Q

รถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าใช้มอเตอร์ประเภทใด

รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้มอเตอร์สองประเภทหลัก คือ มอเตอร์ซิงโครนัสแบบแม่เหล็กถาวร (PMSM) และมอเตอร์เหนี่ยวนำกระแสสลับ (AC Induction Motor) โดยมอเตอร์แบบแม่เหล็กถาวรได้รับความนิยมมากกว่าเพราะให้ประสิทธิภาพสูง ความหนาแน่นพลังงานดี และน้ำหนักเบา ซึ่งเหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่ต้องหยุดและเริ่มบ่อยๆ ส่วนมอเตอร์เหนี่ยวนำกระแสสลับจะเหมาะกับการขับขี่ระยะทางไกลด้วยความเร็วสูง บางรุ่นอาจใช้มอเตอร์ทั้งสองแบบร่วมกันเพื่อให้ได้ทั้งสมรรถนะและประหยัดพลังงาน ในตลาดไทย ผู้ผลิตมักออกแบบระบบระบายความร้อนเป็นพิเศษเพื่อรองรับสภาพอากาศร้อนที่ส่งผลต่อแบตเตอรี่และมอเตอร์ นอกจากนี้นโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทยยังช่วยผลักดันให้มีการปรับเทคโนโลยีให้เหมาะกับท้องถิ่นมากขึ้น เช่น ระบบควบคุมแรงบิดมอเตอร์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับถนนลื่นในช่วงฤดูฝน ที่น่าสนใจคือตอนนี้เทคโนโลยีมอเตอร์กำลังพัฒนาไปสู่ระบบแรงดันสูง 800V ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการชาร์จและประสิทธิภาพพลังงานอย่างเห็นได้ชัด คาดว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในไทยในอนาคตอาจเริ่ม採用เทคโนโลยีขั้นสูงนี้กันมากขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ความเร็วสูงสุดของ Toyota Corolla 2024 คือเท่าไหร่?
รถโตโยต้า โคโรลลา รุ่นปี 2024 ในประเทศไทยมีความเร็วสูงสุดที่แตกต่างกันไปตามรุ่นและแบบเครื่องยนต์ โดยรุ่นเครื่องยนต์เบนซินจะทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 180-200 กม./ชม. ส่วนรุ่นไฮบริดที่เน้นการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีความเร็วสูงสุดน้อยกว่าประมาณ 180 กม./ชม. ทั้งนี้ความเร็วจริงอาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนของไทย สภาพถนน หรือน้ำหนักบรรทุก ในตลาดไทย โคโรลลาเป็นรถยอดนิยมโดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 1.8L และ 1.6L ที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง ส่วนระบบไฮบริดจะช่วยประหยัดน้ำมันได้ชัดเจนในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ ควรระวังว่ากฎหมายไทยกำหนดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 120 กม./ชม. การขับขี่เกินความเร็วกำหนดไม่เพียงแต่เสี่ยงอันตรายแต่ยังอาจถูกปรับหนัก นอกจากนี้ระบบ Toyota Safety Sense ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งเป็นประโยชน์มากในสภาพถนนทั้งในเมืองและต่างจังหวัดของไทยที่หลากหลาย หากต้องการสมรรถนะ更高อาจพิจารณารุ่น Corolla Altis ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 2.0L แต่ต้องคำนึงว่าภาษีรถยนต์เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ในไทยจะสูงกว่า
Q
ยางขนาดเท่าไหร่ที่ติดตั้งใน Toyota Corolla ปี 2024?
