Q

ข้อเสียของ Mitsubishi Xpander คืออะไร

Mitsubishi Xpander ในฐานะรถ MPV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ได้รับการยอมรับในด้านความกว้างขวางและความคุ้มค่าในการใช้งาน แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น เบาะแถวสามมีพื้นที่วางขาแคบ ทำให้ผู้ใหญ่โดยสารได้ไม่สะดวกและไม่เหมาะกับการเดินทางไกล เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติเมื่อบรรทุกเต็มที่หรือขึ้นเขาจะรู้สึกแรงไม่เพียงพอ เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก แต่เวลาต้องเร่งแซงบนทางด่วนควรวางแผนล่วงหน้า ส่วนวัสดุภายในเน้นพลาสติกแข็งทำให้สัมผัสและการเก็บเสียงอยู่ในระดับกลาง ระบบกันสะเทือนมีความแข็งพอสมควร จึงให้ความรู้สึกกระด้างเมื่อขับผ่านถนนชนบทที่ไม่เรียบในบางพื้นที่ อย่างไรก็ตาม Xpander มีความประหยัดน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำ เหมาะกับครอบครัวที่เน้นประโยชน์ใช้สอย หากต้องใช้งานบรรทุกผู้โดยสารเต็มที่และเดินทางไกลบ่อย ควรทดลองขับเพื่อประเมินสมรรถนะและพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสม ในตลาดไทยยังมีตัวเลือกอื่นอย่าง Toyota Avanza หรือ Honda BR-V ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องเครื่องยนต์และวัสดุภายในที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคควรพิจารณางบประมาณและความต้องการส่วนตัวประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ.
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
วิธีปิดโหมด Eco บน Mitsubishi Xpander
การปิดโหมด Eco ของรถ Mitsubishi Xpander นั้น โดยปกติใช้งานผ่านปุ่มโหมด Eco ใกล้แผงหน้าปัดเครื่องมือ ซึ่งปุ่มนี้อาจจะอยู่ด้านซ้ายของพวงมาลัยหรือแถบกลางคอนโซลหน้า กดสลับโหมดได้เลย แต่ถ้าหาปุ่มไม่เจอแนะนำให้เปิดคู่มือผู้ใช้ดูตำแหน่งให้ชัดเจนอีกที ในสภาพอากาศร้อนของไทย การปิดโหมด Eco จะช่วยให้แอร์เย็นขึ้นแต่จะทำให้กินน้ำมันเพิ่มนิดหน่อย แนะนำว่าเวลาเจอรถติดในกรุงเทพฯ ให้เปิดโหมด Eco ไว้จะช่วยประหยัดน้ำมัน ส่วนเวลาเดินทางไกลหรือขับบนทางด่วนปิดโหมดนี้จะทำให้รถตอบสนองดีขึ้น โปรดทราบว่าวิธีการใช้งานของ Xpander แต่ละรุ่นในแต่ละปีอาจแตกต่างกันเล็กน้อย รถยนต์รุ่นใหม่บางรุ่นยังสามารถปรับโหมดการขับขี่ผ่านเมนูการตั้งค่ารถบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางได้อีกด้วย การใช้โหมด Eco ให้เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้ขับขี่ในหลากหลายสภาพถนนของไทยได้ดี แต่ยังช่วยบาลานซ์ระหว่างประหยัดน้ำมันกับความรู้สึกในการขับได้ แนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้ตามความต้องการจริงจะดีที่สุด
Q
Mitsubishi Xpander ผลิตที่ประเทศไหน?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander ส่วนใหญ่ผลิตในประเทศอินโดนีเซีย โดยเป็นรุ่น MPV 7 ที่นั่งที่พัฒนามาเพื่อตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ และได้รับความนิยมในตลาดไทยเช่นกัน ด้วยพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและการออกแบบที่ใช้งานได้จริง เหมาะสมกับความต้องการการเดินทางของครอบครัวคนไทยเป็นอย่างดี ผู้บริโภคในประเทศไทยสามารถซื้อ Xpander แบบนำเข้าแท้ๆ ผ่านช่องทางทางการได้ ที่น่าสนใจคือ Mitsubishi มีโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทยด้วย เช่น โรงงานระยอง (จังหวัดชลบุรี) ที่ผลิตรุ่นอย่าง Pajero Sport เป็นต้น แม้ว่า Xpander จะยังไม่มีการผลิตในประเทศไทยตอนนี้ แต่การมีฐานการผลิตในไทยก็แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของแบรนด์ต่อตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในอนาคตอาจมีการปรับเปลี่ยนแผนการผลิตตามความต้องการของตลาดก็เป็นได้ สำหรับผู้ใช้รถในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น Xpander ที่นำเข้า หรือรุ่นอื่นๆ ของ Mitsubishi ที่ผลิตในประเทศ ล้วนได้รับบริการหลังการขายที่ครบวงจรจากแบรนด์ รวมถึงเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศและอะไหล่แท้จากโรงงาน
Q
วิธีสตาร์ท Mitsubishi Xpander
วิธีสตาร์ทรถ Mitsubishi Xpander ที่ถูกต้องคือต้องให้เกียร์อยู่ในตำแหน่ง P (จอด) หรือ N (ว่าง) ก่อน จากนั้นเหยียบแป้นเบรคแล้วกดปุ่มสตาร์ทหรือบิดกุญแจเพื่อติดเครื่อง เนื่องจากอากาศร้อนในไทยแนะนำให้เช็คสภาพแบตเตอรี่ก่อนสตาร์ทเสมอเพราะความร้อนสูงจะทำให้แบตเสื่อมเร็ว พร้อมทั้งสังเกตุดูไฟสัญญาณบนแผงหน้าปัดว่าปกติหรือไม่ หลังสตาร์ทแนะนำให้วอร์มเครื่องสัก 30 วินาทีให้น้ำมันเครื่องไหลเวียนเพื่อหล่อลื่นชิ้นส่วนเครื่องยนต์ จะช่วยยืดอายุเครื่องได้ดีเลย โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนถ้าต้องสตาร์ทรถหลังขับลุยน้ำ ต้องระวังเป็นพิเศษ ควรเช็คระบบไอดีว่ามีน้ำเข้าไปหรือไม่ สำหรับ Xpander รุ่นยอดนิยมนี้ระบบสมาร์ทคีย์อาจจะต้องวางใกล้กับเซ็นเซอร์กว่าปกติในวันที่อากาศชื้น แนะนำให้เช็คหัวเทียนและระบบเชื้อเพลิงเป็นประจำเวลาซ่อมบำรุงจะทำให้สตาร์ทรถได้คล่องขึ้น อีกอย่างในไทยที่จอดรถตามห้างหลายที่มีพื้นเอียงมาก เวลาสตาร์ทบนทางลาดชันควรดึงเบรคมือก่อนแล้วค่อยเข้าเกียร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกียร์รับน้ำหนักเกินไป
Q
Mitsubishi Xpander มีกี่ที่นั่ง?
รถยนต์ Mitsubishi Xpander เป็นรุ่น MPV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดไทย ด้วยการจัดเรียงเบาะแบบ 2+3+2 ที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด เบาะแถวกลางสามารถเลื่อนไปมาได้ตามความต้องการ ส่วนเบาะแถวหลังพับเก็บได้แบบ 50:50 ทำให้มีพื้นที่ใช้งานที่ยืดหยุ่น เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ครอบครัวไทยหรือกลุ่มผู้โดยสารจำนวนมาก ภายใต้กระโปรงหน้ามีเครื่องยนต์ 1.5L MIVEC แบบสูบธรรมชาติ ที่มาพร้อมกับเกียร์ออโต้ 4 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ให้สมรรถนะการประหยัดน้ำมันที่น่าพอียด ส่วนความสูงของช่วงล่างอยู่ที่ 205 มม. ทำให้สามารถขับขี่บนเส้นทางสภาพถนนไม่ดีบางพื้นที่ของไทยได้อย่างมั่นใจ สำหรับตลาดไทยแล้ว Xpander ถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมวดเดียวกัน ด้วยจุดเด่นด้านพื้นที่ใช้งานที่ตอบโจทย์และความทนทานที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ยังมีรุ่นพิเศษอย่าง Xpander Cross ที่เพิ่มความสปอร์ตด้วยชุดแต่งภายนอกทรงสปอร์ต เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ชอบความแตกต่างและเป็นตัวของตัวเอง
Q
Mitsubishi Xpander ผลิตในประเทศอะไร
รถยนต์ Mitsubishi Xpander ส่วนใหญ่ผลิตที่ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่เปิดตัวในปี 2017 ก็กลายเป็นรถเอ็มพีวียอดนิยมในตลาดอาเซียน โดยโรงงานหลักอยู่ที่เบกาซี ชวาตะวันตก ของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นแหล่งส่งออกหลักไปยังประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในอาเซียน สำหรับคนไทยแล้ว Xpander ได้รับความนิยมจากครอบครัวไทยเพราะการออกแบบภายในที่ยืดหยุ่นและระบบช่วงล่างที่ปรับให้เหมาะกับถนนไทย ปัจจุบันที่ขายในไทยเป็นเวอร์ชันปรับเฉพาะสำหรับตลาดไทย ทั้งพวงมาลัยขวาและระบบเครื่องยนต์ที่ได้มาตรฐานการระบายไอเสียของไทย ที่น่าสนใจคือ มิตซูบิชิมีโรงงานผลิตรถที่จังหวัดชลบุรีของไทยด้วย แม้จะไม่ผลิต Xpander แต่ก็ผลิตรถกระบะ Triton ที่ขายดี การกระจายฐานการผลิตแบบนี้ช่วยตอบสนองความต้องการของตลาดอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วน Xpander ในไทยมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5L MIVEC ให้เลือกทั้งเกียร์ออโต้ 4 สปีดและเกียร์ธรรมดา 5 สปีด โดยประหยัดน้ำมันและซ่อมบำรุงง่าย พิเศษกว่านั้นคือระยะความสูงจากพื้น 220 มม. ที่ออกแบบมาเพื่อถนนลูกรังในบางพื้นที่ของไทยโดยเฉพาะ
Q
Mitsubishi Xpander มีที่นั่งกี่ที่
รถยนต์ Mitsubishi Xpander เป็นรุ่น MPV 7 ที่นั่งที่ขายดีมากในตลาดไทย ด้วยการจัดเรียงเบาะแบบ 2+3+2 ที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด เบาะแถวกลางสามารถเลื่อนไปมาได้ตามความต้องการ ส่วนเบาะแถวหลังพับเก็บได้แบบ 50:50 ทำให้ปรับพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลาย เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ครอบครัวไทยหรือการใช้งานที่ต้องรับส่งผู้โดยสารจำนวนมาก Xpander เป็นรถที่เน้นความประหยัดและประโยชน์ใช้สอยเต็มตัว ด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวาง ระยะความสูงจากพื้นรถที่เหมาะสม (เหมาะกับสภาพถนนบางเส้นในไทย) รวมถึงประหยัดน้ำมัน ซึ่งจุดเด่นเหล่านี้ทำให้รถรุ่นนี้เป็นที่นิยมในหมู่คนไทย นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชัน Xpander Cross ที่เพิ่มความสปอร์ตด้วยชุดแต่งภายนอกและออปชั่นเสริมบางส่วน แต่ยังคงการจัดเรียงเบาะแบบเดิม สำหรับคนไทยแล้ว Xpander ถือเป็นตัวเลือกชั้นดีเพราะตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตประจำวันและการเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่ บวกกับแบรนด์ Mitsubishi ที่คนไทยเชื่อใจและมีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุม ทำให้ Xpander กลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ยอดนิยมในตลาดรถครอบครัวของไทย
Q
Mitsubishi Xpander ราคาเท่าไหร่
ราคารถ Mitsubishi Xpander ในตลาดไทยจะอยู่ที่ประมาณ 699,000 ถึง 899,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก โดยราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตามโปรโมชั่นของตัวแทนจำหน่ายหรือความแตกต่างในแต่ละพื้นที่ รถ MPV 7 ที่นั่งรุ่นนี้ได้รับความนิยมจากคนไทยด้วยความกว้างขวางของห้องโดยสาร อุปกรณ์ที่ใช้งานได้จริง และราคาที่คุ้มค่า โดยเฉพาะเหมาะสำหรับครอบครัว Xpander ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร MIVEC แบบดูดธรรมดา คู่กับเกียร์ออโต้ 4 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งให้ประหยัดน้ำมันได้ดี เหมาะกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกลในไทย คู่แข่งหลักของ Xpander ในไทยคือ Toyota Avanza และ Honda BR-V แต่ Xpander ก็ยังโดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นและการจัดวางที่นั่งที่ยืดหยุ่น แนะนำให้ไปทดลองขับและสอบถามโปรโมชั่นล่าสุดที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อมเปรียบเทียบแผนประกันภัยและสินเชื่อเพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด
Q
วิธีปิดโหมด eco ใน Mitsubishi Xpander
การปิดโหมด ECO ของรถ Mitsubishi Xpander นั้นทำได้ง่ายมาก ในสภาพอากาศร้อนของไทย ฟังก์ชั่นนี้แม้จะช่วยประหยัดน้ำมันแต่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ วิธีการคือหลังจากสตาร์ทรถแล้วให้มองหาปุ่ม ECO ที่อยู่ใกล้ๆ คอนโซลกลาง (มักจะมีสัญลักษณ์ใบไม้สีเขียว) กดปุ่มจนกว่าไฟแสดงสถานะ ECO ที่แผงหน้าปัดจะดับ สิ่งที่ควรทราบคือในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะช่วงรถติดบ่อย การปิดโหมด ECO จะทำให้การตอบสนองของเครื่องยนต์ดีขึ้น แต่จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้สิ่งที่คนไทยมักมองข้ามคือผลของโหมด ECO จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานแอร์ แนะนำว่าในช่วงหน้าหนาวหรือขับทางไกลควรเปิดโหมด ECO เพื่อประหยัดน้ำมันได้เต็มที่ ส่วนในหน้าฝนหรือขับระยะสั้นในเมืองอาจปิดโหมดนี้เพื่อให้ได้กำลังที่ดีกว่า ความแตกต่างของการสิ้นเปลืองน้ำมันอาจสูงถึง 10-15% ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ ขอแนะนำให้ปรับใช้ตามสภาพถนนจริงจะดีที่สุด
Q
mitsubishi xpander ทำขึ้นในประเทศใด
มิตซูบิชิ Xpander ผลิตหลักในประเทศอินโดนีเซีย เปิดตัวตั้งแต่ปี 2017 และกลายเป็นรถ MPV ยอดนิยมในตลาดอาเซียน ฐานการผลิตตั้งอยู่ที่โรงงานมิตซูบิชิ เมืองบีกาซี จังหวัดชวาตะวันตก ซึ่งเป็นศูนย์การผลิตสำคัญของมิตซูบิชิในภูมิภาค แม้จะไม่ได้ผลิตในประเทศไทยแต่ได้รับความนิยมสูง ติดอันดับยอดขาย MPV แถวหน้า ด้วยห้องโดยสารกว้างขวางแบบ 7 ที่นั่ง ระยะความสูงจากพื้นมาก เหมาะกับสภาพถนนไทย นอกจากนี้ยังมีรุ่น Xpander Cross ที่มีดีไซน์สไตล์ครอสโอเวอร์ ผลิตในอินโดนีเซียและนำเข้าไทย ทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร MIVEC แบบดูดอากาศธรรมชาติ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะหรือเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ แม้เทคโนโลยีไม่ใหม่แต่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและค่าดูแลรักษาต่ำ เหมาะกับการใช้งานของครอบครัวไทย ลูกค้าชาวไทยสามารถซื้อได้ผ่านผู้จำหน่ายมิตซูบิชิในประเทศ พร้อมรับบริการหลังการขายและการรับประกันเช่นเดียวกับรถที่ประกอบในไทย
Q
มิตซูบิชิ xpander มีที่นั่งกี่ที่
รถยนต์ Mitsubishi Xpander เป็นรุ่น MPV 7 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดไทย ด้วยการจัดเรียงเบาะแบบ 2+3+2 ที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบาย โดยเบาะแถวกลางสามารถเลื่อนไปมาได้ตามต้องการ ส่วนเบาะแถวหลังพับเก็บได้แบบ 50:50 ทำให้มีพื้นที่ใช้งานที่ยืดหยุ่น เหมาะสมกับการใช้งานของครอบครัวไทยหรือกลุ่มคนจำนวนมาก ภายใต้กระโปรงหน้ามีเครื่องยนต์ 1.5L MIVEC แบบสูบธรรมชาติ ที่ทำงานร่วมกับเกียร์ออโต้ 4 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งผ่านการทดสอบแล้วว่าให้ความน่าเชื่อถือในสภาพอากาศร้อนและถนนหลากหลายรูปแบบของประเทศไทย แถมยังมีระยะล้อจากพื้นสูงถึง 205 มม. ทำให้สามารถขับเคลื่อนบนถนนลูกรังหรือทางที่ไม่เรียบในบางพื้นที่ของไทยได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ยังมีรุ่น Cross ที่เพิ่มความสปอร์ตด้วยชุดแต่งภายนอกและระยะล้อจากพื้นที่สูงขึ้น ด้วยความประหยัด ใช้งานได้จริง และความทนทาน ทำให้ Xpander เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับครอบครัวไทยที่มองหาราคาคุ้มค่า

ข้อดี

การออกแบบภายนอกสวยงาม
ภายในกว้างขวางและสบาย
หลอดไฟหน้าแบ่งเป็นสองส่วนและมีลิ้นประดับโครเมียม ทำให้ดูสวยงาม
แผงควบคุมแสดงข้อมูลอย่างครบถ้วน
การออกแบบปุ่มมีประสิทธิภาพและสะดวกในการใช้งาน
ที่นั่งนุ่มนวล

ข้อเสีย

ภายในมีพื้นที่ค่อนข้างแคบ รูปแบบดูเก่า
เครื่องยนต์ไม่มีพลังเพียงพอในการปีนเนิน การขับขี่บนเส้นทางภูเขาไม่ราบรื่น
เกียร์ไม่เพียงพอ เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงเครื่องยนต์มีสปินสูง
พื้นที่ในช่องสัมภาระไม่ใหญ่ ความจุการบรรทุกต่ำ

Q&A ล่าสุด

Q
เมื่อคันรถ Audi TT ใหม่จะวางขาย
ขณะนี้ทาง Audi Thailand ยังไม่ได้ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ Audi TT รุ่นใหม่ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ลูกค้าสามารถคาดเดาเวลาได้จากช่วงเวลาที่ Audi เปิดตัวรถรุ่นใหม่ในตลาดโลกและประวัติการนำเข้ารถใหม่ของไทย โดยปกติแล้ว Audi จะนำเข้ารถรุ่นใหม่สู่ประเทศไทยภายใน 6-12 เดือนหลังเปิดตัวในต่างประเทศ ซึ่งขึ้นอยู่กับกระบวนการรับรองมาตรฐานและกำหนดการผลิต สำหรับตลาดไทยที่ใช้รถพวงมาลัยขวา รถนำเข้าต้องผ่านการรับรองมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวด (เช่น มาตรฐาน Euro 5 ของไทย) และการตรวจสอบความปลอดภัยจากกรมการขนส่ง ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้อาจส่งผลต่อกำหนดการวางจำหน่าย แนะนำให้ติดตามข้อมูลล่าสุดผ่านเว็บไซต์ทางการของ Audi Thailand หรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ผู้บริโภคไทยควรคำนึงถึงผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่อาจทำให้ราคาสุดท้ายสูงขึ้น โดยเฉพาะรถสปอร์ตหรูที่มักมีอัตราภาษีสูง สิ่งที่ควรสังเกตว่า Audi TT ในฐานะรถสปอร์ตขนาดเล็กคลาสสิก ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro และเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จมีความเหมาะสมกับสภาพอากาศที่มีฝนชุกและสภาพถนนในเมืองของไทย ขนาดตัวรถที่กะทัดรัดยังเหมาะกับถนนแคบๆ ในกรุงเทพฯ แต่สำหรับรุ่นสมรรถนะสูงอาจต้องพิจารณาปัญหาความเหมาะสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทย
Q
วิธีการเปิดฝาถังน้ำมัน Audi TT
เวลาขับรถ Audi TT ในประเทศไทย ถ้าจะเปิดฝาถังน้ำมัน ต้องเช็คก่อนว่ารถอยู่ในสถานะปลดล็อคแล้ว แค่กดด้านขวาของฝาถังน้ำมันเบาๆ มันจะเปิดออกเองอัตโนมัติ ถ้ารุ่นที่มีระบบไร้กุญแจ พอเดินเข้าไปใกล้รถ ฝาถังน้ำมันจะปลดล็อคให้เอง โดยเฉพาะอากาศร้อนๆ แบบประเทศไทยเนี่ย ต้องระวังเรื่องยางซีลฝาถังน้ำมันเสื่อมสภาพเร็ว แนะนำให้ตรวจสอบความแน่นหนาของฝาถังน้ำมันบ่อยๆ จะได้ป้องกันน้ำมันระเหย ยิ่งบางปั๊มในไทยต้องให้พนักงานช่วยเติมน้ำมัน ให้เรารอเขาก่อนนะ เรื่องดีไซน์ฝาถังน้ำมันของ Audi TT นี่เรียบง่ายแต่ใช้งานสะดวก แถมยังเข้ากับเส้นโค้งของตัวรถได้อย่างลงตัว แนวคิดการออกแบบที่ทั้งสวยและใช้งานได้จริงแบบนี้ ก็เห็นได้ในรุ่นอื่นๆ ของ Audi เหมือนกัน เวลาใช้รถสปอร์ตเยอรมันในไทย อย่าลืมเติมน้ำมันเบนซิน 95 ขึ้นไปนะ จะได้รักษาสมรรถนะเครื่องยนต์ และควรหลีกเลี่ยงการจอดตากแดดนานๆ เพราะอาจทำให้วัสดุภายในรถเสื่อมสภาพเร็ว ถ้าใส่ใจรายละเอียดพวกนี้ รถจะอยู่กับเราได้นานๆ
Q
Golf GTI หรือ R อะไรดีกว่ากัน?
การเลือกว่าจะซื้อ Volkswagen Golf GTI หรือ R ในตลาดไทยนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการในการขับขี่และสถานการณ์การใช้งานเป็นหลัก โดย Golf GTI ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 245 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการขับขี่สปอร์ตเป็นครั้งคราว ระบบช่วงล่างถูกปรับให้เน้นความสบาย ประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ และราคาก็เข้าถึงง่ายกว่า ส่วน Golf R ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบเหมือนกัน แต่ถูกปรับแต่งให้มีกำลังสูงถึง 320 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MOTION เร่งความเร็วได้แรงกว่า (0-100 กม./ชม. ในประมาณ 4.7 วินาที) และมีขีดจำกัดในการควบคุมที่สูงกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความแรงหรือขับทางเขาบ่อยๆ แต่กินน้ำมันมากกว่าและค่าบำรุงรักษาสูงกว่า ในสภาพอากาศร้อนของไทยต้องระวังเรื่องการดูแลยางสมรรถนะสูงและระบบระบายความร้อนเป็นพิเศษ ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับห้องโดยสารดิจิทัลและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ แต่รุ่น R จะมีเบาะสปอร์ตและระบบช่วงล่างปรับได้ DCC ที่ช่วยให้ขับทางไกลสบายกว่า ถ้ามีงบเพียงพอและต้องการความแรงสุดๆ ก็เลือก R แต่ถ้าอยากได้ความคุ้มค่าและใช้งานในชีวิตประจำวัน GTI ก็เหมาะกว่า ที่ไทยมีวัฒนธรรมการแต่งรถค่อนข้างแพร่หลาย ทั้งสองรุ่นมีชิปปรับ ECU ให้เลือกใช้ แต่ต้องระวังเรื่องกฎหมายให้ดี
Q
รุ่นใดที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดสำหรับ Volkswagen Golf?
ในตลาดไทย รุ่นที่ได้รับการนิยมมากที่สุดในซีรีส์ Volkswagen Golf คือ Golf รุ่นที่ 8 (MK8) โดยเฉพาะเวอร์ชันที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 TSI EVO ที่มาพร้อมประสิทธิภาพการขับขี่ที่ทรงพลัง (150 แรงม้า) และเทคโนโลยี Hybrid แบบ 48V ที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น แถมยังขับสบายทั้งในสภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯและการเดินทางไกล ภายในห้องโดยสารออกแบบมาแบบดิจิทัลสมบูรณ์แบบ พร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 10.25 นิ้วและหน้าจอกลางขนาด 8.25 นิ้ว รวมถึงระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ Travel Assist ที่ทันสมัยกว่ารุ่นอื่นๆ ส่วนฟีเจอร์ที่คนไทยชอบอย่างหลังคาพาโนรามาและระบบแอร์แบบสองโซนก็มีให้ครบ ถ้าพูดถึงตลาดมือสอง Golf รุ่นที่ 7 (MK7) แบบ R เวอร์ชันสปอร์ตเป็นที่นิยมในหมู่คนรักรถเพราะใช้เครื่องยนต์ 2.0T (290 แรงม้า) และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4Motion แต่ต้องระวังเรื่องการดูแลรักษาเพราะอากาศร้อนของไทยอาจส่งผลต่อเครื่องยนต์เทอร์โบ นอกจากนี้ ราคาของ Golf ในไทยจะสูงกว่ารถยนต์ทั่วไปเพราะมีภาษีนำเข้า แนะนำให้เปรียบเทียบกับ Toyota Corolla Sport หรือ Honda Civic Hatchback ก่อนตัดสินใจ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความรู้สึกในการขับขี่ที่เน้นความมั่นคงและเสียงเงียบ Golf ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะความเหนือชั้นในเรื่องการตั้งค่าตัวถังและระบบกันเสียงแบบเยอรมัน
Q
ซรุ่นที่นิยมมากที่สุดของ Volkswagen Golf
ในตลาดประเทศไทย รุ่น Volkswagen Golf ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Golf รุ่นที่ 8 โดยเฉพาะแบบที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร TSI เทอร์โบชาร์จ ที่ให้สมดุลระหว่างสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันเหมาะกับการใช้งานในเมืองและเดินทางไกลของไทย ส่วนรุ่น GTI ก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน ด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร TSI ที่ให้พลังสูงกว่า เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสปอร์ต นอกจากนี้ Golf ยังขึ้นชื่อในเรื่องงานฝีมือเยอรมันและระบบช่วงล่างที่มั่นคง ให้ทั้งความปลอดภัยและความสบายในการขับขี่ สำหรับคนไทยแล้ว จุดเด่นของ Golf คือความทนทานและมูลค่าซื้อขายต่อที่สูง พร้อมทั้งเครือข่ายบริการหลังการขายของ Volkswagen ในไทยที่ค่อนข้างครอบคลุม ทำให้การซ่อมบำรุงสะดวกขึ้น ถ้าคิดจะซื้อ Golf แนะนำให้เลือกรุ่นให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ รุ่นปกติเหมาะกับการใช้งานทั่วไป ส่วน GTI จะเหมาะกับคนชอบความสปอร์ตกว่า ด้วยสภาพอากาศไทยที่ร้อนและฝนชุก Golf ก็ตอบโจทย์ทั้งระบบแอร์และป้องกันสนิมได้ดีเลยทีเดียว
ดูเพิ่มเติม