Q

ล้างรถด้วยตัวเอง ต้องใช้อะไรบ้าง

ถ้าจะล้างรถเองที่ไทย ก็ต้องเตรียมอุปกรณ์กับน้ำยาทำความสะอาดพื้นฐานก่อนเลย อันดับแรกต้องมีถังน้ำ ฟองน้ำหรือถุงมือล้างรถ น้ำยาสำหรับล้างรถโดยเฉพาะ ห้ามใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาดบ้านเด็ดขาดเพราะอาจทำความเสียหายให้สีรถได้ แล้วก็ต้องเตรียมผ้าไมโครไฟเบอร์นุ่มๆ สำหรับเช็ดตัวรถให้แห้ง จะได้ไม่เหลือคราบน้ำ ส่วนเรื่องเวลาล้างรถแนะนำให้ล้างตอนเช้าหรือเย็น เพราะอากาศไทยร้อนมาก ถ้าล้างตอนแดดจัดน้ำยาจะแห้งเร็วเหลือคราบได้ ถ้ามีคราบนกหรือยางไม้ติดอยู่ ให้ใช้น้ำยาเฉพาะทางฉีดทิ้งไว้ก่อนให้มันนุ่ม แล้วค่อยล้าง จะได้ไม่ขูดสีรถเวลาขัด วิธีล้างที่ถูกต้องคือล้างจากบนลงล่าง เริ่มจากหลังคาก่อน แล้วค่อยลงมาที่ตัวรถ สุดท้ายค่อยทำความสะอาดล้อ เพราะล้อมักจะสกปรกที่สุด อาจทำให้ส่วนที่ล้างแล้วเลอะได้อีก นอกจากนี้ควรทาน้ำมันขัดรถเป็นประจำ โดยเฉพาะในไทยที่ฝนตกบ่อย จะช่วยป้องกันสีรถจากกรดในน้ำฝนได้ ถ้าอยากทำความสะอาดให้ละเอียดกว่านี้ สามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดภายในรถ แล้วใช้น้ำยาเช็ดเบาะกับแผงคอนโซลโดยเฉพาะ เพื่อให้ภายในรถสะอาดสดชื่น แต่ระวังอย่าให้น้ำเข้าไปในห้องเครื่องมากเกินไป อาจทำให้ระบบไฟฟ้ามีปัญหาได้ การล้างรถเองนอกจากจะประหยัดเงินแล้ว ยังช่วยให้เราได้ดูแลรถทุกซอกทุกมุมอย่างละเอียดอีกด้วย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A ล่าสุด

Q
ความดันลมยางสำหรับ Mazda 6 ปี 2014 คือเท่าไหร่?
สำหรับรถ Mazda 6 รุ่นปี 2014 ค่าแรงดันลมยางมาตรฐานจะระบุไว้บนสติกเกอร์ที่กรอบประตูด้านคนขับหรือในคู่มือผู้ใช้ โดยในสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของไทย แนะนำให้เติมลมยางล้อหน้าที่ 2.3 บาร์ (34 psi) และล้อหลังที่ 2.2 บาร์ (32 psi) แต่ถ้าขับรถแบบบรรทุกหนักให้เพิ่มอีก 0.1-0.2 บาร์ จากค่ามาตรฐาน เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนและฝนชุก ต้องระวังเรื่องการเปลี่ยนแปลงของแรงดันลมยางเป็นพิเศษ ควรตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้งในขณะที่ยางเย็น ระวังอย่าให้ลมยางมากเกินไปเพราะจะทำให้ยางเกาะถนนลดลง หรือลมยางน้อยเกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น แนะนำให้เติมก๊าซไนโตรเจนเพื่อลดผลกระทบจากความร้อนที่ทำให้ลมยางขยาย-หดตัว สำหรับการขับขี่ประจำวัน สามารถเช็คคร่าวๆ ด้วยการดูว่าดอกยางสัมผัสพื้นถนนสม่ำเสมอหรือไม่ แต่ก่อนเดินทางไกลต้องวัดแรงดันลมยางด้วยเครื่องวัดให้แม่นยำ การตั้งค่าแรงดันลมยางให้เหมาะสมกับสภาพถนนในไทยจะช่วยประหยัดน้ำมันและยืดอายุยางได้ ถ้าต้องขับบ่อยในกรุงเทพฯ ที่รถติดมาก อาจเติมลมยางสูงกว่าค่ามาตรฐาน 0.1 บาร์ เพื่อลดแรงต้านการหมุน แต่ต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพการเบรกบนถนนลื่นในช่วงฤดูฝนด้วย
Q
ความดันลมยางที่ดีที่สุดสำหรับ Mazda 6 คือเท่าใด?
สำหรับรถ Mazda 6 ที่ใช้งานในประเทศไทย แนะนำให้ตรวจสอบคู่มือผู้ใช้หรือป้ายข้อมูลที่กรอบประตูคนขับเพื่อดูค่าความดันลมยางที่เหมาะสม โดยทั่วไปยางหน้าอยู่ที่ 32-35 psi และยางหลัง 30-33 psi แต่ค่าอาจแตกต่างกันไปตามปีรถ รุ่นยางและน้ำหนักบรรทุก ด้วยอากาศร้อนของไทย ความดันลมยางจะเพิ่มขึ้นเมื่ออุณหภูมิสูง ดังนั้นควรวัดและปรับลมยางตอนเช้าเมื่อยางเย็นจะได้ค่าที่แม่นยำที่สุด ระวังอย่าให้ลมยางมากเกินไปเพราะจะทำให้ยางสึกตรงกลางและเกาะถนนลดลง ส่วนลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันและเสี่ยงยางระเบิด สำหรับการใช้งานปกติควรตรวจสอบลมยางเดือนละครั้ง แต่ถ้าจะเดินทางไกลต้องเช็คให้แน่นอน และหากบรรทุกหนักหรือขับความเร็วสูงบ่อยๆ อาจเพิ่มลมยางอีก 2-3 psi พิเศษช่วงหน้าฝนของไทยถนนจะลื่นมาก การรักษาความดันลมยางตามมาตรฐานจะช่วยในการระบายน้ำ ส่วนกรณีที่เปลี่ยนยางแบบกว้างขึ้น ควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรับค่าลมยางให้เหมาะสม
Q
ความดันอากาศมาตรฐานของยางรถยนต์คืออะไร?
ในประเทศไทย ความดันลมยางมาตรฐานของรถยนต์มักจะระบุไว้ในคู่มือการใช้รถหรือบนสติกเกอร์ที่กรอบประตูด้านคนขับ สำหรับรถเก๋งทั่วไป แนะนำให้เติมลมยางล้อหน้าอยู่ที่ประมาณ 30-35 PSI และล้อหลังประมาณ 32-38 PSI แต่ตัวเลขที่แน่นอนอาจต้องปรับตามรุ่นรถ น้ำหนักบรรทุก และสภาพการขับขี่ เช่น รถปิกอัพหรือ SUV เมื่อมีการบรรทุกของอาจต้องใช้ความดันลมยางสูงกว่าปกติ ด้วยอากาศที่ร้อนของประเทศไทย ยางรถมักจะร้อนขึ้นจากการเสียดสีขณะขับขี่ ทำให้ความดันลมยางเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรวัดและปรับความดันลมยางขณะที่ยางเย็นอยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงยางระเบิดจากความดันสูงเกินไป ในทางกลับกัน หากลมยางอ่อนก็จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันและยางสึกเร็วขึ้น การตรวจสอบความดันลมยางเป็นประจำไม่เพียงเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย ที่ประเทศไทยหลายปั๊มน้ำมันและอู่ซ่อมรถมีบริการตรวจความดันลมยางฟรี หรือเจ้าของรถอาจซื้อเครื่องวัดความดันลมยางแบบพกพาไว้ใช้เองก็ได้ นอกจากนี้ในช่วงฤดูฝน การลดความดันลมยางลง 2-3 PSI จะช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนที่เปียกลื่นได้ แต่ต้องอย่าลืมปรับกลับไปที่ค่ามาตรฐานเมื่อขับบนทางหลวงเพื่อความมั่นคงในการขับขี่
Q
Mazda 6 จะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ว่ายางใดมีความดันอากาศต่ำหรือไม่
สำหรับตลาดไทย รุ่นท็อปของ Mazda 6 บางรุ่นมีการติดตั้งระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS) มาให้โดยมาตรฐาน ซึ่งระบบนี้จะแสดงข้อความแจ้งเตือนเมื่อพบความผิดปกติของแรงดันลมยางผ่านหน้าปัดหรือหน้าจอกลาง พร้อมระบุว่ายางเส้นไหนมีแรงดันต่ำกว่าเกณฑ์ ช่วยให้ผู้ขับขี่สะดวกมากๆ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทยที่ต้องขับทางไกลหรือเจอกับถนนสภาพหลากหลาย ถ้ารุ่นของคุณไม่มีระบบนี้ แนะนำให้ติดตั้ง TPMS แบบภายนอกเพิ่มหรือตรวจเช็คลมยางด้วยตนเองเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนและฤดูฝนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะอากาศร้อนจัดในไทยทำให้ลมยางขยายตัว ส่วนถนนหลังฝนนั้นต้องการยางที่มีการยึดเกาะดีกว่าเดิม นอกจากนี้การปรับลมยางให้เหมาะสมนอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังป้องกันไม่ให้ยางร้อนเกินไปจากการลมยางอ่อนได้ด้วย เจ้าของรถในไทยสามารถตรวจสอบค่าแรงดันลมยางที่ผู้ผลิตแนะนำได้จากกรอบประตูหรือฝาถังน้ำมัน และอย่าลืมปรับแรงดันลมยางให้เหมาะกับการบรรทุกในแต่ละครั้งด้วย ถ้าพบว่ายางด้านใดด้านหนึ่งมีลมรั่วบ่อยๆ อาจต้องตรวจสอบว่ายางได้รับความเสียหายจากรอยต่อคอนกรีตหรือถนนขรุขระที่พบทั่วไปในไทยหรือไม่
Q
ทำไมไฟเตือนแรงดันลมยางยังเปิดอยู่เมื่อยางของ Mazda อยู่ในสภาพดี
เมื่อไฟเตือนความดันลมยางของรถ Mazda แสดงขึ้นแต่สภาพยางยังปกติ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ อย่างแรก สภาพอากาศร้อนของไทยทำให้ความดันลมยางเปลี่ยนแปลงได้ง่ายตามอุณหภูมิ แม้ยางจะดูปกติ เซนเซอร์อาจส่งสัญญาณเตือนเมื่อความดันเกินค่าที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ การขับขี่เป็นเวลานานจนยางร้อนหรือการปรับความดันลมยางล่าสุดแต่ไม่ได้รีเซ็ตระบบก็อาจทำให้เกิดการแจ้งเตือนผิดพลาดได้ แนะนำให้ใช้เครื่องวัดความดันลมยางตรวจสอบด้วยตนเองว่าความดันลมยางทั้งสี่ล้อตรงกับค่ามาตรฐานที่ระบุบนกรอบประตูรถ (ปกติอยู่ที่ 32-35 PSI) จากนั้นให้ทำการรีเซ็ตระบบผ่านหน้าจอกลางหรือปุ่มที่พวงมาลัย หากปัญหาเกิดขึ้นบ่อยๆ อาจเกิดจากแบตเตอรี่เซนเซอร์หมดอายุ (อายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี) หรือสัญญาณความเร็วล้อถูกรบกวน ควรนำรถไปตรวจที่ศูนย์บริการมืออาชีพ ข้อควรระวังคือในช่วงฤดูฝนของไทย น้ำบนถนนอาจทำให้เซนเซอร์ทำงานผิดพลาดชั่วคราว แต่ไม่ควรเพิกเฉยหากการแจ้งเตือนยังคงอยู่ ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS) ในรถสมัยใหม่มีสองแบบ คือแบบตรง (วัดความดันจริง) และแบบอ้อม (คำนวณจากความแตกต่างของความเร็วล้อ) รถ Mazda ส่วนใหญ่ใช้ระบบแบบตรงซึ่งมีความแม่นยำสูงแต่ต้องบำรุงรักษาเป็นประจำ แนะนำให้ตรวจสอบความดันลมยางทุกเดือน และตรวจสอบให้แน่ใจก่อนเดินทางไกล เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยาง
ดูเพิ่มเติม