สำหรับรถโตโยต้า Corolla รุ่นปี 2024 ที่วางขายในตลาดไทย ขนาดยางที่ทางผู้ผลิตจัดให้นั้นจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและระดับเครื่องยนต์ โดยขนาดยางที่พบได้บ่อยจะมี 2 แบบคือ 195/65 R15 และ 205/55 R16 ซึ่งแบบแรกมักจะใช้กับรุ่นพื้นฐาน ส่วนแบบหลังนั้นจะเจอในรุ่นท็อปหรือรุ่นสปอร์ต ตัวเลขขนาดยางเหล่านี้มีความหมายคือ ความกว้างของหน้ายาง (หน่วยเป็นมิลลิเมตร) อัตราส่วนความสูงของแก้มยางต่อความกว้างหน้ายาง (เป็นเปอร์เซ็นต์) และเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ (หน่วยเป็นนิ้ว) การเลือกขนาดยางที่เหมาะสมจะมีผลต่อการควบคุมรถ ความนุ่มสบาย และประหยัดน้ำมันด้วย ในสภาพอากาศเมืองไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้เลือกยางที่มีร่องดอกยางดีเพื่อระบายน้ำได้มีประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับตอนฝนตก นอกจากนี้ควรตรวจสอบสภาพยางและลมยางเป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหายางระเบิดจากความร้อนที่ทำให้ลมยางเพิ่มความดันสูงเกินไป ส่วนใครที่คิดจะอัพเกรดขนาดยาง ต้องระวังเรื่องกฎหมายด้วยนะ เพราะไทยเรามีข้อกำหนดเรื่องการเปลี่ยนขนาดยาง ต้องไม่เกินขอบเขตที่ผู้ผลิตอนุญาตไว้ เดี๋ยวจะเกิดปัญหาเวลาตรวจสภาพรถหรือทำประกันได้
Q
แรงดันลมยางที่เหมาะสมสำหรับรถ Toyota Corolla ปี 2024 คือเท่าไร?
ตามคำแนะนำอย่างเป็นทางการจากโตโยต้า มาตรฐานความดันลมยางสำหรับ Toyota Corolla รุ่นปี 2024 จะระบุไว้บนสติกเกอร์ที่กรอบประตูหรือในคู่มือผู้ใช้ สำหรับสภาพอากาศร้อนแบบประเทศไทย แนะนำให้ปรับความดันลมยางเมื่อยางเย็นอยู่ที่ 32 psi (2.2 bar) สำหรับล้อหน้า และ 30 psi (2.1 bar) สำหรับล้อหลัง หากมีการบรรทุกหนักเป็นประจำสามารถปรับตามค่าที่แนะนำบนสติกเกอร์ได้ สภาพอากาศร้อนในไทยจะทำให้ความดันลมยางเพิ่มขึ้นขณะขับขี่ ดังนั้นควรตรวจสอบความดันลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง ควรตรวจในช่วงเช้าหรือในที่ร่มจะดีที่สุด ต้องระวังว่าความดันลมยางสูงเกินไปจะทำให้การยึดเกาะถนนลดลง ส่วนความดันต่ำเกินไปจะเพิ่มการสิ้นเปลืองน้ำมันและเสี่ยงยางระเบิดได้ ในช่วงฤดูฝนอาจลดความดันลง 1-2 psi เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนถนนเปียก แต่ไม่ควรปรับค่าแตกต่างจากมาตรฐานโรงงานเกิน 10% สำหรับสภาพถนนในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ที่ค่อนข้างซับซ้อน แนะนำให้เลือกรุ่นที่มาพร้อมระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS) โดยในไทยปั๊มน้ำมันและอู่ซ่อมรถส่วนใหญ่มีบริการตรวจความดันลมยางฟรี ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนเดินทางไกล ยางแต่ละยี่ห้อเช่นมิชลินหรือบริจสโตนอาจมีค่ามาตรฐานแตกต่างกันเล็กน้อย หลังเปลี่ยนยางใหม่ควรตรวจสอบค่ามาตรฐานอีกครั้ง
Q
วิธีตรวจสอบว่าล้อไหนลมยางอ่อนใน Toyota Corolla ปี 2024
ถ้าจะตรวจสอบว่ายางล้อไหนของ Toyota Corolla รุ่นปี 2024 มีลมยางไม่พอ วิธีที่ง่ายที่สุดคือใช้ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS) ที่มากับรถเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว พอความดันลมยางต่ำกว่าค่ามาตรฐาน ไฟเตือนสีเหลืองบนแผงหน้าปัดจะสขึ้นพร้อมบอกตำแหน่งล้อนั้นๆ ช่วงอากาศร้อนๆแบบไทยๆเนี่ยลมยางขึ้นลงง่าย แนะนำให้ตรวจเช็คลมยางด้วยตัวเองอย่างน้อยเดือนละครั้ง จะใช้เครื่องวัดลมยางแบบดิจิตอลตามปั๊มหรืออู่ก็ได้ ต้องเช็คตอนยางเย็นเท่านั้น แล้วเทียบกับค่ามาตรฐานที่ติดอยู่บนกรอบประตูด้านคนขับ (ปกติล้อหน้าจะอยู่ที่ 220kPa ล้อหลัง 210kPa) ถ้าลมยางผิดปกติต้องปรับให้ตรงอย่าปล่อยทิ้งไว้ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนถนนไทยๆมักลื่น การรักษาลมยางให้พอดีจะช่วยให้เบรกทำงานปกติและประหยัดน้ำมันด้วย ยางลมอ่อนนานๆนอกจากจะสึกเร็วยังเสี่ยงยางระเบิดเวลาเดินทางไกลตอนแดดจัดๆอีก ส่วนวิธีสังเกตแบบคร่าวๆให้ดูว่ายางแตะพื้นเท่ากันทุกด้านหรือเปล่า แต่วิธีนี้ไม่แม่นเท่าใช้เครื่องวัดนะ
Q
รถ Toyota Corolla ปี 2024 ใช้น้ำมันเครื่องชนิดไหน?
สำหรับรถโตโยต้า Corolla รุ่นปี 2024 ที่จำหน่ายในประเทศไทย แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องชนิดสังเคราะห์เต็มรูปแบบที่มีความหนืด 0W-16 หรือ 5W-20 เพราะทั้งสองเกรดนี้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยและช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ดี อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบคู่มือผู้ใช้หรือสติกเกอร์ที่ฝากล่องน้ำมันเครื่องเพื่อดูเกรดที่ผู้ผลิตระบุไว้เป็นหลัก สภาพแวดล้อมของไทยที่มีทั้งความร้อนและความชื้นสูงต้องการน้ำมันเครื่องคุณภาพดีที่ได้มาตรฐาน API SP หรือ ILSAC GF-6A เพื่อความสะอาดของเครื่องยนต์และช่วยประหยัดน้ำมัน ที่สำคัญคือในสภาพอากาศร้อนแบบไทยๆ ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำและเปลี่ยนตามระยะเวลาที่กำหนดทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) แต่ถ้าต้องเผชิญกับการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ บ่อยๆ อาจต้องเปลี่ยนถี่ขึ้นกว่านั้น สำหรับรุ่นเทอร์โบหรือไฮบริด ต้องใช้น้ำมันเครื่องตามที่โตโยต้ากำหนดเท่านั้นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งศูนย์บริการโตโยต้าในไทยมีน้ำมันเครื่องต้นฉบับที่ได้มาตรฐานพร้อมบริการครบวงจร อีกเรื่องที่ควรรู้คือสภาพพื้นที่เป็นภูเขาของไทยอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น การเลือกน้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติป้องกันการเสื่อมสภาพจากความร้อนสูงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น
Q
ราคาที่ยุติธรรมสำหรับรถ Toyota Corolla ปี 2024 ควรจะเป็นเท่าไหร่?
รถโตโยต้า โคโรลลา รุ่นปี 2024 ในประเทศไทยน่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 800,000 ถึง 1,200,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย โดยรุ่นพื้นฐาน 1.6L แบบเบนซินจะราคาถูกกว่า ส่วนรุ่นไฮบริดแบบเต็มอุปกรณ์จะใกล้เคียงกับราคาสูงสุด นอกจากนี้ราคาจริงอาจรวมค่าประกัน ภาษี และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ด้วย ตลาดไทยให้ความนิยมโคโรลลามาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นรถที่ทนทานและประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ รุ่นไฮบริดยิ่งช่วยลดค่าน้ำมันลงไปอีก ก่อนซื้อแนะนำให้เปรียบเทียบราคาจากหลายๆ โชว์รูม เพราะโตโยต้ามีเครือข่ายจำหน่ายทั่วไทยและบริการหลังการขายค่อนข้างดี บางครั้งอาจมีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ผ่อนสบายๆ ดอกเบี้ยต่ำหรือบริการฟรีๆ ที่ช่วยลดต้นทุนในการใช้รถในระยะยาว ส่วนเรื่องค่าซื้อคืนกลับ โคโรลลาก็ทำได้ดีเหมือนกัน แม้ใช้ไปนานก็ยังคงมูลค่าได้ค่อนข้างดี
Q
รถ Toyota Corolla Cross ปี 2024 จะใช้งานได้นานแค่ไหน?
รถโตโยต้า Corolla Cross รุ่นปี 2024 ในประเทศไทยโดยทั่วไปสามารถใช้งานได้นาน 15-20 ปี หรือระยะทางเกิน 3 แสนกิโลเมตร ขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษาและนิสัยการขับขี่ รถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 2.0L แบบดูดธรรมดาและเกียร์ CVT ที่มีชื่อเรื่องความทนทาน พร้อมด้วยระบบไฮบริด (แบบ HEV) ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดีของโตโยต้า ซึ่งทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้เปลี่ยนน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเกียร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อรับมือกับอุณหภูมิสูง และควรดูแลป้องกันสนิมบริเวณช่วงล่างโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน สำหรับคนไทยแล้ว Corolla Cross มีอะไหล่พร้อมและค่าซ่อมบำรุงไม่แพง นอกจากนี้ยังเป็นรถที่ทรงตัวดีในตลาดมือสอง หากทำตามคำแนะนำของผู้ผลิตในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 1 หมื่นกิโลเมตรและใช้อะไหล่แท้ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้อีก ที่สำคัญคือสภาพถนนในไทยมีความหลากหลาย จึงควรตรวจสอบระบบช่วงล่างทุก 2 ปี โดยเฉพาะถ้าต้องขับบนถนนชนบทบ่อยๆ การดูแลรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความเชื่อถือได้ในการใช้งานระยะยาวอย่างเห็นได้ชัด
Q
รถ Toyota Corolla Cross รุ่นปี 2024 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
สำหรับตลาดไทย 2024 Toyota Corolla Cross นับเป็น SUV ที่น่าจับตามอง เพราะยังคงความน่าเชื่อถือและใช้งานได้จริงแบบฉบับโตโยต้า มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร แบบธรรมดาหรือระบบไฮบริดที่ให้กำลังส่งเรียบๆ แต่ประหยัดน้ำมันสุดๆ เหมาะทั้งขับในเมืองที่รถติดเยอะหรือจะไปทริปยาวๆ ก็ไหว ที่นั่งด้านหลังกว้างขวาง พับเก็บได้ตามต้องการ ช่วยเรื่องขนของหรือไปเที่ยวกับครอบครัว แถมยังติดตั้ง Toyota Safety Sense ระบบช่วยความปลอดภัยที่มีทั้งแจ้งเตือนก่อนชนและช่วยควบคุมเลน ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยขึ้น ส่วนเรื่องอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ แอร์ของรุ่นนี้เย็นฉ่ำ แถมช่วงล่างก็ปรับแต่งมาได้ดีทั้งนุ่มและกระชับ รับได้ทุกสภาพถนน ถ้าจะให้เปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในตลาดอย่าง Honda HR-V หรือ Mazda CX-30 ที่แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นต่างกัน แต่จุดแข็งของ Corolla Cross อยู่ที่เครือข่ายบริการหลังการขายของโตโยต้าที่ครอบคลุมและมูลค่ารถคงเหลือสูง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทยมาก
Q
คะแนนของ Toyota Corolla Cross 2024 คือเท่าไร?
