Q

Mitsubishi Xpander ราคาเท่าไร?

ปัจจุบันในตลาดไทยยังไม่มีรถรุ่น Mitsubishi Wing God ที่นำเข้าโดยทางอย่างเป็นทางการ จึงไม่สามารถระบุราคาที่แน่นอนได้ แต่ถ้าอ้างอิงจากราคาตลาดญี่ปุ่นจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านเยน (ประมาณ 450,000-670,000 บาท) โดยราคาอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์และตัวเลือกเสริม รุ่นนี้เป็น MPV แนวสปอร์ตที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.4L MIVEC และเกียร์ CVT ซึ่งเน้นทั้งความสนุกในการขับขี่และพื้นที่ใช้งานที่ลงตัว สำหรับตลาดไทยแล้ว รถแนวนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ เพราะคนไทยชอบดีไซน์สปอร์ตแต่ก็ต้องการความประหยัดด้วย ถ้าสนใจรถตระกูล Mitsubishi อาจมองไปที่รุ่น Xpander ที่ผลิตในไทยซึ่งราคาและสเปคอาจเหมาะกับตลาดท้องถิ่นมากกว่า แนะนำให้ลองสอบถามตัวแทนจำหน่าย Mitsubishi ในไทยว่ามีช่องทางนำเข้าแบบขนานหรือมีแผนจะนำเข้าในอนาคตหรือไม่ นอกจากนี้ยังสามารถเปรียบเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Innova หรือ Honda BR-V ที่มีจำนวนมากในไทยและมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมกว่า
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
หมวดหมู่ของ Xpander คืออะไร?
รถ Mitsubishi Xpander ในตลาดไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถ MPV 7 ที่นั่ง ซึ่งเน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัวและผู้ที่ให้ความสำคัญกับความประหยัดพื้นที่ ข้อเด่นของรุ่นนี้คือการออกแบบภายในที่กว้างขวางและปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย พร้อมกับระยะความสูงจากพื้นรถ 220 มม. และระบบช่วงล่างที่ถูกปรับให้เหมาะกับสภาพถนนในไทย Xpander เป็นที่นิยมมากในไทยเพราะตอบโจทย์การเดินทางของครอบครัวไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเบาะแถวที่สามที่พับเก็บได้ ช่วยให้สามารถใช้งานได้ทั้งขนของหรือนั่งคนเต็มคัน ส่วนระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ 1.5L MIVEC คู่กับเกียร์ 4AT ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและดูแลรักษาง่าย ที่น่าสนใจคือในไทยยังมีรุ่น Xpander Cross ที่เพิ่มสไตล์ครอสโอเวอร์ด้วยชุดแต่งภายนอกที่สปอร์ตและอุปกรณ์เพิ่มเติม เพื่อตอบโจทย์ครอบครัวรุ่นใหม่ที่ชอบความแตกต่าง ในตลาด MPV ไทยนอกจาก Xpander แล้วยังมีคู่แข่งอย่าง Toyota Avanza และ Suzuki Ertiga ที่เน้นความคุ้มค่าในด้านพื้นที่ใช้สัยเหมือนกัน เวลาจะเลือกซื้อจริงๆ ลูกค้ามักจะดูจากความชอบในแบรนด์ ศูนย์บริการใกล้บ้าน และโปรโมชั่นเป็นหลัก
Q
Xpander เป็น SUV หรือ MPV?
Xpander เป็นรุ่นรถ 7 ที่นั่งจาก Mitsubishi Motors ที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดไทย โดยถูกจัดอยู่ในกลุ่ม MPV (รถยนต์อเนกประสงค์) ไม่ใช่ SUV เพราะเน้นการออกแบบเพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสารและพื้นที่ใช้สัยภายในมากกว่า โครงสร้างรถใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ระยะความสูงจากพื้นปานกลาง ไม่ได้เน้นความสูงเหมือนรถ SUV ที่เหมาะสำหรับการขับลุย แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีบนถนนสภาพซับซ้อนของไทย จุดเด่นของ Xpander อยู่ที่การจัดเรียงเบาะที่นั่งที่ปรับเปลี่ยนได้และพื้นที่เก็บของกว้างขวาง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบเดินทางพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว หรือต้องการรถสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันและท่องเที่ยวในวันหยุด ในตลาดไทยบางครั้งเส้นแบ่งระหว่าง MPV กับ SUV ค่อนข้างคลุมเครือ บางรุ่นอาจผสมผสานคุณสมบัติของทั้งสองประเภท แต่ Xpander ยังคงยึดแนวคิดการออกแบบแบบ MPV อย่างชัดเจน ซึ่งสังเกตได้จากประตูสไลด์ข้างและความรู้สึกในการขับที่ใกล้เคียงรถเก๋ง สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกระหว่าง MPV กับ SUV ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก ถ้าต้องการพื้นที่และความสะดวกสบาย Xpander ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการรถสำหรับเส้นทาง off-road หรือชอบท่าทางการขับขี่ที่สูงกว่า ก็อาจจะมองหา SUV ดีกว่า
Q
ข้อดีของ Xpander คืออะไร?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดประเทศไทย เนื่องมาจากความประหยัดและการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยเป็นอย่างดี เริ่มจากห้องโดยสารที่กว้างขวางแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งเหมาะมากสำหรับครอบครัวใหญ่ในไทย โดยเฉพาะเวลาท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวหรือการเดินทางในชีวิตประจำวันที่มีผู้โดยสารหลายคน นอกจากนี้ยังมีระยะความสูงจากพื้นรถที่เหมาะสมและระบบช่วงล่างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ทำให้สามารถขับเคลื่อนบนถนนสภาพไม่ดีในบางพื้นที่ของไทยได้อย่างสบายๆ ส่วนเครื่องยนต์ 1.5L MIVEC ที่ติดตั้งมานั้นให้สมดุลระหว่างพลังและความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เหมาะสมกับสภาพการจราจรในเมืองที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ พร้อมยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันในระยะยาว อีกทั้งยังมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกอย่างพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันและหน้าจอสัมผัสกลางห้องโดยสาร ที่สำคัญคือขนาดตัวรถที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวางในขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนในซอยแคบๆของไทยได้อย่างคล่องตัว สำหรับการเลือกซื้อรถ MPV นั้น คนไทยไม่เพียงแต่คำนึงถึงความกว้างของห้องโดยสารและอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเท่านั้น แต่ยังควรพิจารณาถึงเครือข่ายบริการหลังการขายซึ่งมีความสำคัญต่อประสบการณ์การใช้รถในระยะยาว ซึ่ง Xpander ก็ทำได้ดีในจุดนี้ด้วยเครือข่ายบริการของ Mitsubishi ที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย
Q
ปัญหาทั่วไปของ Xpander มีอะไรบ้าง?
รถ Mitsubishi Xpander เป็นรถ MPV 7 ที่นั่งยอดนิยมในตลาดไทย ปัญหาที่มักพบส่วนใหญ่เป็นรายละเอียดเล็กน้อยในการใช้งานประจำวัน เช่น บางเจ้าของรถรายงานว่าการทำความเย็นของแอร์อาจลดลงเล็กน้อยในสภาพอากาศร้อน แนะนำให้ล้างคอนเดนเซอร์และตรวจสอบความดันน้ำยาแอร์เป็นประจำ เพราะอากาศร้อนๆของไทยถือเป็นการทดสอบระบบแอร์อย่างดี นอกจากนี้ระบบช่วงล่างอาจมีเสียงดังเล็กน้อยหลังจากขับบนถนนขรุขระมานาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพถนนบางพื้นที่ของไทย แค่ตรวจสอบบูชช่วงล่างและช็อคอัพเป็นครั้งคราวก็แก้ไขได้ ส่วนเกียร์ CVT อาจมีการกระตุกเบาๆบ้างในสภาพการจราจรติดขัด นี่เป็นลักษณะทั่วไปของเกียร์ประเภทนี้ แค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามกำหนดก็พอ สำหรับชิ้นส่วนพลาสติกภายในรถอาจมีเสียงดังจาการขยายตัวเนื่องจากความร้อน ซึ่งเป็นเรื่องปกติในประเทศเขตร้อน ส่วนระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น หน้าจอควบคุมกลางอาจตอบสนองช้าเป็นครั้งคราว แต่การรีสตาร์ทระบบก็สามารถแก้ไขได้ ปัญหาเล็กน้อยเหล่านี้ไม่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือโดยรวม จุดเด่นของ Xpander ยังคงเป็นพื้นที่ใช้งานสะดวกและประหยัดน้ำมัน ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัวไทย แค่ดูแลรักษารถตามกำหนดก็สามารถรักษาสภาพรถให้ดีได้ นอกจากนี้เจ้าของรถในไทยยังสามารถติดตามโปรโมชั่นดูแลรักษารถตามฤดูกาลจากตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น ซึ่งช่วยบำรุงรักษาสภาพรถได้ดีเลยทีเดียว
Q
Xpander เหมาะกับการขับทางไกลหรือไม่?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่งที่เน้นการใช้งานสำหรับครอบครัว ได้รับความนิยมในตลาดไทยเป็นอย่างมาก ด้วยความกว้างขวางของพื้นที่ภายในและความประหยัดที่ใช้งานได้จริง สำหรับการขับขี่ระยะไกลแล้ว Xpander ทำได้ดีมาก ระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร MIVEC ร่วมกับเกียร์ CVT ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลทั้งบนถนนเรียบและทางลาดชันเล็กน้อยในประเทศไทย อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันก็อยู่ในระดับประหยัด เหมาะกับงบประมาณของครอบครัวที่ชอบท่องเที่ยว ระบบช่วงล่างถูกปรับมาเพื่อความนุ่มสบายเป็นหลัก ช่วยลดแรงกระแทกจากถนนบางส่วนในชนบทของไทยได้ดี ที่นั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเอนได้และแถวที่ 3 พับเก็บได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการจัดเก็บสัมภาระ แต่ควรระวังว่าถ้ามีผู้โดยสารครบ 7 คน พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังจะเหลือน้อย แนะนำให้จัดสรรสัมภาระให้เหมาะสม นอกจากนี้ Xpander ยังมีระยะความสูงจากพื้นรถที่ค่อนข้างดี ช่วยให้ขับผ่านเส้นทางในชนบทช่วงฤดูฝนของไทยได้สะดวก แต่ควรลดความเร็วเมื่อเข้าโค้งเพื่อความมั่นคง เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ แล้ว Xpander มีจุดเด่นในเรื่องค่าบำรุงรักษาและอะไหล่ที่หาง่ายในตลาดไทย อู่ซ่อมรถทั่วไปก็คุ้นเคยกับรุ่นนี้ดี ก่อนออกเดินทางไกลแนะนำให้ตรวจสอบสภาพยางและระบบระบายความร้อน เพราะอากาศร้อนของไทยต้องการการระบายความร้อนที่ประสิทธิภาพ สรุปแล้ว Xpander เป็นรถที่ปรับตัวเข้ากับสภาพการใช้รถในไทยได้ดี และเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับการเดินทางไกลของครอบครัวทั่วไป
Q
Innova หรือ Xpander อันไหนใหญ่กว่ากัน ?
เมื่อมองจากมิติตัวถัง Toyota Innova มักจะนำเสนอรุ่นที่ใหญ่กว่า Mitsubishi Xpander ในตลาดประเทศไทย โดย Innova มักมีความยาวตัวรถเกิน 4.7 เมตร ระยะฐานล้อประมาณ 2.75 เมตร และมาพร้อมกับแบบที่นั่ง 3 แถว เหมาะสำหรับครอบครัวหรือการใช้งานเชิงธุรกิจที่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง ในขณะที่ Xpander มีความยาวตัวรถประมาณ 4.4 เมตร ระยะฐานล้อประมาณ 2.7 เมตร แม้จะมีที่นั่ง 3 แถวเช่นกัน แต่แถวที่ 3 จะเหมาะสำหรับเด็กหรือการเดินทางระยะสั้นกว่า ในถนนเมืองไทยอย่างกรุงเทพฯ ขนาดตัวรถที่เล็กกว่าของ Xpander ทำให้จอดและขับเคลื่อนได้สะดวกกว่า แต่หากต้องเดินทางไกลหรือรับส่งผู้โดยสารบ่อยๆ ความสบายของอินโนวาจะเหนือกว่า ทั้งสองรุ่นเป็นรถ MPV ที่นิยมในตลาดไทย การเลือกควรพิจารณาจากการใช้งานจริง นอกจากนี้คนไทยยังให้ความสำคัญกับความประหยัดน้ำมัน โดยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรของ Xpander จะประหยัดน้ำมันกว่าในเมือง ในขณะที่เครื่องยนต์ 2.0 หรือ 2.4 ลิตรของ Innova ให้พลังที่แข็งแกร่งขึ้น
Q
Xpander รุ่นปี 2020 มีแรงม้าเท่าไหร่?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดประเทศไทย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน MIVEC 1.5 ลิตร แบบประหยัดน้ำมัน ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า (77 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์ออโต้ 4 สปีด เครื่องยนต์ตัวนี้ถูกออกแบบมาให้เน้นความประหยัดน้ำมันและความทนทาน เหมาะกับการใช้งานในเมืองและครอบครัวชาวไทยเป็นอย่างดี Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่ง เป็นที่นิยมในหมู่ครอบครัวไทย เพราะมีระยะยกตัวสูงถึง 205 มิลลิเมตร ที่สามารถขับผ่านเส้นทางต่างจังหวัดได้บ้าง แถมยังมีพื้นที่ภายในที่ปรับแต่งได้หลากหลาย พร้อมฟังก์ชันใช้งานได้จริง เช่นช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมาก สำหรับคนไทยแล้ว กำลังเครื่องขนาดนี้เพียงพอต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวันและพาครอบครัวไปเที่ยววันหยุด แม้ว่ากำลัง 105 แรงม้าอาจจะไม่แรงมากเวลาจะแซงบนทางหลวง แต่เมื่อพิจารณาจากปัญหารถติดและราคาน้ำมันในประเทศไทยแล้ว การตั้งค่าเครื่องยนต์แบบนี้กลับเหมาะสมกับสภาพการใช้งานจริงมากกว่า รถ MPV สำหรับครอบครัวระดับเดียวกันอย่าง Toyota Avanza หรือ Honda BR-V ก็ใช้แนวทางเดียวกันในการออกแบบเครื่องยนต์ นี่แสดงให้เห็นว่า MPV ประเภทนี้เน้นความสมดุลในทุกด้านมากกว่าการเน้นประสิทธิภาพสูงสุดเพียงอย่างเดียว
Q
จุดอ่อนของ Xpander คืออะไร?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander เป็นรถ MPV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยความประหยัดและความทนทานที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ก็มีข้อด้อยบางประการที่ควรรู้ไว้ เช่น พื้นที่เบาะหลังแถวที่สามอาจจะคับเกินไปสำหรับผู้โดยสารที่ตัวสูง อาจรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังเมื่อมีผู้โดยสารครบทุกที่นั่งก็จะเหลือน้อย ไม่เหมาะกับการเดินทางไกลที่ต้องแบกสัมภาระจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีเสียงลมที่ค่อนข้างดังเวลาขับความเร็วสูง ซึ่งส่งผลต่อความสบายในการนั่ง ส่วนด้านกำลังเครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติแม้จะประหยัดน้ำมันและเชื่อถือได้ แต่เมื่อมีผู้โดยสารเต็มคันหรือเวลาขึ้นเนินอาจรู้สึกว่ากำลังไม่ค่อยพอ ส่วนวัสดุภายในห้องโดยสารเป็นพลาสติกแข็งเป็นหลัก ทำให้ความรู้สึกโดยรวมดูธรรมดาไปหน่อย อย่างไรก็ดี Xpander ก็มีจุดแข็งที่เหมาะกับสภาพถนนและอากาศร้อนชื้นของไทย เช่น รอบระยะล้อจากพื้นสูงและมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ดังนั้นสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถครอบครัวในเมือง Xpander ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในด้านความประหยัดและความคล่องตัว แต่ถ้าต้องการใช้งานหนักแบบเดินทางไกลบ่อยๆ หรือมีผู้โดยสารเต็มคันเป็นประจำ อาจต้องพิจารณารถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่านี้หรือระบบกันเสียงที่ดีกว่านี้จะเหมาะสมกว่า
Q
ข้อเสียของ Mitsubishi Xpander คืออะไร
Mitsubishi Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ได้รับการยอมรับในด้านความกว้างขวางและความคุ้มค่าในการใช้งาน แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น เบาะแถวสามมีพื้นที่วางขาแคบ ทำให้ผู้ใหญ่โดยสารได้ไม่สะดวกและไม่เหมาะกับการเดินทางไกล เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติเมื่อบรรทุกเต็มที่หรือขึ้นเขาจะรู้สึกแรงไม่เพียงพอ เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก แต่เวลาต้องเร่งแซงบนทางด่วนควรวางแผนล่วงหน้า ส่วนวัสดุภายในเน้นพลาสติกแข็งทำให้สัมผัสและการเก็บเสียงอยู่ในระดับกลาง ระบบกันสะเทือนมีความแข็งพอสมควร จึงให้ความรู้สึกกระด้างเมื่อขับผ่านถนนชนบทที่ไม่เรียบในบางพื้นที่ อย่างไรก็ตาม Xpander มีความประหยัดน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำ เหมาะกับครอบครัวที่เน้นประโยชน์ใช้สอย หากต้องใช้งานบรรทุกผู้โดยสารเต็มที่และเดินทางไกลบ่อย ควรทดลองขับเพื่อประเมินสมรรถนะและพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสม ในตลาดไทยยังมีตัวเลือกอื่นอย่าง Toyota Avanza หรือ Honda BR-V ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องเครื่องยนต์และวัสดุภายในที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคควรพิจารณางบประมาณและความต้องการส่วนตัวประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ.
Q
วิธีปิดโหมด Eco บน Mitsubishi Xpander
การปิดโหมด Eco ของรถ Mitsubishi Xpander นั้น โดยปกติใช้งานผ่านปุ่มโหมด Eco ใกล้แผงหน้าปัดเครื่องมือ ซึ่งปุ่มนี้อาจจะอยู่ด้านซ้ายของพวงมาลัยหรือแถบกลางคอนโซลหน้า กดสลับโหมดได้เลย แต่ถ้าหาปุ่มไม่เจอแนะนำให้เปิดคู่มือผู้ใช้ดูตำแหน่งให้ชัดเจนอีกที ในสภาพอากาศร้อนของไทย การปิดโหมด Eco จะช่วยให้แอร์เย็นขึ้นแต่จะทำให้กินน้ำมันเพิ่มนิดหน่อย แนะนำว่าเวลาเจอรถติดในกรุงเทพฯ ให้เปิดโหมด Eco ไว้จะช่วยประหยัดน้ำมัน ส่วนเวลาเดินทางไกลหรือขับบนทางด่วนปิดโหมดนี้จะทำให้รถตอบสนองดีขึ้น โปรดทราบว่าวิธีการใช้งานของ Xpander แต่ละรุ่นในแต่ละปีอาจแตกต่างกันเล็กน้อย รถยนต์รุ่นใหม่บางรุ่นยังสามารถปรับโหมดการขับขี่ผ่านเมนูการตั้งค่ารถบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางได้อีกด้วย การใช้โหมด Eco ให้เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้ขับขี่ในหลากหลายสภาพถนนของไทยได้ดี แต่ยังช่วยบาลานซ์ระหว่างประหยัดน้ำมันกับความรู้สึกในการขับได้ แนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้ตามความต้องการจริงจะดีที่สุด

ข้อดี

การออกแบบภายนอกสวยงาม
ภายในกว้างขวางและสบาย
หลอดไฟหน้าแบ่งเป็นสองส่วนและมีลิ้นประดับโครเมียม ทำให้ดูสวยงาม
แผงควบคุมแสดงข้อมูลอย่างครบถ้วน
การออกแบบปุ่มมีประสิทธิภาพและสะดวกในการใช้งาน
ที่นั่งนุ่มนวล

ข้อเสีย

ภายในมีพื้นที่ค่อนข้างแคบ รูปแบบดูเก่า
เครื่องยนต์ไม่มีพลังเพียงพอในการปีนเนิน การขับขี่บนเส้นทางภูเขาไม่ราบรื่น
เกียร์ไม่เพียงพอ เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงเครื่องยนต์มีสปินสูง
พื้นที่ในช่องสัมภาระไม่ใหญ่ ความจุการบรรทุกต่ำ

Q&A ล่าสุด

Q
ราคาของ Carnival 2024 คือเท่าไร?
สำหรับรุ่นปี 2024 ทาง Kia Carnival ในตลาดไทยจะมีเฉพาะรุ่น Hybrid (HEV) ให้เลือก 2 แบบเท่านั้น คือรุ่น Premium ราคา 2,499,000 บาท และรุ่น Luxury ราคา 2,699,000 บาท โดยรถคันนี้ผลิตที่ประเทศมาเลเซีย จากโรงงาน Inokom ที่เมืองกูลิม แล้วส่งมาขายที่ไทย โดยตลาดไทยจะไม่มีรุ่นดีเซลแล้วครับ รถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงถึง 245 แรงม้า/แรงบิด 367 นิวตัน-เมตร ขนาดตัวรถยาว 5,155 มม. x กว้าง 1,995 มม. x สูง 1,785 มม. ระยะฐานล้อ 3,090 มม. ด้านหน้าออกแบบใหม่ตามสไตล์ล่าสุดของ Kia มีไฟหน้าแบบรูปตัว L กลับด้านที่เข้ากับไฟท้าย พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วแบบใหม่ ส่วนความแตกต่างระหว่างรุ่นจะอยู่ที่แผงหน้าปัดและอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกและความสบายมากมาย พร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ SmartSense อีกด้วย
Q
Kia Carnival ปี 2024 ราคาเท่าไหร่?
ราคารุ่น 2024 ของ Kia Carnival อยู่ที่ประมาณ 1.699 - 2.399 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก เช่น รุ่นพื้นฐาน LX ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นมาตรฐาน ส่วนรุ่นสูงสุด Platinum จะมีซันรูปแบบพาโนรามา ระบบเสียงระดับพรีเมียม ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ รถ MPV คันนี้โดดเด่นด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวาง จุผู้โดยสารได้ 7-8 ที่นั่ง แถมยังมีตัวเลือกระบบไฮบริด (ในบางรุ่น) และหน้าจอเทคโนโลยีคู่ขนาด 12.3 นิ้ว เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและการใช้งานเชิงธุรกิจ ส่วนระบบขับเคลื่อนก็มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.2L หรือเครื่องยนต์เบนซิน 3.5L ที่ให้ทั้งความประหยัดและสมรรถนะการขับขี่ ในตลาดไทยคู่แข่งหลักของ Carnival ก็คือ Toyota Alphard และ Honda Odyssey แต่ด้วยราคาที่คุ้มค่าและอุปกรณ์ที่ครบครันกว่า ทำให้คันนี้ได้เปรียบ แถมล่าสุด Kia ยังเพิ่มโปรโมชั่นรับประกัน 5 ปี หรือบริการฟรีสำหรับรุ่นท็อปอีกด้วย ถ้าสนใจผ่อนชำระ ส่วนใหญ่ศูนย์ฯ มีโปรโมชั่นผ่อน 60 งวด อัตราดอกเบี้ยประมาณ 2.5%-3.5% ต่อปี เงินดาวน์เริ่มต้นที่ 20%-30% ของราคารถ
Q
Kia Carnival 2024 ถูกยกเลิกผลิตหรือไม่?
ทางฝั่งค่ายคิวยังไม่มีแถลงการณ์ใดๆ เกี่ยวกับการหยุดผลิตรุ่น Carnival ปี 2024 ตอนนี้รุ่นนี้ยังขายปกติในหลายตลาดทั่วโลก รวมถึงตัวแทนจำหน่ายในบ้านเราก็ยังมีรถรุ่นใหม่ล่าสุดให้เลือกเหมือนเดิม สำหรับ Carnival นั้นเป็น MPV ที่ตอบโจทย์ครอบครัวด้วยจุดเด่นเรื่องการปรับแต่งพื้นที่ภายในที่ยืดหยุ่น ระบบขับเคลื่อนไฮบริด และเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ ADAS ที่ทำให้ยังคงความโดดเด่นในตลาดรถกลุ่มนี้ ถ้าสนใจอัปเดตข้อมูลล่าสุด แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายโดยตรงเพื่อสอบถามสเปกและสต็อครถคันปัจจุบัน รวมเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในตลาดอย่าง Toyota Alphard หรือ Honda Odyssey ที่แต่ละค่ายก็มีจุดแข็งเรื่องการออกแบบพื้นที่ภายในและเทคโนโลยีไฮบริดแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม การเลือกรถ MPV ควรเน้นที่ความต้องการจริงๆ ของครอบครัว เช่น จำนวนสมาชิก ความสะดวกสบายของที่นั่งแถวสาม หรือพื้นที่เก็บของที่เพียงพอ ล่าสุดบางแบรนด์ยังเปิดตัวรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งก็น่าจับตามองเหมือนกัน
Q
หัวข้อหลักของงาน "Bangkok International Motor Show 2024" คืออะไร?
ค่าดว่าหัวข้อหลักของงาน "Bangkok International Motor Show 2024" จะเน้นไปที่ "การเคลื่อนที่อัจฉริยะและอนาคตที่ยั่งยืน" โดยจะโฟกัสไปที่เทคโนโลยีรถไฟฟ้า นวัตกรรมระบบขับขี่อัตโนมัติ รวมถึงโซลูชั่นการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์อุตสาหกรรมยานยนต์โลกที่กำลังเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสนใจของผู้บริโภคไทยต่อรถไฮบริดและรถไฟฟ้า 100% เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แบรนด์ต่างๆ อาจนำเสนอรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่พวงมาลัยด้านขวา เช่น SUV เมืองที่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว หรือรถแฮทช์แบ็กที่มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะที่ออกแบบมาเฉพาะตลาดไทย นอกจากนี้ยังมีจุดน่าสนใจตรงที่งานนี้มักเปิดตัวระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น รวมถึงเทคโนโลยีขับเคลื่อนที่เหมาะกับถนนในฤดูฝน ซึ่งเป็นรายละเอียดสำคัญสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถพลังงานสะอาด นอกเหนือจากโซนจัดแสดงหลัก ยังมีกิจกรรมทดลองขับและสัมมนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีการชาร์จที่น่าสนใจ ช่วยให้เห็นประสิทธิภาพจริงของแต่ละแบรนด์ในสภาพแวดล้อมร้อนชื้น แนะนำให้ติดตามรายชื่อแบรนด์ผู้ร่วมงานล่วงหน้า เพราะบางแบรนด์อาจใช้โอกาสนี้เปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นที่พัฒนามาเฉพาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Q
เครื่องยนต์แบบไหนที่อยู่ใน Kia Carnival รุ่นปี 2024?
รุ่นปี 2024 ของ Kia Carnival นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์สองแบบให้เลือก คือ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.5 ลิตร แบบแรกเป็นเครื่องดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร ที่ให้กำลังส่งเยี่ยม แม้จะรอบต่ำก็ยังดึงแรงบิดได้ดี แถมประหยัดน้ำมันเหมาะกับคนที่ขับทางไกลบ่อยหรืออยากประหยัดค่าน้ำมัน ส่วนเครื่อง V6 3.5 ลิตรนั้นแรงกว่าเยอะ เวลาเร่งแซงหรือขับบนทางด่วนจะรู้สึกถึงความสดวกมากกว่า เหมาะกับคนที่ชอบความสปอร์ต ทั้งสองแบบถูกตั้งแต่งและจูนมาอย่างดี คู่กับเกียร์อัตโนมัติที่ทำงานลื่นไหล ไม่ว่าจะชอบแบบแรงหรือแบบประหยัดก็ตอบโจทย์ได้หมด ทำให้การขับขี่นุ่มนวลและสบายตัวทั้งคนขับและผู้โดยสาร
ดูเพิ่มเติม