Q

ฟอร์ดแรนเจอร์สามารถรับน้ำหนักได้เท่าไหร่

Ford Ranger สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้แตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง โดยทั่วไป Ranger รุ่นมาตรฐานสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ประมาณ 800 ถึง 1000 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม น้ำหนักบรรทุกจริงควรคำนึงถึงการกระจายน้ำหนักบนรถและสภาพเส้นทางด้วย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A ล่าสุด

Q
Xpander Cross ใช้ก๊าซหรือดีเซล?
ปัจจุบัน Mitsubishi Xpander Cross ที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทย มีเฉพาะรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินเท่านั้น โดยติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบหายใจธรรมดา (NA) ขนาด 1.5 ลิตร MIVEC รหัส 4A91 ยังไม่มีตัวเลือกรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เครื่องยนต์รุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีวาล์วแปรผันขั้นสูงของ Mitsubishi สามารถเติมน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 95 ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปในประเทศไทย รองรับการใช้งานในสภาพจราจรเมืองที่หนาแน่นหรือขับทางไกลระยะสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล เครื่องยนต์เบนซินมีข้อดีในด้านการทำงานที่นุ่มนวล เสียงเงียบ และแรงสั่นสะเทือนน้อยกว่า อีกทั้งไม่ต้องมีขั้นตอนดูแลพิเศษ เช่น การเติมน้ำยายูเรียที่จำเป็นกับรถดีเซลบางรุ่น อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ดีเซลมักจะมีแรงบิดในรอบต่ำและความประหยัดน้ำมันที่ดีกว่า แต่สำหรับรถ MPV ขนาดเล็กที่ใช้งานในครอบครัว กลุ่มผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงนิยมเครื่องยนต์เบนซินมากกว่า เนื่องจากการดูแลรักษาง่ายและความสะดวกในการหาน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งนี้ แนะนำให้เจ้าของรถใช้น้ำมันตามค่าออกเทนที่ผู้ผลิตระบุไว้ในคู่มือการใช้งาน และเข้ารับบริการตรวจเช็กตามระยะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อคงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
Q
Xpander Cross มีฟังก์ชันล็อคอัตโนมัติหรือไม่?
ใช่ครับ Mitsubishi Xpander Cross ทุกรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยมาพร้อมฟังก์ชันล็อกประตูอัตโนมัติ (Auto Door Lock) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยเมื่อรถขับเคลื่อนถึงความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประตูจะล็อกโดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่ ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างมากในบริบทการใช้งานจริงของประเทศไทย เช่น ป้องกันการเปิดประตูโดยไม่ตั้งใจขณะรถติดหรือจอดรอสัญญาณไฟจราจร นอกจากระบบล็อกอัตโนมัติแล้ว Xpander Cross ยังติดตั้งระบบล็อกป้องกันเด็ก (Child Safety Lock), ระบบเตือนกันขโมย (Anti-theft Alarm System) และระบบป้องกันการสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต (Engine Immobilizer) เพื่อยกระดับความปลอดภัยทั้งตัวรถและผู้โดยสาร แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบคู่มือการใช้งาน เพื่อเรียนรู้วิธีตั้งค่าหรือปิดระบบล็อกอัตโนมัติตามความเหมาะสม เช่น ในกรณีที่ต้องรับ–ส่งผู้โดยสารระยะสั้นบ่อยครั้ง สิ่งสำคัญอีกประการคือ ด้วยสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย อุณหภูมิภายในรถสามารถเพิ่มสูงได้อย่างรวดเร็ว แม้ประตูจะล็อกอัตโนมัติแล้ว ก็ไม่ควรปล่อยให้เด็กหรือสัตว์เลี้ยงอยู่ในรถตามลำพัง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ฟังก์ชันช่วยเหลือด้านความปลอดภัยจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อใช้งานควบคู่กับพฤติกรรมการขับขี่ที่รับผิดชอบและระมัดระวัง
Q
"Xpander Cross มีระยะทางเท่าไหร่ต่อลิตรในระบบกิโลเมตร"
Mitsubishi Xpander Cross ในแต่ละรุ่นมีประเภทเชื้อเพลิงแตกต่างกัน ได้แก่ รุ่นที่ใช้เฉพาะน้ำมันเบนซิน และรุ่นไฮบริดที่ใช้น้ำมันเบนซินร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ต่อเชื้อเพลิง 1 ลิตร (อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง) จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุก โดยทั่วไปแล้ว หากวิ่งในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น รถยนต์ทั่วไปจะวิ่งได้ประมาณ 10–15 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนบนทางด่วนหรือถนนที่มีความเร็วคงที่ อัตราสิ้นเปลืองจะดีขึ้น โดยอาจวิ่งได้ประมาณ 20–30 กิโลเมตรต่อลิตร ตัวอย่างเช่น รถที่มีความจุกระบอกสูบ 1.6 ลิตร หากวิ่งบนทางด่วนจะมีอัตราสิ้นเปลืองประมาณ 6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือประมาณ 16.67 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนถ้าขับในเมืองจะอยู่ที่ประมาณ 8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือประมาณ 12.5 กิโลเมตรต่อลิตร ดังนั้น หาก Xpander Cross วิ่งในสภาพการใช้งานผสมทั้งในเมืองและทางไกล (สภาพการขับขี่ทั่วไป) คาดว่าอัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ในช่วงประมาณ 10–20 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่าเป็นค่าปกติสำหรับรถในกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม เพื่อความแม่นยำ แนะนำให้ผู้ใช้งานตรวจสอบข้อมูลเฉพาะรุ่นจากคู่มือรถ หรือสอบถามข้อมูลจากผู้จำหน่ายโดยตรง
Q
Mitsubishi Xpander มีระยะทางเท่าไหร่ต่อปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง?
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Mitsubishi Xpander แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น และจะได้รับผลจากพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุกของรถ สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เช่น Mitsubishi Xpander Cross 1.5 CVT ปี 2022 และ Mitsubishi Xpander Cross Minorchange 1.5 CVT ปี 2023 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร โดยทั่วไปในสภาพการขับขี่แบบเมืองและถนนผสม อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ประมาณ 7–9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร;หากขับขี่ที่ความเร็วคงที่บนทางด่วน อัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ประมาณ 5–7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร สำหรับรุ่นไฮบริด เช่น Mitsubishi Xpander Cross HEV ปี 2024 และ Mitsubishi Xpander Cross HEV PLAY ปี 2025 ซึ่งมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยขับเคลื่อน จะมีอัตราสิ้นเปลืองในเมืองอยู่ที่ประมาณ 4–6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร;ขณะขับทางไกลที่เครื่องยนต์ทำงานมากขึ้น อัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ประมาณ 5–7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร
Q
Xpander Cross มีถุงลมนิรภัยกี่อัน?
จำนวนถุงลมนิรภัยในแต่ละรุ่นของ Mitsubishi Xpander Cross มีความแตกต่างกันตามเวอร์ชันของรถ รุ่นปี 2025 Mitsubishi Xpander Cross HEV PLAY ติดตั้งถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมนิรภัยฝั่งผู้ขับขี่และฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า รุ่นปี 2024 Mitsubishi Xpander Cross HEV มาพร้อมถุงลมนิรภัยทั้งหมด 8 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร), ถุงลมนิรภัยด้านข้าง (หน้า–หลัง), และม่านถุงลมนิรภัย (หน้า–หลัง) รุ่นปี 2022 Mitsubishi Xpander Cross 1.5 CVT และรุ่นปี 2023 Mitsubishi Xpander Cross Minorchange 1.5 CVT มาพร้อมถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้า และม่านถุงลมนิรภัยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รุ่นปี 2020 Mitsubishi Xpander 1.5 Cross AT ติดตั้งถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง ได้แก่ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ถุงลมนิรภัยถือเป็นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญในการลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บจากการชน โดยทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผู้โดยสารภายในรถ
Q
Xpander มีล็อคประตูที่รับรู้ความเร็วหรือไม่?
Mitsubishi Xpander ที่จำหน่ายในตลาดประเทศไทย มาพร้อมฟังก์ชันล็อกประตูอัตโนมัติแบบตรวจจับความเร็ว (Speed-Sensing Auto Door Lock) ซึ่งเมื่อรถขับเคลื่อนถึงความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบจะทำการล็อกประตูทุกบานโดยอัตโนมัติ ฟังก์ชันนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการเปิดประตูโดยไม่ตั้งใจขณะรถกำลังเคลื่อนที่ เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารภายในรถ นอกจากนี้ Xpander ยังติดตั้งระบบปลดล็อกสองจังหวะ (Two-Step Unlocking) เป็นมาตรฐาน โดยการกดปุ่มรีโมตครั้งแรกจะปลดล็อกเฉพาะประตูฝั่งคนขับ และการกดครั้งที่สองจึงจะปลดล็อกประตูทั้งหมด รวมถึงมีระบบล็อกนิรภัยสำหรับเด็ก (Child Safety Lock) รองรับการใช้งานในครอบครัว ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางกับเด็กเล็ก อย่างไรก็ตาม แม้ระบบล็อกอัตโนมัติจะเพิ่มความสะดวกสบาย แต่อย่างยิ่งในสภาพอากาศร้อนจัดของประเทศไทย ควรหลีกเลี่ยงการทิ้งเด็กหรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถที่ปิดล็อก แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม ควรแน่ใจว่ามีการระบายอากาศที่เพียงพอเพื่อความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถศึกษาวิธีการปรับตั้งค่าระบบล็อกอัตโนมัติและฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องได้จากคู่มือรถ
Q
Xpander มีฟีเจอร์ช่วยในการขับขึ้นเนินหรือไม่?
Mitsubishi Xpander ทุกรุ่นหลัก เช่น Xpander Cross HEV PLAY ปี 2025, Xpander Cross HEV ปี 2024 และ Xpander Cross Minorchange 1.5 CVT ปี 2023 มาพร้อมฟังก์ชันช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบนี้มีประโยชน์อย่างมากในสถานการณ์ที่ต้องออกตัวบนทางขึ้นเขาหรือเนินชัน โดยระบบจะทำการหน่วงแรงเบรกไว้ชั่วขณะหลังจากปล่อยแป้นเบรก เพื่อป้องกันไม่ให้รถไหลถอยหลัง ช่วยให้ผู้ขับสามารถเปลี่ยนจากแป้นเบรกไปยังแป้นคันเร่งได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ในสภาพถนนลื่นหรือในสภาวะสุดขีด ระบบอาจมีข้อจำกัดในการทำงาน และไม่สามารถทดแทนพฤติกรรมการขับขี่ที่ปลอดภัยได้ เมื่อต้องจอดรถบนทางลาดชันเป็นเวลานาน ควรดึงเบรกมือด้วยทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย
Q
ฉันจะเชื่อมต่อโทรศัพท์ของฉันกับ Mitsubishi Xpander ของฉันอย่างไร?
หากต้องการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับรถ Mitsubishi Xpander สามารถทำได้ผ่านระบบบลูทูธ โดยมีขั้นตอนดังนี้: เปิดบลูทูธทั้งบนโทรศัพท์และในระบบของรถ และตั้งค่าให้สามารถมองเห็นอุปกรณ์ได้ จากนั้นไปที่หน้าการตั้งค่าบลูทูธบนโทรศัพท์ แล้วเลือก “ค้นหาอุปกรณ์” เมื่อพบชื่อบลูทูธของรถ ให้เลือกเชื่อมต่อ บนหน้าจอของโทรศัพท์ ให้แตะชื่ออุปกรณ์บลูทูธของรถ แล้วเข้าไปที่เมนู 【การตั้งค่าบลูทูธ】 – 【จับคู่】 โทรศัพท์จะขึ้นหน้าต่างให้ใส่รหัสจับคู่ โดยทั่วไปคือ 1234 หรือ 0000 หรือ 1111 จากนั้นกด【เชื่อมต่อ】 พร้อมกันนี้ให้ยืนยันการจับคู่บนหน้าจอของรถด้วยการกด【จับคู่】 เมื่อจับคู่สำเร็จ ระบบจะเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ หลังจากเชื่อมต่อสำเร็จ ผู้ใช้สามารถใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ของโทรศัพท์ผ่านระบบของรถได้ เช่น การโทรออก–รับสายแบบแฮนด์ฟรี และเล่นเพลงจากโทรศัพท์ผ่านระบบเครื่องเสียงของรถ
Q
มิตซูบิชิ Xpander มีกล้องถอยหลังหรือไม่?
รถ Mitsubishi Xpander บางรุ่นมาพร้อมกล้องมองหลังหรือระบบภาพขณะถอยจอด (Parking Camera System) โดยเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นต่าง ๆ เช่น Mitsubishi Xpander Cross HEV ปี 2024 และ Mitsubishi Xpander Cross Minorchange 1.5 CVT ปี 2023 กล้องมองหลังช่วยให้ผู้ขับสามารถมองเห็นพื้นที่ด้านหลังรถได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในขณะถอยหลัง เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานจริง ระบบสามารถแสดงภาพสถานการณ์จริงที่อยู่ด้านหลังรถ ช่วยให้ผู้ขับประเมินตำแหน่งและระยะของสิ่งกีดขวางได้แม่นยำยิ่งขึ้น รองรับการถอยเข้าจอดในพื้นที่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ขับที่ยังไม่มีความชำนาญในการถอยจอด
Q
Xpander Cross มีระบบ CVT หรือไม่?
ใช่ รถ Xpander Cross บางรุ่นติดตั้งระบบเกียร์ CVT (Continuously Variable Transmission) เช่น Mitsubishi Xpander Cross 1.5 CVT ปี 2022 และ Mitsubishi Xpander Cross Minorchange 1.5 CVT ปี 2023 โดยทั้งสองรุ่นใช้ระบบเกียร์แบบ CVT เป็นมาตรฐาน ระบบเกียร์ CVT คือเทคโนโลยีเกียร์อัตโนมัติแบบไร้ขั้น โดยใช้สายพานและรอกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเปลี่ยนแปลงได้ในการส่งกำลัง ทำให้สามารถปรับอัตราทดเกียร์ได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานอยู่ในช่วงรอบที่เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ตลอดเวลา ในรถทั้งสองรุ่นนี้ ระบบเกียร์ CVT ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ รองรับการขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การตอบสนองของเครื่องยนต์มีความสม่ำเสมอและต่อเนื่อง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ลื่นไหลและสบายยิ่งขึ้นสำหรับผู้ขับขี่

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ฟอร์ดเรนเจอร์วิ่งเร็วเท่าไหร่
ความสามารถในการทำความเร็วของ Ford Ranger อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยและสภาพถนน โดยทั่วไปแล้ว Ford Ranger ในสภาพที่เหมาะสมสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 180 กม./ชม. แต่ต้องคำนึงว่าในสภาวะจริง ความเร็วจะถูกจำกัดโดยปัจจัยหลายอย่าง เช่น การบรรทุกน้ำหนักของรถ สภาพถนน และกฎจราจร
Q
ยาวฟอร์ดเรนเจอร์เท่าไหร่
ความยาวของตัวรถ Ford Ranger อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและการตั้งค่าของรถ Ford Ranger รุ่นที่พบมากจะมีความยาวประมาณ 5,370 มิลลิเมตร
Q
วิธีเริ่มต้นฟอร์ดเรนเจอร์ด้วยกุญแจ fob
วิธีการสตาร์ทรถ Ford Ranger ด้วยกุญแจ fob มีขั้นตอนดังนี้: เริ่มต้นด้วยการใส่กุญแจ fob เข้าไปในช่องกุญแจ จากนั้นเหยียบเบรก และกดปุ่มสตาร์ทเพื่อเริ่มเครื่องยนต์ อย่างไรก็ตาม รุ่นและการตั้งค่าที่แตกต่างกันในแต่ละปีอาจมีความแตกต่างในขั้นตอนการสตาร์ท
Q
วิธีการจัดการเริ่มต้นของ Ford Ranger
วิธีการสตาร์ทรถ Ford Ranger ปกติจะเป็นดังนี้: เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถอยู่ในตำแหน่งเกียร์ P จากนั้นเหยียบเบรก ใส่กุญแจและหมุนไปที่ตำแหน่ง "ON" เพื่อให้รถทำการตรวจสอบระบบ (self-test) และไฟในแผงหน้าปัดจะติดขึ้น เมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ให้ตรวจสอบความปลอดภัยของบริเวณรอบรถ แล้วหมุนกุญแจไปที่ตำแหน่ง "START" เพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์เริ่มทำงานแล้ว ให้ปล่อยกุญแจให้หมุนกลับอัตโนมัติ ควรคำนึงถึงความถูกต้องและความปลอดภัยระหว่างการสตาร์ท
Q
ฟิวส์สำหรับจุดบุหรี่ใน Ford Ranger ตั้งอยู่ที่ตรงไหน
ใน Ford Ranger ปลั๊กจุดบุหรี่โดยทั่วไปจะตั้งอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุมกลาง ใกล้กับคันเกียร์ แต่ตำแหน่งที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและล็อตการผลิต