Q

BMW X1 น้ำหนักเท่าไหร่

น้ำหนักของ BMW X1 จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ตกแต่งและรุ่นเฉพาะ โดยทั่วไปน้ำหนักตัวรถจะอยู่ที่ประมาณ 1,575 กิโลกรัม และน้ำหนักของรุ่น xDrive จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,935 กิโลกรัม
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
BMW X1 มีพลังมากไหม
BMW X1 ในฐานะเอสยูวีหรูขนาดกะทัดรัดมีสมรรถนะที่โดดเด่น เหมาะกับการใช้งานทั้งในเมืองและชานเมืองของไทย รุ่นที่จำหน่ายในไทยมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 192 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้อัตราเร่งนุ่มนวลและตอบสนองรวดเร็ว รองรับทั้งการขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่ต้องหยุดออกตัวบ่อยและการปีนเขาในเชียงใหม่ได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ให้เลือก เพิ่มการยึดเกาะถนนในฤดูฝนหรือเส้นทางกึ่งออฟโรด ด้านความประหยัดน้ำมันก็ทำได้ดี สร้างสมดุลระหว่างสมรรถนะกับค่าใช้จ่ายในการใช้งานจริง สำหรับกลุ่มรถระดับเดียวกันมีคู่แข่งอย่าง Mercedes Benz GLA และ Audi Q3 แต่ BMW X1 โดดเด่นกว่าด้วยความกว้างขวางและการใช้งานจริง พื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 505 ลิตรเหมาะกับครอบครัว ระบบปรับอากาศเย็นเร็วและมีประสิทธิภาพในสภาพอากาศร้อนของไทย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน
Q
BMW X1 ผลิตที่ไหน
รถ BMW X1 นั้นมีการกระจายฐานการผลิตไปยังหลายภูมิภาคทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นโรงงานในเมืองเรเกนส์บูร์ก ประเทศเยอรมนี โรงงานเฉิ่นหยางเที่ยซีในประเทศจีน (ความร่วมมือกับ Brilliance Auto) หรือโรงงานเจนไนในอินเดีย โดยจุดผลิตจริงจะขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดเป้าหมาย สำหรับตลาดไทยในปัจจุบัน รถ BMW X1 ที่จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นการนำเข้า ซึ่งอาจมาจากฐานการผลิตในเยอรมนีหรือจีน โดยสามารถตรวจสอบแหล่งผลิตแต่ละล็อตได้จากอักขระตัวที่ 11 ของรหัส VIN ในตลาดไทย BMW X1 ถือเป็น SUV คอมแพคต์ระดับพรีเมียมที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ด้วยเลย์เอาท์ภายในที่ออกแบบมาอย่างคล่องตัวและระบบขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นรุ่น sDrive18i ที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิเตอร์ 3 สูบเทอร์โบ หรือรุ่น xDrive25Li ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิเตอร์ 4 สูบเทอร์โบ สำหรับผู้ใช้งานในไทยควรให้ความสนใจเกี่ยวกับนโยบายการบริการหลังการขายของรถนำเข้า โดยตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ BMW ประเทศไทยมักมีโปรแกรมประกันครอบคลุม 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมคำแนะนำเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น เช่น การตรวจสอบระบบแอร์และสารเคลือบป้องกันการกัดกร่อนเป็นประจำ หากกำลังพิจารณาซื้อผ่านช่องทางนำเข้าแบบขนาน (Parallel Import) ควรศึกษาค่าใช้จ่ายด้านภาษีและความพร้อมของเครือข่ายบริการเพิ่มเติม แนะนำให้เลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ BMW ประเทศไทยเพื่อความมั่นใจในบริการที่ครบวงจร
Q
รถ BMW X1 เป็นรถที่ปลอดภัยหรือไม่
BMW X1 ในตลาดประเทศไทยถือเป็น SUV ระดับหรูขนาดกะทัดรัดที่โดดเด่นเรื่องความปลอดภัย ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและพาสซีฟมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ (EBD) และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (DSC) ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการขับขี่ในสภาพการจราจรที่วุ่นวายของเมืองไทยและถนนลื่นในช่วงฤดูฝนได้เป็นอย่างดี จากการทดสอบของกรมทางหลวงไทย ตัวถังของ X1 สามารถดูดซับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อปกป้องผู้โดยสาร ส่วนคนไทยแล้ว X1 เหมาะมากกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ เพราะระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาระยะเลนส์จะช่วยลดความเสี่ยงการชนท้ายได้อย่างดี ที่น่าสนใจคือ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ X1 ผ่านการทดสอบในสภาพอากาศร้อนจัดของไทยมาแล้ว ดังนั้นมั่นใจได้เรื่องความทนทาน หากมีงบประมาณแนะนำให้เลือกรุ่นที่ติดตั้งระบบ cruise control อัจฉริยะและระบบเตือนจุดบอด ซึ่งมีประโยชน์มากเวลาขับทางไกลในไทย อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของรถทุกคันขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาสม่ำเสมอและการขับขี่ที่ถูกต้อง แนะนำให้เจ้าของรถในไทยตรวจสอบระบบเบรกเป็นพิเศษก่อนเข้าฤดูฝน
Q
อะไรที่พิเศษเกี่ยวกับ BMW X1
BMW X1 เป็น SUV ระดับหรูขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยขนาดตัวรถที่คล่องตัวและระบบขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง เหมาะสมกับสภาพถนนในเมืองที่คับคั่งอย่างกรุงเทพฯ เป็นอย่างดี เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จให้กำลังแรงแต่ยังประหยัดน้ำมัน พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ที่ช่วยให้ขับเคลื่อนทั้งในเมืองและรับมือกับถนนลื่นช่วงฤดูฝนหรือเส้นทางภูเขารอบเชียงใหม่ได้อย่างมั่นใจ ภายในห้องโดยสารหรูหราด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมหน้าจอกลาง 10.25 นิ้วที่รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในไทย ที่นั่งแถวหลังปรับเลื่อนได้ถึง 13 ซม. และพื้นที่เก็บสัมภาระขยายจาก 505 ลิตรเป็น 1,550 ลิตร เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวหรือช้อปปิ้งแบบครอบครัวที่คนไทยชอบ นอกจากนี้ BMW X1 ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายครอบคลุมในเมืองใหญ่ ค่าบำรุงรักษาค่อนข้างสมเหตุสมผล และมีอัตราการครองรถสูงกว่ารุ่นเดียวกันในระดับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนไทยที่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในระยะยาว เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLA ที่เน้นดีไซน์สไตล์หรือ Audi Q3 ที่โดดเด่นด้วย Virtual Cockpit แล้ว BMW X1 ยังคงมีความได้เปรียบในเรื่องความประหยัดพื้นที่และความสนุกในการขับขี่
Q
ฉันจะชาร์จ BMW X1 ของฉันที่บ้านได้อย่างไร
สำหรับลูกค้าที่จะชาร์จ BMW X1 รุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่บ้าน สิ่งแรกที่ต้องเช็คคือรถของคุณต้องเป็นรุ่น PHEV นะครับ ในไทยเราจะมีวิธีชาร์จหลักๆ 2 แบบ แบบแรกคือใช้สายชาร์จแบบ Mode 2 ที่มากับตัวรถเสียบกับปลั๊กบ้าน 220V ธรรมดา ใช้เวลาชาร์จเต็มประมาณ 6-8 ชั่วโมง เหมาะสำหรับชาร์จตอนกลางคืน แต่ถ้าอยากชาร์จเร็วขึ้น แนะนำให้ติดตั้งวอลล์บ็อกซ์แบบติดผนัง เช่น BMW i Wallbox โดยต้องจ้างช่างไฟฟ้ามาติดตั้งสายไฟพิเศษและขออนุญาตจากการไฟฟ้านครหลวง (MEA) หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ก่อน วิธีนี้จะชาร์จเต็มภายใน 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น เวลาติดตั้งที่ไทยต้องระวังเรื่องแรงดันไฟในบ้านด้วยนะ ควรอยู่ที่ 220V-240V และเลือกอุปกรณ์ที่มีระบบป้องกันฟ้าผ่าและกันโอเวอร์โหลดด้วย เพราะอากาศเมืองร้อนแบบไทยๆ อาจมีปัญหากระแสไฟกระชาก ส่วนใครอยู่คอนโดต้องขออนุญาตเจ้าของอาคารก่อนติดตั้งนะครับ ก่อนชาร์จทุกครั้งอย่าลืมเช็คให้ช่องชาร์จและหัวชาร์จแห้งสนิท โดยช่องชาร์จของ BMW X1 จะอยู่ที่ฝากระโปรงหน้าด้านซ้าย เวลาชาร์จสามารถเช็คสถานะผ่านแอป My BMW ได้เลย ตอนนี้ในไทยเริ่มมีสถานีชาร์จสาธารณะมากขึ้นแล้วนะ ทั้งตามห้างในกรุงเทพ เชียงใหม่ และศูนย์บริการ BMW ของจริง ถ้าจะเดินทางไกลแนะนำให้ใช้แอปอย่าง PlugShare เพื่อวางแผนเส้นทางล่วงหน้า สุดท้ายนี้ถ้าต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ควรเก็บแบตเตอรี่ให้อยู่ที่ระดับ 30%-80% จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ และในสภาพอากาศร้อนแบบไทย แนะนำให้เลือกชาร์จรถในที่ร่มจะดีที่สุดครับ
Q
วิธีตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ใน BMW X1
ในประเทศไทย การตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ของ BMW X1 สามารถทำได้หลายวิธี วิธีที่ง่ายที่สุดคือการตรวจสอบผ่านระบบ iDrive ในรถ โดยเข้าไปที่เมนู "ข้อมูลรถ" แล้วเลือก "สถานะรถ" คุณจะเห็นการแสดงระดับแบตเตอรี่ วิธีนี้สะดวกและรวดเร็ว เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่จากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชันทางการของ BMW อย่าง "My BMW" ซึ่งฟังก์ชันนี้มีประโยชน์มากในสภาพอากาศร้อนของไทย เพราะความร้อนสูงอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ แนะนำให้เจ้าของรถในไทยตรวจสอบอย่างน้อยเดือนละครั้ง และหากมีไฟเตือนแบตเตอรี่ขึ้นที่หน้าปัดรถ แสดงว่าอาจมีปัญหาที่ต้องแก้ไขทันที ในไทยมีศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ BMW หลายแห่ง เช่น Bavaria Auto Group ที่ให้บริการตรวจสอบแบตเตอรี่ฟรี สำหรับรถที่จอดทิ้งไว้นาน แนะนำให้ใช้เครื่องชาร์จอัจฉริยะเพื่อรักษาระดับแบตเตอรี่ เพราะทั้งฤดูฝนและอากาศร้อนในไทยเร่งให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น การตรวจสอบเป็นประจำจึงสำคัญมาก แบตเตอรี่แบบ AGM ที่ติดตั้งใน BMW X1 นั้นทำงานได้ดีในตลาดไทย แต่โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานประมาณ 3-4 ปี หากพบว่ามีปัญหาการสตาร์ทรถยากหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานผิดปกติ ควรพิจารณาตรวจสอบหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้แล้ว
Q
การชาร์จ BMW X1 ให้เต็มใช้เวลานานเท่าไหร่
เวลาชาร์จไฟของ BMW X1 นั้นขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ชาร์จและความจุแบตเตอรี่ที่ใช้ ในประเทศไทย หากชาร์จด้วยไฟฟ้าบ้าน 220V แบบปกติ ด้วยเครื่องชาร์จมาตรฐาน (ประมาณ 3.7kW) สำหรับรุ่นปลั๊กอินไฮบริด X1 xDrive25e จะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงในการชาร์จเต็ม ส่วนรุ่นไฟฟ้า 100% อย่าง iX1 (หากมีการนำเข้ามาขายในไทย) หากใช้ Wallbox 7.4kW จะใช้เวลาประมาณ 6.5 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้สถานีชาร์จเร็ว DC 50kW ที่มีให้บริการในบางห้างสรรพสินค้าหรือปั๊มริมทางด่วนในไทย สามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศร้อนของไทยอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพการชาร์จลดลงเล็กน้อย แนะนำให้ชาร์จในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อลดการทำงานของระบบป้องกันความร้อนสูงของแบตเตอรี่ นอกจากนี้ การติดตั้ง Wallbox ที่บ้านในไทยต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ดังนั้นควรซื้ออุปกรณ์ชาร์จผ่านช่องทางทางการของ BMW ประเทศไทยเพื่อความมั่นใจในความเข้ากันได้ สำหรับผู้ใช้รถไฟฟ้า ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีเครือข่ายสถานีชาร์จที่ขยายตัวเร็วมาก สามารถตรวจสอบตำแหน่งสถานีชาร์จแบบเรียลไทม์ผ่านแอป BMW ConnectedDrive เพื่อวางแผนการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไฮบริดหรือรุ่นไฟฟ้า 100% การดูแลระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอและการหลีกเลี่ยงการชาร์จเต็ม 100% เป็นเวลานาน จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากในสภาพอากาศร้อนชื้นตลอดปีของไทย
Q
ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในรถ BMW X1 เท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถ BMW X1 ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามประเภทของแบตเตอรี่และศูนย์บริการ โดยทั่วไปแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดราคาอยู่ที่ประมาณ 5,000 ถึง 10,000 บาท แต่ถ้าเป็นรถแบบไฮบริดที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ค่าใช้จ่ายอาจสูงถึง 50,000 ถึง 100,000 บาทหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่และการเลือกใช้อะไหล่แท้หรืออะไหล่ทดแทน แนะนำให้ไปเปลี่ยนที่ศูนย์บริการออริจินัลของ BMW เพื่อให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่เข้ากับรถได้ดีและได้รับบริการรับประกัน นอกจากนี้ในไทยยังมีศูนย์ซ่อมขนาดใหญ่บางแห่งที่เสนอแบตเตอรี่ทดแทนคุณภาพดีในราคาที่ถูกกว่า สิ่งสำคัญคือควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทยที่ความร้อนสูงอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น จึงควรตรวจเช็คกับช่างมืออาชีพทุก 2 ปีเพื่อป้องกันปัญหากะทันหัน และหากรถมีระบบสตาร์ตอัตโนมัติ ต้องเลือกแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาสำหรับระบบนี้โดยเฉพาะเพื่อให้การทำงานเป็นปกติ
Q
กลุ่มเป้าหมายของ BMW X1 คือใคร
ตลาดเป้าหมายของ BMW X1 คือกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาวในเมืองที่มองหารุ่นหรูแต่ยังคงความใช้งานได้จริง โดยเฉพาะในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างไทย X1 ด้วยขนาดที่กะทัดรัดของ SUV Compact และการขับที่สูง ทำให้เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันในกรุงเทพฯ เป็นอย่างดี กลุ่มลูกค้าหลักมักเป็นคนวัย 30-45 ปีที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง ให้ความสำคัญกับแบรนด์แต่ก็ต้องการรถที่เหมาะกับการใช้งานในครอบครัว โดย X1 มีพื้นที่เบาะหลังและระบบเก็บของที่ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดเล็ก ในตลาดไทย X1 ยังเป็นที่นิยมในกลุ่มที่ชอบความรู้สึกการขับของรถเยอรมันแต่มีงบจำกัด เพราะราคาของ X1 นั้นเข้าถึงได้ง่ายกว่ารุ่นอื่นๆ ของ BMW นอกจากนี้ ประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมันและตัวเลือก Hybrid ยังตรงกับความต้องการของคนไทยที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถพลังงานใหม่มากขึ้น ทำให้ X1 รุ่น Plug-in Hybrid น่าจะดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อที่คิดถึงความยั่งยืนด้วย คู่แข่งของ BMW X1 ในไทยได้แก่ Mercedes-Benz GLA และ Audi Q3 แต่ X1 ยังคงโดดเด่นด้วยสมรรถนะที่ครบครันและความคุ้มค่า จนสามารถยืนหยัดในตลาดนี้ได้อย่างมั่นคง
Q
แบตเตอรี่ของ BMW X1 มีอายุการใช้งานนานเท่าไร
แบตเตอรี่ของ BMW X1 มีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 3 ถึง 5 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้รถและสภาพอากาศของไทยซึ่งเป็นเขตร้อนชื้นอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ควรตรวจเช็กสภาพแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงการจอดตากแดดนาน รุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่ AGM คุณภาพสูงที่มีสมรรถนะดีในการสตาร์ทและรองรับการคายประจุลึกเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองที่มีการหยุดและออกตัวบ่อย เพื่อยืดอายุการใช้งานควรหลีกเลี่ยงการขับระยะสั้นเกินไปเพราะทำให้แบตเตอรี่ชาร์จไม่เต็ม และควรตรวจเช็กแบตเตอรี่ทุกสองปีโดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน หากพบการสตาร์ทยากหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าตอบสนองช้าลงอาจเป็นสัญญาณของแบตเตอรี่เสื่อมควรเข้าศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตทันที ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะของบีเอ็มดับเบิลยูช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้แบตเตอรี่โดยการเก็บพลังงานจากการเบรกเพื่อลดภาระ สำหรับผู้ใช้ในไทยการเลือกใช้แบตเตอรี่แท้หรือของทดแทนคุณภาพสูงตามมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญเพราะสภาพถนนและภูมิอากาศมีความท้าทาย การเปลี่ยนไม่ถูกต้องอาจกระทบต่อเสถียรภาพของระบบไฟฟ้ารถยนต์

ข้อดี

1. ราคาเหมาะสมที่คนทั่วไปสามารถรับได้ อยู่ในช่วงราคา 1999000 - 2559000 บาท
2. ดีไซน์น่าสนใจเป็นแบบฉบับของ SUV ที่กำลังนิยมในขณะนี้ จับคู่มหาศาลและความโดดเด่นอย่างสมบูรณ์แบบ
3. มีประเภทของพลังงานที่หลากหลายทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล สามารถตอบสนองความต้องการทุกอย่าง ขับขี่มันส์และประหยัดน้ำมัน
4. บริการหลังการขาย การรับประกันและอะไหล่ที่ดีทั่วไป ศูนย์บริการมีการครอบคลุมทั่วไป ความสะดวกในการบริการ

ข้อเสีย

1. ช่องว่างภายในรถเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันค่อนข้างแคบ
2. ค่าซ่อมบำรุงสูงกว่ารถจากญี่ปุ่น, นั่นคือการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง, รถจากญี่ปุ่นทุกครั้งคือหลายพันบาททุกครั้ง, รถยุโรปทุกครั้งมากกว่าหนึ่งหมื่นบาท
3. ระบบความปลอดภัยเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันน้อยกว่า

Q&A ล่าสุด

Q
Mazda CX-30 ปี 2020 เป็นรถเก๋งหรือ SUV?
มาสด้า CX-30 รุ่นปี 2020 เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ผสมผสานระหว่างความคล่องตัวของรถเก๋งกับประโยชน์ใช้สอยของ SUV ตัวรถสูงกว่ารถเก๋งทั่วไปและมีระยะลอยตัวมากขึ้น เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบในไทย ทั้งในเมืองและทางต่างจังหวัดเป็นครั้งคราว CX-30 มาพร้อมดีไซน์ KODO ที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า ภายนอกดูคล่องแคล่วเร้าใจ ส่วนภายในออกแบบเน้นความหรูหราและการใช้งานที่ลงตัว ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Skyactiv-G ที่ให้ทั้งพลังและประหยัดน้ำมัน จึงเหมาะมากสำหรับคนไทยทั้งการเดินทางประจำวันและการใช้ครอบครัว ในตลาดไทย CX-30 มีคู่แข่งอย่างฮอนด้า HR-V และโตโยต้า C-HR แต่ด้วยดีไซน์เฉพาะตัวและความสนุกในการขับที่มาสด้าขึ้นชื่อ ก็ทำให้รถรุ่นนี้ได้รับความนิยมไม่น้อย ถ้าคุณกำลังมองหา SUV ที่มีพื้นที่กว้างแต่ยังคงความรู้สึกการขับเหมือนรถเก๋ง CX-30 ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตัวเองนะ
Q
CX-30 ปี 2020 มีเบาะนั่งอุ่นหรือไม่?
รุ่น Mazda CX-30 ปี 2020 ในบางรุ่นย่อยระดับสูงมีการติดตั้งระบบเบาะร้อนบริเวณที่นั่งหน้าซึ่งในสภาพอากาศร้อนของไทยอาจดูเหมือนไม่ค่อยได้ใช้งาน แต่จริงๆแล้วเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากโดยเฉพาะในเขตภาคเหนือหรือช่วงฤดูฝนที่อากาศเย็นสบาย อย่างเช่นในจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ที่มีอุณหภูมิแตกต่างระหว่างกลางวันและกลางคืนค่อนข้างมาก โดยปกติแล้วเบาะร้อนของ CX-30 จะมาพร้อมกับรุ่น GT SP หรือรุ่นท็อปเท่านั้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลการติดตั้งอุปกรณ์ในรุ่นที่ต้องการผ่านเครื่องมือกำหนดแต่งรถบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Mazda ประเทศไทยหรือสอบถามกับตัวแทนจำหน่ายโดยตรง สำหรับผู้บริโภคไทยควรทราบว่าการจัดแต่งอุปกรณ์รถยนต์ในเขตร้อนชื้นจะแตกต่างจากประเทศเขตหนาว รุ่นระดับโลกอย่าง CX-30 ก็มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การติดตั้งอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับตลาดท้องถิ่น เช่นอาจเน้นไปที่เบาะระบายอากาศมากกว่าเบาะร้อน หากรุ่นที่คุณเลือกไม่ได้ติดตั้งเบาะร้อนมาตรฐาน ในไทยก็มีร้านแต่งรถมืออาชีพที่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมให้ได้ในระดับมาตรฐานโรงงาน แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการรักษาสิทธิประกันระบบไฟฟ้าของรถด้วย ส่วนในรุ่นคู่แข่งอย่าง Toyota C-HR หรือ Honda HR-V ที่วางขายในตลาดไทยก็มักจะมีตัวเลือกเบาะร้อนในรุ่นระดับสูงเช่นกัน จนตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เพิ่มความสะดวกสบายที่พบเห็นได้ทั่วไปในรถ SUV ระดับกลางถึงสูงของไทยแล้ว
Q
Mazda CX-30 ปี 2020 เป็นรถที่ปลอดภัยหรือไม่?
มาสด้า CX-30 รุ่นปี 2020 มีความโดดเด่นในด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะการใช้งานบนเส้นทางทั้งในเมืองและต่างจังหวัดของไทยที่ค่อนข้างซับซ้อน รุ่นนี้ได้รับคะแนนความปลอดภัย 5 ดาวจาก Euro NCAP และมาพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูงแบบมาตรฐาน เช่น ระบบช่วยเบรกในเมือง (SCBS) และระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (LAS) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ดีทั้งในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ หรือเส้นทางคดเคี้ยวในภาคเหนือ ตัวถังผลิตจากเหล็กความแข็งแรงสูง พร้อมถุงลมนิรภัย 7 จุด ที่ช่วยปกป้องผู้โดยสารอย่างรอบด้าน ที่พิเศษไปกว่านั้น CX-30 ที่จำหน่ายในไทยยังได้รับการปรับปรุงระบบระบายความร้อนและความทนทานของยางให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้น แถมยังประหยัดน้ำมันด้วยเทคโนโลยี Skyactiv-Vehicle Dynamics ที่ตอบโจทย์ในยุคน้ำมันราคาสูง ส่วนระบบช่วงล่างแบบ Torsion Beam ก็เหมาะกับถนนบางสายในไทยที่ขรุขระเล็กน้อย อย่างไรก็ตามแนะนำให้ผู้ใช้ในไทยตรวจสอบสภาพช่วงล่างเป็นประจำหลังฤดูฝน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานระยะยาว
Q
GR Corolla ปี 2024 ราคาเท่าไร?
รถโตโยต้า GR Corolla รุ่นปี 2024 ในไทยคาดว่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 2.5-3 ล้านบาท โดยราคาสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เสริมและตัวเลือกที่ลูกค้าเลือก รถฮัทช์แบคสปอร์ตคันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 300 แรงม้า ทำงานคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ GR-Four ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความมันส์ในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย โตโยต้าได้ปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้ทำงานได้ดีแม้ขับแบบสุดเหวี่ยง แถมยังมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกเช่นท่อไอเสียสปอร์ตและหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์สำหรับคนที่ต้องการอัปเกรดความสปอร์ตอีกด้วย แต่อย่าลืมว่าราคารถนำเข้าในไทยจะสูงกว่าที่ญี่ปุ่นพอสมควรเพราะเรื่องภาษีนำเข้า สำหรับใครที่สนใจ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนโชว์รูมโตโยต้าในไทยเพื่อสอบถามราคาล่าสุดและนัดทดลองขับ ส่วนคู่แข่งในตลาดไทยก็จะมีรถสปอร์ตอย่างฮอนด้า ซีวิค Type R แต่ GR Corolla ก็ยังมีความพิเศษตรงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและแบรนด์ GR ที่ทำชื่อเสียงไว้อยู่ ไม่แปลกที่จะเป็นที่จับตามองของสายสปอร์ตไทยแน่นอน
Q
2024 GR Corolla มีแรงม้าเท่าไหร่
GR Corolla รุ่นปี 2024 มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ GR-FOUR แบบเต็มเวลา การแสดงสมรรถนะนั้นยอดเยี่ยมมาก เหมาะกับสภาพถนนทั้งในเมืองและทางเขาของประเทศไทยแบบผสมผสาน รุ่นนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดไทย เพราะไม่เพียงแต่มีกำลังที่แข็งแกร่ง แต่ยังมีการควบคุมที่คล่องตัว เหมาะสำหรับคนรักการขับขี่ที่ต้องการความสนุกสนาน GR Corolla ในฐานะรุ่นสมรรถนะสูงจากซีรีส์ GR ของโตโยต้า ใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่พัฒนามาจากรถแรลลี่ พร้อมระบบระบายความร้อนและระบบไอดีที่ทันสมัย รับรองว่าสามารถทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย นอกจากนี้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อยังมีโหมดขับขี่หลายแบบ สามารถปรับการกระจายกำลังตามสภาพถนนได้ ทั้งถนนลื่นและทางโค้ง都能ให้การยึดเกาะที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้บริโภคไทยแล้ว GR Corolla ไม่ใช่แค่รถใช้ในชีวิตประจำวันที่ใช้งานได้จริง แต่ยังตอบโจทย์การขับขึ้นเขาหรือสนามแข่งในวันหยุดได้เป็นอย่างดี ถือเป็นรุ่นยอดนิยมที่รวมความแรงและความ实用性ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
ดูเพิ่มเติม