Q
ความกว้างของ Nissan Serena คือเท่าไร
Nissan Serena มีความกว้างของตัวรถอยู่ที่ 1,740 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ทั้งสามารถขับผ่านถนนแคบในกรุงเทพฯ ได้สะดวก และยังให้พื้นที่ภายในที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสาร 7 คน จึงเป็นรถ MPV ที่ได้รับความนิยมไม่น้อยในไทย ทั้งในกลุ่มครอบครัวและผู้ประกอบการที่ใช้รับส่งผู้โดยสาร
ความกว้างระดับนี้ยังช่วยให้การจอดรถหรือขับสวนในที่แคบเป็นเรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อใช้ในที่จอดแบบจำกัดซึ่งพบได้ทั่วไปในไทย จุดเด่นอีกอย่างคือ Serena มาพร้อมประตูเลื่อนคู่ซ้าย–ขวาแบบไฟฟ้า ช่วยให้ขึ้น–ลงรถได้สะดวกแม้ในที่แคบ เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกบ่อยของไทย
เมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน เช่น Toyota Noah หรือ Honda Stepwgn จะพบว่าความกว้างตัวรถส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 1,700–1,750 มิลลิเมตร ซึ่งถือเป็นขนาดมาตรฐานของ MPV ที่ตอบโจทย์การใช้งานในไทย นอกจากนี้ เวลาซื้อรถ MPV ควรดูเรื่องความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถด้วย เพราะบางพื้นที่ในไทยมีน้ำขังในฤดูฝน โดย Serena มีความสูงจากพื้นประมาณ 165 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ดีพอสมควร
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Nissan Serena มีอะไรบ้าง
สำหรับรถยนต์ Nissan Serena ที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยในฐานะรถ MPV จุดด้อยหลักๆ คือพื้นที่ขาที่แถวสามค่อนข้างจำกัด สำหรับผู้โดยสารที่ตัวสูงอาจรู้สึกไม่สะดวกสบายนัก โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกล นอกจากนี้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แบบดูดธรรมดาแม้จะขับเคลื่อนได้ลื่นไหลในเมือง แต่เมื่อบรรทุกเต็มคันหรือต้องการแซงบนทางหลวงจะรู้สึกว่าแรงส่งไม่ค่อยพอ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสบการณ์การขับขี่ ในสภาพอากาศร้อนของไทย ผู้ใช้บางส่วนยังรายงานว่าระบบแอร์ที่แถวสามทำความเย็นได้ไม่ดีเท่าแถวหน้า สิ่งนี้อาจกระทบความสะดวกสบายของผู้โดยสารแถวหลัง ด้านการตั้งค่าสปริงของ Serena นั้นเน้นความนุ่มสบาย แต่เมื่อขับบนถนนสภาพไม่ดีบางแห่งในไทย ตัวรถจะโคลงเคลงค่อนข้างชัดเจน ทำให้ความมั่นคงในการควบคุมด้อยกว่ารุ่นคู่แข่งบางรุ่นในระดับเดียวกัน ข้อที่น่าสนใจคือผู้บริโภคไทยมักให้ความสำคัญกับความทนทานและความสะดวกในการซ่อมบำรุงของรถยนต์ ในขณะที่ราคาอะไหล่ของ Serena ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนการใช้รถในระยะยาว สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถ MPV ในตลาดไทย นอกจากจะต้องสนใจเรื่องพื้นที่และความสะดวกสบายแล้ว ยังควรพิจารณาสถานการณ์การใช้ชีวิตประจำวันด้วย เช่น จำเป็นต้องใช้รถแบบเต็มคันบ่อยแค่ไหน หรือการเปรียบเทียบระหว่างกำลังเครื่องยนต์และความประหยัดน้ำมัน เพราะปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อประสบการณ์การใช้รถในระยะยาว
Q
Nissan Serena จัดอยู่ในรถประเภทไหน
Nissan เซเรน่า ในตลาดไทยจัดอยู่ในกลุ่มรถ MPV (Multi-Purpose Vehicle) ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในครอบครัวและธุรกิจ เซเรน่ามีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 8 ที่นั่ง พร้อมระบบขับเคลื่อนที่ประหยัดน้ำมันทั้งแบบเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และระบบไฮบริด ซึ่งตรงกับความต้องการของคนไทยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องประหยัดน้ำมันเป็นหลัก นอกจากนี้ การออกแบบประตูสไลด์และพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางยังเหมาะกับสภาพการจอดรถในเมืองที่จำกัด และการเดินทางไกลของครอบครัวคนไทย
ในตลาดไทย รถ MPV เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะรุ่นที่ผสมผสานความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยเหมือนเซเรน่า มักถูกนำไปใช้ทั้งเป็นรถครอบครัวและรับรองลูกค้าระดับเล็ก เมื่อเทียบกับโตโยต้า อินโนวา หรือฮอนด้า ฟรีด แล้ว เซเรน่ามีจุดเด่นในเรื่องเทคโนโลยีไฮบริดและการจัดวางพื้นที่ภายในที่ยืดหยุ่นกว่า แต่การเลือกรถก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคนด้วย
เวลาคนไทยเลือกซื้อ MPV มักจะดูเรื่องความประหยัดน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา และมูลค่าเมื่อขายต่อ ซึ่งเซเรน่าก็ตอบโจทย์ได้ดีทุกด้าน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่กำลังมองหารถครอบครัวที่ใช้งานได้หลากหลาย
Q
Nissan Serena มือสองราคาเท่าไหร่
ราคารถมือสอง Nissan Serena จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุรถ ระยะทางที่ใช้งาน สภาพรถ และความต้องการในตลาดรถมือสอง ยกตัวอย่างรุ่น Nissan Serena 2.0 S Hybrid 2024 ราคาประจำรุ่นอยู่ที่ 1,469,000 บาท ถ้าเป็นรถอายุน้อย ใช้งานไม่มาก สภาพยังดีอยู่ ก็อาจจะขายต่อได้ในราคาดี แต่ถ้าเป็นรถที่ใช้งานมานานหลายปี ระยะทางสูง มีร่องรอยการเสียหายหรือเคยเกิดอุบัติเหตุ ราคาก็จะตกฮวบฮาบ ส่วนรุ่นล่าสุดอย่าง Nissan Serena e-Power Highway Star 2025 ที่วางจำหน่ายเดือนมีนาคม 2025 ราคา 1,690,000 บาท ถือเป็นรุ่นใหม่ที่อาจจะทรงตัวในตลาดมือสองได้ค่อนข้างดี โดยทั่วไปแล้วถ้าขายภายใน 1-2 ปีแรก สภาพรถยังสมบูรณ์ดี อาจจะขายต่อได้ราคาประมาณ 80% ของราคาใหม่ แต่หลังจากนั้นมูลค่าก็จะค่อยๆ ลดลงตามระยะเวลาการใช้งาน
Q
Nissan Serena มีกี่ซีซี
รถยนต์ Nissan Serena มีหลายรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ต่างขนาดกัน รุ่น Nissan Serena e-Power Highway Star 2025 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1433cc จัดอยู่ในระบบไฮบริดซีรีส์ 1.4L โดยใช้เครื่องยนต์ 3 สูบรหัส HR14DDe ส่วนรุ่น Nissan Serena 2.0 S Hybrid 2024 มีความจุเครื่องยนต์ 1997cc หรือก็คือ 2.0L แบบดูดอากาศธรรมชาติ ขนาดเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันส่งผลต่อสมรรถนะและความประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์ขนาดเล็กอย่าง 1.4L จะประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับการขับขี่ในเมืองประจำวัน ในขณะที่เครื่องยนต์ 2.0L ขนาดใหญ่จะให้กำลังสูงกว่า ช่วยในการเร่งและบรรทุกหนักได้ดีกว่า ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามความต้องการและสไตล์การขับขี่ของตัวเอง
Q
เครื่องยนต์ใน Nissan Serena คืออะไร
รถยนต์ Nissan Serena มีหลายรุ่นด้วยกัน และแต่ละรุ่นก็ใช้เครื่องยนต์ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่น Nissan Serena e-Power Highway Star 2025 จะใช้ระบบไฮบริดแบบซีรีส์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบ HR14DDe ความจุ 1.4 ลิตร (1433cc) ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct-injection หรือระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงตรง อัตราส่วนอัด 13.0:1 ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที และแรงบิด 123 นิวตันเมตร โดยเครื่องยนต์นี้ทำหน้าที่หลักในการชาร์จแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ส่วนรุ่น Nissan Serena 2.0 S Hybrid 2024 จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน MR20DD 2.0L แบบปกติ แบบดูดอากาศธรรมชาติ ให้กำลังสูงถึง 150 แรงม้า และแรงบิด 200 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ของ Nissan ด้วยเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันนี้ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่หลากหลาย สามารถเลือกได้ตามความต้องการในการใช้งานและกำลังที่ต้องการ
Q
Nissan Serena ใช้เกียร์อะไร
ในตลาดไทย Nissan Serena ใช้เกียร์ Xtronic CVT ที่โดดเด่นเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน เหมาะมากกับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ เกียร์ CVT ใช้ระบบส่งกำลังด้วยสายพานเหล็ก ทำให้ส่งกำลังต่อเนื่องไม่มีสะดุด ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัด นอกจากนี้เกียร์ของ Serena ยังมีโหมด Manual จำลอง 7 สปีด ให้ความรู้สึกสนุกสนานในการขับขี่มากขึ้น ส่วนเรื่องความทนทาน เกียร์ตัวนี้ได้รับการออกแบบระบบระบายความร้อนเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย ที่สำคัญตลาดไทยยอมรับเกียร์ CVT ค่อนข้างสูงเพราะค่าบำรุงรักษาถูกกว่าเกียร์ AT ทั่วไป แถมยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายของ Nissan ที่ครอบคลุมในไทย แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ CVT ตามที่ผู้ผลิตกำหนดทุก 40,000 กม. เพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนรุ่นแข่งอย่าง Toyota Noah ก็ใช้เกียร์ CVT เช่นกัน แต่การตั้งค่าของแต่ละแบรนด์จะแตกต่างกันไป ลองทดลองขับดูแล้วเลือกให้เหมาะกับสไตล์ตัวเองได้เลย
Q
PCD Nissan Serena เท่าไหร่
สำหรับรถ Nissan Serena ในตลาดไทย ค่า PCD (ระยะวงกลมรูสลักล้อ) จะอยู่ที่ 114.3 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นมาตรฐานหนึ่งของรถรุ่น MPV ที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย และเหมาะกับล้อที่มีสลัก 5 รู ข้อมูลนี้สำคัญมากสำหรับคนไทยโดยเฉพาะเวลาที่ต้องการเปลี่ยนล้อหรืออัพเกรดยางรถยนต์ ต้องมั่นใจว่า PCD ของล้อใหม่ตรงกับสเปคเดิมจากโรงงาน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้การติดตั้งไม่แน่นหนาหรือเกิดอันตรายขณะขับขี่ได้ ในไทยเนื่องจากสภาพถนนค่อนข้างหลากหลาย คนใช้รถหลายคนจึงนิยมอัพเกรดล้อเพื่อเพิ่มความสวยงามหรือการขับขี่ที่ดีขึ้น การรู้ค่า PCD ที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องจำเป็น นอกจาก PCD แล้ว คนไทยยังต้องสนใจค่า Offset (ET) และขนาดรูกลางล้อ (CB) ด้วย เพราะพารามิเตอร์เหล่านี้จะช่วยกำหนดว่าล้อนั้นเหมาะกับรถหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำให้ปรึกษาร้านล้อมืออาชีพหรือที่ศูนย์บริการ Nissan โดยตรง เพราะพวกเขาจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับสเปคที่ถูกต้องและบริการติดตั้งที่เหมาะสม อีกทั้งสภาพอากาศเมืองไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกยังส่งผลต่อการเลือกยางรถยนต์ การเลือกยางที่เหมาะกับสภาพอากาศท้องถิ่นจะช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่
Q
นิสสัน เซเรน่า รองรับ Apple Carplay ไหม
Nissan Serena รุ่นใหม่ล่าสุดที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทย มาพร้อมกับฟังก์ชัน Apple CarPlay ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยในเรื่องการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเข้ากับระบบอินโฟเทนเมนต์ของรถได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานแอปนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ผ่านหน้าจอกลางได้อย่างปลอดภัยและสะดวก โดยเฉพาะในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ ฟีเจอร์อย่างระบบนำทางแบบเรียลไทม์และการสั่งงานด้วยเสียงถือว่ามีประโยชน์มาก
นอกจาก Apple CarPlay แล้ว Serena ยังรองรับระบบ Android Auto เพื่อตอบสนองผู้ใช้งานโทรศัพท์ในทุกระบบ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรถรุ่นนี้ ในตลาดไทย ปัจจุบันรถหลายรุ่นเริ่มติดตั้งระบบเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการผสานเทคโนโลยีรถยนต์เข้ากับอุปกรณ์พกพา Serena เองก็ไม่ตกเทรนด์ โดยระบบของรถยังรองรับการใช้งานภาษาไทย ทั้งในส่วนของระบบสั่งงานด้วยเสียงและแผนที่นำทางภายในประเทศ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของ Nissan ต่อพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคชาวไทยในทุกรายละเอียด
Q
ยางติดรถ Nissan Serena ใช้ยี่ห้ออะไร
ยางติดรถ Nissan Serena ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย อาจแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและระดับการตกแต่ง โดยส่วนใหญ่จะใช้ยางจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น Bridgestone หรือ Dunlop ซึ่งหาซื้อได้ง่ายในไทยและมีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและถนนที่เปียกชื้นบ่อยในไทย
โดยทั่วไป ยางติดรถจากโรงงานจะถูกเลือกโดยคำนึงถึงความทนทาน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความประหยัดน้ำมัน เช่น ยาง Bridgestone ECOPIA ที่ให้ความสมดุลระหว่างการลดแรงต้านการหมุนกับการรีดน้ำในช่วงฤดูฝน
เจ้าของรถควรตรวจสอบสภาพยางเป็นประจำ และเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนยาง นอกจากเลือกยางขนาดเดียวกับของเดิมแล้ว ยังสามารถเลือกใช้แบรนด์อื่นในระดับเดียวกันได้ เช่น Michelin หรือ Goodyear แต่ต้องมั่นใจว่ายางที่เลือกมีค่าดัชนีรับน้ำหนักและความเร็วที่เหมาะสมกับตัวรถ
ในสภาพอากาศร้อนและชื้นของไทย ยางอาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ แนะนำให้ตรวจเช็กยางโดยผู้เชี่ยวชาญทุก 2 ปี และตรวจเช็กลมยางทุกเดือน ควรรักษาระดับลมยางตามค่าที่ระบุไว้บนสติกเกอร์ที่ขอบประตู เพื่อยืดอายุการใช้งานและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
Q
รถ Nissan Serena เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
รถยนต์ Nissan Serena ในตลาดประเทศไทยเป็นรถ MPV สำหรับครอบครัวที่ได้รับความนิยมมาก โดยจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบห้องโดยสารที่กว้างขวางและปรับเปลี่ยนได้สะดวกในรูปแบบ 7 ที่นั่ง เหมาะกับไลฟ์สไตล์ครอบครัวใหญ่ของคนไทย เครื่องยนต์ 2.0L แบบธรรมชาติร่วมกับเกียร์ CVT ให้การขับขี่ที่ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน โดยสิ้นเปลืองน้ำมันราว 13-14 กม./ลิตรในเมือง ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการด้านประโยชน์ใช้สอยของคนไทย เต็มไปด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะเช่น กล้องรอบทิศทางและกุญแจอัจฉริยะ ที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่น อย่างไรก็ตาม การกันเสียงจากพื้นรถยังมีจุดที่ควรพัฒนาเมื่อขับความเร็วสูง และความสบายของที่นั่งแถวสามอาจยังไม่เหมาะกับการเดินทางไกล ในตลาดไทย Serena มีคู่แข่งหลักคือ Toyota Innova และ Honda BR-V แต่ Serena มีจุดต่างที่โดดเด่นคือประตูสไลด์และความสูงจากพื้นรถที่ต่ำกว่า ทำให้ผู้สูงอายุและเด็กขึ้นลงง่าย สำคัญที่ต้องรู้คือรุ่นไทยเป็นพวงมาลัยขวาและตั้งค่าตัวถังเฉพาะสำหรับถนนไทย ส่วนเรื่องค่าตัวในตลาดมือสองอยู่ในระดับปานกลาง ค่าบำรุงรักษาก็ใกล้เคียงกับคู่แข่งรถญี่ปุ่นด้วยกัน เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาประโยชน์ใช้สอย ความคุ้มค่าและความน่าเชื่อถือของแบรนด์
Q&A ล่าสุด
Q
รถ Mazda CX-5 รุ่นปี 2024 มีระบบเปิด-ปิดประตูหลังแบบไม่ใช้มือหรือไม่
รุ่นปี 2024 ของ Mazda CX-5 ในตลาดไทยไม่ได้ติดตั้งระบบเปิด-ปิดประตูหลังอัตโนมัติแบบสัมผัสเท้า (hands-free liftgate) เป็นมาตรฐานทุกรุ่น แต่บางรุ่นที่แพ็กเกจสูงอาจมีปุ่มเปิด-ปิดประตูหลังไฟฟ้าให้ใช้งาน อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นเพื่อยืนยันสเปคที่แน่นอนอีกครั้ง ในสภาพอากาศเมืองไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ระบบประตูหลังไฟฟ้าช่วยอำนวยความสะดวกได้มากเวลาที่คุณมือเต็ม โดยเฉพาะเวลาที่ต้องถือของหนักหลายชิ้น แต่ควรระวังเรื่องความสูงของช่วงล่างรถและความสะอาดของเซนเซอร์ด้วย หากคุณมักต้องขนของขนาดใหญ่เป็นประจำ อาจลองเปรียบเทียบระบบสัมผัสเท้าของคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 หรือ Honda CR-V แต่ต้องเข้าใจว่าแต่ละแบรนด์จะมีการออกแบบพื้นที่สัมผัสและความไวของเซนเซอร์ที่แตกต่างกัน แนะนำให้ทดสอบระบบเปิด-ปิดประตูหลังด้วยตัวเองที่โชว์รูม เพื่อเช็คความเร็วในการตอบสนองและถามถึงระบบป้องกันการทำงานผิดพลาดในช่วงฤดูฝน เพราะรายละเอียดเหล่านี้ส่งผลต่อประสบการณ์ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
Q
รถ Mazda CX-5 รุ่นปี 2024 มีพวงมาลัยแบบให้ความร้อนหรือไม่
Mazda CX-5 รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยรุ่นสูงสุดติดตั้งพวงมาลัยไฟฟ้าอุ่น ช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่ในสภาพอากาศเย็นหรือการใช้แอร์ เหมาะกับพื้นที่ภาคเหนือของไทยเช่นเชียงใหม่ที่อุณหภูมิต่างกันมากระหว่างเช้าและเย็น นอกจากพวงมาลัยอุ่นแล้วยังมีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกลเพื่ออุ่นห้องโดยสาร การติดตั้งเหล่านี้ทำให้ CX-5 มีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับ SUV ญี่ปุ่นรุ่นเดียวกัน พวงมาลัยอุ่นมักอยู่ในชุดอุปกรณ์ฤดูหนาวหรือรุ่นท็อป แนะนำให้ผู้บริโภคในไทยตรวจสอบรายการอุปกรณ์ก่อนซื้อ ด้านเทคนิคพวงมาลัยอุ่นสมัยใหม่ใช้ใยคาร์บอนหรือเส้นลวดความต้านทาน ทำความร้อนเร็ว ใช้พลังงานต่ำไม่กระทบระบบไฟฟ้าของรถ Mazda ยังเน้นอุปกรณ์อำนวยความสะดวก CX-5 ติดตั้งประตูท้ายไฟฟ้า เครื่องเสียง BOSE และเทคโนโลยี Skyactiv ปรับตัวได้กับถนนหลายรูปแบบในไทย ประหยัดน้ำมันได้ดี
Q
วิธีเปิดระบบทำความร้อนใน Mazda CX-5 2024
การเปิดระบบทำความร้อนใน Mazda CX-5 รุ่น 2024 นั้นง่ายมากครับ ขั้นแรกให้สตาร์ทรถและรอจนเกจวัดอุณหภูมิน้ำขึ้นมาถึงระดับปกติ (ประมาณกลางเกจ) จากนั้นกดปุ่ม "AUTO" ที่แผงควบคุมแอร์หรือปรับปุ่มอุณหภูมิไปที่โซนสีแดง (ปกติจะอยู่ที่ 26°C ขึ้นไป) แล้วปรับความแรงลมให้รู้สึกสบายๆ สุดท้ายเลือกโหมดลมออกว่าจะให้เป่าที่เท้าหรือที่หน้าได้ตามชอบ แม้ว่าอากาศไทยจะร้อนแต่ทางเหนือหรือช่วงฤดูฝนอาจเย็นหน่อยแนะนำให้ใช้โหมดออโต้ไว้ก่อนครับ ระบบจะปรับสัดส่วนความเย็น-ร้อนให้อัตโนมัติ ทั้งประหยัดและสบายตัว
ข้อควรระวังคือการเปิดระบบหมุนเวียนอากาศภายในนานๆ อาจทำให้กระจกฝ้าได้ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่ความชื้นสูง แนะนำให้สลับไปใช้ระบบหมุนเวียนภายนอกหรือเปิดระบบไล่ฝ้าบ้าง ส่วนระบบแอร์แบบ Dual Zone ของ CX-5 นี่ดีมากครับ เพราะปรับอุณหภูมิคนขับกับผู้โดยสารแยกกันได้ เหมาะกับครอบครัวไทยที่แต่ละคนอาจชอบอุณหภูมิไม่เหมือนกัน
อย่าลืมเปลี่ยนไส้กรองแอร์ทุก 15,000 กม. ด้วยนะครับ โดยเฉพาะถ้าใช้รถในกรุงเทพฯ ที่ฝุ่นเยอะ จะช่วยให้ระบบแอร์ทำงานมีประสิทธิภาพดีตลอด
Q
2024 Mazda 5 ประหยัดน้ำมันไหม
รุ่นปี 2024 ของ Mazda 5 นั้นให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดีมาก เหมาะกับการใช้งานทั้งในเมืองและเดินทางไกลในไทย ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ Skyactiv-G ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ทำให้即使在สภาพการจราจรติดขัดแบบที่เจอได้บ่อยในไทย ก็ยังคงความประหยัดน้ำมันได้ดี ข้อมูลทางการระบุว่าอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6-7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับและสภาพถนนด้วย สำหรับคนไทยที่กำลังมองหา รถยนต์ Mazda 5 ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Skyactiv ที่ไม่เพียงช่วยประหยัดน้ำมัน แต่ยังให้กำลังขับเคลื่อนที่ตอบโจทย์ ทั้งสภาพถนนที่มีทางขึ้นลงเขาและแบบผสมผสานในไทย ถ้าพูดถึงรถประหยัดพลังงาน ในตลาดไทยก็มีทั้งแบบไฮบริดและไฟฟ้าให้เลือก แต่สำหรับ Mazda 5 รุ่นปี 2024 ที่เป็นรถน้ำมันทั่วไป ก็ยังได้เปรียบในเรื่องค่าบำรุงรักษาและความสะดวกในการหาปั๊มน้ำมัน แนะนำว่าก่อนตัดสินใจซื้อควรลองทดลองขับและประเมินอัตราสิ้นเปลืองจริงจากเส้นทางที่ใช้งานประจำวันด้วยนะครับ
Q
ถังน้ำมันของ Mazda CX-5 รุ่นปี 2024 มีขนาดใหญ่แค่ไหน?
มาสด้า CX-5 รุ่นปี 2024 ถูกออกแบบมาพร้อมถังน้ำมันความจุ 58 ลิตร ซึ่งถือว่าเหมาะกับตลาดไทยมากๆ เพราะตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและเดินทางไกล ปั๊มน้ำมันในไทยมีอยู่ทั่วไปหมด การมีถังน้ำมันขนาดนี้ช่วยลดความถี่ในการเติมลงได้ แถมยังประหยัดน้ำมันได้ดี ช่วยเพิ่มระยะทางได้อีกเยอะ สำหรับคนไทยแล้ว ถังน้ำมันขนาด 58 ลิตรของ CX-5 นี่ถือว่าอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางใหญ่เมื่อเทียบกับ SUV คลาสเดียวกัน เหมาะกับการใช้ทั้งครอบครัวหรือไปเที่ยวต่างจังหวัด อีกอย่างอากาศร้อนๆ ของไทยอาจทำให้น้ำมันระเหยได้ง่าย แนะนำว่าเวลาจอดรถทิ้งไว้นานๆ ควรเติมน้ำมันให้เกินครึ่งถังจะดีกว่า เพื่อลดการสูญเสียน้ำมันจากการระเหย โดยรวมแล้ว มาสด้า CX-5 ออกแบบมาได้ทั้งใช้งานได้จริงและประหยัด คุ้มค่ากับการขับขี่บนถนนไทยและไลฟ์สไตล์คนไทยจริงๆ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nissanยืนยันว่าZ NISMOจะมีเวอร์ชั่นเกียร์ธรรมดา
สุรเดชSep 1, 2025

รถ Nissan R35 GT-R คันสุดท้ายออกจากสายการผลิตอย่างเป็นทางการ สิ้นสุดช่วงการผลิต 18 ปี
พงศธรAug 28, 2025

Nissan Elgrand MPV รุ่นใหม่ถูกถ่ายภาพสอดแนมในประเทศไทย จะเปิดตัวในปี 2026
วิรุฬห์Aug 22, 2025

Nissan เปิดตัว X-Trail NISMO สปอร์ตเอสยูวี เตรียมขายญี่ปุ่น 24 ก.ย.
Kevin WongAug 22, 2025

2026 Nissan Leafในสหรัฐอเมริกาประกาศราคาแล้ว ยังคงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาย่อมเยาที่สุดในพื้นที่
LienAug 21, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย