Q

ยาง 225 55r17 อัตราการเติมลมเป็นเท่าไหร่สำหรับรถตู้

สำหรับรถตู้ที่ใช้ยางขนาด 225/55R17 ค่าลมยางมาตรฐานอยู่ที่ประมาณ 32–35 PSI (2.2–2.4 bar) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคู่มือรถหรือสติกเกอร์ที่กรอบประตูด้านคนขับ เพราะแต่ละรุ่นอาจต่างกันเล็กน้อย อากาศร้อนในไทยทำให้แรงดันลมยางเพิ่มขึ้น จึงควรตรวจสอบเดือนละครั้งและเติมลมขณะยางเย็น ไม่ควรปล่อยลมออกเอง หากลมยางอ่อนจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันและเสี่ยงต่อการระเบิด การตั้งลมยางที่เหมาะสมจะช่วยทั้งเรื่องประหยัดน้ำมัน ประสิทธิภาพเบรก และอายุการใช้งานของยาง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ถนนลื่น ลมยางที่ถูกต้องช่วยเพิ่มการยึดเกาะได้ หากบรรทุกของหนักหรือขับทางไกลบ่อย สามารถเพิ่มได้อีก 2–3 PSI แต่ต้องไม่เกินค่าที่กำหนดไว้บนแก้มยาง
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A ล่าสุด

Q
รถ Honda Accord ปี 2023 มีระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถหรือไม่
แน่นอนว่า Honda Accord รุ่นปี 2023 ที่วางขายในตลาดไทยได้ติดตั้งระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถหรือ LKAS ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดความปลอดภัย Honda Sensing ระบบนี้ใช้กล้องหน้าจับภาพเส้นแบ่งช่องทางรถ เมื่อความเร็วเกิน 65 กม./ชม. จะช่วยควบคุมพวงมาลัยให้รถอยู่กลางช่องทางเดินรถโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการขับขี่บนทางหลวงหรือการเดินทางไกลในไทย ที่สำคัญระบบ LKAS ของ Honda ยังมีฟังก์ชั่นแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง ถ้ารถเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะสั่นพวงมาลัยพร้อมแสดงข้อความเตือนบนหน้าปัด ซึ่งช่วยได้มากในเส้นทางชนบทที่เส้นแบ่งช่องทางไม่ชัดเจน หรือกรณีผู้ขับเหนื่อยล้า นอกจาก LKAS แล้ว Accord 2023 ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูงอื่นๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับตามรถคันหน้า ระบบช่วยเบรกป้องกันการชน ซึ่งทำให้คันนี้แข่งขันได้ดีในระดับเดียวกัน สำหรับคนไทยที่กำลังเลือกซื้อรถ แนะนำให้ลองขับจริงเพื่อทดสอบการทำงานของระบบเหล่านี้ โดยเฉพาะความแม่นยำของ LKAS ในสภาพการจราจรที่ต้องแบ่งช่องทางกับรถมอเตอร์ไซค์แบบไทยๆ รวมถึงความนุ่มนวลเวลาระบบทำงานว่าจะเข้ากับสไตล์การขับของแต่ละคนหรือไม่ ทุกวันนี้กรมการขนส่งไทยได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์ ทำให้ระบบช่วยขับขี่แบบนี้กลายเป็นสิ่งที่รถระดับกลางถึงสูงต้องมีกันแล้ว
Q
มูลค่าขายต่อของ Honda Accord ปี 2023 คือเท่าไร?
รถยนต์มือสอง Honda Accord รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยยังคงมีอัตราการรักษามูลค่าที่ค่อนข้างดี สืบเนื่องมาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Honda ในตลาดไทย รวมถึงภาพลักษณ์ความทนทานและประโยชน์ใช้สอยของ Accord ที่สั่งสมมายาวนาน ตามหลักการทั่วไปของตลาดรถไทย รถใหม่จะเสียมูลค่าไปประมาณ 15-20% ในปีแรก จากนั้นจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ สำหรับ Accord ที่เป็นรุ่นยอดนิยมในตลาดรถเก๋งขนาดกลาง มักจะมีอัตราการรักษามูลค่าสูกว่าค่าเฉลี่ยของรถระดับเดียวกัน คาดว่าหลังจาก 3 ปียังสามารถรักษามูลค่าไว้ได้ประมาณ 60% คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาเป็นพิเศษ ซึ่ง Honda Accord 2023 ตอบโจทย์ได้ดีด้วยระบบเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L และระบบไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมัน แถมยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุมทั่วประเทศและมีอะไหล่พร้อมให้บริการเสมอ ปัจจัยเหล่านี้ช่วยเสริมมูลค่ารถมือสองได้ไม่น้อย เคล็ดลับอีกอย่างคือสีรถก็มีผลต่อราคาขายต่อด้วย สีขาวและสีเงินจะขายได้ราคาดีกว่าสีสันแปลกๆ นอกจากนี้การมีประวัติการบริการที่ครบถ้วนและไม่เคยเกิดอุบัติเหตุจะช่วยรักษาราคารถได้มาก แนะนำให้บริการตามศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอ ส่วนในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทยๆ การจอดรถในที่ร่มและตรวจสอบระบบอิเล็กทรอนิกส์กับยางเป็นประจำจะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของรถ ทำให้ขายต่อได้ราคาดีขึ้น
Q
รถ Honda Accord ปี 2023 มีระบบเสียง Bose หรือไม่?
รุ่น Honda Accord 2023 ในตลาดไทยบางรุ่นระดับสูงมีการติดตั้งระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bose ซึ่งระบบนี้มักมาพร้อมกับลำโพง 12 ตัว และใช้เทคโนโลยี Centerpoint พิเศษร่วมกับเทคโนโลยีประมวลผลสัญญาณดิจิทัล SurroundStage ของ Bose ที่มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่สมจริงให้กับผู้โดยสารในรถยนต์ เหมาะอย่างยิ่งกับแนวเพลงป็อปและเพลงไทยที่คนไทยชื่นชอบ อย่างไรก็ตาม การติดตั้งระบบเสียงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดอุปกรณ์กับตัวแทนจำหน่าย Honda ในไทยก่อนตัดสินใจซื้อ สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบเสียง Bose ผ่านการออกแบบพิเศษให้ทนทานต่อความร้อนและความชื้นสูง เพื่อความเสถียรในการใช้งานระยะยาว นอกจาก Honda Accord 2023 ยังมาพร้อมกับชุดความปลอดภัย Honda SENSING ล่าสุดและระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ Honda CONNECT ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการด้านเทคโนโลยีและความสบายของตลาดไทย แนะนำให้ผู้บริโภคไทยทดลองฟังเสียงจริงก่อนซื้อ พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างของอุปกรณ์ในแต่ละรุ่น เพื่อเลือกรุ่นที่ตรงความต้องการมากที่สุด
Q
ตารางการบำรุงรักษาสำหรับ Honda Accord ปี 2023 คืออะไร?
สำหรับรถ Honda Accord รุ่นปี 2023 ในประเทศไทย แนะนำให้ทำการบำรุงรักษาตามระยะเวลาทุก 6 เดือนหรือทุก 10,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) โดยบริการปกติจะรวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง พร้อมกับการตรวจเช็คสภาพยาง ระบบเบรก ไฟรถ และส่วนสำคัญอื่นๆ เนื่องจากสภาพอากาศในไทยที่ทั้งร้อนและชื้น ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการตรวจสอบและเปลี่ยนไส้กรองแอร์และน้ำยาคูลแลนท์เพื่อให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนรุ่น Hybrid ต้องตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำด้วย แนะนำให้ใช้บริการที่ Honda 4S ที่ได้รับการรับรองเท่านั้นและใช้อะไหล่แท้จาก Honda เพื่อรักษาสิทธิ์การรับประกัน ช่วงหน้าฝนของไทยควรเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนและป้องกันสนิมใต้ท้องรถ ส่วนการขับขี่ในเมืองที่ติดขัดบ่อยๆ อาจทำให้ต้องเปลี่ยนผ้าเบรกก่อนกำหนดได้ สามารถจองบริการบำรุงรักษาผ่านแอป MyHonda ในเว็บไซต์ Hondaไทยได้เลย ซึ่งบริการแบบดิจิทัลนี้สะดวกมากในไทย อีกเรื่องที่สำคัญคือ น้ำมันในไทยส่วนใหญ่เป็นแบบเอทานอล ควรใช้น้ำมันตามเลข octane ที่คู่มือระบุไว้อย่างเคร่งครัดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาคาร์บอนสะสมในเครื่องยนต์ นอกจากนี้ อู่ Honda ในไทยยังมีบริการตรวจเช็คฟรี 21 จุดที่จะช่วยให้คุณเข้าใจสภาพรถได้อย่างละเอียดอีกด้วย
Q
“Honda Accord ปี 2023 มีสมรรถนะในการทดสอบการชนเป็นอย่างไรบ้าง?”
รถ Honda Accord รุ่นปี 2023 ทำผลงานได้ดีมากในการทดสอบความปลอดภัย โดยได้รับรางวัล "Top Safety Pick+" จาก IIHS ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดด้านความปลอดภัย และยังได้คะแนนเต็ม 5 ดาวจาก NHTSA อีกด้วย ความปลอดภัยระดับนี้มาจากโครงสร้างตัวรถ ACE ที่อัพเกรดแล้วและระบบ Honda Sensing ที่มาพร้อมฟังก์ชันช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบครบครัน ทั้งระบบเบรกเพื่อหลีกเลี่ยงการชน และระบบช่วยรักษาเลน สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถยนต์ปลอดภัย รุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะแอคคอร์ดที่ขายในประเทศไทยมักใช้มาตรฐานความปลอดภัยเดียวกันกับเวอร์ชันทั่วโลก โดยเฉพาะในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างซับซ้อนของไทย ทั้งรถติดหนักในกรุงเทพและการแบ่งถนนกับรถมอเตอร์ไซค์ ฟีเจอร์ความปลอดภัยเหล่านี้จะช่วยป้องกันคุณได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม รุ่นที่ขายในไทยอาจมีการปรับแต่งเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะกับกฎหมายและสภาพถนนท้องถิ่น ดังนั้นก่อนซื้อควรศึกษารายละเอียดสเปคให้ดี พร้อมทั้งอย่าลืมว่าปัจจุบันรัฐบาลไทยก็กำลังเข้มงวดเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์มากขึ้น การเลือกรถที่มีเรตติ้งความปลอดภัยสูงแบบนี้จึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับผู้บริโภคไทย
ดูเพิ่มเติม