Q

ราคา Zeekr X คือเท่าไหร่ ราคามันเท่าไหร่?

ซีอิกเอ็กซ์ (Zeekr X) ได้เปิดตัวในไทยแล้ว 2 รุ่นด้วยกัน โดยแต่ละรุ่นมีราคาแตกต่างกัน รุ่น Standard RWD 2024 ราคา 1,199,000 บาท ส่วนรุ่น Flagship AWD 2024 ราคาสูงกว่าเล็กน้อยที่ 1,349,000 บาท ทั้งสองรุ่นเป็นรถไฟฟ้า 100% แต่ให้สมรรถนะที่ต่างกัน เช่น รุ่น Standard RWD ใช้เวลา 5.6 วินาทีในการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในขณะที่รุ่น Flagship AWD ทำได้เร็วกว่าเพียง 3.8 วินาทีเท่านั้น ส่วนเรื่องระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รุ่น Standard RWD วิ่งได้ไกลถึง 540 กม. ส่วนรุ่น Flagship AWD วิ่งได้ 470 กม. ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับฟีเจอร์ครบครัน ทั้งระบบความปลอดภัยเช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพรถ ระบบเบรกอัตโนมัติ และยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเช่น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หน้าจอแสดงข้อมูล HUD ที่ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายและสนุกสนานยิ่งขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Zeekr X คืออะไร
Zeekr X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าที่เจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่น อาจมีข้อจำกัดบางประการเมื่อใช้งานในประเทศไทย เช่น พื้นที่เบาะหลังที่ค่อนข้างกะทัดรัดอาจไม่เหมาะกับการเดินทางของครอบครัวใหญ่ โดยเฉพาะการเดินทางไกลที่อาจลดทอนความสบายลง อีกทั้งการใช้เครื่องปรับอากาศบ่อยครั้งในสภาพอากาศร้อนของไทยอาจส่งผลต่อระยะทางวิ่งของรถ อย่างไรก็ตาม ระบบอัจฉริยะและการควบคุมที่คล่องตัวของ Zeekr X ถือเป็นข้อได้เปรียบเมื่อใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ สำหรับผู้บริโภคในไทย การเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังควรคำนึงถึงความครอบคลุมของสถานีชาร์จ แม้ Zeekr X จะรองรับการชาร์จเร็ว แต่เครือข่ายสถานีชาร์จในไทยยังคงกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ พื้นที่ห่างไกลยังมีข้อจำกัดด้านความสะดวก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ผ่านมาตรการลดภาษีนำเข้าและสนับสนุนเงินอุดหนุนการซื้อรถ ซึ่งช่วยให้รถ EV รวมถึง Zeekr X มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ผู้ที่สนใจสามารถพิจารณาจากลักษณะการใช้งานประจำวันและความสะดวกในการชาร์จไฟเพื่อประกอบการตัดสินใจ
Q
Zeekr X อยู่ในกลุ่ม Segment ใด
รถ Zeekr X อยู่ในกลุ่มรถยนต์รุ่น C หรือที่เรียกกันว่า SUV ขนาดกะทัดรัดแบบไฟฟ้า 100% ด้วยขนาดตัวรถที่ยาว 4,432 มม. กว้าง 1,836 มม. และสูง 1,566 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. ซึ่งจัดว่าเป็นขนาดมาตรฐานของ SUV Compact ส่วนในเรื่องสมรรถนะ Zeekr X มีทั้งรุ่นมอเตอร์เดียวขับเคลื่อนล้อหลังและรุ่นมอเตอร์คู่แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่แตกต่างกัน เช่น รุ่นมอเตอร์เดียวสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.6 วินาที ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่ทำได้เร็วเพียง 3.8 วินาทีเท่านั้น ด้านอุปกรณ์ก็ครบครันไม่น้อยหน้า มีถุงลมนิรภัยถึง 7 จุด พร้อมระบบ ABS ควบคุมการล็อกล้อและระบบควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ รวมถึงฟังก์ชันความปลอดภัยและความสะดวกสบายอื่นๆ ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้ใช้
Q
ขนาด PCD ของ Zeekr X คืออะไร
สำหรับรถ Zeekr X นั้นมีขนาด PCD (ระยะวงกลมของรูยึดล้อ) อยู่ที่ 5×112 มิลลิเมตร ซึ่งหมายความว่ารูสลักทั้ง 5 รูบนล้อจะเรียงตัวเป็นวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 112 มิลลิเมตร ขนาดนี้เป็นมาตรฐานเดียวกับรถยุโรปหลายรุ่น เช่น รถโวลค์สวาเก้นหรือออดี้บางแบบ ทำให้เจ้าของรถในไทยสามารถหาล้ออะไหล่หรืออัพเกรดล้อได้ง่ายขึ้น แต่ต้องบอกว่าในไทยเนี่ยะ ถนนบางพื้นที่ก็ขรุขระ แถมฤดูฝนก็ยาว เลยแนะนำให้ใช้ล้อที่ได้มาตรฐานของทางโรงงานหรือล้อที่ผ่านการรับรองเพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงเวลาขับขี่ ส่วนใครที่อยากแต่งล้อเพิ่มเติม ในไทยก็มีร้านแต่งรถมืออาชีพหลายร้านที่บริการปรับ PCD ให้ แต่ต้องระวังเรื่องกฎหมายด้วยนะ เช่น ห้ามให้ล้อยื่นออกมานอกตัวถังเกินกำหนด นอกจากนี้ PCD ไม่ใช่แค่ตัวเดียวที่ต้องดูเวลาซื้อล้อ ยังต้องเช็คค่าอื่นๆ เช่น เส้นผ่านศูนย์กลางรูกลางล้อ (CB) หรือค่าโอฟเซ็ต (ET) ด้วย จะได้ไม่เกิดปัญหาล้อไม่พอดีหรือส่งผลต่อการควบคุมรถ ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำให้ปรึกษาเซ็นเตอร์ของ Zeekr ในไทยหรือร้านขายล้อมืออาชีพจะดีที่สุดครับ
Q
Does Zeekr X มี Apple Carplay ไหม
ตามข้อมูลในปัจจุบัน Zeekr X ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า รองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay หรือไม่ แต่ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่มุ่งทำตลาดระดับโลก ระบบอินโฟเทนเมนต์ภายในรถอาจมีการอัปเดตผ่าน OTA เพื่อเพิ่มการรองรับ CarPlay ได้ในอนาคต แนะนำให้ผู้ใช้งานในประเทศไทยติดตามข่าวสารจาก Zeekr อย่างใกล้ชิด ในประเทศไทย Apple CarPlay ได้รับความนิยมอย่างมากจากความสามารถในการเชื่อมต่อกับ iPhone ได้อย่างราบรื่น ผู้ใช้จำนวนมากคุ้นเคยกับการใช้ CarPlay สำหรับนำทาง ฟังเพลง และสื่อสาร หาก Zeekr X รองรับฟีเจอร์นี้ในอนาคต จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้ในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ระบบเชื่อมต่อภายในรถของแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นแตกต่างกัน เช่น Android Auto หรือระบบที่พัฒนาขึ้นเองก็สามารถมอบฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน ผู้บริโภคในไทยควรพิจารณาความต้องการของตนเองประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถ เช่น ความเข้ากันได้กับสมาร์ตโฟน ความลื่นไหลของระบบ และบริการที่รองรับในประเทศ เพื่อเลือกรถที่มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้งาน
Q
ยี่ห้อยางรถยนต์ของ Zeekr X คืออะไร
Zeekr X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าที่เน้นกลุ่มตลาดวัยรุ่น มาพร้อมยางติดรถจากโรงงานซึ่งอาจเลือกใช้แบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Michelin หรือ Continental ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ยางประเภทนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและความทนทานที่ดีในสภาพอากาศร้อนและฝนตกของไทย พร้อมทั้งปรับปรุงโครงสร้างยางและลดแรงต้านการหมุนเพื่อลดการสิ้นเปลืองพลังงานและเพิ่มระยะทางในการขับขี่ สำหรับผู้ใช้ในไทยที่ต้องการเปลี่ยนยาง นอกจากรุ่นเดียวกับยางติดรถแล้ว ยังสามารถพิจารณาแบรนด์ที่พบเห็นบ่อยในประเทศอย่าง Bridgestone หรือ Dunlop ซึ่งมีไลน์ผลิตภัณฑ์รองรับรถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน และมีจำหน่ายทั่วไปในโชว์รูม 4S และร้านยางต่างๆ สิ่งสำคัญคือยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างจากยางของรถยนต์เครื่องยนต์ทั่วไปในด้านดัชนีการรับน้ำหนักและเทคโนโลยีลดเสียงรบกวน จึงแนะนำให้เลือกยางที่มีสัญลักษณ์ EV เป็นหลัก พร้อมทั้งตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากอุณหภูมิสูงในไทยอาจทำให้แรงดันยางเปลี่ยนแปลงเร็ว ซึ่งมีผลต่อการใช้พลังงานและความปลอดภัยในการขับขี่
Q
รถ Zeekr X เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
Zeekr X เป็น SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงในตลาดไทย ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและล้ำยุค พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ครบครันและสมรรถนะไฟฟ้าที่โดดเด่น เหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เพราะขนาดตัวรถที่กะทัดรัดทำให้ขับเคลื่อนในซอยแคบๆ ได้อย่างคล่องตัว แถมยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันและลดมลพิษได้อีกด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่า Zeekr X อาจมีจุดอ่อนเรื่องสถานีชาร์จในไทยที่ยังไม่ครอบคลุมนัก ถ้าจะขับทางไกลต้องวางแผนจุดชาร์จล่วงหน้า รวมถึงเครือข่ายบริการหลังการขายที่อาจยังไม่แข็งแรงเท่ายี่ห้อเก่าแก่ สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทรนด์แห่งอนาคต ควรประเมินความเหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองก่อนซื้อ เช่น มีจุดชาร์จที่บ้านหรือไม่ หรือต้องเดินทางไกลบ่อยแค่ไหน ตอนนี้รัฐบาลไทยมีมาตรการสนับสนุนรถไฟฟ้า ทั้งลดภาษีและให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนในการซื้อ Zeekr X ได้ ใครที่สนใจลองไปทดลองขับและสอบถามโปรโมชั่นกับตัวแทนจำหน่ายดูได้นะครับ
Q
ความกว้างของ Zeekr X คือเท่าไร
Zeekr X มีความกว้างตัวถังอยู่ที่ 1836 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ากว้างเมื่อเทียบกับรถ SUV ขนาดกะทัดรัดทั่วไป ส่งผลให้ห้องโดยสารกว้างขวางและเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพการจราจรของเมืองไทย เช่น ถนนที่แออัดในกรุงเทพฯ หรือซอยแคบๆ ซึ่งตัวถังที่กว้างช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ Zeekr X ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้ายังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งรูปทรงแบบกว้างช่วยลดแรงต้านลมและเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน ส่งผลให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นและสามารถวิ่งได้ไกลขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สำหรับผู้บริโภคในไทย นี่หมายถึงต้นทุนการใช้งานที่ลดลงและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง Zeekr X ด้วยขนาดและสมรรถนะที่ลงตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะสั้น อีกทั้งดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัยยังตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและความทันสมัย
Q
ราคาภาษีรถยนต์ของ Zeekr X คือเท่าไร จะคำนวณอย่างไร
เรื่องราคาภาษีรถยนต์ของ Zeekr X ในประเทศไทย ตอนนี้ประเทศไทยยังไม่ได้นำเข้าโมเดลนี้อย่างเป็นทางการ ดังนั้นอัตราภาษีที่แน่นอนยังไม่มีการประกาศออกมา แต่สามารถอ้างอิงจากวิธีคำนวณภาษีรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้ โดยปกติแล้วประเทศไทยจะเรียกเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจากกำลังมอเตอร์ (กิโลวัตต์) หรือน้ำหนักรถ โดยมีอัตราภาษีที่ถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเพื่อส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นอาจได้สิทธิ์ยกเว้นภาษีในปีแรก ถ้าในอนาคต Zeekr X เข้าสู่ตลาดไทย ภาษีอาจจะคำนวณตามระดับกำลังมอเตอร์ เช่น 15-50 กิโลวัตต์ อาจมีอัตราภาษีประมาณ 400-800 บาทต่อปี แต่สุดท้ายแล้วต้องดูกฎหมายที่กรมการขนส่งทางบก (DLT) ประกาศอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายอย่าง เช่น ลดภาษีนำเข้า ลดภาษีสรรพสามิต เป็นต้น ก่อนซื้อแนะนำให้ตรวจสอบนโยบายล่าสุดกับตัวแทนจำหน่ายหรือหน่วยงานภาษี และที่สำคัญอย่าลืมว่า ค่าประกันรถยนต์ ค่าตรวจสภาพรถประจำปี ก็มีผลต่อค่าใช้จ่ายในการใช้งานด้วย ควรพิจารณารวมๆกันให้ดี
Q
ความดันลมยางของ Zeekr X คือเท่าไร
ค่าแรงดันลมยางมาตรฐานของ Zeekr X แนะนำให้อยู่ระหว่าง 2.3 ถึง 2.5 บาร์ หรือประมาณ 33 ถึง 36 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว โดยค่าที่แน่นอนอาจแตกต่างเล็กน้อยตามรุ่นรถ ประเภทยาง หรือภาระน้ำหนักที่บรรทุก แนะนำให้ตรวจสอบจากคู่มือผู้ใช้รถหรือติดตามฉลากบนกรอบประตูรถ ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย อุณหภูมิสูงอาจทำให้แรงดันลมยางเพิ่มขึ้น จึงควรตรวจสอบเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนการขับขี่ยาว ปรับแรงดันลมยางในสภาวะเย็นให้อยู่ในค่าที่แนะนำ เพื่อป้องกันแรงดันยางสูงเกินไปจนส่งผลต่อการยึดเกาะถนน หรือแรงดันต่ำเกินไปที่อาจเพิ่มการสิ้นเปลืองพลังงาน หากใช้ล้อขนาด 18 หรือ 19 นิ้วจากโรงงานพร้อมยางโปรไฟล์ต่ำ ควรใส่ใจความแม่นยำของแรงดันลมยางเพื่อรักษาความสบายและการควบคุมรถ ในช่วงฤดูฝนของไทย แนะนำให้รักษาแรงดันลมยางให้ใกล้เคียงค่าบนสุดเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ พร้อมตรวจสอบแรงดันยางทุกสองเดือน หากรถมีระบบตรวจสอบแรงดันยาง (TPMS) จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆ เช่น Tesla หรือ BYD ในรุ่นที่ใกล้เคียงกัน ค่าแรงดันลมยางก็มีแนวโน้มใกล้เคียงกัน แต่ควรอิงข้อมูลจากผู้ผลิตเป็นหลัก
Q
ขนาดยางของ Zeekr X คืออะไร
รถยนต์ Zeekr X มีสเปกรถแต่ละรุ่นที่แตกต่างกัน โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมาตรฐานจะมีขนาดยางทั้งคู่ที่ 18 นิ้ว ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อระดับ Flagship จะใช้ยางขนาด 245/45R20 ทั้งคู่ ซึ่งขนาดยางแต่ละแบบก็ให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่ต่างกันออกไป ยางขนาดเล็กอย่าง 18 นิ้วจะให้ความนุ่มสบายเป็นหลัก ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนและลดเสียงยางได้ดี เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมืองทั่วไปหรือคนที่เน้นความสบายเป็นหลัก ส่วนยางขนาดใหญ่แบบ 245/45R20 จะให้ความแม่นยำในการควบคุมรถและความมั่นคงสูงกว่า แถมยังดูสปอร์ตเท่ๆ อีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบการขับขี่แบบสปอร์ตหรือต้องการสัมผัสถึงประสิทธิภาพการควบคุมรถอย่างเต็มที่

ข้อดี

หน้าตาสวยงาม
หน้าตาสดใส

ข้อเสีย

ความไม่แน่นอนในความน่าเชื่อถือระยะยาว
ซอฟต์แวร์ไม่สมบูรณ์
การกระทำของยานพาหนะที่มากเกินไป

Q&A ล่าสุด

Q
Audi RS4 จะเลิกผลิตหรือไม่?
ตอนนี้ทางออดี้ยังไม่ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับแผนการหยุดผลิต Audi RS4 แต่จากเทรนด์อุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกและรอบการอัปเดตสายผลิตภัณฑ์ของออดี้ ตลาดรถวากอนสมรรถนะสูงก็กำลังเผชิญกับความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคไฟฟ้า จริงๆ แล้วในตลาดไทย RS4 เป็นรถสมรรถนะสูงที่ขายน้อยอยู่แล้ว และยังได้รับผลกระทบจากนโยบายลดภาษีของรัฐบาลไทยสำหรับรถพลังงานสะอาด ทำให้ออดี้อาจจะเน้นทรัพยากรไปที่รถไฟฟ้าอย่างซีรีส์ e-tron มากกว่า แต่สำหรับคนไทยที่หลงใหลในรถสปอร์ตเครื่องยนต์สันดาป RS4 ยังคงมีความน่าสนใจไม่เสื่อมคลาย ด้วยเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ 2.9 ลิตร (450 แรงม้า) ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ที่เหมาะกับถนนภูเขาและการขับขี่ระยะไกลในไทย ถ้าในอนาคต RS4 ต้องยุติการผลิต รุ่นที่มาทดแทนน่าจะเป็นเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเพื่อตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะและกฎหมายสิ่งแวดล้อม แฟนรถไทยควรติดตามข่าวสารจากเว็บไซต์ออดี้ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างใกล้ชิด รวมถึงดูรถคู่แข่งอย่าง BMW M3 Touring หรือ Mercedes-AMG C63 Estate ที่ก็ให้ทั้งความแรงและพื้นที่ใช้งานได้เหมือนกัน
Q
Audi RS4 ใช้เครื่องยนต์ V6 หรือ V8?
Audi RS4 รุ่นปัจจุบันใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 2.9 ลิตร แบบทวินเทอร์โบ ไม่ใช่เครื่องยนต์ V8 โดยเครื่องยนต์นี้เป็นผลงานการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Audi และ Porsche ให้กำลังสูงสุดถึง 450 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Tiptronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเต็มเวลา quattro ที่ให้สมรรถนะยอดเยี่ยม ในตลาดประเทศไทย RS4 ถือเป็นรถแวกอนสมรรถนะสูงที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง และการผสานระหว่างความแรงกับความอเนกประสงค์ที่ลงตัว ทำให้ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ใช้ที่รักการขับขี่และต้องการความสะดวกในคันเดียว แม้ว่า RS4 รุ่นปัจจุบันใช้เครื่องยนต์ V6 แต่ในประวัติของ Audi ก็เคยมี RS หลายรุ่น เช่น RS6 ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 ซึ่งการเลือกใช้เครื่องยนต์ขึ้นอยู่กับการวางตำแหน่งของรถรุ่นนั้น ๆ และข้อจำกัดทางเทคนิค โดย V6 มีข้อได้เปรียบด้านความประหยัดน้ำมันและการปล่อยไอเสีย ซึ่งเป็นแนวโน้มสำคัญของรถสมรรถนะสูงยุคใหม่ สำหรับผู้ใช้ในไทย นอกจากประเภทเครื่องยนต์แล้ว ยังสามารถให้ความสำคัญกับรายละเอียดอื่น ๆ ของ RS4 เช่น ระบบเลือกโหมดการขับขี่ และการปรับแต่งช่วงล่าง ซึ่งช่วยให้รถตอบสนองได้อย่างหลากหลายตามสภาพถนน และยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในทุกเส้นทาง
Q
Audi RS4 รุ่นไหนดีที่สุด?
ในตลาดประเทศไทย รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดในซีรีส์ Audi RS4 คือ RS4 Avant (รุ่น B9) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.9 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงถึง 450 แรงม้าและแรงบิด 600 นิวตัน-เมตร คู่กับเกียร์ 8 สปีด Tiptronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ที่สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.1 วินาที โดยรวมความแรงและการใช้งานจริงเข้าด้วยกันได้ดี เหมาะสมกับสภาพถนนในเมืองและทางเขาของประเทศไทยที่มีความหลากหลาย การออกแบบรุ่นสเตชันวากอนให้พื้นที่กระโปรงหลังกว้างขวาง เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวหรือการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ในขณะที่ระบบช่วงล่างได้รับการปรับแต่งให้เข้ากับถนนบางสายในไทยที่ขรุขระ RS4 Avant ยังมาพร้อมระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบรักษาเลน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ หากมองหารุ่นมือสอง ปี 2017-2018 ของรุ่น B9 จะคุ้มค่ากว่า แต่ควรตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดเนื่องจากสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยอาจส่งผลต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และยาง สำหรับคนที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่สมรรถนะสูง สามารถเลือกติดตั้งดิฟเฟอเรนเชียลสปอร์ตและระบบพวงมาลัยไดนามิกที่จะช่วยให้การควบคุมรถบนเส้นทางเขาของไทยแม่นยำยิ่งขึ้น
Q
Audi RS 4 ยังน่าซื้ออยู่ไหม?”
Audi RS 4 ในฐานะรถเอสเตทสมรรถนะสูง ถือว่ามีอัตราการรักษามูลค่าได้ค่อนข้างดีในตลาดไทย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการยอมรับในแบรนด์ ประสิทธิภาพที่โดดเด่น และจำนวนที่มีจำกัดในท้องตลาด RS 4 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.9 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ ควบคู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ที่ให้ทั้งพลังและความมั่นคงในการขับขี่ รถสมรรถนะสูงแบบนี้มักเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนรักรถในไทย โดยเฉพาะผู้ชื่นชอบรถสปอร์ตเยอรมัน แม้ว่าตลาดรถไทยจะถูกครอบครองโดยรถญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ แต่รถยุโรปสมรรถนะสูงอย่าง RS 4 ก็ยังมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะตัว โดยเฉพาะคนที่มองหาความสนุกในการขับและสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเรื่องอัตราการเสื่อมมูลค่าที่อาจเกิดขึ้นจากภาษีนำเข้า ค่าบำรุงรักษา และความพร้อมของอะไหล่ในไทย ซึ่งอาจทำให้ราคาตลาดมือสองของ RS 4 ตกเร็วกว่ารถทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับรถยุโรปสมรรถนะสูงรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี สำหรับผู้ที่สนใจ ถ้าตั้งใจจะใช้ยาวๆ RS 4 นั้นให้ทั้งประสบการณ์การขับและมูลค่าแบรนด์ที่คุ้มค่า แต่ถ้าคิดถึงเรื่องการขายต่อ อาจต้องพิจารณาความนิยมของรถประเภทนี้ในตลาดไทยให้ดีก่อน
Q
Audi RS4 เลิกผลิตปีไหน?
Audi RS4 รุ่นล่าสุดคือเวอร์ชั่นปี 2023 ที่เป็นรถสปอร์ตเอสเตทสมรรถนะสูงและได้รับความนิยมในตลาดไทยไม่น้อย รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 2.9 ลิตร เทอร์โบคู่ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 450 แรงม้า คู่กับเกียร์ 8 สปีด Tiptronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ที่ทำให้เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.1 วินาที สำหรับการขับขี่บนถนนคดเคี้ยวแบบไทยๆ หรือในเมืองแล้ว RS4 ถือว่าทั้งทรงพลังและใช้งานได้จริง ในไทย RS4 ได้ใจคนรักรถด้วยความลงตัวระหว่างสมรรถนะและการใช้งานประจำวัน โดยเฉพาะคนที่อยากได้ทั้งความสนุกในการขับและรถครอบครัวในคันเดียว RS4 ยังมาพร้อมระบบความบันเทิง MMI รุ่นล่าสุดและโหมดขับขี่หลากหลายที่ตอบโจทย์สภาพถนนแบบไทยๆ แม้ว่าตลาดรถสปอร์ตในไทยจะยังเป็นกลุ่มเล็ก แต่ RS4 ก็ยังมีแฟนคลับตัวยงด้วยจุดขายที่เฉพาะและแบรนด์ Audi ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศร้อนและฝนชุกของไทยอาจเป็นตัวท้าทายเรื่องระบบระบายความร้อนและยางรถ สำหรับเจ้าของ RS4 แนะนำให้ดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้รถแสดงสมรรถนะได้เต็มที่เสมอ
ดูเพิ่มเติม