Q

รถ Suzuki Swift กินน้ำมันประมาณกี่กิโลเมตรต่อลิตร?

Suzuki Swift ในประเทศไทยมีความประหยัดน้ำมันค่อนข้างดี โดยขึ้นอยู่กับรุ่นและสภาพการขับขี่ สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ อัตราสิ้นเปลืองในเมืองอยู่ที่ประมาณ 5.5–6.0 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ส่วนการขับขี่บนทางหลวงอัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ประมาณ 4.5–5.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบมีความประหยัดน้ำมันมากกว่า โดยในเมืองอยู่ที่ราว 5.0–5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และนอกเมืองต่ำสุดถึงประมาณ 4.0–4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองที่การจราจรหนาแน่นและการขับทางไกล เนื่องจากราคาน้ำมันในไทยค่อนข้างสูง การเลือกรถที่ประหยัดน้ำมันจึงมีความสำคัญ Suzuki Swift ไม่เพียงแค่ประหยัดน้ำมัน แต่ยังมีค่าบำรุงรักษาต่ำ เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่มีงบประมาณจำกัด นอกจากนี้ อากาศร้อนของประเทศไทยอาจส่งผลต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์ จึงควรดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เช่น เปลี่ยนไส้กรองอากาศ และใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสม ซึ่งช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น หากคุณต้องขับรถในเมืองที่มีการจราจรติดขัด เช่น กรุงเทพฯ ควรใช้เทคนิคการขับแบบค่อยๆ เหยียบคันเร่ง และมองการณ์ไกลเพื่อคาดการณ์สภาพถนน ซึ่งจะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้อีกทางหนึ่ง
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Suzuki Swift มีอะไรบ้าง?
Suzuki Swift ถือเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่เน้นความประหยัดและคล่องตัว ได้รับความนิยมในตลาดไทยจากจุดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมันและการขับขี่ที่ว่องไว อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น พื้นที่ภายในค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะบริเวณเบาะหลังที่พื้นที่วางขาและห้องเก็บสัมภาระอาจไม่เพียงพอสำหรับครอบครัวหรือการเดินทางไกล วัสดุภายในห้องโดยสารส่วนใหญ่เป็นพลาสติกแข็ง ซึ่งอาจให้ความรู้สึกเรียบง่าย ส่วนเรื่องการเก็บเสียงยังมีช่องว่างให้พัฒนา โดยเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วสูง นอกจากนี้ ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย หากใช้แอร์บ่อยในรุ่นเริ่มต้น อาจส่งผลต่อแรงตอบสนองของเครื่องยนต์ และบางคนอาจรู้สึกว่าระบบช่วงล่างแข็งไปเล็กน้อย เมื่อต้องขับบนถนนที่ไม่เรียบ อาจรู้สึกสะเทือนมากกว่ารถในกลุ่มเดียวกัน แม้ว่าตลาดรถในไทยจะมีความต้องการรถกระบะและ SUV สูง แต่ Swift ก็ยังตอบโจทย์คนที่เน้นขับในเมืองมากกว่า หากต้องใช้งานบ่อยบนถนนขรุขระหรือมีการบรรทุกของบ่อย ๆ อาจต้องพิจารณารุ่นอื่น จุดแข็งของ Swift คือค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง และราคาขายต่อในตลาดรถมือสองอยู่ในเกณฑ์ดี จึงเหมาะกับผู้ที่มีงบจำกัด เช่น นักศึกษาหรือผู้ที่มองหารถคันที่สองไว้ใช้งานในชีวิตประจำวัน แนะนำให้ผู้ที่สนใจพิจารณาความเหมาะสมกับการใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อ.
Q
Suzuki Swift อยู่ใน Segment ไหน?
Suzuki Swift ในตลาดประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก (B-Segment) และถือเป็นรถแฮทช์แบ็กรุ่นประหยัดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมแบบเมืองไทยที่มีการจราจรหนาแน่นและพื้นที่จอดรถจำกัด Swift กลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดี ด้วยขนาดตัวถังที่กะทัดรัด การควบคุมที่คล่องตัว และความประหยัดน้ำมันที่โดดเด่น ทำให้ Swift เป็นที่ชื่นชอบในหมู่คนรุ่นใหม่และครอบครัวขนาดเล็กในไทย นอกจากนี้ ดีไซน์ที่ทันสมัยและสปอร์ตยังสอดคล้องกับรสนิยมของผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบัน ในตลาดไทย Swift ต้องแข่งขันกับรถรุ่นอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน เช่น Honda Jazz และ Toyota Yaris แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและค่าดูแลรักษาที่ไม่แพง ทำให้ Swift ยังคงรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี Swift ที่จำหน่ายในไทยมักจะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ และ 1.0 ลิตรแบบเทอร์โบ ซึ่งให้สมรรถนะที่เพียงพอควบคู่กับความประหยัดน้ำมัน อีกทั้งยังมีการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและสภาพถนนในประเทศไทย เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นของแอร์ และการปรับช่วงล่างให้เหมาะกับการขับบนถนนไทย สำหรับผู้ที่มีงบจำกัดแต่ต้องการรถที่มีคุณภาพดี ดีไซน์สวย และใช้งานได้จริง Swift ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ และด้วยอัตราการรักษามูลค่าที่ดีในตลาดรถมือสอง ยังช่วยลดต้นทุนในการใช้งานระยะยาวอีกด้วย.
Q
มูลค่าขายต่อของ Suzuki Swift คือเท่าไหร่?
ในตลาดรถยนต์ประเทศไทย Suzuki Swift มีมูลค่าขายต่อที่ค่อนข้างมั่นคง สาเหตุหลักมาจากความประหยัด ทนทาน และชื่อเสียงของแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร และ 1.4 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ซึ่งมีต้นทุนการซ่อมบำรุงต่ำและอะไหล่หาง่าย ทำให้ได้รับความนิยมในตลาดรถมือสองอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปแล้ว Swift ที่มีอายุการใช้งานระหว่าง 3-5 ปี มักจะสามารถขายต่อได้ในราคาประมาณ 50%-65% ของราคารถใหม่ และหากรถอยู่ในสภาพดี วิ่งน้อย มีประวัติการบำรุงรักษาครบถ้วน ราคาขายต่ออาจสูงกว่านั้นอีก ในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย สีรถที่ได้รับความนิยมอย่างสีแดงหรือสีน้ำเงิน มักจะมีความน่าสนใจในตลาดมือสองมากกว่าสีพื้นทั่วไป และด้วยจำนวน Swift ที่มีใช้งานอยู่มากในไทย ทำให้การซื้อขายรถรุ่นนี้ในตลาดมือสองค่อนข้างคล่องตัว ทั้งนี้ รุ่นที่เป็นไฮบริดหรือเครื่องยนต์เทอร์โบจะพบได้น้อยในไทย และอาจมีผลต่อความนิยมและราคาขายต่อของรถบางรุ่น หากเจ้าของรถต้องการเพิ่มมูลค่ารถในอนาคต แนะนำให้เก็บประวัติการบำรุงรักษาให้ครบถ้วน และหลีกเลี่ยงการดัดแปลงรถ เนื่องจากผู้ซื้อส่วนใหญ่มักชอบรถที่ยังอยู่ในสภาพเดิมจากโรงงาน นอกเหนือจาก Swift แล้ว Honda Jazz และ Toyota Yaris ก็ถือเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดรถมือสองกลุ่มนี้ แต่ Swift ยังคงได้เปรียบด้านราคาและดีไซน์ที่ดูสปอร์ต ซึ่งมักจะถูกใจกลุ่มผู้ใช้รถวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่เป็นพิเศษ.
Q
Suzuki Swift มีขนาดเครื่องยนต์กี่ซีซี?
