Q
Suzuki Carry มีถังน้ำมันขนาดเท่าไหร่
ถังน้ำมันของ Suzuki Carry มีความจุ 46 ลิตร ความจุนี้ถือว่าเหมาะสมและเพียงพอสำหรับการใช้งานขับขี่ในระยะหนึ่ง โดยทั่วไป ความจุถังน้ำมันมีผลต่อระยะทางที่รถสามารถขับได้ Suzuki Carry ที่มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 5.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เมื่อนำความจุถัง 46 ลิตรมาคำนวณ จะทำให้รถสามารถวิ่งได้ระยะทางที่ค่อนข้างไกลในสภาวะที่ถังน้ำมันเต็ม อย่างไรก็ตาม ระยะทางที่สามารถขับได้จริงจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่และสภาพถนนเป็นหลัก หากขับขี่แบบเร่งรีบและหยุด-เดินบ่อยๆ จะทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นและระยะทางลดลง ในทางกลับกัน การขับขี่อย่างราบรื่นและการวางแผนเส้นทางอย่างเหมาะสมจะช่วยประหยัดน้ำมันและทำให้สามารถใช้ถังน้ำมัน 46 ลิตรนี้ขับขี่ได้ในระยะทางที่ยาวขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
Suzuki Carry มีระยะทางกี่กิโลเมตรต่อลิตร
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยของ Suzuki Carry 1.6 ตามข้อมูลจากโรงงานอยู่ที่ 5.4 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ซึ่งหมายความว่ารถรุ่นนี้สามารถวิ่งได้ประมาณ 18.52 กิโลเมตรต่อลิตร อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้เป็นเพียงข้อมูลจากการทดสอบในสภาวะที่ควบคุมอย่างเหมาะสมเท่านั้น โดยในสภาพการใช้งานจริง อัตราสิ้นเปลืองอาจแตกต่างออกไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ หากมีการเร่งความเร็วหรือเบรกอย่างรุนแรงบ่อยครั้ง รวมถึงการปล่อยให้เครื่องยนต์ติดอยู่ในขณะจอด จะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม การขับขี่อย่างนุ่มนวลและเปลี่ยนเกียร์อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น นอกจากนี้ สภาพถนนก็มีผลเช่นกัน หากใช้รถในพื้นที่การจราจรติดขัดที่ต้องหยุดและออกตัวบ่อย ๆ จะทำให้อัตราสิ้นเปลืองสูงขึ้น แต่หากขับขี่บนถนนโล่งหรือทางหลวงที่สามารถรักษาความเร็วคงที่ได้ รถก็จะมีอัตราสิ้นเปลืองที่ใกล้เคียงกับตัวเลขจากโรงงานมากขึ้น
Q
Suzuki Carry มีเรตติ้งความปลอดภัยเท่าไหร่
Suzuki Carry ในฐานะรถบรรทุกเชิงพาณิชย์รุ่นประหยัด มีการติดตั้งระบบความปลอดภัยและมาตรฐานความปลอดภัยที่ค่อนข้างพื้นฐาน รุ่นที่จำหน่ายในตลาดไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ผ่านการทดสอบความปลอดภัยการชนอย่างเป็นทางการจากสถาบันชั้นนำระดับสากล เช่น ASEAN NCAP หรือ Euro NCAP จึงไม่มีการจัดอันดับดาวความปลอดภัยอย่างชัดเจน รุ่นปัจจุบันของ Suzuki Carry ในไทยมีอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐาน ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (เฉพาะบางรุ่นย่อย) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และเซ็นเซอร์ถอยหลัง แต่ยังขาดเทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงรุกขั้นสูง เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพรถ (ESC) หรือระบบเตือนออกนอกเลน รถบรรทุกเชิงพาณิชย์เน้นความสามารถในการบรรทุกและประหยัดน้ำมันเป็นหลักมากกว่าความปลอดภัยของผู้โดยสาร หากความปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญ ควรพิจารณาเปรียบเทียบกับรถรุ่นอื่นที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัย เช่น Toyota Hilux หรือ Isuzu D-MAX หรือติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น กล้องมองหลัง และระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง ในการขับขี่ประจำวัน ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการขับเร็วเกินกำหนดหรือบรรทุกเกินน้ำหนัก เพื่อชดเชยข้อจำกัดด้านระบบความปลอดภัย โดยเฉพาะในสภาพจราจรที่ซับซ้อนของประเทศไทย การมีจิตสำนึกด้านความปลอดภัยสำคัญกว่าการพึ่งพาระบบความปลอดภัยของรถยนต์อย่างเดียว
