Q
วิธีตรวจสอบระดับน้ำมันใน BMW X1
การตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องของ BMW X1 นั้นทำได้ง่าย ขั้นแรกให้จอดรถบนพื้นราบและดับเครื่องยนต์ รอประมาณ 5-10 นาทีให้น้ำมันเครื่องไหลกลับลงไปที่กระปุกน้ำมันเครื่อง จากนั้นเปิดฝากระโปรงหน้ารถ หาไม้วัดระดับน้ำมันเครื่อง ดึงออกมาเช็ดให้สะอาดแล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ ดึงออกมาอีกครั้งก็จะเห็นว่าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX หรือไม่ ถ้าระดับต่ำกว่า MIN ต้องเติมน้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐานของ BMW ทันที แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เกรด 0W-30 หรือ 5W-30 ตามที่ทางโรงงานแนะนำเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของเครื่องยนต์ ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย การตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำเป็นเรื่องสำคัญ เพราะความร้อนสูงอาจทำให้น้ำมันเครื่องลดลงเร็วหรือเสื่อมสภาพได้ ควรตรวจสอบทุก 5,000 กิโลเมตรหรือทุก 3 เดือน และอย่าลืมว่า BMW X1 มีระบบตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่จะแสดงข้อความบนหน้าปัด แต่การตรวจสอบด้วยมือก็ยังจำเป็นอยู่ นอกจากนี้ในช่วงฤดูฝนของไทย ถ้าต้องขับรถผ่านน้ำบ่อยๆ ยังต้องใส่ใจอีกว่าน้ำมันเครื่องมีลักษณะขุ่นหรือมีน้ำปนหรือไม่ เพราะจะส่งผลต่อการหล่อลื่น ถ้าพบความผิดปกติควรรีบไปที่ศูนย์บริการตัวแทนทันที
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
BMW X1 2023 มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน?
รถ BMW X1 รุ่นปี 2023 โดยรวมแล้วมีความน่าเชื่อถือระดับดี เพราะเป็นรถจากแบรนด์ดังอย่าง BMW ที่มีเทคโนโลยีการผลิตระดับสูงและระบบควบคุมคุณภาพเข้มข้น ในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐานก็ครบถ้วนด้วยฟีเจอร์ความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพรถ ถุงลมนิรภัยหลายจุด ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือของรถในระดับหนึ่ง
แต่จากการใช้งานจริง มีเจ้าของรถบางส่วนรายงานปัญหาบ้าง เช่น มีเสียงรบกวนจากกระแสไฟฟ้าที่สูงและรุนแรง ปัญหาการทำงานผิดปกติของเครื่องหลัก หรือปัญหาการเชื่อมต่อของ QQ Music และพบคราบเขม่าที่ล้อหลัง นอกจากนี้ยางของ X1 รุ่นปี 2023 ไม่ใช่ยางระเบิดและไม่มีชุดซ่อมยางฉุกเฉิน ทำให้การจัดการเมื่อยางมีปัญหาค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็ไม่ควรตัดสินความน่าเชื่อถือโดยรวมจากปัญหาเฉพาะบางจุด เพราะในการผลิตรถจำนวนมาก ย่อมมีความแตกต่างในแต่ละคันเป็นเรื่องปกติ โดยสรุปแล้ว BMW X1 รุ่น 2023 ภายใต้การใช้งานและการดูแลรักษาที่เหมาะสม จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจและน่าเชื่อถือได้ดี
Q
BMW X1 ปี 2023 ใช้เครื่องยนต์อะไร?
รุ่น BMW X1 ปี 2023 มีหลายรุ่นย่อย โดยแต่ละรุ่นใช้เครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น รุ่นพื้นฐานมักติดตั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 3 สูบ รหัส B38A15C ความจุจริง 1499 ซีซี แบบเรียงลำดับสูบ (L) พร้อมเทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จ มีวาล์ว 4 ตัวต่อสูบ ใช้ระบบ DOHC ให้กำลังสูงสุดที่ 6500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดมาถึงที่ 4200 รอบ/นาที แนะนำใช้น้ำมันเบนซิน 95 แกนสูบและหัวสูบทำจากอลูมิเนียมทั้งหมด ส่วนอีกรุ่นจะใช้เครื่อง 2.0 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบ รหัส B48A20C ความจุ 1998 ซีซี แบบเรียงสูบเหมือนกัน พร้อมเทอร์โบชาร์จ 4 วาล์วต่อสูบ ระบบ DOHC เช่นกัน กำลังสูงสุดอยู่ที่ 6000 รอบ/นาที แรงบิดสุดที่ 4600 รอบ/นาที แนะนำน้ำมัน 95 เช่นกัน แกนและหัวสูบอลูมิเนียมช่วยลดน้ำหนัก เพิ่มความคล่องตัวและประหยัดน้ำมันมากขึ้น ด้วยการตั้งค่าเทคโนโลยีเฉพาะของ BMW ทำให้แต่ละรุ่นให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่แตกต่างกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลาย
Q
ความแตกต่างระหว่าง BMW X1 รุ่นปี 2023 และ 2024 คืออะไร?
ความแตกต่างระหว่างรุ่น BMW X1 ปี 2023 และ 2024 มีดังนี้ ในแง่สมรรถนะกำลังขับ รุ่น BMW X1 ปี 2024 มีความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 5.6 วินาที กำลังสูงสุด 221 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ในขณะที่รุ่นปี 2023 มีความเร็วสูงสุด 227 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 7.7 วินาที กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร สำหรับขนาดตัวถัง รุ่นปี 2024 มีความยาว/ความกว้าง/ความสูง 4616*1845*1627 มม. ส่วนรุ่นปี 2023 มีขนาด 4616*1845*1641 มม. รุ่นปี 2024 มีระยะฐานล้อหน้า 1582 มม. (เทียบกับ 1574 มม. ในปี 2023) และระยะฐานล้อหลัง 1583 มม. (เทียบกับ 1575 มม. ในปี 2023) น้ำหนักรถพร้อมขับของรุ่นปี 2024 คือ 1744 กิโลกรัม ขณะที่รุ่นปี 2023 อยู่ที่ 1692 กิโลกรัม ในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐาน รุ่นปี 2024 มีระบบช่วงล่างปรับได้และระบบเตือนการขวางทางด้านหลัง ซึ่งไม่มีในรุ่นปี 2023 นอกจากนี้ รุ่นปี 2024 ยังมีระบบทำความร้อนเบาะหน้าแบบเลือกใช้ ซึ่งไม่มีให้ในรุ่นปี 2023
Q
2023 BMW X1 ราคาเท่าไหร่?
รถ BMW X1 รุ่น 2023 มีหลายรุ่นย่อยและราคาก็แตกต่างกัน โดย BMW X1 sDrive 20i M Sport 2023 ราคา THB 2,399,000 BMW X1 sDrive 20i x Line 2023 ราคา THB 2,409,000 และ BMW X1 xDrive 30e 2023 ราคา THB 2,709,000 รุ่นรถเหล่านี้มีความแตกต่างในด้านอุปกรณ์มาตรฐานและสมรรถนะ ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณของตนเอง ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่ดีกว่าและอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า อาจเหมาะกับ BMW X1 xDrive 30e 2023 ส่วนผู้ที่มีงบประมาณจำกัดและไม่ต้องการสมรรถนะสูงนัก อาจพิจารณา BMW X1 sDrive 20i M Sport 2023 หรือ BMW X1 sDrive 20i x Line 2023
Q
BMW X1 2023 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ BMW X1 รุ่นปี 2023 นี่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ มีหลายเวอร์ชั่นให้เลือก ราคาอยู่ระหว่าง 2,399,000 บาท ถึง 2,709,000 บาท ในส่วนของสมรรถนะ เวอร์ชั่น sDrive 20i M Sport และ sDrive 20i x Line ใช้เครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 9 วินาที ส่วนรุ่น xDrive 30e เป็นแบบปลั๊กอินไฮบริด กำลังรวมระบบสูงถึง 326 แรงม้า เร่งแซงเพียง 5.6 วินาทีเท่านั้น
ด้านความจุภายในรถมีความยาว 4,500 มม. ระยะฐานล้อ 2,696 มม. หรือ 2,692 มม. พอใช้ในชีวิตประจำวันได้สบายๆ โบ๊ทหลังก็จุของได้เยอะ แถมยังติดตั้งระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้ง ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพ ถุงลมนิรภัยหลายจุด ส่วนฟีเจอร์เพิ่มความสะดวกสบายก็มีทั้ง HUD แสดงข้อมูลบนกระจกหน้า แอร์หลังให้ความเย็นชื่นใจ
ที่สำคัญดีไซน์ภายนอกดูทันสมัย ขับขี่ได้คล่องตัวแบบเซียน BMW เรียกว่าทั้งสเปคและราคาคุ้มค่า น่าจับตามองจริง
Q
BMW X1 มีพลังมากไหม
BMW X1 ในฐานะเอสยูวีหรูขนาดกะทัดรัดมีสมรรถนะที่โดดเด่น เหมาะกับการใช้งานทั้งในเมืองและชานเมืองของไทย รุ่นที่จำหน่ายในไทยมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 192 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้อัตราเร่งนุ่มนวลและตอบสนองรวดเร็ว รองรับทั้งการขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่ต้องหยุดออกตัวบ่อยและการปีนเขาในเชียงใหม่ได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ให้เลือก เพิ่มการยึดเกาะถนนในฤดูฝนหรือเส้นทางกึ่งออฟโรด ด้านความประหยัดน้ำมันก็ทำได้ดี สร้างสมดุลระหว่างสมรรถนะกับค่าใช้จ่ายในการใช้งานจริง สำหรับกลุ่มรถระดับเดียวกันมีคู่แข่งอย่าง Mercedes Benz GLA และ Audi Q3 แต่ BMW X1 โดดเด่นกว่าด้วยความกว้างขวางและการใช้งานจริง พื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 505 ลิตรเหมาะกับครอบครัว ระบบปรับอากาศเย็นเร็วและมีประสิทธิภาพในสภาพอากาศร้อนของไทย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน
Q
BMW X1 ผลิตที่ไหน
รถ BMW X1 นั้นมีการกระจายฐานการผลิตไปยังหลายภูมิภาคทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นโรงงานในเมืองเรเกนส์บูร์ก ประเทศเยอรมนี โรงงานเฉิ่นหยางเที่ยซีในประเทศจีน (ความร่วมมือกับ Brilliance Auto) หรือโรงงานเจนไนในอินเดีย โดยจุดผลิตจริงจะขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดเป้าหมาย สำหรับตลาดไทยในปัจจุบัน รถ BMW X1 ที่จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นการนำเข้า ซึ่งอาจมาจากฐานการผลิตในเยอรมนีหรือจีน โดยสามารถตรวจสอบแหล่งผลิตแต่ละล็อตได้จากอักขระตัวที่ 11 ของรหัส VIN ในตลาดไทย BMW X1 ถือเป็น SUV คอมแพคต์ระดับพรีเมียมที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ด้วยเลย์เอาท์ภายในที่ออกแบบมาอย่างคล่องตัวและระบบขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นรุ่น sDrive18i ที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิเตอร์ 3 สูบเทอร์โบ หรือรุ่น xDrive25Li ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิเตอร์ 4 สูบเทอร์โบ สำหรับผู้ใช้งานในไทยควรให้ความสนใจเกี่ยวกับนโยบายการบริการหลังการขายของรถนำเข้า โดยตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ BMW ประเทศไทยมักมีโปรแกรมประกันครอบคลุม 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมคำแนะนำเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น เช่น การตรวจสอบระบบแอร์และสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อนเป็นประจำ หากกำลังพิจารณาซื้อผ่านช่องทางนำเข้าแบบขนาน (Parallel Import) ควรศึกษาค่าใช้จ่ายด้านภาษีและความพร้อมของเครือข่ายบริการเพิ่มเติม แนะนำให้เลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ BMW ประเทศไทยเพื่อความมั่นใจในบริการที่ครบวงจร
Q
รถ BMW X1 เป็นรถที่ปลอดภัยหรือไม่
BMW X1 ในตลาดประเทศไทยถือเป็น SUV ระดับหรูขนาดกะทัดรัดที่โดดเด่นเรื่องความปลอดภัย ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและพาสซีฟมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ (EBD) และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (DSC) ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการขับขี่ในสภาพการจราจรที่วุ่นวายของเมืองไทยและถนนลื่นในช่วงฤดูฝนได้เป็นอย่างดี จากการทดสอบของกรมทางหลวงไทย ตัวถังของ X1 สามารถดูดซับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อปกป้องผู้โดยสาร ส่วนคนไทยแล้ว X1 เหมาะมากกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ เพราะระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาระยะเลนส์จะช่วยลดความเสี่ยงการชนท้ายได้อย่างดี ที่น่าสนใจคือ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ X1 ผ่านการทดสอบในสภาพอากาศร้อนจัดของไทยมาแล้ว ดังนั้นมั่นใจได้เรื่องความทนทาน หากมีงบประมาณแนะนำให้เลือกรุ่นที่ติดตั้งระบบ cruise control อัจฉริยะและระบบเตือนจุดบอด ซึ่งมีประโยชน์มากเวลาขับทางไกลในไทย อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของรถทุกคันขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาสม่ำเสมอและการขับขี่ที่ถูกต้อง แนะนำให้เจ้าของรถในไทยตรวจสอบระบบเบรกเป็นพิเศษก่อนเข้าฤดูฝน
Q
อะไรที่พิเศษเกี่ยวกับ BMW X1
BMW X1 เป็น SUV ระดับหรูขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยขนาดตัวรถที่คล่องตัวและระบบขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง เหมาะสมกับสภาพถนนในเมืองที่คับคั่งอย่างกรุงเทพฯ เป็นอย่างดี เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จให้กำลังแรงแต่ยังประหยัดน้ำมัน พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ที่ช่วยให้ขับเคลื่อนทั้งในเมืองและรับมือกับถนนลื่นช่วงฤดูฝนหรือเส้นทางภูเขารอบเชียงใหม่ได้อย่างมั่นใจ ภายในห้องโดยสารหรูหราด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมหน้าจอกลาง 10.25 นิ้วที่รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในไทย ที่นั่งแถวหลังปรับเลื่อนได้ถึง 13 ซม. และพื้นที่เก็บสัมภาระขยายจาก 505 ลิตรเป็น 1,550 ลิตร เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวหรือช้อปปิ้งแบบครอบครัวที่คนไทยชอบ นอกจากนี้ BMW X1 ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุมในเมืองใหญ่ ค่าบำรุงรักษาค่อนข้างสมเหตุสมผล และมีอัตราการครองรถสูงกว่ารุ่นเดียวกันในระดับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนไทยที่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในระยะยาว เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLA ที่เน้นดีไซน์สไตล์หรือ Audi Q3 ที่โดดเด่นด้วย Virtual Cockpit แล้ว BMW X1 ยังคงมีความได้เปรียบในเรื่องความประหยัดพื้นที่และความสนุกในการขับขี่
Q
ฉันจะชาร์จ BMW X1 ของฉันที่บ้านได้อย่างไร
สำหรับลูกค้าที่จะชาร์จ BMW X1 รุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่บ้าน สิ่งแรกที่ต้องเช็คคือรถของคุณต้องเป็นรุ่น PHEV นะครับ ในไทยเราจะมีวิธีชาร์จหลักๆ 2 แบบ แบบแรกคือใช้สายชาร์จแบบ Mode 2 ที่มากับตัวรถเสียบกับปลั๊กบ้าน 220V ธรรมดา ใช้เวลาชาร์จเต็มประมาณ 6-8 ชั่วโมง เหมาะสำหรับชาร์จตอนกลางคืน แต่ถ้าอยากชาร์จเร็วขึ้น แนะนำให้ติดตั้งวอลล์บ็อกซ์แบบติดผนัง เช่น BMW i Wallbox โดยต้องจ้างช่างไฟฟ้ามาติดตั้งสายไฟพิเศษและขออนุญาตจากการไฟฟ้านครหลวง (MEA) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ก่อน วิธีนี้จะชาร์จเต็มภายใน 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น เวลาติดตั้งที่ไทยต้องระวังเรื่องแรงดันไฟในบ้านด้วยนะ ควรอยู่ที่ 220V-240V และเลือกอุปกรณ์ที่มีระบบป้องกันฟ้าผ่าและกันโอเวอร์โหลดด้วย เพราะอากาศเมืองร้อนแบบไทยๆ อาจมีปัญหากระแสไฟกระชาก ส่วนใครอยู่คอนโดต้องขออนุญาตเจ้าของอาคารก่อนติดตั้งนะครับ ก่อนชาร์จทุกครั้งอย่าลืมเช็คให้ช่องชาร์จและหัวชาร์จแห้งสนิท โดยช่องชาร์จของ BMW X1 จะอยู่ที่ฝากระโปรงหน้าด้านซ้าย เวลาชาร์จสามารถเช็คสถานะผ่านแอป My BMW ได้เลย ตอนนี้ในไทยเริ่มมีสถานีชาร์จสาธารณะมากขึ้นแล้วนะ ทั้งตามห้างในกรุงเทพ เชียงใหม่ และศูนย์บริการ BMW ของจริง ถ้าจะเดินทางไกลแนะนำให้ใช้แอปอย่าง PlugShare เพื่อวางแผนเส้นทางล่วงหน้า สุดท้ายนี้ถ้าต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ควรเก็บแบตเตอรี่ให้อยู่ที่ระดับ 30%-80% จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ และในสภาพอากาศร้อนแบบไทย แนะนำให้เลือกชาร์จรถในที่ร่มจะดีที่สุดครับ
Q&A ล่าสุด
Q
Tesla Model 3 มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน?
Tesla Model 3 ในด้านความน่าเชื่อถือถือว่าทำงานได้ค่อนข้างมั่นค ระบบไฟฟ้าที่ผ่านการพัฒนามาหลายปีได้ค่อนข้างครบถ้วน โดยเฉพาะระบบจัดการแบตเตอรี่ที่ทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อน ซึ่งเป็นจุดแข็งสำหรับสภาพอากาศที่ร้อนตลอดปี จากผลการประเมินของบุคคลที่สามหลายแห่งพบว่าอัตราการเสียหายของโมเดล 3 ต่ำกว่ารถยนต์เชื้อเพลิงระดับเดียวกัน แต่ต้องระวังในเรื่องกระบวนการประกอบตัวถังที่อาจพบปัญหาช่องว่างระหว่างแผ่นเหล็กไม่เท่ากันบ้าง ซึ่งในสภาพแวดล้อมที่ชื้นจำเป็นต้องดูแลเรื่องการป้องกันสนิมเป็นพิเศษ สำหรับเครือข่ายสถานีชาร์จ Tesla Supercharger ได้ครอบคลุมเมืองใหญ่แล้วและกำลังขยายความร่วมมือกับผู้ให้บริการชาร์จท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ทำให้มีความสะดวกในการใช้งาน ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาของโมเดล 3 ต่ำกว่ารถยนต์เชื้อเพลิงอย่างเห็นได้ชัด แต่การซ่อมแซมต้องผ่านช่องทางทางการเท่านั้น จึงแนะนำให้พิจารณาซื้อบริการขยายรับประกันด้วย สำหรับการขับขี่ในฤดูฝน ต้องระมัดระวังเรื่องความทนน้ำของแบตเตอรี่ แม้ว่าโมเดล 3 จะได้มาตรฐานป้องกัน IP67 แต่การขับผ่านน้ำเป็นเวลานานอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของชิ้นส่วน หากมักจะเดินทางไกล แนะนำให้วางแผนเส้นทางชาร์จไฟล่วงหน้า โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีสถานีชาร์จน้อย
Q
Tesla พัฒนาได้ดีในปี 2024 หรือไม่
ในปี 2024 Tesla ยังคงแสดงผลงานในตลาดที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในด้านรถไฟฟ้าที่ยังคงเป็นผู้นำอยู่ รุ่น Model Y และ Model 3 ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและระบบขับอัจฉริยะ ผู้บริโภคในประเทศให้ความสนใจกับเครือข่ายสถานีชาร์จและฟังก์ชั่นอัปเดตระบบ OTA ของ Tesla เป็นอย่างดี นอกจากนี้เทสลายังขยายเครือข่ายซูเปอร์ชาร์จเจอร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ความสะดวกในการใช้งานเพิ่มสูงขึ้น
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การแข่งขันในตลาดรถไฟฟ้ารุนแรงขึ้น โดยหลายแบรนด์ต่างเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่มีคุ้มค่าสูง แต่เทสลายังคงได้รับความนิยมจากอิทธิพลของแบรนด์และเทคโนโลยีที่สั่งสมมา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาวที่ให้ความสำคัญกับความล้ำสมัย
ที่น่าสนใจคือ ธุรกิจพลังงานของ Tesla ก็กำลังเติบโตอย่างมั่นคง เช่น ผลิตภัณฑ์หลังคาโซลาร์เซลล์และระบบกักเก็บพลังงานที่เริ่มเข้าสู่ตลาดมากขึ้น เป็นทางเลือกพลังงานสะอาดให้ผู้บริโภค
ด้วยนโยบายสนับสนุนรถพลังงานใหม่ของรัฐบาลที่ยังคงต่อเนื่อง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง Tesla ยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต อย่างไรก็ตามผู้บริโภคควรเปรียบเทียบรุ่นรถจากแบรนด์ต่างๆ เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองมากที่สุด
Q
ค่าใช้จ่ายในการชาร์จ Tesla Model 3 รุ่นปี 2024 จนเต็มอยู่ที่เท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟเต็มของ Tesla Model 3 รุ่น 2024 จะขึ้นอยู่กับอัตราค่าไฟฟ้าในพื้นที่และความจุแบตเตอรี่ โดยหากเป็นรุ่น Long Range ที่มีแบตเตอรี่ 75kWh และคิดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับที่พักอาศัยเฉลี่ยอยู่ที่หน่วยละ 4 บาท การชาร์จเต็มจะใช้เงินประมาณ 300 บาท แต่ในความเป็นจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามช่วงเวลาการใช้ไฟฟ้าหรือค่าบริการที่สถานีชาร์จสาธารณะ เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รถไฟฟ้าจะมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อกิโลเมตรที่ต่ำกว่ามาก โดยเฉพาะเมื่อขับในเมืองที่มีการจราจรติดขัดซึ่งจะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน
ในส่วนของวิธีการชาร์จ การชาร์จแบบช้าที่บ้านเหมาะสำหรับการชาร์จตอนกลางคืนขณะจอดรถ ส่วนสถานีชาร์จเร็ว Supercharger สามารถเติมไฟได้ 80% ในเวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินทางไกล ที่สำคัญกว่านั้น ค่าบำรุงรักษารถไฟฟ้าจะถูกกว่ารถน้ำมันประมาณ 40% และรัฐบาลไทยยังมีนโยบายลดภาษีและให้สิทธิประโยชน์สำหรับรถไฟฟ้าซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานลงอีก
แนะนำให้เจ้าของรถติดตั้งสถานีชาร์จที่บ้านและเลือกชาร์จไฟในช่วงนอกเวลาพีกเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น
Q
Tesla Model 3 ขายได้ทั้งหมดกี่คันในปี 2024?
ณ เดือนพฤศจิกายน 2024 ยอดขายสะสมของ Tesla Model 3 ในปีนี้อยู่ที่ 176,793 คัน โดยแบ่งเป็นเดือนมกราคมขายได้ 9,969 คัน เดือนกุมภาพันธ์ 7,604 คัน เดือนมีนาคม 14,481 คัน เดือนเมษายน 5,065 คัน เดือนพฤษภาคม 15,230 คัน เดือนมิถุนายน 18,151 คัน เดือนกรกฎาคม 9,928 คัน เดือนสิงหาคม 18,126 คัน เดือนกันยายนพุ่งสูงถึง 23,998 คัน ส่วนเดือนตุลาคมไม่มีข้อมูลแยกต่างหาก และล่าสุดเดือนพฤศจิกายนขายได้ 28,914 คัน จะเห็นว่ายอดขายแต่ละเดือนมีความผันผวนค่อนข้างมาก ถ้าคุณกำลังมองหารถยนต์รุ่นนี้ ลองดูสถิติแล้วเปรียบเทียบความต้องการกับงบประมาณที่มี
Q
Tesla ที่ราคาถูกที่สุดในปี 2024 คือรุ่นไหน?
ในปี 2024 รุ่น Tesla ที่ราคาถูกที่สุดคือ Tesla Model 3 RWD ปี 2023 ราคาอยู่ที่ 1,439,000 บาท รุ่นนี้จัดอยู่ในระดับรถยนต์กลุ่ม D มีขนาดความยาว 4,720 มม. กว้าง 2,089 มม. สูง 1,441 มม. ระยะฐานล้อ 2,875 มม. น้ำหนักรถ 1,765 กก. แบบ 4 ประตู 5 ที่นั่ง พร้อมความจุกระโปรงหลัง 682 ลิตร ระบบขับเคลื่อนเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวแบบหลังขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 347 แรงม้า กำลังไฟรวม 255 กิโลวัตต์ แรงบิดรวม 420 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 201 กม./ชม. ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน 513 กม. เหมาะสำหรับการใช้งานประจำวันและการเดินทางใกล้-กลาง รถคันนี้มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายมาตรฐานมากมาย เช่น ระบบ ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบเซนเซอร์ถอยหลัง กล้องถอยหลัง และอื่นๆ อีกเพียบ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

รุ่นพื้นฐานก็หรูหราด้วย BMW X1 มีราคาตั้งแต่ 2,409,000 บาทในไทย
LienMay 22, 2024

ตารางผ่อนล่าสุดอย่างเป็นทางการ BMW 3 Series Sedan ขั้นต่ำ 30,xxx บาทต่องวด
Kevin WongNov 14, 2025

แท่งเหล็กกันโคลงในรถยนต์คืออะไร? และมันมีผลอะไรกับรถยนต์?
พงศธรSep 11, 2025

BMW รุ่นใหม่ iX3 ยืนยันเปิดตัววันที่ 5 กันยายน สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Neue Klasse
ณัฐวุฒิSep 1, 2025

BMW จะนำ Neue Klasse iX3 และ JCW Concept Car มาที่ IAA Mobility
พงศธรAug 7, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย