Q

ราคา Nissan Serena มือสอง เท่าไหร่?

ในตลาดรถมือสองประเทศไทย Nissan Serena เป็นรุ่น MPV ที่ได้รับความนิยมพอสมควร ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุการใช้งาน ระยะทาง สภาพรถ และระดับอุปกรณ์ ตัวอย่างเช่น รุ่นระดับกลางปี 2018 จะอยู่ที่ประมาณ 600,000-800,000 บาท แต่ราคาจริงต้องตรวจสอบสภาพรถแต่ละคันอีกที ตลาดรถมือสองที่นี่ยังมีความต้องการ Serena ค่อนข้างคงที่ เพราะเป็นรถที่ใช้งานสะดวกspaceกว้างขวาง และประหยัดน้ำมัน เหมาะกับครอบครัวใหญ่เป็นพิเศษ ก่อนซื้อแนะนำให้ตรวจสอบประวัติการซ่อมบำรุงผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือ และควรให้ช่างมืออาชีพตรวจสภาพรถด้วย นอกจากนี้สภาพอากาศร้อนๆของไทยส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของยางและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เวลาตรวจรถควรเน้นที่ระบบแอร์ ชุดช่วงล่าง และสภาพภายในรถว่ามีการเสื่อมสภาพมากน้อยแค่ไหน ส่วนใครที่คิดจะกู้ซื้อรถมือสอง ธนาคารในไทยมักมีโปรโมชั่นเงินกู้ 3-5 ปี อัตราดอกเบี้ยประมาณ 4-7% แต่ต้องระวังเพราะบางสถาบันการเงินอาจจำกัดวงเงินกู้สำหรับรถอายุเกิน 5 ปีด้วยนะ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Nissan Serena มีอะไรบ้าง
สำหรับรถยนต์ Nissan Serena ที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยในฐานะรถ MPV จุดด้อยหลักๆ คือพื้นที่ขาที่แถวสามค่อนข้างจำกัด สำหรับผู้โดยสารที่ตัวสูงอาจรู้สึกไม่สะดวกสบายนัก โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกล นอกจากนี้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แบบดูดธรรมดาแม้จะขับเคลื่อนได้ลื่นไหลในเมือง แต่เมื่อบรรทุกเต็มคันหรือต้องการแซงบนทางหลวงจะรู้สึกว่าแรงส่งไม่ค่อยพอ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสบการณ์การขับขี่ ในสภาพอากาศร้อนของไทย ผู้ใช้บางส่วนยังรายงานว่าระบบแอร์ที่แถวสามทำความเย็นได้ไม่ดีเท่าแถวหน้า สิ่งนี้อาจกระทบความสะดวกสบายของผู้โดยสารแถวหลัง ด้านการตั้งค่าสปริงของ Serena นั้นเน้นความนุ่มสบาย แต่เมื่อขับบนถนนสภาพไม่ดีบางแห่งในไทย ตัวรถจะโคลงเคลงค่อนข้างชัดเจน ทำให้ความมั่นคงในการควบคุมด้อยกว่ารุ่นคู่แข่งบางรุ่นในระดับเดียวกัน ข้อที่น่าสนใจคือผู้บริโภคไทยมักให้ความสำคัญกับความทนทานและความสะดวกในการซ่อมบำรุงของรถยนต์ ในขณะที่ราคาอะไหล่ของ Serena ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนการใช้รถในระยะยาว สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถ MPV ในตลาดไทย นอกจากจะต้องสนใจเรื่องพื้นที่และความสะดวกสบายแล้ว ยังควรพิจารณาสถานการณ์การใช้ชีวิตประจำวันด้วย เช่น จำเป็นต้องใช้รถแบบเต็มคันบ่อยแค่ไหน หรือการเปรียบเทียบระหว่างกำลังเครื่องยนต์และความประหยัดน้ำมัน เพราะปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อประสบการณ์การใช้รถในระยะยาว
Q
Nissan Serena จัดอยู่ในรถประเภทไหน
Nissan เซเรน่า ในตลาดไทยจัดอยู่ในกลุ่มรถ MPV (Multi-Purpose Vehicle) ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในครอบครัวและธุรกิจ เซเรน่ามีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 8 ที่นั่ง พร้อมระบบขับเคลื่อนที่ประหยัดน้ำมันทั้งแบบเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และระบบไฮบริด ซึ่งตรงกับความต้องการของคนไทยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องประหยัดน้ำมันเป็นหลัก นอกจากนี้ การออกแบบประตูสไลด์และพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางยังเหมาะกับสภาพการจอดรถในเมืองที่จำกัด และการเดินทางไกลของครอบครัวคนไทย ในตลาดไทย รถ MPV เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะรุ่นที่ผสมผสานความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยเหมือนเซเรน่า มักถูกนำไปใช้ทั้งเป็นรถครอบครัวและรับรองลูกค้าระดับเล็ก เมื่อเทียบกับโตโยต้า อินโนวา หรือฮอนด้า ฟรีด แล้ว เซเรน่ามีจุดเด่นในเรื่องเทคโนโลยีไฮบริดและการจัดวางพื้นที่ภายในที่ยืดหยุ่นกว่า แต่การเลือกรถก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคนด้วย เวลาคนไทยเลือกซื้อ MPV มักจะดูเรื่องความประหยัดน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา และมูลค่าเมื่อขายต่อ ซึ่งเซเรน่าก็ตอบโจทย์ได้ดีทุกด้าน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่กำลังมองหารถครอบครัวที่ใช้งานได้หลากหลาย
Q
Nissan Serena มือสองราคาเท่าไหร่
ราคารถมือสอง Nissan Serena จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุรถ ระยะทางที่ใช้งาน สภาพรถ และความต้องการในตลาดรถมือสอง ยกตัวอย่างรุ่น Nissan Serena 2.0 S Hybrid 2024 ราคาประจำรุ่นอยู่ที่ 1,469,000 บาท ถ้าเป็นรถอายุน้อย ใช้งานไม่มาก สภาพยังดีอยู่ ก็อาจจะขายต่อได้ในราคาดี แต่ถ้าเป็นรถที่ใช้งานมานานหลายปี ระยะทางสูง มีร่องรอยการเสียหายหรือเคยเกิดอุบัติเหตุ ราคาก็จะตกฮวบฮาบ ส่วนรุ่นล่าสุดอย่าง Nissan Serena e-Power Highway Star 2025 ที่วางจำหน่ายเดือนมีนาคม 2025 ราคา 1,690,000 บาท ถือเป็นรุ่นใหม่ที่อาจจะทรงตัวในตลาดมือสองได้ค่อนข้างดี โดยทั่วไปแล้วถ้าขายภายใน 1-2 ปีแรก สภาพรถยังสมบูรณ์ดี อาจจะขายต่อได้ราคาประมาณ 80% ของราคาใหม่ แต่หลังจากนั้นมูลค่าก็จะค่อยๆ ลดลงตามระยะเวลาการใช้งาน
Q
Nissan Serena มีกี่ซีซี
รถยนต์ Nissan Serena มีหลายรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ต่างขนาดกัน รุ่น Nissan Serena e-Power Highway Star 2025 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1433cc จัดอยู่ในระบบไฮบริดซีรีส์ 1.4L โดยใช้เครื่องยนต์ 3 สูบรหัส HR14DDe ส่วนรุ่น Nissan Serena 2.0 S Hybrid 2024 มีความจุเครื่องยนต์ 1997cc หรือก็คือ 2.0L แบบดูดอากาศธรรมชาติ ขนาดเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันส่งผลต่อสมรรถนะและความประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์ขนาดเล็กอย่าง 1.4L จะประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับการขับขี่ในเมืองประจำวัน ในขณะที่เครื่องยนต์ 2.0L ขนาดใหญ่จะให้กำลังสูงกว่า ช่วยในการเร่งและบรรทุกหนักได้ดีกว่า ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามความต้องการและสไตล์การขับขี่ของตัวเอง
Q
เครื่องยนต์ใน Nissan Serena คืออะไร
รถยนต์ Nissan Serena มีหลายรุ่นด้วยกัน และแต่ละรุ่นก็ใช้เครื่องยนต์ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่น Nissan Serena e-Power Highway Star 2025 จะใช้ระบบไฮบริดแบบซีรีส์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบ HR14DDe ความจุ 1.4 ลิตร (1433cc) ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct-injection หรือระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงตรง อัตราส่วนอัด 13.0:1 ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที และแรงบิด 123 นิวตันเมตร โดยเครื่องยนต์นี้ทำหน้าที่หลักในการชาร์จแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ส่วนรุ่น Nissan Serena 2.0 S Hybrid 2024 จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน MR20DD 2.0L แบบปกติ แบบดูดอากาศธรรมชาติ ให้กำลังสูงถึง 150 แรงม้า และแรงบิด 200 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ของ Nissan ด้วยเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันนี้ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่หลากหลาย สามารถเลือกได้ตามความต้องการในการใช้งานและกำลังที่ต้องการ
Q
Nissan Serena ใช้เกียร์อะไร
ในตลาดไทย Nissan Serena ใช้เกียร์ Xtronic CVT ที่โดดเด่นเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน เหมาะมากกับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ เกียร์ CVT ใช้ระบบส่งกำลังด้วยสายพานเหล็ก ทำให้ส่งกำลังต่อเนื่องไม่มีสะดุด ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัด นอกจากนี้เกียร์ของ Serena ยังมีโหมด Manual จำลอง 7 สปีด ให้ความรู้สึกสนุกสนานในการขับขี่มากขึ้น ส่วนเรื่องความทนทาน เกียร์ตัวนี้ได้รับการออกแบบระบบระบายความร้อนเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย ที่สำคัญตลาดไทยยอมรับเกียร์ CVT ค่อนข้างสูงเพราะค่าบำรุงรักษาถูกกว่าเกียร์ AT ทั่วไป แถมยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายของ Nissan ที่ครอบคลุมในไทย แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ CVT ตามที่ผู้ผลิตกำหนดทุก 40,000 กม. เพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนรุ่นแข่งอย่าง Toyota Noah ก็ใช้เกียร์ CVT เช่นกัน แต่การตั้งค่าของแต่ละแบรนด์จะแตกต่างกันไป ลองทดลองขับดูแล้วเลือกให้เหมาะกับสไตล์ตัวเองได้เลย
Q
PCD Nissan Serena เท่าไหร่
สำหรับรถ Nissan Serena ในตลาดไทย ค่า PCD (ระยะวงกลมรูสลักล้อ) จะอยู่ที่ 114.3 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นมาตรฐานหนึ่งของรถรุ่น MPV ที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย และเหมาะกับล้อที่มีสลัก 5 รู ข้อมูลนี้สำคัญมากสำหรับคนไทยโดยเฉพาะเวลาที่ต้องการเปลี่ยนล้อหรืออัพเกรดยางรถยนต์ ต้องมั่นใจว่า PCD ของล้อใหม่ตรงกับสเปคเดิมจากโรงงาน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้การติดตั้งไม่แน่นหนาหรือเกิดอันตรายขณะขับขี่ได้ ในไทยเนื่องจากสภาพถนนค่อนข้างหลากหลาย คนใช้รถหลายคนจึงนิยมอัพเกรดล้อเพื่อเพิ่มความสวยงามหรือการขับขี่ที่ดีขึ้น การรู้ค่า PCD ที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องจำเป็น นอกจาก PCD แล้ว คนไทยยังต้องสนใจค่า Offset (ET) และขนาดรูกลางล้อ (CB) ด้วย เพราะพารามิเตอร์เหล่านี้จะช่วยกำหนดว่าล้อนั้นเหมาะกับรถหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำให้ปรึกษาร้านล้อมืออาชีพหรือที่ศูนย์บริการ Nissan โดยตรง เพราะพวกเขาจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับสเปคที่ถูกต้องและบริการติดตั้งที่เหมาะสม อีกทั้งสภาพอากาศเมืองไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกยังส่งผลต่อการเลือกยางรถยนต์ การเลือกยางที่เหมาะกับสภาพอากาศท้องถิ่นจะช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่
Q
นิสสัน เซเรน่า รองรับ Apple Carplay ไหม
Nissan Serena รุ่นใหม่ล่าสุดที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทย มาพร้อมกับฟังก์ชัน Apple CarPlay ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยในเรื่องการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเข้ากับระบบอินโฟเทนเมนต์ของรถได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานแอปนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ผ่านหน้าจอกลางได้อย่างปลอดภัยและสะดวก โดยเฉพาะในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ ฟีเจอร์อย่างระบบนำทางแบบเรียลไทม์และการสั่งงานด้วยเสียงถือว่ามีประโยชน์มาก นอกจาก Apple CarPlay แล้ว Serena ยังรองรับระบบ Android Auto เพื่อตอบสนองผู้ใช้งานโทรศัพท์ในทุกระบบ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรถรุ่นนี้ ในตลาดไทย ปัจจุบันรถหลายรุ่นเริ่มติดตั้งระบบเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการผสานเทคโนโลยีรถยนต์เข้ากับอุปกรณ์พกพา Serena เองก็ไม่ตกเทรนด์ โดยระบบของรถยังรองรับการใช้งานภาษาไทย ทั้งในส่วนของระบบสั่งงานด้วยเสียงและแผนที่นำทางภายในประเทศ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของ Nissan ต่อพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคชาวไทยในทุกรายละเอียด
Q
ยางติดรถ Nissan Serena ใช้ยี่ห้ออะไร
ยางติดรถ Nissan Serena ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย อาจแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและระดับการตกแต่ง โดยส่วนใหญ่จะใช้ยางจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น Bridgestone หรือ Dunlop ซึ่งหาซื้อได้ง่ายในไทยและมีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและถนนที่เปียกชื้นบ่อยในไทย โดยทั่วไป ยางติดรถจากโรงงานจะถูกเลือกโดยคำนึงถึงความทนทาน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความประหยัดน้ำมัน เช่น ยาง Bridgestone ECOPIA ที่ให้ความสมดุลระหว่างการลดแรงต้านการหมุนกับการรีดน้ำในช่วงฤดูฝน เจ้าของรถควรตรวจสอบสภาพยางเป็นประจำ และเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนยาง นอกจากเลือกยางขนาดเดียวกับของเดิมแล้ว ยังสามารถเลือกใช้แบรนด์อื่นในระดับเดียวกันได้ เช่น Michelin หรือ Goodyear แต่ต้องมั่นใจว่ายางที่เลือกมีค่าดัชนีรับน้ำหนักและความเร็วที่เหมาะสมกับตัวรถ ในสภาพอากาศร้อนและชื้นของไทย ยางอาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ แนะนำให้ตรวจเช็กยางโดยผู้เชี่ยวชาญทุก 2 ปี และตรวจเช็กลมยางทุกเดือน ควรรักษาระดับลมยางตามค่าที่ระบุไว้บนสติกเกอร์ที่ขอบประตู เพื่อยืดอายุการใช้งานและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
Q
รถ Nissan Serena เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
รถยนต์ Nissan Serena ในตลาดประเทศไทยเป็นรถ MPV สำหรับครอบครัวที่ได้รับความนิยมมาก โดยจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบห้องโดยสารที่กว้างขวางและปรับเปลี่ยนได้สะดวกในรูปแบบ 7 ที่นั่ง เหมาะกับไลฟ์สไตล์ครอบครัวใหญ่ของคนไทย เครื่องยนต์ 2.0L แบบธรรมชาติร่วมกับเกียร์ CVT ให้การขับขี่ที่ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน โดยสิ้นเปลืองน้ำมันราว 13-14 กม./ลิตรในเมือง ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการด้านประโยชน์ใช้สอยของคนไทย เต็มไปด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะเช่น กล้องรอบทิศทางและกุญแจอัจฉริยะ ที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่น อย่างไรก็ตาม การกันเสียงจากพื้นรถยังมีจุดที่ควรพัฒนาเมื่อขับความเร็วสูง และความสบายของที่นั่งแถวสามอาจยังไม่เหมาะกับการเดินทางไกล ในตลาดไทย Serena มีคู่แข่งหลักคือ Toyota Innova และ Honda BR-V แต่ Serena มีจุดต่างที่โดดเด่นคือประตูสไลด์และความสูงจากพื้นรถที่ต่ำกว่า ทำให้ผู้สูงอายุและเด็กขึ้นลงง่าย สำคัญที่ต้องรู้คือรุ่นไทยเป็นพวงมาลัยขวาและตั้งค่าตัวถังเฉพาะสำหรับถนนไทย ส่วนเรื่องค่าตัวในตลาดมือสองอยู่ในระดับปานกลาง ค่าบำรุงรักษาก็ใกล้เคียงกับคู่แข่งรถญี่ปุ่นด้วยกัน เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาประโยชน์ใช้สอย ความคุ้มค่าและความน่าเชื่อถือของแบรนด์

ข้อดี

การจัดเรียงที่นั่ง 7 ที่นั่งให้บรรทุกสัมผัสการขับรถที่สบาย
ที่นั่งคุณภาพสูงทำให้สบายในระยะยาว
พื้นที่เก็บของภายในมากพอสำหรับครอบครัวใช้
การออกแบบลักษณะภายนอกที่เป็นเอกลักษณะและสไตล์ทำให้โดดเด่น
ระบบพลังงานไฟฟ้าเชิงลวดยกระบวนการขับเคลื่อนที่ราบรื่น
แดชบอร์ดดิจิตอลให้ข้อมูลที่ชัดเจน
ลิ้นคันแบบปุ่มช่วยเพิ่มพื้นที่ภายใน

ข้อเสีย

ประสิทธิภาพเชื้อเพลิงต่ำกว่าคู่แข่งบางตัวเล็กน้อย
การออกแบบเสาศูนย์มีปัญหาทางอากรอนามิก
กำลังของเครื่องยนต์อาจไม่แรงมากนัก

Q&A ล่าสุด

Q
PCD ขนาดเท่าไรของ Kia EV5
ขนาด PCD หรือระยะห่างรูน็อตของ Kia EV5 คือ 5x114.3 มิลลิเมตรซึ่งเป็นสเปกที่พบได้ทั่วไปในตลาดประเทศไทยและใช้ร่วมกันได้กับรถยนต์รุ่นต่างๆ ของ Hyundai และ Kia ทำให้การอัปเกรดล้อหรือเปลี่ยนล้อหลังการขายทำได้ง่ายมีตัวเลือกหลากหลายและสามารถตอบสนองต่อสภาพถนนและพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้ในไทยได้ดีขนาด PCD เป็นค่าที่สำคัญสำหรับการติดตั้งล้อใหม่การเลือกขนาดที่ถูกต้องจะช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยป้องกันปัญหาการสั่นหรือการคลายน็อตที่อาจเกิดจากล้อที่ไม่พอดีผู้บริโภคในไทยเมื่อต้องเปลี่ยนล้อไม่ควรดูแค่ขนาด PCD เท่านั้นแต่ควรพิจารณาค่าเส้นผ่านศูนย์กลางดุมล้อหรือ CB และค่า Offset หรือ ET ร่วมด้วยเพื่อให้ล้อเข้ากันกับรถได้อย่างสมบูรณ์แบบนอกจากนี้ EV5 ในฐานะรถ SUV พลังงานไฟฟ้าการเลือกใช้ล้อยังควรคำนึงถึงน้ำหนักของล้อและการออกแบบทางอากาศพลศาสตร์เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานสูงสุดในสภาพอากาศร้อนและฝนตกชุกของไทยแนะนำให้เลือกล้อที่มีวัสดุทนต่อการกัดกร่อนสูงเพื่อยืดอายุการใช้งาน
Q
Kia EV5 มี Apple Carplay หรือไม่
รถ Kia EV5 ในฐานะ SUV ไฟฟ้าที่ออกแบบมาสำหรับตลาดโลก ได้รับการติดตั้งฟังก์ชัน Apple CarPlay ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริงมากสำหรับผู้ใช้ไทย เพราะช่วยให้เชื่อมต่อ iPhone ได้สะดวกเพื่อใช้งานนำทาง เปิดเพลง หรือโทรศัพท์ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพการจราจรที่ซับซ้อนอย่างในกรุงเทพฯ นอกจาก Apple CarPlay แล้ว Kia EV5 ยังรองรับ Android Auto ด้วย ทำให้ใช้งานได้กับมือถือทุกระบบ ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้หลากหลาย ในตลาดไทย Kia ให้ความสำคัญกับการขยายตลาดรถไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง โดย EV5 ถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับครอบครัวไทยด้วยสมรรถนะที่ชาญฉลาดและระยะขับขี่ที่ยาวไกล (ประมาณ 500 กม. ในรุ่นมาตรฐาน) อย่างไรก็ตาม บางฟีเจอร์อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นที่จำหน่ายในแต่ละประเทศ แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายในไทยก่อนตัดสินใจซื้อ และด้วยนโยบายสนับสนุนรถ EV ของรัฐบาลไทยที่กำลังขยายตัว ทำให้รถไฟฟ้าราคาจับต้องได้อย่าง EV5 น่าจะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีชาร์จเร็ว (ชาร์จจาก 30% เป็น 80% ในประมาณ 30 นาที) ที่ตอบโจทย์กับเครือข่ายสถานีชาร์จที่กำลังเพิ่มขึ้นในประเทศไทย
Q
ยี่ห้อยางของ Kia EV5 คืออะไร
ยางติดรถของ Kia EV5 ในตลาดประเทศไทยอาจแตกต่างกันตามแต่ละรุ่นย่อยโดยทั่วไปจะใช้แบรนด์จากเกาหลีใต้เช่น Kumho หรือ Nexen ซึ่งได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพอากาศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งในด้านการยึดเกาะถนนเปียกและความทนทานบางรุ่นที่เป็นรุ่นสูงอาจติดตั้งยางจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Michelin หรือ Continental เพื่อเพิ่มความเงียบในการขับขี่และประสิทธิภาพการใช้พลังงานผู้บริโภคในไทยควรให้ความสำคัญกับคุณสมบัติของยางที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นควรตรวจสอบแรงดันลมยางและสภาพการสึกหรออย่างสม่ำเสมอในช่วงฤดูฝนควรเลือกดอกยางที่เน้นประสิทธิภาพในการรีดน้ำหากต้องเปลี่ยนยางสามารถพิจารณายี่ห้อที่มีจำหน่ายทั่วไปในไทยอย่าง Bridgestone หรือ Dunlop ซึ่งทนต่ออุณหภูมิสูงและมีระบบบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศรถยนต์ไฟฟ้ามีแรงบิดในช่วงเริ่มต้นสูงดังนั้นยางติดรถของ EV5 มักถูกออกแบบให้มีแก้มยางแข็งแรงรองรับแรงบิดของมอเตอร์ได้ดีในระยะยาวควรสลับยางทุก 10000 กิโลเมตรเพื่อให้การสึกหรอสม่ำเสมอสภาพถนนในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมีความหลากหลายจึงควรเลือกยางที่สมดุลระหว่างความนุ่มนวลในการขับขี่และความทนทานต่อการใช้งาน
Q
ความกว้างของ Kia EV5 คือเท่าไร
Kia EV5 มีความกว้างตัวถังอยู่ที่ 1875 มิลลิเมตรซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางกว้างเมื่อเทียบกับถนนในเมืองและที่จอดรถในประเทศไทยเหมาะสำหรับการใช้งานของครอบครัวแต่ควรระวังเล็กน้อยเมื่อต้องขับผ่านตรอกซอยแคบในฐานะรถ SUV พลังงานไฟฟ้าล้วนการออกแบบความกว้างของ EV5 คำนึงถึงทั้งความสบายภายในห้องโดยสารและความมั่นคงในการควบคุมรถโดยเบาะหลังสามารถนั่งผู้ใหญ่สามคนได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดในสภาพอากาศร้อนของไทยตัวถังที่กว้างขึ้นยังช่วยให้สามารถติดตั้งแบตเตอรี่ความจุใหญ่ขึ้นพร้อมมีพื้นที่สำหรับการระบายความร้อนที่ดีเมื่อเปรียบเทียบกับรถในระดับเดียวกันอย่าง Tesla Model Y ที่มีความกว้าง 1921 มิลลิเมตรและ BYD Atto 3 ที่กว้าง 1875 มิลลิเมตรจะเห็นว่า EV5 อยู่ในระดับมาตรฐานควรสังเกตว่าถนนในเขตเมืองเก่าของไทยหลายแห่งมีความแคบจึงควรระวังความกว้างของกระจกมองข้างขณะขับขี่และก่อนเข้าอาคารจอดรถควรตรวจสอบป้ายจำกัดความกว้างล่วงหน้า EV5 มีระบบพวงมาลัยที่ปรับแต่งมาเพื่อการใช้งานในเมืองโดยแม้ตัวรถจะกว้างแต่รัศมีวงเลี้ยวก็ยังควบคุมได้ดีสามารถขับในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพที่รถติดได้อย่างคล่องตัว
Q
ราคาภาษีรถยนต์ของ Kia EV5 คือเท่าไร วิธีการคำนวณเป็นอย่างไร
เรื่องภาษีทางหลวงสำหรับ Kia EV5 ในประเทศไทย การคำนวณจะขึ้นอยู่กับประเภทรถยนต์ กำลังเครื่องยนต์หรือมอเตอร์ไฟฟ้า และอายุการจดทะเบียน แต่เนื่องจาก EV5 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% จึงได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในประเทศไทย โดยอาจมีค่าภาษีถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป สูตรคำนวณภาษีทางหลวงสำหรับรถไฟฟ้ามักจะเป็นอัตราคงที่หรือคำนวณตามน้ำหนัก รัฐบาลไทยยังมีนโยบายลดหย่อนภาษีสำหรับรถพลังงานสะอาด ดังนั้นภาษีทางหลวงจริงของ EV5 อาจอยู่ที่ประมาณ 500 ถึง 2,000 บาท แต่อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบประกาศประจำปีของกรมการขนส่งทางบกเพื่อความชัดเจน นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้าด้วยมาตรการต่างๆ เช่น การลดภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต ซึ่งช่วยลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ EV5 ได้อีกด้วย ข้อควรจำคือภาษีทางหลวงต้องชำระทุกปี โดยสามารถชำระผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกหรือช่องทางธนาคารที่กำหนด สำหรับผู้ที่สนใจควรปรึกษาตัวแทนจำหน่ายหรือตรวจสอบนโยบายล่าสุดจากกรมการขนส่งทางบก (DLT) เพื่อให้ได้ข้อมูลการคำนวณและจำนวนเงินที่ถูกต้อง พร้อมกันนี้ รถไฟฟ้าในไทยยังได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น การจดทะเบียนป้ายรถยนต์ฟรี การสนับสนุนสถานีชาร์จสาธารณะ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานได้อย่างมากในระยะยาว
ดูเพิ่มเติม