Q
Suzuki Carry เป็นรถขับเคลื่อนด้วยล้อหลังหรือไม่
ไม่ใช่ครับ 2020 รุ่น Suzuki Carry 1.6 เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า (ขับเคลื่อนล้อหน้า) ซึ่งแตกต่างจากรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่เคยมีในประวัติศาสตร์ของ Suzuki Carry โดย Suzuki Carry เริ่มผลิตตั้งแต่ปี 1961 เป็นรถบรรทุกขนาดเล็กเชิงพาณิชย์ นอกจากรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าแล้ว ยังมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) เช่น รุ่นแรกที่เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม ปี 1981 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เกียร์ธรรมดา 4 สปีดและกล่องส่งกำลังสองสปีดสำหรับกระจายกำลังไปยังล้อหน้าและล้อหลัง การขับเคลื่อนแต่ละแบบมีข้อดีเฉพาะตัว รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้ามีโครงสร้างเรียบง่าย ต้นทุนต่ำ และใช้พื้นที่ภายในรถได้ดี เหมาะกับการขับขี่บนถนนทั่วไปที่ให้ความคล่องตัวและประหยัดน้ำมัน ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อจะเหมาะกับเส้นทางวิบากและเพิ่มความสามารถในการผ่านอุปสรรคได้ดีกว่า
Q
ซูซูกิแครี่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือไม่
Suzuki Carry มีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) ด้วย โดย Suzuki Carry เริ่มผลิตและจำหน่ายตั้งแต่ปี 1961 มีประวัติยาวนานและมีรุ่นย่อยหลากหลาย รุ่น 4WD รุ่นแรกของ Suzuki Carry เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม ปี 1981 ที่ประเทศญี่ปุ่น ใช้รหัสตัวถัง ST31 และเป็นที่รู้จักในชื่อ Suzuki Truntung มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2 จังหวะ F5A แบบ 3 สูบเรียง ความจุ 530 ซีซี กำลังส่งผ่านเกียร์ธรรมดา 4 สปีด และใช้กล่องส่งกำลังสองสปีดสำหรับการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบความเร็วต่ำ ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน ปี 1982 ได้มีรุ่นตู้สูง 4WD รหัสตัวถัง ST41 ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่ F8A ความจุ 800 ซีซี ส่วนในปี 1995 Suzuki Carry รุ่นเครื่องยนต์ 657 ซีซี 3 สูบ พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ก็มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเช่นกัน และรุ่นล่าสุดอย่าง Super Carry ก็ยังคงมีระบบขับเคลื่อน 4WD เห็นได้ว่ารุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อในตระกูล Suzuki Carry มีมาอย่างต่อเนื่องและได้รับการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ
Q
Suzuki Carry มีอายุขัยเท่าไหร่
ระยะเวลาการใช้งานของรถยนต์โดยทั่วไปมีวิธีคำนวณอยู่ 2 แบบ แบบแรกคือดูจากวันที่จดทะเบียนรถกับกรมการขนส่งทางบก นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน อีกแบบคือดูจากวันผลิตรถซึ่งมักจะระบุไว้บนแผ่นป้ายของรถยนต์ โดยป้ายนี้มักติดตั้งอยู่ที่ห้องเครื่องยนต์หรือบริเวณขอบประตู สำหรับ Suzuki Carry รุ่นปี 2020 หากใช้รุ่นนี้เป็นเกณฑ์สมมติว่าเริ่มใช้งานหรือจดทะเบียนในช่วงเวลานั้น เมื่อถึงปี 2025 รถจะมีอายุใช้งานประมาณ 5 ปี อย่างไรก็ตาม หากต้องการทราบอายุใช้งานที่แม่นยำ ควรตรวจสอบวันที่จดทะเบียนหรือวันผลิตจริงของ Suzuki Carry คันนั้นโดยตรง อายุการใช้งานของรถมีความสำคัญเพราะส่งผลต่อสมรรถนะของรถ ราคาขายต่อ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา รถที่มีอายุมากกว่ามักจะต้องการการดูแลรักษาบ่อยขึ้นและมูลค่าตลาดมือสองจะต่ำกว่าเมื่อเทียบกับรถที่ใหม่กว่า
Q
เครื่องยนต์ของ Suzuki Carry อยู่ที่ไหน
Suzuki Carry มีเครื่องยนต์วางอยู่ใต้เบาะผู้โดยสารในตำแหน่งวางเครื่องยนต์แบบวางกลางด้านหน้า การออกแบบรูปแบบนี้มีลักษณะและข้อดีหลายประการ โดยการวางเครื่องยนต์ในตำแหน่งด้านหน้าช่วยกระจายน้ำหนักรถระหว่างด้านหน้าและด้านหลังได้อย่างสมดุล ทำให้รถมีความมั่นคงและเชื่อถือได้มากขึ้นในขณะขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเลี้ยวและการเบรกที่สามารถให้การควบคุมที่ดีขึ้น นอกจากนี้การวางเครื่องยนต์ใต้เบาะยังช่วยใช้พื้นที่รถอย่างคุ้มค่าสูงสุด โดยเฉพาะสำหรับ Suzuki Carry ซึ่งเป็นรถกระบะขนาดเล็กเชิงพาณิชย์ ทำให้มีพื้นที่สำหรับบรรทุกสินค้าเพิ่มขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการในการขนส่งสินค้าในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
Suzuki Carry มีปริมาตรเท่าไหร่ cc
Suzuki Carry มีความจุกระบอกสูบ 1590 ซีซี ซึ่งเป็นความจุที่พบได้ทั่วไปในรถกระบะขนาดเล็ก โดยมีปริมาตรเครื่องยนต์ประมาณ 1.6 ลิตร เครื่องยนต์นี้สามารถมอบกำลังที่เหมาะสมเพียงพอสำหรับการใช้งานขนส่งสินค้าประจำวัน เครื่องยนต์แบบ 4 สูบคู่กับเกียร์ธรรมดา ช่วยให้เกิดความสมดุลระหว่างความประหยัดน้ำมันและการขับขี่ที่มีสมรรถนะดี โดยอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 5.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ช่วยลดต้นทุนในการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งความเร็วสูงสุดของรถสามารถทำได้ถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เหมาะสมกับการขับขี่ในสถานการณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าในเมืองหรืองานจัดส่งระยะสั้น Suzuki Carry จึงเป็นรถที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งานจริงและความคุ้มค่าในด้านเศรษฐกิจอย่างดีเยี่ยม
Q
Suzuki Carry มีการบริโภคเชื้อเพลิงอย่างไร
Suzuki Carry มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเป็นทางการที่ 5.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร โดยใช้เชื้อเพลิงประเภทน้ำมันเบนซิน อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในระดับนี้ทำให้รถมีความประหยัด เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันสำหรับเจ้าของรถได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้ที่ใช้รถสำหรับขนส่งเชิงพาณิชย์ที่ต้องใช้งานบ่อยครั้ง จะช่วยลดความถี่ในการเติมน้ำมันและค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างไรก็ตาม อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจริงอาจแตกต่างไปตามนิสัยการขับขี่ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุกของรถ เช่น การเร่งความเร็วอย่างรวดเร็ว การเบรกอย่างกะทันหัน หรือการจอดติดเครื่องนาน ๆ รวมถึงการบรรทุกน้ำหนักเต็มและการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัด ล้วนมีผลให้อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสูงกว่าค่าที่ระบุไว้ในประกาศอย่างเป็นทางการได้เช่นกัน
Q
Suzuki Carry มีถุงลมนิรภัยหรือไม่
Suzuki Carry มาพร้อมถุงลมนิรภัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้งฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ถุงลมนิรภัยถือเป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยสำคัญ เมื่อเกิดการชน ถุงลมนิรภัยจะพองตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยลดแรงกระแทกที่ส่งถึงผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ สำหรับรุ่นนี้ เมื่อเกิดการชน ถุงลมนิรภัยทั้งฝั่งคนขับและผู้โดยสารจะทำงานทันทีเพื่อปกป้องผู้โดยสารทั้งสองคนภายในรถ อย่างไรก็ตาม ถุงลมนิรภัยจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเมื่อใช้งานร่วมกับเข็มขัดนิรภัย ดังนั้น จึงควรคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกต้องทุกครั้งที่โดยสาร เพื่อเพิ่มความปลอดภัยโดยรวมของรถยนต์
Q
Suzuki Carry ราคาเท่าไหร่
2020 รุ่น Suzuki Carry 1.6 มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 385,000 บาท รถเพื่อการพาณิชย์รุ่นนี้ในช่วงราคานี้มาพร้อมฟังก์ชันเฉพาะตัวหลายอย่าง โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 5.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ตัวรถมีความยาว 4,155 มิลลิเมตร กว้าง 1,680 มิลลิเมตร สูง 1,895 มิลลิเมตร และมีฐานล้อ 2,625 มิลลิเมตร มอบพื้นที่ภายในรถที่เพียงพอสำหรับการใช้งาน มีประตู 2 บาน และที่นั่ง 2 ที่นั่ง ใช้ถังน้ำมันขนาด 46 ลิตร ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร (1,590 ซีซี) 4 สูบ พร้อมระบบเกียร์ธรรมดา (MT) และระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ด้านความปลอดภัยมาพร้อมระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยมาตรฐาน รวมถึงถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
Q&A ล่าสุด
Q
“ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใน Honda Accord 2021 บ่อยแค่ไหน?”
ตามคำแนะนำอย่างเป็นทางการจาก Honda รถยนต์ Honda Accord รุ่นปี 2021 ในประเทศไทยควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 12 เดือน (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) แต่ช่วงเวลาการเปลี่ยนจริงๆนั้นอาจต้องพิจารณาจากสภาพการขับขี่และพฤติกรรมการใช้รถของคุณด้วย เช่น ถ้าคุณขับรถในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ บ่อยๆ หรือขับทางสั้นๆ เป็นประจำ หรือใช้รถในพื้นที่ชายฝั่งอย่างสมุทรปราการที่อากาศมีเกลือสูง แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยขึ้นเป็นทุก 5,000-7,500 กิโลเมตร สภาพอากาศร้อนของประเทศไทยเร่งให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การเลือกใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ระดับ SM/SN ขึ้นไปจะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีกว่า นอกจากนี้ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องของ Honda ตัวจริงไปพร้อมกันด้วย เพราะออกแบบมาเฉพาะสำหรับสภาพถนนในไทย ถ้ารถคุณมีระบบตรวจสอบสภาพน้ำมันเครื่อง (ถ้ามี) ก็สามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบได้ แต่การบริการจริงควรตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ด้วย การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามกำหนดไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ แต่ยังช่วยรักษามูลค่ารถเมื่อต้องการขาย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากในตลาดรถมือสองของไทย
Q
แบตเตอรี่ใน Honda Accord ปี 2021 มีอายุการใช้งานนานเท่าไร?
แบตเตอรี่ของ Honda Accord รุ่นปี 2021 โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานและสภาพอากาศในประเทศไทย ซึ่งอากาศที่ร้อนชื้นของไทยอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำให้ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำ โดยเฉพาะหลังจากที่จอดรถตากแดดเป็นเวลานาน เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ ควรหลีกเลี่ยงการสตาร์ทรถบ่อยๆ ในระยะทางสั้น และลดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขณะที่เครื่องยนต์ดับ นอกจากนี้ ในตลาดไทยมักพบแบตเตอรี่แบบไม่ต้องบำรุงรักษา (Maintenance-Free) และแบบ EFB สำหรับระบบ Start-Stop ซึ่งแบบหลังเหมาะกับรถที่ติดตั้งระบบนี้โดยเฉพาะ หากสังเกตว่าสตาร์ทรถยาก ไฟหน้าค่อยลง หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานผิดปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดแล้ว เวลาเลือกซื้อแบตเตอรี่ใหม่ในไทย ควรเลือกแบบที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อน และเน้นแบตเตอรี่แท้หรือแบรนด์ดังจากร้านที่น่าเชื่อถือ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขาย รวมถึงเวลานำรถเข้าศูนย์บริการ ควรให้ช่างทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ด้วย เพื่อป้องกันการสึกกร่อนที่อาจมีผลต่อการทำงาน
Q
มูลค่าขายต่อของ Honda Accord ปี 2021 เท่าไหร่?
รถ Honda Accord รุ่นปี 2021 ในตลาดมือสองของไทยยังคงมีอัตราการรักษามูลค่าได้ค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับราคาตอนใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 60%-75% แล้วแต่สภาพรถ ระยะทาง และระดับอุปกรณ์ โดยรุ่น Hybrid มักจะสูงกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินประมาณ 5%-8% เพราะประหยัดน้ำมันกว่า คนไทยให้ความสำคัญกับความทนทานของ Honda Accord ค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูง และภาพลักษณ์ของ Honda ที่ติดตลาดอยู่แล้ว ซึ่งช่วยหนุนราคามือสองได้ดี ต้องระวังเรื่องสภาพอากาศของไทยที่อาจส่งผลต่อตัวรถ แนะนำให้เปลี่ยนสารกันชื้นและตรวจสอบยางเป็นประจำเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพเร็ว จะช่วยเพิ่มมูลค่ารถเวลาขายต่อได้อีก ถ้ามีประวัติการซ่อมบำรุงจากศูนย์บริการอย่างครบถ้วน และไม่เคยประสบอุทกภัยหรือชนหนัก ราคาก็จะดีกว่าปกติ เมื่อเทียบกับรุ่นใกล้เคียงอย่าง Toyota Camry แล้ว Honda Accord ถือว่าคงมูลค่าได้พอๆ กัน แต่จะเหนือกว่ารถยุโรปบางรุ่นอยู่บ้าง เพราะชิ้นส่วนอะไหล่ของรถญี่ปุ่นหาง่ายและค่าซ่อมถูกกว่าในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แนะนำให้ผู้ขายลองใช้บริการประเมินราคาฟรีผ่านช่องทาง Honda Certified Used Car หรือเว็บมือสองที่น่าเชื่อถือ ก่อนลงขายจริง และควรเก็บอะไหล่เดิมทุกชิ้นไว้ให้ครบ จะได้ต่อรองราคาได้ดีขึ้น
Q
เครื่องยนต์ Honda Accord รุ่นไหนดีกว่ากัน?
สำหรับผู้บริโภคไทย ระบบขับเคลื่อนทั้งสองแบบของ Honda Accord นับเป็นตัวเลือกที่ดีไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบหรือระบบไฮบริด 2.0 ลิตร ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของคุณ โดยเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบนั้นให้พลังสูงถึง 193 แรงม้า เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสปอร์ต แถมเทคโนโลยีเทอร์โบยังช่วยให้การตอบสนองดีแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย ส่วนระบบไฮบริด 2.0 ลิตรนั้นประหยัดน้ำมันมาก ค่าบริโภคผสมต่ำสุดเพียง 4.2 ลิตร/100 กม. เหมาะสมกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มากในระยะยาว ด้วยสภาพถนนที่หลากหลายในไทย ระบบไฮบริดจะทำงานได้ดีในเส้นทางที่มีการหยุด-เดินบ่อย ส่วนรุ่น 1.5 เทอร์โบจะโดดเด่นเมื่อขับทางไกลบนทางหลวง ทั้งสองรุ่นผ่านการทดสอบมาตรฐานของ Honda เพื่อความทนทานในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ที่น่าสนใจคือ รัฐบาลไทยมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถ Eco Car ซึ่งรุ่นไฮบริดอาจได้รับสิทธิประโยชน์ด้านราคาและภาษีรถยนต์ แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ของคุณเพื่อข้อมูลล่าสุด ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน การบริการตามระยะและการใช้น้ำมันเครื่องเกรดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อยืดอายุเครื่องยนต์ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบไทย
Q
รถ Honda Accord ปี 2021 เป็นเกียร์ CVT ใช่หรือไม่?
สำหรับรถ Honda Accord รุ่นปี 2021 ที่วางขายในตลาดไทย รุ่นเครื่องยนต์เบนซินนั้นใช้เกียร์ CVT ที่โดดเด่นในเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ที่ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยครั้ง นอกจากนี้การจับคู่ระหว่างเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L ที่ให้กำลังสูงถึง 193 แรงม้ากับเกียร์ CVT ยังให้ประสิทธิภาพการขับขี่ที่แข็งแกร่ง ส่วนรุ่นไฮบริดจะใช้ระบบ E-CVT ที่มีความซับซ้อนมากกว่า โดยเป็นระบบส่งกำลังที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและชุดเกียร์แบบ Planetary Gear ซึ่งมีโครงสร้างแตกต่างจากเกียร์ CVT แบบดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย เกียร์ CVT มีประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดี แต่ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เฉพาะทุก 60,000 กิโลเมตรหรือทุก 4 ปี เพื่อรักษาสภาพการทำงานให้ดีที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกัน อย่าง Toyota Camry ก็มีตัวเลือกเกียร์ CVT เช่นกัน ส่วน Mazda 6 ยังคงใช้เกียร์ออโต้ 6 สปีดแบบเดิม ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่นทางเทคนิคแตกต่างกัน สำหรับผู้บริโภคไทยที่กำลังตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ทดลองขับเพื่อเปรียบเทียบความรู้สึกในการขับขี่ เพราะเกียร์ CVT เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสบายและการประหยัดน้ำมัน ในขณะที่ถ้าชอบการขับขี่สปอร์ตอาจต้องพิจารณาเกียร์ประเภทอื่น
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Suzuki FRONX จะเปิดตัวในวันที่ 25 กันยายน 2025 จะแข่งขันกับ Toyota Yaris Cross
ณัฐวุฒิSep 24, 2025

Suzuki มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้แบรนด์ครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบสองปี โดยใช้สไตล์การออกแบบแบบแบนราบ
พงศธรSep 23, 2025

Suzuki FRONX ยืนยันเปิดตัวในวันที่ 25 กันยายน 2025 เพื่อแข่งขันกับ Yaris Cross
พงศธรAug 26, 2025

Suzuki Jimny อัปเกรดระบบความปลอดภัยใหม่! เตรียมติดตั้ง Suzuki Safety Support 3.0
วิรุฬห์Jul 17, 2025

2025 Suzuki Alto รุ่นปรับโฉมเตรียมเปิดตัวในญี่ปุ่น ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 28.2 กม./ลิตร
LienJun 25, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย