Q
NETA X ใช้แบตเตอรี่ประเภทใด?
NETA X เป็น SUV ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมในตลาดจีน มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจาก CATL ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ชนิด Ternary Lithium ที่มีความหนาแน่นพลังงานสูง เทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบนี้ก็พบได้ทั่วไปในตลาดไทย เช่น รถไฟฟ้าญี่ปุ่นและยุโรปบางรุ่นที่ใช้ระบบคล้ายกัน ข้อดีของมันคือให้พลังงานสูง ประสิทธิภาพดีแม้อากาศเย็น เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แถมยังรองรับการชาร์จเร็ว ในโครงสร้างพื้นฐานชาร์จไฟที่มีอยู่ในไทยตอนนี้ สามารถชาร์จได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที
ที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยกำลังผลักดันอุตสาหกรรม EV อย่างหนัก รถไฟฟ้าที่ประกอบในประเทศจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนั้น NETA X ถ้าเข้ามาในตลาดไทยอาจใช้แบตเตอรี่ที่ผลิตร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อลดต้นทุน
สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถไฟฟ้า นอกจากประเภทแบตเตอรี่แล้ว ควรดูประกันแบตเตอรี่ (ส่วนใหญ่ให้ 8 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร) การบริการหลังการขายในพื้นที่ และระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ที่เหมาะกับสภาพถนนไทย เพราะทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อประสบการณ์การใช้รถในระยะยาว
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Neta X มีอะไรบ้าง?
Neta X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้า อาจมีจุดอ่อนหลักในตลาดประเทศไทยอยู่ที่ความเข้ากันได้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในสภาพอากาศร้อน โดยอุณหภูมิที่สูงของไทยอาจทำให้ระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ต้องทำงานหนักขึ้น ขณะเดียวกัน เครือข่ายสถานีชาร์จในบางพื้นที่ห่างไกลยังไม่ครอบคลุม อาจกระทบต่อความสะดวกในการเดินทางระยะไกล
ระบบขับขี่อัจฉริยะของรถรุ่นนี้ยังต้องพิสูจน์ความสามารถในการปรับตัวให้เหมาะกับสภาพการจราจรที่ซับซ้อนของไทย เช่น การตรวจจับมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งอยู่บนถนนอย่างหนาแน่น นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิม รถยนต์ไฟฟ้ายังมีอัตราการคงมูลค่าในตลาดมือสองที่ต่ำกว่า ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณา
ในมุมการใช้งานจริง ผู้บริโภคชาวไทยควรพิจารณาด้วยว่ารถรุ่นดังกล่าวมีศูนย์บริการหลังการขายกระจายตัวเพียงพอหรือไม่ รวมถึงมีเทคโนโลยีป้องกันน้ำในแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับฤดูฝนของไทยหรือเปล่า เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อประสบการณ์ในการใช้งานโดยตรง
Q
Neta X จัดอยู่ในรถกลุ่มเซกเมนต์ไหน?
เนตา เอ็กซ์ เป็นรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ตำแหน่งทางการตลาดอยู่ในเซ็กเมนต์ C-SUV ที่มีการแข่งขันสูงในตลาดรถไฟฟ้าโลก สำหรับตลาดไทยแล้ว รุ่นนี้ได้รับความสนใจไม่น้อยเพราะตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองที่คล่องตัว และความประหยัดพื้นที่เหมาะกับครอบครัว ตัวถังมีความยาวประมาณ 4.6 เมตร ระยะฐานล้อ 2.77 เมตร จุผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง ซึ่งขนาดนี้เหมาะกับการขับขี่ในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ พร้อมกันนั้นยังช่วยให้รองรับสภาพถนนช่วงฤดูฝนได้ดีด้วย สเปคการขับขี่แบบ CLTC วิ่งได้ไกล 501-660 กิโลเมตร เมื่อรวมกับนโยบาย EV 3.5 ของรัฐบาลไทย เช่น การลดภาษีนำเข้าและสนับสนุนสถานีชาร์จ ก็ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางได้มาก ในส่วนระบบอัจฉริยะ มาพร้อมหน้าจอกลาง 15.6 นิ้ว และระบบช่วยขับขี่ระดับ L2+ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนถนนไทยที่การจราจรค่อนข้างซับซ้อน คู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง BYD Atto 3 และ MG ZS EV อาจสู้ไม่ได้ในจุดเด่นอย่างขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าและแบตเตอรี่จาก CATL ที่เนตา เอ็กซ์ นำมาใช้ ตอนนี้ตลาดรถไฟฟ้าไทยโตเกิน 300% ต่อปี โดยเฉพาะ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดในราคา 1-1.5 ล้านบาทกำลังมาแรง เมื่อมีแบรนด์จีนเข้ามาเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคก็จะมีทางเลือกเพื่อสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายขึ้นในอนาคต
Q
มูลค่าขายต่อของ Neta X คือเท่าไหร่?
