพรถ, อายุรถ, ระยะทางที่ใช้งาน, และความต้องการในตลาด ตัวอย่างราคาสำหรับรุ่นปี 2020 เช่น รุ่น 1.2L S MT ราคา 420,000 บาท, รุ่น 1.2L E MT ราคา 480,000 บาท, รุ่น 1.2L E CVT ราคา 495,000 บาท, และรุ่น 1.2L EL CVT ราคา 510,000 บาท ถ้ารถสภาพดี ใช้งานน้อย อายุไม่มาก ราคาขายต่อก็จะสูง อาจใกล้เคียงกับราคาเดิมในสัดส่วนหนึ่ง แต่ถ้ารถสภาพไม่ดี ระยะทางมาก อายุเยอะ ราคาก็จะตกฮวบได้เหมือนกัน ถ้าตลาดมีความต้องการสูง ราคาขายต่อก็อาจจะเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามีรถรุ่นเดียวกันในตลาดเยอะ ราคาก็อาจจะลดลงได้ เว้าซื้อรถมือสอง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติรถให้ดี ว่ามีประวัติอุบัติเหตุหรือน้ำท่วมหรือเปล่า แล้วก็ลองเช็คราคาในแพลตฟอร์มขายรถมือสองในพื้นที่เพื่อเปรียบเทียบราคา จะได้รู้แนวทางไม่เสียเปรียบ
Q
Nissan March มีกี่ซีซี
Nissan March ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ A-Segment ขนาดเล็ก เครื่องยนต์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้มีสมรรถนะเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน พร้อมกับความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ด้วยขนาดเครื่องยนต์ที่ไม่ใหญ่เกินไป ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมือง ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันในระยะยาว
แม้ว่าจะมีหลายรุ่นย่อยให้เลือก แต่ทุกรุ่นของ Nissan March จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี เท่ากัน ซึ่งให้พละกำลังที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไปบนถนนในเมือง ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานประจำวันได้อย่างมั่นใจ ทั้งในเรื่องของความคล่องตัวและความคุ้มค่าด้านการดูแลรักษา
Q
Nissan March ใช้เครื่องยนต์อะไร
รถ Nissan March ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัสเครื่อง 1198mL เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบแบบเรียง ความเรียบของเครื่องดี ให้กำลังพอเหมาะกับการใช้งานในเมืองประจำวัน จุดเด่นของเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบนี้คือประหยัดน้ำมัน ช่วยให้เจ้าของรถลดค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันได้อีกด้วย แถมโครงสร้างยังไม่ซับซ้อน ทำให้ดูแลรักษาได้ง่ายและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาก็ไม่สูงด้วย รุ่นต่างๆของ Nissan March จะมีสเปกและราคาแตกต่างกันไป แต่ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ตัวนี้เหมือนกัน ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณได้ตามสะดวก
Q
“Nissan March มีเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ออโต้
รถ Nissan March มีให้เลือกทั้งเกียร์ MT (เกียร์ธรรมดา) และเกียร์ CVT (เกียร์อัตโนมัติแบบต่อเนื่อง) สำหรับรุ่นปี 2020 นั้น รุ่น 1.2L S MT และ 1.2L E MT จะมาแบบเกียร์ธรรมดา ที่ให้ความรู้สึกสนุกกว่าเวลาขับ เพราะคนขับสามารถเปลี่ยนเกียร์เองได้ตามต้องการ ช่วยให้ควบคุมความเร็วและกำลังเครื่องได้อย่างเต็มที่ ส่วนรุ่น 1.2L E CVT และ 1.2L EL CVT จะใช้เกียร์ CVT ที่เปลี่ยนเกียร์ลื่นไหล ไม่สะดุด ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น โดยเฉพาะในเมืองที่ต้องขับ停ขับบ่อยๆ เกียร์ CVT จะช่วยลดอาการกระตุกเวลเปลี่ยนเกียร์ได้ดีกว่า ทำให้ขับสบายกว่าในชีวิตประจำวัน
Q
PCD Nissan March เท่าไหร่
รถ Nissan March มีขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลัก) แบบ 4x100 ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของล้อรถขนาดเล็กที่นิยมใช้ในตลาดไทย เหมาะสำหรับล้อขนาด 14 หรือ 15 นิ้ว ในไทยรถหลายรุ่นที่ฮิตๆ เช่น Honda Jazz หรือ Toyota Yaris ก็ใช้ขนาด PCD แบบเดียวกันนี้ ทำให้เจ้าของรถหาล้อที่เข้ากันได้ง่ายขึ้นหรือจะอัพเกรดก็สะดวก PCD นี่เป็นพารามิเตอร์สำคัญเวลาติดตั้งล้อ เลือกขนาดให้ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยเวลาขับขี่ แนะนำว่าเวลาจะเปลี่ยนล้อควรตรวจสอบค่าอื่นๆ ด้วย เช่น Center Bore (CB) และ Offset (ET) เพื่อให้ล้อเข้าได้พอดี สภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกแบบนี้ต้องใส่ใจเรื่องความทนทานของยางและล้อเป็นพิเศษ แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพดีที่มีการรับรอง และตรวจสอบการยึดสลักболท์อย่างสม่ำเสมอ สำหรับคนที่ชอบแต่งรถให้สวยโดนใจ ในไทยมีร้านขายล้อมืออาชีพหลายเจ้า ที่มีล้อขนาด 4x100 ให้เลือกเพียบ ทั้งล้ออัลลอยน้ำหนักเบาไปจนถึงล้อดีไซน์สวยๆ แต่ต้องอย่าลืมว่าหลังแต่งล้อแล้วต้องผ่านมาตรฐานการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกด้วยนะ
Q
Nissan March รองรับ Apple Carplay หรือไม่?
สำหรับ Nissan March ในตลาดไทย รุ่นท็อปบางรุ่นมีการรองรับระบบ Apple CarPlay แล้วนะ แต่รายละเอียดอาจแตกต่างกันไปตามปีและรุ่นที่เลือก แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่ายโดยตรงก่อนซื้อเพื่อความชัดเจน เพราะบางทีสเปคอาจมีการอัปเดต Apple CarPlay เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ใช้งานแอปจาก iPhone บนหน้าจอรถได้สะดวกมากๆ โดยเฉพาะในเมืองไทยที่รถติดบ่อย แบบนี้จะใช้แผนที่ ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ก็ง่ายไปเลย นอกจาก Nissan March แล้ว รุ่นอื่นๆ ในตลาดอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda City ก็เริ่มมีฟีเจอร์นี้กันมากขึ้น แสดงว่าเดี๋ยวนี้คนไทยเน้นความสะดวกสบายด้านคอนเนคติวิตี้พอสมควร แต่ละค่ายระบบอาจใช้งานต่างกันนิดหน่อย แนะนำให้ลองใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด เพราะอนาคตไทยกำลังขับเคลื่อนสู่สมาร์ทซิตี้และรถ EV ฟีเจอร์เชื่อมต่อแบบนี้คงกลายเป็นมาตรฐานของรถรุ่นใหม่ๆ แน่นอน
Q
ยางติดรถ Nissan March ใช้ยี่ห้ออะไร?
ในตลาดประเทศไทย Nissan March แต่ละรุ่นและแต่ละออปชันจะมียี่ห้อยางที่ติดรถแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่จะใช้ยางแบรนด์ญี่ปุ่น เช่น Bridgestone และ Dunlop รวมถึงแบรนด์ที่นิยมในไทยอย่าง Deestone และ Vee Rubber ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นในด้านความทนทานและการยึดเกาะถนนเปียก เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยของประเทศไทย
เวลาซื้อยาง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนาดและสเปกตรงกับที่โรงงานกำหนดไว้ เช่น ขนาดยอดนิยมคือ 165/70 R14 หรือ 175/60 R15 สามารถดูได้จากคู่มือรถหรือตรงสติกเกอร์ที่กรอบประตูด้านคนขับ
นอกจากนี้ คนขับในไทยอาจพิจารณาคุณสมบัติเพิ่มเติมอย่างความประหยัดน้ำมันและความเงียบในการขับขี่ เพราะสภาพการจราจรในเมืองค่อนข้างติดขัด ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้ขับสบายมากขึ้น หากต้องการเปลี่ยนยาง แนะนำให้เลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายหรือศูนย์บริการที่เชื่อถือได้ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขาย และควรตรวจสอบแรงดันลมและสภาพยางเป็นประจำเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
Q
ความกว้างของ Nissan March คือเท่าไหร่?
ความกว้างของ Nissan March อยู่ที่ 1,665 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานในกลุ่มรถยนต์คลาส A ตัวเลขนี้ถือเป็นส่วนสำคัญของขนาดตัวรถโดยรวม ความกว้างระดับนี้ช่วยสร้างพื้นที่ภายในที่เพียงพอสำหรับผู้โดยสารและสัมภาระ ในขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อสมรรถนะในการขับขี่และความมั่นคงบนถนนด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดความกว้างนี้มีความสำคัญอย่างมากเวลาเข้าจอดหรือเลี้ยวในพื้นที่จำกัด แม้ว่ารุ่นย่อยต่างๆ ของ Nissan March จะมีความกว้างเท่ากัน แต่ก็อาจแตกต่างกันในเรื่องฟีเจอร์หรือราคา การเข้าใจความกว้างของรถช่วยให้ผู้ที่สนใจซื้อสามารถประเมินได้ว่ารถคันนี้เหมาะกับความต้องการและสถานการณ์การใช้งานของพวกเขาหรือไม่
Q&A ล่าสุด
Q
ราคาบริการของ Toyota Sienta คือเท่าไหร่ ดูที่นี่ก่อนดีกว่า
ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถโตโยต้า Sienta ในประเทศไทยจะมีความแตกต่างกันไปตามบริการและนโยบายของตัวแทนจำหน่าย โดยทั่วไปบริการพื้นฐานเช่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองจะมีราคาประมาณ 2,500-4,000 บาท ส่วนการบริการใหญ่ที่รวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ตรวจสอบระบบเบรก อาจมีราคาสูงถึง 8,000-12,000 บาท แนะนำให้ติดต่อตัวแทนโตโยต้า 4S ในพื้นที่เพื่อขอใบเสนอราคาที่แน่นอน ตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าในประเทศไทยมักมีแพ็กเกจบริการที่ชัดเจนรวมค่าวัสดุและค่าแรงแล้ว บางสาขาอาจมีโปรโมชันตามฤดูกาลหรือส่วนลดสำหรับสมาชิก ควรระลึกไว้เสมอว่าการดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังรักษามูลค่าของรถเมื่อต้องการขายต่อ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย การตรวจสอบระบบแอร์และน้ำหล่อเย็นยิ่งมีความสำคัญ นอกจากนี้ในตลาดไทยยังมีศูนย์บริการบางแห่งที่ใช้อะไหล่ไม่ใช่ของแท้แต่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจมีราคาถูกกว่า แต่ต้องตรวจสอบคุณภาพของอะไหล่และเงื่อนไขการรับประกันให้ดี การวางแผนระยะเวลาการดูแลรักษาให้เหมาะสม เช่น ทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน จะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถ Toyota Sienta คือเท่าไหร่ หาคำตอบได้ที่นี่
รถโตโยต้า ซีเอนตาในไทยมีค่าบำรุงรักษาที่สมเหตุสมผล เหมาะสำหรับผู้ใช้งานครอบครัว ค่าบำรุงรักษาปกติจะขึ้นอยู่กับรุ่นและประเภทเครื่องยนต์ โดยรุ่นเบนซิน 1.5L ค่าบำรุงพื้นฐานอย่างการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,500 บาท ส่วนรุ่นไฮบริดจะมีค่าบำรุงสูงกว่าเล็กน้อย แต่ด้วยความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยีไฮบริดจากโตโยต้า ช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้ในระยะยาว นอกจากนี้โตโยต้ายังมีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายทั่วไทย พร้อมอะไหล่แท้และบริการมาตรฐาน ที่ช่วยให้มั่นใจในคุณภาพและความสะดวกสบาย ข้อควรระวังคือสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้น อาจทำให้ต้องดูแลรถเป็นพิเศษ แนะนำให้ตรวจสอบระบบแอร์และแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานรถ ส่วนความทนทานและอัตราเสียบต่ำของซีเอนตา ทำให้เป็นที่นิยมในตลาดไทย โดยเฉพาะครอบครัวในเมือง ที่นั่งปรับรูปแบบได้และความประหยัดน้ำมันยังช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมได้อีกด้วย
Q
ขนาดล้อของ Toyota Sienta คืออะไร
รถโตโยต้า Sienta ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยจะมีขนาดล้อที่แตกต่างกันไปตามรุ่นและระดับเครื่องยนต์ โดยขนาดล้อที่พบได้บ่อยจะมีทั้งแบบ 15 นิ้วและ 16 นิ้ว แต่ขนาดล้ออาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีและรุ่นย่อย ดังนั้นเจ้าของรถควรตรวจสอบข้อมูลที่แน่นอนได้จากคู่มือผู้ใช้หรือป้ายที่ติดอยู่บนกรอบประตูรถ สำหรับในประเทศไทยแล้ว เนื่องจากสภาพถนนและอากาศมีความเฉพาะตัว การเลือกขนาดล้อและยางที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญทั้งต่อความสบายในการขับขี่และความปลอดภัย ล้อขนาดใหญ่จะช่วยให้การควบคุมรถดีขึ้นแต่อาจเสียความนุ่มนวลไปบ้าง ในขณะที่ล้อขนาดเล็กจะเหมาะกับถนนสภาพขรุขระมากกว่า นอกจากนี้เมื่อต้องการเปลี่ยนล้อ เจ้าของรถในไทยยังต้องคำนึงถึงกฎหมายจราจรท้องถิ่น เพื่อให้มั่นใจว่าการเปลี่ยนล้อและยางจะไม่ส่งผลต่อความปลอดภัยหรือความถูกต้องตามกฎหมายของรถ และการเลือกวัสดุยางที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานและเพิ่มแรงยึดเกาะบนถนนเปียกลื่นได้ดีขึ้น
Q
รุ่นต่างๆ ของ Toyota Sienta มีอะไรบ้าง
รถโตโยต้า ซีเอนต้ามีหลายรุ่นย่อยให้เลือก เริ่มจากรุ่น 2020 Toyota Sienta 1.5L G ราคา 765,000 บาท ใช้เชื้อเพลิงเบนซิน อยู่ในระดับรถเกรด C ขนาดตัวรถยาว 4,235 มม. กว้าง 1,695 มม. สูง 1,695 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. แบบ 5 ประตู 7 ที่นั่ง ใช้เกียร์ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ยางหน้าขนาด 185/60 R15 ส่วนรุ่น 2020 Toyota Sienta 1.5L V ราคา 825,500 บาท มีสเปกใกล้เคียงกับรุ่น 1.5L G แต่ใช้ยางหน้าขนาด 195/50 R16 และน้ำหนักรถมากกว่าเล็กน้อย สำหรับปี 2022 มีรุ่น Toyota Sienta 1.5 G CVT 2022 ราคา 775,000 บาท และรุ่น Toyota Sienta 1.5 V CVT 2022 ราคา 889,000 บาท ทั้งสองรุ่นนี้เป็นแบบ 4 ประตู 4 ที่นั่ง ขนาดตัวรถยาว 4,235 มม. กว้าง 1,695 มม. สูง 1,695 มม. ระยะฐานล้อ 2,570 มม. ใช้ยางหน้าหลังขนาด 195/50 R16 เหมือนกัน แต่ละรุ่นย่อยมีราคาและสเปกที่แตกต่างกัน ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการและการใช้งาน
Q
Toyota Sienta หนักเท่าไหร่ ตรวจสอบที่นี่เพื่อรู้คำตอบ
น้ำหนักของ Toyota Sienta จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก สำหรับ Toyota Sienta 1.5L G ปี 2020 มีน้ำหนักอยู่ที่ 1,325 กิโลกรัม ส่วนรุ่น 1.5L V ปีเดียวกันหนักกว่าเล็กน้อยที่ 1,350 กิโลกรัม น้ำหนักรถเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อหลายด้าน เช่น ประหยัดน้ำมันยิ่งรถเบายิ่งกินน้ำมันน้อย ส่วนเรื่องการขับขี่ รถน้ำหนักน้อยอาจจะคล่องตัวกว่า แต่รถที่หนักกว่ากลับให้ความรู้สึกนิ่งกว่าเวลาขับเร็วๆ นอกจากนี้ น้ำหนักยังเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการเบรก ยิ่งรถหนักก็ยิ่งต้องใช้แรงเบรกมากขึ้น ถ้าเข้าใจเรื่องน้ำหนักรถก็จะช่วยให้เลือกซื้อรถที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีขึ้น
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nissanวางแผนเปิดตัว N7 ในตลาดอาเซียน ตลาดไทยอาจได้ต้อนรับรถรุ่นใหม่นี้
Kevin WongJul 23, 2025

เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตต่ำ Nissan วางแผนที่จะปิดโรงงาน Civac ในเม็กซิโกก่อนเดือนมีนาคมปีหน้า
ธนวัฒน์Jul 22, 2025

Nissan อาจจับมือผลิตกระบะให้ Honda ในสหรัฐฯ เพื่อแก้ปัญหาการเงิน?
พงศธรJul 15, 2025

Nissan เตรียมพลิกโฉม SUV รุ่นสำคัญ หวังพาแบรนด์พ้นวิกฤตธุรกิจ
LienJul 14, 2025

NISSANเปิดตัว Navara Calibre SL Series ราคาเริ่มต้น 758,000 บาท
Kevin WongJul 10, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย