Q

ยางของ Neta X มีขนาดเท่าไหร่?

Neta X มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ Neta X Comfort 2024 และ Neta X Smart 2024 ซึ่งทั้งสองรุ่นใช้ยางขนาดเดียวกันที่ 225/60 R18 ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง โดยตัวเลข “225” หมายถึงความกว้างของหน้ายาง 225 มิลลิเมตร ซึ่งมีผลต่อพื้นที่สัมผัสกับพื้นถนนและประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ส่วน “60” คืออัตราส่วนความสูงของแก้มยางเทียบกับความกว้างของยาง หรือที่เรียกว่า “ซีรีส์ยาง” อยู่ที่ 60% ซึ่งส่งผลต่อทั้งความนุ่มนวลและการควบคุมรถ ตัวอักษร “R” หมายถึงยางประเภทเรเดียล ซึ่งเป็นประเภทที่นิยมใช้ในรถยนต์ทั่วไปในปัจจุบัน และสุดท้าย “18” คือเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อแม็กที่ใช้ร่วมกับยาง มีขนาด 18 นิ้ว ซึ่งมีผลต่อทั้งรูปลักษณ์และสมรรถนะของตัวรถในบางด้าน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Neta X มีอะไรบ้าง?
Neta X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้า อาจมีจุดอ่อนหลักในตลาดประเทศไทยอยู่ที่ความเข้ากันได้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในสภาพอากาศร้อน โดยอุณหภูมิที่สูงของไทยอาจทำให้ระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ต้องทำงานหนักขึ้น ขณะเดียวกัน เครือข่ายสถานีชาร์จในบางพื้นที่ห่างไกลยังไม่ครอบคลุม อาจกระทบต่อความสะดวกในการเดินทางระยะไกล ระบบขับขี่อัจฉริยะของรถรุ่นนี้ยังต้องพิสูจน์ความสามารถในการปรับตัวให้เหมาะกับสภาพการจราจรที่ซับซ้อนของไทย เช่น การตรวจจับมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งอยู่บนถนนอย่างหนาแน่น นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิม รถยนต์ไฟฟ้ายังมีอัตราการคงมูลค่าในตลาดมือสองที่ต่ำกว่า ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณา ในมุมการใช้งานจริง ผู้บริโภคชาวไทยควรพิจารณาด้วยว่ารถรุ่นดังกล่าวมีศูนย์บริการหลังการขายกระจายตัวเพียงพอหรือไม่ รวมถึงมีเทคโนโลยีป้องกันน้ำในแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับฤดูฝนของไทยหรือเปล่า เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อประสบการณ์ในการใช้งานโดยตรง
Q
Neta X จัดอยู่ในรถกลุ่มเซกเมนต์ไหน?
เนตา เอ็กซ์ เป็นรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ตำแหน่งทางการตลาดอยู่ในเซ็กเมนต์ C-SUV ที่มีการแข่งขันสูงในตลาดรถไฟฟ้าโลก สำหรับตลาดไทยแล้ว รุ่นนี้ได้รับความสนใจไม่น้อยเพราะตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองที่คล่องตัว และความประหยัดพื้นที่เหมาะกับครอบครัว ตัวถังมีความยาวประมาณ 4.6 เมตร ระยะฐานล้อ 2.77 เมตร จุผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง ซึ่งขนาดนี้เหมาะกับการขับขี่ในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ พร้อมกันนั้นยังช่วยให้รองรับสภาพถนนช่วงฤดูฝนได้ดีด้วย สเปคการขับขี่แบบ CLTC วิ่งได้ไกล 501-660 กิโลเมตร เมื่อรวมกับนโยบาย EV 3.5 ของรัฐบาลไทย เช่น การลดภาษีนำเข้าและสนับสนุนสถานีชาร์จ ก็ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางได้มาก ในส่วนระบบอัจฉริยะ มาพร้อมหน้าจอกลาง 15.6 นิ้ว และระบบช่วยขับขี่ระดับ L2+ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนถนนไทยที่การจราจรค่อนข้างซับซ้อน คู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง BYD Atto 3 และ MG ZS EV อาจสู้ไม่ได้ในจุดเด่นอย่างขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าและแบตเตอรี่จาก CATL ที่เนตา เอ็กซ์ นำมาใช้ ตอนนี้ตลาดรถไฟฟ้าไทยโตเกิน 300% ต่อปี โดยเฉพาะ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดในราคา 1-1.5 ล้านบาทกำลังมาแรง เมื่อมีแบรนด์จีนเข้ามาเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคก็จะมีทางเลือกเพื่อสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายขึ้นในอนาคต
Q
มูลค่าขายต่อของ Neta X คือเท่าไหร่?
เนต้า เอ็กซ์ ในฐานะรถอีวีเอสยูวีรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดไทย มูลค่าซื้อขายต่อในตลาดมือสองจะถูกกำหนดโดยหลายปัจจัย ทั้งการรับรู้ของคนไทยต่อแบรนด์ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ความต้องการในตลาด รวมถึงนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าจากรัฐบาลไทย ปัจจุบันตลาดอีวีในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รัฐบาลออกมาตรการลดภาษีและให้เงินสนับสนุนเพื่อส่งเสริมให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าคงเหลือของเนต้า เอ็กซ์ ได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและความสะดวกในการหาสถานีชาร์จก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อมูลค่าซื้อขายต่อ ถ้าแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพคงที่และมีบริการหลังการขายที่ครบวงจร มูลค่าก็จะสูงกว่าปกติ โดยทั่วไปแล้วรถไฟฟ้าในไทยมักมีมูลค่าซื้อขายต่อต่ำกว่ารถน้ำมันเล็กน้อย แต่เมื่อโครงสร้างพื้นฐานพัฒนาไปและคนเริ่มนิยมมากขึ้น ช่องว่างนี้ก็กำลังลดลง สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อ แนะนำให้ศึกษานโยบายการรับประกันจากบริษัทและค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพราะสองเรื่องนี้ส่งผลโดยตรงต่อมูลค่ารถในระยะยาว รวมถึงสภาพอากาศร้อนของไทยก็อาจกระทบต่ออายุแบตเตอรี่ได้ การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอและการใช้งานอย่างเหมาะสมจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ และรักษามูลค่าของรถไว้ได้ในระดับที่ดี
Q
ขุมพลังใน Neta X คืออะไร?
Neta X มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง โดยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 120 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร รองรับการใช้งานทั้งในเมืองและการเดินทางระยะสั้นได้อย่างเหมาะสม แบตเตอรี่มีให้เลือกหลายขนาดตามแต่ละรุ่น โดยสามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและทริปท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์ ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย Neta X ยังมีระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ (BMS) ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้เสถียรแม้ในอุณหภูมิสูง และช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จเร็ว โดยสามารถชาร์จไฟจาก 0–80% ได้ภายใน 30 นาที ซึ่งตอบโจทย์กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จที่กำลังขยายตัวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
Q
ขนาด PCD ของ Neta X คือเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสกรู) ของ Neta X ที่ 5×114.3 มิลลิเมตร เป็นหนึ่งในขนาดยอดนิยมสำหรับการติดตั้งล้อในตลาดไทย ซึ่งเหมาะกับการอัพเกรดรถ SUV และรถเก๋งส่วนใหญ่ในท้องตลาด โดยในประเทศไทย รุ่นยอดฮิตอย่าง Toyota Fortuner หรือ Honda CR-V ก็ใช้ขนาด PCD เดียวกัน ทำให้เจ้าของ Neta X สามารถหาล้อที่เข้ากันได้ง่ายหรืออัพเกรดล้อได้สะดวกกว่า PCD นับเป็นพารามิเตอร์สำคัญในการเลือกซื้อล้อ เพราะถ้าเลือกขนาดถูกต้องจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันปัญหาการสั่นสะเทือนหรือการสึกหรอจากขนาดที่ไม่พอดี สำหรับคนไทยที่อยากเปลี่ยนล้อ นอกจาก PCD แล้ว ควรเช็กค่ากลางล้อ (CB) และค่าโอฟเซ็ต (ET) ด้วย แนะนำให้ซื้อจากร้านมืออาชีพหรือช่องทางตัวแทนจำหน่ายแท้เพื่อความมั่นใจในความเข้ากันได้ อีกปัจจัยที่ต้องคำนึงคือสภาพอากาศเมืองไทยที่ฝนชุก ควรเลือกวัสดุล้อที่ป้องกันการกัดกร่อนได้ดี เช่น อลูมิเนียมอัลลอยด์ และเลือกลายดอกยางที่รีดน้ำได้มีประสิทธิภาพ เพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวขึ้น
Q
Neta X รับรอง Apple CarPlay หรือไม่?
ตอนนี้รถรุ่น Neta X ที่วางขายในตลาดไทยมีการรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone ในไทยได้สัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อในรถที่สะดวกสบายมากขึ้น โดยสามารถใช้งานแอปพลิเคชันพื้นฐานอย่างแผนที่หรือเพลงผ่านหน้าจอกลางรถได้เลย สำหรับสภาพอากาศในไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ฟังก์ชันการเชื่อมต่อแบบไร้สายของ Apple CarPlay จะช่วยลดปัญหาสายชาร์จเสื่อมสภาพจากความร้อน ส่วนระบบควบคุมด้วยเสียงก็เหมาะกับการใช้งานในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ เพราะช่วยให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ที่น่าสนใจคือรถบางรุ่นจากแบรนด์ญี่ปุ่นในตลาดไทยยังใช้ระบบ CarPlay แบบมีสาย ทำให้จุดเด่นของ Neta X ที่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายดูน่าสนใจกว่า แถมยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android อีกด้วย ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ลองทดสอบระบบมัลติมีเดียในรถด้วยตัวเอง เพื่อเช็คความลื่นไหลและการทำงานร่วมกับบริการแผนที่ในไทย โดยเฉพาะการแสดงชื่อสถานที่แบบไทยและระบบแจ้งเตือนการจราจร เพราะปัจจุบันฟังก์ชันเชื่อมต่ออัจฉริยะแบบนี้กำลังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจรถ EV ในไทยซึ่งกำลังมาแรง
Q
Neta X ใช้ยางยี่ห้ออะไร?
Neta X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจในตลาดไทย ยางติดรถจากโรงงานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นย่อยและความต้องการของตลาด โดยทั่วไปมักเลือกใช้ยางจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Continental หรือ Michelin ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและการยึดเกาะบนถนนเปียก เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกบ่อยของประเทศไทย สำหรับการเลือกยางในประเทศไทย นอกจากเรื่องยี่ห้อแล้ว ยังควรพิจารณาสภาพถนนในพื้นที่ใช้งาน เช่น การจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ หรือถนนที่ซับซ้อนนอกเมือง โดยควรให้ความสำคัญกับคุณสมบัติทนความร้อน การรีดน้ำ และความประหยัดน้ำมัน ยางอย่าง Michelin รุ่น Energy Saver หรือ Continental รุ่น EcoContact เป็นตัวเลือกที่ดีที่เน้นทั้งความสบายและความคุ้มค่า ทั้งนี้ กฎหมายไทยกำหนดความลึกของดอกยางต้องไม่ต่ำกว่า 1.6 มิลลิเมตร จึงควรตรวจสอบสภาพดอกยางและแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในรถไฟฟ้าที่มีแรงบิดสูง ยิ่งต้องดูแลรักษายางอย่างใกล้ชิดเพื่อยืดอายุการใช้งาน หากผู้ใช้งานต้องการประสบการณ์ขับขี่ที่เงียบหรือประหยัดพลังงานมากขึ้น ก็สามารถปรึกษาร้านยางเพื่อเปลี่ยนเป็นยางแบบเงียบหรือแบบแรงต้านต่ำได้ แต่ต้องมั่นใจว่าเป็นรุ่นที่ผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกของไทยแล้วเท่านั้น
Q
ความกว้างของ Neta X คือเท่าไหร่?
รถ Neta X มีรุ่นย่อยให้เลือกหลายแบบ เช่น Neta X Comfort 2024 และ Neta X Smart 2024 ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้มีความกว้างตัวรถที่ 1,860 มม. เท่ากัน ความกว้างของรถเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อความมั่นคงในการขับขี่ การผ่านพ้นสิ่งกีดขวางบนถนน รวมถึงการจัดวางพื้นที่ภายในรถ รถที่มีความกว้างมากกว่าปกติมักจะให้พื้นที่ด้านข้างที่กว้างขวางกว่า ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่นั่งแถวหลังที่จะไม่รู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ ความกว้างของตัวรถยังช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถขณะขับเคลื่อนอีกด้วย
Q
แรงดันลมยางของ Neta X ควรเติมเท่าไหร่?
ค่าลมยางมาตรฐานของ Neta X อยู่ที่ประมาณ 2.3 ถึง 2.5 บาร์ (ประมาณ 33 ถึง 36 psi) ซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนในเมืองและทางหลวงที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อน ลมยางจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติเมื่อขับขี่ ดังนั้นควรเติมลมในขณะยางเย็นตามค่ามาตรฐานเพื่อความปลอดภัยและความนุ่มนวลในการขับขี่ หากต้องบรรทุกของหนักบ่อย หรือขับทางไกล แนะนำให้เพิ่มลมยางล้อหลังอีกประมาณ 0.1 ถึง 0.2 บาร์ แต่อย่าลืมตรวจสอบค่าที่แนะนำจากฉลากข้างประตูรถหรือฝาถังน้ำมันเป็นหลัก การตรวจสอบลมยางอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ ควรเช็คลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้งด้วยเกจวัดลม เพราะอุณหภูมิที่สูงในไทยอาจทำให้แรงดันลมยางผันผวนได้ หากลมยางต่ำเกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและเสี่ยงต่อการระเบิดของยาง แต่ถ้าลมยางสูงเกินไปจะลดการยึดเกาะถนนและเพิ่มระยะเบรก สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Neta X ลมยางยังมีผลต่อระยะทางที่สามารถขับได้ในแต่ละการชาร์จอีกด้วย การรักษาค่าลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงช่วยให้ประหยัดพลังงานและขับขี่ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Q
ยางของ Neta X ใช้ขนาดเท่าไหร่?
Neta X มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ซึ่งถือเป็นขนาดมาตรฐานในกลุ่มรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกลางในตลาดประเทศไทย ขนาดนี้สามารถให้ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลในการขับขี่และสมรรถนะการควบคุม เหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายในไทย ทั้งในเมืองและนอกเมือง ล้อขนาด 19 นิ้วยังช่วยเพิ่มความสปอร์ตให้กับรูปลักษณ์ของรถ และยังส่งผลดีต่อเสถียรภาพของตัวรถ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนของไทยที่ถนนเปียกบ่อย การใช้ล้อขนาดใหญ่ร่วมกับยางที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มการยึดเกาะบนพื้นผิวเปียกได้ดียิ่งขึ้น สำหรับผู้บริโภคชาวไทย การเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้านอกจากจะดูเรื่องขนาดล้อแล้ว ยังควรพิจารณาประเภทของยาง เช่น ยางที่มีแรงต้านการหมุนต่ำ (Low Rolling Resistance) เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น หรือยางที่มีร่องรีดน้ำดีเพื่อความปลอดภัยในฤดูฝน นอกจากนี้ วัสดุของล้อก็มีความสำคัญ ล้ออัลลอยที่ทำจากอะลูมิเนียมจะทนต่อการกัดกร่อนได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย และยังมีน้ำหนักเบา ช่วยลดการใช้พลังงาน หากผู้ใช้งานต้องการความโดดเด่นเฉพาะตัว ก็สามารถพิจารณาเปลี่ยนล้อจากศูนย์หรือชุดแต่งที่ถูกกฎหมายได้ แต่อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายจราจรในประเทศไทย

ข้อดี

ราคาประกอบด้วยคุณสมบัติที่ดีและได้รับรางวัลสองรางวัลในประเทศไทย
กำลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งและประสิทธิภาพการควบคุมที่แม่นยำ
ประสบการณ์ขับรถที่สบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทาง

ข้อเสีย

บริษัท NETA Auto ประเทศไทยประสบความสูญเสียและยอดขายลดลง
ความกังวลที่อาจเกิดขึ้นในด้านความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
การถอนออกจากตลาดบางแห่งทำให้ความกังวลเพิ่มขึ้น

Q&A ล่าสุด

Q
วันวางจำหน่ายของ Porsche Taycan คือเมื่อไร
พอร์เช่ Taycan เป็นรถสปอร์ตไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรกของแบรนด์ ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายน 2019 และทยอยเข้ามาจำหน่ายในตลาดไทยแล้ว ลูกค้าสามารถสอบถามวันเวลาการส่งมอบรถที่แน่นอนได้กับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของพอร์เช่ โดยปกติแล้วรถใหม่จะเข้าประเทศไทยภายใน 6-12 เดือนหลังเปิดตัวทั่วโลก ขึ้นอยู่กับกระบวนการรับรองมาตรฐานและขั้นตอนการขนส่งในประเทศ สำหรับในไทย Taycan มาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จเร็วระบบ 800 โวลต์ที่รองรับเครือข่ายสถานีชาร์จในกรุงเทพฯ และเมืองหลักอื่นๆ ที่กำลังขยายตัวเพิ่มเรื่อยๆ นอกจากนี้การออกแบบจุดศูนย์ถ่วงต่ำยังเหมาะกับสภาพถนนโค้งมากของไทย ในส่วนของระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ยังได้รับการปรับแต่ง specifically ให้ทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อน แถมรัฐบาลไทยยังมีนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้า ทั้งลดภาษีนำเข้าและให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ เจ้าของ Taycan ในไทยจึงได้ทั้งสิทธิ์ลดภาษีและบริการชาร์จฟรีในบางจังหวัด แนะนำให้ผู้สนใจติดตามข้อมูลการจดทะเบียนรถนำเข้าจากกรมการขนส่งทางบก หรือสอบถามข้อมูลล่าสุดกับตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตโดยตรง อีกทั้งศูนย์พอร์เช่ยังมีบริการติดตั้งจุดชาร์จส่วนตัวให้อีกด้วย ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนสถานีชาร์จในคอนโดและหมู่บ้านในไทยได้อย่างตรงจุด
Q
ความยาวของ Porsche Taycan คือเท่าไร
รถ Porsche Taycan แต่ละรุ่นมีความยาวแตกต่างกันเล็กน้อย เช่น รุ่น Taycan 2024 และ Taycan GTS 2022 จะมีความยาว 4,963 มม. ส่วนรุ่น Taycan Turbo 2024 และ Taycan Turbo S 2024 จะสั้นลงมาหน่อยที่ 4,962 มม. ขณะที่รุ่นแรงอย่าง Taycan Turbo GT 2024 จะยาวที่สุดในกลุ่มที่ 4,968 มม. สำหรับรุ่น Cross Turismo อย่าง Taycan 4 Cross Turismo 2023, Taycan 4S Cross Turismo 2023 และ Taycan Cross Turismo 2023 จะมีความยาวเท่ากันที่ 4,974 มม. ความยาวของรถมีผลต่อพื้นที่ภายในและสัดส่วนภายนอก รถที่ยาวกว่ามักให้พื้นที่ขาและศีรษะที่กว้างขวางขึ้น ทำให้ผู้โดยสารนั่งสบายมากขึ้น แถมยังช่วยให้รถดูหรูหราและสง่าขึ้นด้วย
Q
แบตเตอรี่ของ Porsche Taycan มีขนาดเท่าไร
Porsche Taycan แต่ละรุ่นมีความจุแบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน ในรุ่นปี 2024 แบตเตอรี่ของ Taycan 2024 มีความจุ 89 kWh ส่วนรุ่น Taycan 4S 2024, Turbo 2024, Turbo S 2024 และ Turbo GT 2024 มีความจุแบตเตอรี่เท่ากันที่ 105 kWh สำหรับรุ่นปี 2023 อย่าง Taycan 4 Cross Turismo, Taycan 4S Cross Turismo และ Taycan Cross Turismo ก็มีความจุแบตเตอรี่ที่ 105 kWh เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ มีข่าวว่าในรุ่นปี 2025 Taycan จะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ โดยทุกรุ่นจะใช้แบตเตอรี่แบบใหม่ รุ่นมาตรฐานจะมีความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นเป็น 83.6 kWh และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงเป็นอ็อปชันเสริมสำหรับรุ่น Taycan และ 4S ส่วนรุ่น Turbo จะได้แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ความจุแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลโดยตรงต่อระยะทางขับขี่ที่ยาวขึ้น ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกหลากหลายตามความต้องการใช้รถของตนเอง.
Q
ราคาบริการของ Porsche Taycan คืออะไร ดูที่นี่ก่อนดีกว่า
ค่าใช้จ่ายในการบริการรักษารถ Porsche Taycan ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและศูนย์บริการ โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายพื้นฐานจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 ถึง 25,000 บาท ขึ้นอยู่กับรายการที่ต้องเปลี่ยน เช่น การตรวจสอบแบตเตอรี่ การเปลี่ยนน้ำมันเบรก หรือตัวกรองแอร์ เป็นต้น แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการ Porsche ที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเพื่อขอใบเสนอราคาที่แน่นอน สำหรับรถไฟฟ้าในประเทศไทยค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษามักจะถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเพราะไม่มีน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันเกียร์เหมือนรถทั่วไป แต่การดูแลระบบแบตเตอรี่ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ Porsche ในประเทศไทยมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครบวงจร รวมถึงศูนย์บริการอย่างเป็นทางการในเมืองหลักอย่างกรุงเทพฯ และภูเก็ต เพื่อให้การสนับสนุนผู้ใช้อย่างมืออาชีพ นอกจากนี้มาตรการส่งเสริมรถไฟฟ้าในประเทศไทย เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีรถยนต์ อาจส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผู้สนใจควรพิจารณารวมๆกัน
Q
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาของ Porsche Taycan คืออะไร ดูแนวคิดได้ที่นี่
พอร์เช่ Taycan ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ที่ประเทศไทย มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถทั่วไป แต่ก็ยังมีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบเดิม โดยค่าใช้จ่ายรายปีจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 ถึง 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและพฤติกรรมการขับขี่ ซึ่งครอบคลุมการตรวจเช็คระยะ การตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ การบำรุงรักษาระบบเบรก และการเปลี่ยนไส้กรองแอร์ เนื่องจากรถไฟฟ้าไม่มีเครื่องยนต์และเกียร์ ทำให้ไม่ต้องเสียค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือหัวเทียน แต่จุดสำคัญคือการดูแลแบตเตอรี่และการตรวจสอบระบบไฟฟ้าแรงสูง สภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทยอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ จึงแนะนำให้ไปตรวจเช็คกับศูนย์บริการอย่างเป็นทางการเป็นประจำเพื่อยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ ศูนย์บริการพอร์เช่ในไทยยังมีแพ็กเกจบริการพิเศษที่รวมถึงบริการช่วยเหลือบนถนนและบริการชาร์จเคลื่อนที่ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับเจ้าของรถ ส่วนเรื่องยาง เนื่องจาก Taycan เป็นรถที่มีสมรรถนะสูง แนะนำให้เลือกยางประสิทธิภาพสูงที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและตรวจสอบการสึกหรอเป็นประจำ ส่วนค่าเบี้ยประกันจะสูงกว่ารถทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันและแผนที่เลือก โดยรวมแล้วค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาของ Taycan สอดคล้องกับตำแหน่งรถระดับไฮเอนด์ แต่ด้วยโครงสร้างของรถไฟฟ้าที่แตกต่าง ทำให้ในระยะยาวอาจประหยัดกว่ารถยนต์น้ำมันระดับเดียวกัน
ดูเพิ่มเติม