Q

EX40 มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง?

เมื่อเทียบกับรุ่น XC40 ที่ถูกแทนที่ การเปลี่ยนแปลงหลักของ Volvo EX40 มีรายละเอียดดังนี้: ด้านการตั้งชื่อ: Volvo กำลังเดินหน้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยได้เปลี่ยนชื่อรุ่น SUV ขนาดกะทัดรัดจาก “XC40” เป็น “EX40” พร้อมทั้งเริ่มทยอยยกเลิกการใช้ชื่อ “Recharge” ในการสื่อถึงระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าในชื่อรุ่น ด้านรูปลักษณ์: แม้ว่าภาพรวมของดีไซน์จะยังคงคล้ายเดิม แต่มีการเพิ่มสีตัวถังใหม่ชื่อว่า “Sand Dune” และรุ่น Black Edition ที่มาในโทนสีดำทั้งภายนอกและภายใน พร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วสีดำ เสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ตและหรูหรายิ่งขึ้น ด้านระบบขับเคลื่อน: สมรรถนะของบางรุ่นมีการปรับปรุง โดยเฉพาะรุ่นมอเตอร์คู่ที่มีกำลังรวม 408 แรงม้า (300 กิโลวัตต์) ทำอัตราเร่งจาก 0–100 กม./ชม. ได้ในเวลา 4.8 วินาที นอกจากนี้ Volvo ยังแนะนำ Performance Software Package สำหรับบางรุ่น ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังขับเคลื่อน ปรับการตอบสนองของคันเร่ง และปลดล็อกโหมดการขับขี่ใหม่ เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้เหนือขึ้นอีกขั้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ชาร์จเจอร์ประเภทใดที่ Volvo EX40 ใช้?
Volvo EX40 รองรับการชาร์จไฟทั้งแบบเร็วและแบบช้า ในส่วนของการชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่เพียง 0.55 ชั่วโมงสำหรับรุ่นมอเตอร์เดี่ยว และ 0.48 ชั่วโมงสำหรับรุ่นมอเตอร์คู่ สามารถเติมพลังงานได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ต้องการใช้งานรถทันทีหรือเดินทางระยะไกลเร่งด่วน สำหรับการชาร์จแบบช้าใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง เหมาะสำหรับการชาร์จขณะจอดรถช่วงกลางคืนหรือจอดทิ้งไว้นานแบตเตอรี่ที่ใช้ใน EX40 เป็นแบบลิเธียมไอออนชนิด NMC ซึ่งมีความหนาแน่นพลังงานสูง ช่วยให้รถมีระยะทางขับขี่ที่ดีในการชาร์จหนึ่งครั้ง
Q
ใช้เวลานานเท่าไหร่ในการชาร์จ Volvo EX40?
Volvo EX40 มีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่ ซึ่งระยะเวลาในการชาร์จจะแตกต่างกันตามขนาดความจุของแบตเตอรี่และโหมดการชาร์จที่ใช้ ในการชาร์จแบบเร็ว หากใช้เครื่องชาร์จที่มีกำลังไฟเพียงพอ รถสามารถรองรับกำลังชาร์จได้สูงสุดถึง 205 กิโลวัตต์ ใช้เวลาประมาณ 28 นาที ในการชาร์จจาก 10% ถึง 80% สำหรับการชาร์จแบบช้า หากใช้เครื่องชาร์จแบบกระแสสลับ 11 กิโลวัตต์ จะใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงในการชาร์จเต็ม แต่ในกรณีทั่วไปที่ใช้เครื่องชาร์จติดผนังในบ้าน ซึ่งมักมีกำลังไฟ 7.4 กิโลวัตต์ ระยะเวลาการชาร์จจะนานกว่านั้น นอกจากนี้ ควรระวังอุณหภูมิขณะชาร์จ เพื่อให้แบตเตอรี่เย็นลงอยู่ในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการชาร์จในสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ในระยะยาว
Q
ต้องใช้กี่ kWh เพื่อชาร์จ Volvo EX40?
ปริมาณความจุแบตเตอรี่ของ Volvo EX40 แตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น ส่งผลให้ปริมาณไฟฟ้าที่ต้องใช้ในการชาร์จแตกต่างกันด้วย โดยรุ่น Single Motor มีความจุแบตเตอรี่ 69kWh ส่วนรุ่น Twin Motor BLACK Edition และ Twin Motor มีความจุแบตเตอรี่ 82kWh ปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ในการชาร์จนอกจากจะขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่แล้ว ยังได้รับผลจากปริมาณพลังงานที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ขณะเริ่มชาร์จ หากต้องการชาร์จแบตเตอรี่จากระดับพลังงานต่ำจนเต็ม รุ่น Single Motor จะใช้พลังงานประมาณ 69kWh ขณะที่รุ่น Twin Motor BLACK Edition และ Twin Motor จะใช้ประมาณ 82kWh นอกจากนี้ เวลาที่ใช้ในการชาร์จยังแตกต่างกันไปตามวิธีการชาร์จ โดยการชาร์จแบบเร็วสามารถเติมพลังงานได้มากในระยะเวลาสั้น ส่วนการชาร์จแบบช้าจะใช้เวลานานกว่า
Q
EX40 มีขนาดเท่าไหร่เมื่อเทียบกับ XC60?
Volvo EX40 จัดอยู่ในกลุ่มรถระดับ C โดยมีขนาดความยาว 4,440 มม. กว้าง 1,873 มม. สูง 1,647 มม. และระยะฐานล้อ 2,702 มม. ขณะที่ Volvo XC60 เป็นรถ SUV ขนาดกลาง โดยมีขนาดตัวถังยาว 4,708 มม. กว้าง 1,902 มม. สูง 1,658 มม. และมีระยะฐานล้อถึง 2,865 มม. เมื่อเปรียบเทียบกัน XC60 มีขนาดโดยรวมที่ใหญ่กว่า EX40 ทั้งในด้านความยาว ความกว้าง ความสูง และฐานล้อ ซึ่งหมายความว่า XC60 มีภาพลักษณ์ที่ดูภูมิฐานมากกว่า และภายในห้องโดยสาร—โดยเฉพาะเบาะหลังและพื้นที่เก็บสัมภาระ—น่าจะกว้างขวางและสะดวกสบายมากกว่า รองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้ดีขึ้น และสามารถบรรทุกสิ่งของได้มากกว่า ในทางกลับกัน EX40 มีขนาดที่กะทัดรัดกว่า เหมาะกับการใช้งานในเมือง สามารถขับขี่และจอดรถในพื้นที่จำกัดได้ง่ายขึ้น จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานในเขตเมืองเป็นหลัก และให้ความสำคัญกับความคล่องตัวและความสะดวกในการจอดรถ
Q
โวลโว EX40 มีมอเตอร์เดี่ยวหรือคู่?
Volvo EX40 มีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่ โดยรุ่น Volvo EX40 Ultra Single Motor 2024 เป็นรถยนต์มอเตอร์เดี่ยว โดยติดตั้งมอเตอร์ไว้ที่ล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 238 แรงม้า (PS) กำลังรวม 175 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ส่วนรุ่น Volvo EX40 Ultra Twin Motor BLACK Edition 2024 และ Volvo EX40 Ultra Twin Motor 2024 เป็นรถยนต์มอเตอร์คู่ โดยติดตั้งมอเตอร์ที่ล้อหน้าและล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า (PS) กำลังรวม 300 กิโลวัตต์ และแรงบิดรวมสูงสุด 670 นิวตันเมตร ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ผู้บริโภคสามารถเลือกเวอร์ชันที่เหมาะสมตามความต้องการด้านสมรรถนะ ระยะทางการใช้งาน และประสบการณ์การขับขี่ รุ่นมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังเหมาะสำหรับการประหยัดพลังงานและการใช้งานในชีวิตประจำวัน ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำลังขับที่มากขึ้นและสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีกว่าในทุกสภาพถนน
Q
EX40 มีแรงม้าเท่าไหร่
Volvo EX40 มีหลากหลายรุ่นย่อย โดยแต่ละรุ่นให้กำลังมอเตอร์ที่แตกต่างกัน รุ่น EX40 Ultra Single Motor 2024 ใช้มอเตอร์เดี่ยวที่ติดตั้งบริเวณล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 238 แรงม้า (PS) ส่วนรุ่น EX40 Ultra Twin Motor BLACK Edition 2024 และ EX40 Ultra Twin Motor 2024 มาพร้อมมอเตอร์คู่แบบติดตั้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า (PS) กำลังม้าที่มากกว่าย่อมหมายถึงแรงขับเคลื่อนและสมรรถนะการเร่งที่ดีกว่า รุ่นมอเตอร์เดี่ยวเหมาะสำหรับการขับขี่ที่นุ่มนวลในชีวิตประจำวัน ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่ให้การเร่งที่ทรงพลัง เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ต้องการประสิทธิภาพด้านพลังงานและการตอบสนองที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
Q
Volvo EX40 มี V2L หรือไม่?
ขณะนี้ยังไม่พบข้อมูลที่ยืนยันว่า Volvo EX40 รองรับฟังก์ชัน V2L (Vehicle-to-Load) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้รถสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกได้ โดยฟังก์ชันนี้มีความเหมาะสมกับการใช้งานในสถานการณ์อย่างการตั้งแคมป์หรือทำงานกลางแจ้ง Volvo EX40 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยม มีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวและรุ่นมอเตอร์คู่ โดยรุ่นมอเตอร์เดี่ยวมีกำลังสูงสุด 175 กิโลวัตต์ และระยะทางวิ่งสูงสุดประมาณ 565 กิโลเมตร ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่มีกำลังรวม 300 กิโลวัตต์ พร้อมระยะทางวิ่งสูงสุดประมาณ 645 กิโลเมตร รถรุ่นนี้ติดตั้งเทคโนโลยีขั้นสูงหลายรายการ เช่น ถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบเบรกอัตโนมัติ และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ รวมถึงระบบเสียง Harman Kardon ที่ให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน แม้ยังไม่สามารถยืนยันการรองรับฟังก์ชัน V2L ได้แน่ชัด แต่ Volvo EX40 ก็มีความโดดเด่นทั้งในด้านสมรรถนะและประสบการณ์การขับขี่ที่ดี
Q
"Volvo XC40" มันเหมือนกับ "EX40" หรือไม่?
Volvo XC40 และ EX40 มีทั้งจุดที่คล้ายกันและจุดที่แตกต่างกัน โดยในด้านที่คล้ายกัน ทั้งสองรุ่นจัดอยู่ในกลุ่ม SUV ขนาดกะทัดรัด มีระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2,702 มิลลิเมตร และมีการจัดสรรพื้นที่ภายในที่ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและครอบครัวขนาดเล็ก อีกทั้งยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน เช่น ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ถุงลมนิรภัยรอบคัน และระบบความปลอดภัยอื่น ๆ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมั่นใจตลอดการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย EX40 เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ส่วน XC40 มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายในและปลั๊กอินไฮบริด จึงมีทางเลือกด้านแหล่งพลังงานที่หลากหลายกว่า ในด้านดีไซน์ แม้ทั้งคู่จะใช้แนวทางการออกแบบตามแบบฉบับของ Volvo แต่ EX40 ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้า อาจมีรายละเอียดที่เน้นความล้ำสมัยและภาพลักษณ์ด้านเทคโนโลยีมากกว่า สำหรับภายในห้องโดยสาร รายละเอียดด้านอุปกรณ์ก็มีความแตกต่าง เช่น ขนาดหน้าจอกลางในบางรุ่นของ EX40 อยู่ที่ 9 นิ้ว เป็นต้น โดยสรุป ทั้ง Volvo XC40 และ EX40 ต่างก็มีจุดเด่นในแบบของตน ผู้บริโภคสามารถเลือกตามความต้องการด้านการใช้งาน ความชอบส่วนตัว และรูปแบบพลังงานที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง
Q
EX40 ขยายระยะทางมีขนาดแบตเตอรี่เท่าไหร่?
Volvo EX40 มีหลายรุ่นย่อย โดยรุ่น Extended Range (ระยะทางวิ่งไกลพิเศษ) มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 82 kWh ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมแบบ NMC (นิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลต์) รุ่น EX40 Twin Motor BLACK Edition 2024 และ EX40 Ultra Twin Motor 2024 จัดอยู่ในกลุ่ม Extended Range ทั้งคู่ โดยมีระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าตามข้อมูลจากผู้ผลิตอยู่ที่ 645 กิโลเมตร และมีอัตราการใช้พลังงานอยู่ที่ 15.2 kWh ต่อ 100 กิโลเมตร การชาร์จด้วยระบบเร็ว (DC) ใช้เวลาเพียง 0.48 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จด้วยระบบช้า (AC) กำลังไฟ 11 kW จะใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง ด้วยความจุแบตเตอรี่และระยะทางขับขี่ในระดับนี้ EX40 รุ่น Extended Range สามารถตอบโจทย์การใช้งานประจำวันในเมือง รวมถึงการเดินทางระยะสั้นถึงระยะกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
EX40 มีโหมดประสิทธิภาพอย่างไร?
Volvo EX40 โดยทั่วไปมาพร้อมโหมดการขับขี่หลากหลายรูปแบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและตอบสนองการใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม โหมด Eco (ประหยัดพลังงาน) เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองหรือสภาพการจราจรติดขัด โดยระบบจะปรับลดการตอบสนองของมอเตอร์ไฟฟ้าให้ราบเรียบ ควบคุมระบบปรับอากาศและลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและช่วยยืดระยะทางวิ่ง โหมด Comfort  เน้นการขับขี่ที่ราบรื่นและผ่อนคลาย การตอบสนองของคันเร่งเป็นไปอย่างนุ่มนวล ช่วงล่างมีการปรับตั้งเพื่อดูดซับแรงสะเทือนจากพื้นถนน ทำให้การโดยสารสบายมากขึ้นทั้งสำหรับผู้ขับและผู้โดยสาร โหมด Dynamic ให้การตอบสนองที่รวดเร็วและทรงพลังมากขึ้น มอเตอร์จะปล่อยกำลังออกมาเต็มที่ การเร่งความเร็วทำได้ฉับไว น้ำหนักพวงมาลัยหนักแน่นขึ้น เพื่อเสริมความมั่นใจและความเร้าใจในการขับขี่ โหมด Individual เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สามารถกำหนดลักษณะการตอบสนองของระบบต่าง ๆ เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า พวงมาลัย หรือระบบส่งกำลัง ได้ตามความชอบส่วนตัว โหมดเหล่านี้ช่วยให้ผู้ขับสามารถเลือกการขับขี่ที่เหมาะสมกับสภาพถนนหรือความต้องการเฉพาะกิจในแต่ละวันได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ

ข้อดี

ขนาดคอมแพค ทำให้ง่ายต่อการเดินทางในเมือง
มีคุณสมบัติการรับประกันความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง เป็นลักษณะเด่นของ Volvo
มีระยะทางการเดินทางที่พอใช้สำหรับการขับเคลื่อนประจำวัน
ห้องโดยสารที่สมัยใหม่พร้อมเทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย

ข้อเสีย

พื้นที่บรรทุกสินค้า จำกัดสำหรับของขนาดใหญ่
ราคาสูงกว่าคู่แข่งบางตัว
โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จยังเป็นปัญหา
ผู้ใช้บางคนคิดว่าการมองเห็นด้านหลังไม่ดี

Q&A ล่าสุด

Q
รถยนต์รุ่นใดมียอดขายสูงที่สุดในโลกในปี 2024?
คาดการณ์ว่าในปี 2024 รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกยังคงเป็น Toyota Corolla ซึ่งครองแชมป์มายาวนานด้วยความน่าเชื่อถือ ประหยัดน้ำมัน และราคาคุ้มค่า แม้แต่ในตลาดไทยก็ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะการใช้ชีวิตในเมืองหรือเป็นรถครอบครัว ส่วนในปีหลังๆ คนไทยเริ่มสนใจรถ Hybrid มากขึ้น ทำให้รุ่น Corolla hybrid ก็มาแรง แถมช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกต่างหาก นอกจากนี้ยังมี Honda HR-V ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตและพื้นที่ใช้งานยืดหยุ่น เหมาะกับกลุ่มวัยรุ่น ส่วน Toyota Hilux ก็ยังคงเป็นเจ้าแห่งตลาดรถปิคอัพด้วยความแข็งแรงและสมรรถนะลุยทุก terrain ล่าสุดเริ่มเห็นรถ EV อย่าง BYD Atto 3 เข้ามาในตลาดไทยบ้างแล้ว โดยเฉพาะหลังมีมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาลที่อาจทำให้รถไฟฟ้าเป็นที่นิยมมากขึ้น สรุปแล้วตลาดรถไทยตอนนี้มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งรถน้ำมัน รถ Hybrid และรถ EV ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อเลยล่ะ
Q
Toyota รุ่นที่ขายดีที่สุดในปี 2024 คือรุ่นอะไร?
จากข้อมูลยอดขายในปี 2024 รถยนต์ที่ขายดีที่สุดของ Toyota ในตลาดไทยคือ Toyota Hilux ซึ่งเป็นรถปิคอัพที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภค ด้วยความทนทานสูง ความคล่องตัว และประสิทธิภาพที่เหมาะกับสภาพถนนในไทย โดยเฉพาะในภาคการเกษตรและธุรกิจ Hilux ไม่เพียงแต่มีความสามารถในการขับเคลื่อนออฟโรดและรับน้ำหนักได้ดี แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัยและเครื่องยนต์ที่ประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับการใช้งานทั้งในเมืองและชนบทของไทย นอกจาก Hilux แล้ว Toyota Corolla Cross ก็ทำผลงานได้ดีในตลาดไทยเช่นกัน ในฐานะรถ SUV ขนาดกะทัดรัดที่ผสมผสานความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยเข้าด้วยกัน เหมาะสำหรับครอบครัว โดยเฉพาะการเดินทางในเมือง ความสำเร็จของ Toyota ในไทยยังมาจากเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมและกลยุทธ์การผลิตในประเทศ ที่ช่วยรับประกันคุณภาพรถและความสะดวกในการซ่อมบำรุง ส่งผลให้แบรนด์ยังคงเป็นผู้นำในตลาดไทยอย่างเหนียวแน่น
Q
รถยนต์รุ่นใดของ Toyota ที่มียอดขายดีที่สุด?
รถยนต์ที่ขายดีที่สุดของ Toyota ในระดับโลกคือ Toyota Corolla รุ่นคลาสสิกประเภทคอมแพคคาร์นี้ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1966 จนถึงปัจจุบันมียอดขายสะสมเกิน 50 ล้านคัน ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมยานยนต์ ส่วนในตลาดไทย Corolla ก็ได้รับความนิยมไม่น้อย ด้วยความน่าเชื่อถือในเรื่องคุณภาพ ประหยัดน้ำมัน และมูลค่าการขายต่อที่สูง ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะรุ่น Hybrid ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงได้ชัดเจนในเมืองติดจออย่างกรุงเทพฯ นอกจาก Corolla แล้ว อีกรุ่นยอดนิยมของ Toyota ในไทยคือ Hilux ปิคอัพที่ความทนทานเป็นเลิศและใช้งานได้ในทุกสภาพถนน จนติดโผรถขายดีอันดับ 1 ของไทยมาหลายปีซ้อน เหมาะสมกับพื้นที่ชนบทและลูกค้าที่ต้องการรถบรรทุกของเป็นพิเศษ Toyota ผลิตรถเหล่านี้ในประเทศ ไม่เพียงช่วยให้ราคาแข่งขันได้ แต่ยังสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพระบบแอร์และการป้องกันสนิม กลยุทธ์โลคัลไลเซชันนี้ทำให้ Toyota ครองความเป็นผู้นำในตลาดประเทศไทยในระยะยาว
Q
แบรนด์รถยนต์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปี 2024 คือแบรนด์อะไร?
ในปี 2024 แบรนด์รถยนต์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในตลาดไทยยังคงเป็น "Toyota" ด้วยความน่าเชื่อถือในเรื่องคุณภาพ การบริการหลังการขายที่ครบวงจร และและการเลือกรุ่นรถที่หลากหลาย ทำให้ Toyota ยังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาด โดยเฉพาะรุ่นยอดนิยมอย่าง Hilux Fortuner และ Corolla Cross ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคไทยอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตรถยนต์สำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Toyota ได้ตั้งโรงงานผลิตในประเทศ ไม่เพียงตอบสนองความต้องการในประเทศแต่ยังส่งออกไปยังตลาดข้างเคียง ส่งผลให้ความแข็งแกร่งในตลาดยิ่งเพิ่มขึ้น ล่าสุด Toyota ได้เร่งสัดส่วนรถยนต์ไฮบริดและไฟฟ้าในไทย เช่น Corolla Cross HEV เพื่อตอบโจทย์เทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมของคนไทย นอกจาก Toyota แล้ว และ Mitsubishi ยังคงแข็งแกร่งในตลาดรถปิกอัพ โดยเฉพาะ Isuzu D-MAX ที่โดดเด่นเรื่องความทนทานและราคาคุ้มค่า ส่วนปัจจัยที่คนไทยให้ความสำคัญเมื่อเลือกซื้อรถคือ ความทนทาน ประหยัดน้ำมัน และหาอะไหล่สะดวก ทำให้แบรนด์ญี่ปุ่นยังครองตลาด ในขณะที่แบรนด์จีนอย่าง MG และเกรทวอลล์เริ่มมาแรงด้วยราคาที่จับต้องได้ แต่โดยรวมแล้วโตโยต้ายังคงเป็นแบรนด์ที่คนไทยไว้ใจที่สุด
Q
รถ Toyota รุ่นไหนดีที่สุดที่ควรซื้อในปี 2024?
หากคุณกำลังมองหารุ่น Toyota ที่น่าซื้อที่สุดในตลาดไทยปี 2024 ก็ต้องดูความต้องการของคุณเป็นหลัก ถ้าชอบรถประหยัดน้ำมันและใช้สัญจรในเมืองขอแนะนำ Toyota Yaris Cross ระบบ Hybrid 1.5L ที่รวมจุดแข็งของ SUV เข้ากับเทคโนโลยี Hybrid ประสิทธิภาพสูง เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ แถมยังได้ประโยชน์จากนโยบายลดภาษีรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยด้วย ส่วนใครที่ต้องการความโปร่งสบายและเหมาะสำหรับครอบครัว Toyota Corolla Cross Hybrid ก็เป็นตัวเลือกยอดนิยมด้วยความน่าเชื่อถือและพื้นที่ภายในกว้างขวาง รวมถึงระยะความสูงจากพื้นรถที่เหมาะกับถนนลูกรังบางพื้นที่ของไทย สำหรับคนทำงานหรือต้องขับทางไกลบ่อยๆ Toyota Camry Hybrid จะตอบโจทย์ด้วยความหรูหราและความเงียบสงบของรถ ที่สำคัญไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของ Toyota ทำให้รถที่ผลิตในประเทศมีจุดเด่นเรื่องบริการหลังการขายและอะไหล่ที่หาง่าย แถมยังมีการปรับแต่งเฉพาะสำหรับสภาพอากาศและถนนไทย เช่น ระบบแอร์ที่เย็นฉ่ำและป้องกันสนิมใต้ท้องรถได้ดีขึ้น ทำให้รถ Toyota ในตลาดไทยมีความได้เปรียบในการแข่งขันค่อนข้างสูง
ดูเพิ่มเติม