Mitsubishi Xpander มีรุ่นอะไรบ้าง?

Toyota Fortuner คือรถยนต์ SUV ขนาดกลางที่โตโยต้าเปิดตัวสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยตัวถังแบบไม่รับน้ำหนักบรรทุกและสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดที่แข็งแกร่ง ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับขี่บนสภาพถนนที่ซับซ้อน Fortuner มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จสองรุ่น ได้แก่ 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้พละกำลังที่เต็มเปี่ยมและประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยม การออกแบบภายในเน้นความสะดวกสบาย มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หน้าจอสัมผัสควบคุมส่วนกลาง และฟังก์ชันอื่นๆ อีกมากมาย พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เบาะแถวที่ 3 สามารถพับได้ตามความต้องการของการเดินทางแบบครอบครัว ด้านความปลอดภัยมาพร้อมถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง และระบบควบคุมเสถียรภาพ VSC เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน คู่แข่งหลักในตลาดประเทศไทย ได้แก่ Isuzu MU-X และ Mitsubishi Pajero Sport แต่ Fortuner มีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งด้วยชื่อเสียงของแบรนด์โตโยต้าและคุณภาพที่เชื่อถือได้ รถยนต์รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่ชื่นชอบการเดินทางแบบไร้คนขับและรับมือกับความต้องการในช่วงฤดูฝน ค่าบำรุงรักษารายวันก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับรถครอบครัว

สำหรับรถ Toyota Fortuner รุ่นปี 2017 ปริมาณน้ำมันเครื่องที่ต้องใช้จะแตกต่างกันไปตามประเภทของเครื่องยนต์ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 4.2 ถึง 5.5 ลิตร สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร ต้องการน้ำมันเครื่องประมาณ 4.2 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 และ 3.0 ลิตร ต้องการประมาณ 5.5 ลิตร แต่เพื่อความแน่ใจควรตรวจสอบคู่มือรถหรือปรึกษาศูนย์บริการโตโยต้าเพื่อข้อมูลที่ถูกต้อง แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มสูตรที่ได้มาตรฐาน API SN หรือ ACEA C2 เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างสม่ำเสมอเป็นเรื่องสำคัญมาก ควรเปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน แต่ถ้าขับบ่อยในกรุงเทพฯ ที่รถติดหรือตามต่างจังหวัดที่มีฝุ่นมาก อาจต้องเปลี่ยนบ่อยขึ้น นอกจากนี้คนไทยควรเลือกความหนืดน้ำมันเครื่องที่เหมาะกับอากาศร้อน เช่น 5W-30 หรือ 10W-40 ที่จะช่วยให้การหล่อลื่นยังดีแม้อุณหภูมิสูง เวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องควรเปลี่ยนไส้กรองไปด้วย เพื่อให้การกรองมีประสิทธิภาพ และควรตรวจสอบสภาพของเหลวอื่นๆ เช่น น้ำมันเกียร์และน้ำหล่อเย็นด้วย เพราะรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้จะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์และรักษาความมั่นใจในการขับขี่บนเส้นทางต่างๆ ของไทยได้ดีขึ้น

ราคาของ Toyota Fortuner รุ่นปี 2024 ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์เสริม โดยมีราคาอยู่ในช่วงประมาณ 1,399,000 บาท ถึง 1,999,000 บาท ซึ่งราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายหรืออุปกรณ์เสริมที่เลือกเพิ่มเติม Fortuner เป็น SUV ยอดนิยมของโตโยต้าในตลาดไทย ด้วยความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์ ความกว้างขวางของพื้นที่ภายใน และความสามารถในการขับขี่บนทุกสภาพถนน ทำให้รถรุ่นนี้เป็นที่ชื่นชอบของคนไทยอย่างมาก สำหรับรุ่นปี 2024 นี้ อาจมีการอัปเกรดทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอก อุปกรณ์เทคโนโลยีภายในห้องโดยสาร รวมถึงระบบขับเคลื่อน เช่น อาจติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก เพื่อตอบโจทย์สภาพถนนและอากาศที่หลากหลายของไทย ในตลาดไทย Fortuner มีคู่แข่งอย่าง Isuzu MU-X และ Ford Everest แต่ความน่าเชื่อถือของแบรนด์โตโยต้าและเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมก็ทำให้มีลูกค้าจงรักภักดีจำนวนมาก ถ้าสนใจซื้อรถรุ่นนี้ แนะนำให้ไปทดลองขับและสอบถามโปรโมชั่นล่าสุดที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรืออาจจะมองหาตัวเลือกรถมือสองที่มีราคาคุ้มค่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งก็ได้

สีที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับ Toyota Fortuner ในประเทศไทยคือสีขาวและสีเงิน เนื่องจากทั้งสองสีนี้ทนต่อคราบสกปรกและดูแลง่าย เหมาะสมกับสภาพอากาศที่ร้อนและมีฝุ่นของไทยเป็นอย่างดี โดยสีขาวช่วยสะท้อนแสงแดดและลดอุณหภูมิภายในรถ ส่วนสีเงินให้ความรู้สึกคลาสสิกและดูหรู ไม่ค่อยเห็นความเก่าแม้ใช้มานาน แถมยังช่วยรักษามูลค่ารถในตลาดมือสองได้ดีอีกด้วย นอกจากสีมาตรฐานแล้ว ช่วงไม่กี่ปีมานี้สีเทาเข้มและสีดำก็เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่ชอบความสปอร์ตและทันสมัย แต่อย่าลืมว่าสีเข้มจะดูดความร้อนมากกว่าและเห็นรอยขีดข่วนได้ชัดเจนกว่าจึงต้องดูแลรักษาบ่อยขึ้น โดยเฉพาะการขัดสีรถเป็นประจำ เวลาเลือกสีควรคำนึงถึงการใช้งานด้วย เช่น ถ้าต้องขับทางไกลหรือใช้รับส่งลูกค้าบ่อยอาจเลือกสีอ่อนเพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าอยากได้รถสไตล์ส่วนตัวก็อาจพิจารณาสีพิเศษแบบสองโทนที่ผลิตจำนวนจำกัด ตลาดไทยยังมีบริการสีพิเศษแบบเพิร์ลและเมทัลลิคที่เพิ่มความทนทานและความเงางามให้สีรถ แม้ราคาจะสูงกว่าแต่ก็คุ้มค่า ข้อสำคัญคือสีแต่ละแบบจะมีค่าใช้จ่ายในการดูแลและมูลค่าซื้อขายเมื่อใช้ไปแล้วต่างกัน แนะนำให้ไปดูตัวรถจริงที่โชว์รูมภายใต้แสงต่างๆ ก่อนตัดสินใจ และควรสอบถามตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับวิธีการดูแลรักษาและบริการซ่อมสีสำหรับสีที่เลือกด้วย

Honda City Hatchback ในตลาดไทยตอนนี้ ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC แบบประหยัดน้ำมัน ความจุ 1497 ซีซี เครื่องยนต์ตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดและความทนทาน เหมาะมากๆ สำหรับขับในเมืองแบบกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย แถมยังตอบโจทย์คนไทยที่ต้องการรถสำหรับใช้ชีวิตประจำวันได้ดีเลย ส่วนเกียร์นั้นมักจะเป็น CVT ที่ให้ความรู้สึกนุ่มสบายเวลาขับข่า ในตลาดไทย รถขนาดเล็กอย่าง Hatchback เป็นที่นิยมมาก เพราะนอกจากจอดง่ายแล้ว ยังได้สิทธิ์ลดภาษีจากรัฐบาลสำหรับรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แถมค่าดูแลรักษาก็ไม่สูงมาก เหมาะกับคนที่อยากประหยัดงบประมาณ ส่วนเทคโนโลยี i-VTEC จากฮอนด้านี่แหละ ที่ช่วยปรับวาล์วให้ประหยัดน้ำมันตอนรอบต่ำ แต่ยังให้พลังสูงเมื่อต้องการ เร่งแซง หรือขึ้นเขาได้สบายๆ เรียกได้ว่าเข้ากับสภาพถนนแบบผสมผสานของไทยได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะสั้นในเมืองหรือการเดินทางไกลเป็นครั้งคราว ก็สามารถทำได้ สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อ Honda City Hatchback อยู่นะ นอกจากเรื่องเครื่องยนต์แล้ว ควรดูเรื่องบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยด้วย เพราะมีศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ แถมยังมีโปรโมชั่นดูแลรักษารถเป็นประจำให้เลือกใช้กันอีกนะครับ