รถโตโยต้า คอร์โรลลา ครอส รุ่นปี 2024 ในไทยทำผลงานด้านความปลอดภัยได้ดีมาก ได้รับการรับรองระดับ 5 ดาวจากอาเซียน NCAP พร้อมระบบ Toyota Safety Sense ที่มาพร้อมฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น ระบบเตือนการชนและช่วยรักษาเลน เหมาะสมกับสภาพถนนทั้งในเมืองและต่างจังหวัดของไทยที่ค่อนข้างซับซ้อน ส่วนด้านสมรรถนะมีทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรและไฮบริด 1.8 ลิตร โดยรุ่นไฮบริดให้ประหยัดน้ำมันถึงประมาณ 23 กม./ลิตรในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ ส่วนระบบช่วงล่างก็ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับถนนไทย ทั้งความนุ่มนวลและการทรงตัว ความโดดเด่นในตลาดไทยยังมาจากราคาที่เหมาะสมเพราะผลิตในประเทศและเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถในระดับเดียวกัน อาจเปรียบเทียบกับฮอนด้า เอชอาร์-วี หรือมาสด้า ซีเอ็กซ์-30 ก่อนตัดสินใจ แนะนำให้ไปทดลองขับที่โชว์รูมในกรุงเทพฯหรือเชียงใหม่ และอย่าลืมเช็กโปรโมชั่นลดภาษีสำหรับรถ Eco Car จากรัฐบาลไทยเพื่อช่วยในการตัดสินใจที่คุ้มค่าที่สุด
Q
คุณจะต้องจ่ายเท่าไรสำหรับรถ Toyota Corolla Cross ปี 2024?
ราคารถ Toyota Corolla Cross รุ่นปี 2024 ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามระดับเครื่องยนต์และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย โดยรุ่นพื้นฐานเริ่มต้นที่ประมาณ 950,000 - 1,100,000 บาท ส่วนรุ่นไฮบริดแบบเต็มสูบอาจสูงถึง 1,200,000 - 1,400,000 บาท แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อสอบถามราคาล่าสุดและข้อเสนอพิเศษ Corolla Cross เป็นที่นิยมในตลาดไทยเพราะประหยัดน้ำมันและความทนทาน เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานในครอบครัว โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นอีก เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นอกจากราคาแล้ว ควรพิจารณาบริการหลังการขาย นโยบายการรับประกันและค่าประกันรถด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในระยะยาว รัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเลือกรุ่นไฮบริดอาจได้รับสิทธิประโยชน์บางอย่าง ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ ซ้ำยังมีจุดแข็งเรื่องเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของโตโยต้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้สะดวกในเรื่องบริการหลังการขาย นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่หลายคนเลือก Corolla Cross

Q&A ล่าสุด

Q
Cadillac จะผลิตรถเปิดประทุนในปี 2025 หรือไม่?
ปัจจุบัน Cadillac ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเปิดตัวรถเปิดประทุนรุ่นใหม่ในปี 2025 หรือไม่ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแบรนด์ได้มุ่งมั่นที่จะขยายสายผลิตภัณฑ์รวมถึงรุ่นไฟฟ้าและประสิทธิภาพสูง ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะเปิดตัวรถเปิดประทุนในอนาคต หาก Cadillac ตัดสินใจเปิดตัวรุ่นเปิดประทุนจริง ๆ ก็มีแนวโน้มว่าจะพัฒนาบนแพลตฟอร์มที่มีอยู่ เช่น โครงสร้างของ CT4 หรือ CT5 พร้อมกับดีไซน์ล่าสุดและเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างระบบ Super Cruise ที่ช่วยในการขับขี่อัตโนมัติ รถเปิดประทุนเป็นที่นิยมมากในภูมิอากาศเขตร้อน โดยเฉพาะแบบฮาร์ดท็อปที่ให้ทั้งความเงียบและความปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงปรับตัวได้ดีกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถเปิดประทุนระดับลักซ์ชัวรี นอกจาก Cadillac แล้ว ยังสามารถมองหาตัวเลือกจากแบรนด์เยอรมันอย่าง BMW 4 ซีรี่ส์เปิดประทุนหรือ Mercedes-Benz E-Class เปิดประทุน ที่มาพร้อมกับประสบการณ์การขับขี่และฟีเจอร์สุดพรีเมียมเช่นกัน ก่อนตัดสินใจซื้อรถเปิดประทุน ควรให้ความสำคัญกับระบบกันเสียง ความทนทานของหลังคา และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา เพราะปัจจัยเหล่านี้สำคัญมากในการใช้งานระยะยาว
Q
"Rolls-Royce Dawn รุ่นเปิดประทุนปี 2025 ราคาเท่าไหร่?"
รถรุ่นเปิดประทุน Rolls-Royce Dawn รุ่นปี 2025 คาดว่าราคาจะอยู่ที่ 20-25 ล้านบาท โดยราคาสุดท้ายอาจมีการปรับขึ้นลงตามอุปกรณ์เสริมและอัตราแลกเปลี่ยน รุ่นนี้ถือเป็นรถเปิดประทุนสุดหรูระดับตำนาน ที่มาพร้อมกับการออกแบบด้วยมือและวัสดุคุณภาพสูงแบบฉบับ Rolls-Royce ด้านสมรรถนะคาดว่าจะใช้เครื่องยนต์ 6.6 ลิตร V12 เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงถึง 563 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เพื่อการขับขี่ที่ลื่นไหลเป็นที่สุด สำหรับตลาดไทย รถระดับนี้ต้องจองล่วงหน้าและมีบริการปรับแต่งแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นสีตัวถัง หนังหุ้มเบาะ หรือไม้ประดับภายใน ก็สามารถเลือกได้ตามสไตล์ส่วนตัว เนื่องจากเป็นรถนำเข้า ราคาจึงรวมภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ทำให้ราคาสุดท้ายสูงกว่าราคาป้าย แนะนำให้ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อรับบริการหลังการขายและประกันที่ครบวงจร แม้รถรุ่นนี้จะค่อนข้างทรงตัวในเรื่องมูลค่า แต่ก็ต้องยอมรับว่าค่าบำรุงรักษาค่อนข้างสูง ต้องเข้าศูนย์บริการตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ
Q
Audi จะผลิตรถยนต์เปิดประทุนในปี 2025 หรือไม่?
ปัจจุบัน Audi ยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะเปิดตัวรุ่นใหม่ของรถเปิดประทุนในปี 2025 หรือไม่ แต่จากแนวโน้มการอัปเดตสายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ในปีที่ผ่านมา Audi อาจจะเดินหน้าต่อด้วยแผนการอัปเกรดรุ่น A5 Cabriolet หรือ TT Roadster พร้อมเทคโนโลยีไฟฟ้าล่าสุด เช่น รุ่นไฟฟ้าบริสุทธิ์ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม PPE ในตลาดท้องถิ่น แม้ว่ารถเปิดประทุนจะยังเป็นที่นิยมในกลุ่มเล็กๆ แต่ก็ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่ชื่นชอบประสบการณ์การขับขี่สไตล์แฟชั่น โดยเฉพาะในเมืองชายทะเลหรือเขตท่องเที่ยว ที่ดีไซน์เปิดประทุนเหมาะกับการเดินทางแบบสโลว์ไลฟ์ในสภาพอากาศร้อน ถ้ามีการเปิดตัวรุ่นใหม่ คาดว่าจะติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro สุดคลาสสิกของออดี้ พร้อมห้องโดยสารแบบดิจิทัล และอาจมีการปรับปรุงเนื้อผ้าของหลังคาแบบผ้าใบและประสิทธิภาพระบบปรับอากาศให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อน แนะนำให้ติดตามงานมอเตอร์โชว์ระดับโลกช่วงสิ้นปี ซึ่งปกติ Audi มักเลือกงานนี้ในการเปิดตัวรุ่นสำคัญ ส่วนเรื่องการดูแลรักษา รถเปิดประทุนต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันความชื้นในช่วงฤดูฝนและการบำรุงหลังคาเป็นประจำ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผู้ซื้อควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจ
Q
Volvo ยังผลิตรถเปิดประทุนอยู่ไหม?
ปัจจุบัน Volvo ได้หยุดผลิตรถเปิดประทุนทั้งหมดแล้ว รุ่นสุดท้ายคือ C70 ซึ่งหยุดผลิตแล้วอย่างเป็นทางการในปี 2013 หลังจากนั้น Volvo ก็มุ่งเน้นไปที่รถ SUV รถเก๋งและรถเอสเตทที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดมากกว่า แม้ว่าตอนนี้ Volvo จะไม่มีรถเปิดประทุนขายแล้ว แต่ถ้าคุณสนใจรถแบบนี้ ลองมองยี่ห้ออื่นอย่าง BMW 4 Series รุ่นเปิดประทุนหรือ Mercedes-Benz E-Class Cabriolet ก็ได้ ในตลาดท้องถิ่นมีรถสองรุ่นนี้อยู่พอสมควรและมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ดี ส่วน Volvo ช่วงนี้เด่นมากในเรื่องรถไฟฟ้า เช่น XC40 Recharge และ C40 Recharge ที่เทคโนโลยีพร้อมและความปลอดภัยสูง ถ้าสนใจรถพลังงานใหม่ก็ลองศึกษาดู สำหรับรถเปิดประทุนในที่อากาศร้อน ต้องระวังเรื่องแสงแดดและการดูแลรักษาชุดตกแต่งภายใน แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีระบบเป่าคอร้อนและมีผ้าใบกันน้ำคุณภาพดี จะได้สนุกกับการขับแบบเปิดประทุนโดยยังคงความสะดวกสบาย
Q
มีรถปี 2025 รุ่น Fleetwood Cadillac ไหม?
ปัจจุบัน Cadillac ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับรุ่น Fleetwood ปี 2025 เนื่องจากแบรนด์ได้มุ่งเน้นการพัฒนารถ SUV และรถไฟฟ้าในระยะหลังนี้ เช่น รถไฟฟ้า Lyriq ที่ใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม Ultium ล่าสุด ในตลาดท้องถิ่น Cadillac ส่วนใหญ่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้วยรถ SUV อย่าง XT4 และ XT6 ซึ่งได้รับความสนใจไม่น้อยจากอุปกรณ์หรูหราและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ถ้าสนใจรถหรูคลาสสิกสไตล์อเมริกัน แนะนำให้ติดตามรุ่นเก่าอย่าง Fleetwood Brougham ในตลาดมือสอง ซึ่งเป็นที่รู้จักจากดีไซน์ตัวถังเรือและระบบช่วงล่างที่นุ่มนวล จริงๆ แล้วตอนนี้หลายแบรนด์หรูกำลังหันมาเน้นรถไฟฟ้า เช่น Mercedes EQS และ BMW i7 ที่แสดงทิศทางของรถหรูในอนาคต แนวโน้มนี้อาจส่งผลต่อแผนผลิตภัณฑ์ของ Cadillac ในอนาคต แนะนำให้ติดตามเว็บไซต์ทางการของ Cadillac ประเทศไทยหรือตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่ออัปเดตข่าวสารรถรุ่นใหม่ก่อนใคร
ดูเพิ่มเติม