Q

Zeekr X มีสเปคอะไรบ้าง นี่คือรายละเอียดสเปคเต็ม

รถยนต์ ZEEKR X มีให้เลือก 2 รุ่นในตลาดไทย ได้แก่ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง Standard RWD 2024 ราคา 1,199,000 บาท และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ Flagship AWD 2024 ราคา 1,349,000 บาท ตัวรถพัฒนาบนแพลตฟอร์ม SEA ที่เน้นเทคโนโลยีอัจฉริยะและดีไซน์ล้ำสมัย มาพร้อมกระจังหน้าปิดทึบและไฟหน้า LED แบบแมทริกซ์อัจฉริยะ ด้านขุมพลัง รุ่น Standard RWD ใช้มอเตอร์เดี่ยววางหลัง กำลังสูงสุด 200 กิโลวัตต์ อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ภายใน 5.6 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 540 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ส่วนรุ่น Flagship AWD ใช้มอเตอร์คู่หน้า–หลัง กำลังรวม 315 กิโลวัตต์ เร่ง 0–100 กม./ชม. ได้ใน 3.8 วินาที ระยะทางวิ่ง 470 กม. ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจอมาตรวัดดิจิทัล 8.8 นิ้ว หน้าจอสัมผัสเลื่อนอัจฉริยะ 14.6 นิ้ว ระบบ HUD แสดงผลบนกระจกหน้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสองก้าน และระบบเสียงจาก YAMAHA พร้อมลำโพง 13 ตำแหน่ง ด้านความปลอดภัยมีระบบช่วยขับขี่และอุปกรณ์ป้องกันทั้งเชิงรุกและรับครบถ้วน แบตเตอรี่ใช้ชนิดลิเธียมไอออนแบบ NMC ความจุ 69 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับชาร์จเร็ว 0.5 ชั่วโมง และชาร์จปกติ 10 ชั่วโมง รับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Zeekr X คืออะไร
Zeekr X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าที่เจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่น อาจมีข้อจำกัดบางประการเมื่อใช้งานในประเทศไทย เช่น พื้นที่เบาะหลังที่ค่อนข้างกะทัดรัดอาจไม่เหมาะกับการเดินทางของครอบครัวใหญ่ โดยเฉพาะการเดินทางไกลที่อาจลดทอนความสบายลง อีกทั้งการใช้เครื่องปรับอากาศบ่อยครั้งในสภาพอากาศร้อนของไทยอาจส่งผลต่อระยะทางวิ่งของรถ อย่างไรก็ตาม ระบบอัจฉริยะและการควบคุมที่คล่องตัวของ Zeekr X ถือเป็นข้อได้เปรียบเมื่อใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ สำหรับผู้บริโภคในไทย การเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังควรคำนึงถึงความครอบคลุมของสถานีชาร์จ แม้ Zeekr X จะรองรับการชาร์จเร็ว แต่เครือข่ายสถานีชาร์จในไทยยังคงกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ พื้นที่ห่างไกลยังมีข้อจำกัดด้านความสะดวก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ผ่านมาตรการลดภาษีนำเข้าและสนับสนุนเงินอุดหนุนการซื้อรถ ซึ่งช่วยให้รถ EV รวมถึง Zeekr X มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ผู้ที่สนใจสามารถพิจารณาจากลักษณะการใช้งานประจำวันและความสะดวกในการชาร์จไฟเพื่อประกอบการตัดสินใจ
Q
Zeekr X อยู่ในกลุ่ม Segment ใด
รถ Zeekr X อยู่ในกลุ่มรถยนต์รุ่น C หรือที่เรียกกันว่า SUV ขนาดกะทัดรัดแบบไฟฟ้า 100% ด้วยขนาดตัวรถที่ยาว 4,432 มม. กว้าง 1,836 มม. และสูง 1,566 มม. ระยะฐานล้อ 2,750 มม. ซึ่งจัดว่าเป็นขนาดมาตรฐานของ SUV Compact ส่วนในเรื่องสมรรถนะ Zeekr X มีทั้งรุ่นมอเตอร์เดียวขับเคลื่อนล้อหลังและรุ่นมอเตอร์คู่แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่แตกต่างกัน เช่น รุ่นมอเตอร์เดียวสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.6 วินาที ส่วนรุ่นมอเตอร์คู่ทำได้เร็วเพียง 3.8 วินาทีเท่านั้น ด้านอุปกรณ์ก็ครบครันไม่น้อยหน้า มีถุงลมนิรภัยถึง 7 จุด พร้อมระบบ ABS ควบคุมการล็อกล้อและระบบควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ รวมถึงฟังก์ชันความปลอดภัยและความสะดวกสบายอื่นๆ ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้ใช้
Q
ขนาด PCD ของ Zeekr X คืออะไร
สำหรับรถ Zeekr X นั้นมีขนาด PCD (ระยะวงกลมของรูยึดล้อ) อยู่ที่ 5×112 มิลลิเมตร ซึ่งหมายความว่ารูสลักทั้ง 5 รูบนล้อจะเรียงตัวเป็นวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 112 มิลลิเมตร ขนาดนี้เป็นมาตรฐานเดียวกับรถยุโรปหลายรุ่น เช่น รถโวลค์สวาเก้นหรือออดี้บางแบบ ทำให้เจ้าของรถในไทยสามารถหาล้ออะไหล่หรืออัพเกรดล้อได้ง่ายขึ้น แต่ต้องบอกว่าในไทยเนี่ยะ ถนนบางพื้นที่ก็ขรุขระ แถมฤดูฝนก็ยาว เลยแนะนำให้ใช้ล้อที่ได้มาตรฐานของทางโรงงานหรือล้อที่ผ่านการรับรองเพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงเวลาขับขี่ ส่วนใครที่อยากแต่งล้อเพิ่มเติม ในไทยก็มีร้านแต่งรถมืออาชีพหลายร้านที่บริการปรับ PCD ให้ แต่ต้องระวังเรื่องกฎหมายด้วยนะ เช่น ห้ามให้ล้อยื่นออกมานอกตัวถังเกินกำหนด นอกจากนี้ PCD ไม่ใช่แค่ตัวเดียวที่ต้องดูเวลาซื้อล้อ ยังต้องเช็คค่าอื่นๆ เช่น เส้นผ่านศูนย์กลางรูกลางล้อ (CB) หรือค่าโอฟเซ็ต (ET) ด้วย จะได้ไม่เกิดปัญหาล้อไม่พอดีหรือส่งผลต่อการควบคุมรถ ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำให้ปรึกษาเซ็นเตอร์ของ Zeekr ในไทยหรือร้านขายล้อมืออาชีพจะดีที่สุดครับ
Q
Does Zeekr X มี Apple Carplay ไหม
ตามข้อมูลในปัจจุบัน Zeekr X ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า รองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay หรือไม่ แต่ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่มุ่งทำตลาดระดับโลก ระบบอินโฟเทนเมนต์ภายในรถอาจมีการอัปเดตผ่าน OTA เพื่อเพิ่มการรองรับ CarPlay ได้ในอนาคต แนะนำให้ผู้ใช้งานในประเทศไทยติดตามข่าวสารจาก Zeekr อย่างใกล้ชิด ในประเทศไทย Apple CarPlay ได้รับความนิยมอย่างมากจากความสามารถในการเชื่อมต่อกับ iPhone ได้อย่างราบรื่น ผู้ใช้จำนวนมากคุ้นเคยกับการใช้ CarPlay สำหรับนำทาง ฟังเพลง และสื่อสาร หาก Zeekr X รองรับฟีเจอร์นี้ในอนาคต จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้ในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ระบบเชื่อมต่อภายในรถของแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นแตกต่างกัน เช่น Android Auto หรือระบบที่พัฒนาขึ้นเองก็สามารถมอบฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน ผู้บริโภคในไทยควรพิจารณาความต้องการของตนเองประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถ เช่น ความเข้ากันได้กับสมาร์ตโฟน ความลื่นไหลของระบบ และบริการที่รองรับในประเทศ เพื่อเลือกรถที่มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้งาน
Q
ยี่ห้อยางรถยนต์ของ Zeekr X คืออะไร
Zeekr X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าที่เน้นกลุ่มตลาดวัยรุ่น มาพร้อมยางติดรถจากโรงงานซึ่งอาจเลือกใช้แบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Michelin หรือ Continental ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ยางประเภทนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและความทนทานที่ดีในสภาพอากาศร้อนและฝนตกของไทย พร้อมทั้งปรับปรุงโครงสร้างยางและลดแรงต้านการหมุนเพื่อลดการสิ้นเปลืองพลังงานและเพิ่มระยะทางในการขับขี่ สำหรับผู้ใช้ในไทยที่ต้องการเปลี่ยนยาง นอกจากรุ่นเดียวกับยางติดรถแล้ว ยังสามารถพิจารณาแบรนด์ที่พบเห็นบ่อยในประเทศอย่าง Bridgestone หรือ Dunlop ซึ่งมีไลน์ผลิตภัณฑ์รองรับรถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน และมีจำหน่ายทั่วไปในโชว์รูม 4S และร้านยางต่างๆ สิ่งสำคัญคือยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างจากยางของรถยนต์เครื่องยนต์ทั่วไปในด้านดัชนีการรับน้ำหนักและเทคโนโลยีลดเสียงรบกวน จึงแนะนำให้เลือกยางที่มีสัญลักษณ์ EV เป็นหลัก พร้อมทั้งตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากอุณหภูมิสูงในไทยอาจทำให้แรงดันยางเปลี่ยนแปลงเร็ว ซึ่งมีผลต่อการใช้พลังงานและความปลอดภัยในการขับขี่
Q
รถ Zeekr X เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
Zeekr X เป็น SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังมาแรงในตลาดไทย ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและล้ำยุค พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ครบครันและสมรรถนะไฟฟ้าที่โดดเด่น เหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เพราะขนาดตัวรถที่กะทัดรัดทำให้ขับเคลื่อนในซอยแคบๆ ได้อย่างคล่องตัว แถมยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันและลดมลพิษได้อีกด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่า Zeekr X อาจมีจุดอ่อนเรื่องสถานีชาร์จในไทยที่ยังไม่ครอบคลุมนัก ถ้าจะขับทางไกลต้องวางแผนจุดชาร์จล่วงหน้า รวมถึงเครือข่ายบริการหลังการขายที่อาจยังไม่แข็งแรงเท่ายี่ห้อเก่าแก่ สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทรนด์แห่งอนาคต ควรประเมินความเหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองก่อนซื้อ เช่น มีจุดชาร์จที่บ้านหรือไม่ หรือต้องเดินทางไกลบ่อยแค่ไหน ตอนนี้รัฐบาลไทยมีมาตรการสนับสนุนรถไฟฟ้า ทั้งลดภาษีและให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนในการซื้อ Zeekr X ได้ ใครที่สนใจลองไปทดลองขับและสอบถามโปรโมชั่นกับตัวแทนจำหน่ายดูได้นะครับ
Q
ความกว้างของ Zeekr X คือเท่าไร
Zeekr X มีความกว้างตัวถังอยู่ที่ 1836 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ากว้างเมื่อเทียบกับรถ SUV ขนาดกะทัดรัดทั่วไป ส่งผลให้ห้องโดยสารกว้างขวางและเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพการจราจรของเมืองไทย เช่น ถนนที่แออัดในกรุงเทพฯ หรือซอยแคบๆ ซึ่งตัวถังที่กว้างช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ Zeekr X ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้ายังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งรูปทรงแบบกว้างช่วยลดแรงต้านลมและเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน ส่งผลให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นและสามารถวิ่งได้ไกลขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สำหรับผู้บริโภคในไทย นี่หมายถึงต้นทุนการใช้งานที่ลดลงและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง Zeekr X ด้วยขนาดและสมรรถนะที่ลงตัว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะสั้น อีกทั้งดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัยยังตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและความทันสมัย
Q
ราคาภาษีรถยนต์ของ Zeekr X คือเท่าไร จะคำนวณอย่างไร
เรื่องราคาภาษีรถยนต์ของ Zeekr X ในประเทศไทย ตอนนี้ประเทศไทยยังไม่ได้นำเข้าโมเดลนี้อย่างเป็นทางการ ดังนั้นอัตราภาษีที่แน่นอนยังไม่มีการประกาศออกมา แต่สามารถอ้างอิงจากวิธีคำนวณภาษีรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้ โดยปกติแล้วประเทศไทยจะเรียกเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจากกำลังมอเตอร์ (กิโลวัตต์) หรือน้ำหนักรถ โดยมีอัตราภาษีที่ถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเพื่อส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นอาจได้สิทธิ์ยกเว้นภาษีในปีแรก ถ้าในอนาคต Zeekr X เข้าสู่ตลาดไทย ภาษีอาจจะคำนวณตามระดับกำลังมอเตอร์ เช่น 15-50 กิโลวัตต์ อาจมีอัตราภาษีประมาณ 400-800 บาทต่อปี แต่สุดท้ายแล้วต้องดูกฎหมายที่กรมการขนส่งทางบก (DLT) ประกาศอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายอย่าง เช่น ลดภาษีนำเข้า ลดภาษีสรรพสามิต เป็นต้น ก่อนซื้อแนะนำให้ตรวจสอบนโยบายล่าสุดกับตัวแทนจำหน่ายหรือหน่วยงานภาษี และที่สำคัญอย่าลืมว่า ค่าประกันรถยนต์ ค่าตรวจสภาพรถประจำปี ก็มีผลต่อค่าใช้จ่ายในการใช้งานด้วย ควรพิจารณารวมๆกันให้ดี
Q
ความดันลมยางของ Zeekr X คือเท่าไร
ค่าแรงดันลมยางมาตรฐานของ Zeekr X แนะนำให้อยู่ระหว่าง 2.3 ถึง 2.5 บาร์ หรือประมาณ 33 ถึง 36 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว โดยค่าที่แน่นอนอาจแตกต่างเล็กน้อยตามรุ่นรถ ประเภทยาง หรือภาระน้ำหนักที่บรรทุก แนะนำให้ตรวจสอบจากคู่มือผู้ใช้รถหรือติดตามฉลากบนกรอบประตูรถ ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย อุณหภูมิสูงอาจทำให้แรงดันลมยางเพิ่มขึ้น จึงควรตรวจสอบเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนการขับขี่ยาว ปรับแรงดันลมยางในสภาวะเย็นให้อยู่ในค่าที่แนะนำ เพื่อป้องกันแรงดันยางสูงเกินไปจนส่งผลต่อการยึดเกาะถนน หรือแรงดันต่ำเกินไปที่อาจเพิ่มการสิ้นเปลืองพลังงาน หากใช้ล้อขนาด 18 หรือ 19 นิ้วจากโรงงานพร้อมยางโปรไฟล์ต่ำ ควรใส่ใจความแม่นยำของแรงดันลมยางเพื่อรักษาความสบายและการควบคุมรถ ในช่วงฤดูฝนของไทย แนะนำให้รักษาแรงดันลมยางให้ใกล้เคียงค่าบนสุดเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ พร้อมตรวจสอบแรงดันยางทุกสองเดือน หากรถมีระบบตรวจสอบแรงดันยาง (TPMS) จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆ เช่น Tesla หรือ BYD ในรุ่นที่ใกล้เคียงกัน ค่าแรงดันลมยางก็มีแนวโน้มใกล้เคียงกัน แต่ควรอิงข้อมูลจากผู้ผลิตเป็นหลัก
Q
ขนาดยางของ Zeekr X คืออะไร
รถยนต์ Zeekr X มีสเปกรถแต่ละรุ่นที่แตกต่างกัน โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมาตรฐานจะมีขนาดยางทั้งคู่ที่ 18 นิ้ว ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อระดับ Flagship จะใช้ยางขนาด 245/45R20 ทั้งคู่ ซึ่งขนาดยางแต่ละแบบก็ให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่ต่างกันออกไป ยางขนาดเล็กอย่าง 18 นิ้วจะให้ความนุ่มสบายเป็นหลัก ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนและลดเสียงยางได้ดี เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมืองทั่วไปหรือคนที่เน้นความสบายเป็นหลัก ส่วนยางขนาดใหญ่แบบ 245/45R20 จะให้ความแม่นยำในการควบคุมรถและความมั่นคงสูงกว่า แถมยังดูสปอร์ตเท่ๆ อีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบการขับขี่แบบสปอร์ตหรือต้องการสัมผัสถึงประสิทธิภาพการควบคุมรถอย่างเต็มที่

ข้อดี

หน้าตาสวยงาม
หน้าตาสดใส

ข้อเสีย

ความไม่แน่นอนในความน่าเชื่อถือระยะยาว
ซอฟต์แวร์ไม่สมบูรณ์
การกระทำของยานพาหนะที่มากเกินไป

Q&A ล่าสุด

Q
MG Maxus 9 มีสีอะไรบ้าง คุณชอบสีไหน
MG Maxus 9 ในตลาดไทยมีให้เลือก 3 สีที่各有เอกลักษณ์ แสดงถึงความหรูหราสมัยใหม่ของรถ MPV รุ่นพรีเมียม สี GRANITE GREY BLACK TOP ใช้โทนสีเทาเข้มคู่กับหลังคาสีดำแบบ Two-Tone พร้อมสีเมทัลลิกที่ให้เอฟเฟกต์สะท้อนแสงเป็นชั้นๆ ดูคลาสสิกแต่ก็มีความทันสมัย เหมาะกับนักธุรกิจที่ชอบความหรูหราแบบเรียบหรู ส่วนสี PEARL WHITE ใช้เทคนิคสีไข่มุกพิเศษ โดยมีการผสมผงมุกที่ให้แสงแวววาวอ่อนๆ ใต้แสงแดด ดูสดชื่นและมีระดับ ช่วยขับความเป็นเจ้าของที่มีรสนิยมดี และเหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยเป็นพิเศษ สำหรับสี BLACK KNIGHT เป็นสีดำลึกเฉพาะตัว พร้อมฟินิชชิ่งที่ให้ความเงางามสูงสุด แสดงถึงความหรูหราอลังการของรถ MPV รุ่นเรือธง แต่ต้องดูแลรักษาบ่อยหน่อยในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมากของไทย ทุกสีถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในเขตร้อน มีความทนทานต่อสภาพอากาศและรังสียูวีเป็นอย่างดี โดยสีขาวไข่มุกถือว่าปฏิบัติการได้ดีที่สุด เพราะดูแลง่ายและไม่ร้อน车内 ส่วนสีเทาแกรนิตกับดำไนท์เหมาะกับคนที่ชอบความโดดเด่นเป็นพิเศษ
Q
MG Maxus 9 ราคาเท่าไหร่
MG Maxus 9 เปิดตัว 2 รุ่นในไทยแล้ว ทั้งรุ่น X และรุ่น V ราคาเริ่ม 2.499 ล้านบาท และ 2.699 ล้านบาทตามลำดับ รถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยการเป็น MPV ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง ขนาดตัวถัง 5,270×2,000×1,840 มม. ระยะฐานล้อ 3,200 มม. ให้พื้นที่ภายในกว้างขวาง แม้จะใช้เป็นออฟฟิศเคลื่อนที่ก็สะดวกสบาย แบตเตอรี่ขนาด 90kWh ให้ระยะทางสูงสุดถึง 540 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมฟีเจอร์หรูหราอีกมากมาย เช่น เก้าอี้ Ottoman พร้อมฟังก์ชันนวดและปรับความร้อน/เย็น ระบบเปิด-ปิดประตูหลังและประตูสไลด์อัตโนมัติ ไปจนถึงซันรูฟขนาดใหญ่ ด้านในติดตั้งหน้าจอมัลติมีเดีย 12.3 นิ้ว คู่กับหน้าปัดดิจิตอล 7 นิ้วหรือ 9 นิ้ว ยอดจองในไทยพุ่งแรง ภายในไม่ถึง 2 สัปดาห์มียอดจองทะลุ 1,100 คัน และถูกมองว่าเป็นคู่แข่งตัวท้าทาย Toyota Alphard ในตลาดอาเซียน
Q
MG Maxus 9 มีสเปคอะไรบ้าง
MG Maxus 9 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ MPV ระดับไฮเอนด์ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งครอบครัวและกลุ่มธุรกิจในตลาดไทย ด้วยความกว้างขวางของพื้นที่ภายในและคุณสมบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถคันนี้มีขนาดตัวถัง 5270x2000x1840 มม. ระยะฐานล้อ 3200 มม. จุผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง พร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองด้าน ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้าให้กำลังสูงสุด 180 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร วิ่งได้ไกลถึง 540 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และรองรับการชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเพื่อชาร์จจาก 30% ถึง 80% ด้านในติดตั้งหน้าจอแสดงผลดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้วและหน้าจอกลางแบบลอยตัว พร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบรักษาเลน เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและท่องเที่ยวระยะไกลในไทย สำหรับผู้สนใจในไทยควรทราบว่าแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion Ternary ทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อน MG ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมและสถานีชาร์จที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากนโยบายลดภาษี ทำให้มีราคาคุ้มค่า แนะนำให้ทดลองนั่งแถวที่สามและตรวจสอบพื้นที่เก็บของเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของครอบครัวก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
ขนาดตัวถัง Toyota Crown เท่าไหร่?
รถโตโยต้า คราวน์ เป็นรุ่นคลาสสิกที่ขนาดตัวถังจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและรุ่นย่อย ถ้าเอารุ่นล่าสุดเป็นตัวอย่าง ความยาวจะอยู่ที่ประมาณ 4,910-5,030 มม. ความกว้างประมาณ 1,800-1,840 มม. ส่วนความสูงประมาณ 1,450-1,470 มม. ระยะฐานล้อประมาณ 2,920 มม. จัดอยู่ในกลุ่มรถซีดานขนาดกลางใหญ่ ขนาดแบบนี้สำหรับในเมืองไทยถือว่าโอเคเลย ทั้งให้พื้นที่โดยสารที่เพียงพอ แต่ก็ไม่ใหญ่จนขับยากหรือจอดลำบากในลานจอดรถ สำหรับตลาดไทย คราวน์ถือว่าเหมาะกับครอบครัว โดยเฉพาะช่วงขาหลังที่กว้างขวาง ช่วยให้สบายเวลาเดินทางไกล ส่วนกระโปรงหลังก็จุของได้เยอะพอใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากขนาดตัวรถแล้ว คนไทยที่กำลังมองหารถอาจจะสนใจระบบไฮบริดของคราวน์ที่ช่วยประหยัดน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ อีกทั้งเครือข่ายบริการหลังการขายของโตโยต้าในไทยก็ครอบคลุม ซ่อมบำรุงสะดวก นี่ก็เป็นจุดเด่นที่ควรคิดถึงเวลาเลือกซื้อรถเหมือนกัน
Q
Toyota Crown ผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่?
จำนวนผ่อนรายเดือนของ Toyota Crown ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นที่เลือก ระยะเวลาผ่อน เงินดาวน์ และอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร ยกตัวอย่างรุ่นไฮบริด 2.5L ที่มีราคารถประมาณ 2 ล้านบาท หากวางเงินดาวน์ 30% และผ่อนนาน 5 ปี ภายใต้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของธนาคารชั้นนำที่ประมาณ 2.5%-3.5% จะมีค่างวดประมาณ 25,000-28,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ ในการซื้อรถยนต์ในไทยนอกจากราคารถและดอกเบี้ยแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าประกันภัยชั้นหนึ่งประมาณ 3% ของราคารถ, ค่าจดทะเบียนราว 1,000-2,000 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% อีกด้วย หากเลือกไฟแนนซ์ บางดีลเลอร์อาจมีโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% สำหรับปีแรก ในระยะยาว รถยนต์ไฮบริดอย่าง Toyota Crown ยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีบางส่วน และมีความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อรถ ควรเปรียบเทียบเงื่อนไขกับรถระดับเดียวกัน เช่น Lexus ES หรือ Honda Accord Hybrid พร้อมทั้งตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยล่าสุดผ่านเว็บไซต์ของสมาคมธนาคารไทยก่อนตัดสินใจซื้อ
ดูเพิ่มเติม