Q
ผ่อน Porsche Cayenne เดือนละเท่าไหร่ ดูที่นี่
การผ่อนรายเดือนสำหรับรถปอร์เช่ คายเอนน์ในประเทศไทยนั้น จำนวนเงินจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ของรถ แผนการผ่อนชำระ รวมถึงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารในขณะนั้น โดยทั่วไปแล้วรถรุ่นพื้นฐานจะผ่อนเริ่มต้นประมาณ 100,000-150,000 บาทต่อเดือน แต่จำนวนเงินสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับเงินดาวน์ (ปกติอยู่ที่ 20%-30% ของราคารถ) และระยะเวลาการผ่อน (ส่วนใหญ่ 3-5 ปี) แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายปอร์เช่ประเทศไทยหรือธนาคารที่ร่วมรายการโดยตรงเพื่อขอใบเสนอราคาที่แน่นอน นอกจากนี้เมื่อซื้อรถในประเทศไทยยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่น ค่าจดทะเบียน ค่าประกัน และภาษีสรรพสามิต ซึ่งอาจส่งผลต่องบประมาณโดยรวม ในตลาดไทยความต้องการรถ SUV หรูยังคงสูงและคายเอนน์ก็เป็นที่นิยมเนื่องจากสมรรถนะและการตกแต่งภายในสุดหรู โดยตัวแทนจำหน่ายมักมีโปรโมชั่นผ่อนสบายๆ เช่น ดอกเบี้ยพิเศษหรือบริการรับประกันที่ยาวขึ้น แนะนำให้เปรียบเทียบเงื่อนไขการกู้ยืมจากสถาบันการเงินต่างๆ และอย่าลืมติดตามโปรโมชั่นตามช่วงเวลาที่อาจช่วยลดต้นทุนในการซื้อรถได้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Porsche Cayenne คืออะไร
พอร์เช่ คาเยนน์ ในฐานะรถ SUV ระดับหรู แม้จะโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะและมูลค่าของแบรนด์ แต่ในตลาดไทยก็ยังมีข้อด้อยบางประการ เช่น ราคาที่ค่อนข้างสูงและค่าบำรุงรักษาหลังการขาย ซึ่งอาจเป็นภาระไม่น้อยสำหรับผู้บริโภคไทย โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความผันผวน นอกจากนี้ ขนาดตัวรถที่ค่อนข้างใหญ่ของคาเยนน์อาจทำให้การขับขี่ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่มีการจราจรหนาแน่นและถนนคับแคบไม่ค่อยคล่องตัวนัก รวมถึงการจอดรถที่ค่อนข้างยาก แม้เครื่องยนต์จะแรงแต่ในสภาพการจราจรทั่วไปของไทย ประสิทธิภาพนี้อาจไม่ได้ใช้เต็มที่และยังทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าเมื่อเทียบกับรถ SUV ประหยัดน้ำมันที่คนไทยนิยมมากขึ้น ทำให้ความประหยัดใช้งานจริงอาจไม่ตอบโจทย์เท่าไร ส่วนสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้นก็ต้องการระบบแอร์และความแน่นหนาของรถที่ดี ซึ่งคาเยนน์ทำได้ดีอยู่แต่หลังจอดตากแดดนานๆ อุณหภูมิในรถขึ้นเร็ว ต้องใช้ระบบทำความเย็นที่ประสิทธิภาพสูงมาช่วย ทว่า ความหรูหราของห้องโดยสารและเทคโนโลยีทันสมัยในคาเยนน์ก็ยังเป็นจุดขายดึงดูดผู้บริโภคไทยที่มองหาคุณภาพ เพียงแต่ต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจซื้อให้ดี
Q
Porsche Cayenne อยู่ในกลุ่ม Segment ไหน?
พอร์เช่ คาเยนน์ เป็น SUV ระดับหรูขนาดกลางที่อยู่ในเซกเมนต์ Luxury Mid-Size SUV Segment ซึ่งรุ่นนี้ได้รับความนิยมมากในตลาดไทย เพราะตอบโจทย์ทั้งเรื่องสมรรถนะสูงและการใช้งานในชีวิตประจำวัน เหมาะกับสภาพถนนในกรุงเทพฯ และการขับขี่ในเส้นทางภูเขาทางภาคเหนือของไทย คาเยนน์ ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จประสิทธิภาพสูง พร้อมเทคโนโลยีช่วงล่างขั้นสูง ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่พื้นที่ภายในอันกว้างขวางและอุปกรณ์หรูหราก็ตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่ม SUV ระดับพรีเมียมในไทยได้เป็นอย่างดี ในตลาดไทย คาเยนน์ มีคู่แข่งสำคัญอย่าง BMW X5 และ Mercedes-Benz GLE แต่ด้วยดีเอ็นเอด้านสปอร์ตและการเป็นแบรนด์ระดับตำนานของพอร์เช่ ทำให้คาเยนน์ มีจุดยืนที่แข็งแกร่งในตลาด SUV หรู นอกจากนี้ สภาพอากาศร้อนของไทยยังต้องการระบบระบายความร้อนและแอร์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งคาเยนน์ ทำได้ดีเสมอมา นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้รุ่นนี้ขายดีต่อเนื่องในไทย สำหรับคนไทยที่กำลังมองหา SUV ระดับหรู คาเยนน์ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะไม่เพียงเหมาะกับการใช้งานในครอบครัว แต่ยังตอบโจทย์คนรักความสนุกในการขับขี่ได้อย่างลงตัว
Q
“Porsche Cayenne ขายต่อได้ราคาเท่าไหร่”
รถโปโล่ Cayenne ในตลาดมือสองของไทยถือว่ามีอัตราการรักษามูลค่าสูงมาก สาเหตุหลักมาจากแบรนด์ที่แข็งแกร่ง คุณภาพที่น่าเชื่อถือ รวมถึงความต้องการที่ต่อเนื่องของตลาด SUV หรูในไทย จากข้อมูลตลาดพบว่า Cayenne ที่ใช้งานประมาณ 3 ปี มักจะรักษามูลค่าได้ถึง 60%-70% ของราคาเดิม ขึ้นอยู่กับรุ่น อุปกรณ์เสริม ประวัติการบริการและเลขไมล์ด้วย ในไทยนั้น รุ่นดีเซลของ Cayenne มักจะรักษามูลค่าได้ดีกว่ารุ่นเบนซินเล็กน้อยเพราะประหยัดน้ำมันมากกว่า แถมรถที่เข้าศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของโปโล่ยังเป็นที่ต้องการมากกว่าและได้ราคาดีกว่าเวลาขายต่ออีกต่างหาก อีกปัจจัยสำคัญคือนโยบายภาษีนำเข้ารถของไทยที่ส่งผลต่อราคามือสองของ Cayenne เพราะราคารถใหม่ที่สูงก็ช่วยพยุงราคาตลาดมือสองไปด้วย สำหรับคนที่กำลังมองหา Cayenne มือสอง การเลือกรถสภาพดีที่มีประวัติการบำรุงรักษาครบถ้วนถือเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด ตลาดรถหรูของไทยที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายปีมานี้ก็ทำให้ Cayenne มีแนวโน้มจะรักษามูลค่าได้ดีในอนาคต แต่ก่อนซื้อควรเช็กราคาตลาดท้องถิ่นและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินราคาที่แม่นยำจะดีที่สุดครับ
Q
Porsche Cayenne มีกี่ซีซี
พอร์เช่ คายenne ในฐานะรถ SUV หรู ขนาดความจุเครื่องยนต์จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีที่ผลิต สำหรับในตลาดไทยรุ่นที่นิยมจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน เช่น รุ่น 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบ (ประมาณ 2,995 ซีซี), รุ่น 2.9 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ (ประมาณ 2,894 ซีซี) และรุ่น 4.0 ลิตร V8 เทอร์โบคู่ (ประมาณ 3,996 ซีซี) ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดจะผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้า ตัวอย่างเช่น Cayenne E-Hybrid ที่ใช้เครื่อง 2.0 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ (ประมาณ 1,984 ซีซี) หรือรุ่น 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการทั้งสมรรถนะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในไทยด้วยปัญหารถติดและราคาน้ำมันที่สูง ทำให้หลายคนเลือกใช้รุ่นไฮบริดเพื่อความประหยัด แถมยังได้ประโยชน์จากนโยบายลดภาษีรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยอีกด้วย
ขนาดความจุเครื่องยนต์ (ซีซี) ส่งผลโดยตรงต่อกำลังและแรงบิด แต่ประสบการณ์การขับขี่ยังขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ เช่น การตั้งค่ากรอบเกียร์ น้ำหนักตัวรถ และการออกแบบอากาศพลศาสตร์ ดังนั้นแนะนำให้ลูกค้าไทยเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง เช่น การขับขี่ในเมืองอย่างในกรุงเทพฯ หรือการเดินทางไกล พร้อมทั้งควรเข้าศูนย์บริการพอร์เช่ตามกำหนดเพื่อรักษาสภาพรถให้สมบูรณ์ที่สุด
Q
Porsche Cayenne ใช้เครื่องยนต์อะไร
Porsche Cayenne ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยตอนนี้มีให้เลือกหลากหลายขุมพลัง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน V6 เทอร์โบคู่ ขนาด 2.9 ลิตร กำลังสูงสุด 440 แรงม้า, เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร กำลังสูงสุด 549 แรงม้า รวมถึงรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงถึง 455 แรงม้า เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องสมรรถนะและสิ่งแวดล้อม
สำหรับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย Cayenne มาพร้อมระบบระบายความร้อนขั้นสูงและวัสดุที่ทนต่อความร้อน ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจแม้ในสภาพการใช้งานหนักต่อเนื่อง ระบบเกียร์อัตโนมัติ Tiptronic S แบบ 8 สปีด ยังช่วยให้ตอบสนองการจราจรที่ติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ได้ดีอีกด้วย
นอกจากนี้ รถรุ่นไฮบริดยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากภาครัฐ ทำให้ Cayenne รุ่นปลั๊กอินไฮบริดมีความคุ้มค่ามากขึ้นในตลาดไทย และศูนย์บริการ Porsche ในประเทศก็มีความเชี่ยวชาญในการดูแลรักษารถให้พร้อมใช้งานในสภาพอากาศชื้นและฝนตกบ่อยอย่างประเทศไทย
เครื่องยนต์ของ Cayenne ยังถูกปรับจูนให้เหมาะกับทั้งการขับขี่บนทางเรียบและการลุยทางลาดชันหรือภูเขา ทำให้เหมาะกับสภาพถนนหลากหลาย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือของไทย สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถทางเทคนิคของ Porsche ในการออกแบบระบบขับเคลื่อนที่ยืดหยุ่นและทรงพลัง
Q
Porsche Cayenne ใช้เกียร์แบบไหน”
สำหรับรถปอร์เช่ คายีน (Porsche Cayenne) ที่วางจำหน่ายในตลาดไทย จะใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ Tiptronic S 8 สปีด เป็นหลัก ซึ่งเกียร์รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ที่ลื่นไหลและตอบสนองเร็ว เหมาะสมกับสภาพการขับขี่แบบผสมผสานในไทย ทั้งการจราจรติดขัดในเมืองและการขับทางไกลบนทางหลวง พร้อมยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีอีกด้วย ส่วนรุ่นที่เน้นสมรรถนะสูงอย่าง Cayenne Turbo GT จะใช้เกียร์รุ่นเดียวกันที่ได้รับการปรับแต่งพิเศษให้เหมาะกับการขับสปอร์ตมากขึ้น ทั้งในเรื่องตรรกะการเปลี่ยนเกียร์และความทนทาน พิเศษไปกว่านั้น ระบบเกียร์ของคายีนยังออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทยโดยเฉพาะ ด้วยระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง ที่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่แม้อยู่ในอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน สำหรับคนที่ต้องการความสนุกในการขับขี่มากขึ้น ยังสามารถอัพเกรดด้วย Sport Chrono Package เพื่อเพิ่มความเร็วในการเปลี่ยนเกียร์ได้อีกด้วย ที่สำคัญ ปอร์เช่ประเทศไทยยังมีบริการหลังการขายสำหรับระบบเกียร์โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์หรืออัพเดตซอฟต์แวร์ เพื่อให้รถพร้อมใช้งานสมบูรณ์แม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย
Q
Porsche Cayenne ใช้เกียร์แบบไหน”
ขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลัก) ของ Porsche Cayenne คือ 5×130 หมายความว่าล้อมีรูสลัก 5 รู ที่เรียงตัวเป็นวงกลม диаметром 130 มม. ซึ่งสเปคนี้ใช้ได้กับรุ่น Cayenne ส่วนใหญ่ รวมถึงรุ่นที่ขายในประเทศไทย สำหรับคนไทยที่อยากอัพเกรดล้อใหม่ ต้องเช็ค PCD ให้ตรงเป๊ะๆ นะครับ ถ้าไม่匹配อาจทำให้ล้อติดตั้งไม่แน่น หรือเกิดอันตรายขณะขับขี่ได้ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงค่า offset (ET) และขนาดรูกลางล้อ (เช่น 71.6 มม.) ด้วย เพื่อให้ล้อใหม่เข้ากับรถได้พอดี พอพูดถึงสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้เลือกยางรถยนต์เกรดดีๆ เป็นยางฤดูร้อนหรือยางตลอด季節 จะช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนเวลาฝนตกได้เยอะ เลือกล้อแปลง时ต้องดูให้ชัวร์ว่าผ่านมาตรฐาน TISI และเป็นไปตามกฎหมายขนส่งไทยด้วยนะ ถ้ายังไม่แน่ใจเรื่องสเปคล้อ สามารถเปิดคู่มือรถดูเพิ่มเติม หรือปรึกษาโชว์รูม Porsche ในไทยได้เลย เขามีบริการอัพเกรดล้อแบบ Original ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Cayenne โดยตรง ทำให้มั่นใจได้ว่าล้อจะทำงานได้สมบูรณ์แบบตามการออกแบบของรถ
Q
Porsche Cayenne รองรับ Apple CarPlay ไหม?
ใช่แล้วครับ Porsche Cayenne รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay เป็นมาตรฐานทุกคัน ช่วยให้คุณใช้งานแอปจาก iPhone เช่น แผนที่ navigation เพลง หรือโทรศัพท์ผ่านหน้าจอกลางรถได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณเช็กสภาพการจราจรผ่าน Google Maps หรือ Waze แบบเรียลไทม์ เพื่อเลือกเส้นทางที่โล่งที่สุด นอกจาก Apple CarPlay แล้ว Cayenne ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android อีกด้วย ระบบมัลติมีเดียของโพร์เช่ทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย พร้อมหน้าจอสัมผัสที่ตอบสนองได้ดี และยังมีปุ่มควบคุมที่พวงมาลัยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ที่น่าสนใจคือบางรุ่นระดับสูงในไทยยังมี Wireless CarPlay ให้ใช้งานแบบไร้สายโดยไม่ต้องเสียบสายเคเบิลอีกด้วย หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งาน สามารถติดต่อผู้จำหน่ายโพร์เช่ในประเทศไทยเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา
Q
“Porsche Cayenne ใช้ยางยี่ห้ออะไร
ยางแท้ของ Porsche Cayenne จะมีแบรนด์แตกต่างกันไปตามรุ่นและปีที่ผลิต ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นยางระดับพรีเมียมเช่น Michelin, Pirelli หรือ Continental ตัวอย่างเช่น ยาง Michelin Latitude Sport 3 หรือ Pirelli Scorpion Verde ที่ออกแบบมาสำหรับ SUV ประสิทธิภาพสูง โดยให้ทั้งการยึดเกาะถนนทั้งสภาพแห้งและเปียก และความทนทาน สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้เลือกยางที่มีสูตรป้องกันการเสื่อมสภาพจากความร้อนและมีดอกยางที่รีดน้ำได้ดี เพราะถนนไทยมีทางลาดชันค่อนข้างมาก การเลือกยางที่มีโครงสร้างแข็งแรงบริเวณแก้มยางจะช่วยรับมือกับสภาพถนนที่หลากหลายได้ดีขึ้น คุณสามารถตรวจสอบสเปกยางมาตรฐานได้ที่ศูนย์ Porsche หรือร้านยางที่ได้รับอนุญาตในไทย หรืออาจเลือกแบรนด์อื่นที่นิยมในท้องตลาดอย่าง Bridgestone Alenza แต่ต้องมั่นใจว่ายางนั้นตรงกับค่าดัชนีน้ำหนักและระดับความเร็วที่กำหนด ควรตรวจสอบความดันลมยางและความลึกของดอกยางเป็นประจำ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทยที่ควรลดความดันลมยางต่ำกว่ามาตรฐาน 3-5% เพื่อชดเชยการขยายตัวจากความร้อน ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางได้มากขึ้น
Q
รถ Porsche Cayenne เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
พอร์เช่ Cayenne คือ SUV ระดับไฮเอนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดไทย ด้วยการผสมผสานระหว่างความหรูหราและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ทำให้เหมาะกับสภาพถนนและความต้องการในการขับขี่ที่หลากหลายของประเทศไทย จุดเด่นของ Cayenne อยู่ที่ระบบขับเคลื่อนอันทรงพลัง ที่มาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบ รวมถึงรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่ประหยัดน้ำมัน เหมาะสมทั้งสำหรับการขับขี่ในเมืองที่เผชิญกับปัญหารถติดและการเดินทางไกล ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูง พร้อมด้วยเทคโนโลยีครบครัน เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับการขับขี่ นอกจากนี้ พอร์เช่ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมในไทย มอบความมั่นใจให้กับเจ้าของรถได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่า Cayenne มีราคาและค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูง และหากขับแบบสปอร์ตก็จะกินน้ำมันมากขึ้น นี่คือปัจจัยที่ผู้สนใจควรพิจารณาให้ดี สำหรับผู้บริโภคไทยที่มีงบประมาณเพียงพอและมองหารถที่รวมแบรนด์เนมกับสมรรถนะเข้าด้วยกัน Cayenne ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ความต้องการรถหรูนำเข้าในตลาดไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Cayenne ยืนหนึ่งในฐานะ SUV ระดับไฮเอนด์ที่เต็มไปด้วยความสามารถ
Q&A ล่าสุด
Q
ราคาภาษีรถยนต์ของ Zeekr X คือเท่าไร จะคำนวณอย่างไร
เรื่องราคาภาษีรถยนต์ของ Zeekr X ในประเทศไทย ตอนนี้ประเทศไทยยังไม่ได้นำเข้าโมเดลนี้อย่างเป็นทางการ ดังนั้นอัตราภาษีที่แน่นอนยังไม่มีการประกาศออกมา แต่สามารถอ้างอิงจากวิธีคำนวณภาษีรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้ โดยปกติแล้วประเทศไทยจะเรียกเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจากกำลังมอเตอร์ (กิโลวัตต์) หรือน้ำหนักรถ โดยมีอัตราภาษีที่ถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเพื่อส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นอาจได้สิทธิ์ยกเว้นภาษีในปีแรก ถ้าในอนาคต Zeekr X เข้าสู่ตลาดไทย ภาษีอาจจะคำนวณตามระดับกำลังมอเตอร์ เช่น 15-50 กิโลวัตต์ อาจมีอัตราภาษีประมาณ 400-800 บาทต่อปี แต่สุดท้ายแล้วต้องดูกฎหมายที่กรมการขนส่งทางบก (DLT) ประกาศอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายอย่าง เช่น ลดภาษีนำเข้า ลดภาษีสรรพสามิต เป็นต้น ก่อนซื้อแนะนำให้ตรวจสอบนโยบายล่าสุดกับตัวแทนจำหน่ายหรือหน่วยงานภาษี และที่สำคัญอย่าลืมว่า ค่าประกันรถยนต์ ค่าตรวจสภาพรถประจำปี ก็มีผลต่อค่าใช้จ่ายในการใช้งานด้วย ควรพิจารณารวมๆกันให้ดี
Q
ความดันลมยางของ Zeekr X คือเท่าไร
ค่าแรงดันลมยางมาตรฐานของ Zeekr X แนะนำให้อยู่ระหว่าง 2.3 ถึง 2.5 บาร์ หรือประมาณ 33 ถึง 36 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว โดยค่าที่แน่นอนอาจแตกต่างเล็กน้อยตามรุ่นรถ ประเภทยาง หรือภาระน้ำหนักที่บรรทุก แนะนำให้ตรวจสอบจากคู่มือผู้ใช้รถหรือติดตามฉลากบนกรอบประตูรถ ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย อุณหภูมิสูงอาจทำให้แรงดันลมยางเพิ่มขึ้น จึงควรตรวจสอบเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนการขับขี่ยาว ปรับแรงดันลมยางในสภาวะเย็นให้อยู่ในค่าที่แนะนำ เพื่อป้องกันแรงดันยางสูงเกินไปจนส่งผลต่อการยึดเกาะถนน หรือแรงดันต่ำเกินไปที่อาจเพิ่มการสิ้นเปลืองพลังงาน หากใช้ล้อขนาด 18 หรือ 19 นิ้วจากโรงงานพร้อมยางโปรไฟล์ต่ำ ควรใส่ใจความแม่นยำของแรงดันลมยางเพื่อรักษาความสบายและการควบคุมรถ ในช่วงฤดูฝนของไทย แนะนำให้รักษาแรงดันลมยางให้ใกล้เคียงค่าบนสุดเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ พร้อมตรวจสอบแรงดันยางทุกสองเดือน หากรถมีระบบตรวจสอบแรงดันยาง (TPMS) จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆ เช่น Tesla หรือ BYD ในรุ่นที่ใกล้เคียงกัน ค่าแรงดันลมยางก็มีแนวโน้มใกล้เคียงกัน แต่ควรอิงข้อมูลจากผู้ผลิตเป็นหลัก
Q
ขนาดยางของ Zeekr X คืออะไร
รถยนต์ Zeekr X มีสเปกรถแต่ละรุ่นที่แตกต่างกัน โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมาตรฐานจะมีขนาดยางทั้งคู่ที่ 18 นิ้ว ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อระดับ Flagship จะใช้ยางขนาด 245/45R20 ทั้งคู่ ซึ่งขนาดยางแต่ละแบบก็ให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่ต่างกันออกไป ยางขนาดเล็กอย่าง 18 นิ้วจะให้ความนุ่มสบายเป็นหลัก ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนและลดเสียงยางได้ดี เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมืองทั่วไปหรือคนที่เน้นความสบายเป็นหลัก ส่วนยางขนาดใหญ่แบบ 245/45R20 จะให้ความแม่นยำในการควบคุมรถและความมั่นคงสูงกว่า แถมยังดูสปอร์ตเท่ๆ อีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบการขับขี่แบบสปอร์ตหรือต้องการสัมผัสถึงประสิทธิภาพการควบคุมรถอย่างเต็มที่
Q
Zeekr X คุ้มค่าที่จะซื้อไหม
ในฐานะรถ SUV พลังงานไฟฟ้าที่มุ่งเน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในเมือง Zeekr X มีความสามารถในการแข่งขันที่ดีในตลาดไทย ด้วยความยาวตัวถัง 4432 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2750 มิลลิเมตร ทำให้ขับขี่คล่องตัวในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ พร้อมทั้งยังให้พื้นที่โดยสารเพียงพอ รถติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 200 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 268 แรงม้า ซึ่งยังคงสมรรถนะที่เสถียรในสภาพอากาศร้อนของไทย ภายในมีหน้าจอกลางขนาด 14.6 นิ้ว และหน้าปัดดิจิทัล 8.8 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยเสียงและการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ตอบโจทย์ความต้องการเทคโนโลยีอัจฉริยะของคนรุ่นใหม่ในไทย ด้านระยะทางขับขี่มีให้เลือกทั้งรุ่นที่วิ่งได้ 500 กิโลเมตรและ 560 กิโลเมตร ร่วมกับเครือข่ายสถานีชาร์จที่กำลังพัฒนาในไทย สามารถตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางรอบเมืองได้ดี นอกจากนี้ รัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าอย่างมาก ทำให้ Zeekr X มีความได้เปรียบด้านราคาในตลาดท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ผู้สนใจซื้อทดลองขับเพื่อสัมผัสการปรับแต่งช่วงล่างว่ารองรับถนนที่หลากหลายของไทยได้ดีเพียงใด รวมถึงประสิทธิภาพเครื่องปรับอากาศว่ารับมือกับสภาพอากาศเขตร้อนได้ดีหรือไม่
Q
วันเปิดตัว Zeekr X คือเมื่อไร
Zeekr X เปิดตัวในวันที่ 11 กรกฎาคม 2024 อย่างเป็นทางการในประเทศไทยพร้อมรุ่นพวงมาลัยขวา โดยมีให้เลือกสองรุ่นด้วยกัน ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าแบบแยกส่วนและมีสีตัวถังให้เลือกหลากหลาย ภายในติดตั้งหน้าปัดดิจิทัลและหน้าจอกลางแบบลอย ระบบเครื่องเสียงและระบบรถได้รับการปรับแต่งให้รองรับภาษาไทย รวมถึงฟังก์ชันนำทางด้วยเสียงภาษาไทย ด้านขุมพลังมีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังและรุ่นมอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านสมรรถนะที่แตกต่างกันของผู้บริโภค และมอบทางเลือกที่คุ้มค่าในตลาดไทย
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Porsche จะเริ่มวางจำหน่ายรุ่น Cayenne ไฟฟ้าเร็วๆนี้ รูปถ่ายจากการทดสอบที่สวีเดนได้ถูกเปิดเผยแล้ว
AshleyApr 2, 2025

Porsche Cayenne รุ่นที่ 4: รถสปอร์ตคันต่อไปของคุณอาจเป็น SUV!
AshleyJul 26, 2024

ขายไม่ดีเหรอ? Porsche ปรับลดคาดการณ์รายได้ทั้งปี หลังหั่นแนวโน้มรายได้ปีนี้
AshleyJul 25, 2024

Porsche Cayenne ต้นแบบของ SUV หรูหรา มีราคาตั้งแต่ 6,590,000 บาท
LienMay 21, 2024

Porsche เปิดตัว 911 Carrera 4S ใหม่ เคาะราคาเริ่ม 14.79 ล้านบาท
วิรุฬห์Jul 10, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย