Q

รถ msx ราคาเท่าไหร่

ในตลาดไทย ราคาจักรยานยนต์ฮอนด้า MSX125 หรือที่รู้จักกันในชื่อ GROM จะอยู่ที่ประมาณ 85,000 ถึง 95,000 บาท โดยราคาอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย ความแตกต่างของพื้นที่ หรือรุ่นที่เลือก (เช่น รุ่นมาตรฐานหรือรุ่นพิเศษ) จักรยานยนต์มินิคันโดนใจวัยรุ่นไทยด้วยน้ำหนักเบา เครื่องยนต์ 125cc แบบสูบเดียว และการควบคุมที่คล่องตัว เหมาะมากสำหรับการเดินทางในเมืองหรือการขับขี่ระยะสั้น ที่สำคัญ จักรยานยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยมักจะเสียภาษีและการประกันที่ถูกกว่า แถมฮอนด้ายังมีเครือข่ายบริการหลังการขายทั่วไทย ค่าบำรุงรักษาก็ไม่แรงมาก ถ้าสนใจซื้อมือสอง MSX125 ที่สภาพดีจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 ถึง 70,000 บาท แต่แนะนำให้ซื้อผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบประวัติรถก่อน ส่วนคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง Yamaha MT-125 หรือ Kawasaki Z125 ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการเปรียบเทียบ แต่ MSX125 ยังคงเป็นที่นิยมในไทยมากกว่าเพราะความน่าเชื่อถือของแบรนด์ฮอนด้าและโอกาสในการแต่งรถที่หลากหลาย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความเร็วสูงสุดของ Toyota Corolla 2024 คือเท่าไหร่?
รถโตโยต้า โคโรลลา รุ่นปี 2024 ในประเทศไทยมีความเร็วสูงสุดที่แตกต่างกันไปตามรุ่นและแบบเครื่องยนต์ โดยรุ่นเครื่องยนต์เบนซินจะทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 180-200 กม./ชม. ส่วนรุ่นไฮบริดที่เน้นการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีความเร็วสูงสุดน้อยกว่าประมาณ 180 กม./ชม. ทั้งนี้ความเร็วจริงอาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนของไทย สภาพถนน หรือน้ำหนักบรรทุก ในตลาดไทย โคโรลลาเป็นรถยอดนิยมโดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 1.8L และ 1.6L ที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง ส่วนระบบไฮบริดจะช่วยประหยัดน้ำมันได้ชัดเจนในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ ควรระวังว่ากฎหมายไทยกำหนดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 120 กม./ชม. การขับขี่เกินความเร็วกำหนดไม่เพียงแต่เสี่ยงอันตรายแต่ยังอาจถูกปรับหนัก นอกจากนี้ระบบ Toyota Safety Sense ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งเป็นประโยชน์มากในสภาพถนนทั้งในเมืองและต่างจังหวัดของไทยที่หลากหลาย หากต้องการสมรรถนะ更高อาจพิจารณารุ่น Corolla Altis ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 2.0L แต่ต้องคำนึงว่าภาษีรถยนต์เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ในไทยจะสูงกว่า
Q
ยางขนาดเท่าไหร่ที่ติดตั้งใน Toyota Corolla ปี 2024?
สำหรับรถโตโยต้า Corolla รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทย ขนาดยางที่ทางผู้ผลิตจัดให้นั้นจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและระดับเครื่องยนต์ โดยขนาดยางที่พบได้บ่อยจะมี 2 แบบคือ 195/65 R15 และ 205/55 R16 ซึ่งแบบแรกมักจะใช้กับรุ่นพื้นฐาน ส่วนแบบหลังนั้นจะเจอในรุ่นท็อปหรือรุ่นสปอร์ต ตัวเลขขนาดยางเหล่านี้มีความหมายคือ ความกว้างของหน้ายาง (หน่วยเป็นมิลลิเมตร) อัตราส่วนความสูงของแก้มยางต่อความกว้างหน้ายาง (เป็นเปอร์เซ็นต์) และเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ (หน่วยเป็นนิ้ว) การเลือกขนาดยางที่เหมาะสมจะมีผลต่อการควบคุมรถ ความนุ่มสบาย และประหยัดน้ำมันด้วย ในสภาพอากาศเมืองไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้เลือกยางที่มีร่องดอกยางดีเพื่อระบายน้ำได้มีประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับตอนฝนตก นอกจากนี้ควรตรวจสอบสภาพยางและลมยางเป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหายางระเบิดจากความร้อนที่ทำให้ลมยางเพิ่มความดันสูงเกินไป ส่วนใครที่คิดจะอัพเกรดขนาดยาง ต้องระวังเรื่องกฎหมายด้วยนะ เพราะไทยเรามีข้อกำหนดเรื่องการเปลี่ยนขนาดยาง ต้องไม่เกินขอบเขตที่ผู้ผลิตอนุญาตไว้ เดี๋ยวจะเกิดปัญหาเวลาตรวจสภาพรถหรือทำประกันได้
Q
แรงดันลมยางที่เหมาะสมสำหรับรถ Toyota Corolla ปี 2024 คือเท่าไร?
ตามคำแนะนำอย่างเป็นทางการจากโตโยต้า มาตรฐานความดันลมยางสำหรับ Toyota Corolla รุ่นปี 2024 จะระบุไว้บนสติกเกอร์ที่กรอบประตูหรือในคู่มือผู้ใช้ สำหรับสภาพอากาศร้อนแบบประเทศไทย แนะนำให้ปรับความดันลมยางเมื่อยางเย็นอยู่ที่ 32 psi (2.2 bar) สำหรับล้อหน้า และ 30 psi (2.1 bar) สำหรับล้อหลัง หากมีการบรรทุกหนักเป็นประจำสามารถปรับตามค่าที่แนะนำบนสติกเกอร์ได้ สภาพอากาศร้อนในไทยจะทำให้ความดันลมยางเพิ่มขึ้นขณะขับขี่ ดังนั้นควรตรวจสอบความดันลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง ควรตรวจในช่วงเช้าหรือในที่ร่มจะดีที่สุด ต้องระวังว่าความดันลมยางสูงเกินไปจะทำให้การยึดเกาะถนนลดลง ส่วนความดันต่ำเกินไปจะเพิ่มการสิ้นเปลืองน้ำมันและเสี่ยงยางระเบิดได้ ในช่วงฤดูฝนอาจลดความดันลง 1-2 psi เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนถนนเปียก แต่ไม่ควรปรับค่าแตกต่างจากมาตรฐานโรงงานเกิน 10% สำหรับสภาพถนนในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ที่ค่อนข้างซับซ้อน แนะนำให้เลือกรุ่นที่มาพร้อมระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS) โดยในไทยปั๊มน้ำมันและอู่ซ่อมรถส่วนใหญ่มีบริการตรวจความดันลมยางฟรี ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนเดินทางไกล ยางแต่ละยี่ห้อเช่นมิชลินหรือบริจสโตนอาจมีค่ามาตรฐานแตกต่างกันเล็กน้อย หลังเปลี่ยนยางใหม่ควรตรวจสอบค่ามาตรฐานอีกครั้ง
Q
วิธีตรวจสอบว่าล้อไหนลมยางอ่อนใน Toyota Corolla ปี 2024
ถ้าจะตรวจสอบว่ายางล้อไหนของ Toyota Corolla รุ่นปี 2024 มีลมยางไม่พอ วิธีที่ง่ายที่สุดคือใช้ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS) ที่มากับรถเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว พอความดันลมยางต่ำกว่าค่ามาตรฐาน ไฟเตือนสีเหลืองบนแผงหน้าปัดจะสขึ้นพร้อมบอกตำแหน่งล้อนั้นๆ ช่วงอากาศร้อนๆแบบไทยๆเนี่ยลมยางขึ้นลงง่าย แนะนำให้ตรวจเช็คลมยางด้วยตัวเองอย่างน้อยเดือนละครั้ง จะใช้เครื่องวัดลมยางแบบดิจิตอลตามปั๊มหรืออู่ก็ได้ ต้องเช็คตอนยางเย็นเท่านั้น แล้วเทียบกับค่ามาตรฐานที่ติดอยู่บนกรอบประตูด้านคนขับ (ปกติล้อหน้าจะอยู่ที่ 220kPa ล้อหลัง 210kPa) ถ้าลมยางผิดปกติต้องปรับให้ตรงอย่าปล่อยทิ้งไว้ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนถนนไทยๆมักลื่น การรักษาลมยางให้พอดีจะช่วยให้เบรกทำงานปกติและประหยัดน้ำมันด้วย ยางลมอ่อนนานๆนอกจากจะสึกเร็วยังเสี่ยงยางระเบิดเวลาเดินทางไกลตอนแดดจัดๆอีก ส่วนวิธีสังเกตแบบคร่าวๆให้ดูว่ายางแตะพื้นเท่ากันทุกด้านหรือเปล่า แต่วิธีนี้ไม่แม่นเท่าใช้เครื่องวัดนะ
Q
รถ Toyota Corolla ปี 2024 ใช้น้ำมันเครื่องชนิดไหน?
สำหรับรถโตโยต้า Corolla รุ่นปี 2024 ที่จำหน่ายในประเทศไทย แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องชนิดสังเคราะห์เต็มรูปแบบที่มีความหนืด 0W-16 หรือ 5W-20 เพราะทั้งสองเกรดนี้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยและช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ดี อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบคู่มือผู้ใช้หรือสติกเกอร์ที่ฝากล่องน้ำมันเครื่องเพื่อดูเกรดที่ผู้ผลิตระบุไว้เป็นหลัก สภาพแวดล้อมของไทยที่มีทั้งความร้อนและความชื้นสูงต้องการน้ำมันเครื่องคุณภาพดีที่ได้มาตรฐาน API SP หรือ ILSAC GF-6A เพื่อความสะอาดของเครื่องยนต์และช่วยประหยัดน้ำมัน ที่สำคัญคือในสภาพอากาศร้อนแบบไทยๆ ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำและเปลี่ยนตามระยะเวลาที่กำหนดทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) แต่ถ้าต้องเผชิญกับการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ บ่อยๆ อาจต้องเปลี่ยนถี่ขึ้นกว่านั้น สำหรับรุ่นเทอร์โบหรือไฮบริด ต้องใช้น้ำมันเครื่องตามที่โตโยต้ากำหนดเท่านั้นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งศูนย์บริการโตโยต้าในไทยมีน้ำมันเครื่องต้นฉบับที่ได้มาตรฐานพร้อมบริการครบวงจร อีกเรื่องที่ควรรู้คือสภาพพื้นที่เป็นภูเขาของไทยอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น การเลือกน้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติป้องกันการเสื่อมสภาพจากความร้อนสูงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น
Q
ราคาที่ยุติธรรมสำหรับรถ Toyota Corolla ปี 2024 ควรจะเป็นเท่าไหร่?
รถโตโยต้า โคโรลลา รุ่นปี 2024 ในประเทศไทยน่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 800,000 ถึง 1,200,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย โดยรุ่นพื้นฐาน 1.6L แบบเบนซินจะราคาถูกกว่า ส่วนรุ่นไฮบริดแบบเต็มอุปกรณ์จะใกล้เคียงกับราคาสูงสุด นอกจากนี้ราคาจริงอาจรวมค่าประกัน ภาษี และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ด้วย ตลาดไทยให้ความนิยมโคโรลลามาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นรถที่ทนทานและประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ รุ่นไฮบริดยิ่งช่วยลดค่าน้ำมันลงไปอีก ก่อนซื้อแนะนำให้เปรียบเทียบราคาจากหลายๆ โชว์รูม เพราะโตโยต้ามีเครือข่ายจำหน่ายทั่วไทยและบริการหลังการขายค่อนข้างดี บางครั้งอาจมีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ผ่อนสบายๆ ดอกเบี้ยต่ำหรือบริการฟรีๆ ที่ช่วยลดต้นทุนในการใช้รถในระยะยาว ส่วนเรื่องค่าซื้อคืนกลับ โคโรลลาก็ทำได้ดีเหมือนกัน แม้ใช้ไปนานก็ยังคงมูลค่าได้ค่อนข้างดี
Q
รถ Toyota Corolla Cross ปี 2024 จะใช้งานได้นานแค่ไหน?
รถโตโยต้า Corolla Cross รุ่นปี 2024 ในประเทศไทยโดยทั่วไปสามารถใช้งานได้นาน 15-20 ปี หรือระยะทางเกิน 3 แสนกิโลเมตร ขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษาและนิสัยการขับขี่ รถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 2.0L แบบดูดธรรมดาและเกียร์ CVT ที่มีชื่อเรื่องความทนทาน พร้อมด้วยระบบไฮบริด (แบบ HEV) ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดีของโตโยต้า ซึ่งทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้เปลี่ยนน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเกียร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อรับมือกับอุณหภูมิสูง และควรดูแลป้องกันสนิมบริเวณช่วงล่างโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน สำหรับคนไทยแล้ว Corolla Cross มีอะไหล่พร้อมและค่าซ่อมบำรุงไม่แพง นอกจากนี้ยังเป็นรถที่ทรงตัวดีในตลาดมือสอง หากทำตามคำแนะนำของผู้ผลิตในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 1 หมื่นกิโลเมตรและใช้อะไหล่แท้ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้อีก ที่สำคัญคือสภาพถนนในไทยมีความหลากหลาย จึงควรตรวจสอบระบบช่วงล่างทุก 2 ปี โดยเฉพาะถ้าต้องขับบนถนนชนบทบ่อยๆ การดูแลรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความเชื่อถือได้ในการใช้งานระยะยาวอย่างเห็นได้ชัด
Q
รถ Toyota Corolla Cross รุ่นปี 2024 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
สำหรับตลาดไทย 2024 Toyota Corolla Cross นับเป็น SUV ที่น่าจับตามอง เพราะยังคงความน่าเชื่อถือและใช้งานได้จริงแบบฉบับโตโยต้า มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร แบบธรรมดาหรือระบบไฮบริดที่ให้กำลังส่งเรียบๆ แต่ประหยัดน้ำมันสุดๆ เหมาะทั้งขับในเมืองที่รถติดเยอะหรือจะไปทริปยาวๆ ก็ไหว ที่นั่งด้านหลังกว้างขวาง พับเก็บได้ตามต้องการ ช่วยเรื่องขนของหรือไปเที่ยวกับครอบครัว แถมยังติดตั้ง Toyota Safety Sense ระบบช่วยความปลอดภัยที่มีทั้งแจ้งเตือนก่อนชนและช่วยควบคุมเลน ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยขึ้น ส่วนเรื่องอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ แอร์ของรุ่นนี้เย็นฉ่ำ แถมช่วงล่างก็ปรับแต่งมาได้ดีทั้งนุ่มและกระชับ รับได้ทุกสภาพถนน ถ้าจะให้เปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในตลาดอย่าง Honda HR-V หรือ Mazda CX-30 ที่แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นต่างกัน แต่จุดแข็งของ Corolla Cross อยู่ที่เครือข่ายบริการหลังการขายของโตโยต้าที่ครอบคลุมและมูลค่ารถคงเหลือสูง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทยมาก
Q
คะแนนของ Toyota Corolla Cross 2024 คือเท่าไร?
รถโตโยต้า คอร์โรลลา ครอส รุ่นปี 2024 ในไทยทำผลงานด้านความปลอดภัยได้ดีมาก ได้รับการรับรองระดับ 5 ดาวจากอาเซียน NCAP พร้อมระบบ Toyota Safety Sense ที่มาพร้อมฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น ระบบเตือนการชนและช่วยรักษาเลน เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและต่างจังหวัดของไทยที่ค่อนข้างซับซ้อน ส่วนด้านสมรรถนะมีทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรและไฮบริด 1.8 ลิตร โดยรุ่นไฮบริดให้ประหยัดน้ำมันถึงประมาณ 23 กม./ลิตรในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ ส่วนระบบช่วงล่างก็ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับถนนไทย ทั้งความนุ่มนวลและการทรงตัว ความโดดเด่นในตลาดไทยยังมาจากราคาที่เหมาะสมเพราะผลิตในประเทศและเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถในระดับเดียวกัน อาจเปรียบเทียบกับฮอนด้า เอชอาร์-วี หรือมาสด้า ซีเอ็กซ์-30 ก่อนตัดสินใจ แนะนำให้ไปทดลองขับที่โชว์รูมในกรุงเทพฯหรือเชียงใหม่ และอย่าลืมเช็กโปรโมชั่นลดภาษีสำหรับรถ Eco Car จากรัฐบาลไทยเพื่อช่วยในการตัดสินใจที่คุ้มค่าที่สุด
Q
คุณจะต้องจ่ายเท่าไรสำหรับรถ Toyota Corolla Cross ปี 2024?
ราคารถ Toyota Corolla Cross รุ่นปี 2024 ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องยนต์และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย โดยรุ่นพื้นฐานเริ่มต้นที่ประมาณ 950,000 - 1,100,000 บาท ส่วนรุ่นไฮบริดแบบเต็มสูบอาจสูงถึง 1,200,000 - 1,400,000 บาท แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อสอบถามราคาล่าสุดและข้อเสนอพิเศษ Corolla Cross เป็นที่นิยมในตลาดไทยเพราะประหยัดน้ำมันและความทนทาน เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานในครอบครัว โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นอีก เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นอกจากราคาแล้ว ควรพิจารณาบริการหลังการขาย นโยบายการรับประกันและค่าประกันรถด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในระยะยาว รัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเลือกรุ่นไฮบริดอาจได้รับสิทธิประโยชน์บางอย่าง ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ ซ้ำยังมีจุดแข็งเรื่องเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของโตโยต้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้สะดวกในเรื่องบริการหลังการขาย นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่หลายคนเลือก Corolla Cross

Q&A ล่าสุด

Q
จะมีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัวในปี 2025 ไหม?
ปี 2025 นี่มีรถใหม่น่าสนใจหลายรุ่นที่กำลังจะออกมา ทั้งแบบไฟฟ้าและแบบน้ำมัน เช่น Toyota ที่เตรียมปล่อย SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ สร้างจากแพลตฟอร์มเฉพาะตัว คาดว่าวิ่งได้เกิน 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ เหมาะกับสภาพการใช้งานในไทยมาก ส่วนฮอนด้าก็น่าจะอัพเดทรถไฮบริดรุ่นใหม่มาในปี 2025 ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น แบรนด์จีนอย่าง BYD ก็น่าจะนำเข้ารถไฟฟ้าพวงมาลัยขวาเพิ่มอีก ราคาดีกว่าแน่นอน นอกจากแบรนด์ใหญ่แล้ว บริษัทรถไฟฟ้าเกิดใหม่อีกหลายเจ้าก็อาจบุกตลาดไทยในปี 2025 ทำให้มีตัวเลือกมากขึ้น สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนรถ ปี 2025 นี่ถือเป็นปีที่เทคโนโลยีรถยนต์อัพเกรดเร็วมาก โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่จะพัฒนาชาร์จเร็วและระบบขับขี่อัตโนมัติได้เห็นชัด แนะนำให้ติดตามข่าวสารจากทางบริษัทโดยตรง และถ้ามีโอกาสก็ไปเดินชมในงานมอเตอร์โชว์จะดีมาก เพราะจะได้เห็นและทดลองขับด้วยตัวเอง จะเข้าใจแต่ละรุ่นได้ชัดขึ้น
Q
จะมี Lexus ES รุ่นใหม่ในปี 2025 หรือไม่?
จากข่าวล่าสุดที่ได้รับมา รุ่น Lexus ES Series ในปี 2025 อาจจะมีการอัปเดตใหม่ แต่รายละเอียดยังไม่ชัดเจนทั้งหมด โดยปกติแล้วรถหรูระดับนี้มักจะมีการพัฒนาด้านการออกแบบภายนอก ระบบเทคโนโลยี และระบบขับเคลื่อน เช่น อาจจะใช้ระบบไฮบริดที่ทันสมัยขึ้น หรือระบบมัลติมีเดียในรถที่ฉลาดมากขึ้น สำหรับตลาดในไทย Lexus เป็นที่นิยมในเรื่องความสบายและการใช้งานที่เชื่อถือได้ รุ่นใหม่ ES นี้น่าจะยกระดับจุดแข็งเหล่านี้ไปอีก พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น เช่น การประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้น หรือฟังก์ชันที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดไทย ถ้าสนใจรถรุ่นนี้ แนะนำให้ติดตามข้อมูลจากทางบริษัทผู้ผลิตโดยตรงหรือสอบถามที่ตัวแทนจำหน่าย เพราะ Lexus มักจะปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อให้รถยังคงความน่าสนใจอยู่เสมอ นอกจากนี้ รถระดับหรูมักจะมีบริการหลังการขายและการดูแลรักษาที่ค่อนข้างดี นี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณาเวลาเลือกซื้อรถด้วย
Q
Lexus ES ปี 2025 ราคาเท่าไหร่?
ขณะนี้ราคาอย่างเป็นทางการของ Lexus ES รุ่นปี 2025 ยังไม่มีการประกาศออกมา แต่สามารถอ้างอิงราคาของรุ่นปัจจุบันได้ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2.9 - 4.5 ล้านบาท คาดว่ารุ่นใหม่นี้อาจมีราคาสูงขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากอัพเกรดอุปกรณ์และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดย Lexus ES เป็นรถหรูที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเงียบสมบูรณ์แบบ ระบบไฮบริดประสิทธิภาพสูง และการตกแต่งภายในที่ประณีต ส่วนรุ่นปี 2025 นี้อาจมาพร้อมกับระบบความปลอดภัย LSS+ ที่อัพเกรดแล้ว และมีการปรับปรุงประหยัดน้ำมันมากขึ้นในรุ่นไฮบริด สำหรับตลาดไทย คู่แข่งหลักของ ES ก็คือ BMW 5 Series และ Mercedes-Benz E-Class แต่ Lexus มีจุดเด่นในเรื่องบริการหลังการขายฟรีและอัตราค้างจำนำที่สูงกว่า หากสนใจอยากได้ แนะนำให้จับตาดูโปรโมชั่นในช่วงงานมอเตอร์โชว์สิ้นปีหรือรถมือสองรับประกันศูนย์ บางตัวแทนจำหน่ายอาจมีโปรโมชั่นเงินผ่อนดอกเบี้ยต่ำ อย่างไรก็ตาม รุ่นไฮบริดแม้ราคาจะสูงกว่าแต่ช่วยประหยัดค่าน้ำมันในระยะยาว โดยเฉพาะสำหรับการใช้งานในเมืองที่รถติดบ่อย
Q
รถ Lexus ES ปี 2025 ผลิตที่ไหน?
รุ่น 2025 ของ Lexus ES ยังคงผลิตที่โรงงานเดียวกันกับรุ่นปัจจุบัน ซึ่งคือโรงงาน Miyata ในจังหวัด Kyushu ประเทศญี่ปุ่น โรงงานแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านกระบวนการผลิตที่มีความแม่นยำสูงและมาตรฐานการตรวจสอบคุณภาพที่เข้มงวด รถที่ผลิตที่นี่จะถูกส่งออกไปยังตลาดทั่วโลก สำหรับคนที่ชื่นชอบแบรนด์ Lexus แล้ว การที่รถเป็นแบบนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรงหมายถึงคุณภาพการผลิตและมาตรฐานการควบคุมที่สูงกว่า โดยเฉพาะในเรื่องของความประณีตและความทนทาน ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เห็นได้ชัด Lexus ES เป็นรถหรั่งระดับกลางถึงใหญ่ที่ขายดีมากของแบรนด์ รุ่น Hybrid ES300h ใช้ระบบขับเคลื่อน Hybrid THS-II ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการจราจรที่ติดขัด ส่วนรุ่น ES250 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.5L แบบธรรมชาติที่ให้ความเรียบและน่าเชื่อถือ เหมาะกับการใช้งานประจำวัน ถ้าสนใจรถรุ่นนี้ แนะนำให้ไปที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อสอบถามข้อมูลสเปคและรถที่กำลังจะถึงประเทศไทย พร้อมทั้งทดลองสัมผัสความเงียบภายในห้องโดยสารและระบบเสียง Mark Levinson ที่เป็นจุดเด่นเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน
Q
การอัปเกรดในรุ่น 2025 ES มีอะไรบ้าง?
รุ่นปี 2025 ของ Lexus ES ที่มีการอัพเกรดนี้ถือเป็นการรีเฟรชแบบมิดไลฟ์ โดยเน้นการอัพเกรดด้านความอัจฉริยะและรายละเอียดการใช้งานเป็นหลัก รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับระบบมัลติมีเดีย Lexus Interface เวอร์ชันล่าสุด ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมทั้งปรับปรุงความเร็วการตอบสนองของหน้าจอสัมผัส โดยหน้าจอกลางอาจขยายขนาดขึ้นเป็น 12.3 นิ้ว สำหรับรุ่นท็อปยังมีฟีเจอร์ดิจิทัลคีย์และ HUD โชว์ข้อมูลบนกระจกหน้า ส่วนระบบขับเคลื่อนคาดว่าจะยังคงใช้ระบบไฮบริด 2.5L เหมือนเดิม แต่อาจจะมีการปรับแต่ง ECU เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันให้ตอบโจทย์ความต้องการรถประหยัดพลังงานของตลาดท้องถิ่น จุดเด่นที่น่าสนใจคือรุ่นใหม่นี้อาจเสริมวัสดุกันเสียงมากขึ้น เช่น กระจกชั้นคู่บริเวณที่นั่งแถวหน้า ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดบ่อยในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ Lexus มักเสริมฟีเจอร์ความปลอดภัยทุกครั้งที่อัพเกรดรุ่น รุ่นปี 2025 ES อาจใช้ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ LSS + 2.5 เป็นมาตรฐาน ประกอบด้วยระบบเตือนการชนก่อนชนและฟังก์ชั่นการรักษาเลนที่ตอบสนองได้มากขึ้น ด้วยสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ฟังก์ชันระบายอากาศบนเบาะน่าจะถูกเพิ่มในหลายรุ่นย่อยมากขึ้น สำหรับการดูแลรักษาระบบไฮบริด ขอแนะนำให้ใส่ใจกับการเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นอินเวอร์เตอร์เป็นประจำสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงและความชื้นสูงจะช่วยเร่งการลดทอนประสิทธิภาพของของเหลวซึ่งต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษในการบำรุงรักษา
ดูเพิ่มเติม