Q
วิธีตรวจสอบระดับน้ำมันใน BMW X1
การตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องของ BMW X1 นั้นทำได้ง่าย ขั้นแรกให้จอดรถบนพื้นราบและดับเครื่องยนต์ รอประมาณ 5-10 นาทีให้น้ำมันเครื่องไหลกลับลงไปที่กระปุกน้ำมันเครื่อง จากนั้นเปิดฝากระโปรงหน้ารถ หาไม้วัดระดับน้ำมันเครื่อง ดึงออกมาเช็ดให้สะอาดแล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ ดึงออกมาอีกครั้งก็จะเห็นว่าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX หรือไม่ ถ้าระดับต่ำกว่า MIN ต้องเติมน้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐานของ BMW ทันที แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เกรด 0W-30 หรือ 5W-30 ตามที่ทางโรงงานแนะนำเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของเครื่องยนต์ ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย การตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำเป็นเรื่องสำคัญ เพราะความร้อนสูงอาจทำให้น้ำมันเครื่องลดลงเร็วหรือเสื่อมสภาพได้ ควรตรวจสอบทุก 5,000 กิโลเมตรหรือทุก 3 เดือน และอย่าลืมว่า BMW X1 มีระบบตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่จะแสดงข้อความบนหน้าปัด แต่การตรวจสอบด้วยมือก็ยังจำเป็นอยู่ นอกจากนี้ในช่วงฤดูฝนของไทย ถ้าต้องขับรถผ่านน้ำบ่อยๆ ยังต้องใส่ใจอีกว่าน้ำมันเครื่องมีลักษณะขุ่นหรือมีน้ำปนหรือไม่ เพราะจะส่งผลต่อการหล่อลื่น ถ้าพบความผิดปกติควรรีบไปที่ศูนย์บริการตัวแทนทันที
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
วิธีปิดระบบช่วยในการรักษาช่องทางบน BMW 1 Series 2023?
หากต้องการปิดฟังก์ชันรักษาช่องทางขับรถ (Lane Keeping Assist) ของ BMW 1 Series รุ่นปี 2023 สามารถทำได้ผ่านหน้าจอกลาง โดยเข้าไปที่เมนู "การตั้งค่ารถ" เลือก "ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่" จากนั้นหาโหมด "รักษาช่องทางขับรถ" และปิดการทำงานก็ได้ วิธีนี้จะช่วยให้การขับขี่ในเขตเมืองที่รถติดหรือต้องเปลี่ยนเลนบ่อยๆ มีความคล่องตัวมากขึ้น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ของ BMW ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัย โดยเฉพาะในการขับทางไกลบนทางหลวงที่ช่วยลดความเหนื่อยล้า แต่ในบางสถานการณ์เช่นสภาพการจราจรที่ซับซ้อนในกรุงเทพฯ ผู้ขับขี่อาจต้องการควบคุมรถด้วยตนเองมากกว่า ฟังก์ชันคล้ายๆ กันในรถยนต์ยี่ห้ออื่นมักสามารถปรับเปลี่ยนได้ผ่านปุ่มลัดบนพวงมาลัยหรือระบบมัลติมีเดีย แนะนำให้อัปเดตระบบอิเล็กทรอนิกส์ของรถอย่างสม่ำเสมอ เพราะผู้ผลิตอาจมีการอัปเกรดผ่านระบบ OTA เพื่อปรับปรุงการทำงาน เช่น เพิ่มฟังก์ชันจำค่าการตั้งค่าล่าสุด หรือปรับความไวอัตโนมัติตามความเร็วรถ เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
