Q
ความยาวของ Neta X คือเท่าไหร่?
รถ Neta X มีความยาว 4,619 มม. ซึ่งสำหรับรถรุ่นระดับ C อย่าง Neta X แล้ว ความยาวขนาดนี้ถือเป็นพื้นฐานที่ดีในการออกแบบพื้นที่ภายในรถ ความยาวตัวรถที่ 4,619 มม. ทำให้ผู้โดยสารโดยเฉพาะผู้ที่นั่งแถวหลังมีพื้นที่ขาที่กว้างขวาง นั่งสบายไม่รู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ยังช่วยให้การออกแบบภายนอกดูสมส่วนและลื่นไหลมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง Neta X ยังมีรุ่นย่อยอื่นๆ เช่น Neta X Comfort 2024 และ Neta X Smart 2024 ที่มีความยาวตัวรถเท่ากัน แต่แตกต่างกันในเรื่องความจุแบตเตอรี่และระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Neta X มีอะไรบ้าง?
Neta X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้า อาจมีจุดอ่อนหลักในตลาดประเทศไทยอยู่ที่ความเข้ากันได้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในสภาพอากาศร้อน โดยอุณหภูมิที่สูงของไทยอาจทำให้ระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ต้องทำงานหนักขึ้น ขณะเดียวกัน เครือข่ายสถานีชาร์จในบางพื้นที่ห่างไกลยังไม่ครอบคลุม อาจกระทบต่อความสะดวกในการเดินทางระยะไกล
ระบบขับขี่อัจฉริยะของรถรุ่นนี้ยังต้องพิสูจน์ความสามารถในการปรับตัวให้เหมาะกับสภาพการจราจรที่ซับซ้อนของไทย เช่น การตรวจจับมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งอยู่บนถนนอย่างหนาแน่น นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิม รถยนต์ไฟฟ้ายังมีอัตราการคงมูลค่าในตลาดมือสองที่ต่ำกว่า ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณา
ในมุมการใช้งานจริง ผู้บริโภคชาวไทยควรพิจารณาด้วยว่ารถรุ่นดังกล่าวมีศูนย์บริการหลังการขายกระจายตัวเพียงพอหรือไม่ รวมถึงมีเทคโนโลยีป้องกันน้ำในแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับฤดูฝนของไทยหรือเปล่า เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อประสบการณ์ในการใช้งานโดยตรง
Q
Neta X จัดอยู่ในรถกลุ่มเซกเมนต์ไหน?
เนตา เอ็กซ์ เป็นรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ตำแหน่งทางการตลาดอยู่ในเซ็กเมนต์ C-SUV ที่มีการแข่งขันสูงในตลาดรถไฟฟ้าโลก สำหรับตลาดไทยแล้ว รุ่นนี้ได้รับความสนใจไม่น้อยเพราะตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองที่คล่องตัว และความประหยัดพื้นที่เหมาะกับครอบครัว ตัวถังมีความยาวประมาณ 4.6 เมตร ระยะฐานล้อ 2.77 เมตร จุผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง ซึ่งขนาดนี้เหมาะกับการขับขี่ในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ พร้อมกันนั้นยังช่วยให้รองรับสภาพถนนช่วงฤดูฝนได้ดีด้วย สเปคการขับขี่แบบ CLTC วิ่งได้ไกล 501-660 กิโลเมตร เมื่อรวมกับนโยบาย EV 3.5 ของรัฐบาลไทย เช่น การลดภาษีนำเข้าและสนับสนุนสถานีชาร์จ ก็ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางได้มาก ในส่วนระบบอัจฉริยะ มาพร้อมหน้าจอกลาง 15.6 นิ้ว และระบบช่วยขับขี่ระดับ L2+ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนถนนไทยที่การจราจรค่อนข้างซับซ้อน คู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง BYD Atto 3 และ MG ZS EV อาจสู้ไม่ได้ในจุดเด่นอย่างขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าและแบตเตอรี่จาก CATL ที่เนตา เอ็กซ์ นำมาใช้ ตอนนี้ตลาดรถไฟฟ้าไทยโตเกิน 300% ต่อปี โดยเฉพาะ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดในราคา 1-1.5 ล้านบาทกำลังมาแรง เมื่อมีแบรนด์จีนเข้ามาเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคก็จะมีทางเลือกเพื่อสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายขึ้นในอนาคต
Q
มูลค่าขายต่อของ Neta X คือเท่าไหร่?
เนต้า เอ็กซ์ ในฐานะรถอีวีเอสยูวีรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดไทย มูลค่าซื้อขายต่อในตลาดมือสองจะถูกกำหนดโดยหลายปัจจัย ทั้งการรับรู้ของคนไทยต่อแบรนด์ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ความต้องการในตลาด รวมถึงนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าจากรัฐบาลไทย ปัจจุบันตลาดอีวีในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รัฐบาลออกมาตรการลดภาษีและให้เงินสนับสนุนเพื่อส่งเสริมให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าคงเหลือของเนต้า เอ็กซ์ ได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและความสะดวกในการหาสถานีชาร์จก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อมูลค่าซื้อขายต่อ ถ้าแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพคงที่และมีบริการหลังการขายที่ครบวงจร มูลค่าก็จะสูงกว่าปกติ โดยทั่วไปแล้วรถไฟฟ้าในไทยมักมีมูลค่าซื้อขายต่อต่ำกว่ารถน้ำมันเล็กน้อย แต่เมื่อโครงสร้างพื้นฐานพัฒนาไปและคนเริ่มนิยมมากขึ้น ช่องว่างนี้ก็กำลังลดลง สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อ แนะนำให้ศึกษานโยบายการรับประกันจากบริษัทและค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพราะสองเรื่องนี้ส่งผลโดยตรงต่อมูลค่ารถในระยะยาว รวมถึงสภาพอากาศร้อนของไทยก็อาจกระทบต่ออายุแบตเตอรี่ได้ การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอและการใช้งานอย่างเหมาะสมจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ และรักษามูลค่าของรถไว้ได้ในระดับที่ดี
Q
ขุมพลังใน Neta X คืออะไร?
Neta X มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง โดยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 120 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร รองรับการใช้งานทั้งในเมืองและการเดินทางระยะสั้นได้อย่างเหมาะสม แบตเตอรี่มีให้เลือกหลายขนาดตามแต่ละรุ่น โดยสามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและทริปท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์
ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย Neta X ยังมีระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ (BMS) ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้เสถียรแม้ในอุณหภูมิสูง และช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จเร็ว โดยสามารถชาร์จไฟจาก 0–80% ได้ภายใน 30 นาที ซึ่งตอบโจทย์กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จที่กำลังขยายตัวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
Q
ขนาด PCD ของ Neta X คือเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสกรู) ของ Neta X ที่ 5×114.3 มิลลิเมตร เป็นหนึ่งในขนาดยอดนิยมสำหรับการติดตั้งล้อในตลาดไทย ซึ่งเหมาะกับการอัพเกรดรถ SUV และรถเก๋งส่วนใหญ่ในท้องตลาด โดยในประเทศไทย รุ่นยอดฮิตอย่าง Toyota Fortuner หรือ Honda CR-V ก็ใช้ขนาด PCD เดียวกัน ทำให้เจ้าของ Neta X สามารถหาล้อที่เข้ากันได้ง่ายหรืออัพเกรดล้อได้สะดวกกว่า PCD นับเป็นพารามิเตอร์สำคัญในการเลือกซื้อล้อ เพราะถ้าเลือกขนาดถูกต้องจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันปัญหาการสั่นสะเทือนหรือการสึกหรอจากขนาดที่ไม่พอดี สำหรับคนไทยที่อยากเปลี่ยนล้อ นอกจาก PCD แล้ว ควรเช็กค่ากลางล้อ (CB) และค่าโอฟเซ็ต (ET) ด้วย แนะนำให้ซื้อจากร้านมืออาชีพหรือช่องทางตัวแทนจำหน่ายแท้เพื่อความมั่นใจในความเข้ากันได้ อีกปัจจัยที่ต้องคำนึงคือสภาพอากาศเมืองไทยที่ฝนชุก ควรเลือกวัสดุล้อที่ป้องกันการกัดกร่อนได้ดี เช่น อลูมิเนียมอัลลอยด์ และเลือกลายดอกยางที่รีดน้ำได้มีประสิทธิภาพ เพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวขึ้น
Q
Neta X รับรอง Apple CarPlay หรือไม่?
ตอนนี้รถรุ่น Neta X ที่วางขายในตลาดไทยมีการรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone ในไทยได้สัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อในรถที่สะดวกสบายมากขึ้น โดยสามารถใช้งานแอปพลิเคชันพื้นฐานอย่างแผนที่หรือเพลงผ่านหน้าจอกลางรถได้เลย สำหรับสภาพอากาศในไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ฟังก์ชันการเชื่อมต่อแบบไร้สายของ Apple CarPlay จะช่วยลดปัญหาสายชาร์จเสื่อมสภาพจากความร้อน ส่วนระบบควบคุมด้วยเสียงก็เหมาะกับการใช้งานในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ เพราะช่วยให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
ที่น่าสนใจคือรถบางรุ่นจากแบรนด์ญี่ปุ่นในตลาดไทยยังใช้ระบบ CarPlay แบบมีสาย ทำให้จุดเด่นของ Neta X ที่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายดูน่าสนใจกว่า แถมยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android อีกด้วย
ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ลองทดสอบระบบมัลติมีเดียในรถด้วยตัวเอง เพื่อเช็คความลื่นไหลและการทำงานร่วมกับบริการแผนที่ในไทย โดยเฉพาะการแสดงชื่อสถานที่แบบไทยและระบบแจ้งเตือนการจราจร เพราะปัจจุบันฟังก์ชันเชื่อมต่ออัจฉริยะแบบนี้กำลังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจรถ EV ในไทยซึ่งกำลังมาแรง
Q
Neta X ใช้ยางยี่ห้ออะไร?
Neta X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจในตลาดไทย ยางติดรถจากโรงงานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นย่อยและความต้องการของตลาด โดยทั่วไปมักเลือกใช้ยางจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Continental หรือ Michelin ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและการยึดเกาะบนถนนเปียก เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกบ่อยของประเทศไทย
สำหรับการเลือกยางในประเทศไทย นอกจากเรื่องยี่ห้อแล้ว ยังควรพิจารณาสภาพถนนในพื้นที่ใช้งาน เช่น การจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ หรือถนนที่ซับซ้อนนอกเมือง โดยควรให้ความสำคัญกับคุณสมบัติทนความร้อน การรีดน้ำ และความประหยัดน้ำมัน ยางอย่าง Michelin รุ่น Energy Saver หรือ Continental รุ่น EcoContact เป็นตัวเลือกที่ดีที่เน้นทั้งความสบายและความคุ้มค่า
ทั้งนี้ กฎหมายไทยกำหนดความลึกของดอกยางต้องไม่ต่ำกว่า 1.6 มิลลิเมตร จึงควรตรวจสอบสภาพดอกยางและแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในรถไฟฟ้าที่มีแรงบิดสูง ยิ่งต้องดูแลรักษายางอย่างใกล้ชิดเพื่อยืดอายุการใช้งาน หากผู้ใช้งานต้องการประสบการณ์ขับขี่ที่เงียบหรือประหยัดพลังงานมากขึ้น ก็สามารถปรึกษาร้านยางเพื่อเปลี่ยนเป็นยางแบบเงียบหรือแบบแรงต้านต่ำได้ แต่ต้องมั่นใจว่าเป็นรุ่นที่ผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกของไทยแล้วเท่านั้น
Q
ความกว้างของ Neta X คือเท่าไหร่?
รถ Neta X มีรุ่นย่อยให้เลือกหลายแบบ เช่น Neta X Comfort 2024 และ Neta X Smart 2024 ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้มีความกว้างตัวรถที่ 1,860 มม. เท่ากัน ความกว้างของรถเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อความมั่นคงในการขับขี่ การผ่านพ้นสิ่งกีดขวางบนถนน รวมถึงการจัดวางพื้นที่ภายในรถ รถที่มีความกว้างมากกว่าปกติมักจะให้พื้นที่ด้านข้างที่กว้างขวางกว่า ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่นั่งแถวหลังที่จะไม่รู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ ความกว้างของตัวรถยังช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถขณะขับเคลื่อนอีกด้วย
Q
แรงดันลมยางของ Neta X ควรเติมเท่าไหร่?
ค่าลมยางมาตรฐานของ Neta X อยู่ที่ประมาณ 2.3 ถึง 2.5 บาร์ (ประมาณ 33 ถึง 36 psi) ซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนในเมืองและทางหลวงที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อน ลมยางจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติเมื่อขับขี่ ดังนั้นควรเติมลมในขณะยางเย็นตามค่ามาตรฐานเพื่อความปลอดภัยและความนุ่มนวลในการขับขี่
หากต้องบรรทุกของหนักบ่อย หรือขับทางไกล แนะนำให้เพิ่มลมยางล้อหลังอีกประมาณ 0.1 ถึง 0.2 บาร์ แต่อย่าลืมตรวจสอบค่าที่แนะนำจากฉลากข้างประตูรถหรือฝาถังน้ำมันเป็นหลัก
การตรวจสอบลมยางอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ ควรเช็คลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้งด้วยเกจวัดลม เพราะอุณหภูมิที่สูงในไทยอาจทำให้แรงดันลมยางผันผวนได้ หากลมยางต่ำเกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและเสี่ยงต่อการระเบิดของยาง แต่ถ้าลมยางสูงเกินไปจะลดการยึดเกาะถนนและเพิ่มระยะเบรก
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Neta X ลมยางยังมีผลต่อระยะทางที่สามารถขับได้ในแต่ละการชาร์จอีกด้วย การรักษาค่าลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงช่วยให้ประหยัดพลังงานและขับขี่ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Q
ยางของ Neta X ใช้ขนาดเท่าไหร่?
Neta X มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ซึ่งถือเป็นขนาดมาตรฐานในกลุ่มรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกลางในตลาดประเทศไทย ขนาดนี้สามารถให้ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลในการขับขี่และสมรรถนะการควบคุม เหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายในไทย ทั้งในเมืองและนอกเมือง
ล้อขนาด 19 นิ้วยังช่วยเพิ่มความสปอร์ตให้กับรูปลักษณ์ของรถ และยังส่งผลดีต่อเสถียรภาพของตัวรถ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนของไทยที่ถนนเปียกบ่อย การใช้ล้อขนาดใหญ่ร่วมกับยางที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มการยึดเกาะบนพื้นผิวเปียกได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับผู้บริโภคชาวไทย การเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้านอกจากจะดูเรื่องขนาดล้อแล้ว ยังควรพิจารณาประเภทของยาง เช่น ยางที่มีแรงต้านการหมุนต่ำ (Low Rolling Resistance) เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น หรือยางที่มีร่องรีดน้ำดีเพื่อความปลอดภัยในฤดูฝน
นอกจากนี้ วัสดุของล้อก็มีความสำคัญ ล้ออัลลอยที่ทำจากอะลูมิเนียมจะทนต่อการกัดกร่อนได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย และยังมีน้ำหนักเบา ช่วยลดการใช้พลังงาน หากผู้ใช้งานต้องการความโดดเด่นเฉพาะตัว ก็สามารถพิจารณาเปลี่ยนล้อจากศูนย์หรือชุดแต่งที่ถูกกฎหมายได้ แต่อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายจราจรในประเทศไทย
Q&A ล่าสุด
Q
ความเร็วสูงสุดของ Porsche Taycan คืออะไร มารู้จักความเร็วสูงสุดของมันกัน
พอร์เช่ Taycan ในฐานะรถสปอร์ตไฟฟ้าสมรรถนะสูง มีความเร็วสูงสุดที่แตกต่างกันตามรุ่น โดยรุ่น Turbo S สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 260 กม./ชม. ในสภาวะที่เหมาะสม ส่วนรุ่นพื้นฐานอยู่ที่ 230 กม./ชม. ซึ่งถือว่าเพียบพร้อมสำหรับการขับขี่ทั้งในเมืองและบนทางด่วนของไทย แม้ในสภาพอากาศร้อนระอุของไทย ระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ก็ทำงานมีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยขณะขับขี่ความเร็วสูง
ที่สำคัญ Taycan ไม่เพียงเร่งแรงได้สวยงาม แต่ยังวิ่งได้ไกลระดับน่าประทับใจ เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือทริปสั้นๆ ในประเทศไทย สำหรับคนไทยที่รักการขับขี่และใส่ใจสิ่งแวดล้อม Taycan ถือเป็นตัวเลือกที่ลงตัว เพราะนี่ไม่ใช่แค่รถไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังมาพร้อมความสปอร์ตและความหรูหราแบบฉบับพอร์เช่
อีกจุดแข็งที่ต้องพูดถึงคือโครงข่ายสถานีชาร์จในไทยที่กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ โดยพอร์เช่ได้ติดตั้งสถานีชาร์จเร็วในกรุงเทพฯและเมืองหลักอื่นๆ ทำให้การใช้งาน Taycan ในไทยสะดวกและใช้งานได้จริงมากยิ่งขึ้น
Q
ผ่อนเดือนละเท่าไหร่สำหรับ Porsche Taycan ดูที่นี่
เกี่ยวกับการผ่อนชำระ Porsche Taycan ในประเทศไทย จำนวนเงินผ่อนต่อเดือนจะขึ้นอยู่กับรุ่นรถ สัดส่วนเงินดาวน์ ระยะเวลาการกู้ยืม และอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร โดยตัวอย่างเช่น รุ่นพื้นฐานของ Taycan หากกู้ยืม 80% ของราคารถ และผ่อนชำระเป็นเวลา 60 เดือน โดยอัตราดอกเบี้ยของธนาคารท้องถิ่นในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 2.5% ถึง 3.5% จำนวนเงินผ่อนต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 ถึง 120,000 บาท แนะนำให้ติดต่อสอบถามโดยตรงที่โชว์รูม Porsche ประเทศไทย หรือธนาคารที่ร่วมรายการเพื่อรับข้อมูลราคาที่แม่นยำ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตสำหรับรถไฟฟ้า Taycan จึงได้รับสิทธิประโยชน์นี้ซึ่งช่วยลดราคารถรวมและลดภาระการผ่อนชำระรายเดือน อีกทั้งเครือข่ายสถานีชาร์จในประเทศไทยกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว Porsche ยังมีสถานีชาร์จเฉพาะในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ต่างๆ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน แนะนำว่าก่อนซื้อรถ ควรพิจารณางบประมาณผ่อนชำระร่วมกับเงื่อนไขการชาร์จรถ ค่าประกัน และค่าบำรุงรักษา โดยทั่วไปแล้วรถไฟฟ้ามีต้นทุนการใช้งานต่ำกว่ารถน้ำมัน แต่ควรคำนึงถึงนโยบายการรับประกันแบตเตอรี่ซึ่ง Porsche ให้ความคุ้มครองถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร และอัตราการคงมูลค่าของรถในอนาคตด้วย
Q
Porsche Taycan มีขนาดเท่าไหร่ มันใหญ่แค่ไหน
พอร์เช่ Taycan ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นสี่ประตูคูเป้ ขนาดตัวถังนั้นเหมาะกับสภาพถนนในเมืองไทยและที่จอดรถเป็นอย่างดี รุ่นมาตรฐานมีความยาว 4,963 มม. กว้าง 1,966 มม. และสูง 1,379 มม. ระยะฐานล้อ 2,900 มม. ขนาดนี้ให้ความรู้สึกสบายๆ ในห้องโดยสารแต่ก็ไม่ใหญ่จนเกินไปสำหรับถนนแคบๆ ในกรุงเทพหรือที่จอดรถในห้าง ส่วนขาหลังของ Taycan ก็กว้างขวางเพียงพอสำหรับคนไทยโดยเฉลี่ย แถมความสูงตัวถังที่ต่ำลง (ต่ำกว่า Panamera ประมาณ 20 มม.) ไม่เพียงแต่เพิ่มความสปอร์ต แต่ยังทำให้เข้าที่จอดรถใต้ดินของห้างหรือคอนโดส่วนใหญ่ได้สบายๆ ที่น่าสนใจคือแม้ Taycan จะเป็นคูเป้สปอร์ต แต่ด้วยการออกแบบพื้นที่อย่างชาญฉลาด ทำให้มีทั้งกระโปรงหน้าและกระโปรงหลัง รวมความจุถึง 405 ลิตร เพียงพอสำหรับการใส่กระเป๋ากอล์ฟหรือสัมภาระเวลาไปเที่ยวสุดสัปดาห์ของคนไทย สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถไฟฟ้า Taycan ถือว่ามีขนาดที่บาลานซ์ระหว่างความหรูหราและประโยชน์ใช้สอยได้ดี เหมาะทั้งขับไปทำงานประจำวันหรือใช้กับครอบครัว โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย ที่นั่งจะสบายขึ้นมากด้วยกระจกกันความร้อนและระบบแอร์อัตโนมัติ 4 โซนที่มาพร้อมกับรถ
Q
รถ Porsche Taycan มีสีอะไรบ้าง คุณชอบสีไหน
รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตหรู Porsche Taycan นั้นมาพร้อมกับตัวเลือกสีที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละคน โดยสีมาตรฐานจะมีโทนคลาสสิกอย่างสีดำ, ขาว, Carrara White, สีเทา Volcano Grey และสีเทาเมททัล ส่วนใครที่อยากได้สีสันโดดเด่นกว่านั้นก็มีตัวเลือกอย่างสีฟ้า Ice Blue, สีเขียว Mamba Green หรือสีแดง Carmine Red แถมยังสามารถสั่งทำสีพิเศษตามต้องการได้อีกด้วย ซึ่งตรงกับสไตล์คนไทยที่ชอบความแตกต่างเป็นทุนเดิม สำหรับสภาพอากาศร้อนๆ แบบประเทศไทย แนะนำให้เลือกสีอ่อนอย่างขาวหรือเทาเมททัลที่จะช่วยสะท้อนแสงแดดและลดความร้อนภายในรถได้ดี ส่วนใครที่อยากโชว์ความสดใสเป็นเอกลักษณ์ก็อาจเลือกสีสันจัดจ้านอย่างเขียว Mamba หรือฟ้า Ice Blue ที่สำคัญ Porsche ยังมีบริการ Paint to Sample ที่ให้คุณเลือกสีจากคลังสีคลาสสิกกว่า 100 เฉด หรือจะออกแบบสีใหม่เฉพาะตัวก็ได้ ซึ่งบริการนี้ก็ฮิตในไทยเหมือนกัน โดยหลายคนมักเลือกสีที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมไทยอย่างสีทองหรือสีน้ำเงินราชวงศ์ นอกจากความหลากหลายของสีแล้ว กระบวนการพ่นสีของ Taycan ก็ทำได้อย่างประณีต ด้วยเทคโนโลยีการพ่นสีหลายชั้นที่ช่วยให้สีทนทานและเงางามแม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทยๆ เพราะฉะนั้นเวลาจะเลือกสี Taycan ในไทยนอกจากเรื่องความชอบส่วนตัวแล้ว ก็ควรคำนึงถึงสภาพอากาศและการดูแลรักษาด้วย สีอ่อนๆ จะดูแลง่ายกว่าและไม่ค่อยเห็นคราบสกปรกเวลาสัมผัสกับถนนไทยในชีวิตประจำวัน
Q
ราคารถ Porsche Taycan คือเท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
Porsche Taycan มีหลายรุ่นโดยแต่ละรุ่นมีราคาที่แตกต่างกัน รุ่นพื้นฐานปี 2024 ราคาอยู่ที่ 6,450,000 บาท รุ่น Taycan 4S ปี 2024 ราคา 7,990,000 บาท รุ่น Taycan Turbo ปี 2024 ราคา 11,090,000 บาท รุ่น Taycan Turbo S ปี 2024 ราคา 13,090,000 บาท และรุ่น Taycan Turbo GT ปี 2024 ราคา 14,490,000 บาท สำหรับปี 2023 รุ่น Taycan 4 Cross Turismo มีราคาที่ 6,850,000 บาท รุ่น Taycan 4S Cross Turismo ปี 2023 ราคา 7,950,000 บาท และรุ่น Taycan Cross Turismo ปี 2023 ราคา 10,400,000 บาท รถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้มีสมรรถนะและออปชั่นที่แตกต่างกันให้ผู้บริโภคเลือกตามความต้องการ เช่น รุ่น Taycan Turbo GT ปี 2024 สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 2.3 วินาที ขณะที่รุ่นพื้นฐานปี 2024 มีความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 4.8 วินาที
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวลือว่า Neta ค้างเงินเดือนพนักงานในประเทศจีน ซื้อ Neta X ได้หรือไม่
วิรุฬห์Nov 21, 2024

รถยนต์ไฟฟ้า NETA X 350 คัน เริ่มเดินทางจากเซี่ยงไฮ้มุ่งหน้าไปยังตลาดในประเทศไทย!
AshleyAug 16, 2024

Neta X นําแบรนด์จีนบุกเข้าไทย ยอดสั่งจองของไทยพุ่งทะลุ 1,000 คันภายใน 72 ชั่วโมง!
AshleyAug 2, 2024

THB 739,000! NETA X ไทยเปิดตัวบทใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้!
AshleyJul 26, 2024

NETA ไลฟ์โชว์การทดสอบมาตรฐานการกันน้ำของรถ จะเปิดตัวรถเอสยูวีไฟฟ้า NETA X!
AshleyJul 24, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย