Q
Mitsubishi Xpander ราคาเท่าไร?
ปัจจุบันในตลาดไทยยังไม่มีรถรุ่น Mitsubishi Wing God ที่นำเข้าโดยทางอย่างเป็นทางการ จึงไม่สามารถระบุราคาที่แน่นอนได้ แต่ถ้าอ้างอิงจากราคาตลาดญี่ปุ่นจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านเยน (ประมาณ 450,000-670,000 บาท) โดยราคาอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์และตัวเลือกเสริม รุ่นนี้เป็น MPV แนวสปอร์ตที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.4L MIVEC และเกียร์ CVT ซึ่งเน้นทั้งความสนุกในการขับขี่และพื้นที่ใช้งานที่ลงตัว สำหรับตลาดไทยแล้ว รถแนวนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ เพราะคนไทยชอบดีไซน์สปอร์ตแต่ก็ต้องการความประหยัดด้วย ถ้าสนใจรถตระกูล Mitsubishi อาจมองไปที่รุ่น Xpander ที่ผลิตในไทยซึ่งราคาและสเปคอาจเหมาะกับตลาดท้องถิ่นมากกว่า แนะนำให้ลองสอบถามตัวแทนจำหน่าย Mitsubishi ในไทยว่ามีช่องทางนำเข้าแบบขนานหรือมีแผนจะนำเข้าในอนาคตหรือไม่ นอกจากนี้ยังสามารถเปรียบเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Innova หรือ Honda BR-V ที่มีจำนวนมากในไทยและมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมกว่า
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
หมวดหมู่ของ Xpander คืออะไร?
รถ Mitsubishi Xpander ในตลาดไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถ MPV 7 ที่นั่ง ซึ่งเน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัวและผู้ที่ให้ความสำคัญกับความประหยัดพื้นที่ ข้อเด่นของรุ่นนี้คือการออกแบบภายในที่กว้างขวางและปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย พร้อมกับระยะความสูงจากพื้นรถ 220 มม. และระบบช่วงล่างที่ถูกปรับให้เหมาะกับสภาพถนนในไทย Xpander เป็นที่นิยมมากในไทยเพราะตอบโจทย์การเดินทางของครอบครัวไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเบาะแถวที่สามที่พับเก็บได้ ช่วยให้สามารถใช้งานได้ทั้งขนของหรือนั่งคนเต็มคัน ส่วนระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ 1.5L MIVEC คู่กับเกียร์ 4AT ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและดูแลรักษาง่าย ที่น่าสนใจคือในไทยยังมีรุ่น Xpander Cross ที่เพิ่มสไตล์ครอสโอเวอร์ด้วยชุดแต่งภายนอกที่สปอร์ตและอุปกรณ์เพิ่มเติม เพื่อตอบโจทย์ครอบครัวรุ่นใหม่ที่ชอบความแตกต่าง ในตลาด MPV ไทยนอกจาก Xpander แล้วยังมีคู่แข่งอย่าง Toyota Avanza และ Suzuki Ertiga ที่เน้นความคุ้มค่าในด้านพื้นที่ใช้สัยเหมือนกัน เวลาจะเลือกซื้อจริงๆ ลูกค้ามักจะดูจากความชอบในแบรนด์ ศูนย์บริการใกล้บ้าน และโปรโมชั่นเป็นหลัก
Q
Xpander เป็น SUV หรือ MPV?
Xpander เป็นรุ่นรถ 7 ที่นั่งจาก Mitsubishi Motors ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดไทย โดยถูกจัดอยู่ในกลุ่ม MPV (รถยนต์อเนกประสงค์) ไม่ใช่ SUV เพราะเน้นการออกแบบเพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสารและพื้นที่ใช้สัยภายในมากกว่า โครงสร้างรถใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ระยะความสูงจากพื้นปานกลาง ไม่ได้เน้นความสูงเหมือนรถ SUV ที่เหมาะสำหรับการขับลุย แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีบนถนนสภาพซับซ้อนของไทย จุดเด่นของ Xpander อยู่ที่การจัดเรียงเบาะที่นั่งที่ปรับเปลี่ยนได้และพื้นที่เก็บของกว้างขวาง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบเดินทางพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว หรือต้องการรถสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันและท่องเที่ยวในวันหยุด ในตลาดไทยบางครั้งเส้นแบ่งระหว่าง MPV กับ SUV ค่อนข้างคลุมเครือ บางรุ่นอาจผสมผสานคุณสมบัติของทั้งสองประเภท แต่ Xpander ยังคงยึดแนวคิดการออกแบบแบบ MPV อย่างชัดเจน ซึ่งสังเกตได้จากประตูสไลด์ข้างและความรู้สึกในการขับที่ใกล้เคียงรถเก๋ง สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกระหว่าง MPV กับ SUV ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก ถ้าต้องการพื้นที่และความสะดวกสบาย Xpander ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการรถสำหรับเส้นทาง off-road หรือชอบท่าทางการขับขี่ที่สูงกว่า ก็อาจจะมองหา SUV ดีกว่า
Q
ข้อดีของ Xpander คืออะไร?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดประเทศไทย เนื่องมาจากความประหยัดและการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยเป็นอย่างดี เริ่มจากห้องโดยสารที่กว้างขวางแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งเหมาะมากสำหรับครอบครัวใหญ่ในไทย โดยเฉพาะเวลาท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวหรือการเดินทางในชีวิตประจำวันที่มีผู้โดยสารหลายคน นอกจากนี้ยังมีระยะความสูงจากพื้นรถที่เหมาะสมและระบบช่วงล่างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ทำให้สามารถขับเคลื่อนบนถนนสภาพไม่ดีในบางพื้นที่ของไทยได้อย่างสบายๆ ส่วนเครื่องยนต์ 1.5L MIVEC ที่ติดตั้งมานั้นให้สมดุลระหว่างพลังและความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เหมาะสมกับสภาพการจราจรในเมืองที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ พร้อมยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันในระยะยาว อีกทั้งยังมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกอย่างพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันและหน้าจอสัมผัสกลางห้องโดยสาร ที่สำคัญคือขนาดตัวรถที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวางในขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนในซอยแคบๆของไทยได้อย่างคล่องตัว สำหรับการเลือกซื้อรถ MPV นั้น คนไทยไม่เพียงแต่คำนึงถึงความกว้างของห้องโดยสารและอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเท่านั้น แต่ยังควรพิจารณาถึงเครือข่ายบริการหลังการขายซึ่งมีความสำคัญต่อประสบการณ์การใช้รถในระยะยาว ซึ่ง Xpander ก็ทำได้ดีในจุดนี้ด้วยเครือข่ายบริการของ Mitsubishi ที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย
Q
ปัญหาทั่วไปของ Xpander มีอะไรบ้าง?
รถ Mitsubishi Xpander เป็นรถ MPV 7 ที่นั่งยอดนิยมในตลาดไทย ปัญหาที่มักพบส่วนใหญ่เป็นรายละเอียดเล็กน้อยในการใช้งานประจำวัน เช่น บางเจ้าของรถรายงานว่าการทำความเย็นของแอร์อาจลดลงเล็กน้อยในสภาพอากาศร้อน แนะนำให้ล้างคอนเดนเซอร์และตรวจสอบความดันน้ำยาแอร์เป็นประจำ เพราะอากาศร้อนๆของไทยถือเป็นการทดสอบระบบแอร์อย่างดี นอกจากนี้ระบบช่วงล่างอาจมีเสียงดังเล็กน้อยหลังจากขับบนถนนขรุขระมานาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพถนนบางพื้นที่ของไทย แค่ตรวจสอบบูชช่วงล่างและช็อคอัพเป็นครั้งคราวก็แก้ไขได้ ส่วนเกียร์ CVT อาจมีการกระตุกเบาๆบ้างในสภาพการจราจรติดขัด นี่เป็นลักษณะทั่วไปของเกียร์ประเภทนี้ แค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามกำหนดก็พอ สำหรับชิ้นส่วนพลาสติกภายในรถอาจมีเสียงดังจาการขยายตัวเนื่องจากความร้อน ซึ่งเป็นเรื่องปกติในประเทศเขตร้อน ส่วนระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น หน้าจอควบคุมกลางอาจตอบสนองช้าเป็นครั้งคราว แต่การรีสตาร์ทระบบก็สามารถแก้ไขได้ ปัญหาเล็กน้อยเหล่านี้ไม่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือโดยรวม จุดเด่นของ Xpander ยังคงเป็นพื้นที่ใช้งานสะดวกและประหยัดน้ำมัน ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัวไทย แค่ดูแลรักษารถตามกำหนดก็สามารถรักษาสภาพรถให้ดีได้ นอกจากนี้เจ้าของรถในไทยยังสามารถติดตามโปรโมชั่นดูแลรักษารถตามฤดูกาลจากตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น ซึ่งช่วยบำรุงรักษาสภาพรถได้ดีเลยทีเดียว
Q
Xpander เหมาะกับการขับทางไกลหรือไม่?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่งที่เน้นการใช้งานสำหรับครอบครัว ได้รับความนิยมในตลาดไทยเป็นอย่างมาก ด้วยความกว้างขวางของพื้นที่ภายในและความประหยัดที่ใช้งานได้จริง สำหรับการขับขี่ระยะไกลแล้ว Xpander ทำได้ดีมาก ระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร MIVEC ร่วมกับเกียร์ CVT ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลทั้งบนถนนเรียบและทางลาดชันเล็กน้อยในประเทศไทย อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันก็อยู่ในระดับประหยัด เหมาะกับงบประมาณของครอบครัวที่ชอบท่องเที่ยว ระบบช่วงล่างถูกปรับมาเพื่อความนุ่มสบายเป็นหลัก ช่วยลดแรงกระแทกจากถนนบางส่วนในชนบทของไทยได้ดี ที่นั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเอนได้และแถวที่ 3 พับเก็บได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการจัดเก็บสัมภาระ แต่ควรระวังว่าถ้ามีผู้โดยสารครบ 7 คน พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังจะเหลือน้อย แนะนำให้จัดสรรสัมภาระให้เหมาะสม นอกจากนี้ Xpander ยังมีระยะความสูงจากพื้นรถที่ค่อนข้างดี ช่วยให้ขับผ่านเส้นทางในชนบทช่วงฤดูฝนของไทยได้สะดวก แต่ควรลดความเร็วเมื่อเข้าโค้งเพื่อความมั่นคง เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ แล้ว Xpander มีจุดเด่นในเรื่องค่าบำรุงรักษาและอะไหล่ที่หาง่ายในตลาดไทย อู่ซ่อมรถทั่วไปก็คุ้นเคยกับรุ่นนี้ดี ก่อนออกเดินทางไกลแนะนำให้ตรวจสอบสภาพยางและระบบระบายความร้อน เพราะอากาศร้อนของไทยต้องการการระบายความร้อนที่ประสิทธิภาพ สรุปแล้ว Xpander เป็นรถที่ปรับตัวเข้ากับสภาพการใช้รถในไทยได้ดี และเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับการเดินทางไกลของครอบครัวทั่วไป
Q
Innova หรือ Xpander อันไหนใหญ่กว่ากัน ?
เมื่อมองจากมิติตัวถัง Toyota Innova มักจะนำเสนอรุ่นที่ใหญ่กว่า Mitsubishi Xpander ในตลาดประเทศไทย โดย Innova มักมีความยาวตัวรถเกิน 4.7 เมตร ระยะฐานล้อประมาณ 2.75 เมตร และมาพร้อมกับแบบที่นั่ง 3 แถว เหมาะสำหรับครอบครัวหรือการใช้งานเชิงธุรกิจที่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง ในขณะที่ Xpander มีความยาวตัวรถประมาณ 4.4 เมตร ระยะฐานล้อประมาณ 2.7 เมตร แม้จะมีที่นั่ง 3 แถวเช่นกัน แต่แถวที่ 3 จะเหมาะสำหรับเด็กหรือการเดินทางระยะสั้นกว่า ในถนนเมืองไทยอย่างกรุงเทพฯ ขนาดตัวรถที่เล็กกว่าของ Xpander ทำให้จอดและขับเคลื่อนได้สะดวกกว่า แต่หากต้องเดินทางไกลหรือรับส่งผู้โดยสารบ่อยๆ ความสบายของอินโนวาจะเหนือกว่า ทั้งสองรุ่นเป็นรถ MPV ที่นิยมในตลาดไทย การเลือกควรพิจารณาจากการใช้งานจริง นอกจากนี้คนไทยยังให้ความสำคัญกับความประหยัดน้ำมัน โดยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรของ Xpander จะประหยัดน้ำมันกว่าในเมือง ในขณะที่เครื่องยนต์ 2.0 หรือ 2.4 ลิตรของ Innova ให้พลังที่แข็งแกร่งขึ้น
Q
Xpander รุ่นปี 2020 มีแรงม้าเท่าไหร่?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดประเทศไทย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน MIVEC 1.5 ลิตร แบบประหยัดน้ำมัน ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า (77 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์ออโต้ 4 สปีด เครื่องยนต์ตัวนี้ถูกออกแบบมาให้เน้นความประหยัดน้ำมันและความทนทาน เหมาะกับการใช้งานในเมืองและครอบครัวชาวไทยเป็นอย่างดี
Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่ง เป็นที่นิยมในหมู่ครอบครัวไทย เพราะมีระยะยกตัวสูงถึง 205 มิลลิเมตร ที่สามารถขับผ่านเส้นทางต่างจังหวัดได้บ้าง แถมยังมีพื้นที่ภายในที่ปรับแต่งได้หลากหลาย พร้อมฟังก์ชันใช้งานได้จริง เช่นช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมาก
สำหรับคนไทยแล้ว กำลังเครื่องขนาดนี้เพียงพอต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวันและพาครอบครัวไปเที่ยววันหยุด แม้ว่ากำลัง 105 แรงม้าอาจจะไม่แรงมากเวลาจะแซงบนทางหลวง แต่เมื่อพิจารณาจากปัญหารถติดและราคาน้ำมันในประเทศไทยแล้ว การตั้งค่าเครื่องยนต์แบบนี้กลับเหมาะสมกับสภาพการใช้งานจริงมากกว่า รถ MPV สำหรับครอบครัวระดับเดียวกันอย่าง Toyota Avanza หรือ Honda BR-V ก็ใช้แนวทางเดียวกันในการออกแบบเครื่องยนต์ นี่แสดงให้เห็นว่า MPV ประเภทนี้เน้นความสมดุลในทุกด้านมากกว่าการเน้นประสิทธิภาพสูงสุดเพียงอย่างเดียว
Q
จุดอ่อนของ Xpander คืออะไร?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander เป็นรถ MPV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยความประหยัดและความทนทานที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ก็มีข้อด้อยบางประการที่ควรรู้ไว้ เช่น พื้นที่เบาะหลังแถวที่สามอาจจะคับเกินไปสำหรับผู้โดยสารที่ตัวสูง อาจรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังเมื่อมีผู้โดยสารครบทุกที่นั่งก็จะเหลือน้อย ไม่เหมาะกับการเดินทางไกลที่ต้องแบกสัมภาระจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีเสียงลมที่ค่อนข้างดังเวลาขับความเร็วสูง ซึ่งส่งผลต่อความสบายในการนั่ง ส่วนด้านกำลังเครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติแม้จะประหยัดน้ำมันและเชื่อถือได้ แต่เมื่อมีผู้โดยสารเต็มคันหรือเวลาขึ้นเนินอาจรู้สึกว่ากำลังไม่ค่อยพอ ส่วนวัสดุภายในห้องโดยสารเป็นพลาสติกแข็งเป็นหลัก ทำให้ความรู้สึกโดยรวมดูธรรมดาไปหน่อย อย่างไรก็ดี Xpander ก็มีจุดแข็งที่เหมาะกับสภาพถนนและอากาศร้อนชื้นของไทย เช่น รอบระยะล้อจากพื้นสูงและมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ดังนั้นสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถครอบครัวในเมือง Xpander ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในด้านความประหยัดและความคล่องตัว แต่ถ้าต้องการใช้งานหนักแบบเดินทางไกลบ่อยๆ หรือมีผู้โดยสารเต็มคันเป็นประจำ อาจต้องพิจารณารถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่านี้หรือระบบกันเสียงที่ดีกว่านี้จะเหมาะสมกว่า
Q
ข้อเสียของ Mitsubishi Xpander คืออะไร
Mitsubishi Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ได้รับการยอมรับในด้านความกว้างขวางและความคุ้มค่าในการใช้งาน แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น เบาะแถวสามมีพื้นที่วางขาแคบ ทำให้ผู้ใหญ่โดยสารได้ไม่สะดวกและไม่เหมาะกับการเดินทางไกล เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติเมื่อบรรทุกเต็มที่หรือขึ้นเขาจะรู้สึกแรงไม่เพียงพอ เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก แต่เวลาต้องเร่งแซงบนทางด่วนควรวางแผนล่วงหน้า ส่วนวัสดุภายในเน้นพลาสติกแข็งทำให้สัมผัสและการเก็บเสียงอยู่ในระดับกลาง ระบบกันสะเทือนมีความแข็งพอสมควร จึงให้ความรู้สึกกระด้างเมื่อขับผ่านถนนชนบทที่ไม่เรียบในบางพื้นที่ อย่างไรก็ตาม Xpander มีความประหยัดน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำ เหมาะกับครอบครัวที่เน้นประโยชน์ใช้สอย หากต้องใช้งานบรรทุกผู้โดยสารเต็มที่และเดินทางไกลบ่อย ควรทดลองขับเพื่อประเมินสมรรถนะและพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสม ในตลาดไทยยังมีตัวเลือกอื่นอย่าง Toyota Avanza หรือ Honda BR-V ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องเครื่องยนต์และวัสดุภายในที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคควรพิจารณางบประมาณและความต้องการส่วนตัวประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ.
Q
วิธีปิดโหมด Eco บน Mitsubishi Xpander
การปิดโหมด Eco ของรถ Mitsubishi Xpander นั้น โดยปกติใช้งานผ่านปุ่มโหมด Eco ใกล้แผงหน้าปัดเครื่องมือ ซึ่งปุ่มนี้อาจจะอยู่ด้านซ้ายของพวงมาลัยหรือแถบกลางคอนโซลหน้า กดสลับโหมดได้เลย แต่ถ้าหาปุ่มไม่เจอแนะนำให้เปิดคู่มือผู้ใช้ดูตำแหน่งให้ชัดเจนอีกที ในสภาพอากาศร้อนของไทย การปิดโหมด Eco จะช่วยให้แอร์เย็นขึ้นแต่จะทำให้กินน้ำมันเพิ่มนิดหน่อย แนะนำว่าเวลาเจอรถติดในกรุงเทพฯ ให้เปิดโหมด Eco ไว้จะช่วยประหยัดน้ำมัน ส่วนเวลาเดินทางไกลหรือขับบนทางด่วนปิดโหมดนี้จะทำให้รถตอบสนองดีขึ้น โปรดทราบว่าวิธีการใช้งานของ Xpander แต่ละรุ่นในแต่ละปีอาจแตกต่างกันเล็กน้อย รถยนต์รุ่นใหม่บางรุ่นยังสามารถปรับโหมดการขับขี่ผ่านเมนูการตั้งค่ารถบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางได้อีกด้วย การใช้โหมด Eco ให้เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้ขับขี่ในหลากหลายสภาพถนนของไทยได้ดี แต่ยังช่วยบาลานซ์ระหว่างประหยัดน้ำมันกับความรู้สึกในการขับได้ แนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้ตามความต้องการจริงจะดีที่สุด
Q&A ล่าสุด
Q
จะมีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัวในปี 2025 ไหม?
ปี 2025 นี่มีรถใหม่น่าสนใจหลายรุ่นที่กำลังจะออกมา ทั้งแบบไฟฟ้าและแบบน้ำมัน เช่น Toyota ที่เตรียมปล่อย SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ สร้างจากแพลตฟอร์มเฉพาะตัว คาดว่าวิ่งได้เกิน 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ เหมาะกับสภาพการใช้งานในไทยมาก ส่วนฮอนด้าก็น่าจะอัพเดทรถไฮบริดรุ่นใหม่มาในปี 2025 ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น แบรนด์จีนอย่าง BYD ก็น่าจะนำเข้ารถไฟฟ้าพวงมาลัยขวาเพิ่มอีก ราคาดีกว่าแน่นอน นอกจากแบรนด์ใหญ่แล้ว บริษัทรถไฟฟ้าเกิดใหม่อีกหลายเจ้าก็อาจบุกตลาดไทยในปี 2025 ทำให้มีตัวเลือกมากขึ้น สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนรถ ปี 2025 นี่ถือเป็นปีที่เทคโนโลยีรถยนต์อัพเกรดเร็วมาก โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่จะพัฒนาชาร์จเร็วและระบบขับขี่อัตโนมัติได้เห็นชัด แนะนำให้ติดตามข่าวสารจากทางบริษัทโดยตรง และถ้ามีโอกาสก็ไปเดินชมในงานมอเตอร์โชว์จะดีมาก เพราะจะได้เห็นและทดลองขับด้วยตัวเอง จะเข้าใจแต่ละรุ่นได้ชัดขึ้น
Q
จะมี Lexus ES รุ่นใหม่ในปี 2025 หรือไม่?
จากข่าวล่าสุดที่ได้รับมา รุ่น Lexus ES Series ในปี 2025 อาจจะมีการอัปเดตใหม่ แต่รายละเอียดยังไม่ชัดเจนทั้งหมด โดยปกติแล้วรถหรูระดับนี้มักจะมีการพัฒนาด้านการออกแบบภายนอก ระบบเทคโนโลยี และระบบขับเคลื่อน เช่น อาจจะใช้ระบบไฮบริดที่ทันสมัยขึ้น หรือระบบมัลติมีเดียในรถที่ฉลาดมากขึ้น สำหรับตลาดในไทย Lexus เป็นที่นิยมในเรื่องความสบายและการใช้งานที่เชื่อถือได้ รุ่นใหม่ ES นี้น่าจะยกระดับจุดแข็งเหล่านี้ไปอีก พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น เช่น การประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้น หรือฟังก์ชันที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดไทย ถ้าสนใจรถรุ่นนี้ แนะนำให้ติดตามข้อมูลจากทางบริษัทผู้ผลิตโดยตรงหรือสอบถามที่ตัวแทนจำหน่าย เพราะ Lexus มักจะปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อให้รถยังคงความน่าสนใจอยู่เสมอ นอกจากนี้ รถระดับหรูมักจะมีบริการหลังการขายและการดูแลรักษาที่ค่อนข้างดี นี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณาเวลาเลือกซื้อรถด้วย
Q
Lexus ES ปี 2025 ราคาเท่าไหร่?
ขณะนี้ราคาอย่างเป็นทางการของ Lexus ES รุ่นปี 2025 ยังไม่มีการประกาศออกมา แต่สามารถอ้างอิงราคาของรุ่นปัจจุบันได้ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2.9 - 4.5 ล้านบาท คาดว่ารุ่นใหม่นี้อาจมีราคาสูงขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากอัพเกรดอุปกรณ์และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดย Lexus ES เป็นรถหรูที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเงียบสมบูรณ์แบบ ระบบไฮบริดประสิทธิภาพสูง และการตกแต่งภายในที่ประณีต ส่วนรุ่นปี 2025 นี้อาจมาพร้อมกับระบบความปลอดภัย LSS+ ที่อัพเกรดแล้ว และมีการปรับปรุงประหยัดน้ำมันมากขึ้นในรุ่นไฮบริด สำหรับตลาดไทย คู่แข่งหลักของ ES ก็คือ BMW 5 Series และ Mercedes-Benz E-Class แต่ Lexus มีจุดเด่นในเรื่องบริการหลังการขายฟรีและอัตราค้างจำนำที่สูงกว่า หากสนใจอยากได้ แนะนำให้จับตาดูโปรโมชั่นในช่วงงานมอเตอร์โชว์สิ้นปีหรือรถมือสองรับประกันศูนย์ บางตัวแทนจำหน่ายอาจมีโปรโมชั่นเงินผ่อนดอกเบี้ยต่ำ อย่างไรก็ตาม รุ่นไฮบริดแม้ราคาจะสูงกว่าแต่ช่วยประหยัดค่าน้ำมันในระยะยาว โดยเฉพาะสำหรับการใช้งานในเมืองที่รถติดบ่อย
Q
รถ Lexus ES ปี 2025 ผลิตที่ไหน?
รุ่น 2025 ของ Lexus ES ยังคงผลิตที่โรงงานเดียวกันกับรุ่นปัจจุบัน ซึ่งคือโรงงาน Miyata ในจังหวัด Kyushu ประเทศญี่ปุ่น โรงงานแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านกระบวนการผลิตที่มีความแม่นยำสูงและมาตรฐานการตรวจสอบคุณภาพที่เข้มงวด รถที่ผลิตที่นี่จะถูกส่งออกไปยังตลาดทั่วโลก สำหรับคนที่ชื่นชอบแบรนด์ Lexus แล้ว การที่รถเป็นแบบนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรงหมายถึงคุณภาพการผลิตและมาตรฐานการควบคุมที่สูงกว่า โดยเฉพาะในเรื่องของความประณีตและความทนทาน ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เห็นได้ชัด
Lexus ES เป็นรถหรั่งระดับกลางถึงใหญ่ที่ขายดีมากของแบรนด์ รุ่น Hybrid ES300h ใช้ระบบขับเคลื่อน Hybrid THS-II ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการจราจรที่ติดขัด ส่วนรุ่น ES250 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.5L แบบธรรมชาติที่ให้ความเรียบและน่าเชื่อถือ เหมาะกับการใช้งานประจำวัน
ถ้าสนใจรถรุ่นนี้ แนะนำให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อสอบถามข้อมูลสเปคและรถที่กำลังจะถึงประเทศไทย พร้อมทั้งทดลองสัมผัสความเงียบภายในห้องโดยสารและระบบเสียง Mark Levinson ที่เป็นจุดเด่นเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน
Q
การอัปเกรดในรุ่น 2025 ES มีอะไรบ้าง?
รุ่นปี 2025 ของ Lexus ES ที่มีการอัพเกรดนี้ถือเป็นการรีเฟรชแบบมิดไลฟ์ โดยเน้นการอัพเกรดด้านความอัจฉริยะและรายละเอียดการใช้งานเป็นหลัก รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับระบบมัลติมีเดีย Lexus Interface เวอร์ชันล่าสุด ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมทั้งปรับปรุงความเร็วการตอบสนองของหน้าจอสัมผัส โดยหน้าจอกลางอาจขยายขนาดขึ้นเป็น 12.3 นิ้ว สำหรับรุ่นท็อปยังมีฟีเจอร์ดิจิทัลคีย์และ HUD โชว์ข้อมูลบนกระจกหน้า ส่วนระบบขับเคลื่อนคาดว่าจะยังคงใช้ระบบไฮบริด 2.5L เหมือนเดิม แต่อาจจะมีการปรับแต่ง ECU เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันให้ตอบโจทย์ความต้องการรถประหยัดพลังงานของตลาดท้องถิ่น
จุดเด่นที่น่าสนใจคือรุ่นใหม่นี้อาจเสริมวัสดุกันเสียงมากขึ้น เช่น กระจกชั้นคู่บริเวณที่นั่งแถวหน้า ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดบ่อยในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ Lexus มักเสริมฟีเจอร์ความปลอดภัยทุกครั้งที่อัพเกรดรุ่น รุ่นปี 2025 ES อาจใช้ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ LSS + 2.5 เป็นมาตรฐาน ประกอบด้วยระบบเตือนการชนก่อนชนและฟังก์ชั่นการรักษาเลนที่ตอบสนองได้มากขึ้น ด้วยสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ฟังก์ชันระบายอากาศบนเบาะน่าจะถูกเพิ่มในหลายรุ่นย่อยมากขึ้น
สำหรับการดูแลรักษาระบบไฮบริด ขอแนะนำให้ใส่ใจกับการเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นอินเวอร์เตอร์เป็นประจำสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงและความชื้นสูงจะช่วยเร่งการลดทอนประสิทธิภาพของของเหลวซึ่งต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษในการบำรุงรักษา
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Mitsubishi Xpander ตารางผ่อนชำระล่าสุด
Kevin WongNov 10, 2025

การทดสอบ Mitsubishi Xpander: ความสวยงามและความสบายของพื้นที่ ปรับปรุงประสบการณ์การขับขี่!
AshleyApr 9, 2025

"Mitsubishi Xpander เปรียบเทียบกับ Toyota Veloz, MPV ยอดนิยมคนไหนแรงกว่า?"
ธนวัฒน์Oct 21, 2024

Mitsubishi Xpander ผู้ช่วยที่ดีสำหรับการเดินทางกับครอบครัว มีราคาตั้งแต่ 799,000 บาท
LienMay 20, 2024

Mitsubishi พา Xpander และ Xpander Cross HEV มาร่วมงานที่นิทรรศการรถยนต์นานาชาติกรุงเทพฯ 2024
AshleyMar 18, 2024
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย