Q
byd dolphin มีสีอะไรบ้าง
ปัจจุบันในตลาดประเทศไทย BYD Dolphin มีสีให้เลือก 7 สี ได้แก่ Alaskan Grey (อาลาสก้ากรย์), Atoll Blue (วงแหวนฟ้า), Coastal Cream (ครีมชายฝั่ง), Coral Pink (สีชมพูปะการัง), Flora Purple (ม่วงพืช), Mafic Grey (เทาแมฟิก), และ Surge White (ขาวคลื่น)
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ BYD Dolphin คืออะไร
BYD Dolphin มีจุดด้อยบางประการด้านความสบาย ช่วงล่างใช้ระบบแม็คเฟอร์สันด้านหน้าและคานบิดด้านหลัง ซึ่งประสิทธิภาพการดูดซับแรงสั่นสะเทือนอยู่ในระดับทั่วไปให้ความรู้สึกแข็งเกินไปทำให้แรงสั่นสะเทือนและความขรุขระบนถนนส่งผ่านเข้าสู่ห้องโดยสารได้ง่ายระบบกันเสียงไม่ดีนักพร้อมกับยางที่มีเสียงรบกวนสูงเมื่อตัวรถวิ่งเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะได้ยินเสียงยางและลมอย่างชัดเจนด้านพื้นที่เก็บสัมภาระในฐานะรถยนต์แฮทช์แบ็กขนาดเล็ก พื้นที่ท้ายรถจำกัด โดยไม่สามารถพับเบาะหลังได้ ความจุเพียง 345 ลิตรจึงมีความจุไม่เพียงพอในส่วนของฟังก์ชัน เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าทุกรุ่นไม่มีระบบปรับไฟฟ้า สีรถบางและง่ายต่อการเป็นรอยส่วนวัสดุตกแต่งภายในสีอ่อนไม่ทนต่อความสกปรกและมีกลิ่นใหม่ของรถค่อนข้างแรงด้านระยะทางวิ่งในความเร็วสูงหรืออากาศหนาวเย็นจริงอาจลดลงอย่างมากนอกจากนี้ยังมีรายละเอียดการออกแบบที่ควรปรับปรุง เช่น เสา A บางจุดบดบังทัศนวิสัย กล่องเก็บของตรงที่วางแขนใช้พื้นที่ด้านล่างได้ไม่เต็มที่ และไม่มีไฟส่องสว่างบนเพดานหลัง
Q
BYD Dolphin อยู่ในเซกเมนต์อะไร
BYD Dolphin จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ B-Segment ซึ่งหมายถึงรถยนต์ขนาดเล็กที่มีขนาดตัวถังกะทัดรัดและคล่องตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง BYD Dolphin มีความยาว 4150 มิลลิเมตร กว้าง 1770 มิลลิเมตร สูง 1570 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2700 มิลลิเมตร ขนาดโดยรวมสอดคล้องกับลักษณะของรถยนต์ขนาดเล็ก มีประตู 5 บานและที่นั่ง 5 ที่ เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและครอบครัวขนาดเล็ก ในตลาดไทยรถยนต์ขนาดเล็กได้รับความนิยมสูงเนื่องจากจอดรถง่ายและใช้พลังงานทั้งน้ำมันและไฟฟ้าน้อยกว่า Dolphin ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้ามีข้อได้เปรียบจากพลังงานสะอาดที่ไม่มีมลพิษและต้นทุนการใช้รถที่ประหยัด จึงตอบโจทย์แนวโน้มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความคุ้มค่า จึงเป็นผู้นำยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ของไทยและเสริมความแข็งแกร่งในกลุ่ม B-Segment ได้อย่างมั่นคง
Q
ค่า Resale Value ของ BYD Dolphin คืออะไร
BYD Dolphin เป็นหนึ่งในรถยนต์พลังงานใหม่ที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยราคามือสองได้รับผลกระทบจากอายุรถระยะทางใช้งานอุปกรณ์เสริมและสภาพการดูแลรักษาโดยทั่วไปรถมือสองที่มีอายุ 1-2 ปีและระยะทางต่ำประมาณ 20 000 ถึง 40 000 กิโลเมตร รุ่น Standard Range ราคาจะอยู่ระหว่าง 700 000 ถึง 900 000 บาทส่วนรุ่น Long Range จะอยู่ในช่วง 900 000 ถึง 1 100 000 บาทเนื่องจากแบรนด์ BYD ได้รับการยอมรับมากขึ้นในไทยและเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามีความทันสมัยราคามือสองจึงเสื่อมค่าช้ากว่ารถยนต์น้ำมันปกติแต่หากแบตเตอรี่ยังมีสุขภาพดีและมีประวัติการบริการครบถ้วนจะช่วยเพิ่มมูลค่าได้แนะนำให้ผู้ซื้อใช้แพลตฟอร์มรถมือสองมืออาชีพหรือช่องทางรับรองจากทางการเช่นศูนย์ BYD 4S ในการตรวจสอบสภาพรถและรายงานสุขภาพแบตเตอรี่ SOC พร้อมทั้งติดตามนโยบายของรัฐบาลไทยเกี่ยวกับรถพลังงานใหม่เช่นการปรับภาษีนำเข้าเนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อราคาซื้อขายรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง
Q
เกียร์ของ BYD Dolphin คือประเภทอะไร
BYD Dolphin ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติแบบความเร็วเดียวสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีตำแหน่งเกียร์เพียงหนึ่งตำแหน่งโครงสร้างเกียร์แบบนี้เรียบง่ายช่วยลดการสูญเสียพลังงานในกระบวนการส่งกำลังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าและยืดระยะทางวิ่งของรถได้มากขึ้นนอกจากนี้เกียร์ความเร็วเดียวยังไม่มีการเปลี่ยนเกียร์ที่ซับซ้อนทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยจึงควบคุมง่ายและช่วยให้มีสมาธิบนถนนได้ดีโดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดในเมืองรวมถึงเกียร์ชนิดนี้ยังทำงานอย่างเสถียรส่งผลให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างนุ่มนวลลดอาการสะดุดและเพิ่มความสบายในการขับขี่และโดยสาร
Q
ขนาด PCD ของ BYD Dolphin คืออะไร
BYD Dolphin ใช้ขนาด PCD 5x114.3 โดยมีจำนวนรูน็อตล้อ 5 รูและขนาดรูศูนย์กลางล้อ CB อยู่ที่ 60.1 มิลลิเมตรซึ่งเป็นขนาด PCD ที่นิยมใช้ในรถหลายรุ่นยอดนิยมในตลาดไทยเช่นโตโยต้าและฮอนด้าบางรุ่นช่วยให้เจ้าของรถสามารถเปลี่ยนล้อหรืออัปเกรดวงล้อได้ง่ายขึ้นเมื่อซื้อวงล้อแต่งในไทยแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก TISI เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของประเทศนอกจากนี้ค่าความลึก ET และความกว้าง J ของวงล้อต้องตรงกับค่าที่โรงงานกำหนดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบช่วงล่างและความมั่นคงในการขับขี่หากเปลี่ยนล้อที่ไม่ใช่ของเดิมควรระวังการเลือกขนาดยางให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการผิดพลาดของมาตรวัดความเร็วและไม่กระทบต่อระยะทางวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้า
Q
BYD Dolphin มี Apple CarPlay ไหม
BYD Dolphin รุ่นที่จำหน่ายในตลาดติดตั้งฟังก์ชัน Apple CarPlay แบบไร้สายเป็นมาตรฐานผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ iPhone ผ่านหน้าจอสัมผัสได้อย่างราบรื่นเพื่อใช้งานนำทางเล่นเพลงและโทรศัพท์โดยไม่ต้องใช้สายข้อมูลระบบนี้รองรับการใช้งานร่วมกับ Android Auto และระบบอัจฉริยะ DiLink ของ BYD รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA ซึ่งอาจขยายฟังก์ชันการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนในอนาคตสำหรับผู้ใช้ iOS การมี CarPlay ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถในชีวิตประจำวันอย่างมาก
Q
ยี่ห้อของยางรถยนต์ของ BYD Dolphin คืออะไร
BYD Dolphin ที่จำหน่ายในตลาดประเทศไทยมักใช้ยางแบรนด์ Giti Comfort 225 หรือ Hankook Kinergy GT ซึ่งเป็นยางคุณภาพสูงออกแบบเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขนาดมาตรฐานคือ 215 50 R17 ยางเหล่านี้เน้นประสิทธิภาพหลักที่สำคัญต่อรถยนต์ไฟฟ้าคือการยึดเกาะถนนเพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยการลดเสียงรบกวนเพื่อเพิ่มความเงียบภายในห้องโดยสารและการประหยัดพลังงานช่วยลดการใช้ไฟฟ้าและรักษาระยะทางวิ่งจริงผู้ใช้ BYD Dolphin ในไทยหากต้องการเปลี่ยนยางสามารถไปที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตจาก BYD หรือร้านยางแบรนด์ดังต่างๆแนะนำให้เลือกยางที่มีเทคโนโลยีแรงต้านการหมุนต่ำ Low Rolling Resistance LRR ซึ่งช่วยรักษาระยะทางวิ่งตามที่กำหนดนอกจากนี้เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ทั้งในเมืองและบนถนนชนบทในประเทศไทยควรตรวจสอบดัชนีรับน้ำหนัก Load index และระดับความเร็ว Speed rating ของยางที่เลือกตามคำแนะนำในคู่มือรถยนต์
Q
BYD Dolphin เป็นรถยนต์ที่ดีไหม เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียได้ที่นี่
BYD Dolphin เป็นรถยนต์ที่น่าสนใจมีจุดเด่นหลายประการในด้านระยะทางวิ่งจริงทดสอบแล้วพบว่าระยะทางวิ่งคงที่แม้ในสภาพอากาศร้อนสามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะสั้นแบตเตอรี่ใช้แบบใบมีดซึ่งมีความเสถียรสูงในสภาพอุณหภูมิสูงโดยหลังใช้งานหนึ่งปีแบตเตอรี่เสื่อมไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ด้านสมรรถนะการเร่งความเร็วทำได้ดีเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาประมาณ 7 วินาทีให้ความรู้สึกเร้าใจด้านพื้นที่ใช้สอยออกแบบได้อย่างเหมาะสมทั้งเบาะนั่งแถวหน้าแถวหลังและพื้นที่เก็บสัมภาระเพียงพอสำหรับการเดินทางของครอบครัวอุปกรณ์ติดตั้งมาอย่างครบครันรวมถึงระบบความปลอดภัยพื้นฐานเช่น ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถดีไซน์ภายนอกเรียบหรูทันสมัยตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มผู้ใช้รุ่นใหม่แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการเช่นหน้าจอหลักมีขนาดใหญ่ทำให้บางครั้งอาจเผลอสัมผัสโดยไม่ตั้งใจและไปชนกับสิ่งของบนที่วางของระบบเครื่องเสียงหลังอัปเกรดเสียงจะออกแนวสดใสซึ่งบางคนโดยเฉพาะผู้ชายอาจไม่ชอบส่วนเบาะหลังค่อนข้างแข็งทำให้นั่งเดินทางไกลไม่ค่อยสบาย
Q
ความกว้างของ BYD Dolphin คือเท่าไหร่
BYD Dolphin มีความกว้าง 1770 มิลลิเมตรซึ่งเป็นขนาดที่ให้ความสมดุลระหว่างความคล่องตัวของตัวรถกับความกว้างภายในห้องโดยสารเมื่อนั่งภายในรถจะรู้สึกได้ถึงพื้นที่ช่วงไหล่ที่ไม่อึดอัดไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารสองคนแถวหน้าหรือผู้ใหญ่สองคนแถวหลังก็สามารถนั่งได้อย่างสบายนอกจากความกว้างแล้ว BYD Dolphin ยังมีสัดส่วนตัวถังที่ดีในด้านอื่นโดยมีความยาวอยู่ระหว่าง 4070 ถึง 4280 มิลลิเมตรความสูง 1570 มิลลิเมตรและระยะฐานล้อ 2700 มิลลิเมตรซึ่งระยะฐานล้อที่ยาวช่วยเพิ่มพื้นที่ช่วงยาวภายในรถส่งผลให้การโดยสารมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
Q
ราคาภาษีถนนของ BYD Dolphin คือเท่าไหร่ วิธีการคำนวณ
การคำนวณภาษีถนนของ BYD Dolphin ในประเทศไทยใช้หลักการเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปโดยอ้างอิงจากกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดสูตรคือกำลังมอเตอร์สูงสุดหน่วยเป็นกิโลวัตต์คูณด้วยอัตรา 65 บาทต่อกิโลวัตต์เช่นรุ่น Standard ของ Dolphin มีกำลังมอเตอร์ 70 กิโลวัตต์จะต้องจ่ายภาษีถนนปีละ 70 คูณ 65 เท่ากับ 455 บาทรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมรถยนต์พลังงานใหม่โดยให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีถนนซึ่งถูกกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมอย่างมากทั้งนี้ภาษีถนนอาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามรุ่นและปีของรถแนะนำให้สอบถามกับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อยืนยันยอดเงินที่แน่นอนนอกจากภาษีถนนเจ้าของรถยังต้องชำระค่าเบี้ยประกันภัยภาคบังคับประมาณ 600 ถึง 1000 บาทต่อปีรัฐบาลไทยยังสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าด้วยมาตรการอื่นๆเช่นการลดภาษีนำเข้าซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลัง
Q&A ล่าสุด
Q
ความยาวของ Tesla Model 3 คือเท่าไร
Tesla Model 3 มีความยาวตัวถังอยู่ที่ 4,724 มิลลิเมตร จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกลาง ซึ่งขนาดแบบนี้เหมาะอย่างมากสำหรับการขับขี่ในถนนเมืองไทย โดยเฉพาะในพื้นที่แคบหรือถนนที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างในกรุงเทพฯ
ด้วยดีไซน์ที่กระทัดรัด ทำให้ Model 3 จอดรถง่าย ไม่กินพื้นที่ แต่ก็ยังคงความกว้างขวางภายในห้องโดยสารไว้ได้ดี เบาะหลังสามารถรองรับผู้ใหญ่นั่งได้สบาย และพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังก็เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
หลังคากระจกแบบเต็มบานของ Model 3 ออกแบบมาเพื่อกันความร้อนจากแดดเมืองไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมให้มุมมองที่กว้างและสว่างขณะขับขี่ จุดเด่นอีกอย่างคือความเงียบในห้องโดยสารจากการที่เป็นรถไฟฟ้า ช่วยให้การเดินทางรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
นอกจากนี้ Tesla ยังมีเครือข่าย Supercharger ครอบคลุมในประเทศไทย ทำให้ระยะทางขับขี่ของ Model 3 เพียงพอต่อการเดินทางไกล เช่น กรุงเทพฯ–พัทยา โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จระหว่างทาง สำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและชอบเทคโนโลยีล้ำสมัย Model 3 ถือเป็นตัวเลือกที่ทั้งทันสมัยและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
Q
แบตเตอรี่ของ Tesla Model 3 มีความจุเท่าไหร่?
แบตเตอรี่ของ Tesla Model 3 จะมีความจุแตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่น Standard Range จะมีความจุประมาณ 54 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ส่วนรุ่น Long Range จะอยู่ที่ประมาณ 75 กิโลวัตต์-ชั่วโมง และรุ่น Performance จะมีความจุสูงถึง 82 กิโลวัตต์-ชั่วโมง แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนนี้ให้ความหนาแน่นพลังงานสูงและวิ่งได้ระยะทางไกล ส่วนในไทยที่อากาศร้อน การระบายความร้อนของแบตเตอรี่เป็นเรื่องสำคัญ แต่ Tesla มีระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิให้ทำงานได้เสถียรและยืดอายุการใช้งานแม้อยู่ในสภาพอากาศร้อน แถมตอนนี้รัฐบาลไทยยังสนับสนุนการใช้รถไฟฟ้า ถ้าซื้อ Tesla Model 3 ก็จะได้ลดภาษีด้วย อายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถไฟฟ้าโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 8-15 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการชาร์จ แนะนำว่าอย่าชาร์จเร็วบ่อยๆ จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ ในไทย Tesla ก็มีเครือข่าย Supercharger ที่ค่อยๆ ขยายเพิ่มเรื่อยๆ ให้เจ้าของรถสะดวกขึ้น สำหรับคนไทยที่กำลังคิดจะซื้อรถไฟฟ้า นอกจากความจุแบตเตอรี่แล้ว ควรดูเรื่องสถานีชาร์จและบริการหลังการขายด้วย เพราะสองอย่างนี้มีผลต่อการใช้งานจริงไม่น้อย
Q
ราคาบริการของ Tesla Model 3 คือเท่าไหร่?
ราคาบริการสำหรับ Tesla Model 3 ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรายละเอียดงานและศูนย์บริการ โดยบริการพื้นฐานอย่างการเปลี่ยนยางหรือตรวจสอบเบรกอาจมีราคาประมาณ 5,000 ถึง 10,000 บาท ส่วนการซ่อมที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น งานที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่หรือมอเตอร์อาจมีราคาสูงกว่านั้น แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ Tesla ในประเทศไทยเพื่อขอใบเสนอราคาที่แน่นอน สำหรับในไทย การดูแลรักษารถไฟฟ้าจะง่ายกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเพราะไม่มีเครื่องยนต์และเกียร์ ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเหมือนรถทั่วไป แต่การดูแลแบตเตอรี่และระบบอิเล็กทรอนิกส์ยังต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ Tesla ในไทยมีทั้งศูนย์บริการและทีมบริการเคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของรถ พร้อมกันนี้ยังแนะนำให้อัปเดตระบบผ่าน OTA เป็นประจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของรถ ส่วนรัฐบาลไทยเองก็มีนโยบายสนับสนุนการใช้รถไฟฟ้า เช่น การให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ทำให้ต้นทุนการใช้รถไฟฟ้าอย่าง Tesla ถูกลงและดึงดูดความสนใจในตลาดไทยมากขึ้น
Q
รถ Tesla Model 3 ต้องเสียค่าดูแลรักษาเท่าไหร่?
Tesla Model 3 ในประเทศไทยมีค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากโครงสร้างของรถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างเรียบง่าย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง หัวเทียน หรือชิ้นส่วนอื่นๆ ที่รถน้ำมันต้องใช้ การดูแลรักษาหลักๆ จะมีแค่การสลับยางรถยนต์ ตรวจเช็คของเหลวเบรก และเปลี่ยนไส้กรองแอร์เท่านั้น ค่าบำรุงรักษาเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ประมาณ 5,000–8,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่และระยะทางที่ใช้งาน
Tesla ยังมีศูนย์บริการอย่างเป็นทางการในไทย ซึ่งให้บริการด้วยราคาชัดเจนและทีมงานมืออาชีพ ทำให้เจ้าของรถรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น จุดสำคัญของต้นทุนระยะยาวสำหรับรถไฟฟ้าคืออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ซึ่ง Tesla รับประกันแบตเตอรี่ของ Model 3 นานถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ซึ่งช่วยให้เจ้าของรถมั่นใจได้ในระยะยาว
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายลดภาษีและสนับสนุนค่าชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานลดลงไปอีก ในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่หลายแห่งก็มีสถานี Supercharger ของ Tesla ติดตั้งไว้แล้ว ใช้งานสะดวก
โดยรวมแล้ว Tesla Model 3 เป็นรถที่ค่าดูแลรักษาไม่แพง เหมาะกับผู้ที่ต้องการความประหยัด เทคโนโลยีล้ำสมัย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย
Q
ขนาดขอบล้อของ Tesla Model 3 คือเท่าไหร่?
ขนาดล้อของ Tesla Model 3 จะแตกต่างกันไปตามรุ่นที่เลือก โดยรุ่นมาตรฐานมักจะมาพร้อมล้อขนาด 18 นิ้ว ส่วนรุ่นสมรรถนะสูงอาจมาพร้อมล้อขนาด 19 นิ้ว ทั้งนี้ ขนาดล้ออาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตและประเทศที่จำหน่าย
สำหรับในประเทศไทย ซึ่งมีสภาพถนนที่ค่อนข้างหลากหลาย ล้อขนาด 18 นิ้วจะเหมาะสมกว่า เพราะยางมีแก้มยางที่หนากว่า ให้ความนุ่มนวลและทนทานมากกว่าเมื่อต้องเจอกับหลุมบ่อหรือถนนขรุขระ ส่วนล้อขนาดใหญ่แม้จะดูสปอร์ตและสวยงาม แต่เวลาเจอถนนไม่เรียบอาจทำให้รู้สึกสะเทือนมากขึ้น
เวลาจะเลือกขนาดล้อ ยังควรคำนึงถึงราคายางและความสะดวกในการหายางเปลี่ยนด้วย ในไทยมีแบรนด์ยางชื่อดังอย่าง Michelin, Bridgestone ที่มีรุ่นยางที่รองรับ Tesla Model 3 ให้เลือกหลายแบบ เจ้าของรถควรเลือกตามความต้องการการใช้งานและงบประมาณของตน
อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือ ขนาดล้อมีผลต่อระยะทางการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้า ล้อที่มีขนาดเล็กกว่า มักช่วยให้รถใช้พลังงานน้อยลงเล็กน้อย ทำให้ขับได้ไกลขึ้น จึงเป็นอีกเรื่องที่ผู้ใช้ในไทยควรพิจารณาเวลาจะเลือกเปลี่ยนล้อหรือเลือกรุ่นรถ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ.ค. 2025 ไทยขายรถ EV 12,034 คัน BYD Dolphin ขายดีอันดับ 1!
Kevin WongJun 23, 2025

BYD Dolphin Surf วางขายในยุโรป แม้ราคาจะเป็นสองเท่าของจีน แต่ก็ยังถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก
ณัฐวุฒิMay 22, 2025

วิเคราะห์จากสมรรถนะถึงอุปกรณ์เพื่อเข้าใจข้อดีของ BYD Dolphin อย่างครบถ้วน
ธนวัฒน์Apr 14, 2025

BYD Dolphin ที่มีดีไซน์เล็กกระทัดรัดและขับขี่ง่าย เหมาะกับผู้บริโภคประเภทไหนบ้าง?
ธนวัฒน์Sep 9, 2024

BYD Dolphin เป็นที่นิยมได้อย่างไร? BYD ความปลอดภัยของแบตเตอรี่ Blade คือสิ่งสำคัญหลัก!
ธนวัฒน์Sep 9, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย