Q

Acura NSX มันเร็วหรือไม่?

Acura NSX เป็นรถสปอร์ตที่มีความเร็วสูง มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 3.5 ลิตร และระบบขับเคลื่อนไฮบริด ซึ่งการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยให้สามารถเร่งความเร็วได้อย่างรวดเร็ว รถรุ่นนี้มีความเร็วสูงสุดในระดับที่โดดเด่น โดยออกแบบมาเพื่อเน้นสมรรถนะและความเร็วโดยเฉพาะ โครงสร้างตัวถังแบบน้ำหนักเบาและการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านความเร็วให้ดียิ่งขึ้น ระบบเกียร์แบบล้ำสมัยและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อช่วยให้การส่งกำลังราบรื่นและมีแรงยึดเกาะที่ดี ทำให้สามารถเร่งไปถึงความเร็วสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือเข้าโค้ง NSX ก็สามารถแสดงสมรรถนะได้อย่างยอดเยี่ยม สะท้อนถึงศักยภาพด้านความเร็วของรถรุ่นนี้ ด้วยคุณสมบัติด้านสมรรถนะที่หลากหลาย NSX จึงเป็นรถที่ขับสนุกและให้ความรู้สึกเร้าใจในการใช้งาน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความแตกต่างระหว่าง Honda NSX และ Acura NSX คืออะไร?
Honda NSX และ Acura NSX มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ด้านการออกแบบภายนอก Acura NSX มาในสไตล์ที่ดูสปอร์ตและทันสมัยมากขึ้น ด้วยเส้นสายที่คมชัดและลื่นไหล ให้ความรู้สึกไฮเทค ในขณะที่ Honda NSX มีดีไซน์ที่เน้นความเรียบหรู เส้นโค้งกลมกลืน ถ่ายทอดภาพลักษณ์แบบพรีเมียม ในด้านสมรรถนะ Honda NSX ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3.5 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 356 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 460 นิวตันเมตร ในช่วงรอบเครื่อง 2400–5800 รอบต่อนาที ให้แรงม้าสูงสุด 406 แรงม้า ส่วน Acura NSX ใช้ระบบไฮบริดที่ผสานเครื่องยนต์เบนซิน 3.5 ลิตร ทวินเทอร์โบ กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 427 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่อง 2000–6000 รอบต่อนาที และให้แรงม้าสูงสุด 500 แรงม้า ระบบช่วงล่างของ Acura NSX ใช้แบบปีกนกคู่ด้านหน้า และมัลติลิงก์ด้านหลัง เน้นความแม่นยำในการควบคุมและความมั่นคง ในขณะที่ Honda NSX ใช้ช่วงล่างมัลติลิงก์ทั้งหน้าและหลัง ภายในห้องโดยสาร Acura NSX ตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์และอะลูมิเนียม ให้บรรยากาศแบบสปอร์ตและล้ำสมัย ส่วน Honda NSX เลือกใช้วัสดุหนังแท้และไม้ เพื่อสร้างความรู้สึกที่หรูหรา
Q
อะไรคือ Acura NSX ที่ทรงพลังที่สุด?
ในปัจจุบัน Acura NSX Type S 3.5L รุ่นปี 2022 ถือเป็นรถยนต์ที่ทรงพลังมาก มาพร้อมเครื่องยนต์ความจุ 3493 มิลลิลิตร ให้รอบกำลังสูงสุดที่ 6850 รอบต่อนาที รอบแรงบิดสูงสุดที่ 6000 รอบต่อนาที และมีจำนวนกระบอกสูบ 6 สูบ ใช้ระบบพลังงานแบบไฮบริดเบนซิน โดยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 47 แรงม้า (PS) และแรงบิดรวม 109 นิวตันเมตร ระบบเกียร์เป็นแบบ DCT และขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ด้วยการจัดวางระบบขับเคลื่อนในลักษณะนี้ ทำให้รถมีประสิทธิภาพทั้งด้านแรงบิดและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม Acura NSX เป็นซีรีส์ที่ให้ความสำคัญกับการผสานพละกำลังและการควบคุม ในอดีตมีรถยนต์คลาสสิกมากมาย ในรุ่นปี 2022 นี้ ได้พัฒนาไปอีกขั้นด้วยการผนวกเทคโนโลยีไฮบริดรุ่นใหม่เข้ากับเอกลักษณ์ดั้งเดิมของแบรนด์ การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยให้การเร่งสปีดทำได้รวดเร็วขึ้น ขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อก็ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนและเสถียรภาพในทุกสภาพถนน มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับผู้ขับขี่
Q
NSX หรือ Supra ไหนเร็วกว่า?
NSX และ Supra ต่างก็เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่แสดงความโดดเด่นด้านความเร็วในรูปแบบต่างกัน NSX ทำอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในประมาณ 3 วินาที ส่วน Supra ใช้เวลาประมาณ 4.1 วินาที ในด้านอัตราเร่ง 0–100 NSX เร็วกว่า สามารถไต่ความเร็วถึง 100 กม./ชม. ได้ในเวลาสั้นกว่า พร้อมแรงดึงและการตอบสนองที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ความเร็วสูงสุดจะได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย เช่น การจูนรถ การออกแบบแอโรไดนามิก และสภาพถนนจริง NSX ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดผสานเครื่องยนต์ 3.5 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมเทอร์โบคู่และมอเตอร์ที่ช่วยเสริมพลังในการเร่งความเร็วอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ Supra มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร แบบแถวเรียง 6 สูบ พร้อมเทอร์โบชาร์จที่ให้กำลังสูง แรงบิดดี และมีอาการรอรอบของเทอร์โบน้อย จึงตอบสนองได้ฉับไว สรุปคือ NSX ได้เปรียบในช่วงออกตัวและอัตราเร่ง ส่วน Supra มีจุดเด่นในด้านกำลังส่งออก
Q
Acura NSX เป็นรถที่เชื่อถือได้หรือไม่?
Acura NSX เป็นรถที่น่าเชื่อถือ ในด้านระบบความปลอดภัย มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน เช่น ระบบเบรก ABS ระบบแจ้งเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ระบบช่วยเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน และระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ ในด้านระบบขับเคลื่อน NSX ใช้ระบบไฮบริดเบนซิน ขนาดเครื่องยนต์ 3.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบคู่ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความเสถียรและให้กำลังแรง ทั้งในการขับขี่ปกติและสถานการณ์เฉพาะทาง ในแง่ของการออกแบบ NSX มีขนาดตัวถังที่เหมาะสม รูปแบบ 2 ที่นั่งช่วยเพิ่มความสบายภายในห้องโดยสาร ระยะฐานล้อที่สั้นยังช่วยให้การควบคุมรถคล่องตัวมากขึ้น อีกทั้งระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถอยู่ที่ 96 มิลลิเมตร ทำให้ยังมีความสามารถในการผ่านอุปสรรคพื้นฐานได้ดี โดยรวมแล้ว Acura NSX แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือในหลายด้าน และเป็นหนึ่งในรุ่นที่ควรพิจารณา
Q
Acura NSX ที่หายากที่สุดคืออะไร?
ในบรรดารุ่นต่าง ๆ ของ Acura NSX รุ่น Type S ที่เปิดตัวในปี 2021 ถือเป็นรุ่นที่ค่อนข้างหายาก โดยมีการผลิตจำกัดเพียง 350 คันทั่วโลก สำหรับ Acura NSX Type S 3.5L รุ่นปี 2022 มีจุดเด่นหลายด้าน โดยใช้ระบบพลังงานไฮบริดเบนซิน จัดอยู่ในกลุ่มรถสปอร์ต พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นในสไตล์สปอร์ตเฉพาะตัว ตัวรถมีความยาว 4533 มม. กว้าง 1939 มม. สูง 1214 มม. และระยะฐานล้อ 2629 มม. ด้วยรูปแบบตัวถังแบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง ได้เพิ่มความโดดเด่นในด้านบุคลิกของรถ รถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 3493 ซีซี รอบกำลังสูงสุดที่ 6850 รอบต่อนาที รอบแรงบิดสูงสุด 6000 รอบต่อนาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงม้าและแรงบิดในระดับที่ดี ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ DCT และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วยให้สมรรถนะในการขับขี่และการควบคุมทำได้อย่างยอดเยี่ยม ด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบาย NSX Type S มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง เซ็นเซอร์ถอยหลัง กล้องมองภาพขณะจอดรถ ซึ่งช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Q
ปีใดที่ NSX ดีที่สุด?
คงไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าปีไหนคือรุ่น NSX ที่ดีที่สุด เพราะแต่ละปีมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน รุ่นแรกของ NSX เปิดตัวในปี 1989 และเริ่มวางจำหน่ายในปี 1990 โดยเป็นรถสปอร์ตคันแรกของญี่ปุ่นที่ใช้โครงสร้างตัวถังแบบโมโนค็อกอะลูมิเนียม 100% ซึ่งนับว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ในยุคนั้น และยังเป็นรถสปอร์ตที่มีราคาจำหน่ายสูงที่สุดในบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นในขณะนั้น สำหรับรุ่นปี 1997 Acura NSX มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มอบประสบการณ์ขับขี่ที่บริสุทธิ์และสนุกสนานจากการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง รุ่นปี 2002 ใช้เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 290 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้สมรรถนะในการควบคุมที่ยอดเยี่ยม ดีไซน์ภายนอกทันสมัย ภายในเน้นความหรูหราใช้งานได้จริง และเป็นรถที่มีคุณค่าทางอารมณ์สำหรับหลายคนในยุคนั้น NSX เจเนอเรชันที่สองเปิดตัวในปี 2016 และยุติการผลิตในปี 2022 มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร เทอร์โบคู่ ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ภายใต้ระบบไฮบริด Sport Hybrid SH-AWD ให้พละกำลังที่เหนือกว่า หากมองหาความคลาสสิกและความรู้สึกดิบของเครื่องยนต์กลไก NSX รุ่นแรกจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าคุณให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีล้ำสมัยและสมรรถนะที่เหนือกว่า รุ่นที่สองจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
Q
Acura NSX ยังคงผลิตอยู่หรือไม่?
Acura NSX ได้ยุติการผลิตแล้ว โดยในเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 รถคันสุดท้ายของ Acura NSX Type S ได้ออกจากสายการผลิตที่โรงงาน PMC เมืองแมรีส์วิลล์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการปิดฉากการผลิตของ NSX เจเนอเรชันที่สองอย่างเป็นทางการ Acura NSX เป็นรถสปอร์ตที่ยอดเยี่ยม มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้แรงม้าและแรงบิดที่ทรงพลัง ด้วยโครงสร้างที่เน้นน้ำหนักเบา ระบบควบคุมที่แม่นยำ และการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง NSX มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและเหนือชั้น แม้ว่า NSX จะยุติการผลิตไปแล้ว แต่บทบาทและอิทธิพลของรุ่นนี้ต่อการพัฒนารถสปอร์ตไฮบริดสมรรถนะสูงจะยังคงเป็นที่จดจำไปอีกนาน
Q
Acura NSX เป็นรถซูเปอร์คาร์หรือไม่?
Acura NSX สามารถจัดอยู่ในกลุ่มซูเปอร์คาร์ได้อย่างเหมาะสม ในด้านการออกแบบ NSX มาในรูปแบบรถ 2 ประตู 2 ที่นั่ง มีรูปลักษณ์ที่เปี่ยมด้วยความสปอร์ตและพลัง โดดเด่นด้วยดีไซน์เฉพาะตัวที่สะท้อนภาพลักษณ์ของซูเปอร์คาร์อย่างชัดเจน ด้านสมรรถนะ NSX ใช้ระบบไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.5 ลิตร แบบทวินเทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 427 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 645 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0–100 กม./ชม. ได้ภายในประมาณ 3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 307 กม./ชม. ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนความเร็วและพลังในแบบฉบับซูเปอร์คาร์ นอกจากนี้ NSX ยังมาพร้อมอุปกรณ์และฟีเจอร์ที่ครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (HUD) และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง จากองค์ประกอบทั้งหมดนี้ สามารถกล่าวได้ว่า Acura NSX มีคุณสมบัติครบถ้วนในฐานะซูเปอร์คาร์
Q
NSX มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูงหรือไม่?
ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา NSX ถือว่าไม่สูงมาก โดยปกติจะมีรอบการเข้าศูนย์ทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร ค่าบำรุงรักษาแต่ละครั้งอยู่ที่ประมาณ 4,000 – 6,000 บาท สำหรับการเข้ารับบริการเล็ก เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทั่วไป อยู่ที่ราว 3,500 บาท ส่วนการบำรุงรักษาแบบเต็มรูปแบบที่รวมบริการเคลือบกระจกและอื่น ๆ จะอยู่ที่ประมาณ 5,300 บาท ซึ่งครอบคลุมทั้งการเปลี่ยนอะไหล่และของเหลวต่าง ๆ นอกจากนี้ ผู้ที่ซื้อ NSX ยังได้รับสิทธิ์บำรุงรักษาขั้นพื้นฐานฟรีจากโรงงานนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลในช่วงแรกได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการดูแลรถไม่ได้มีแค่ค่าบำรุงรักษาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงค่าน้ำมัน ค่าประกันภัย และค่าใช้จ่ายในการล้างรถประจำวันด้วย ขณะเข้ารับบริการควรให้ความสำคัญกับการรักษาอุณหภูมิและความชื้นให้คงที่ และควรเปลี่ยนของเหลวที่เสื่อมสภาพตามระยะ รวมถึงดูแลแบตเตอรี่เป็นพิเศษ
Q
Acura NSX ถือว่าเป็นรถหรูหราใหม่?
Acura NSX สามารถจัดอยู่ในกลุ่ม ยนตรกรรมหรูรุ่นใหม่ โดยเป็นซูเปอร์คาร์ไฮบริดรุ่นเรือธงของแบรนด์ Acura ซึ่งอยู่ภายใต้ Honda ในด้านการออกแบบ ภายนอกของ NSX มีเส้นสายโฉบเฉี่ยวคล้ายเสือชีตาห์ที่พร้อมออกตัว ตัวถังเตี้ยกระชับตามสไตล์เครื่องยนต์วางกลาง พร้อมกระจังหน้าทรงตัว T ที่โดดเด่น โดยประกอบด้วยกระจังแบบตาข่ายและไฟหน้า LED และยังมาพร้อมดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ด้านล่างที่ช่วยเพิ่มทั้งความสปอร์ตและประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ ภายในห้องโดยสารเน้นโทนสีแดง ดำ และเงิน ที่นั่งหุ้มด้วยวัสดุ Alcantara ตกแต่งด้วยหนังสีแดงและแถบโลหะสีเงิน ช่วยสร้างบรรยากาศความหรูหราและล้ำสมัย ด้านขุมพลัง ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3.5 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 373 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ภายใต้ระบบ Sport Hybrid SH-AWD และเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 9 สปีด มอบสมรรถนะที่ทรงพลังและตอบสนองได้ฉับไว นอกจากนี้ NSX ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายหลากหลาย เช่น ระบบช่วยเปลี่ยนเลนและระบบเบรกอัตโนมัติ เมื่อพิจารณารวมทุกด้านแล้ว Acura NSX ตอบโจทย์ความเป็นรถหรูเจเนอเรชันใหม่ได้อย่างครบถ้วน
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

การควบคุมรถที่ยอดเยี่ยมทำให้การขับขี่ตื่นเต้น
การออกแบบที่ประโดดเด่นทำให้ดูน่าสนใจอย่างง่ายดาย
เครื่องยนต์ที่แข็งแกร่งให้กำลังสูง

ข้อเสีย

ราคาสูงอาจเกินขีดความสามารถทางการเงิน
พื้นที่ภายในรถ จำกัด ไม่สบาย
ค่าซ่อมบำรุงอาจแพง

Q&A ล่าสุด

Q
2022 Subaru WRX มีระบบส่งกำลังแบบใด
สำหรับรุ่นปี 2022 ของ Subaru WRX ในตลาดไทย มีให้เลือก 2 แบบเกียร์ คือ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์ออโต้ Sport Lineartronic CVT ที่จำลอง 8 สปีด ซึ่งทั้งสองแบบทำงานเข้ากันได้ดีกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD อันเป็นเอกลักษณ์ของซูบารุ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนในไทยที่มักมีฝนและความชื้นสูง เกียร์ธรรมดาจะตอบโจทย์คนรักการขับขี่ที่ต้องการสัมผัสการควบคุมอย่างเต็มที่ ส่วนเกียร์ CVT เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เพราะให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ที่น่าสนใจคือ CVT ของซูบารุใช้ระบบส่งกำลังแบบโซ่แทนสายพานแบบทั่วไป ทำให้ทนทานกว่าโดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย นอกจากนี้ผู้ใช้ในไทยยังสามารถเลือกติดตั้งระบบ SI-DRIVE เพื่อปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นถนนคดเคี้ยวในเชียงใหม่หรือเส้นทางเลียบชายทะเลพัทยา แถมระบบช่วงล่างของ WRX ในตลาดไทยยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพถนนท้องถิ่นอีกด้วย
Q
มูลค่าคงเหลือของ Hyundai Santa Fe ปี 2024 คืออะไร
สำหรับรุ่น Hyundai Santa Fe 2024 ที่วางขายในตลาดไทย คาดว่ามูลค่าคงเหลือหลังจากใช้งาน 3 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 60%-65% ของราคาเดิม และอาจลดลงเหลือประมาณ 50% เมื่อใช้งานครบ 5 ปี ซึ่งข้อมูลนี้มาจากประวัติการรักษามูลค่าของรถ Hyundai ในตลาดอาเซียนรวมถึงความนิยมในรถ SUV ขนาดกลางที่ค่อนข้างทรงตัวในไทย อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคไทยควรทราบว่ามูลค่าคงเหลือได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น การเลือกรุ่นดีเซลหรือไฮบริด (ซึ่งเป็นรุ่นที่พบได้ทั่วไปในตลาดไทย) ประวัติการบริการที่ครบถ้วน หรือการซื้อผ่านช่องทางทางการ (เช่น โครงการรถมือสองรับประกันจาก Hyundai ประเทศไทยที่จะช่วยรักษามูลค่าได้ดีกว่า) เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากญี่ปุ่นในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังมีความได้เปรียบในตลาดมือสองจากพื้นที่ภายในที่กว้างขวางกว่าและฟีเจอร์สมาร์ทที่ทันสมัยกว่า (เช่น ระบบเก้าอี้ระบายอากาศที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดไทย) แต่ในแง่ของความนิยมในแบรนด์อาจสู้ไม่ได้เลยทีเดียว แนะนำให้เจ้าของรถในไทยเก็บเอกสารการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วนและใช้บริการผ่านศูนย์บริการทางการเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าตอนขายต่อได้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยอาจส่งผลต่อมูลค่าคงเหลือของรุ่นไฮบริดในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้สนใจซื้อควรจับตามองไว้ด้วย
Q
Hyundai Santa Fe 2024 มีประสิทธิภาพแค่ไหน
รถยนต์ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2024 ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะไกลในประเทศไทย ชุดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 12-14 กิโลเมตรต่อลิตรในสภาพถนนแบบผสม หากเลือกรุ่นไฮบริดจะประหยัดน้ำมันได้ถึง 15-18 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วยลดต้นทุนการใช้รถในสภาวะน้ำมันราคาสูงของไทยได้อย่างชัดเจน รถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Smartstream ล่าสุดจาก Hyundai ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้และลดแรงเสียดทานเครื่องยนต์เพื่อสมดุลระหว่างพลังและความประหยัด นอกจากนี้ระบบ Start-Stop อัจฉริยะที่มาพร้อมกับรถในสภาพอากาศร้อนของไทยยังช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะ idle อีกด้วย ที่น่าสนใจคือผู้บริโภคไทยควรพิจารณารุ่นไฮบริดเป็นอันดับแรก เพราะรัฐบาลไทยมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบไฮบริดยังแสดงจุดเด่นในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยครั้ง เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังให้ความสำคัญกับการใช้พื้นที่ภายในและการตั้งค่าตัวถังที่สมดุลระหว่างความสบายและความมั่นคงในการขับขี่ เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายของไทย แนะนำให้ทดลองขับจริงโดยเน้นตรวจสอบประสิทธิภาพระบบแอร์และระบบไฮบริดในสภาพอากาศร้อน ซึ่งเป็นรายละเอียดสำคัญสำหรับผู้ใช้รถในประเทศไทย
Q
เครื่องยนต์แบบใดที่อยู่ใน 2024 Santa Fe
รุ่น 2024 Santa Fe ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตรแบบดูดธรรมดา และระบบไฮบริด 1.6 ลิตรเทอร์โบชาร์จ โดยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรให้กำลังสูงสุด 191 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เหมาะสำหรับคนที่ชอบการขับขี่เน้นความลื่นไหล ส่วนระบบไฮบริด 1.6T ให้กำลังรวมสูงถึง 230 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการขับขี่ที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยๆ แบบในกรุงเทพฯ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ของไทยเรียบร้อยแล้ว จุดเด่นของรุ่นไฮบริดคือการใช้เทคโนโลยี TMED ไฮบริดอันล้ำสมัยจาก Hyundai ที่ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ได้อย่างชาญฉลาด นอกจากช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังคงสมรรถนะการขับขี่ระดับ SUV ที่ทรงพลัง ซึ่งตอบโจทย์ในสภาวะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงแบบปัจจุบัน ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ HTRAC ที่มาพร้อมในรุ่นนี้ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจบนถนนลื่นๆ ในช่วงฤดูฝนได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานในเมืองทั่วไป ตัวเลือกรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าถือว่าเพียงพอและคุ้มค่ากว่าในแง่ราคา
Q
Is Santa Fe 2024 4WD?
รุ่น Hyundai Santa Fe ปี 2024 บางรุ่นมีการติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อย่างเช่น Hyundai Santa Fe Exclusive 1.6 Turbo Hybrid AWD 2024 ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ ระบบนี้จะช่วยกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างเหมาะสมในสภาพถนนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นถนนลื่น โคลน หรือเวลาขึ้นเนิน ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับผ่านและความมั่นคงให้กับรถ ส่วนรุ่น Hyundai Santa Fe Premium 1.6 Turbo Hybrid FWD 2024 จะใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ดังนั้นถ้าคุณต้องการรถที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ เวลาเลือกซื้อต้องดู specs ของรุ่นให้ดี ๆ เลยนะครับ จะได้เลือกรถที่เหมาะกับการใช้งานและสภาพถนนที่คุณต้องเจอจริง ๆ
ดูเพิ่มเติม