เครื่องยนต์ Suzuki Swift มีความจุ 1,197 ซีซี หรือเท่ากับ 1.2 ลิตร ซึ่งขนาดเครื่องยนต์นี้ถือว่าดีลระหว่างพลังและประหยัดน้ำมันได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกขับขี่ลื่นไหล ไม่สะดุด สำหรับเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรของ Swift โดยทั่วไปแล้วจะให้กำลังม้าและแรงบิดที่เพียงพอ ทำให้ขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัวในทุกสภาพการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการขับในเมืองหรือเดินทางไกล เครื่องยนต์ 1,197 ซีซี ก็ตอบโจทย์ได้ดี นอกจากนี้ ขนาดเครื่องยนต์ที่กระทัดรัดยังช่วยให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาและกะทัดรัดขึ้น ส่งผลให้การควบคุมและการขับขี่มีความคล่องตัวมากขึ้น
Q
Suzuki Swift ใช้เครื่องยนต์อะไร?
Suzuki Swift มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.2L แบบธรรมดา (Naturally Aspirated Engine) ใช้ระบบดูดอากาศธรรมชาติ มีจำนวนกระบอกสูบ 4 ลูก เครื่องยนต์สามารถให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 6000 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 4400 รอบต่อนาที เทคโนโลยีของเครื่องยนต์นี้ได้รับการพัฒนาอย่างดี มั่นคง และมีต้นทุนในการบำรุงรักษาที่ต่ำ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันในเมือง ในด้านประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน ก็ทำได้ดี โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันรวม 4.4L/100km ซึ่งช่วยให้เจ้าของรถประหยัดค่าใช้จ่ายน้ำมันได้ เครื่องยนต์นี้ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ CVT ที่เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างราบรื่น มีการสลับเกียร์ที่น้อยมาก ทำให้ประสบการณ์การขับขี่สะดวกสบายมากขึ้น
Q
เกียร์ของ Suzuki Swift เป็นแบบไหน?
รถ Suzuki Swift ทุกรุ่นมาพร้อมกับเกียร์ CVT ที่ให้ความรู้สึกเรียบเนียนเวลาขับขี่ ไม่มีสะดุดเวลาเปลี่ยนเกียร์ แถมยังช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ดีอีกด้วย เกียร์แบบ CVT นี่แหละที่ทำให้การขับขี่ในเมืองหรือบนถนนที่มีการหยุด-เดินบ่อยๆ รู้สึกสบายๆ ไม่หงุดหงิด เพราะมันปรับเปลี่ยนได้ตามความเร็วรถอัตโนมัติ ส่วนเรื่องประหยัดนี่ก็เด็ด เพราะเกียร์ CVT จะช่วยควบคุมรอบเครื่องยนต์ให้ทำงานในระดับที่เหมาะสม ผลก็คือ Suzuki Swift ที่ติดตั้งเกียร์ CVT คู่กับเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร สามารถทำระยะทางได้ถึง 4.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรตามที่บริษัทประกาศ ช่วยให้เจ้าของรถประหยัดค่าน้ำมันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
Q
PCD Size ของ Suzuki Swift คือเท่าไหร่?
สำหรับรถ Suzuki Swift ที่จะวางจำหน่ายในตลาดไทย รูยึดล้อหรือ PCD มีขนาด 4x100 หมายความว่าล้อจะมีรูสลัก 4 รู และระยะวงกลมระหว่างศูนย์กลางรูสลักคือ 100 มิลลิเมตร ซึ่งขนาดนี้เข้ากันได้กับล้อแม็กซ์อัพเกรดส่วนใหญ่ที่นิยมใช้ในไทย เวลาติดตั้งต้องระวังเรื่องขนาดรูกลางล้อ (CB) ที่ปกติจะอยู่ที่ 54.1 มิลลิเมตร และควรใช้ริงปรับขนาดเพื่อให้ล้อเข้าได้พอดีกับดุมล้อ สภาพอากาศไทยที่ชื้นและฝนบ่อยอาจส่งผลต่อวัสดุของล้อ แนะนำให้เลือกล้ออัลลอยเพื่อลดน้ำหนักและช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น ที่สำคัญต้องคอยตรวจสอบแรงขันน็อตล้อบ่อยๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่ขับบ่อย ส่วนเรื่องแต่งล้อที่นิยมในไทย ต้องเช็คค่า ET (ระยะออฟเซ็ตล้อ) ให้ใกล้เคียงของเดิมที่สุด จะได้ไม่กระทบ suspension หรือให้ล้อเสียดสีกับบังโคลน และอย่าลืมตรวจสอบกฎหมายจากกรมการขนส่งทางบกว่าสามารถแต่งได้แค่ไหน
Q
Suzuki Swift รับรอง Apple Carplay ไหม?
ใช่แล้ว รุ่น Suzuki Swift บางรุ่นและบางปีมีการรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay โดยขึ้นอยู่กับสเปคและการกำหนดระดับของรถในแต่ละตลาด สำหรับตลาดไทย รุ่น Swift ระดับสูงตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไปมักมาพร้อมกับ Apple CarPlay เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ iPhone กับหน้าจอรถยนต์ได้สะดวก ใช้สำหรับการนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ได้อย่างราบรื่น แต่สำหรับรุ่นพื้นฐานอาจไม่มีฟีเจอร์นี้ แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายในไทยก่อนซื้อเพื่อตรวจสอบสเปคของรถรุ่นนั้นๆ ที่น่าสนใจคือ Apple CarPlay ในไทยถือว่ามีประโยชน์มาก โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรติดขัด ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้ฟังก์ชันมือถือได้อย่างปลอดภัยขึ้น แต่ถ้ารุ่น Swift ของคุณไม่รองรับ CarPlay ก็สามารถติดตั้งหัวเครื่องหลังขายที่รองรับฟีเจอร์นี้ได้ ร้านแต่งรถหลายแห่งในไทยให้บริการติดตั้งในราคาประมาณ 5,000-15,000 บาท นอกจากนี้ คนไทยยังนิยมใช้ Android Auto หรือระบบมัลติมีเดียในรถที่รองรับการใช้งานในท้องถิ่น เช่น Mapbox ที่มีระบบนำทางภาษาไทย ซึ่งก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยอัปเกรดประสบการณ์การขับขี่ได้ดีเหมือนกัน
Q
ยางยี่ห้อไหนที่ใช้ได้กับ Suzuki Swift?
ในตลาดไทย ยางรถยนต์ที่ติดตั้งมาจากโรงงานของ Suzuki Swift จะแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและระดับการปรับแต่ง ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นยางแบรนด์ญี่ปุ่นอย่างบริดจสโตนหรือดันลอป ซึ่งเป็นยางที่หาซื้อได้ทั่วไปในไทยและเหมาะกับสภาพอากาศแบบร้อนชื้น ตัวอย่างเช่น รุ่นปี 2022 บางรุ่นใช้ยางซีรีส์ Ecopia ของบริดจสโตน ที่เน้นการประหยัดน้ำมันและความทนทาน เหมาะกับสภาพถนนในเมืองและช่วงฤดูฝนของไทย เวลาเลือกซื้อยางเปลี่ยน นอกจากยางแบรนด์เดิมแล้ว คนไทยนิยมเลือกใช้ยางอย่างมีชลิน ซีรีส์ Energy หรือแบรนด์ท้องถิ่นอย่างดีสโตน เพราะราคาดีและเหมาะกับถนนร้อนๆ ของไทย แต่อย่าลืมเช็คขนาดยางให้ตรงกับขนาดเดิมของรถ เช่น 185/55 R16 หรือ 165/80 R14 รวมถึงต้องสังเกตดอกยางและสภาพการสึกหรอด้วย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนควรเลือกยางที่มีดอกยางรีดน้ำดี นอกจากนี้ กฎหมายไทยกำหนดให้ยางต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน TIS เพราะฉะนั้นเวลาซื้อต้องตรวจสอบฉลากให้ชัวร์ว่าได้มาตรฐานความปลอดภัย
Q
รถ Suzuki Swift เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
ซูซูกิ สวิฟท์ เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยจุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันที่เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดบ่อยในเมืองไทย นอกจากนี้ยังมีขนาดกระทัดรัด ขับเคลื่อนได้คล่องตัวในซอยแคบๆ หรือที่จอดรถที่คับคั่ง ค่าบำรุงรักษาก็ไม่สูงนัก เหมาะกับผู้ที่มีงบจำกัด ด้านการออกแบบภายในตัวรถ สวิฟท์มาด้วยความเรียบง่ายและใช้งานได้จริง แม้วัสดุส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกแข็ง แต่ก็มีการประกอบที่แน่นหนา สมกับระดับราคา ในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐานก็มีระบบความปลอดภัยพื้นฐานเช่น ABS และถุงลมนิรภัย 2 ตอน ส่วนรุ่นสูงอาจมีกล้องถอยหลังให้ด้วย แต่จุดที่อาจต้องแลกมาคือพื้นที่เบาะหลังที่ค่อนข้างจำกัด เหมาะกับครอบครัวเล็กหรือการเดินทางในเมือง แต่ถ้าเดินทางไกลอาจรู้สึกอึดอัด ส่วนระบบกันเสียงในเวลาที่ขับด้วยความเร็วสูงก็ยังมีที่ต้องปรับปรุง ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบแอร์เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคไทยให้ความสำคัญ ซึ่งสวิฟท์ทำได้อยู่ในระดับพอใช้ รถคันนี้เหมาะกับวัยทำงานหรือนักศึกษาในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ด้วยความน่าเชื่อถือและค่าบำรุงที่ต่ำ ทำให้มูลค่ารถมือสองยังอยู่ในระดับดี สำหรับคนไทยที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อ ควรเลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการจริงๆ และอย่าลืมดูแลรักษาให้ดี ส่วนใครที่ยังไม่แน่ใจ อาจลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่างโตโยต้า ยาริส หรือฮอนด้า บรีโอ เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะที่สุด

ข้อดี

การออกแบบที่พลิกเกม การขับที่สนุกสันทนาการ
การใช้แพลตฟอร์ม HEARTECT ที่ออกแบบใหม่ โครงการรถมีความแข็งแรงมากขึ้น น้ำหนักของรถลดลง 85 กก. ความสูงของรถลดลง 15 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 40 มม.
เครื่องยนต์ใหม่ รหัส K12M ปริมาตรพื้นที่ 1.2 ลิตร ใช้เทคโนโลยี Dual Jet กำลังสูงสุดที่ 6,000 รอบเป็น 83 แรงม้า แรงบิดที่ 4,400 รอบเป็น 108
ขากรรไกรใหม่ที่ออกแบบง่ายต่อการควบคุม ใช้งานที่คล้ายกันกับรุ่นก่อนหน้านี้แต่มีจุดยึดใหม่ที่ออกแบบขึ้น เพื่อทำให้ขากรรไกรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปรับปรุงแบริ่งข้อหมุนให้การควบคุมมากขึ้น
ลักษณะภายนอกที่เน้นท่องกีฬา ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าหรือขนาดของรถดูเป็นที่สมดุล และเน้นในสไตล์กีฬา
มีการติดตั้งอันปลอดภัยมาก เช่น ถุงลมนิรภัย 6 อัน ระบบควบคุมความนิ่งที่ไอร์ ระบบช่วยสตาร์ทแบบชันนาน ระบบเบรก ABS/EBD ฯลฯ11

ข้อเสีย

CVT บางครั้งช้า การเร่งความเร็วไม่พร้อมให้ดีพอ การเร่งความเร็วหลังจาก 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นปานกลาง
พื้นที่ที่นั่งด้านหลังค่อนข้างอึดอัด อาจจะไม่เป็นมิตรกับผู้โดยสารที่มีความสูงมาก ผู้โดยสารสามคนที่นั่งในระยะทางยาวอาจจะรู้สึกเหนื่อย22

Q&A ล่าสุด

Q
แรงบิดของ Toyota Vios 2020 คือเท่าไร
รถโตโยต้า Vios รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดประเทศไทย ใช้เครื่องยนต์ 1NZ-FE ขนาด 1.5 ลิตร ให้แรงบิดสูงสุดที่ 140 นิวตันเมตร (ประมาณ 14.3 กิโลกรัมเมตร) ซึ่งจะเข้าถึงจุดแรงบิดสูงสุดที่ความเร็ว 4,000 รอบ/นาที เมื่อทำงานร่วมกับเกียร์ CVT จะให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลในเมือง เหมาะสมกับสภาพการจราจรที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆในกรุงเทพฯ แรงบิดเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บอกความสามารถในการเร่งและปีนเขาของรถ โดย Vios ถูกตั้งค่าให้เน้นประหยัดน้ำมันและใช้งานในชีวิตประจำวัน แรงบิดที่ตอบสนองดีในรอบต่ำทำให้ขับขี่สะดวกทั้งในสภาพการจราจรติดขัดหรือการเดินทางระยะสั้นที่พบได้บ่อยในไทย หากผู้ขับขี่ต้องการพลังมากขึ้น สามารถเลือกรุ่น GR-S ที่เป็นเวอร์ชั่นสปอร์ต (หากมีจำหน่าย) แต่ควรตรวจสอบรายละเอียดเพราะข้อมูลอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีและรุ่นย่อย ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้บำรุงรักษาระบบเกียร์และระบบระบายความร้อนอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาประสิทธิภาพ และควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำอย่าง 0W-20 ที่เหมาะสมกับภูมิอากาศร้อนเพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีขึ้น
Q
ขนาดล้อของ Toyota Vios 2020 คือเท่าไหร่
โตโยต้า วีออส รุ่นปี 2020 ในตลาดไทยมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว จับคู่กับยางขนาด 185/60 R15 ซึ่งให้สมดุลทั้งความสบายในการขับขี่และความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยในไทย ขนาดยางดังกล่าวช่วยยึดเกาะถนนเปียกได้ดีและลดแรงต้านการหมุน ทำให้เหมาะทั้งกับการขับในกรุงเทพที่การจราจรหนาแน่นและการเดินทางไกล หากผู้ใช้ต้องการอัปเกรดล้อ ควรตรวจสอบให้เป็นไปตามกฎหมายจราจรไทย โดยทั่วไปขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อใหม่ไม่ควรต่างจากเดิมเกิน 3 เปอร์เซ็นต์ และต้องเลือกค่า J ของล้อให้เหมาะสมเพื่อรักษาความมั่นคงในการขับขี่ รถในระดับเดียวกันเช่น ฮอนด้า ซิตี้ ก็มักใช้ล้อ 15 นิ้วเช่นกันแต่สเปกยางอาจต่างออกไป ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามการใช้งานจริง ทั้งนี้ควรตรวจสอบการสึกหรอของยางเป็นประจำโดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝน และรักษาความดันลมยางให้อยู่ที่ประมาณ 22 ถึง 24 บาร์ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
Q
รถโตโยต้า วีออส ปี 2020 ประหยัดน้ำมันไหม?
รถโตโยต้า วีออส รุ่นปี 2020 ในตลาดไทยนั้นประหยัดน้ำมันได้ดีมากครับ ด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดธรรมดา คู่กับเกียร์ CVT ตัวเลขสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจากทางบริษัทบอกไว้ว่าประมาณ 5.5-5.8 ลิตร/100 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองไทยทั้งในเมืองที่ต้องหยุดๆ เริ่มๆ และการเดินทางไกล โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงราคาน้ำมันที่ค่อนข้างสูงในไทย ทำให้จุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันของวีออสนี้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันมาก ส่วนระบบแอร์ที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ดีแม้อากาศร้อนจัดของไทยก็ไม่ทำให้น้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมค่าบำรุงรักษาก็ไม่สูงจนเกินไป เหมาะกับคนงบประมาณจำกัด ถ้าอยากให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น แนะนำให้บริการตามกำหนด ใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสม และขับขี่อย่างมีสติ หลีกเลี่ยงการเหยียบกระแทกหรือเบรกกะทันหัน ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน วีออสยังได้เปรียบเรื่องความทนทานและอัตราการครองรถในตลาดไทย ซึ่งก็นับเป็นปัจจัยที่น่าคิดไม่น้อยเลยครับ
Q
โทโยต้า วีออส มีถุงลมนิรภัยกี่ใบ
จำนวนถุงลมนิรภัยของโตโยต้า วีออสในตลาดไทยขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและออปชันที่เลือก โดยรุ่นใหม่ที่จำหน่ายในปัจจุบันมักติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ได้แก่ คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมด้านข้าง อย่างไรก็ตามผู้บริโภคควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดผ่านเว็บไซต์โตโยต้า ประเทศไทยหรือสอบถามผู้แทนจำหน่ายโดยตรง เนื่องจากแต่ละปีหรือตัวรุ่นพิเศษอาจมีความแตกต่าง ภายใต้สภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยในไทย นอกจากจำนวนถุงลมนิรภัยแล้ว เจ้าของรถควรตรวจสอบระบบเซนเซอร์และสายไฟของถุงลมเป็นระยะเพื่อป้องกันการชำรุดหรือความชื้น อีกทั้งการใช้เข็มขัดนิรภัยควบคู่กันจึงจะป้องกันได้สูงสุด โตโยต้า วีออสซึ่งเป็นรถยอดนิยมในไทยมีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยตามมาตรฐาน ASEAN NCAP สอดคล้องกับความต้องการด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นในตลาดไทย ผู้บริโภคยังสามารถเปรียบเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกันเช่น ฮอนด้า ซิตี้ หรือมาสด้า 2 เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ แต่ท้ายที่สุดควรเลือกตามงบประมาณและการใช้งานจริง
Q
2020 Toyota Vios มีแรงม้าเท่าไร
รถโตโยต้า Vios รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดประเทศไทยมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ แบบธรรมชาติ โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อยด้วยกัน รุ่นมาตรฐานให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า (ประมาณ 79 กิโลวัตต์) ส่วนรุ่นปรับแต่งพิเศษสามารถทำกำลังได้ถึง 110 แรงม้า (ประมาณ 81 กิโลวัตต์) คู่กับเกียร์ CVT หรือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่ออกแบบมาเพื่อประหยัดน้ำมันและตอบโจทย์การขับขี่ประจำวันในเมืองได้ดี โดยเฉพาะระบบระบายความร้อนและแอร์ที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ทำให้ขับสบายแม้ต้องใช้รถนานๆ จริงๆแล้วแรงม้าไม่ใช่ตัววัดประสิทธิภาพรถเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องดูปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย เช่น แรงบิดที่รอบต่างๆ น้ำหนักตัวรถ และการตั้งค่าเกียร์ สำหรับคนไทยที่กำลังเลือกซื้อรถ ถ้าต้องการขับขึ้นเขาบ่อยหรือขับทางไกลอาจเน้นรถที่ให้แรงบิดสูงที่รอบต่ำ แต่ถ้าอยากประหยัดน้ำมันจริงๆ เกียร์ CVT ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ Vios ถือเป็นรถซีดานคอมแพคขายดีอันดับต้นๆของไทย ที่สำคัญคือความทนทานและบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน โดยตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่มักให้บริการรับประกันนานถึง 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบที่ดึงดูดลูกค้าได้ไม่น้อย
ดูเพิ่มเติม