เนต้า เอ็กซ์ ในฐานะรถอีวีเอสยูวีรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดไทย มูลค่าซื้อขายต่อในตลาดมือสองจะถูกกำหนดโดยหลายปัจจัย ทั้งการรับรู้ของคนไทยต่อแบรนด์ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ความต้องการในตลาด รวมถึงนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าจากรัฐบาลไทย ปัจจุบันตลาดอีวีในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รัฐบาลออกมาตรการลดภาษีและให้เงินสนับสนุนเพื่อส่งเสริมให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าคงเหลือของเนต้า เอ็กซ์ ได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและความสะดวกในการหาสถานีชาร์จก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อมูลค่าซื้อขายต่อ ถ้าแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพคงที่และมีบริการหลังการขายที่ครบวงจร มูลค่าก็จะสูงกว่าปกติ โดยทั่วไปแล้วรถไฟฟ้าในไทยมักมีมูลค่าซื้อขายต่อต่ำกว่ารถน้ำมันเล็กน้อย แต่เมื่อโครงสร้างพื้นฐานพัฒนาไปและคนเริ่มนิยมมากขึ้น ช่องว่างนี้ก็กำลังลดลง สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อ แนะนำให้ศึกษานโยบายการรับประกันจากบริษัทและค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพราะสองเรื่องนี้ส่งผลโดยตรงต่อมูลค่ารถในระยะยาว รวมถึงสภาพอากาศร้อนของไทยก็อาจกระทบต่ออายุแบตเตอรี่ได้ การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอและการใช้งานอย่างเหมาะสมจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ และรักษามูลค่าของรถไว้ได้ในระดับที่ดี
Q
ขุมพลังใน Neta X คืออะไร?
Neta X มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง โดยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 120 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร รองรับการใช้งานทั้งในเมืองและการเดินทางระยะสั้นได้อย่างเหมาะสม แบตเตอรี่มีให้เลือกหลายขนาดตามแต่ละรุ่น โดยสามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและทริปท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์
ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย Neta X ยังมีระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ (BMS) ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้เสถียรแม้ในอุณหภูมิสูง และช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จเร็ว โดยสามารถชาร์จไฟจาก 0–80% ได้ภายใน 30 นาที ซึ่งตอบโจทย์กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จที่กำลังขยายตัวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
Q
ขนาด PCD ของ Neta X คือเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสกรู) ของ Neta X ที่ 5×114.3 มิลลิเมตร เป็นหนึ่งในขนาดยอดนิยมสำหรับการติดตั้งล้อในตลาดไทย ซึ่งเหมาะกับการอัพเกรดรถ SUV และรถเก๋งส่วนใหญ่ในท้องตลาด โดยในประเทศไทย รุ่นยอดฮิตอย่าง Toyota Fortuner หรือ Honda CR-V ก็ใช้ขนาด PCD เดียวกัน ทำให้เจ้าของ Neta X สามารถหาล้อที่เข้ากันได้ง่ายหรืออัพเกรดล้อได้สะดวกกว่า PCD นับเป็นพารามิเตอร์สำคัญในการเลือกซื้อล้อ เพราะถ้าเลือกขนาดถูกต้องจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันปัญหาการสั่นสะเทือนหรือการสึกหรอจากขนาดที่ไม่พอดี สำหรับคนไทยที่อยากเปลี่ยนล้อ นอกจาก PCD แล้ว ควรเช็กค่ากลางล้อ (CB) และค่าโอฟเซ็ต (ET) ด้วย แนะนำให้ซื้อจากร้านมืออาชีพหรือช่องทางตัวแทนจำหน่ายแท้เพื่อความมั่นใจในความเข้ากันได้ อีกปัจจัยที่ต้องคำนึงคือสภาพอากาศเมืองไทยที่ฝนชุก ควรเลือกวัสดุล้อที่ป้องกันการกัดกร่อนได้ดี เช่น อลูมิเนียมอัลลอยด์ และเลือกลายดอกยางที่รีดน้ำได้มีประสิทธิภาพ เพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวขึ้น
Q
Neta X รับรอง Apple CarPlay หรือไม่?
ตอนนี้รถรุ่น Neta X ที่วางขายในตลาดไทยมีการรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone ในไทยได้สัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อในรถที่สะดวกสบายมากขึ้น โดยสามารถใช้งานแอปพลิเคชันพื้นฐานอย่างแผนที่หรือเพลงผ่านหน้าจอกลางรถได้เลย สำหรับสภาพอากาศในไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ฟังก์ชันการเชื่อมต่อแบบไร้สายของ Apple CarPlay จะช่วยลดปัญหาสายชาร์จเสื่อมสภาพจากความร้อน ส่วนระบบควบคุมด้วยเสียงก็เหมาะกับการใช้งานในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ เพราะช่วยให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
ที่น่าสนใจคือรถบางรุ่นจากแบรนด์ญี่ปุ่นในตลาดไทยยังใช้ระบบ CarPlay แบบมีสาย ทำให้จุดเด่นของ Neta X ที่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายดูน่าสนใจกว่า แถมยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android อีกด้วย
ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ลองทดสอบระบบมัลติมีเดียในรถด้วยตัวเอง เพื่อเช็คความลื่นไหลและการทำงานร่วมกับบริการแผนที่ในไทย โดยเฉพาะการแสดงชื่อสถานที่แบบไทยและระบบแจ้งเตือนการจราจร เพราะปัจจุบันฟังก์ชันเชื่อมต่ออัจฉริยะแบบนี้กำลังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจรถ EV ในไทยซึ่งกำลังมาแรง
Q
Neta X ใช้ยางยี่ห้ออะไร?
Neta X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจในตลาดไทย ยางติดรถจากโรงงานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นย่อยและความต้องการของตลาด โดยทั่วไปมักเลือกใช้ยางจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Continental หรือ Michelin ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและการยึดเกาะบนถนนเปียก เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกบ่อยของประเทศไทย
สำหรับการเลือกยางในประเทศไทย นอกจากเรื่องยี่ห้อแล้ว ยังควรพิจารณาสภาพถนนในพื้นที่ใช้งาน เช่น การจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ หรือถนนที่ซับซ้อนนอกเมือง โดยควรให้ความสำคัญกับคุณสมบัติทนความร้อน การรีดน้ำ และความประหยัดน้ำมัน ยางอย่าง Michelin รุ่น Energy Saver หรือ Continental รุ่น EcoContact เป็นตัวเลือกที่ดีที่เน้นทั้งความสบายและความคุ้มค่า
ทั้งนี้ กฎหมายไทยกำหนดความลึกของดอกยางต้องไม่ต่ำกว่า 1.6 มิลลิเมตร จึงควรตรวจสอบสภาพดอกยางและแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในรถไฟฟ้าที่มีแรงบิดสูง ยิ่งต้องดูแลรักษายางอย่างใกล้ชิดเพื่อยืดอายุการใช้งาน หากผู้ใช้งานต้องการประสบการณ์ขับขี่ที่เงียบหรือประหยัดพลังงานมากขึ้น ก็สามารถปรึกษาร้านยางเพื่อเปลี่ยนเป็นยางแบบเงียบหรือแบบแรงต้านต่ำได้ แต่ต้องมั่นใจว่าเป็นรุ่นที่ผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกของไทยแล้วเท่านั้น
Q
ความกว้างของ Neta X คือเท่าไหร่?
รถ Neta X มีรุ่นย่อยให้เลือกหลายแบบ เช่น Neta X Comfort 2024 และ Neta X Smart 2024 ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้มีความกว้างตัวรถที่ 1,860 มม. เท่ากัน ความกว้างของรถเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อความมั่นคงในการขับขี่ การผ่านพ้นสิ่งกีดขวางบนถนน รวมถึงการจัดวางพื้นที่ภายในรถ รถที่มีความกว้างมากกว่าปกติมักจะให้พื้นที่ด้านข้างที่กว้างขวางกว่า ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่นั่งแถวหลังที่จะไม่รู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ ความกว้างของตัวรถยังช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถขณะขับเคลื่อนอีกด้วย
Q
แรงดันลมยางของ Neta X ควรเติมเท่าไหร่?
ค่าลมยางมาตรฐานของ Neta X อยู่ที่ประมาณ 2.3 ถึง 2.5 บาร์ (ประมาณ 33 ถึง 36 psi) ซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนในเมืองและทางหลวงที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อน ลมยางจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติเมื่อขับขี่ ดังนั้นควรเติมลมในขณะยางเย็นตามค่ามาตรฐานเพื่อความปลอดภัยและความนุ่มนวลในการขับขี่
หากต้องบรรทุกของหนักบ่อย หรือขับทางไกล แนะนำให้เพิ่มลมยางล้อหลังอีกประมาณ 0.1 ถึง 0.2 บาร์ แต่อย่าลืมตรวจสอบค่าที่แนะนำจากฉลากข้างประตูรถหรือฝาถังน้ำมันเป็นหลัก
การตรวจสอบลมยางอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ ควรเช็คลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้งด้วยเกจวัดลม เพราะอุณหภูมิที่สูงในไทยอาจทำให้แรงดันลมยางผันผวนได้ หากลมยางต่ำเกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและเสี่ยงต่อการระเบิดของยาง แต่ถ้าลมยางสูงเกินไปจะลดการยึดเกาะถนนและเพิ่มระยะเบรก
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Neta X ลมยางยังมีผลต่อระยะทางที่สามารถขับได้ในแต่ละการชาร์จอีกด้วย การรักษาค่าลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงช่วยให้ประหยัดพลังงานและขับขี่ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Q
ยางของ Neta X ใช้ขนาดเท่าไหร่?
Neta X มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ซึ่งถือเป็นขนาดมาตรฐานในกลุ่มรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกลางในตลาดประเทศไทย ขนาดนี้สามารถให้ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลในการขับขี่และสมรรถนะการควบคุม เหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายในไทย ทั้งในเมืองและนอกเมือง
ล้อขนาด 19 นิ้วยังช่วยเพิ่มความสปอร์ตให้กับรูปลักษณ์ของรถ และยังส่งผลดีต่อเสถียรภาพของตัวรถ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนของไทยที่ถนนเปียกบ่อย การใช้ล้อขนาดใหญ่ร่วมกับยางที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มการยึดเกาะบนพื้นผิวเปียกได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับผู้บริโภคชาวไทย การเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้านอกจากจะดูเรื่องขนาดล้อแล้ว ยังควรพิจารณาประเภทของยาง เช่น ยางที่มีแรงต้านการหมุนต่ำ (Low Rolling Resistance) เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น หรือยางที่มีร่องรีดน้ำดีเพื่อความปลอดภัยในฤดูฝน
นอกจากนี้ วัสดุของล้อก็มีความสำคัญ ล้ออัลลอยที่ทำจากอะลูมิเนียมจะทนต่อการกัดกร่อนได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย และยังมีน้ำหนักเบา ช่วยลดการใช้พลังงาน หากผู้ใช้งานต้องการความโดดเด่นเฉพาะตัว ก็สามารถพิจารณาเปลี่ยนล้อจากศูนย์หรือชุดแต่งที่ถูกกฎหมายได้ แต่อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายจราจรในประเทศไทย
Q&A ล่าสุด
Q
ราคาของ Carnival 2024 คือเท่าไร?
สำหรับรุ่นปี 2024 ทาง Kia Carnival ในตลาดไทยจะมีเฉพาะรุ่น Hybrid (HEV) ให้เลือก 2 แบบเท่านั้น คือรุ่น Premium ราคา 2,499,000 บาท และรุ่น Luxury ราคา 2,699,000 บาท โดยรถคันนี้ผลิตที่ประเทศมาเลเซีย จากโรงงาน Inokom ที่เมืองกูลิม แล้วส่งมาขายที่ไทย โดยตลาดไทยจะไม่มีรุ่นดีเซลแล้วครับ รถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงถึง 245 แรงม้า/แรงบิด 367 นิวตัน-เมตร ขนาดตัวรถยาว 5,155 มม. x กว้าง 1,995 มม. x สูง 1,785 มม. ระยะฐานล้อ 3,090 มม. ด้านหน้าออกแบบใหม่ตามสไตล์ล่าสุดของ Kia มีไฟหน้าแบบรูปตัว L กลับด้านที่เข้ากับไฟท้าย พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วแบบใหม่ ส่วนความแตกต่างระหว่างรุ่นจะอยู่ที่แผงหน้าปัดและอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกและความสบายมากมาย พร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ SmartSense อีกด้วย
Q
Kia Carnival ปี 2024 ราคาเท่าไหร่?
ราคารุ่น 2024 ของ Kia Carnival อยู่ที่ประมาณ 1.699 - 2.399 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก เช่น รุ่นพื้นฐาน LX ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นมาตรฐาน ส่วนรุ่นสูงสุด Platinum จะมีซันรูปแบบพาโนรามา ระบบเสียงระดับพรีเมียม ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ รถ MPV คันนี้โดดเด่นด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวาง จุผู้โดยสารได้ 7-8 ที่นั่ง แถมยังมีตัวเลือกระบบไฮบริด (ในบางรุ่น) และหน้าจอเทคโนโลยีคู่ขนาด 12.3 นิ้ว เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและการใช้งานเชิงธุรกิจ ส่วนระบบขับเคลื่อนก็มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.2L หรือเครื่องยนต์เบนซิน 3.5L ที่ให้ทั้งความประหยัดและสมรรถนะการขับขี่ ในตลาดไทยคู่แข่งหลักของ Carnival ก็คือ Toyota Alphard และ Honda Odyssey แต่ด้วยราคาที่คุ้มค่าและอุปกรณ์ที่ครบครันกว่า ทำให้คันนี้ได้เปรียบ แถมล่าสุด Kia ยังเพิ่มโปรโมชั่นรับประกัน 5 ปี หรือบริการฟรีสำหรับรุ่นท็อปอีกด้วย ถ้าสนใจผ่อนชำระ ส่วนใหญ่ศูนย์ฯ มีโปรโมชั่นผ่อน 60 งวด อัตราดอกเบี้ยประมาณ 2.5%-3.5% ต่อปี เงินดาวน์เริ่มต้นที่ 20%-30% ของราคารถ
Q
Kia Carnival 2024 ถูกยกเลิกผลิตหรือไม่?
ทางฝั่งค่ายคิวยังไม่มีแถลงการณ์ใดๆ เกี่ยวกับการหยุดผลิตรุ่น Carnival ปี 2024 ตอนนี้รุ่นนี้ยังขายปกติในหลายตลาดทั่วโลก รวมถึงตัวแทนจำหน่ายในบ้านเราก็ยังมีรถรุ่นใหม่ล่าสุดให้เลือกเหมือนเดิม สำหรับ Carnival นั้นเป็น MPV ที่ตอบโจทย์ครอบครัวด้วยจุดเด่นเรื่องการปรับแต่งพื้นที่ภายในที่ยืดหยุ่น ระบบขับเคลื่อนไฮบริด และเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ ADAS ที่ทำให้ยังคงความโดดเด่นในตลาดรถกลุ่มนี้ ถ้าสนใจอัปเดตข้อมูลล่าสุด แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายโดยตรงเพื่อสอบถามสเปกและสต็อครถคันปัจจุบัน รวมเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในตลาดอย่าง Toyota Alphard หรือ Honda Odyssey ที่แต่ละค่ายก็มีจุดแข็งเรื่องการออกแบบพื้นที่ภายในและเทคโนโลยีไฮบริดแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม การเลือกรถ MPV ควรเน้นที่ความต้องการจริงๆ ของครอบครัว เช่น จำนวนสมาชิก ความสะดวกสบายของที่นั่งแถวสาม หรือพื้นที่เก็บของที่เพียงพอ ล่าสุดบางแบรนด์ยังเปิดตัวรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งก็น่าจับตามองเหมือนกัน
Q
หัวข้อหลักของงาน "Bangkok International Motor Show 2024" คืออะไร?
ค่าดว่าหัวข้อหลักของงาน "Bangkok International Motor Show 2024" จะเน้นไปที่ "การเคลื่อนที่อัจฉริยะและอนาคตที่ยั่งยืน" โดยจะโฟกัสไปที่เทคโนโลยีรถไฟฟ้า นวัตกรรมระบบขับขี่อัตโนมัติ รวมถึงโซลูชั่นการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์อุตสาหกรรมยานยนต์โลกที่กำลังเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสนใจของผู้บริโภคไทยต่อรถไฮบริดและรถไฟฟ้า 100% เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แบรนด์ต่างๆ อาจนำเสนอรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่พวงมาลัยด้านขวา เช่น SUV เมืองที่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว หรือรถแฮทช์แบ็กที่มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะที่ออกแบบมาเฉพาะตลาดไทย นอกจากนี้ยังมีจุดน่าสนใจตรงที่งานนี้มักเปิดตัวระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น รวมถึงเทคโนโลยีขับเคลื่อนที่เหมาะกับถนนในฤดูฝน ซึ่งเป็นรายละเอียดสำคัญสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถพลังงานสะอาด นอกเหนือจากโซนจัดแสดงหลัก ยังมีกิจกรรมทดลองขับและสัมมนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีการชาร์จที่น่าสนใจ ช่วยให้เห็นประสิทธิภาพจริงของแต่ละแบรนด์ในสภาพแวดล้อมร้อนชื้น แนะนำให้ติดตามรายชื่อแบรนด์ผู้ร่วมงานล่วงหน้า เพราะบางแบรนด์อาจใช้โอกาสนี้เปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นที่พัฒนามาเฉพาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Q
เครื่องยนต์แบบไหนที่อยู่ใน Kia Carnival รุ่นปี 2024?
รุ่นปี 2024 ของ Kia Carnival นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์สองแบบให้เลือก คือ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.5 ลิตร แบบแรกเป็นเครื่องดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร ที่ให้กำลังส่งเยี่ยม แม้จะรอบต่ำก็ยังดึงแรงบิดได้ดี แถมประหยัดน้ำมันเหมาะกับคนที่ขับทางไกลบ่อยหรืออยากประหยัดค่าน้ำมัน ส่วนเครื่อง V6 3.5 ลิตรนั้นแรงกว่าเยอะ เวลาเร่งแซงหรือขับบนทางด่วนจะรู้สึกถึงความสดวกมากกว่า เหมาะกับคนที่ชอบความสปอร์ต ทั้งสองแบบถูกตั้งแต่งและจูนมาอย่างดี คู่กับเกียร์อัตโนมัติที่ทำงานลื่นไหล ไม่ว่าจะชอบแบบแรงหรือแบบประหยัดก็ตอบโจทย์ได้หมด ทำให้การขับขี่นุ่มนวลและสบายตัวทั้งคนขับและผู้โดยสาร
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวลือว่า Neta ค้างเงินเดือนพนักงานในประเทศจีน ซื้อ Neta X ได้หรือไม่
วิรุฬห์Nov 21, 2024

รถยนต์ไฟฟ้า NETA X 350 คัน เริ่มเดินทางจากเซี่ยงไฮ้มุ่งหน้าไปยังตลาดในประเทศไทย!
AshleyAug 16, 2024

Neta X นําแบรนด์จีนบุกเข้าไทย ยอดสั่งจองของไทยพุ่งทะลุ 1,000 คันภายใน 72 ชั่วโมง!
AshleyAug 2, 2024

THB 739,000! NETA X ไทยเปิดตัวบทใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้!
AshleyJul 26, 2024

NETA ไลฟ์โชว์การทดสอบมาตรฐานการกันน้ำของรถ จะเปิดตัวรถเอสยูวีไฟฟ้า NETA X!
AshleyJul 24, 2024
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย