Q

Mitsubishi Xpander ประหยัดน้ำมันเพียงใดนะ?

Mitsubishi Xpander มีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีในตลาดไทย โดยทั่วไปแล้ว การใช้พลังงานในสภาวะการขับขี่ปกติจะอยู่ที่ประมาณ 6 ถึง 7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ข้อมูลนี้จะได้รับผลกระทบจากนิสัยการขับขี่ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุกของรถยนต์ ในถนนในเมืองที่ต้องมีการหยุดและออกตัวบ่อยๆ อาจทำให้การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนบนทางหลวง การรักษาความเร็วที่สม่ำเสมอจะช่วยลดการใช้น้ำมัน โดยรวมแล้ว สำหรับรถ MPV ที่ใช้ในครอบครัว Mitsubishi Xpander มีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่สามารถตอบสนองความต้องการการเดินทางประจำวันของผู้ใช้ส่วนใหญ่ได้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Mitsubishi Xpander คืออะไร
Mitsubishi Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ได้รับการยอมรับในด้านความกว้างขวางและความคุ้มค่าในการใช้งาน แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น เบาะแถวสามมีพื้นที่วางขาแคบ ทำให้ผู้ใหญ่โดยสารได้ไม่สะดวกและไม่เหมาะกับการเดินทางไกล เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติเมื่อบรรทุกเต็มที่หรือขึ้นเขาจะรู้สึกแรงไม่เพียงพอ เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก แต่เวลาต้องเร่งแซงบนทางด่วนควรวางแผนล่วงหน้า ส่วนวัสดุภายในเน้นพลาสติกแข็งทำให้สัมผัสและการเก็บเสียงอยู่ในระดับกลาง ระบบกันสะเทือนมีความแข็งพอสมควร จึงให้ความรู้สึกกระด้างเมื่อขับผ่านถนนชนบทที่ไม่เรียบในบางพื้นที่ อย่างไรก็ตาม Xpander มีความประหยัดน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำ เหมาะกับครอบครัวที่เน้นประโยชน์ใช้สอย หากต้องใช้งานบรรทุกผู้โดยสารเต็มที่และเดินทางไกลบ่อย ควรทดลองขับเพื่อประเมินสมรรถนะและพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสม ในตลาดไทยยังมีตัวเลือกอื่นอย่าง Toyota Avanza หรือ Honda BR-V ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องเครื่องยนต์และวัสดุภายในที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคควรพิจารณางบประมาณและความต้องการส่วนตัวประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ.
Q
วิธีปิดโหมด eco ใน mitsubishi xpander
การปิดโหมด Eco ใน Mitsubishi Xpander โดยปกติจะค่อนข้างง่าย คุณสามารถค้นหาตัวเลือกการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องได้จากแผงควบคุมของรถยนต์หรือหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ การดำเนินการอาจจะต้องกดปุ่มเฉพาะหรือเลือกผ่านเมนู แต่ในรถที่มีการตั้งค่าต่างกันอาจจะมีความแตกต่างเล็กน้อย โดยทั่วไปแล้วคุณจะพบโหมด Eco ในตัวเลือกโหมดการขับขี่และสามารถปิดได้จากที่นั่น
Q
mitsubishi xpander ทำขึ้นในประเทศใด
รถยนต์ Mitsubishi Xpander ในตลาดประเทศไทยมีแหล่งการผลิตที่แตกต่างกัน รุ่นเบนซินแบบดั้งเดิมของ Mitsubishi Xpander ผลิตที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยบริษัท Mitsubishi Motors Krama Yudha Indonesia (Mitsubishi Motors Krama Yudha Indonesia, MMKI) ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดชวาตะวันตกของอินโดนีเซีย และส่งออกไปยังประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ตั้งแต่ต้นปี 2024 เป็นต้นไป เพื่อใช้ประโยชน์จากนโยบายภาษีสำหรับรถยนต์ไฮบริดในประเทศไทย Mitsubishi เริ่มผลิตรุ่นไฮบริดของ Xpander ที่โรงงานในจังหวัดชลบุรีที่ชื่อว่าโรงงานแหลมฉบัง (Laem Chabang plant) เพื่อจำหน่ายในตลาดประเทศไทย
Q
ราคามิตซูบิชิ xpander cross คือเท่าไหร่
ราคา Mitsubishi Xpander Cross ในประเทศไทยอาจแตกต่างกันไปตามการตั้งค่าและพื้นที่การขาย โดยทั่วไปแล้วจะมีราคาอยู่ระหว่าง 899,000 ถึง 946,000 บาท
Q
วิธีการเริ่มต้นมิตซูบิชิ xpander
Mitsubishi Xpander เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย สำหรับการสตาร์ทรถ Mitsubishi Xpander ให้แน่ใจว่ารถอยู่ในตำแหน่งเกียร์จอด จากนั้นใส่กุญแจเข้าไปในสวิตช์จุดระเบิดและหมุนไปที่ตำแหน่ง "ON" ซึ่งจะทำให้แผงหน้าปัดของรถสว่างขึ้นและสัญญาณไฟที่เกี่ยวข้องจะทำการทดสอบ จากนั้นเหยียบแป้นเบรกและหมุนสวิตช์จุดระเบิดไปที่ตำแหน่ง "START" ค้างไว้สักครู่จนเครื่องยนต์ติด หลังจากเครื่องยนต์ติดแล้วให้ปล่อยสวิตช์จุดระเบิด รถก็สามารถขับขี่ได้ตามปกติ
Q
mitsubishi xpander มีที่นั่งกี่ที่
Mitsubishi Xpander มักจะมีการตั้งค่าที่นั่ง 7 ที่นั่ง ซึ่งทำให้มันมีความน่าสนใจในตลาดประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับการเดินทางสำหรับครอบครัวและความต้องการการนั่งหลายคน การตั้งค่าที่นั่ง 7 ที่นั่งสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีสมาชิกในครอบครัวมากหรือมักจะมีการเดินทางพร้อมผู้โดยสารหลายคน
Q
Mitsubishi Xpander ทำขึ้นในประเทศอะไร
Mitsubishi Xpander รุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่จำหน่ายในประเทศไทยส่วนใหญ่ผลิตโดยโรงงาน Mitsubishi Motors Indonesia (MMKI) ในจังหวัดชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่ตั้งแต่ต้นปี 2024 เป็นต้นไป รุ่นไฮบริดจะผลิตโดยโรงงาน Mitsubishi Motors Thailand (MMT) ในจังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ ยังมีการประกอบรุ่นนี้ที่โรงงาน Mitsubishi Motors Vietnam (MMV) ในจังหวัดบิ่ญเยือง ประเทศเวียดนาม และโรงงาน Hicom ในรัฐปะหัง ประเทศมาเลเซีย
Q
มิตซูบิชิ Xpander มีที่นั่งกี่ที่
Mitsubishi Xpander โดยทั่วไปมีที่นั่ง 7 ที่นั่ง ได้รับความนิยมในประเทศไทยด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางและการจัดวางเบาะที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง
Q
mitsubishi xpander ราคาเท่าไหร่
ราคา Mitsubishi Xpander ในประเทศไทยอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยและพื้นที่จำหน่าย โดยทั่วไปอยู่ในช่วงประมาณ 799,000-912,000 บาท ทั้งนี้ แต่ละผู้จำหน่ายอาจมีโปรโมชั่นหรือการปรับราคาเพิ่มเติมตามช่วงเวลา
Q
วิธีปิดโหมด eco ใน mitsubishi xpander
วิธีปิดโหมด Eco ใน Mitsubishi Xpander โดยทั่วไปสามารถทำได้โดยกดปุ่มหรือเลือกตั้งค่าบนแผงควบคุมภายในรถ ซึ่งมักมีสัญลักษณ์ระบุไว้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม วิธีการอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย แนะนำให้ตรวจสอบคู่มือการใช้งานของรถหรือสอบถามจากผู้จำหน่าย Mitsubishi ในพื้นที่เพื่อข้อมูลที่ถูกต้อง

ข้อดี

การออกแบบภายนอกสวยงาม
ภายในกว้างขวางและสบาย
หลอดไฟหน้าแบ่งเป็นสองส่วนและมีลิ้นประดับโครเมียม ทำให้ดูสวยงาม
แผงควบคุมแสดงข้อมูลอย่างครบถ้วน
การออกแบบปุ่มมีประสิทธิภาพและสะดวกในการใช้งาน
ที่นั่งนุ่มนวล

ข้อเสีย

ภายในมีพื้นที่ค่อนข้างแคบ รูปแบบดูเก่า
เครื่องยนต์ไม่มีพลังเพียงพอในการปีนเนิน การขับขี่บนเส้นทางภูเขาไม่ราบรื่น
เกียร์ไม่เพียงพอ เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงเครื่องยนต์มีสปินสูง
พื้นที่ในช่องสัมภาระไม่ใหญ่ ความจุการบรรทุกต่ำ

Q&A ล่าสุด

Q
ราคาบริการของ Honda City Hatchback คือเท่าไหร่ ดูที่นี่ก่อนดีกว่า
ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถ Honda City Hatchback ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามบริการและตัวแทนจำหน่ายที่เป็นทางการ โดยบริการพื้นฐานอย่างการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนไส้กรองอากาศจะอยู่ที่ประมาณ 2,500-4,500 บาท อย่างไรก็ตามเพื่อความแม่นยำแนะนำให้ติดต่อสอบถามราคากับทางอู่ Honda 4S ที่ใกล้ที่สุด ในไทยเรามีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ทำให้เจ้าของรถสามารถรับบริการจากช่างมืออาชีพได้อย่างสะดวกสบาย แถมการเข้าศูนย์บริการเป็นประจำยังช่วยรักษาประสิทธิภาพของรถและยืดอายุการใช้งานอีกด้วย พูดถึง Honda City Hatchback ในตลาดไทยต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ด้วยความประหยัดและการใช้งานที่ตอบโจทย์ ทำให้ค่าบำรุงรักษาก็ถือว่าสมเหตุสมผล เหมาะกับการใช้งานประจำวันเป็นอย่างดี และถ้าเลือกใช้เฉพาะอะไหล่แท้จากศูนย์บริการอย่างถูก渠道 นอกจากจะได้ความมั่นใจแล้ว ยังช่วยรักษาสิทธิ์การรับประกันไม่ให้เสียหายอีกด้วย จริงๆ แล้วในระยะยาวนี่คือทางเลือกที่คุ้มค่าและน่าเชื่อถือที่สุดแล้วล่ะ
Q
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถ Honda City Hatchback คือเท่าไหร่ ดูรายละเอียดที่นี่
รถฮอนด้า ซีตี้ แฮทช์แบคในไทยมีค่าใช้สอยเรื่องการดูแลรักษาที่สมเหตุสมผล เหมาะกับคนที่อยากประหยัด โดยการบริการครั้งแรกจะทำเมื่อขับถึง 1,000 กิโลเมตร ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,500-2,000 บาท รวมค่าถ่ายน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนไส้กรองอากาศ ส่วนการบริการตามระยะจะทำทุก 1 หมื่นกิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน ค่าบริการปกติประมาณ 2,500-3,000 บาท ส่วนการบริการใหญ่จะทำเมื่อขับถึงประมาณ 4 หมื่นกิโลเมตร ค่าใช้จ่ายอาจสูงถึง 5,000-7,000 บาท ขึ้นอยู่กับว่าต้องเปลี่ยนอะไหล่อะไรบ้าง ในไทยฮอนด้ามีศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ หาไม่ยาก แถมสะดวกด้วย นอกจากนี้ควรตรวจสอบยางและเบรกเป็นประจำเพราะอากาศร้อนชื้นของไทยอาจทำให้ชิ้นส่วนเหล่านี้เสื่อมเร็วขึ้น ถ้าอยากประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น ลองซื้อแพ็กเกจบริการของฮอนด้า ซึ่งมักจะมีส่วนลดให้ ที่สำคัญการดูแลรักษาตามคู่มือแนะนำไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุรถ แต่ยังช่วยรักษามูลค่าเวลาขายต่อ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากในตลาดรถมือสองของไทย
Q
ขนาดล้อของ Honda City Hatchback คือเท่าไหร่
สำหรับ Honda City Hatchback ในเรื่องของขนาดล้อ ยกเว้นรุ่นสูงสุด RS ที่มาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วแบบเฉพาะแล้ว รุ่นอื่นๆ ทุกรุ่นจะใช้ล้อขนาด 15 นิ้วตามมาตรฐาน การที่แต่ละรุ่นมีขนาดล้อแตกต่างกันนี่เป็นผลจากการออกแบบโดยคำนึงถึงสมรรถนะโดยรวมของรถเป็นหลัก ล้อขนาดใหญ่กว่าอย่างล้อ 16 นิ้วในรุ่น RS จะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะและความมั่นคงให้กับรถ ทำให้การควบคุมรถดีขึ้น เหมาะกับสไตล์การขับแบบสปอร์ตที่รุ่น RS เน้นเป็นพิเศษ ส่วนล้อ 15 นิ้วนั้นถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในเมืองและการขับขี่ประจำวันของผู้ใช้ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นล้อขนาดไหนก็ผ่านการปรับแต่งมาเป็นอย่างดีเพื่อให้ทำงานเข้ากันได้ดีกับระบบช่วงล่างและระบบอื่นๆ ของรถ เพื่อให้ได้สมดุลระหว่างประสบการณ์การขับขี่และสมรรถนะของรถอย่างลงตัว
Q
รุ่นที่แตกต่างกันของ Honda City Hatchback มีอะไรบ้าง
ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กในตลาดไทยมีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้หลักๆ แล้วจะมี 4 เวอร์ชันคือ S, V, SV และ RS รุ่น S เป็นรุ่นเริ่มต้น มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยพื้นฐานเช่นถุงลมนิรภัย 2 ตัวและระบบเบรก ABS เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้รถในงบจำกัด ส่วนรุ่น V จะเพิ่มความสะดวกขึ้นมาอีกหน่อยด้วยกุญแจอัจฉริยะและกล้องถอยหลัง ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาใช้งานในชีวิตประจำวัน รุ่น SV จะอัพเกรดทั้งวัสดุภายในห้องโดยสารและเทคโนโลยี เช่น จอสัมผัสขนาดใหญ่ขึ้นและถุงลมนิรภัยเพิ่มเติม เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาความคุ้มค่า สุดท้ายรุ่น RS ที่เป็นรุ่นสปอร์ตสุดพิเศษ มาพร้อมกับชุดแต่งเอกลักษณ์ เบาะสปอร์ตและระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง ดึงดูดกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่ชอบความสปอร์ต ในตลาดไทย ซิตี้ แฮทช์แบ็กคันนี้ขายดีเพราะขับง่ายและประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ แถมฮอนด้ายังมีสีรถให้เลือกหลายเฉดและโปรแกรมผ่อนชำระที่ตอบโจทย์คนไทยอีกด้วย ที่สำคัญคือรุ่นไทยยังได้รับการปรับปรุงระบบแอร์ให้เย็นฉ่ำในอากาศร้อนแบบบ้านเรา และเพิ่มความสูงของช่วงล่างเพื่อให้เหมาะกับสภาพถนนบางพื้นที่ นี่คือการออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดไทยที่แสดงให้เห็นว่าฮอนด้าใส่ใจลูกค้าชาวไทยจริงๆ
Q
ฮอนด้าซิตี้แฮทช์แบคหนักเท่าไหร่
Honda City Hatchback ซึ่งเป็นรถยนต์แฮทช์แบ็กรุ่นยอดนิยมในตลาดประเทศไทย มีน้ำหนักตัวรถแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น โดยอยู่ในช่วงประมาณ 1,100 ถึง 1,200 กิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขุมพลังที่เลือกใช้ เช่น เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร หรือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น หลังคาซันรูฟ หรือระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม น้ำหนักที่เบากว่าช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพจราจรที่ติดขัดและการขับขี่ที่ต้องหยุด-ออกตัวบ่อยในเมืองไทย นอกจากนี้ การกระจายน้ำหนักของตัวรถยังเป็นสิ่งที่วิศวกรฮอนด้าให้ความสำคัญ โดยมีการออกแบบแชสซีและเลือกใช้วัสดุอย่างเหมาะสม เพื่อให้รถมีความมั่นคงในขณะเข้าโค้ง และให้ความนุ่มนวลขณะโดยสาร จุดเด่นเหล่านี้ทำให้ City Hatchback มีสมรรถนะที่ดีบนถนนที่มีโค้งมากหรือพื้นถนนเปียกในเมืองไทย สำหรับผู้บริโภคชาวไทย การเลือกใช้รถที่มีน้ำหนักพอดี ไม่มากเกินไป ไม่เบาเกินไป ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งให้ความสนุกในการขับขี่และความปลอดภัย ซึ่ง Honda City Hatchback คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้อย่างลงตัว
ดูเพิ่มเติม