Q

ระยะทางการขับขี่ของ 2025 iX xDrive50 อยู่ในช่วงเท่าไหร่?

รุ่น 2025 BMW iX xDrive50 มีระยะทางวิ่งตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP ที่ประมาณ 630 กิโลเมตร แต่อาจลดลงเล็กน้อยในสภาพอากาศร้อนและการจราจรติดขัดของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังคงตอบโจทย์การเดินทางไกลจากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่ได้สบายๆ สำหรับคนไทยแล้ว ระยะทางจริงของรถไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การใช้แอร์ นิสัยการขับขี่ และจุดชาร์จไฟ ดังนั้นแนะนำให้ลองขับดูที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อ รัฐบาลไทยตอนนี้กำลังสนับสนุนรถไฟฟ้าอย่างเต็มที่ ทั้งลดภาษีนำเข้าและให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ทำให้รถไฟฟ้าระดับพรีเมียมอย่าง iX xDrive50 น่าสนใจยิ่งขึ้น ที่สำคัญ BMW มีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมในประเทศไทย ซึ่งจำเป็นมากสำหรับเจ้าของรถไฟฟ้า เพราะการดูแลรักษาและอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้รถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้จำนวนสถานีชาร์จในไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางได้มาก และฟีเจอร์ชาร์จเร็วของ iX xDrive50 ที่ชาร์จจาก 10% เป็น 80% ในเวลาเพียง 40 นาที ก็เหมาะมากกับการชาร์จในห้างสรรพสินค้าที่คนไทยนิยมใช้บริการ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความเร็วสูงสุดของ BMW iX 2025 คือเท่าไหร่?
ตามข้อมูลทางการ รุ่น BMW iX ปี 2025 จะถูกจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 200 กม./ชม. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการตั้งค่านี้คำนึงถึงทั้งข้อกำหนดความเร็วบนถนนในเมืองไทยและสมรรถนะของรถไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อนสองมอเตอร์ของรถคันนี้สามารถผลิตกำลังได้กว่า 500 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาที สำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบปรับอากาศแบบปั๊มความร้อนและแบตเตอรี่แรงดันสูงขนาด 81.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมงได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อรักษาอุณหภูมิการทำงานของแบตเตอรี่ และรักษาความเสถียรขณะขับขี่ความเร็วสูง ควรสังเกตว่าความเร็วสูงสุดบนทางด่วนไทยถูกกำหนดไว้ที่ 120 กม./ชม. แม้แต่ในสนามแข่งอย่างชลบุรี ก็ต้องคำนึงถึงกฎหมายท้องถิ่นที่กำหนดเกี่ยวกับความเร็วสูงสุดของรถไฟฟ้า BMW iX ที่ใช้เทคโนโลยี eDrive รุ่นที่ 5 ร่วมกับการออกแบบอากาศพลศาสตร์ ทำให้มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีแม้ในพื้นที่ภูมิประเทศเป็นเนินเขาของไทย ในขณะที่ระบบช่วงล่างแอคทีฟที่ติดตั้งมาด้วยมาตรฐานช่วยให้รถสามารถปรับตัวได้ทั้งในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ และถนนทางเขาของเชียงใหม่
Q
“รถยนต์ ix50 ในปี 2025 จะมีระยะทางวิ่งเท่าไร?”
รุ่น BMW iX50 ปี 2025 ที่จะวางจำหน่ายในไทยคาดว่าจะวิ่งได้ไกลถึง 630 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ซึ่งถือว่าเพียบพร้อมสำหรับการเดินทางไกลของคนไทย เช่น การเดินทางจากกรุงเทพไปเชียงใหม่แบบไม่ต้องหยอดชาร์จระหว่างทาง แถมยังรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว 200kW ที่ช่วยให้ชาร์จไฟแค่ 10 นาทีก็เพิ่มระยะทางได้อีก 150 กิโลเมตร โดยเฉพาะในไทยที่สถานีชาร์จเริ่มมีให้เห็นมากขึ้น สุดพิเศษไปกว่านั้น ระบบจัดการความร้อนขั้นสูงของ iX50 ยังช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแม้ในสภาพอากาศร้อนแบบไทย สำหรับคนไทยที่กำลังมองหา EV ควรเช็กให้ดีว่าพื้นที่ที่ใช้ชีวิตมีสถานีชาร์จเพียงพอ เพราะตอนนี้โซนท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพหรือภูเก็ตจะมีสถานีชาร์จเร็วหนาแน่น แต่ทางเหนือแถบภูเขาอาจยังน้อยอยู่ ส่วนตัว iX50 นั้นถือเป็น SUV ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่วิ่งไกลสุดๆ ในตลาดไทย เหมาะกับคนที่ต้องการทั้งแบรนด์เนมและประโยชน์ใช้ส่อยจริงจัง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยมีนโยบายภาษีพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า การซื้อ iX50 สามารถลดหย่อนภาษีนำเข้าได้ และต้นทุนการซื้อจริงอาจคุ้มค่ากว่ารถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงแบบดั้งเดิม
Q
ราคา BMW iX 2025 คือเท่าไหร่?
ขณะนี้ราคาอย่างเป็นทางการของ BMW iX รุ่นปี 2025 ในประเทศไทยยังไม่มีการประกาศออกมา แต่ถ้าดูจากราคาของรุ่นปัจจุบันที่วางขายในตลาดไทยซึ่งอยู่ที่ประมาณ 4.5 - 6 ล้านบาท คาดว่ารุ่นใหม่น่าจะอยู่ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน โดยราคาอาจมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ระดับความสมบูรณ์ของรถ ประเภทแบตเตอรี่ (เช่น รุ่น xDrive40 หรือ xDrive50) รวมถึงภาษีนำเข้าในประเทศ สำหรับตลาดไทย รถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีบางส่วนซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนในการซื้อได้ BMW iX ในฐานะ SUV ไฟฟ้าระดับหรู โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีต่างๆ เช่น โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบาที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม CLAR ระยะทางไกลสุดถึง 630 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) และระบบ iDrive 8.5 เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม ในประเทศไทยโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถไฟฟ้าก็กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวหลักที่มีการขยายสถานีชาร์จเพิ่มขึ้น ทำให้การใช้รถไฟฟ้าสะดวกยิ่งขึ้น หากกำลังคิดจะซื้อ แนะนำให้ติดตามข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ BMW ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ รวมถึงเปรียบเทียบนโยบายบริการหลังการขายของคู่แข่งอื่นๆ ในตลาด เช่น Mercedes-Benz EQS SUV หรือ Audi Q8 e-tron โดยเฉพาะสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการชาร์จหรือการรับประกันแบตเตอรี่ เพื่อประกอบการตัดสินใจอย่างรอบด้าน
Q
BMW iX1 2025 มีระยะทางวิ่งเท่าไหร่?
รุ่น BMW iX1 ปี 2025 นี้คาดว่าจะวิ่งได้ระยะทางประมาณ 440 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP แม้ว่าในสภาพอากาศร้อนและการจราจรติดขัดแบบไทย ระยะทางอาจลดลงนิดหน่อย แต่ก็ยังใช้ได้สบายๆ ทั้งขับรถไปทำงานประจำวันหรือจะข้ามจังหวัดก็ไม่มีปัญหา อย่างเช่นขับจากกรุงเทพไปพัทยาแบบไป-กลับไม่ต้องชาร์จไฟระหว่างทางก็ได้ รถรุ่นนี้ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า eDrive รุ่นที่ 5 ที่รองรับการชาร์จเร็ว 130kW แค่ชาร์จ 10 นาทีก็วิ่งต่อได้อีก 120 กิโลเมตร เหมาะมากกับสถานีชาร์จไฟในไทยที่เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นทุกวัน ที่สำคัญรัฐบาลไทยตอนนี้กำลังสนับสนุนรถ EV อย่างเต็มที่ ถ้าซื้อ BMW iX1 จะได้ลดภาษีสูงสุด 150,000 บาท แถมสถานีชาร์จในกรุงเทพ เชียงใหม่ หรือเมืองใหญ่ๆ ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ต้องบอกว่าขับรถไฟฟ้าในไทยประหยัดกว่าใช้น้ำมันเยอะ ค่าไฟถูกกว่าถึง 1 ใน 3 แต่แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่เป็นประจำเพื่อให้รถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในอากาศร้อนแบบไทย ถ้าใครชอบขับทางไกลบ่อยๆ สามารถแวะชาร์จไฟระหว่างทางได้ตามศูนย์การค้าเครือ Central หรือปั๊ม PTT ที่ตอนนี้มีสถานีชาร์จเร็วแบบ DC ให้บริการแล้วกว่า 800 จุดทั่วประเทศ
Q
BMW iX 40 ในปี 2025 จะมีระยะทางวิ่งอยู่ที่เท่าไร?
รถ BMW iX 40 รุ่นปี 2025 ในรูปแบบ SUV ไฟฟ้าเต็มตัว คาดว่าสามารถวิ่งได้ระยะทางจริงประมาณ 400-450 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) เมื่อใช้งานในประเทศไทย แม้ว่าสภาพอากาศร้อนและการจราจรติดขัดในเมืองอาจส่งผลต่อระยะทางบ้าง แต่ด้วยระบบจัดการความร้อนแบตเตอรี่ที่ประสิทธิภาพสูงและการออกแบบแอโรไดนามิก ทำให้ยังคงรักษาระยะทางได้อย่างเสถียร รถคันนี้ใช้แบตเตอรี่ความจุประมาณ 76.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็ว 150 กิโลวัตต์ ซึ่งในเครือข่ายสถานีชาร์จของไทยที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียงประมาณ 40 นาที เหมาะมากสำหรับการเดินทางในเมืองหรือทริปสั้นๆ รอบกรุงเทพฯ สำหรับคนไทยแล้ว นอกเหนือจากระยะทางที่วิ่งได้แล้ว BMW iX 40 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อน เช่น ระบบระบายอากาศบนเบาะและกระจกป้องกันรังสียูวี รวมถึงโปรโมชั่นจาก BMW ประเทศไทยที่ให้การรับประกันแบตเตอรี่ยาวนานถึง 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร ช่วยลดความกังวลเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ดี ที่สำคัญ รัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถ EV โดยผู้ซื้อ BMW iX 40 จะได้รับส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท แถมยังมีบริการชาร์จไฟฟรีตามห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงานต่างๆ ทำให้ค่าใช้จ่ายในระยะยาวถูกกว่ารถยนต์น้ำมันแบบเดิมๆ เยอะเลย
Q
การชาร์จฟรีสำหรับ BMW iX 2025 คืออะไร?
บริการชาร์จไฟฟรีสำหรับ BMW iX 2025 ในตลาดไทยนั้น มักจะหมายถึงสิทธิประโยชน์เฉพาะที่ลูกค้าได้รับเมื่อซื้อรถรุ่นนี้ ตัวอย่างเช่น การใช้งานสถานีชาร์จไฟที่ร่วมมือกับ BMW หรือเครือข่ายของผู้ให้บริการชาร์จไฟในประเทศไทย เช่น บริษัทท้องถิ่น ที่ให้บริการชาร์จฟรีภายในระยะเวลาหรือจำนวนที่กำหนด รายละเอียดนโยบายที่แน่นอนควรตรวจสอบจากเว็บไซต์ทางการของ BMW ประเทศไทยหรือประกาศล่าสุดจากตัวแทนจำหน่าย ในปัจจุบัน ระบบเครือข่ายสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในไทยกำลังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยในเมืองหลักอย่างกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต มีสถานีชาร์จเร็วให้บริการจำนวนมาก และ BMW ยังอาจร่วมมือกับบริษัทพลังงานในท้องถิ่นเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับเจ้าของรถ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีมาตรการสนับสนุนรถไฟฟ้า เช่น การลดหย่อนภาษีหรือการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ การซื้อ BMW iX 2025 อาจได้รับสิทธิ์ลดภาษีนำเข้าหรือเงินสนับสนุน ดังนั้นแนะนำให้ลูกค้าสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อ สำหรับผู้ใช้รถไฟฟ้า การวางแผนการชาร์จไฟในสถานที่และเวลาที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เช่น การใช้สถานีชาร์จไฟในห้างสรรพสินค้าหรืออาคารสำนักงาน พร้อมทั้งดูแลรักษาแบตเตอรี่อย่างถูกวิธีเพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น
Q
BMW iX 2025 มีความเร็วเท่าไร?
รุ่นปี 2025 ของ BMW iX ที่เป็นรุ่นเรือธง SUV ไฟฟ้าจาก BMW ในตลาดไทยมีสมรรถนะที่น่าสนใจ โดยถูกจำกัดความเร็วสูงสุดทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ 250 กม./ชม. และสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาที (รุ่น xDrive50) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดเด่นของแรงบิดทันทีที่เฉพาะเจาะจงในรถไฟฟ้า สมรรถนะแบบนี้ช่วยให้ขับเคลื่อนได้อย่างมีพลังทั้งบนถนนในเมืองและทางหลวงของไทย โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนทางด่วนรอบกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศร้อนของไทยอาจส่งผลเล็กน้อยต่อระยะทางของแบตเตอรี่ โดยทางบริษัทระบุระยะทางสูงสุดได้ถึง 630 กม. (มาตรฐาน WLTP) แต่แนะนำให้เปิดระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่เพื่อรักษาสภาพการทำงานที่ดีที่สุด สิ่งที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง การซื้อ iX จึงได้รับสิทธิ์ลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ส่วนเรื่องสถานีชาร์จนั้น BMW ได้ติดตั้งสถานีชาร์จเร็วในเมืองหลักของไทยแล้ว โดยชาร์จเพียง 30 นาทีก็ได้พลังงานถึง 80% แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบตำแหน่งของสถานีชาร์จผ่านแอปพลิเคชัน My BMW นอกจากนี้ ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติ Pro ของ iX ยังสามารถรองรับสภาพการจราจรที่ซับซ้อนในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงฟังก์ชันต่างๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control) และการควบคุมรถให้อยู่ในเลน
Q
BMW iX50 2025 มีขนาดเท่าไร?
รุ่นปี 2025 BMW iX50 ในฐานะ SUV ไฟฟ้าต้นตำรับของแบรนด์นี้ มีขนาดตัวรถยาว 4,953 มม. กว้าง 1,967 มม. สูง 1,695 มม. ระยะฐานล้อ 3,000 มม. ถือว่าเป็น SUV ไฟฟ้ารุ่นใหญ่ที่เหมาะกับตลาดไทยมากๆ โดยเฉพาะครอบครัวที่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง เพราะภายในจุผู้โดยสารได้ 5 คนสบายๆ ส่วนกระโปรงหลังจุของได้ประมาณ 500 ลิตร และสามารถปรับเพิ่มเป็น 1,750 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทยทั้งการเดินทางช่วงวันหยุดหรือการขนของจำนวนมาก พูดถึงขนาดแล้ว iX50 นี้มีขนาดใกล้เคียงกับรุ่นเดียวกันอย่าง Mercedes-Benz EQS SUV แต่ด้วยการตั้งค่าตัวถังแบบเฉพาะของ BMW ทำให้ขับเคลื่อนคล่องตัวได้ดีแม้บนถนนคดเคี้ยวหรือสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทย ที่สำคัญรัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถไฟฟ้า ทำให้รถนำเข้าอย่าง iX50 มีราคาจับต้องได้มากขึ้น แถมระบบชาร์จเร็วยังเข้ากับโครงข่ายสถานีชาร์จที่กำลังขยายตัวในไทย โดยชาร์จจาก 10% ถึง 80% ได้ภายใน 30 นาที ซึ่งสะดวกมากสำหรับการเดินทางไกลของคนไทย
Q
รถ BMW iX รุ่นปี 2025 มี NACS หรือไม่?
รุ่น BMW iX ปี 2025 ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะมีช่องเสียบมาตรฐาน NACS (North American Charging Standard) หรือไม่ แต่เนื่องจากกลุ่ม BMW ประกาศแล้วว่าจะเริ่มรองรับมาตรฐาน NACS สำหรับรถไฟฟ้าบางรุ่นในตลาดอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ส่วนตลาดไทยจะตามมาไหมนั้นต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการจาก BMW ประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดรถพวงมาลัยขวา โดยสถานีชาร์จส่วนใหญ่ใช้มาตรฐาน CCS2 หรือ Type 2 หากจะนำ NACS มาใช้อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม สำหรับผู้ใช้ในไทยแล้ว สิ่งที่ควรสนใจมากกว่าคือความเข้ากันได้กับเครือข่ายสถานีชาร์จในประเทศ เช่น EA Anywhere และสถานีชาร์จของ PTT ที่ส่วนใหญ่รองรับ CCS/CHAdeMO จึงแนะนำให้เลือกรุ่นที่รองรับกับมาตรฐานของไทย ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแผนที่สถานีชาร์จแบบเรียลไทม์ผ่านเว็บไซต์ BMW ประเทศไทย หรือใช้หัวแปลงที่เข้ากันได้ในกรณีต้องชาร์จกับสถานีต่างระบบ โดยเทคโนโลยี eDrive รุ่นที่ 5 ของ BMW iX ในปัจจุบันรองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 200kW จาก 10% ถึง 80% ใช้เวลาเพียง 35 นาที ซึ่งประสิทธิภาพการชาร์จระดับนี้ยังคงทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย เนื่องจากระบบแบตเตอรี่มีฟังก์ชันควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อสภาพแวดล้อมแบบร้อนชื้น หากในอนาคตประเทศไทยนำมาตรฐาน NACS มาใช้ คาดว่า BMW จะมีอัปเดตผ่านระบบ OTA หรือจัดเตรียมชุดอัปเกรดฮาร์ดแวร์เพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของผู้ใช้รุ่นปัจจุบัน สามารถสอบถามข้อมูลล่าสุดได้ที่ตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น
Q
ราคา BMW iX 2025 ที่เท่าไหร่?
รถ BMW iX รุ่นปี 2025 ที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทย คาดว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 4.5 - 5.5 ล้านบาท โดยราคาสุดท้ายอาจแตกต่างกันไปตามระดับตัวถัง ออปชั่นเสริม และนโยบายของตัวแทนจำหน่ายในแต่ละพื้นที่ สำหรับรถไฟฟ้า SAV รุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนยุคที่ 5 "eDrive" ให้เลือกสองแบบคือ xDrive40 และ xDrive50 ที่ให้ระยะทางสูงสุดถึง 630 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) ซึ่งตอบโจทย์ตลาดรถ EV ในไทยที่กำลังเติบโตอย่างดี โดยรัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าผ่านมาตรการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต รวมถึงอาจได้โปรโมชั่นพิเศษเมื่อซื้อรถ BMW iX โดดเด่นด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิกสุดล้ำ หน้าจอโค้งแบบบูรณาการ และการตกแต่งภายในด้วยวัสดุธรรมชาติที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 200 กิโลวัตต์ และสามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ได้ภายใน 40 นาที โดยในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่มีสถานีชาร์จเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz EQS SUV และ Audi Q8 e-tron แล้ว BMW iX ยังคงเป็นที่นิยมในตลาดรถไฟฟ้าระดับพรีเมียมของไทย ด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ แนะนำให้ลองทดลองขับและสอบถามโปรโมชั่นล่าสุดที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการก่อนตัดสินใจซื้อ

ข้อดี

การออกแบบภายนอกและภายในทันสมัย
ประสิทธิภาพและการควบคุมที่ยืดหยุ่น

ข้อเสีย

ราคาสูง
การออกแบบภายนอกอาจไม่ดีพอสำหรับบางคน

Q&A ล่าสุด

Q
มาสด้า 2 ประหยัดน้ำมันไหม
มาสด้า 2 ในตลาดไทยถือเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมันได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะสำหรับการขับขี่ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องเจอกับสภาพการจราจรที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ ระบบเครื่องยนต์ Skyactiv-G ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการฉีดน้ำมันที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ทำให้สามารถประหยัดน้ำมันได้ดี ข้อมูลจากทางผู้ผลิตระบุว่าอัตราสิ้นเปลืองในเมืองอยู่ที่ประมาณ 15-16 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนบนทางหลวงจะทำได้เกิน 20 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่างฮอนด้า แจ๊สหรือโตโยต้า ยาริส แต่สำหรับผู้บริโภคไทยต้องระวังหน่อยนะครับว่าค่าการประหยัดน้ำมันจริงๆนั้นจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ การเปิดแอร์บ่อยแค่ไหน รวมถึงความหนาแน่นของการจราจรด้วย ยกตัวอย่างเช่นการติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ขณะเปิดแอร์นานๆจะทำให้น้ำมันสิ้นเปลืองมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แนะนำให้บริการรถเป็นประจำ โดยเฉพาะการทำความสะอาดไส้กรองอากาศและตรวจสอบลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพราะรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้จะช่วยรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้ดีที่สุด อีกทั้งนโยบายลดภาษีของรัฐบาลไทยสำหรับรถประหยัดพลังงานยังทำให้มาสด้า 2 และรถยนต์ประหยัดพลังงานรุ่นอื่นๆน่าสนใจมากขึ้น ถ้าใช้ร่วมกับแก๊สโซฮอล์ E20 ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีก แต่ต้องแน่ใจว่ารถของคุณสามารถใช้เชื้อเพลิงประเภทนี้ได้นะครับ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดกับเครื่องยนต์ในระยะยาว
Q
มาสด้า 2 เก็บน้ำมันได้กี่ลิตร
ปริมาณน้ำมันเครื่องของ Mazda 2 จะอยู่ที่ประมาณ 3.3 ถึง 3.5 ลิตร ขึ้นอยู่กับรุ่นเครื่องยนต์และปีที่ผลิต แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบคู่มือการใช้รถหรือปรึกษาตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อความถูกต้อง ในประเทศไทยที่อากาศร้อน การเลือกน้ำมันเครื่องนั้นสำคัญมาก แนะนำให้ใช้แบบสังเคราะห์เต็มสูตรที่มีความหนืดเหมาะสม เช่น 5W-30 หรือ 10W-30 เพื่อช่วยปกป้องเครื่องยนต์และเหมาะกับสภาพอากาศร้อน การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาสภาพรถ โดยทั่วไปแนะนำให้เปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน แต่ในสภาพอากาศร้อนและมีฝุ่นมากแบบประเทศไทย อาจต้องเปลี่ยนบ่อยขึ้นเพื่อให้เครื่องยนต์ได้รับการหล่อลื่นที่ดีที่สุด นอกจากนี้ Mazda 2 เป็นรถประหยัดน้ำมันที่ได้รับความนิยมในการขับขี่ในเมืองไทย เพราะทั้งประหยัดและขับเคลื่อนคล่องตัวเหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัด การดูแลรักษาเป็นประจำไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันอีกด้วย ถ้าไม่มั่นใจว่าต้องทำอย่างไร สามารถไปที่ศูนย์บริการ Mazda ในประเทศไทยได้ พนักงานช่างมืออาชีพจะให้บริการดูแลรถคุณอย่างดีที่สุด
Q
ฉันควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง Mazda 2 บ่อยแค่ไหน?
ตามคำแนะนำอย่างเป็นทางการจาก Mazda โดยปกติแล้วช่วงเวลาการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องสำหรับ Mazda 2 จะอยู่ที่ทุกๆ 10,000 กิโลเมตรหรือ 12 เดือน (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) แต่เนื่องจากสภาพอากาศของไทยที่ร้อนและมีฝุ่นมากอาจทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ดังนั้นเราจึงแนะนำให้เปลี่ยนถี่ขึ้นเป็นทุกๆ 8,000 กิโลเมตรหรือ 10 เดือน โดยเฉพาะถ้าคุณขับบ่อยในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ หรือขับระยะสั้นบ่อยๆ เวลาเลือกน้ำมันเครื่องแนะนำให้ใช้แบบสังเคราะห์เต็มรูปแบบที่มีมาตรฐาน API SN/SP หรือ ACEA A5/B5 ความหนืด 0W-20 หรือ 5W-30 เพราะน้ำมันเครื่องเกรดนี้ทนความร้อนได้ดีกว่าและช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับเจ้าของรถในไทย ควรตรวจสอบระดับและสภาพน้ำมันเครื่องเป็นประจำด้วย ถ้าเห็นสีน้ำมันเครื่องเริ่มดำหรือความหนืดลดลงควรรีบเปลี่ยนทันที นอกจากนี้ถ้าคุณขับรถในพื้นที่ที่มีฝุ่นมากเช่นทางภาคเหนือหรือแถบชายทะเลบ่อยๆ แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองอากาศบ่อยขึ้นเป็นทุกๆ 15,000 กิโลเมตร เพราะถ้าไส้กรองอุดตันจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของน้ำมันเครื่องด้วย สำหรับรุ่นที่ใช้เทคโนโลยี Skyactiv ต้องเคร่งครัดเรื่องระยะการบำรุงรักษาเป็นพิเศษ เพราะเครื่องยนต์แบบนี้ต้องการน้ำมันเครื่องที่สะอาดมากเป็นพิเศษ ถ้าคุณขับรถในพื้นที่ภูเขาบ่อยๆ หรือใช้งานหนัก อาจพิจารณาอัพเกรดไปใช้น้ำมันเครื่องความหนืดสูงขึ้นเช่น 5W-40 เพื่อเพิ่มการปกป้อง แต่ควรปรึกษาศูนย์บริการก่อนเพื่อความแน่ใจว่าเหมาะสมกับรถของคุณ
Q
ควรให้บริการรถ Mazda 2 บ่อยแค่ไหน?
ตามคำแนะนำอย่างเป็นทางการจากมาสด้า ระยะเวลาการดูแลรักษาปกติสำหรับรถ Mazda 2 ในประเทศไทยจะอยู่ที่ทุกๆ 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 12 เดือน (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) ซึ่งกำหนดขึ้นตามสภาพอากาศแบบร้อนชื้นและการจราจรติดขัดในเมืองของไทย การบริการประจำควรรวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่อง การตรวจเช็คลมยาง ระบบเบรก และจุดสำคัญอื่นๆ โดยเฉพาะในไทยที่อากาศร้อนชื้น ต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสอบฟิลเตอร์แอร์และน้ำหล่อเย็นเป็นพิเศษ สำหรับรถที่ใช้งานในพื้นที่จราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ แนะนำให้ตรวจสอบผ้าเบรกทุก 8,000 กิโลเมตร ผู้ใช้รถในไทยยังควรเลือกใช้น้ำมันเบนซิน 95 ตามที่กำหนดสำหรับเทคโนโลยี Skyactiv ของมาสด้า และเติมสารเติมแต่งน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาความสะอาดของหัวฉีด หากใช้รถบริเวณชายฝั่งเป็นหลัก ควรเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบระบบใต้ท้องรถและทำความสะอาดเพื่อป้องกันสนิม ทั้งนี้ การขับขี่แบบหักโหมหรือใช้งานระยะสั้นบ่อยๆ อาจทำให้ต้องบริการรถก่อนกำหนด แนะนำให้ตรวจสอบผ่านระบบเตือนการบำรุงรักษาในรถหรือปรึกษาตัวแทนจำหน่ายมาสด้าในพื้นที่ สำหรับลูกค้าในไทย ตัวแทนจำหน่ายมาสด้ามักมีบริการตรวจเช็คฟรีตามฤดูกาล โดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝนควรเน้นการตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนและระบบระบายน้ำเป็นพิเศษ
Q
Mazda 2 ดีสำหรับการขับบนทางหลวงไหม
มาสด้า 2 ในฐานะรถเก๋งคอมแพคต์ที่ขับบนทางหลวงไทยได้อย่างสมดุล เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบธรรมชาติให้กำลัง 116 แรงม้า คู่กับเกียร์ออโต้ 6 สปีด ทำให้เร่งและประหยัดน้ำมันได้ดีบนทางหลวงแบบราบเรียบของไทย ข้อมูลทางการระบุว่ารินประมาณ 5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เหมาะกับการเดินทางไกล โครงสร้างตัวรถออกแบบมาแข็งแรง พ่วงกับระบบช่วงล่างแมคเฟอร์สันด้านหน้าและคอยล์ด้านหลัง ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนบนถนนบางจุดที่มีผิวขรุขระได้ดี แต่ควรควบคุมความเร็วเวลาเข้าโค้งสูงเพื่อความมั่นคง ส่วนเรื่องเสียงรบกวนที่ความเร็วต่ำกว่า 80 กม./ชม. ควบคุมได้ดี แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทยแนะนำให้ติดฟิล์มกรองแสงเพื่อเพิ่มความสบาย ด้านความปลอดภัยมี 7 ถุงลมและระบบควบคุมเสถียรภาพมาตรฐาน ตรงตามความต้องการของถนนไทย ควรระวังในช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบร่องดอกยางเป็นประจำและอาจอัพเกรดที่ปัดน้ำฝนเพื่อรับมือกับฝนหนักได้ดี ในกลุ่มรถขนาดเดียวกัน มาสด้า 2 มีความแม่นยำในการควบคุมเหนือกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ แต่พื้นที่เบาะหลังค่อนข้างจำกัด ถ้าต้องนั่งเต็มคันในระยะยาวแนะนำให้ลองทดสอบพื้นที่ภายในหน้าร้านก่อนตัดสินใจ
ดูเพิ่มเติม