Q
วิธีปิดระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction Control) ใน BMW X1 2023
ถ้าจะปิดระบบควบคุมการลื่นไถล (Traction Control) ใน BMW X1 รุ่น 2023 ต้องทำยังไงบ้างนะ? ก่อนอื่นก็สตาร์ทรถให้เรียบร้อยก่อน แล้วมองหาปุ่มที่มีคำว่า "DSC" หรือสัญลักษณ์รูปรถกำลังลื่นไหล แถวๆ ใต้คอนโซลกลางหรือใกล้ปุ่มเลือกโหมดขับเนี่ยแหละ กดค้างไว้สัก 3 วินาทีจนหน้าปัดขึ้นข้อความว่า "DSC OFF" แปลว่าระบบเสถียรภาพรถจะปิดบางส่วนแล้วนะ เหมาะเวลาเจอถนนลูกรังหรือทางโคลนที่ต้องการแรงบิดมากหน่อย แต่ต้องระวังนิดนึงว่าถ้าปิดทั้งหมดอาจเสี่ยงอันตรายได้ แนะนำให้ใช้แค่ในสถานการณ์จำเป็นจริงๆ แล้วก็อย่าลืมเปิดกลับมาเวลาขับปกติ ส่วนระบบ Driving Experience Control ของ BMW ก็มีโหมดให้เลือกใช้ เช่นโหมด SPORT จะลดการแทรกแซงของระบบควบคุมการลื่นไหล ส่วนโหมด ECO PRO จะเน้นประหยัดน้ำมันมากกว่า หากต้องการรับมือกับพื้นผิวถนนที่ไม่ได้ปูในชนบทบ่อยครั้งคุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับบริการการเขียนโปรแกรมโหมดออฟโรดที่มีให้บริการหลังการขาย แต่ก่อนการปรับเปลี่ยนขอแนะนำให้ปรึกษากับตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตเพื่อให้แน่ใจว่าเงื่อนไขการรับประกันจะไม่ส่งผลกระทบต่อ ฟังก์ชัน Medium Reserve Traction Control ช่วยรับมือกับผิวถนนที่มีน้ำขังฉับพลันเมื่อขับในย่านชานเมืองของกรุงเทพฯ ในช่วงหน้าฝน
Q
รถ X1 ปี 2023 มีขนาดใหญ่กว่า X3 หรือไม่?
รุ่น 2023 ของ X1 และ X3 มีความแตกต่างในเรื่องขนาดจริงๆ นะครับ X3 ซึ่งเป็นรุ่นที่สูงกว่าเลยมีขนาดใหญ่กว่าชัดเจน ทั้งความยาวตัวรถและระยะฐานล้อที่มากกว่า X1 แบบเห็นได้ชัด ทำให้มีพื้นที่เบาะหลังและกระโปรงหลังที่กว้างขวางกว่า เหมาะสำหรับการเดินทางไกลกับครอบครัว ส่วน X1 แม้จะมีขนาดเล็กกว่าแต่กลับขับเคลื่อนในเมืองได้คล่องตัวกว่า จอดง่ายกว่า โดยเฉพาะในสภาพเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ถนนแคบและที่จอดรถหายาก ทั้งสองรุ่นนี้ต่างใช้ภาษาในการออกแบบและเทคโนโลยีล่าสุดเหมือนกัน แต่ X1 จะเน้นความอ่อนเยาว์และสปอร์ต ขณะที่ X3 เน้นความหรูและการใช้งานจริง ในส่วนของเครื่องยนต์ ทั้งสองรุ่นมีหลายตัวเลือกให้เลือก ทั้งเครื่องเทอร์โบชาร์จประสิทธิภาพสูงและรุ่นปลั๊กอินไฮบริด ที่ตอบโจทย์การขับขี่ที่แตกต่างกัน เวลาเลือกซื้อแนะนำให้ดูจากสถานการณ์การใช้ชีวิตจริง ถ้าต้องการรถสำหรับครอบครัวหรือขนของบ่อย X3 น่าจะเหมาะกว่า แต่ถ้าใช้สัญจรในเมืองเป็นหลักหรือใช้ในครอบครัวเล็ก X1 จะคุ้มค่ากว่า ทั้งสองรุ่นต่างก็มีคุณภาพและการบริการหลังการขายที่ดีเหมือนกัน
Q
“X1 เป็นรถที่ดีไหม?”
รถ BMW X1 เป็น SUV ระดับหรูขนาดกะทัดรัดที่ทำได้รอบด้าน เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานในครอบครัว จุดเด่นคือแบรนด์ได้รับการยอมรับสูง ขับเคลื่อนคล่องตัว งานตกแต่งภายในประณีต ทั้งยังมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5T และ 2.0T ที่ให้สมดุลระหว่างพลังและความประหยัดน้ำมันดี เหมาะกับการเดินทางในชีวิตประจำวันหรือทริปยาวๆ เป็นครั้งคราว แม้พื้นที่ภายในอาจไม่กว้างขวางเท่ารุ่นอื่นในระดับเดียวกัน แต่ก็เพียงพอสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก ค่าบำรุงรักษาอยู่ในระดับกลางเมื่อเทียบกับแบรนด์หรู และมีอะไหล่พร้อมจำหน่ายเพียงพอ ในพื้นที่ที่มีฤดูฝนยาวนาน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจะช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนได้ดี แต่ควรรู้ว่าความสบายของเบาะหลังอาจไม่เยี่ยมนัก และระบบช่วงล่างถูกตั้งค่าให้แข็ง ทำให้รู้สึกสะเทือนได้เมื่อขับบนถนนสภาพไม่ดี หากเน้นความสบายเป็นหลัก อาจมองหารุ่นอื่นในระดับเดียวกัน แต่ X1 ยังคงมีความเหนือกว่าในเรื่องความสนุกในการขับและมูลค่าของแบรนด์
Q
ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่ารถ BMW X1 ของฉันมีระบบสตาร์ทจากระยะไกลหรือไม่?
หากต้องการตรวจสอบว่า BMW X1 ของคุณมีฟังก์ชันสตาร์ทรถจากระยะไกลหรือไม่ วิธีที่ง่ายที่สุดคือดูว่ากุญแจรถมีปุ่มสตาร์ทรถระยะไกลโดยเฉพาะหรือไม่ (มักจะมีสัญลักษณ์ลูกศรวงกลม) หรือเข้าไปที่เมนูการตั้งค่ารถในระบบ iDrive เพื่อดูว่ามีตัวเลือกสตาร์ทรถระยะไกลหรือไม่ บางรุ่นอาจต้องใช้แอปพลิเคชัน My BMW ในการควบคุม หากรถไม่ได้ติดตั้งฟังก์ชั่นนี้ไว้ล่วงหน้าเมื่อออกจากโรงงานชุดโรงงานเดิมยังสามารถติดตั้งผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการในภายหลัง แต่ต้องใส่ใจกับความเข้ากันได้ของรุ่นปีที่แตกต่างกัน สำหรับเจ้าของรถในไทย แนะนำให้ใช้แอปสตาร์ทรถและเปิดแอร์ล่วงหน้าในวันที่อากาศร้อน จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถได้มาก ยี่ห้อหรูอื่น ๆ ก็มีฟังก์ชันคล้ายกัน เช่น Mercedes me ของเบนซ์หรือ myAudi ของ Audi ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิจากระยะไกลได้ ส่วนรถญี่ปุ่นอย่าง Toyota Remote Connect จะเน้นฟังก์ชันพื้นฐานมากกว่า ควรระวังว่าการสตาร์ทรถระยะไกลมักต้องล็อกรถและมีน้ำมันเพียงพอ บางพื้นที่อาจมีกฎหมายจำกัดเวลาการทำงานต่อเนื่อง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในคู่มือเจ้าของรถหรือเว็บไซต์ทางการของแบรนด์
Q
ฉันจะปิดระบบ Auto Start Stop ใน BMW X1 2023 ได้อย่างไร?
หากต้องการปิดฟังก์ชัน Auto Start-Stop ของ BMW X1 รุ่น 2023 ให้ทำงานด้วยตนเองทุกครั้งหลังจากสตาร์ทรถ: ค้นหาปุ่มกด "A" ที่มีลูกศรแบบวงกลมที่บริเวณคันโยกใต้คอนโซลกลาง (บางรุ่นอาจรวมอยู่ใน "ระบบควบคุมประสบการณ์การขับขี่" ในเมนู iDrive) เพื่อปิดฟังก์ชั่นด้วยการกดเพียงครั้งเดียว เมื่อแดชบอร์ดแสดงไอคอน Start-Stop ปิดการใช้งาน โปรดทราบว่าฟีเจอร์นี้จะกลับมาเปิดใช้งานอัตโนมัติทุกครั้งที่สตาร์ทรถใหม่ เป็นการออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมายสิ่งแวดล้อม หากต้องการปิดแบบถาวรต้องใช้เครื่องมือพิเศษเชื่อมผ่านช่อง OBD เพื่อเข้าไปตั้งค่าในระบบ แต่การทำนี้อาจส่งผลต่อการรับประกันจากศูนย์ฯ
เทคโนโลยี Auto Start-Stop จะทำงานโดยตรวจสอบระดับแบตเตอรี่และความต้องการการใช้ไฟฟ้าในรถ เช่น เมื่อเปิดแอร์เต็มกำลัง ระบบมักจะไม่ตัดเครื่องยนต์ในเขตร้อนชื้น สำหรับรุ่นที่ติดตั้งระบบ 48V mild hybrid การทำงานจะนุ่มนวลขึ้นเพราะมอเตอร์ช่วยสตาร์ทเครื่องได้เร็ว ในกรณีที่ใช้งานรถระยะสั้นบ่อยๆ แนะนำให้ปิดฟังก์ชันนี้ชั่วคราวเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ หากพบปัญหาการทำงานผิดปกติ เช่น แบตเตอรี่เสื่อมหรือเซ็นเซอร์ขัดข้อง สามารถติดต่อศูนย์บริการ BMW ในกรุงเทพฯ ทุกสาขาเพื่อตรวจสอบอย่างมืออาชีพ
Q
“BMW มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในปี 2023 อย่างไร?”
จากรายงานความน่าเชื่อถือของรถยนต์ทั่วโลกปี 2023 BMW อยู่ในอันดับกลางถึงค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ โดยเฉพาะระบบขับเคลื่อนและความเสถียรของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำได้ดี แต่ยังมีจุดที่ต้องพัฒนาอยู่บ้างในเรื่องระบบช่วงล่างและความทนทานของชิ้นส่วนเล็กๆ ในบางรุ่น BMW เบิลยูให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โดยเฉพาะรุ่นใหม่ๆ อย่างซีรีส์ 3 และซีรีส์ 5 ที่ใช้แพลตฟอร์มแบบโมดูลาร์ซึ่งผ่านการทดสอบมาแล้ว ช่วยลดอัตราการเสียลงได้ ในตลาดท้องถิ่น บีเอ็มดับเบิลยูมีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุมและมีอะไหล่พร้อมส่งค่อนข้างเร็ว ซึ่งเป็นจุดแข็งสำหรับเจ้าของรถ ถ้าคิดจะซื้อบีเอ็มดับเบิลยู แนะนำให้ดูรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ซีรีส์ B เป็นหลัก เพราะเครื่องยนต์กลุ่มนี้ผ่านการใช้งานจริงมานานหลายปี ทั้งแรงและทนทานพอสมควร แถมยังต้องเน้นเรื่องการบริการตามระยะให้ตรงเวลาด้วย โดยเฉพาะรุ่นเทอร์โบที่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ตรงกำหนดเสมอ ถ้าทำได้แบบนี้ รถเยอรมันอย่างบีเอ็มดับเบิลยูจะอยู่กับคุณได้นานๆ
Q
รุ่นท็อปสุดของ BMW X1 2023 คือรุ่นอะไร?
รุ่นท็อปของ BMW X1 ปี 2023 คือรุ่น xDrive28i M Sport ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 241 แรงม้า คู่กับเกียร์ 7 สปีด DCT และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมชุด M Sport ที่รวมถึงกันชนหน้า-หลังแบบพิเศษ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว และเบาะนั่งสปอร์ต ในตลาดไทยยังได้ติดตั้งระบบ iDrive 8 หน้าจอดิจิทัล 10.25 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสกลางรถ 10.7 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ด้วยระยะฐานล้อ 2,692 มม. ที่ให้พื้นที่เบาะหลังกว้างขวางกว่ารุ่นก่อน นอกจากนี้แพลตฟอร์ม FAAR ของ BMW X1 ยังแสดงประสิทธิภาพโดดเด่นบนถนนลื่นๆ เหมาะสมกับสภาพอากาศที่มีฝนบ่อย พร้อมคะแนนความปลอดภัย 5 ดาวจาก ANCAP และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มาตรฐาน เช่น ระบบรักษาช่องทางและเบรกฉุกเฉอนอัตโนมัติ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLA และ Audi Q3 แล้ว X1 ยังได้เปรียบด้วยปริมาณกระโปรงหลัง 540 ลิตร และการขับขี่สมรรถนะสูงที่เหมาะสำหรับครอบครัวรุ่นใหม่ แนะนำให้ลองทดลองขับที่โชว์รูม BMW ในกรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่เพื่อสัมผัสโหมดการขับขี่ที่แตกต่าง
Q
X1 จะใช้งานได้นานเท่าไหร่?
รถ BMW X1 โดยทั่วไปมีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี หรือวิ่งเกิน 200,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและนิสัยการใช้รถเป็นหลัก ถ้าทำตามกำหนดการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรองอากาศ และเข้าศูนย์ตามที่แนะนำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยยืดอายุรถได้ชัดเจน ในสภาพอากาศร้อนแบบไทย ต้องใส่ใจเป็นพิเศษเรื่องระบบระบายความร้อนและแอร์ เพราะความชื้นกับอุณหภูมิสูงอาจทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และยางเสื่อมสภาพเร็ว แนะนำให้ใช้ของแท้จากศูนย์เพื่อความเข้ากันได้ของชิ้นส่วน และควรหลีกเลี่ยงการขับระยะสั้นบ่อยๆ เพราะจะทำให้เครื่องยนต์มีคราบเขม่า หากส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการเดินทางในเมืองและการบำรุงรักษาที่เหมาะสมความน่าเชื่อถือของ X1 อยู่ในระดับหลักเมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกันอัตราการรักษามูลค่าตลาดรถยนต์มือสองก็ค่อนข้างคงที่และค่าใช้จ่ายในการใช้งานในระยะยาวสามารถควบคุมเพิ่มเติมโดยการซื้อบริการรับประกันเพิ่มเติม
Q
2023 BMW X1 ผลิตที่ไหน?
รุ่น BMW X1 ปี 2023 นั้นส่วนใหญ่ผลิตที่โรงงาน Regensburg ในเยอรมนีซึ่งเชี่ยวชาญด้านการผลิตรถ BMW ขนาดกะทัดรัด แต่เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดทั่วโลก บางรุ่นก็จะผลิตที่โรงงานร่วมทุนในเสิ่นหยาง ประเทศจีน โดย X1 ที่เห็นขายในท้องตลาดส่วนใหญ่เป็นรุ่นนำเข้า ซึ่งรุ่นที่ผลิตจากเยอรมนีจะมีความประณีตและคุณภาพที่โดดเด่นกว่า ในขณะที่รุ่นที่ผลิตในจีนจะเน้นการควบคุมต้นทุนมากกว่า แต่ก็ยังคงมาตรฐานการผลิตระดับโลกของ BMW อยู่ สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อ X1 สามารถดูแหล่งผลิตจากตัวอักษรแรกของรหัส VIN ได้ ถ้าขึ้นต้นด้วย W แสดงว่าผลิตที่เยอรมนี ส่วนถ้าขึ้นต้นด้วย L คือผลิตที่จีน ต้องบอกว่า X1 ในฐานะ SUV ระดับเริ่มต้นของ BMW นี้ใช้แพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้า FAAR เวอร์ชันล่าสุด ทำให้มีพื้นที่กว้างขวางกว่ารุ่นก่อนหน้า แถมยังมีตัวเลือกเครื่องยนต์หลากหลายรวมถึงปลั๊กอินไฮบริด ที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นที่สุด ส่วนเรื่องการซ่อมบำรุงก็สะดวกสบาย เพราะมีตัวแทนจำหน่าย BMW กระจายอยู่ทั่วประเทศให้บริการครบวงจร
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
รถยนต์ไฟฟ้าคันใดมีระยะทางการวิ่งสูงสุดในปี 2025?
ในปี 2025 รถไฟฟ้าที่คาดว่าจะมีระยะทางขับขี่สูงสุดน่าจะเป็น Tesla Model S Plaid โดยผู้ผลิตประกาศอย่างเป็นทางการว่าสามารถวิ่งได้ถึง 836 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) เหมาะสำหรับการเดินทางไกล ส่วนรุ่น Lucid Air Grand Touring ก็อาจตามมาติดๆ ด้วยระยะทางเกิน 800 กิโลเมตร ทั้งสองรุ่นใช้แบตเตอรี่ความหนาแน่นสูงและระบบขับเคลื่อนประสิทธิภาพดี โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบเมืองไทย ระบบควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ควรตรวจสอบให้ดี เพื่อให้มั่นใจว่าระยะทางจะไม่ลดลงแม้อากาศร้อนจัด
สำหรับรถไฟฟ้ายอดนิยมในไทยอย่าง BYD Han EV และ MG4 EV แม้จะมีระยะทางประมาณ 500-600 กิโลเมตร แต่จุดแข็งคือมีสถานีชาร์จครอบคลุมและออกแบบมาเหมาะกับสภาพถนนไทย เวลาเลือกซื้อรถไฟฟ้านอกจากเรื่องระยะทางแล้ว ควรดูความสะดวกในการชาร์จ (โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีสถานีชาร์จเร็วค่อนข้างเยอะ) อัตราการเสื่อมของแบตเตอรี่ (ในเมืองร้อนแนะนำรุ่นที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ) รวมถึงบริการหลังการขาย เพราะปัจจัยเหล่านี้สำคัญต่อการใช้งานจริงไม่แพ้ตัวเลขระยะทางตามสเปค
Q
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าลดลงในปี 2025 หรือไม่?
การที่ยอดขายรถไฟฟ้าในปี 2025 จะลดลงหรือไม่นั้น ต้องดูจากแนวโน้มโลกและสถานการณ์ในประเทศควบคู่กันไป ขณะนี้ข้อมูลจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศชี้ให้เห็นว่าตลาดรถไฟฟ้าโลกยังคงเติบโตอยู่ แต่ความเร่งอาจชะลอตัวลงจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การลดหย่อนสวัสดิการรัฐ สาธารณูปโภคที่ยังไม่เพียงพอ เป็นต้น สำหรับตลาดในประเทศ นโยบายสนับสนุนการซื้อรถและการยกเว้นภาษีที่รัฐบาลเปิดตัวในปี 2024 ยังคงมีผลอยู่ นอกจากนี้จำนวนสถานีชาร์จในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ยังเพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบปีต่อปี ทำให้ความต้องการในระยะสั้นยังค่อนข้างมั่นคง สิ่งที่น่าสนใจคือยอดขายรถไฮบริดเมื่อเร็ว ๆ นี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคบางส่วนต้องการสมดุลระหว่างความสะดวกในการชาร์จและความกังวลเรื่องระยะทาง ส่วนในแง่การพัฒนาเทคโนโลยี ปี 2025 จะมีรถต้นแบบที่ใช้แบตเตอรี่โซลิดสเตทออกแสดงหลายรุ่น หากการผลิตจำนวนมากเป็นไปด้วยดี อาจกระตุ้นความสนใจในตลาดอีกครั้ง แนะนำให้ผู้บริโภคเลือกรุ่นรถตามระยะทางเดินทางประจำวันและสภาพการชาร์จที่บ้าน โดยรุ่นระยะทางไกลเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางข้ามจังหวัดบ่อย ๆ ส่วนการใช้งานในเมืองอาจเลือกรุ่นพื้นฐานที่มีความคุ้มค่าสูงกว่า ทั้งนี้แผนขยายเครือข่ายสถานีชาร์จจะครอบคลุมพื้นที่บริการบนทางหลวงหลัก ซึ่งจะช่วยลดความกังวลในการเดินทางไกลได้อีกด้วย
Q
รถยนต์ไฮบริดไฟฟ้า (Hybrid EV) ที่ดีที่สุดในปี 2025 คืออะไร?
