Q

ความแตกต่างระหว่าง Acura MDX และ RDX คืออะไร

ความแตกต่างหลักระหว่าง Acura MDX และ RDX อยู่ที่ตำแหน่งการใช้งานและขนาดตัวรถ โดย MDX เป็น SUV ขนาดใหญ่ที่มีสามแถวที่นั่งจุได้ 7 ที่นั่ง เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง ส่วน RDX เป็น SUV ขนาดกลางแบบ 5 ที่นั่ง ที่ตอบโจทย์ครอบครัวเล็กหรือการเดินทางในชีวิตประจำวันมากกว่า ในส่วนของสมรรถนะ MDX มักติดตั้งเครื่องยนต์ V6 ที่ให้กำลังมากกว่า ในขณะที่ RDX ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ ซึ่งทั้งคู่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม แต่ MDX จะเหนือกว่าในเรื่องการบรรทุกและการลากจูง สำหรับภายในห้องโดยสารและเทคโนโลยี MDX ในฐานะรุ่นท็อปไลน์ใช้วัสดุที่หรูหรากว่าและมีระบบช่วยขับขี่ที่ทันสมัยกว่า ส่วน RDX ดึงดูดผู้บริโภครุ่นใหม่ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัดและความคล่องตัวในการควบคุม ในตลาดไทยที่ถนนหนทางค่อนข้างแออัด RDX อาจเหมาะกับการใช้งานประจำวันมากกว่าเพราะขนาดเล็กกว่า ในขณะที่ MDX เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลบ่อยๆ หรือต้องการบรรทุกผู้โดยสารจำนวนมาก ทั้งสองรุ่นต่างติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบความบันเทิงล่าสุดจาก Acura เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
แพ็คเกจขั้นสูงของ Acura MDX คืออะไร
Acura MDX แพ็คเกจขั้นสูงนี่แหละคือชุดออปชั่นและเทคโนโลยีที่ทางแบรนด์เพิ่มมาให้รุ่นนี้เพื่ออัพเกรดประสบการณ์การขับขี่และความสะดวกสบายของผู้โดยสารแบบเต็มๆ โดยทั่วไปแล้วแพ็คเกจนี้จะมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยไฮเอนด์อย่าง AcuraWatch ที่รวมฟีเจอร์เด็ดๆ เช่น Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Lane Keeping Assist ช่วยควบคุมเลน และ Collision Mitigation Braking System ระบบเบรกป้องกันการชน ส่วนเรื่องความบันเทิงและความสะดวกก็จัดเต็มไม่น้อย ทั้งระบบเสียงคุณภาพสูง เก้าอี้หุ้มหนังแท้ และระบบควบคุมอุณหภูมิแบบแบ่งโซน สำหรับเมืองไทยแล้วแพ็คเกจนี้ถือว่าเพิ่มมูลค่าให้รถได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดและอากาศร้อนชื้น แถมยังช่วยให้การเดินทางทั้งสบายและปลอดภัยขึ้นอีกด้วย อีกเรื่องที่ควรคำนึงถึงคือการเลือกรุ่นที่มีแพ็คเกจเสริมแบบนี้จะทำให้รถมีโอกาสขายต่อได้ง่ายขึ้นในอนาคต เพราะคนซื้อรถมือสองส่วนใหญ่มักมองหารุ่นที่ออปชั่นครบครัน ฉะนั้นการลงทุนกับแพ็คเกจขั้นสูงอาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับใครที่อยากได้ประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียมใน Acura MDX แบบเต็มสูบ
Q
เมื่อ Acura MDX 2021 จะเปิดตัว
Acura MDX 2021 ได้เปิดตัวครั้งแรกในตลาดอเมริกาเหนือเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2021 และเริ่มส่งมารถให้ลูกค้าภายในฤดูใบไม้ผลิของปีเดียวกัน แต่สำหรับตลาดไทยยังไม่มีข่าวชัดเจนว่าจะเข้ามาเมื่อไร ลูกค้าชาวไทยสามารถติดตามข้อมูลล่าสุดได้ที่เว็บไซต์แอคิวร่า ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ รถ SUV หรู 3 แถวที่นั่งรุ่นนี้มาพร้อมกับแพลตฟอร์มใหม่ทั้งหมด ใช้เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตรคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD และเทคโนโลยีความปลอดภัย AcuraWatch ที่อัปเกรดทั้งในเรื่องความสะดวกสบายและฟีเจอร์เทคโนโลยี ในตลาดไทยที่ความต้องการรถ SUV หรูกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง MDX จะต้องแข่งขันกับรถอย่าง Lexus RX และ BMW X 5 แต่สิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญคือเรื่องประหยัดน้ำมันและบริการหลังการขาย ดังนั้นรุ่นไฮบริดและบริการที่ตอบโจทย์คนไทยน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญ สำหรับใครที่สนใจ MDX แนะนำให้เปรียบเทียบทั้งสเปกและราคากับรถระดับเดียวกัน พร้อมคำนึงถึงสภาพถนนไทยและไลฟ์สไตล์การใช้รถ เช่น ความสะดวกในการขับช่วงน้ำท่วมหรือการจอดในเมือง เพื่อเลือกรถที่เหมาะกับตัวเองที่สุด
Q
รถ SUV รุ่นใดที่เทียบเท่ากับ Acura MDX
ในตลาดประเทศไทย รุ่น SUV ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับ Acura MDX ก็จะมี Lexus RX BMW X5 Mercedes-Benz GLE และ Volvo XC90 จากแบรนด์หรูๆ ด้วยกัน รุ่นเหล่านี้มีขนาด เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ความสะดวกสบายที่เทียบเท่ากับ MDX เหมาะสำหรับคนที่มองหาความสบายและประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียม Acura MDX มีจุดเด่นที่เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD ที่ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลและประสิทธิภาพการควบคุมที่ดี ส่วนคู่แข่งอย่าง Lexus RX จะเน้นเทคโนโลยีไฮบริดและความเงียบสงบ BMW X5 ถนัดด้านความสนุกในการขับขี่ Mercedes-Benz GLE โดดเด่นเรื่องความหรูหราของห้องโดยสารและเทคโนโลยี ส่วน Volvo XC90 ขายตรงเรื่องความปลอดภัยและการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวีย ในไทย รุ่นเหล่านี้ต่างก็เป็นที่รู้จักดีในหมู่ผู้บริโภค และมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับความชอบส่วนตัวได้ เช่น ถ้าชอบประหยัดน้ำมันก็อาจจะมองเป็น Lexus RX รุ่นไฮบริด หรือถ้าชอบการขับขี่สปอร์ตก็อาจจะเลือก BMW X5 นอกจากนี้ ตลาดไทยยังมีความต้องการ SUV ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะรถกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่เหมาะกับการใช้ชีวิตในเมือง แต่ยังเหมาะกับการท่องเที่ยวในวันหยุด โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเจอกับสภาพถนนบางพื้นที่ในไทยที่ค่อนข้างซับซ้อน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและการออกแบบช่วงล่างสูงก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งานได้ดีขึ้น
Q
ก๊าซทำความเย็นที่ใช้ใน Acura MDX คืออะไร?
Acura MDX ในฐานะรถ SUV ระดับหรูที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทย ใช้สารทำความเย็นประเภท R134a ซึ่งเป็นสารทำความเย็นแบบรักษ์สิ่งแวดล้อมที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบแอร์รถยนต์ปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติทางเคมีที่เสถียรและประสิทธิภาพการทำความเย็นสูง เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ควรระวังว่ารถยนต์นำเข้าที่จำหน่ายในประเทศไทยหลังปี 2017 อาจเริ่มเปลี่ยนไปใช้สารทำความเย็น R1234yf ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า แต่สำหรับรุ่น MDX นั้นควรตรวจสอบจากแผ่นป้ายข้อมูลรถหรือคู่มือผู้ใช้เพื่อความแน่ชัด เมื่อต้องบำรุงรักษาระบบแอร์ในประเทศไทย แนะนำให้เลือกใช้บริการจากศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตจากผู้ผลิตโดยตรง เพราะมีอุปกรณ์มืออาชีพสำหรับรีไซเคิลสารทำความเย็นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ป้องกันการปล่อยสารทำความเย็นสู่สิ่งแวดล้อมซึ่งขัดกับพระราชบัญญัติควบคุมวัตถุอันตรายของประเทศไทย ข้อมูลเพิ่มเติมคือ R134a ไม่สามารถใช้แทนที่สารทำความเย็นแบบเก่าอย่าง R12 ได้ เพราะอาจทำให้คอมเพรสเซอร์เสียหาย ส่วน R1234yf แม้จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแต่มีต้นทุนสูงกว่า และการออกแบบช่องเติมสารทำความเย็นทั้งสองประเภทก็แตกต่างกันเพื่อป้องกันการเติมผิดประเภท ไม่ว่าจะใช้สารทำความเย็นแบบไหน การตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบและทำความสะอาดคอนเดนเซอร์เป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำความเย็น โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานบนถนนที่มีฝุ่นมากแบบประเทศไทย
Q
Acura MDX มีที่นั่งกี่ที่
Acura MDX คือ SUV หรูขนาด 7 ที่นั่ง มาพร้อมกับเบาะ 3 แถวมาตรฐาน จุผู้โดยสารได้ถึง 7 คน เหมาะมากสำหรับครอบครัวไทยหรือกลุ่มคนที่ต้องการเดินทางร่วมกัน แถวสองอาจเป็นเบาะแบบยาวหรือเบาะคัปเทน (ขึ้นอยู่กับปีและรุ่นที่เลือก) ส่วนแถวสามเหมาะสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ในระยะทางสั้นๆ ในตลาดไทย MDX ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าที่มองหาความหรูคู่กับประโยชน์ใช้สอย ด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวาง เครื่องยนต์วี 6 3.5 ลิตร (หรือระบบไฮบริดเทอร์โบ 3.0 ลิตรในรุ่นใหม่) ที่ให้กำลังลื่นไหล และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD ที่ตอบโจทย์สภาพถนนหน้าฝนของไทย พิเศษสำหรับคนไทยที่สนใจซื้อ แนะนำให้เช็คว่ารถในท้องตลาดมีระบบเป่าลมเย็นที่เบาะ (เหมาะกับอากาศร้อน) หรือระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง (เพิ่มความสบายในระยะยาว) รวมถึงควรทดลองขึ้นลงแถวสามให้คล่องตัว ใช้ความระมัดระวังเล็กน้อยเมื่อจอดรถในซอยแคบๆ ของกรุงเทพฯ เพราะขนาดตัวถัง (ยาวประมาณ 5 เมตร) ส่วนคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง เล็กซัส อาร์เอ็กซ์-แอล หรือ BMW เอ็กซ์7 ก็มีตัวเลือก 7 ที่นั่ง แต่ MDX มักได้เปรียบในเรื่องราคาค่าตอบแทนและแพ็กเกจหลังการขาย
Q
การกำหนดค่าทางเทคนิคที่ติดตั้ง Acura MDX ส่วนใหญ่ประกอบด้วยข้างต้น
Acura MDX มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ครบครัน โดยเฉพาะ AcuraWatch ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะที่รวมฟังก์ชันช่วยขับขี่มากมาย เช่น ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในเมืองไทยทั้งในสภาพการจราจรที่คับคั่งและการเดินทางไกล แถมยังมีหน้าจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วและระบบโปรเจคเตอร์แสดงข้อมูลบนกระจกหน้ารถ (HUD) ขนาด 10.5 นิ้ว ที่ช่วยให้ผู้ขับเห็นข้อมูลสำคัญได้อย่างชัดเจน ลดการเสียสมาธิขณะขับขี่ สำหรับอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ MDX ก็ตอบทุกความต้องการด้วยระบบระบายอากาศบนเบาะและระบบปรับอากาศ 4 โซนอิสระ ที่เพิ่มความสบายให้ทุกที่นั่ง ส่วนคอเพลงต้องถูกใจกับระบบเสียง ELS Studio ที่ใช้เทคโนโลยีระดับมืออาชีพ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่คอนเสิร์ตจริงๆ และที่ขาดไม่ได้คือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD ที่ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะและความมั่นคงบนถนนลื่นๆ ในช่วงฤดูฝนของไทย เทคโนโลยีทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัย แต่ยังทำให้การขับขี่สนุกและราบรื่นขึ้น สำหรับคนไทยที่มองหารถหรูแต่ใช้งานได้จริง MDX ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในระดับเดียวกัน เพราะตอบทั้งความต้องการความหรูหราและประโยชน์ใช้สอยครบจบในคันเดียว
Q
Acura MDX ระยะทางที่สุดท้ายคือเท่าไหร่
Acura MDX ในฐานะรถ SUV ระดับหรู ถังน้ำมันมีความจุประมาณ 72 ลิตร การบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามข้อมูลอย่างเป็นทางการในสภาพถนนที่ครอบคลุมประมาณ 9,4 ลิตร / 100 กิโลเมตร ดังนั้นระยะทางที่วิ่งได้เมื่อเติมเต็มถังจะอยู่ที่ประมาณ 750-800 กิโลเมตร (ประมาณ 466-497 ไมล์) แต่ตัวเลขจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และการดูแลรักษารถ ในประเทศไทยเนื่องจากการจราจรในเมืองมักติดขัด และมีเส้นทางหลวงค่อนข้างน้อย ระยะทางจริงอาจต่ำกว่าตัวเลขทางการเล็กน้อย แนะนำให้เจ้าของรถดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอและขับขี่อย่างเหมาะสมเพื่อประหยัดน้ำมันให้ดีที่สุด นอกจากนี้รุ่น Hybrid ของ MDX จะมีประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมันที่ดีกว่า เหมาะกับสภาพถนนในประเทศไทยที่ต้องหยุดและเริ่มบ่อย สำหรับการเดินทางไกล แนะนำให้วางแผนจุดเติมน้ำมันล่วงหน้า โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลทางภาคเหนือหรือภาคใต้ของประเทศไทย ที่สถานีน้ำมันอาจไม่หนาแน่นเท่ากับในกรุงเทพฯ การเข้าใจระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้จะช่วยให้วางแผนการเดินทางได้ดีขึ้น และลดความไม่สะดวกจากการน้ำมันหมด
Q
Acura MDX วิ่งได้กี่กิโลเมตร
Acura MDX ในประเทศไทย ถือเป็น SUV ระดับพรีเมียมที่ความทนทานอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยเฉพาะระบบเครื่องยนต์และเกียร์ที่สามารถใช้งานได้เกิน 300,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 186,000 ไมล์ หากได้รับการบำรุงรักษาตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ระยะทางจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศแบบร้อนชื้นของไทย การจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ และพฤติกรรมการดูแลรถของเจ้าของ แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองอากาศบ่อยขึ้นเพื่อป้องกันฝุ่นละออง และใช้น้ำมันเครื่องความหนืดสูงเพื่อรองรับการใช้งานในอุณหภูมิร้อนจัด จุดที่ควรสังเกตคือ ตลาดรถมือสองในไทยให้ความสำคัญกับเลขไมล์เป็นพิเศษ การมีประวัติการซ่อมบำรุงจากศูนย์บริการอย่างครบถ้วนจะช่วยรักษามูลค่ารถได้ดีมาก เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD ของ MDX ถือเป็นจุดเด่นที่เหมาะกับสภาพถนนลื่นในช่วงฤดูฝนของไทย นอกจากนี้ นโยบายบริการฟรี 5 ปีจากตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นยังช่วยยืดอายุการใช้งานรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่วางแผนใช้รถระยะยาว แนะนำให้ตรวจสอบระบบส่งกำลังทุก 80,000 กิโลเมตร และให้ความสำคัญกับการบำรุงระบบแอร์เป็นพิเศษ เพราะรายละเอียดเหล่านี้สำคัญมากสำหรับการใช้งานในภูมิอากาศร้อนชื้นแบบไทย
Q
Acura MDX และ RDX อันไหนใหญ่กว่า
ในตลาดไทย Acura MDX มีขนาดใหญ่กว่า RDX โดย MDX เป็น SUV หรูขนาดกลาง ความยาวตัวรถเกิน 5 เมตร มาในแบบ 3 แถวที่นั่ง เหมาะกับครอบครัวหรือการเดินทางไกลที่ต้องการพื้นที่กว้าง ส่วน RDX เป็น SUV ขนาดกะทัดรัด ความยาวตัวรถประมาณ 4.7 เมตร เน้นความคล่องตัวและประสบการณ์การขับขี่ในเมือง ทั้งสองรุ่นได้รับความนิยมในไทย MDX เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางพร้อมผู้โดยสารหลายคนบ่อยๆ ส่วน RDX ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่า ผู้บริโภคไทยสามารถเลือกได้ตามความต้องการ ด้านบริการหลังการขายของ Acura ในไทยมีความพร้อมสูง ทำให้สะดวกในการดูแลรักษา ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบช่วยขับขี่อันทันสมัย ให้ความปลอดภัยระดับสูง และระบบแอร์ที่ทำงานได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย เครื่องยนต์ 3.5L V6 ของ MDX และ 2.0T ของ RDX ให้สมรรถนะที่เหมาะสมกับทุกสภาพถนนในไทย โดยยังคงความประหยัดน้ำมันในระดับที่คาดหวังจาก SUV หรู
Q
ราคาที่จะเปลี่ยนของเกียร์รถ Acura MDX คือเท่าไหร่
เรื่องค่าเปลี่ยนเกียร์ Acura MDX ในตลาดไทยเนี่ย ค่าบริการจะขึ้นอยู่กับปีรถ ประเภทเกียร์ (เช่นเกียร์ออโต้ 9 สปีด หรือ 10 สปีด) รวมถึงช่องทางบริการที่เลือกด้วย โดยทั่วไปอยู่ที่ 1.5 แสนถึง 3 แสนบาท ถ้าใช้บริการศูนย์บริการของทางโรงงานจะราคาสูงกว่าแต่ได้อะไหล่แท้และมีประกันให้ ส่วนอู่ทั่วไปอาจประหยัดกว่าแต่ต้องดูคุณภาพอะไหล่ให้ดี แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบสภาพน้ำมันเกียร์และเปลี่ยนตามกำหนด (ปกติทุก 6 หมื่นกม. หรือตามที่คู่มือระบุ) จะช่วยยืดอายุการใช้งานเกียร์ได้ ที่ไทยอากาศร้อนจัดอาจทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ก็ควรเปลี่ยนบ่อยกว่าปกติหน่อย ในกรณีที่มีปัญหาเช่นการเปลี่ยนเกียร์ผิดพลาดความล่าช้าหรือเสียงผิดปกติควรได้รับการตรวจสอบอย่างทันท่วงทีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะพัฒนาไปสู่การยกเครื่องในขณะที่ศูนย์ซ่อมขนาดใหญ่บางแห่งในประเทศไทยมีบริการทดสอบฟรีซึ่งสามารถใช้ทรัพยากรดังกล่าวเพื่อประเมินสภาพก่อนตัดสินใจเกี่ยวกับแผนการซ่อมแซม

ข้อดี

ห้องโดยสารกว้างขวางเพื่อการขับขี่ที่สบาย
เครื่องยนต์แรงให้พลังงานเพียงพอ
ระบบ SH - AWD ขั้นสูงสำหรับการควบคุมรถที่ดี
การออกแบบที่ดูดีและมีลักษณะที่คมชัด
ที่นั่งที่สบายเหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกล

ข้อเสีย

ระบบขับเคลื่อนมาตรฐานแรงน้อยกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันค่อนข้างสูง ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
พื้นที่เบาะแถวที่สามค่อนข้างจำกัด
ราคาตัวรถและค่าบำรุงรักษาสูง
ตัวเลือกแบบไฮบริดมีให้เลือกน้อย

Q&A ล่าสุด

Q
ราคาของ Carnival 2024 คือเท่าไร?
สำหรับรุ่นปี 2024 ทาง Kia Carnival ในตลาดไทยจะมีเฉพาะรุ่น Hybrid (HEV) ให้เลือก 2 แบบเท่านั้น คือรุ่น Premium ราคา 2,499,000 บาท และรุ่น Luxury ราคา 2,699,000 บาท โดยรถคันนี้ผลิตที่ประเทศมาเลเซีย จากโรงงาน Inokom ที่เมืองกูลิม แล้วส่งมาขายที่ไทย โดยตลาดไทยจะไม่มีรุ่นดีเซลแล้วครับ รถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงถึง 245 แรงม้า/แรงบิด 367 นิวตัน-เมตร ขนาดตัวรถยาว 5,155 มม. x กว้าง 1,995 มม. x สูง 1,785 มม. ระยะฐานล้อ 3,090 มม. ด้านหน้าออกแบบใหม่ตามสไตล์ล่าสุดของ Kia มีไฟหน้าแบบรูปตัว L กลับด้านที่เข้ากับไฟท้าย พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วแบบใหม่ ส่วนความแตกต่างระหว่างรุ่นจะอยู่ที่แผงหน้าปัดและอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกและความสบายมากมาย พร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ SmartSense อีกด้วย
Q
Kia Carnival ปี 2024 ราคาเท่าไหร่?
ราคารุ่น 2024 ของ Kia Carnival อยู่ที่ประมาณ 1.699 - 2.399 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก เช่น รุ่นพื้นฐาน LX ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นมาตรฐาน ส่วนรุ่นสูงสุด Platinum จะมีซันรูปแบบพาโนรามา ระบบเสียงระดับพรีเมียม ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ รถ MPV คันนี้โดดเด่นด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวาง จุผู้โดยสารได้ 7-8 ที่นั่ง แถมยังมีตัวเลือกระบบไฮบริด (ในบางรุ่น) และหน้าจอเทคโนโลยีคู่ขนาด 12.3 นิ้ว เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและการใช้งานเชิงธุรกิจ ส่วนระบบขับเคลื่อนก็มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.2L หรือเครื่องยนต์เบนซิน 3.5L ที่ให้ทั้งความประหยัดและสมรรถนะการขับขี่ ในตลาดไทยคู่แข่งหลักของ Carnival ก็คือ Toyota Alphard และ Honda Odyssey แต่ด้วยราคาที่คุ้มค่าและอุปกรณ์ที่ครบครันกว่า ทำให้คันนี้ได้เปรียบ แถมล่าสุด Kia ยังเพิ่มโปรโมชั่นรับประกัน 5 ปี หรือบริการฟรีสำหรับรุ่นท็อปอีกด้วย ถ้าสนใจผ่อนชำระ ส่วนใหญ่ศูนย์ฯ มีโปรโมชั่นผ่อน 60 งวด อัตราดอกเบี้ยประมาณ 2.5%-3.5% ต่อปี เงินดาวน์เริ่มต้นที่ 20%-30% ของราคารถ
Q
Kia Carnival 2024 ถูกยกเลิกผลิตหรือไม่?
ทางฝั่งค่ายคิวยังไม่มีแถลงการณ์ใดๆ เกี่ยวกับการหยุดผลิตรุ่น Carnival ปี 2024 ตอนนี้รุ่นนี้ยังขายปกติในหลายตลาดทั่วโลก รวมถึงตัวแทนจำหน่ายในบ้านเราก็ยังมีรถรุ่นใหม่ล่าสุดให้เลือกเหมือนเดิม สำหรับ Carnival นั้นเป็น MPV ที่ตอบโจทย์ครอบครัวด้วยจุดเด่นเรื่องการปรับแต่งพื้นที่ภายในที่ยืดหยุ่น ระบบขับเคลื่อนไฮบริด และเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ ADAS ที่ทำให้ยังคงความโดดเด่นในตลาดรถกลุ่มนี้ ถ้าสนใจอัปเดตข้อมูลล่าสุด แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายโดยตรงเพื่อสอบถามสเปกและสต็อครถคันปัจจุบัน รวมเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในตลาดอย่าง Toyota Alphard หรือ Honda Odyssey ที่แต่ละค่ายก็มีจุดแข็งเรื่องการออกแบบพื้นที่ภายในและเทคโนโลยีไฮบริดแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม การเลือกรถ MPV ควรเน้นที่ความต้องการจริงๆ ของครอบครัว เช่น จำนวนสมาชิก ความสะดวกสบายของที่นั่งแถวสาม หรือพื้นที่เก็บของที่เพียงพอ ล่าสุดบางแบรนด์ยังเปิดตัวรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งก็น่าจับตามองเหมือนกัน
Q
หัวข้อหลักของงาน "Bangkok International Motor Show 2024" คืออะไร?
ค่าดว่าหัวข้อหลักของงาน "Bangkok International Motor Show 2024" จะเน้นไปที่ "การเคลื่อนที่อัจฉริยะและอนาคตที่ยั่งยืน" โดยจะโฟกัสไปที่เทคโนโลยีรถไฟฟ้า นวัตกรรมระบบขับขี่อัตโนมัติ รวมถึงโซลูชั่นการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์อุตสาหกรรมยานยนต์โลกที่กำลังเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสนใจของผู้บริโภคไทยต่อรถไฮบริดและรถไฟฟ้า 100% เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แบรนด์ต่างๆ อาจนำเสนอรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่พวงมาลัยด้านขวา เช่น SUV เมืองที่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว หรือรถแฮทช์แบ็กที่มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะที่ออกแบบมาเฉพาะตลาดไทย นอกจากนี้ยังมีจุดน่าสนใจตรงที่งานนี้มักเปิดตัวระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น รวมถึงเทคโนโลยีขับเคลื่อนที่เหมาะกับถนนในฤดูฝน ซึ่งเป็นรายละเอียดสำคัญสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถพลังงานสะอาด นอกเหนือจากโซนจัดแสดงหลัก ยังมีกิจกรรมทดลองขับและสัมมนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีการชาร์จที่น่าสนใจ ช่วยให้เห็นประสิทธิภาพจริงของแต่ละแบรนด์ในสภาพแวดล้อมร้อนชื้น แนะนำให้ติดตามรายชื่อแบรนด์ผู้ร่วมงานล่วงหน้า เพราะบางแบรนด์อาจใช้โอกาสนี้เปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นที่พัฒนามาเฉพาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Q
เครื่องยนต์แบบไหนที่อยู่ใน Kia Carnival รุ่นปี 2024?
รุ่นปี 2024 ของ Kia Carnival นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์สองแบบให้เลือก คือ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.5 ลิตร แบบแรกเป็นเครื่องดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร ที่ให้กำลังส่งเยี่ยม แม้จะรอบต่ำก็ยังดึงแรงบิดได้ดี แถมประหยัดน้ำมันเหมาะกับคนที่ขับทางไกลบ่อยหรืออยากประหยัดค่าน้ำมัน ส่วนเครื่อง V6 3.5 ลิตรนั้นแรงกว่าเยอะ เวลาเร่งแซงหรือขับบนทางด่วนจะรู้สึกถึงความสดวกมากกว่า เหมาะกับคนที่ชอบความสปอร์ต ทั้งสองแบบถูกตั้งแต่งและจูนมาอย่างดี คู่กับเกียร์อัตโนมัติที่ทำงานลื่นไหล ไม่ว่าจะชอบแบบแรงหรือแบบประหยัดก็ตอบโจทย์ได้หมด ทำให้การขับขี่นุ่มนวลและสบายตัวทั้งคนขับและผู้โดยสาร
ดูเพิ่มเติม