Q

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันรถยนต์

อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์เป็นเรื่องที่ผู้บริโภคไทยให้ความสนใจมาก โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลก็มีทั้งเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ น้ำหนักรถ พฤติกรรมการขับขี่ และสภาพถนน ในประเทศไทยด้วยปัญหารถติดในเมืองที่เกิดขึ้นบ่อย การสตาร์ทรถและหยุดบ่อยๆ จะทำให้เปลืองน้ำมันมากขึ้น ดังนั้นการเลือกรุ่นรถที่มีระบบสตาร์ท-สต็อปอัตโนมัติหรือระบบไฮบริดจะช่วยประหยัดกว่า เช่น Toyota Corolla ไฮบริด หรือ Honda City อี:HEV ที่ได้รับความนิยมในท้องตลาด นอกจากนี้การเปิดแอร์ตลอดเวลาในสภาพอากาศร้อนของไทยยังทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 10%-15% จึงควรบำรุงรักษาระบบแอร์และเปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำเพื่อให้ทำงานมีประสิทธิภาพ ส่วนลมยางที่ไม่พอก็ทำให้เปลืองน้ำมันได้เช่นกัน ควรตรวจสอบลมยางทุกเดือนและเติมให้ได้ตามค่าที่ผู้ผลิตแนะนำ สำหรับคนที่ขับทางไกลบ่อยๆ รถดีเซลอาจจะประหยัดน้ำมันกว่า แต่ต้องระวังเรื่องคุณภาพน้ำมันดีเซลในไทยที่อาจส่งผลต่อเครื่องยนต์ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ รัฐบาลไทยส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพอย่าง E20 และ E85 ถึงราคาจะถูกกว่า แต่ต้องตรวจสอบก่อนว่ารถของคุณรองรับหรือไม่เพื่อป้องกันเครื่องยนต์เสียหาย เมื่อเข้าใจปัจจัยเหล่านี้แล้ว ผู้บริโภคก็สามารถลดค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันลงได้ด้วยการเลือกรุ่นรถที่เหมาะสม ขับขี่อย่างนุ่มนวล และบำรุงรักษารถเป็นประจำ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A ล่าสุด

Q
รถ Subaru Forester รุ่นปี 2020 มีเกียร์แบบ CVT ไหม?
รุ่น Subaru Forester ปี 2020 นี่ติดเกียร์ CVT จริงๆนะ ซึ่งเป็นเกียร์ Lineartronic ของ Subaru เวอร์ชันอัพเกรดแล้ว แบบเน้นเปลี่ยนเกียร์ลื่นๆและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับขับในเมืองที่รถติดหรือจะขับทางไกลก็ได้ เกียร์ตัวนี้ทำงานคู่กับเครื่องยนต์แบบราบ 2.0 ลิตร ให้กำลังส่งออกมาเนียนๆ แถมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD ของซูบารุยังช่วยให้ขับในพื้นที่ฝนตกบ่อยหรือทางเขาขรุขระได้ดีขึ้น ตอนนี้เกียร์ CVT เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเมื่อเทียบกับเกียร์ออโต้ทั่วไปเพราะประหยัดน้ำมันกว่า แต่คนขับอาจต้องปรับตัวหน่อยเวลาออกตัวเพราะรอบเครื่องจะแปลกๆไปบ้าง สำหรับตลาดบ้านเรา เกียร์ CVT ของ Forester นี่ผ่านการทดสอบในสภาพอากาศร้อนชื้นมาแล้ว เชื่อถือได้แน่นอน แค่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เฉพาะตามกำหนดก็พอ ถ้าจะซื้อมือสองแนะนำให้เช็คดูว่าเกียร์มีเสียงผิดปกติหรือกระตุกไหม แล้วก็ตรวจสอบประวัติการเซอร์วิสให้ครบด้วย
Q
ใครเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ Subaru ในปี 2020?
เครื่องยนต์ของรถ Subaru ปี 2020 ส่วนใหญ่ผลิตโดยบริษัทแม่อย่างซูบารุคอร์ปอเรชั่นที่ญี่ปุ่น ฐานการผลิตหลักอยู่ที่โรงงานยาจิมะในจังหวัดกุนมะ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบบ็อกเซอร์ (Boxer Engine) การออกแบบจุดศูนย์ถ่วงต่ำแบบนี้ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถ โดยเฉพาะเหมาะกับการขับขี่ในพื้นที่ภูเขาและสภาพอากาศชื้น รุ่นยอดนิยมในไทยอย่างฟอเรสเตอร์และ XV ต่างใช้เครื่องยนต์ประเภทนี้ คู่กับเกียร์ Lineartronic แบบ CVT จนกลายเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสมมาตร Symmetrical AWD ที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม Subaru มีความร่วมมือทางเทคนิคกับโตโยต้า บางรุ่น Hybrid อย่าง Crosstrek Hybrid จะใช้ชุดไฮบริดจากโตโยต้า แต่ส่วนเครื่องยนต์สันดาปยังพัฒนาโดย Subaru เอง แม้เครื่องยนต์แบบบ็อกเซอร์จะซ่อมบำรุงค่อนข้างยาก แต่ด้วยความนุ่มนวลและความทนทาน ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ในไทย แนะนำให้เจ้าของรถเข้าศูนย์บริการตามกำหนดเพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุด
Q
รถ Subaru Forester ปี 2020 ควรใช้งานได้นานแค่ไหน?
รถยนต์ Subaru Forester รุ่นปี 2020 ในสภาพการใช้งานและดูแลรักษาตามปกติสามารถวิ่งได้ประมาณ 250,000 - 300,000 กิโลเมตร หรือเทียบเท่ากับอายุการใช้งานเกิน 15 ปี ขึ้นอยู่กับนิสัยการขับขี่ สภาพถนน และความถี่ในการบำรุงรักษา รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ Boxer 2.5 ลิตร และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD ที่มีชื่อเรื่องความทนทาน แต่ต้องให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นประจำ (แนะนำทุก 5,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน) และตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์ CVT โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนที่ต้องดูแลระบบระบายความร้อนและชิ้นส่วนยางเป็นพิเศษ ตัวถัง Forester มีการป้องกันสนิมที่ดี แต่หากอยู่ใกล้ชายทะเลแนะนำให้เพิ่มการป้องกันใต้ท้องรถ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน Forester มีอัตราการรักษามูลค่าอยู่ในระดับดีถึงดีมาก โดยหลังจาก 5 ปีจะเหลือมูลค่าประมาณ 55%-60% หากต้องการยืดอายุการใช้งาน แนะนำให้ปฏิบัติตามคู่มือการบำรุงรักษาอย่างเคร่งครัด ใช้เฉพาะอะไหล่แท้จากศูนย์ และให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับช่วงเวลาการเปลี่ยนหัวเทียนและสายพานไทม์มิ่งของเครื่องยนต์แบบ Boxer ในตลาดรถมือสอง Forester รุ่นปี 2020 ที่วิ่งน้อยกว่า 100,000 กิโลเมตรยังเป็นที่ต้องการอยู่ โดยเวลาซื้อควรตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นพิเศษ สำหรับการใช้งานประจำวัน ควรหลีกเลี่ยงการขับด้วยความเร็วสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของเครื่องยนต์แบบ Boxer โดยตรง
Q
“การให้คะแนนความปลอดภัยของ Subaru Forester 2020 คืออะไร?”
รถยนต์ Subaru Forester รุ่นปี 2020 แสดงความสามารถโดดเด่นด้านความปลอดภัย โดยได้รับคะแนนสูงจากหลายสถาบันรับรองมาตรฐาน ระบบช่วยขับขี่ EyeSight ที่มาพร้อมในทุกรุ่นทำงานได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย ด้วยระบบกล้องคู่ที่จดจำสภาพถนนได้แม่นยำ พร้อมฟังก์ชั่นสำคัญอย่างระบบเบรกฉุกเฉิน ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และรักษาระยะเลน ช่วยให้ขับขี่สะดวกทั้งในเมืองที่รถติดหรือเดินทางไกล รุ่นนี้คว้ารางวัล "Top Safety Pick+" จาก IIHS สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นระดับความปลอดภัยสูงสุด และยังได้ 5 ดาวจาก ASEAN NCAP แสดงให้เห็นว่าโครงสร้างตัวถังและระบบความปลอดภัยสามารถปกป้องผู้โดยสารได้จริง ระบบโครงสร้างวงแหวนความแข็งแรงสูงพร้อมถุงลมนิรภัย 7 ตัวมีประสิทธิภาพในการรับมือกับการชนด้านข้างโดยเฉพาะ ซึ่งสำคัญมากสำหรับคนที่ต้องเจอกับสภาพถนนซับซ้อนบ่อยๆ ที่น่าสนใจคือระบบ EyeSight ยังทำงานเสถียรแม้อากาศร้อนจัด ไม่เหมือนบางระบบที่อาจถูกแสงแดดรบกวน แถมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสมรรถนะสูงยังไว้ใจได้ในถนนลื่นช่วงฤดูฝน อีกฟีเจอร์เด็ดคือระบบแจ้งเตือนผู้โดยสารแถวหลัง ที่เป็นประโยชน์มากสำหรับคนที่มักพาครอบครัวเดินทาง
Q
แบตเตอรี่ใน Subaru Forester รุ่นปี 2020 ใช้งานได้นานแค่ไหน?
แบตเตอรี่ของ Subaru Forester รุ่นปี 2020 โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานประมาณ 3 ถึง 5 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานและสภาพอากาศ โดยสภาพอากาศที่ร้อนชื้นจะเร่งให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น ดังนั้นควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำ แนะนำให้ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่และระดับน้ำกลั่นทุก 6 เดือน ควรหลีกเลี่ยงการขับรถระยะสั้นบ่อยๆ หรือการสตาร์ทและดับเครื่องบ่อยครั้ง เพราะพฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น ถ้าพบว่ามีอาการสตาร์ทรถยากหรือไฟหน้ารถสว่างน้อยลง นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว เวลาเลือกซื้อแบตเตอรี่อาจพิจารณาแบบที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อน เช่น แบตเตอรี่ AGM แบบเสริมประสิทธิภาพ ที่ทนความร้อนได้ดีกว่าและมีอายุการใช้งานนานกว่า นอกจากนี้เวลาจอดรถควรเลือกที่ร่มเพื่อลดผลกระทบจากความร้อนต่อแบตเตอรี่ และควรดูแลระบบไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพดีเสมอ เช่น ตรวจสอบไดชาร์จให้ทำงานปกติ และหลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเตอรี่หมดบ่อยๆ สำหรับรถที่ติดตั้งระบบออโต้สตาร์ท แนะนำให้ใช้แบตเตอรี่แบบพิเศษเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
ดูเพิ่มเติม