คาดว่าในปี 2025 รถยนต์ไฮบริดที่ควรจับตามองจะเน้นไปที่รุ่นที่มีเทคโนโลยีที่ครบถ้วน ประสิทธิภาพการขับขี่สูง และเหมาะกับการใช้งานในท้องถิ่น อย่างเช่น Toyota Prius หรือ Honda Accord Hybrid แบรนด์ญี่ปุ่นเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องด้วยระบบไฮบริดที่เชื่อถือได้และค่าบำรุงรักษาต่ำ ในขณะที่แบรนด์จีนอย่าง BYD ก็อาจเปิดตัวรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่มีราคาดึงดูดกว่า เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองหรือทริปสั้นๆ เทคโนโลยีไฮบริดรวมจุดแข็งของรถน้ำมันและรถไฟฟ้าเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจราจรคับคั่ง ช่วยลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและการปล่อยมลพิษ ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดยังสามารถขับเคลื่อนด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนสำหรับการเดินทางใกล้ๆ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย เมื่อโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จและนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลพัฒนามากขึ้น ความสะดวกและความคุ้มค่าของรถกลุ่มนี้จะเด่นชัดขึ้น ผู้บริโภคควรสนใจไม่เพียงแค่ระยะทางต่อการชาร์จและอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน แต่ยังควรตรวจสอบเครือข่ายบริการหลังการขายในพื้นที่และนโยบายรับประกันแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อประสบการณ์การใช้รถในระยะยาว
Q
ระยะทางขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าล้วนของ Toyota ในปี 2025
Toyota รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ที่วางแผนจะเปิดตัวในปี 2025 คาดว่าจะมีระยะทางขับขี่อยู่ที่ 500-600 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) โดยตัวเลขอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและความจุแบตเตอรี่ เช่น รุ่นที่ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่โซลิดสเตทรุ่นใหม่อาจทำระยะทางได้ไกลกว่า เนื่องจากสภาพอากาศร้อนในประเทศไทยอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะเพื่อรักษาอุณหภูมิแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับเหมาะสม ส่วนการชาร์จด้วยสถานีเร็ว DC สามารถเติมไฟได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที เหมาะสำหรับการเดินทางไกล ปัจจุบันรถ EV ทั่วไปสามารถวิ่งจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ (ประมาณ 700 กม.) โดยแวะชาร์จเร็วแค่ครั้งเดียว ส่วนการใช้งานในเมืองอาจชาร์จเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ระยะทางจริงอาจขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ การใช้แอร์ และสภาพการจราจร แนะนำให้ใช้ระบบตรวจสอบพลังงานในรถเพื่อปรับการขับขี่ให้เหมาะสม นอกจากนี้ รุ่น EV ของ Toyota อาจติดตั้งเทคโนโลยีหลังคาโซลาร์เซลล์เพื่อช่วยชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานพลังงานในพื้นที่ที่มีแสงแดดเพียงพออย่างประเทศไทย
Q
โบนัสสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 คืออะไร
นโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 คาดว่าจะยังเดินหน้าตามแนวทางเดิม โดยเน้นส่งเสริมการผลิตภายในประเทศและการซื้อรถโดยผู้บริโภค รายละเอียดอาจรวมถึงเงินสนับสนุนการซื้อรถแบบตรงๆ การลดภาษีนำเข้า และสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า แต่จำนวนเงินที่แน่นอนต้องรอประกาศจากทางราชการอย่างเป็นทางการ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะนโยบายเหล่านี้กระตุ้นให้คนหันมาใช้รถรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากเงินช่วยเหลือซื้อรถแล้ว ยังอาจมีมาตรการเสริมเช่นค่าอัดประจุไฟราคาถูกหรือบริการชาร์จฟรีในที่สาธารณะ สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อรถไฟฟ้า ลองติดตามโปรโมชั่นจากแบรนด์ต่างๆ บ้าง เพราะบางค่ายจะรวมสิทธิ์จากรัฐกับส่วนลดของทางร้านเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ข้อเสนอที่คุ้มค่าขึ้น พร้อมกันนี้ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นและการผลิตรถในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น จะช่วยให้รถไฟฟ้ามีระยะทางต่อการชาร์จที่ยาวขึ้นและราคาที่แข่งขันได้ดีขึ้น ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการซื้อรถไฟฟ้า แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติรถแต่ละรุ่นที่ได้รับสิทธิ์สนับสนุนและขั้นตอนการสมัครล่วงหน้า เพื่อจะได้ใช้สิทธิ์ได้ทันทีเมื่อนโยบายมีผลบังคับใช้
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตารางผ่อนอย่างเป็นทางการล่าสุด BMW X1 2023 เริ่มต้นเพียง 27,xxx บาทต่องวด
ณัฐวุฒิNov 24, 2025

รุ่นพื้นฐานก็หรูหราด้วย BMW X1 มีราคาตั้งแต่ 2,409,000 บาทในไทย
LienMay 22, 2024

ตารางผ่อนล่าสุด BMW 5 Series Sedan เริ่มต้นเพียง 36,xxx บาท/เดือน
Kevin WongNov 26, 2025

Audi RS6 Sedan อาจกลับมาแข่งขันกับ BMW M5 อย่างเต็มรูปแบบ
พงศธรNov 21, 2025

ตารางผ่อนล่าสุดอย่างเป็นทางการ BMW 3 Series Sedan ขั้นต่ำ 30,xxx บาทต่องวด
Kevin WongNov 14, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย