Q

"รถ M3 ปี 2024 เป็นรถที่เชื่อถือได้หรือไม่?"

M3 ปี 2024 ซึ่งเป็นตัวแทนของรถยนต์สมรรถนะสูงของ BMW ยังคงรักษามาตรฐานความน่าเชื่อถือที่สม่ำเสมอของแบรนด์ไว้ เครื่องยนต์ S58 แบบ 6 สูบเรียงเทอร์โบชาร์จ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วมายาวนาน ให้กำลังขับที่เสถียรและประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ที่ต้องการสมรรถนะสูงในสภาพอากาศเขตร้อน รุ่นนี้สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มโมดูลาร์ CLAR ทำให้ความแข็งแกร่งของตัวถังเพิ่มขึ้น 15% และลดน้ำหนักลง 80 กิโลกรัม เพิ่มความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพถนนที่ซับซ้อน ระบบเกียร์ Steptronic 8 สปีดได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพการจราจรในเมือง ควรทราบว่าระบบเฟืองท้าย M แบบแอคทีฟและระบบช่วงล่างแบบปรับได้นั้นต้องการการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ แนะนำให้ตรวจสอบบูชแชสซีทุกๆ 20,000 กิโลเมตร แม้ว่าการรับประกัน 3 ปี/100,000 กิโลเมตรจะเทียบเท่ากับคู่แข่งจากเยอรมนีในระดับเดียวกัน แต่แพ็คเกจการบำรุงรักษาเฉพาะรุ่น M จากโรงงานจะช่วยยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนสมรรถนะสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการขับขี่ในเขตชานเมืองหรือบนภูเขาเป็นประจำ ควรพิจารณาเลือกใช้ชุดเบรกเซรามิกเพื่อลดอาการเบรกเฟดในอุณหภูมิสูง ตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นมักจะมีน้ำยาหล่อเย็นและน้ำมันเบรกชนิดพิเศษที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง จากผลตอบรับจากเจ้าของรถจริง ระบบสาระบันเทิงของ ID7 มีความแม่นยำในการจดจำคำสั่งภาษาไทยดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่พื้นที่เบาะหลังยังคงเน้นการจัดวางแบบสปอร์ต ทำให้เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความสนุกสนานในการขับขี่
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความเร็วสูงสุดของ BMW M3 Competition ปี 2024 คือเท่าไหร่?
รุ่น M3 Competition ปี 2024 ถูกจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ 250 กม./ชม. แต่ถ้าเลือกติดตั้งแพ็กเกจ M Driver ความเร็วสูงสุดจะเพิ่มขึ้นเป็น 290 กม./ชม. ซึ่งประสิทธิภาพระดับนี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการขับขี่ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นบนถนนทางด่วนในเมืองหรือแม้แต่การลงสนามแข่งเป็นครั้งคราว ก็ให้ความรู้สึกตื่นเต้นได้ไม่น้อย ภายใต้กระโปรงหน้ารถคือเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร 6 สูบแบบเรียงคู่เทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 503 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด M Steptronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ทำให้ทั้งเร่งแรงและควบคุมได้แม่นยำ สำหรับบ้านเรา รถสปอร์ตสมรรถนะสูงแบบนี้ต้องให้ความสำคัญกับการเลือกยางและการบำรุงรักษาเป็นพิเศษ เพราะอากาศร้อนๆ ของไทยทำลายยางได้ง่าย แนะนำให้ใช้ยางสมรรถนะสูงและตรวจสอบลมยางบ่อยๆ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม แม้ M3 Competition จะทำความเร็วสูงได้มาก แต่บนถนนสาธารณะก็ต้องเคารพกฎจราจรนะครับ เพราะความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ
Q
เครื่องยนต์ของ BMW M3 ปี 2024 คืออะไร?
รุ่นปี 2024 ของ BMW M3 นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ S58 ล่าสุดจาก BMW นั่นคือเครื่องยนต์แบบ inline-six 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่ ที่อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพสูง ในรุ่นมาตรฐานจะให้กำลังสูงสุดที่ 473 แรงม้า ส่วนรุ่น Competition จะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 503 แรงม้า ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดหรือจะเลือกเกียร์ธรรมดา 6 สปีดก็ได้ เพื่อตอบโจทย์ทั้งความสนุกในการขับและพลังที่เต็มเปี่ยม ในสภาพอากาศร้อน เครื่องยนต์ S58 นี้ได้รับการออกแบบระบบระบายความร้อนที่เสริมประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งหม้อน้ำเพิ่มและน้ำมันหล่อเย็นเพิ่ม เพื่อให้มั่นใจว่าแม้ต้องใช้งานหนักเป็นเวลานานก็ยังคงเสถียร โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มักเจออากาศร้อนจัด สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือเครื่องยนต์รุ่นนี้ยังรองรับเชื้อเพลิงแบบ E20 ที่ผสมเอทานอลได้ ซึ่งเข้ากันได้กับมาตรฐานน้ำมันเชื้อเพลัยทั่วไปในท้องถิ่น ถ้าเปรียบเทียบกับรถสปอร์ตระดับเดียวกันแล้ว เครื่องยนต์ inline-six เทอร์โบแบบนี้มักเป็นที่นิยมมากเพราะให้กำลังส่งที่ลื่นไหลและยังสามารถปรับแต่งเพิ่มประสิทธิภาพได้อีก ถ้าคิดจะอัพเกรดเครื่องในภายหลัง แนะนำให้เลือกชุดอัพเกรด MP ของทาง BMW เพื่อให้ได้ระบบระบายความร้อนที่สมบูรณ์และยังคงได้รับบริการรับประกันจากทางศูนย์ สำหรับการดูแลรักษาปกติแล้ว ต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสอบเทอร์โบเป็นประจำและเปลี่ยนน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ประสิทธิภาพสูงตามระยะที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
Q
เวลาสำหรับการวิ่งควอเตอร์ไมล์ของ BMW M3 ปี 2024 คือเท่าไหร่?
BMW M3 ปี 2024 สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 1/4 ไมล์ได้ในเวลาประมาณ 11.6 วินาที ด้วยเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง เทอร์โบชาร์จคู่ รุ่น Competition ให้กำลัง 503 แรงม้า และแรงบิด 650 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด หรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (เป็นตัวเลือก) ระบบขับเคลื่อนล้อหลังหรือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ MxDrive ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน ในสภาพอากาศร้อนและชื้น แนะนำให้ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเพื่อการเร่งความเร็วที่เสถียรยิ่งขึ้น การใช้ยางประสิทธิภาพสูงและการรักษาระดับอุณหภูมิของน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์ให้เหมาะสมจะช่วยให้รถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เวลาในการเร่งความเร็ว 1/4 ไมล์เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญของความสามารถในการเร่งความเร็วทางตรงของรถ นอกจากกำลังเครื่องยนต์แล้ว การเลือกยาง อุณหภูมิพื้นผิวถนน และทักษะการขับขี่ล้วนมีผลต่อผลลัพธ์สุดท้าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น อาจพิจารณาการปรับแต่งน้ำหนักเบาหรือการปรับแต่งระบบไอดีและไอเสีย แต่การรักษาสมดุลของรถเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันอย่างสะดวกสบาย
Q
2024 BMW M3 รุ่นเกียร์ธรรมดามีกำลังเครื่องยนต์เท่าไหร่?
BMW M3 รุ่นปี 2024 เกียร์ธรรมดา มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่ ให้กำลังสูงสุด 473 แรงม้า (ประมาณ 480 แรงม้าเมตริก) และแรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น เครื่องยนต์นี้ผสานรวมเทคโนโลยีล่าสุดของ BMW รวมถึงระบบ Valvetronic ควบคุมการยกวาล์วแปรผัน และระบบ Double-VANOS ควบคุมจังหวะการเปิด-ปิดวาล์วแปรผันคู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งกำลังและประหยัดน้ำมัน แม้ว่ารุ่นเกียร์ธรรมดาจะค่อนข้างหายากในท้องถิ่น แต่การเปิดตัว M3 เกียร์ธรรมดาตอบสนองความต้องการของนักขับที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น โดยมีกำลังเพียงพอสำหรับทั้งถนนในเมืองและทางโค้งบนภูเขา ที่น่าสังเกตคือ แม้ว่ารุ่นเกียร์ธรรมดาจะมีกำลังน้อยกว่ารุ่น Competition เกียร์อัตโนมัติเล็กน้อย (503 แรงม้า) แต่ตัวถังที่เบากว่าและการตอบสนองทางกลไกโดยตรงทำให้ประสบการณ์การขับขี่ดิบและเร้าใจยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่สูงยิ่งขึ้น แพ็คเกจ M Driver's Package มีให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งจะจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 280 กม./ชม. ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รถคันนี้ทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือในสภาพอากาศร้อน และระบบระบายความร้อนได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษให้เหมาะสมกับการขับขี่ระยะยาวภายใต้ภาระหนัก
Q
BMW M3 Touring 2024 มีกำลังเครื่องยนต์กี่แรงม้า?
รถ BMW M3 Touring รุ่นปี 2024 นี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุดถึง 510 แรงม้า แรงบิดพีค 650 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด M Steptronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที แสดงศักยภาพที่แรงสุดๆ นี่คือรุ่นทัวริงครั้งแรกของซีรีส์ M3 ที่รวมความแรงและความใช้งานได้จริงเข้าด้วยกัน โดยมีปริมาตรกระโปรงหลัง 500 ลิตร และขยายได้ถึง 1,510 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบขับสปอร์ตแต่ต้องการพื้นที่บรรทุกของเยอะ แถวบ้านเราก็เริ่มนิยมรถสปอร์ตเอสเตทแบบนี้กันมากขึ้น เพราะตอบโจทย์ทั้งใช้งานประจำวันและลุยโค้งสนุกๆ วันหยุด ส่วนเรื่องเซ็ตอัพช่วงล่าง M3 Touring ถูกปรับให้สปอร์ตแต่ยังนุ่มสบายกว่า M3 รุ่นปกติ ขับทางไกลไม่เมื่อย แถมยังมาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุดอย่างระบบ iDrive 8 ไฟหน้าเลเซอร์ และอีกเพียบ จัดว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่อยากได้รถทั้งแรงทั้งใช้งานได้จริง การมาของ M3 Touring นี่ทำให้ตลาดรถสปอร์ตเอสเตทมีตัวเลือกเด็ดเพิ่มอีกหนึ่งแล้วล่ะ
Q
2024 BMW M3 CS มีกำลังเท่าไหร่?
BMW M3 CS ปี 2024 มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ให้กำลังสูงสุดถึง 543 แรงม้า เพิ่มขึ้น 28 แรงม้าจาก M3 รุ่นมาตรฐาน และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.4 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดที่จำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ 302 กม./ชม. รุ่นสมรรถนะสูงนี้ยังมาพร้อมชิ้นส่วนน้ำหนักเบาพิเศษ เช่น ฝากระโปรงหน้า หลังคา และระบบท่อไอเสียที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยลดน้ำหนักโดยรวมลงประมาณ 20 กก. และเพิ่มความคล่องตัวในการควบคุม ในสภาพอากาศร้อน ระบบระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ช่วยรักษาเสถียรภาพของกำลังเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ยางสมรรถนะสูง Michelin Pilot Sport Cup 2 ที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานนั้นเหมาะสำหรับสภาพถนนเปียก ที่น่าสนใจคือ รุ่น CS ยังมีการปรับแต่งระบบกันสะเทือนและแชสซีส์ให้เหมาะสมกับการขับขี่ในสนามแข่ง ควบคู่กับเฟืองท้าย M ที่ปรับได้ ทำให้ควบคุมพวงมาลัยได้อย่างแม่นยำแม้บนถนนภูเขาที่คดเคี้ยวหรือสนามแข่งขนาดเล็ก รถยนต์สมรรถนะสูงเหล่านี้มักต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนสูงกว่าและต้องบำรุงรักษาบ่อยขึ้น เจ้าของรถควรปฏิบัติตามตารางการบำรุงรักษาที่ผู้ผลิตแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องยนต์อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดในระยะยาว
Q
ได้เลย! นี่คือเนื้อหาที่แปลเป็นภาษาไทย: "รถ BMW M3 Touring รุ่นปี 2024 มีแรงม้ากี่แรง?"
BMW M3 Touring ปี 2024 มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 503 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ทำให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.6 วินาที รถสปอร์ตสมรรถนะสูงคันนี้ยังคงรักษาความสนุกสนานในการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ M ไว้ พร้อมกับพื้นที่ใช้สอยที่ใช้งานได้จริง ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์สมรรถนะสูงที่ชอบการขับขี่ทางไกลหรือต้องการบรรทุกสัมภาระ เครื่องยนต์ 6 สูบเรียงใช้ระบบระบายความร้อนและเทคโนโลยีการฉีดเชื้อเพลิงล่าสุดของ BMW รักษาประสิทธิภาพการทำงานระดับสูงได้อย่างเสถียรแม้ในสภาพอากาศร้อน การปรับแต่งแชสซีของ M3 Touring เน้นความสปอร์ต แต่เมื่อเทียบกับ M3 รุ่นมาตรฐานแล้ว ยังเพิ่มระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง ทำให้คล่องตัวมากขึ้นเมื่อขับขี่ในพื้นที่แคบหรือลานจอดรถ ควรทราบว่ารถยนต์สมรรถนะสูงประเภทนี้แนะนำให้ใช้น้ำมันเบนซิน 98 ออกเทนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด และการตรวจสอบระดับน้ำมันหล่อเย็นและน้ำมันเกียร์เป็นประจำมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงทำให้รถยนต์สมรรถนะสูงต้องการการบำรุงรักษาที่มากขึ้นงการการเอาใจใส่มากเป็นธรรมดา
Q
เครื่องยนต์ของ 2024 M3 คือเครื่องอะไร?
BMW M3 ปี 2024 ติดตั้งเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่รุ่นล่าสุดของ BMW รหัส 558 เครื่องยนต์นี้ได้รับการยกย่องอย่างสูงในรุ่นสมรรถนะสูง ให้กำลังสูงสุด 510 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด หรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (เป็นตัวเลือก) มอบกำลังที่ทรงพลังและการควบคุมที่คล่องตัวให้กับผู้ขับขี่ ในสภาพอากาศร้อนจัด ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้รับการปรับปรุงให้รับมือกับสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจถึงสมรรถนะที่เสถียร เครื่องยนต์ S58 ยังใช้เทคโนโลยีการฉีดเชื้อเพลิงขั้นสูงและการออกแบบที่มีน้ำหนักเบา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและตรงตามมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้น สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ เครื่องยนต์ 558 มีศักยภาพสูง และแบรนด์แต่งรถหลายแบรนด์ได้ออกชุดอัพเกรดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ เครื่องยนต์นี้ยังใช้ในรุ่นต่างๆ เช่น X3M และ X4M ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและความสามารถในการปรับตัว ในการขับขี่ประจำวัน กำลังเครื่องยนต์ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว สามารถรับมือได้ทั้งถนนในเมืองและทางหลวงได้อย่างสบาย ขณะที่เสียงท่อไอเสียได้รับการปรับแต่งอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างความสปอร์ตและการใช้งานในชีวิตประจำวัน
Q
เนื้อหาที่คุณต้องการให้แปลเป็นภาษาไทยคือ: "เวลาที่ใช้ในการเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมง สำหรับ BMW M3 รุ่นปี 2024 คือเท่าไหร่?"
รถ BMW M3 รุ่นปี 2024 มีเวลาการเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 96 กม./ชม.) ที่แตกต่างกันตามรุ่นแบบ โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังจะใช้เวลาประมาณ 3.9 วินาที ส่วนรุ่น Competition xDrive ที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสามารถทำได้เร็วถึง 3.4 วินาที ซึ่งเป็นผลมาจากเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบแบบเรียงคู่กับเทอร์โบชาร์จที่ให้กำลังสูงสุดถึง 503 แรงม้า (ในรุ่น Competition) คู่กับเกียร์ 8 สปีด M Steptronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ M xDrive ที่ทำให้การทำงานคงที่แม้ในสภาพอากาศร้อนชื้น สำหรับคนที่ชอบรถสปอร์ต BMW M3 ยังโดดเด่นในเรื่องการตั้งค่าการขับขี่และเทคโนโลยีช่วงล่าง เช่น ระบบ Active M Differential และระบบช่วงล่างปรับได้ ที่ช่วยให้การขับขี่แม่นยำทั้งในเมืองที่รถติดหรือบนถนนคดเคี้ยวตามภูเขา นอกจากนี้ ถ้าสนใจการแต่งรถ เครื่องยนต์ S58 ของรุ่นนี้ยังมีศักยภาพสูง โดยมีอู่แต่งรถหลายแห่งในไทยที่สามารถอัพเกรดสมรรถนะได้ แต่แนะนำให้เลือกใช้อะไหล่ M Performance ของทางบริษัทเพื่อรักษาสิทธิ์การรับประกันไว้
Q
"รถ BMW M3 ปี 2024 เป็นเกียร์ธรรมดาหรือไม่?"
ใช่แล้วครับ สำหรับรุ่นปี 2024 นี้ BMW M3 ยังคงมีเกียร์ธรรมดาให้เลือก เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบความสนุกในการขับขี่แบบเต็มที่ โดยเฉพาะเวลาขับลัดเลาะเส้นทางคดเคี้ยวแถบภูเขารอบๆ กรุงเทพฯ หรือบนสนามแข่ง รถคันนี้ใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบ แบบ Twin-Turbo ให้กำลังสูงสุดถึง 473 แรงม้า (ส่วนรุ่น Competition จะเพิ่มเป็น 503 แรงม้า) โดยรุ่นเกียร์ธรรมดาจะใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมคันเกียร์สั้นๆ ที่ให้ความรู้สึกการเปลี่ยนเกียร์ที่ตรงไปตรงมา แม้ว่าตลาดไทยจะนิยมรุ่นเกียร์ออโต้มากกว่า แต่ M3 เกียร์ธรรมดากลับให้ความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างคนขับกับรถได้ดีกว่า แถมโครงสร้างเกียร์ยังเรียบง่ายทำให้ดูแลรักษาได้ง่ายกว่าด้วย เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-AMG C63 ที่หันไปใช้ระบบไฮบริดทั้งหมด ทำให้ M3 กลายเป็นหนึ่งในรถสปอร์ตซีดานไม่กี่รุ่นที่ยังคงรักษาความคลาสสิกในการขับขี่ไว้ได้ พร้อมทั้งยังติดตั้งระบบดิฟเฟอเรนเชียลแอคทีฟและระบบช่วงล่างปรับได้มาให้พร้อม ซึ่งช่วยให้การขับขี่บนถนนไทยเป็นเรื่องราบรื่นครับ
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

เครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงสำหรับการขับขี่ที่น่าตื่นเต้น
การควบคุมที่ดีอย่างยิ่งสำหรับการเลี้ยวมุมอย่างแม่นยำ
ยี่ห้อ BMW พรีเมียมที่มีชื่อเสียงดี
การออกแบบลักษณะภายนอกที่โดดเด่นทำให้ผู้คนสังเกต

ข้อเสีย

การใช้เชื้อเพลิงสูงทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ
พื้นที่ด้านหลังอาจรู้สึกแคบเล็กน้อย
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอาจสูงค่อนข้างมาก
บางคนคิดว่าการใช้ระบบสื่อสารและความบันเทิงซับซ้อน

Q&A ล่าสุด

Q
2021 Suzuki Swift Sport มีขนาดเท่าไหร่?
ซูซูกิ สวิฟท์ สปอร์ต ปี 2021 เป็นรถแฮทช์แบ็กขนาดกะทัดรัดสไตล์สปอร์ต มีขนาดความยาว 3890 มม. × ความกว้าง 1735 มม. × ความสูง 1500 มม. และระยะฐานล้อ 2450 มม. ขนาดเหล่านี้ทำให้ขับขี่คล่องตัวในสภาพแวดล้อมในเมือง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่พลุกพล่านอย่างกรุงเทพฯ ช่วยให้การจอดรถและการขับขี่ในที่แคบเป็นเรื่องง่าย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ Boosterjet 1.4 ลิตร ให้กำลัง 129 แรงม้า และแรงบิด 235 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลังที่เพียงพอและประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม แม้ภายในจะกะทัดรัด แต่การออกแบบที่ชาญฉลาดช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและพื้นที่เก็บของที่ดี โดยมีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถขนาด 265 ลิตร เพียงพอต่อความต้องการในชีวิตประจำวัน สวิฟท์ สปอร์ต มีตัวถังน้ำหนักเบาและระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต ทำให้การควบคุมรถยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ นอกจากนี้ รถคันนี้ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยมากมาย เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ และระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ในตลาดท้องถิ่น รถรุ่นนี้มีราคาที่คุ้มค่าและเป็นที่นิยมในหมู่คนหนุ่มสาวและครอบครัวขนาดเล็ก อีกทั้งยังมีศักยภาพในการดัดแปลงสูงและเป็นที่ชื่นชอบของคนรักรถยนต์
Q
Swift 2021 มีเครื่องยนต์ประเภทอะไร?
รถยนต์ Suzuki Swift รุ่นปี 2021 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ K12C ขนาด 1.2 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่และระบบ VVT คู่ ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์ CVT เครื่องยนต์รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องประหยัดน้ำมันและขับขี่นุ่มนวล เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง ในตลาดท้องถิ่น เครื่องยนต์นี้ยังผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษ Euro 5 จึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ เครื่องยนต์ K-series ของ Suzuki มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบที่น้ำหนักเบาและเทคโนโลยีแรงเสียดทานต่ำ ส่งผลให้ค่าบำรุงรักษาต่ำในระยะยาว เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่เน้นความคุ้มค่า สำหรับผู้ที่ต้องการกำลังมากกว่า รุ่น Swift Sport มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.4T Boosterjet แต่เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรมาตรฐานก็เพียงพอต่อความต้องการในการขับขี่ประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพการจราจรติดขัด สำหรับการบำรุงรักษา แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องความหนืดต่ำ OW-20 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน น้ำมันที่มีคุณสมบัติตามนี้หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายอะไหล่รถยนต์ในท้องถิ่น
Q
ใน Swift รุ่นใดที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุด?
สำหรับรุ่น Suzuki Swift ที่วางขายในตลาดไทย รุ่นที่ประหยัดน้ำมันที่สุดคือ Swift GLX CVT ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร DualJet ซึ่งประกาศอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอย่างเป็นทางการอยู่ที่ประมาณ 23.3 กม./ลิตร ระบบขับเคลื่อนนี้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้ในเมืองด้วยน้ำหนักตัวรถที่เบาและเทคโนโลยี Start-Stop ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน แต่ถ้าคุณสนใจรุ่นไฮบริด Swift Hybrid ก็มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นอีก โดยเฉพาะในสภาพการจราจรแบบ走走停停แบบกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ ขนาดของถนน และการใช้แอร์ เช่น ถ้าขับแบบกระโชกโฮกฮากอาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 10-15% เมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกัน Toyota Yaris ก็มีจุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันไม่แพ้กัน แต่ Swift มีข้อได้เปรียบในถนนติดขัดเพราะน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัดกว่า ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้ลองขับดูสักหน่อยเพื่อสัมผัสความนุ่มนวลของเกียร์ CVT และตรวจสอบลมยางให้ได้ค่าที่ผู้ผลิตแนะนำ (ประมาณ 32-35 psi) เพราะรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้มีผลกับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยตรง
Q
ได้เลยค่ะ! เนื้อหาดังกล่าวสามารถแปลเป็นภาษาไทยได้ดังนี้: "รถ Suzuki Swift เป็นรถที่ดีไหม?"
ซูซูกิ สวิฟท์เป็นรถขนาดเล็กที่เหมาะกับการขับขี่ในเมืองมาก ด้วยความประหยัดน้ำมันและการควบคุมที่คล่องตัว ทำให้เป็นที่นิยมไม่น้อย เครื่องยนต์ 1.2L หรือ 1.0L เทอร์โบชาร์จแสดงประสิทธิภาพดีในสภาพการจราจรติดขัด และยังกินน้ำมันน้อย เหมาะกับการใช้งานประจำวัน ด้านภายในออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานได้ดี แม้วัสดุส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกแข็ง แต่ก็ทำออกมาได้แน่นหนา พร้อมฟังก์ชันใช้งานอย่างระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ในส่วนของพื้นที่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับรถขนาดเล็ก และยังสามารถพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ เหมาะสำหรับครอบครัวเล็กหรือคนโสด ด้านความปลอดภัยมีระบบ ABS, EBD และถุงลมนิรภัยคู่ รวมถึงในรุ่นสูงยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่นๆ เพิ่มเติม ค่าบำรุงรักษาค่อนข้างถูกและหาอะไหล่ได้ง่าย อัตราค่าเสื่อมก็อยู่ในระดับดี ถ้าคุณมีงบจำกัดแต่ต้องการความประหยัดและประโยชน์ใช้สอย สวิฟท์ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าคิด ในระดับเดียวกันยังมีฮอนด้า บริโอหรือโตโยต้า ยาริส ที่各有จุดเด่นแตกต่างกัน แนะนำให้ลองทดลองขับและเปรียบเทียบตามความต้องการส่วนตัว
Q
“Swift ประหยัดน้ำมันไหม?”
ในแง่ของความประหยัดน้ำมัน ซูซูกิ สวิฟท์ ทำได้ดีเยี่ยมในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรแบบไม่มีระบบอัดอากาศ ผสานกับโครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบา ทำให้สามารถประหยัดน้ำมันได้ประมาณ 20-22 กม./ลิตร ในเมือง และ 24-26 กม./ลิตร บนทางหลวง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมืองและทางไกล รุ่นไฮบริดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น ความประหยัดน้ำมันของสวิฟท์นั้นแยกไม่ออกจากเทคโนโลยีแพลตฟอร์มน้ำหนักเบา HEARTECT ซึ่งไม่เพียงแต่ลดน้ำหนักตัวถัง แต่ยังเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวถัง ทำให้การขับขี่คล่องตัวและปลอดภัยยิ่งขึ้น ในตลาดท้องถิ่น รถยนต์ขนาดเล็กที่คล้ายกัน เช่น โตโยต้า ยาริส หรือ ฮอนด้า แจ๊ส ก็ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดน้ำมันเช่นกัน แต่สวิฟท์ ด้วยราคาที่ต่ำกว่าและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า จึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกสำหรับผู้บริโภคจำนวนมาก หากคุณต้องการความประหยัดน้ำมันที่สูงขึ้น คุณสามารถพิจารณาสวิฟท์ ไฮบริด ที่มีระบบไฮบริดแบบอ่อน ซึ่งสามารถประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นในสภาพการจราจรติดขัด นอกจากนี้ การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอและพฤติกรรมการขับขี่ที่ดี เช่น การหลีกเลี่ยงการเร่งและเบรกอย่างกระทันหัน ก็สามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้อย่างมาก ขอแนะนำให้ตรวจสอบแรงดันลมยางและสภาพน้ำมันเครื่องทุกๆ 5,000 กิโลเมตร เพื่อให้มั่นใจว่ารถอยู่ในสภาพการทำงานที่ดีที่สุดเสมอ
ดูเพิ่มเติม