Q

ยาง 225 55r17 อัตราการเติมลมเป็นเท่าไหร่สำหรับรถตู้

สำหรับแรงดันลมยางขนาด 225 55R17 บนรถตู้ในไทย แรงดันมาตรฐานมักอยู่ที่ 32 ถึง 35 psi ควรอ้างอิงค่าจากคู่มือรถหรือป้ายแรงดันลมบนกรอบประตู เนื่องจากแต่ละแบรนด์รถตู้มีความแตกต่างเล็กน้อย ภายใต้สภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้ตรวจแรงดันลมทุกเดือนเพราะความร้อนทำให้แรงดันเพิ่มขึ้นประมาณ 3 ถึง 5 psi แรงดันต่ำจะทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นและยางสึกหรอเร็ว ขนาดยาง 225 55R17 เป็นขนาดกลางที่พบได้บ่อยในตลาดไทย ใช้กับรถตู้ยอดนิยม เช่น Toyota Commuter หรือ Mitsubishi Delica อัตราส่วนแก้มยาง 55 ให้สมดุลระหว่างความสบายและการควบคุม เหมาะกับถนนหลากหลายสภาพ ในฤดูฝนสามารถลดแรงดันลงประมาณ 2 psi เพื่อเพิ่มการยึดเกาะบนถนนเปียก แต่ไม่ควรต่ำกว่าค่าต่ำสุดที่ผู้ผลิตกำหนด หากรถบรรทุกเต็มบ่อย ๆ แรงดันล้อหลังสามารถเพิ่มประมาณ 3 psi จากค่ามาตรฐาน แต่ทุกการปรับต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

Q&A ล่าสุด

Q
รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class ประหยัดน้ำมันไหม?
Mercedes-Benz C-Class ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดี โดยเฉพาะรุ่น C 200 ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ประมาณ 6-7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล ช่วยลดต้นทุนการใช้รถในสภาพแวดล้อมที่ราคาน้ำมันในประเทศค่อนข้างสูง หากเลือกรุ่นปลั๊กอินไฮบริดอย่าง C 300 e จะสามารถวิ่งได้ระยะทาง 50-60 กิโลเมตรโดยใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน ทำให้การเดินทางระยะสั้นไม่ต้องใช้น้ำมันเลย ช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มากขึ้น นอกจากนี้เทคโนโลยี EQ Boost ยังช่วยเสริมการทำงานของเครื่องยนต์ในช่วงเร่งและออกตัว ทำให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันดีขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจริงจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และการดูแลรักษารถ การบริการอย่างสม่ำเสมอและการขับขี่อย่างนุ่มนวลจะช่วยรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันให้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน C-Class ประหยัดน้ำมันกว่าคู่แข่งบางรุ่น แต่ยังสู้รถหรูญี่ปุ่นที่เน้นประหยัดน้ำมันเป็นพิเศษไม่ได้ หากต้องขับบ่อยในกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่น แนะนำให้เปิดโหมดขับขี่ประหยัด ระบบจะปรับการตอบสนองของคันเร่งและเกียร์เพื่อลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้เหมาะกับสภาพการจราจร
Q
ถังน้ำมันเชื้อเพลิงของรถ C-Class รุ่นปี 2024 มีขนาดเท่าไร?
รถรุ่น C-Class ปี 2024 มีความจุถังน้ำมัน 66 ลิตร ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขับขี่ระยะไกล ถังน้ำมันขนาดนี้เมื่อเติมเต็มจะให้ระยะทางประมาณ 700-800 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับและสภาพถนน สำหรับคนที่ต้องเจอรถติดบ่อยๆในกรุงเทพฯ ถังน้ำมันขนาดใหญ่จะช่วยลดความยุ่งยากในการเติมน้ำมันบ่อยๆ ส่วนเวลาขับบนทางหลวงก็มั่นใจได้ว่าจะไปได้ไกลกว่า นอกจากนี้ C-Class ยังมาพร้อมระบบจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงประสิทธิภาพสูง ช่วยประหยัดน้ำมันและลดค่าใช้จ่ายลงได้อีก ถ้าอยากได้ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่านั้น ก็อาจจะเลือกรุ่น Hybrid ที่ประหยัดน้ำมันกว่าในส่วนนี้ สำหรับการใช้รถในชีวิตประจำวัน แนะนำให้ตรวจสอบถังน้ำมันและระบบเชื้อเพลิงอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดในขณะที่วางแผนเวลาในการเติมน้ำมันอย่างเหมาะสมและหลีกเลี่ยงปริมาณน้ำมันที่ต่ำเกินไปที่จะส่งผลกระทบต่อการขับขี่
Q
Mercedes C Class 2024 ใช้น้ำมันกี่ไมล์ต่อแกลลอน?
สำหรับรุ่น Mercedes-Benz C-Class ปี 2024 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงจะแตกต่างกันไปตามระบบขับเคลื่อนและประเภทเครื่องยนต์ จากข้อมูลทางการ รุ่น C 200 ที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบชาร์จ 4 สูบ พร้อมระบบไฮบริด 48V จะให้ระยะทางประมาณ 10-12 กม./ลิตรในเมือง (หรือประมาณ 28-32 ไมล์/แกลลอน) และบนทางหลวงจะทำได้ถึง 14-16 กม./ลิตร (ประมาณ 38-42 ไมล์/แกลลอน) ส่วนรุ่น C 300 ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จกับระบบไฮบริดจะสิ้นเปลืองมากกว่านิดหน่อยคือประมาณ 1-2 กม./ลิตร ทั้งนี้ตัวเลขจริงอาจแตกต่างไปขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่ สภาพถนน และการใช้แอร์ ถ้าในเมืองแบบกรุงเทพฯที่รถติดบ่อย การสตาร์ท-หยุดบ่อยๆจะทำให้กินน้ำมันมากขึ้น แนะนำให้ใช้โหมด Eco และใช้ระบบสตาร์ท-หยุดอัตโนมัติอย่างเหมาะสมเพื่อประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดอย่าง C 300 e ถ้าใช้โหมดไฟฟ้าล้วนจะวิ่งได้ประมาณ 100 กม. เหมาะกับการขับระยะสั้นๆ ช่วยลดการใช้น้ำมันได้มาก แถมการดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอ เช่น เปลี่ยนฟิลเตอร์อากาศและใช้น้ำมันเครื่องเกรดที่เหมาะสมก็ช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้นด้วย
Q
ความเร็วสูงสุดของ C-Class ปี 2024 คือเท่าไร?
รุ่นปี 2024 ของ Mercedes-Benz C-Class มีความเร็วสูงสุดที่แตกต่างกันไปตามการตั้งค่าพลังงาน โดยรุ่น C 300 ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ จะถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 250 กม./ชม. ส่วนรุ่นสมรรถนะสูง AMG C 43 ที่ใช้เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร Twin-Turbo สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 265 กม./ชม. และหากเลือกติดตั้ง AMG Driving Package จะเพิ่มความเร็วสูงสุดเป็น 270 กม./ชม. ในสภาพอากาศร้อนแบบบ้านเรา แนะนำให้ระวังเรื่องความดันลมยางและสภาพระบบระบายความร้อนเวลาขับเร็วๆ โดยเฉพาะเวลาขับทางไกลควรเช็คประสิทธิภาพการระบายความร้อนให้ดี รุ่น C-Class มาตรฐานจะมีระบบช่วยขับขี่อย่างฟังก์ชันจำกัดความเร็วที่ปรับตัวอัตโนมัติตามป้ายจำกัดความเร็ว 120 กม./ชม. บนทางด่วน ส่วนเกียร์ 9 จังหวะนั้นช่วยประหยัดน้ำมันในขณะที่ยังตอบสนองการเร่งได้ทันใจอยู่ สำหรับใครที่ต้องการสมรรถนะมากขึ้น ลองดูอุปกรณ์เสริมของซีรีส์ AMG อย่าง Dynamic Engine Mounts และระบบไอเสียสปอร์ตที่จะช่วยเพิ่มความมั่นคงและประสบการณ์การขับขี่เวลาใช้ความเร็วสูงได้อีก
Q
รถ C-Class รุ่นปี 2024 ราคาเท่าไหร่?
รถยนต์ Mercedes-Benz C-Class รุ่นปี 2024 ราคาเริ่มต้นในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 2.8 ล้านบาท แต่ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับระดับความประณีตของรุ่น ออปชั่นเสริมที่เลือก รวมถึงโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายด้วย รุ่นพื้นฐาน C 200 ใช้ระบบเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.5 ลิตร ผสมผสานเทคโนโลยี Hybrid ส่วนรุ่น C 300 จะใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่แรงกว่า มาตรฐานของรถคันนี้มาพร้อมกับระบบความบันเทิง MBUX ล่าสุด ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ และวัสดุตกแต่งภายในระดับพรีเมียม ส่วนรุ่นสูงกว่ายังสามารถเลือกเพิ่มระบบกันสะเทือนแบบอากาศและระบบเสียงเบอร์ลินได้ ข้อควรท้ายคือ ราคารถยนต์หรูในประเทศไทยมักรวมภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตแล้ว จึงทำให้ราคาสูงกว่าต้นทางประมาณ 30-40% เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง BMW 3 Series และ Audi A4 ที่อยู่ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน แต่แต่ละรุ่นมีจุดเด่นต่างกัน เช่น 3 Series จะเน้นความสนุกในการขับขี่ ส่วน A4 จะโดดเด่นด้านเทคโนโลยี สำหรับผู้ที่ต้องการใช้รถในระยะยาว แนะนำให้พิจารณาชุดบริการรักษาตามระยะทางและบริการรับประกันที่ทางศูนย์บริการนำเสนอ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ นอกจากนี้บางตัวแทนอาจมีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ดอกเบี้ยต่ำหรือประกันปีแรกฟรี ก่อนตัดสินใจซื้อควรเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ เจ้าด้วย
ดูเพิ่มเติม