Q

NETA X จะเข้าสู่ตลาดไทยเมื่อใด?

NETA X ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว โดยมีราคาตั้งแต่ 739,000 ถึง 799,000 บาท ปัจจุบันเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในกลุ่ม SUV ไฟฟ้า
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Neta X มีอะไรบ้าง?
Neta X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้า อาจมีจุดอ่อนหลักในตลาดประเทศไทยอยู่ที่ความเข้ากันได้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในสภาพอากาศร้อน โดยอุณหภูมิที่สูงของไทยอาจทำให้ระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ต้องทำงานหนักขึ้น ขณะเดียวกัน เครือข่ายสถานีชาร์จในบางพื้นที่ห่างไกลยังไม่ครอบคลุม อาจกระทบต่อความสะดวกในการเดินทางระยะไกล ระบบขับขี่อัจฉริยะของรถรุ่นนี้ยังต้องพิสูจน์ความสามารถในการปรับตัวให้เหมาะกับสภาพการจราจรที่ซับซ้อนของไทย เช่น การตรวจจับมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งอยู่บนถนนอย่างหนาแน่น นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิม รถยนต์ไฟฟ้ายังมีอัตราการคงมูลค่าในตลาดมือสองที่ต่ำกว่า ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณา ในมุมการใช้งานจริง ผู้บริโภคชาวไทยควรพิจารณาด้วยว่ารถรุ่นดังกล่าวมีศูนย์บริการหลังการขายกระจายตัวเพียงพอหรือไม่ รวมถึงมีเทคโนโลยีป้องกันน้ำในแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับฤดูฝนของไทยหรือเปล่า เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อประสบการณ์ในการใช้งานโดยตรง
Q
Neta X จัดอยู่ในรถกลุ่มเซกเมนต์ไหน?
เนตา เอ็กซ์ เป็นรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ตำแหน่งทางการตลาดอยู่ในเซ็กเมนต์ C-SUV ที่มีการแข่งขันสูงในตลาดรถไฟฟ้าโลก สำหรับตลาดไทยแล้ว รุ่นนี้ได้รับความสนใจไม่น้อยเพราะตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองที่คล่องตัว และความประหยัดพื้นที่เหมาะกับครอบครัว ตัวถังมีความยาวประมาณ 4.6 เมตร ระยะฐานล้อ 2.77 เมตร จุผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง ซึ่งขนาดนี้เหมาะกับการขับขี่ในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ พร้อมกันนั้นยังช่วยให้รองรับสภาพถนนช่วงฤดูฝนได้ดีด้วย สเปคการขับขี่แบบ CLTC วิ่งได้ไกล 501-660 กิโลเมตร เมื่อรวมกับนโยบาย EV 3.5 ของรัฐบาลไทย เช่น การลดภาษีนำเข้าและสนับสนุนสถานีชาร์จ ก็ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางได้มาก ในส่วนระบบอัจฉริยะ มาพร้อมหน้าจอกลาง 15.6 นิ้ว และระบบช่วยขับขี่ระดับ L2+ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนถนนไทยที่การจราจรค่อนข้างซับซ้อน คู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง BYD Atto 3 และ MG ZS EV อาจสู้ไม่ได้ในจุดเด่นอย่างขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าและแบตเตอรี่จาก CATL ที่เนตา เอ็กซ์ นำมาใช้ ตอนนี้ตลาดรถไฟฟ้าไทยโตเกิน 300% ต่อปี โดยเฉพาะ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดในราคา 1-1.5 ล้านบาทกำลังมาแรง เมื่อมีแบรนด์จีนเข้ามาเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคก็จะมีทางเลือกเพื่อสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายขึ้นในอนาคต
Q
มูลค่าขายต่อของ Neta X คือเท่าไหร่?
เนต้า เอ็กซ์ ในฐานะรถอีวีเอสยูวีรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดไทย มูลค่าซื้อขายต่อในตลาดมือสองจะถูกกำหนดโดยหลายปัจจัย ทั้งการรับรู้ของคนไทยต่อแบรนด์ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ความต้องการในตลาด รวมถึงนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าจากรัฐบาลไทย ปัจจุบันตลาดอีวีในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รัฐบาลออกมาตรการลดภาษีและให้เงินสนับสนุนเพื่อส่งเสริมให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าคงเหลือของเนต้า เอ็กซ์ ได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและความสะดวกในการหาสถานีชาร์จก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อมูลค่าซื้อขายต่อ ถ้าแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพคงที่และมีบริการหลังการขายที่ครบวงจร มูลค่าก็จะสูงกว่าปกติ โดยทั่วไปแล้วรถไฟฟ้าในไทยมักมีมูลค่าซื้อขายต่อต่ำกว่ารถน้ำมันเล็กน้อย แต่เมื่อโครงสร้างพื้นฐานพัฒนาไปและคนเริ่มนิยมมากขึ้น ช่องว่างนี้ก็กำลังลดลง สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อ แนะนำให้ศึกษานโยบายการรับประกันจากบริษัทและค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพราะสองเรื่องนี้ส่งผลโดยตรงต่อมูลค่ารถในระยะยาว รวมถึงสภาพอากาศร้อนของไทยก็อาจกระทบต่ออายุแบตเตอรี่ได้ การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอและการใช้งานอย่างเหมาะสมจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ และรักษามูลค่าของรถไว้ได้ในระดับที่ดี
Q
ขุมพลังใน Neta X คืออะไร?
Neta X มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง โดยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 120 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร รองรับการใช้งานทั้งในเมืองและการเดินทางระยะสั้นได้อย่างเหมาะสม แบตเตอรี่มีให้เลือกหลายขนาดตามแต่ละรุ่น โดยสามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและทริปท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์ ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย Neta X ยังมีระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ (BMS) ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้เสถียรแม้ในอุณหภูมิสูง และช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จเร็ว โดยสามารถชาร์จไฟจาก 0–80% ได้ภายใน 30 นาที ซึ่งตอบโจทย์กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จที่กำลังขยายตัวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
Q
ขนาด PCD ของ Neta X คือเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสกรู) ของ Neta X ที่ 5×114.3 มิลลิเมตร เป็นหนึ่งในขนาดยอดนิยมสำหรับการติดตั้งล้อในตลาดไทย ซึ่งเหมาะกับการอัพเกรดรถ SUV และรถเก๋งส่วนใหญ่ในท้องตลาด โดยในประเทศไทย รุ่นยอดฮิตอย่าง Toyota Fortuner หรือ Honda CR-V ก็ใช้ขนาด PCD เดียวกัน ทำให้เจ้าของ Neta X สามารถหาล้อที่เข้ากันได้ง่ายหรืออัพเกรดล้อได้สะดวกกว่า PCD นับเป็นพารามิเตอร์สำคัญในการเลือกซื้อล้อ เพราะถ้าเลือกขนาดถูกต้องจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันปัญหาการสั่นสะเทือนหรือการสึกหรอจากขนาดที่ไม่พอดี สำหรับคนไทยที่อยากเปลี่ยนล้อ นอกจาก PCD แล้ว ควรเช็กค่ากลางล้อ (CB) และค่าโอฟเซ็ต (ET) ด้วย แนะนำให้ซื้อจากร้านมืออาชีพหรือช่องทางตัวแทนจำหน่ายแท้เพื่อความมั่นใจในความเข้ากันได้ อีกปัจจัยที่ต้องคำนึงคือสภาพอากาศเมืองไทยที่ฝนชุก ควรเลือกวัสดุล้อที่ป้องกันการกัดกร่อนได้ดี เช่น อลูมิเนียมอัลลอยด์ และเลือกลายดอกยางที่รีดน้ำได้มีประสิทธิภาพ เพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวขึ้น
Q
Neta X รับรอง Apple CarPlay หรือไม่?
ตอนนี้รถรุ่น Neta X ที่วางขายในตลาดไทยมีการรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone ในไทยได้สัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อในรถที่สะดวกสบายมากขึ้น โดยสามารถใช้งานแอปพลิเคชันพื้นฐานอย่างแผนที่หรือเพลงผ่านหน้าจอกลางรถได้เลย สำหรับสภาพอากาศในไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ฟังก์ชันการเชื่อมต่อแบบไร้สายของ Apple CarPlay จะช่วยลดปัญหาสายชาร์จเสื่อมสภาพจากความร้อน ส่วนระบบควบคุมด้วยเสียงก็เหมาะกับการใช้งานในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ เพราะช่วยให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ที่น่าสนใจคือรถบางรุ่นจากแบรนด์ญี่ปุ่นในตลาดไทยยังใช้ระบบ CarPlay แบบมีสาย ทำให้จุดเด่นของ Neta X ที่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายดูน่าสนใจกว่า แถมยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android อีกด้วย ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ลองทดสอบระบบมัลติมีเดียในรถด้วยตัวเอง เพื่อเช็คความลื่นไหลและการทำงานร่วมกับบริการแผนที่ในไทย โดยเฉพาะการแสดงชื่อสถานที่แบบไทยและระบบแจ้งเตือนการจราจร เพราะปัจจุบันฟังก์ชันเชื่อมต่ออัจฉริยะแบบนี้กำลังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจรถ EV ในไทยซึ่งกำลังมาแรง
Q
Neta X ใช้ยางยี่ห้ออะไร?
Neta X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจในตลาดไทย ยางติดรถจากโรงงานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นย่อยและความต้องการของตลาด โดยทั่วไปมักเลือกใช้ยางจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Continental หรือ Michelin ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและการยึดเกาะบนถนนเปียก เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกบ่อยของประเทศไทย สำหรับการเลือกยางในประเทศไทย นอกจากเรื่องยี่ห้อแล้ว ยังควรพิจารณาสภาพถนนในพื้นที่ใช้งาน เช่น การจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ หรือถนนที่ซับซ้อนนอกเมือง โดยควรให้ความสำคัญกับคุณสมบัติทนความร้อน การรีดน้ำ และความประหยัดน้ำมัน ยางอย่าง Michelin รุ่น Energy Saver หรือ Continental รุ่น EcoContact เป็นตัวเลือกที่ดีที่เน้นทั้งความสบายและความคุ้มค่า ทั้งนี้ กฎหมายไทยกำหนดความลึกของดอกยางต้องไม่ต่ำกว่า 1.6 มิลลิเมตร จึงควรตรวจสอบสภาพดอกยางและแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในรถไฟฟ้าที่มีแรงบิดสูง ยิ่งต้องดูแลรักษายางอย่างใกล้ชิดเพื่อยืดอายุการใช้งาน หากผู้ใช้งานต้องการประสบการณ์ขับขี่ที่เงียบหรือประหยัดพลังงานมากขึ้น ก็สามารถปรึกษาร้านยางเพื่อเปลี่ยนเป็นยางแบบเงียบหรือแบบแรงต้านต่ำได้ แต่ต้องมั่นใจว่าเป็นรุ่นที่ผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกของไทยแล้วเท่านั้น
Q
ความกว้างของ Neta X คือเท่าไหร่?
รถ Neta X มีรุ่นย่อยให้เลือกหลายแบบ เช่น Neta X Comfort 2024 และ Neta X Smart 2024 ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้มีความกว้างตัวรถที่ 1,860 มม. เท่ากัน ความกว้างของรถเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อความมั่นคงในการขับขี่ การผ่านพ้นสิ่งกีดขวางบนถนน รวมถึงการจัดวางพื้นที่ภายในรถ รถที่มีความกว้างมากกว่าปกติมักจะให้พื้นที่ด้านข้างที่กว้างขวางกว่า ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่นั่งแถวหลังที่จะไม่รู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ ความกว้างของตัวรถยังช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถขณะขับเคลื่อนอีกด้วย
Q
แรงดันลมยางของ Neta X ควรเติมเท่าไหร่?
ค่าลมยางมาตรฐานของ Neta X อยู่ที่ประมาณ 2.3 ถึง 2.5 บาร์ (ประมาณ 33 ถึง 36 psi) ซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนในเมืองและทางหลวงที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อน ลมยางจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติเมื่อขับขี่ ดังนั้นควรเติมลมในขณะยางเย็นตามค่ามาตรฐานเพื่อความปลอดภัยและความนุ่มนวลในการขับขี่ หากต้องบรรทุกของหนักบ่อย หรือขับทางไกล แนะนำให้เพิ่มลมยางล้อหลังอีกประมาณ 0.1 ถึง 0.2 บาร์ แต่อย่าลืมตรวจสอบค่าที่แนะนำจากฉลากข้างประตูรถหรือฝาถังน้ำมันเป็นหลัก การตรวจสอบลมยางอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ ควรเช็คลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้งด้วยเกจวัดลม เพราะอุณหภูมิที่สูงในไทยอาจทำให้แรงดันลมยางผันผวนได้ หากลมยางต่ำเกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและเสี่ยงต่อการระเบิดของยาง แต่ถ้าลมยางสูงเกินไปจะลดการยึดเกาะถนนและเพิ่มระยะเบรก สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Neta X ลมยางยังมีผลต่อระยะทางที่สามารถขับได้ในแต่ละการชาร์จอีกด้วย การรักษาค่าลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงช่วยให้ประหยัดพลังงานและขับขี่ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Q
ยางของ Neta X ใช้ขนาดเท่าไหร่?
Neta X มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ซึ่งถือเป็นขนาดมาตรฐานในกลุ่มรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกลางในตลาดประเทศไทย ขนาดนี้สามารถให้ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลในการขับขี่และสมรรถนะการควบคุม เหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายในไทย ทั้งในเมืองและนอกเมือง ล้อขนาด 19 นิ้วยังช่วยเพิ่มความสปอร์ตให้กับรูปลักษณ์ของรถ และยังส่งผลดีต่อเสถียรภาพของตัวรถ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนของไทยที่ถนนเปียกบ่อย การใช้ล้อขนาดใหญ่ร่วมกับยางที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มการยึดเกาะบนพื้นผิวเปียกได้ดียิ่งขึ้น สำหรับผู้บริโภคชาวไทย การเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้านอกจากจะดูเรื่องขนาดล้อแล้ว ยังควรพิจารณาประเภทของยาง เช่น ยางที่มีแรงต้านการหมุนต่ำ (Low Rolling Resistance) เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น หรือยางที่มีร่องรีดน้ำดีเพื่อความปลอดภัยในฤดูฝน นอกจากนี้ วัสดุของล้อก็มีความสำคัญ ล้ออัลลอยที่ทำจากอะลูมิเนียมจะทนต่อการกัดกร่อนได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย และยังมีน้ำหนักเบา ช่วยลดการใช้พลังงาน หากผู้ใช้งานต้องการความโดดเด่นเฉพาะตัว ก็สามารถพิจารณาเปลี่ยนล้อจากศูนย์หรือชุดแต่งที่ถูกกฎหมายได้ แต่อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายจราจรในประเทศไทย

ข้อดี

ราคาประกอบด้วยคุณสมบัติที่ดีและได้รับรางวัลสองรางวัลในประเทศไทย
กำลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งและประสิทธิภาพการควบคุมที่แม่นยำ
ประสบการณ์ขับรถที่สบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทาง

ข้อเสีย

บริษัท NETA Auto ประเทศไทยประสบความสูญเสียและยอดขายลดลง
ความกังวลที่อาจเกิดขึ้นในด้านความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
การถอนออกจากตลาดบางแห่งทำให้ความกังวลเพิ่มขึ้น

Q&A ล่าสุด

Q
การเรียกคืนของ Honda 2021 คืออะไร
ตอนนี้ยังไม่พบข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเรียกคืนรถ Honda ในประเทศไทยปี 2021 โดยทั่วไปการเรียกคืนมักเกิดจากปัญหาด้านความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพของรถยนต์ เช่น ชิ้นส่วนมีข้อบกพร่อง ระบบซอฟต์แวร์มีปัญหา บางกรณีอาจเกี่ยวกับระบบเบรกที่อาจส่งผลต่อการหยุดรถ หรือชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่มีปัญหา ทำให้การทำงานไม่เสถียร ถ้าอยากทราบรายละเอียดการเรียกคืนของ Honda ปี 2021 แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่าย Honda ในพื้นที่ของคุณโดยตรง พวกเขาจะมีข้อมูลล่าสุดจากผู้ผลิตและสามารถอธิบายให้เข้าใจได้ หรือลองเช็คประกาศทางการจากเว็บไซต์ของ Honda ก็ได้
Q
Honda Accord ปี 2021 มีการรับประกันอะไรบ้าง?
นโยบายการรับประกันรถ Honda Accord รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยโดยทั่วไปจะให้ความคุ้มครอง 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) ซึ่งครอบคลุมส่วนเครื่องยนต์ เกียร์ และชิ้นส่วนหลักอื่นๆ ส่วนอะไหล่สิ้นเปลืองเช่นแบตเตอรี่อาจมีการรับประกันแยก 1-2 ปี อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ตรวจสอบเงื่อนไขรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่าย Honda อนุญาตในไทยอีกที เพราะบางครั้งมักจะมีโปรโมชันเสริมเพิ่มระยะเวลารับประกันในแต่ละพื้นที่ สภาพอากาศร้อนชื้นของไทยมีผลต่อการดูแลรักษารถ เช่น แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองแอร์บ่อยขึ้นทุก 10,000 กิโลเมตร และตรวจสอบระบบไฟฟ้าเป็นประจำเพื่อป้องกันความชื้น ซึ่งบันทึกการบำรุงรักษาเหล่านี้จะมีผลต่อสิทธิ์รับประกัน ที่น่าสนใจคือ กรมการขนส่งทางบกไทยกำหนดว่ารถใหม่ทุกคันต้องมีการรับประกันอย่างน้อย 1 ปี แต่มาตรฐาน 3 ปีของฮอนด้าสูงกว่าที่กำหนด แสดงถึงความมั่นใจในคุณภาพ สำหรับรถมือสองที่ผ่านการรับรองจาก Honda มักมีการรับประกันแบบขยายระยะเวลา 1-2 ปี ซึ่งมอบความคุ้มครองเพิ่มเติมให้กับเจ้าของรถมือสอง ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือรถมือสอง การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตถือเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาการรับประกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศร้อนและฝนตกของประเทศไทย การบำรุงรักษาอย่างเหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถของคุณได้อย่างมาก
Q
วิธีสตาร์ทรถอ Accord 2021 อัตโนมัติ
Honda Accord ปี 2021 ในตลาดประเทศไทย มาพร้อมฟังก์ชันสตาร์ทรถจากระยะไกลที่สามารถควบคุมผ่านกุญแจอัจฉริยะ ขั้นตอนเฉพาะคือกดปุ่มล็อก จากนั้นกดปุ่มสตาร์ทรถจากระยะไกล (ปกติจะเป็นรูปลูกศรวงกลม) ค้างไว้ประมาณ 2 วินาที เครื่องยนต์จะสตาร์ทโดยอัตโนมัติ ฟังก์ชันนี้มีประโยชน์มากในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย และสามารถเปิดเครื่องปรับอากาศล่วงหน้าเพื่อระบายความร้อนได้ โปรดทราบว่ารถต้องเข้าเกียร์ P และถังน้ำมันต้องมีน้ำมันเพียงพอ ระยะการทำงานที่มีประสิทธิภาพอยู่ที่ประมาณ 30 เมตร หากไม่ได้เข้าไปในรถหลังจากสตาร์ทรถ ระบบจะปิดตัวเองโดยอัตโนมัติหลังจาก 10 นาทีเพื่อประหยัดน้ำมัน เมื่อใช้ฟังก์ชันนี้ในประเทศไทย ขอแนะนำให้ใส่ใจกับสภาพแวดล้อมการระบายอากาศโดยรอบและหลีกเลี่ยงการใช้ในโรงรถแบบปิด นอกจากการสตาร์ทรถจากระยะไกลแล้ว แอคคอร์ด ปี 2021 ยังมาพร้อมกับระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ Honda CONNECT ซึ่งสามารถควบคุมฟังก์ชันต่างๆ จากระยะไกลผ่าน App บนโทรศัพท์มือถือได้มากขึ้น การกำหนดค่าเทคโนโลยีอัจฉริยะประเภทนี้กำลังกลายเป็นตัวเลือกหลักสำหรับรถเก๋งระดับกลางถึงระดับสูงในประเทศไทย ขอแนะนำให้ผู้ใช้อ่านคู่มือรถอย่างละเอียดเพื่อคำแนะนำการใช้งานอย่างชาญฉลาดที่ครบถ้วน และเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้รับอนุญาตเป็นประจำเพื่ออัปเกรดระบบ เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด
Q
Honda Accord ปี 2019 หรือ Honda Accord ปี 2020 อันไหนดีกว่า?
รถ Honda Accord รุ่นปี 2019 และ 2020 เป็นตัวเลือกยอดนิยมในตลาดไทยด้วยจุดเด่นเรื่องความทนทาน ประหยัดน้ำมัน และห้องโดยสารกว้างขวาง แต่รุ่นปี 2020 มีอัพเกรดที่น่าสนใจหลายจุด โดยเฉพาะระบบความปลอดภัยที่ติดตั้ง Honda Sensing เป็นมาตรฐานในรุ่น 2020 ซึ่งรวมฟังก์ชันช่วยขับขี่ รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบรักษาเลน และฟังก์ชันเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมการขับขี่ในเมืองและระยะไกลที่ซับซ้อนของประเทศไทย และรุ่นปี 2019 บางรุ่นอาจต้องเป็นตัวเลือกเสริม ส่วนด้านสมรรถนะทั้งสองรุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบและระบบไฮบริด 2.0 ลิตร แต่รุ่น 2020 มีการปรับปรุงระบบไฮบริดให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เหมาะกับสภาพการณ์น้ำมันราคาสูงของไทย ด้านการออกแบบ รุ่น 2020 มีการปรับโฉบกรอบหน้ารถและล้อใหม่ พร้อมอัพเกรดหน้าจอสัมผัส 8 นิ้วที่รองรับ Apple CarPlay ให้ความรู้สึกไฮเทคมากขึ้น สำหรับผู้ซื้อมือสองควรระวังว่ารุ่น 2020 อาจมีราคาสูกว่ารุ่น 2019 ประมาณ 10-15% แต่ได้ระยะเวลารับประทานที่ยาวนานกว่า ถ้าเงินพอแนะนำให้เลือกรุ่น 2020 จะคุ้มค่ากว่า แถมฮอนด้าแอคคอร์ดยังเป็นรถที่นิยมในไทย ทำให้หาอะไหล่ง่ายและราคาไม่แพง นี่คือเหตุผลที่ครอบครัวไทยหลายบ้านเลือกแอคคอร์ดเป็นรถคู่ใจ
Q
มูลค่าการซื้อขาย Honda Accord ปี 2021 คือเท่าไหร่?
มูลค่าการซื้อขายรถมือสอง Honda Accord รุ่นปี 2021 ในประเทศไทยจะขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทางที่ใช้งาน รุ่นและระดับความประณีต รวมถึงความต้องการในตลาดท้องถิ่น โดยทั่วไปแล้ว รุ่นที่สภาพดีและระยะทางใช้งานน้อยมักเป็นที่ต้องการในตลาดรถมือสองของไทย โดยเฉพาะรุ่นระดับสูงอย่าง EX หรือ Touring ที่มีอัตราการรักษามูลค่าค่อนข้างดี จากข้อมูลตลาด รถ Accord ปี 2021 อาจมีการลดมูลค่าประมาณ 15% ถึง 30% จากราคาเดิม แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาประวัติการบริการและประวัติอุบัติเหตุของรถแต่ละคันด้วย ผู้บริโภคไทยเวลาซื้อขายรถมือสองนอกจากจะสนใจราคาแล้ว ยังควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายบริการหลังการขายและความพร้อมของอะไหล่ในพื้นที่ เพราะปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการใช้งานระยะยาวและมูลค่าการขายต่อ นอกจากนี้ นโยบายภาษีรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลไทยและการผันผวนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงก็อาจส่งผลต่อความต้องการในตลาดรถมือสองได้ แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบรายงานการประเมินมูลค่าผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือ หรือปรึกษาตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อขอข้อมูลการลดมูลค่าที่แม่นยำกว่า
ดูเพิ่มเติม