Q
ค่าใช้จ่ายรายเดือนของ BYD Dolphin คือเท่าไหร่ ดูรายละเอียดที่นี่
ค่าใช้จ่ายรายเดือนในการใช้ BYD Dolphin รวมทั้งค่างวดรถ ค่าชาร์จไฟ ประกันภัย และค่าบำรุงรักษา อยู่ที่ประมาณ 15000 ถึง 25000 บาท ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานและแผนการชำระเงิน หากเลือกผ่อนชำระ (สมมติราคารถประมาณ 800000 บาท เงินดาวน์ 20 เปอร์เซ็นต์ ระยะเวลาผ่อน 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.5 เปอร์เซ็นต์) ค่างวดรถจะอยู่ที่ประมาณ 12000 ถึง 14000 บาทต่อเดือน ค่าชาร์จไฟตามอัตราค่าไฟในไทยซึ่งอยู่ที่ประมาณ 4 ถึง 5 บาทต่อหน่วย แบตเตอรี่ขนาด 44.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงของ Dolphin ชาร์จเต็มใช้ค่าไฟประมาณ 180 ถึง 225 บาท สมมติขับขี่เดือนละ 1500 กิโลเมตร ค่าไฟจะอยู่ที่ประมาณ 1000 ถึง 1500 บาท ส่วนประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 แบ่งจ่ายรายเดือนประมาณ 2000 ถึง 3000 บาท ในส่วนค่าบำรุงรักษา เนื่องจากเป็นรถยนต์ไฟฟ้า Dolphin มีต้นทุนการดูแลรักษาต่ำ โดยตรวจเช็คปีละ 1 ถึง 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 2000 ถึง 4000 บาท แบ่งเฉลี่ยเป็นรายเดือนประมาณ 300 ถึง 500 บาท รวมถึงค่าที่จอดรถ ภาษีรถยนต์ (ปัจจุบันรถไฟฟ้าได้รับสิทธิพิเศษ) และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น การเปลี่ยนยาง ทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 15000 ถึง 25000 บาท หากใช้แท่นชาร์จไฟฟ้าที่บ้านหรือได้รับส่วนลดค่าไฟในช่วงกลางคืน จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น แนะนำให้สอบถามรายละเอียดแผนผ่อนชำระและโปรโมชั่นประกันภัยล่าสุดจากตัวแทนจำหน่าย BYD เช่น Rever Automotive เพื่อการวางแผนงบประมาณที่แม่นยำยิ่งขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ BYD Dolphin คืออะไร
BYD Dolphin มีจุดด้อยบางประการด้านความสบาย ช่วงล่างใช้ระบบแม็คเฟอร์สันด้านหน้าและคานบิดด้านหลัง ซึ่งประสิทธิภาพการดูดซับแรงสั่นสะเทือนอยู่ในระดับทั่วไปให้ความรู้สึกแข็งเกินไปทำให้แรงสั่นสะเทือนและความขรุขระบนถนนส่งผ่านเข้าสู่ห้องโดยสารได้ง่ายระบบกันเสียงไม่ดีนักพร้อมกับยางที่มีเสียงรบกวนสูงเมื่อตัวรถวิ่งเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะได้ยินเสียงยางและลมอย่างชัดเจนด้านพื้นที่เก็บสัมภาระในฐานะรถยนต์แฮทช์แบ็กขนาดเล็ก พื้นที่ท้ายรถจำกัด โดยไม่สามารถพับเบาะหลังได้ ความจุเพียง 345 ลิตรจึงมีความจุไม่เพียงพอในส่วนของฟังก์ชัน เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าทุกรุ่นไม่มีระบบปรับไฟฟ้า สีรถบางและง่ายต่อการเป็นรอยส่วนวัสดุตกแต่งภายในสีอ่อนไม่ทนต่อความสกปรกและมีกลิ่นใหม่ของรถค่อนข้างแรงด้านระยะทางวิ่งในความเร็วสูงหรืออากาศหนาวเย็นจริงอาจลดลงอย่างมากนอกจากนี้ยังมีรายละเอียดการออกแบบที่ควรปรับปรุง เช่น เสา A บางจุดบดบังทัศนวิสัย กล่องเก็บของตรงที่วางแขนใช้พื้นที่ด้านล่างได้ไม่เต็มที่ และไม่มีไฟส่องสว่างบนเพดานหลัง
Q
BYD Dolphin อยู่ในเซกเมนต์อะไร
BYD Dolphin จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ B-Segment ซึ่งหมายถึงรถยนต์ขนาดเล็กที่มีขนาดตัวถังกะทัดรัดและคล่องตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง BYD Dolphin มีความยาว 4150 มิลลิเมตร กว้าง 1770 มิลลิเมตร สูง 1570 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2700 มิลลิเมตร ขนาดโดยรวมสอดคล้องกับลักษณะของรถยนต์ขนาดเล็ก มีประตู 5 บานและที่นั่ง 5 ที่ เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและครอบครัวขนาดเล็ก ในตลาดไทยรถยนต์ขนาดเล็กได้รับความนิยมสูงเนื่องจากจอดรถง่ายและใช้พลังงานทั้งน้ำมันและไฟฟ้าน้อยกว่า Dolphin ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้ามีข้อได้เปรียบจากพลังงานสะอาดที่ไม่มีมลพิษและต้นทุนการใช้รถที่ประหยัด จึงตอบโจทย์แนวโน้มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความคุ้มค่า จึงเป็นผู้นำยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ของไทยและเสริมความแข็งแกร่งในกลุ่ม B-Segment ได้อย่างมั่นคง
Q
ค่า Resale Value ของ BYD Dolphin คืออะไร
BYD Dolphin เป็นหนึ่งในรถยนต์พลังงานใหม่ที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยราคามือสองได้รับผลกระทบจากอายุรถระยะทางใช้งานอุปกรณ์เสริมและสภาพการดูแลรักษาโดยทั่วไปรถมือสองที่มีอายุ 1-2 ปีและระยะทางต่ำประมาณ 20 000 ถึง 40 000 กิโลเมตร รุ่น Standard Range ราคาจะอยู่ระหว่าง 700 000 ถึง 900 000 บาทส่วนรุ่น Long Range จะอยู่ในช่วง 900 000 ถึง 1 100 000 บาทเนื่องจากแบรนด์ BYD ได้รับการยอมรับมากขึ้นในไทยและเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามีความทันสมัยราคามือสองจึงเสื่อมค่าช้ากว่ารถยนต์น้ำมันปกติแต่หากแบตเตอรี่ยังมีสุขภาพดีและมีประวัติการบริการครบถ้วนจะช่วยเพิ่มมูลค่าได้แนะนำให้ผู้ซื้อใช้แพลตฟอร์มรถมือสองมืออาชีพหรือช่องทางรับรองจากทางการเช่นศูนย์ BYD 4S ในการตรวจสอบสภาพรถและรายงานสุขภาพแบตเตอรี่ SOC พร้อมทั้งติดตามนโยบายของรัฐบาลไทยเกี่ยวกับรถพลังงานใหม่เช่นการปรับภาษีนำเข้าเนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อราคาซื้อขายรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง
Q
เกียร์ของ BYD Dolphin คือประเภทอะไร
BYD Dolphin ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติแบบความเร็วเดียวสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีตำแหน่งเกียร์เพียงหนึ่งตำแหน่งโครงสร้างเกียร์แบบนี้เรียบง่ายช่วยลดการสูญเสียพลังงานในกระบวนการส่งกำลังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าและยืดระยะทางวิ่งของรถได้มากขึ้นนอกจากนี้เกียร์ความเร็วเดียวยังไม่มีการเปลี่ยนเกียร์ที่ซับซ้อนทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยจึงควบคุมง่ายและช่วยให้มีสมาธิบนถนนได้ดีโดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดในเมืองรวมถึงเกียร์ชนิดนี้ยังทำงานอย่างเสถียรส่งผลให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างนุ่มนวลลดอาการสะดุดและเพิ่มความสบายในการขับขี่และโดยสาร
Q
ขนาด PCD ของ BYD Dolphin คืออะไร
BYD Dolphin ใช้ขนาด PCD 5x114.3 โดยมีจำนวนรูน็อตล้อ 5 รูและขนาดรูศูนย์กลางล้อ CB อยู่ที่ 60.1 มิลลิเมตรซึ่งเป็นขนาด PCD ที่นิยมใช้ในรถหลายรุ่นยอดนิยมในตลาดไทยเช่นโตโยต้าและฮอนด้าบางรุ่นช่วยให้เจ้าของรถสามารถเปลี่ยนล้อหรืออัปเกรดวงล้อได้ง่ายขึ้นเมื่อซื้อวงล้อแต่งในไทยแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก TISI เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของประเทศนอกจากนี้ค่าความลึก ET และความกว้าง J ของวงล้อต้องตรงกับค่าที่โรงงานกำหนดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบช่วงล่างและความมั่นคงในการขับขี่หากเปลี่ยนล้อที่ไม่ใช่ของเดิมควรระวังการเลือกขนาดยางให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการผิดพลาดของมาตรวัดความเร็วและไม่กระทบต่อระยะทางวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้า
Q
BYD Dolphin มี Apple CarPlay ไหม
BYD Dolphin รุ่นที่จำหน่ายในตลาดติดตั้งฟังก์ชัน Apple CarPlay แบบไร้สายเป็นมาตรฐานผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ iPhone ผ่านหน้าจอสัมผัสได้อย่างราบรื่นเพื่อใช้งานนำทางเล่นเพลงและโทรศัพท์โดยไม่ต้องใช้สายข้อมูลระบบนี้รองรับการใช้งานร่วมกับ Android Auto และระบบอัจฉริยะ DiLink ของ BYD รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA ซึ่งอาจขยายฟังก์ชันการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนในอนาคตสำหรับผู้ใช้ iOS การมี CarPlay ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถในชีวิตประจำวันอย่างมาก
Q
ยี่ห้อของยางรถยนต์ของ BYD Dolphin คืออะไร
BYD Dolphin ที่จำหน่ายในตลาดประเทศไทยมักใช้ยางแบรนด์ Giti Comfort 225 หรือ Hankook Kinergy GT ซึ่งเป็นยางคุณภาพสูงออกแบบเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขนาดมาตรฐานคือ 215 50 R17 ยางเหล่านี้เน้นประสิทธิภาพหลักที่สำคัญต่อรถยนต์ไฟฟ้าคือการยึดเกาะถนนเพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยการลดเสียงรบกวนเพื่อเพิ่มความเงียบภายในห้องโดยสารและการประหยัดพลังงานช่วยลดการใช้ไฟฟ้าและรักษาระยะทางวิ่งจริงผู้ใช้ BYD Dolphin ในไทยหากต้องการเปลี่ยนยางสามารถไปที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตจาก BYD หรือร้านยางแบรนด์ดังต่างๆแนะนำให้เลือกยางที่มีเทคโนโลยีแรงต้านการหมุนต่ำ Low Rolling Resistance LRR ซึ่งช่วยรักษาระยะทางวิ่งตามที่กำหนดนอกจากนี้เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ทั้งในเมืองและบนถนนชนบทในประเทศไทยควรตรวจสอบดัชนีรับน้ำหนัก Load index และระดับความเร็ว Speed rating ของยางที่เลือกตามคำแนะนำในคู่มือรถยนต์
Q
BYD Dolphin เป็นรถยนต์ที่ดีไหม เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียได้ที่นี่
BYD Dolphin เป็นรถยนต์ที่น่าสนใจมีจุดเด่นหลายประการในด้านระยะทางวิ่งจริงทดสอบแล้วพบว่าระยะทางวิ่งคงที่แม้ในสภาพอากาศร้อนสามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะสั้นแบตเตอรี่ใช้แบบใบมีดซึ่งมีความเสถียรสูงในสภาพอุณหภูมิสูงโดยหลังใช้งานหนึ่งปีแบตเตอรี่เสื่อมไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ด้านสมรรถนะการเร่งความเร็วทำได้ดีเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาประมาณ 7 วินาทีให้ความรู้สึกเร้าใจด้านพื้นที่ใช้สอยออกแบบได้อย่างเหมาะสมทั้งเบาะนั่งแถวหน้าแถวหลังและพื้นที่เก็บสัมภาระเพียงพอสำหรับการเดินทางของครอบครัวอุปกรณ์ติดตั้งมาอย่างครบครันรวมถึงระบบความปลอดภัยพื้นฐานเช่น ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถดีไซน์ภายนอกเรียบหรูทันสมัยตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มผู้ใช้รุ่นใหม่แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการเช่นหน้าจอหลักมีขนาดใหญ่ทำให้บางครั้งอาจเผลอสัมผัสโดยไม่ตั้งใจและไปชนกับสิ่งของบนที่วางของระบบเครื่องเสียงหลังอัปเกรดเสียงจะออกแนวสดใสซึ่งบางคนโดยเฉพาะผู้ชายอาจไม่ชอบส่วนเบาะหลังค่อนข้างแข็งทำให้นั่งเดินทางไกลไม่ค่อยสบาย
Q
ความกว้างของ BYD Dolphin คือเท่าไหร่
BYD Dolphin มีความกว้าง 1770 มิลลิเมตรซึ่งเป็นขนาดที่ให้ความสมดุลระหว่างความคล่องตัวของตัวรถกับความกว้างภายในห้องโดยสารเมื่อนั่งภายในรถจะรู้สึกได้ถึงพื้นที่ช่วงไหล่ที่ไม่อึดอัดไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารสองคนแถวหน้าหรือผู้ใหญ่สองคนแถวหลังก็สามารถนั่งได้อย่างสบายนอกจากความกว้างแล้ว BYD Dolphin ยังมีสัดส่วนตัวถังที่ดีในด้านอื่นโดยมีความยาวอยู่ระหว่าง 4070 ถึง 4280 มิลลิเมตรความสูง 1570 มิลลิเมตรและระยะฐานล้อ 2700 มิลลิเมตรซึ่งระยะฐานล้อที่ยาวช่วยเพิ่มพื้นที่ช่วงยาวภายในรถส่งผลให้การโดยสารมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
Q
ราคาภาษีถนนของ BYD Dolphin คือเท่าไหร่ วิธีการคำนวณ
การคำนวณภาษีถนนของ BYD Dolphin ในประเทศไทยใช้หลักการเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปโดยอ้างอิงจากกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดสูตรคือกำลังมอเตอร์สูงสุดหน่วยเป็นกิโลวัตต์คูณด้วยอัตรา 65 บาทต่อกิโลวัตต์เช่นรุ่น Standard ของ Dolphin มีกำลังมอเตอร์ 70 กิโลวัตต์จะต้องจ่ายภาษีถนนปีละ 70 คูณ 65 เท่ากับ 455 บาทรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมรถยนต์พลังงานใหม่โดยให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีถนนซึ่งถูกกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมอย่างมากทั้งนี้ภาษีถนนอาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามรุ่นและปีของรถแนะนำให้สอบถามกับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อยืนยันยอดเงินที่แน่นอนนอกจากภาษีถนนเจ้าของรถยังต้องชำระค่าเบี้ยประกันภัยภาคบังคับประมาณ 600 ถึง 1000 บาทต่อปีรัฐบาลไทยยังสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าด้วยมาตรการอื่นๆเช่นการลดภาษีนำเข้าซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลัง
Q&A ล่าสุด
Q
2023 Honda CR-V เป็นรถ 7 ที่นั่งหรือไม่
Honda CR-V ปี 2023 ในตลาดประเทศไทยมีทางเลือกแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งเป็นการอัปเกรดสำคัญที่ Honda พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระยะฐานล้อถูกเพิ่มขึ้น 40 มิลลิเมตรเป็น 2700 มิลลิเมตร ทำให้เบาะแถวที่สามมีพื้นที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น เหมาะกับการเดินทางของครอบครัวไทยที่มักมีหลายเจเนอเรชันไปด้วยกัน อย่างไรก็ตาม พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังในรุ่น 7 ที่นั่งเมื่อมีผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งจะเหลือเพียง 146 ลิตร แต่สามารถขยายเป็น 472 ลิตรได้ด้วยการพับเบาะแถวที่สามลง ซึ่งตอบสนองการใช้งานในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือเทศกาลที่ต้องขนของจำนวนมากได้เป็นอย่างดี รถรุ่นนี้มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 15 ลิตร (193 แรงม้า) และระบบไฮบริด 20 ลิตร (207 แรงม้า) โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่เหมาะกับการขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่มีการหยุดและออกตัวบ่อยครั้ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมัน CR-V ในประเทศไทยยังคงมีมูลค่าขายต่อสูงและมีความน่าเชื่อถือที่พิสูจน์แล้วภายใต้สภาพอากาศร้อนและฝนชุก การเพิ่มทางเลือก 7 ที่นั่งยิ่งทำให้ CR-V แข็งแกร่งขึ้นในฐานะ SUV สำหรับครอบครัว แต่แนะนำให้ผู้บริโภคทดลองใช้งานจริงในเบาะแถวที่สามก่อนตัดสินใจซื้อ เนื่องจากเบาะแถวหลังของ SUV ขนาดคอมแพกต์มักจะเหมาะกับเด็กหรือการนั่งระยะสั้นมากกว่า
Q
มีปัญหาใดๆ กับ Honda CR-V 2023 หรือไม่
รถฮอนด้า CR-V รุ่นปี 2023 ในตลาดไทยแสดงผลงานค่อนข้างนิ่ง แต่จากเสียงสะท้อนของเจ้าของรถบางส่วนอาจพบปัญหาที่พบบ่อยอยู่บ้าง อย่างแรกคือระบบมัลติมีเดียอาจมีอาการค้างเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะเมื่อใช้งานระบบนำทางในสภาพอากาศร้อนจัดอาจทำให้การตอบสนองช้าลง ซึ่งควรอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบเป็นประจำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ สภาพอากาศร้อนชื้นของไทยส่งผลต่อความเสถียรของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จริงๆ ส่วนรุ่นไฮบริดอาจมีเสียงเบรกผิดปกติเล็กน้อยในช่วงฤดูฝนที่ความชื้นสูง ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมในไทย แนะนำให้ตรวจสอบระบบเบรกทุกครั้งที่เข้าศูนย์บริการ นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้บางรายรายงานว่าหลังจากการพับเบาะหลังลงจะมีระดับต่างจากพื้นที่เก็บของประมาณ 2 ซม. ควรระมัดระวังเรื่องความเรียบเมื่อขนส่งสิ่งของขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามปัญหาส่วนใหญ่สามารถแก้ไขได้ผ่านช่องทางบริการหลังการขายของฮอนด้าไทย และไม่ส่งผลต่อสมรรถนะหลักของรถ สำหรับคนไทยแล้ว เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L ของ CR-V ยังคงแสดงประสิทธิภาพการบริโภคน้ำมันที่ประมาณ 6.8L/100km แม้ในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ส่วนรุ่นไฮบริดเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปมาระหว่างเมืองบ่อยๆ ก่อนซื้อแนะนำให้ทดลองขับเน้นการตอบสนองของระบบอิเล็กทรอนิกส์และประสิทธิภาพการทำความเย็นของแอร์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการใช้รถในไทย และฮอนด้าไทยยังมีบริการรับประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตรเพื่อคุ้มครองสิทธิ์เจ้าของรถอย่างมีประสิทธิภาพ
Q
2023 Honda CRV สามารถไปได้เร็วแค่ไหน
รถฮอนด้า CR-V รุ่นปี 2023 ที่ขายในไทยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 190 กม./ชม. แต่ความเร็วจริงอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและการตั้งค่าระบบ รวมถึงสภาพถนนในแต่ละพื้นที่ SUV คันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตรหรือระบบไฮบริด 2.0 ลิตร ที่ยังคงให้กำลังขับเคลื่อนได้อย่างมั่นคงแม้ในสภาพอากาศร้อนและรถติดในเมืองไทย ควรระวังว่าความเร็วสูงสุดบนทางด่วนไทยส่วนใหญ่จำกัดที่ 120 กม./ชม. ดังนั้นควรขับขี่ตามกฎจราจร ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะของ CR-V เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบรักษาช่องทางเดินรถ ช่วยให้ขับขี่สะดวกสบายในสภาพถนนที่ซับซ้อนรอบกรุงเทพฯ รถรุ่นนี้ขายดีในตลาดไทยเพราะประหยัดน้ำมันและมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับครอบครัว โดยรุ่นไฮบริดยิ่งตอบโจทย์ในยุคที่油价น้ำมันแพงขึ้นเรื่อยๆ ควรบำรุงรักษาเครื่องยนต์เป็นประจำเพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแม้ในสภาพอากาศร้อน
Q
ฮอนด้า CR-V 2023 ใช้เชื้อเพลิงกี่ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร
รถฮอนด้า CR-V รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่แตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์ โดยรุ่นเบนซินทั่วไปจะกินน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 7.5-8.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นไฮบริดนั้นประหยัดกว่าคืออยู่ที่ประมาณ 5.0-5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่ สภาพถนน และการใช้แอร์ด้วยนะ โดยเฉพาะในไทยที่อากาศร้อนและถนนในกรุงเทพก็ติดขัดบ่อย ถ้าอยากประหยัดน้ำมันจริงๆ แนะนำให้ขับแบบเนียนๆ ไม่เร่งกระชาก แล้วก็คาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า จะช่วยลดการสิ้นเปลืองได้ ส่วนการดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ เช่น เปลี่ยนฟิลเตอร์อากาศและน้ำมันเครื่อง ก็ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น
ที่สำคัญ รัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีให้รถไฮบริด ทำให้ CR-V รุ่นไฮบริดประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวกว่า แถมระบบ i-MMD ของฮอนด้ายังเหมาะกับการขับขี่ในเมืองที่ต้องหยุด-เดินบ่อยๆ ช่วยลดการกินน้ำมันได้ดีเลย สำหรับคนที่กำลังมองหารถ SUV ในไทย นอกจากจะดูตัวเลข油耗จากแคตาล็อกแล้ว ควรดูด้วยว่าวันๆ ขับในเมืองมากหรือขับทางไกลบังคับ เพราะถ้าขับทางไกล ความแตกต่างของอัตราสิ้นเปลืองระหว่างรุ่นเบนซินกับไฮบริดจะลดลงนะ
Q
2023 CR-V ดีกว่า 2022 หรือไม่
รถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี รุ่นปี 2023 ได้รับการอัปเกรดหลายจุดเมื่อเทียบกับรุ่นปี 2022 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยมากขึ้น เริ่มจากดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัยขึ้นด้วยกริลหน้าและไฟหน้า LED ที่ดูเฉียบคมกว่าเดิม พร้อมเส้นสายตัวรถที่ลื่นไหล ทำให้ภาพรวมดูโมเดิร์นกว่า ส่วนภายในใช้วัสดุคุณภาพสูงอย่างหนังนุ่มเพิ่มขึ้น จอทัชสกรีนขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 9 นิ้ว และรองรับระบบ Apple CarPlay แบบไร้สาย ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกไฮเทคได้ชัดเจน
ในส่วนของพื้นที่โดยสาร รุ่น 2023 เพิ่มระยะฐานล้ออีก 40 มม. ทำให้มีพื้นที่ขาโดยเฉพาะเบาะหลังกว้างขวางขึ้น เหมาะสำหรับครอบครัวไทยที่ชอบเดินทางไกล แม้ยังใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบเหมือนเดิม แต่มีการปรับตั้งใหม่ให้ประหยัดน้ำมันขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์กับสภาพการจราจรติดขัดในไทย
ระบบความปลอดภัยก็ดีขึ้นด้วยการติดตั้ง Honda Sensing เป็นมาตรฐาน ซึ่งรวมฟังก์ชั่น Cruise Control แบบปรับความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยควบคุมเลน ช่วยให้ขับขี่ในเมืองไทยที่การจราจรซับซ้อนได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังปรับระบบช่วงล่างให้รองรับถนนสภาพไม่ดีในบางพื้นที่ของไทยได้ดีกว่าเดิม
ราคาของรุ่น 2023 อาจสูงขึ้นเล็กน้อยแต่ก็คุ้มค่ากับการอัปเกรดต่างๆ สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถครอสโอเวอร์ถ้าคิดถึงความคุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะผู้ที่เน้นความทันสมัยและความสบายในการใช้งาน รุ่น 2023 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้ายังเน้นราคาประหยัด อาจมองหารุ่น 2022 ที่ตอนนี้อาจมีโปรโมชั่นน่าสนใจ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

BYDโรงงานในประเทศไทยส่งออกไปยุโรปเป็นครั้งแรก รถยนต์รุ่น Dolphin แบบพวงมาลัยขวาผลิตในประเทศไทยเริ่มออกสู่ตลาดทั่วโลก
สุรเดชAug 27, 2025

พ.ค. 2025 ไทยขายรถ EV 12,034 คัน BYD Dolphin ขายดีอันดับ 1!
Kevin WongJun 23, 2025

BYD Dolphin Surf วางขายในยุโรป แม้ราคาจะเป็นสองเท่าของจีน แต่ก็ยังถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก
ณัฐวุฒิMay 22, 2025

วิเคราะห์จากสมรรถนะถึงอุปกรณ์เพื่อเข้าใจข้อดีของ BYD Dolphin อย่างครบถ้วน
ธนวัฒน์Apr 14, 2025

BYD Dolphin ที่มีดีไซน์เล็กกระทัดรัดและขับขี่ง่าย เหมาะกับผู้บริโภคประเภทไหนบ้าง?
ธนวัฒน์Sep 9, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย