Q

Neta X ผลิตที่ไหน?

ฐานการผลิตของ Neta X ตั้งอยู่ที่ประเทศจีน โดยบริษัท Hozon New Energy Automobile Co.Ltd. เป็นผู้รับผิดชอบการผลิต ซึ่งบริษัทนี้มีฐานการผลิตที่ทันสมัยหลายแห่งในจีน โดยใช้กระบวนการผลิตขั้นสูงและระบบควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่ายานพาหนะมีคุณภาพได้มาตรฐานสากล สำหรับตลาดไทยแล้ว Neta X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าทั้งคัน มีจุดเด่นด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย เช่น การได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสรรพสามิตและภาษีนำเข้า นอกจากนี้ Neta X ยังโดดเด่นในเรื่องระยะขับขี่และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะสั้นของคนไทย ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านยานยนต์ไฟฟ้าของไทยที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อนาคตตลาดของรุ่นอย่าง Neta X น่าจับตามอง ส่วนลูกค้าที่สนใจก็สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการหลังการขายและนโยบายการรับประกันแบตเตอรี่จากตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่น เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานในระยะยาว
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Neta X มีอะไรบ้าง?
Neta X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้า อาจมีจุดอ่อนหลักในตลาดประเทศไทยอยู่ที่ความเข้ากันได้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในสภาพอากาศร้อน โดยอุณหภูมิที่สูงของไทยอาจทำให้ระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ต้องทำงานหนักขึ้น ขณะเดียวกัน เครือข่ายสถานีชาร์จในบางพื้นที่ห่างไกลยังไม่ครอบคลุม อาจกระทบต่อความสะดวกในการเดินทางระยะไกล ระบบขับขี่อัจฉริยะของรถรุ่นนี้ยังต้องพิสูจน์ความสามารถในการปรับตัวให้เหมาะกับสภาพการจราจรที่ซับซ้อนของไทย เช่น การตรวจจับมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งอยู่บนถนนอย่างหนาแน่น นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิม รถยนต์ไฟฟ้ายังมีอัตราการคงมูลค่าในตลาดมือสองที่ต่ำกว่า ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณา ในมุมการใช้งานจริง ผู้บริโภคชาวไทยควรพิจารณาด้วยว่ารถรุ่นดังกล่าวมีศูนย์บริการหลังการขายกระจายตัวเพียงพอหรือไม่ รวมถึงมีเทคโนโลยีป้องกันน้ำในแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับฤดูฝนของไทยหรือเปล่า เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อประสบการณ์ในการใช้งานโดยตรง
Q
Neta X จัดอยู่ในรถกลุ่มเซกเมนต์ไหน?
เนตา เอ็กซ์ เป็นรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ตำแหน่งทางการตลาดอยู่ในเซ็กเมนต์ C-SUV ที่มีการแข่งขันสูงในตลาดรถไฟฟ้าโลก สำหรับตลาดไทยแล้ว รุ่นนี้ได้รับความสนใจไม่น้อยเพราะตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองที่คล่องตัว และความประหยัดพื้นที่เหมาะกับครอบครัว ตัวถังมีความยาวประมาณ 4.6 เมตร ระยะฐานล้อ 2.77 เมตร จุผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง ซึ่งขนาดนี้เหมาะกับการขับขี่ในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ พร้อมกันนั้นยังช่วยให้รองรับสภาพถนนช่วงฤดูฝนได้ดีด้วย สเปคการขับขี่แบบ CLTC วิ่งได้ไกล 501-660 กิโลเมตร เมื่อรวมกับนโยบาย EV 3.5 ของรัฐบาลไทย เช่น การลดภาษีนำเข้าและสนับสนุนสถานีชาร์จ ก็ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางได้มาก ในส่วนระบบอัจฉริยะ มาพร้อมหน้าจอกลาง 15.6 นิ้ว และระบบช่วยขับขี่ระดับ L2+ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนถนนไทยที่การจราจรค่อนข้างซับซ้อน คู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง BYD Atto 3 และ MG ZS EV อาจสู้ไม่ได้ในจุดเด่นอย่างขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าและแบตเตอรี่จาก CATL ที่เนตา เอ็กซ์ นำมาใช้ ตอนนี้ตลาดรถไฟฟ้าไทยโตเกิน 300% ต่อปี โดยเฉพาะ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดในราคา 1-1.5 ล้านบาทกำลังมาแรง เมื่อมีแบรนด์จีนเข้ามาเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคก็จะมีทางเลือกเพื่อสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายขึ้นในอนาคต
Q
มูลค่าขายต่อของ Neta X คือเท่าไหร่?
เนต้า เอ็กซ์ ในฐานะรถอีวีเอสยูวีรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดไทย มูลค่าซื้อขายต่อในตลาดมือสองจะถูกกำหนดโดยหลายปัจจัย ทั้งการรับรู้ของคนไทยต่อแบรนด์ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ความต้องการในตลาด รวมถึงนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าจากรัฐบาลไทย ปัจจุบันตลาดอีวีในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รัฐบาลออกมาตรการลดภาษีและให้เงินสนับสนุนเพื่อส่งเสริมให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าคงเหลือของเนต้า เอ็กซ์ ได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและความสะดวกในการหาสถานีชาร์จก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อมูลค่าซื้อขายต่อ ถ้าแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพคงที่และมีบริการหลังการขายที่ครบวงจร มูลค่าก็จะสูงกว่าปกติ โดยทั่วไปแล้วรถไฟฟ้าในไทยมักมีมูลค่าซื้อขายต่อต่ำกว่ารถน้ำมันเล็กน้อย แต่เมื่อโครงสร้างพื้นฐานพัฒนาไปและคนเริ่มนิยมมากขึ้น ช่องว่างนี้ก็กำลังลดลง สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อ แนะนำให้ศึกษานโยบายการรับประกันจากบริษัทและค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพราะสองเรื่องนี้ส่งผลโดยตรงต่อมูลค่ารถในระยะยาว รวมถึงสภาพอากาศร้อนของไทยก็อาจกระทบต่ออายุแบตเตอรี่ได้ การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอและการใช้งานอย่างเหมาะสมจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ และรักษามูลค่าของรถไว้ได้ในระดับที่ดี
Q
ขุมพลังใน Neta X คืออะไร?
Neta X มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง โดยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 120 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร รองรับการใช้งานทั้งในเมืองและการเดินทางระยะสั้นได้อย่างเหมาะสม แบตเตอรี่มีให้เลือกหลายขนาดตามแต่ละรุ่น โดยสามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและทริปท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์ ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย Neta X ยังมีระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ (BMS) ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้เสถียรแม้ในอุณหภูมิสูง และช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จเร็ว โดยสามารถชาร์จไฟจาก 0–80% ได้ภายใน 30 นาที ซึ่งตอบโจทย์กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จที่กำลังขยายตัวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
Q
ขนาด PCD ของ Neta X คือเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสกรู) ของ Neta X ที่ 5×114.3 มิลลิเมตร เป็นหนึ่งในขนาดยอดนิยมสำหรับการติดตั้งล้อในตลาดไทย ซึ่งเหมาะกับการอัพเกรดรถ SUV และรถเก๋งส่วนใหญ่ในท้องตลาด โดยในประเทศไทย รุ่นยอดฮิตอย่าง Toyota Fortuner หรือ Honda CR-V ก็ใช้ขนาด PCD เดียวกัน ทำให้เจ้าของ Neta X สามารถหาล้อที่เข้ากันได้ง่ายหรืออัพเกรดล้อได้สะดวกกว่า PCD นับเป็นพารามิเตอร์สำคัญในการเลือกซื้อล้อ เพราะถ้าเลือกขนาดถูกต้องจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันปัญหาการสั่นสะเทือนหรือการสึกหรอจากขนาดที่ไม่พอดี สำหรับคนไทยที่อยากเปลี่ยนล้อ นอกจาก PCD แล้ว ควรเช็กค่ากลางล้อ (CB) และค่าโอฟเซ็ต (ET) ด้วย แนะนำให้ซื้อจากร้านมืออาชีพหรือช่องทางตัวแทนจำหน่ายแท้เพื่อความมั่นใจในความเข้ากันได้ อีกปัจจัยที่ต้องคำนึงคือสภาพอากาศเมืองไทยที่ฝนชุก ควรเลือกวัสดุล้อที่ป้องกันการกัดกร่อนได้ดี เช่น อลูมิเนียมอัลลอยด์ และเลือกลายดอกยางที่รีดน้ำได้มีประสิทธิภาพ เพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวขึ้น
Q
Neta X รับรอง Apple CarPlay หรือไม่?
ตอนนี้รถรุ่น Neta X ที่วางขายในตลาดไทยมีการรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone ในไทยได้สัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อในรถที่สะดวกสบายมากขึ้น โดยสามารถใช้งานแอปพลิเคชันพื้นฐานอย่างแผนที่หรือเพลงผ่านหน้าจอกลางรถได้เลย สำหรับสภาพอากาศในไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ฟังก์ชันการเชื่อมต่อแบบไร้สายของ Apple CarPlay จะช่วยลดปัญหาสายชาร์จเสื่อมสภาพจากความร้อน ส่วนระบบควบคุมด้วยเสียงก็เหมาะกับการใช้งานในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ เพราะช่วยให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ที่น่าสนใจคือรถบางรุ่นจากแบรนด์ญี่ปุ่นในตลาดไทยยังใช้ระบบ CarPlay แบบมีสาย ทำให้จุดเด่นของ Neta X ที่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายดูน่าสนใจกว่า แถมยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android อีกด้วย ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ลองทดสอบระบบมัลติมีเดียในรถด้วยตัวเอง เพื่อเช็คความลื่นไหลและการทำงานร่วมกับบริการแผนที่ในไทย โดยเฉพาะการแสดงชื่อสถานที่แบบไทยและระบบแจ้งเตือนการจราจร เพราะปัจจุบันฟังก์ชันเชื่อมต่ออัจฉริยะแบบนี้กำลังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจรถ EV ในไทยซึ่งกำลังมาแรง
Q
Neta X ใช้ยางยี่ห้ออะไร?
Neta X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจในตลาดไทย ยางติดรถจากโรงงานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นย่อยและความต้องการของตลาด โดยทั่วไปมักเลือกใช้ยางจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Continental หรือ Michelin ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและการยึดเกาะบนถนนเปียก เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกบ่อยของประเทศไทย สำหรับการเลือกยางในประเทศไทย นอกจากเรื่องยี่ห้อแล้ว ยังควรพิจารณาสภาพถนนในพื้นที่ใช้งาน เช่น การจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ หรือถนนที่ซับซ้อนนอกเมือง โดยควรให้ความสำคัญกับคุณสมบัติทนความร้อน การรีดน้ำ และความประหยัดน้ำมัน ยางอย่าง Michelin รุ่น Energy Saver หรือ Continental รุ่น EcoContact เป็นตัวเลือกที่ดีที่เน้นทั้งความสบายและความคุ้มค่า ทั้งนี้ กฎหมายไทยกำหนดความลึกของดอกยางต้องไม่ต่ำกว่า 1.6 มิลลิเมตร จึงควรตรวจสอบสภาพดอกยางและแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในรถไฟฟ้าที่มีแรงบิดสูง ยิ่งต้องดูแลรักษายางอย่างใกล้ชิดเพื่อยืดอายุการใช้งาน หากผู้ใช้งานต้องการประสบการณ์ขับขี่ที่เงียบหรือประหยัดพลังงานมากขึ้น ก็สามารถปรึกษาร้านยางเพื่อเปลี่ยนเป็นยางแบบเงียบหรือแบบแรงต้านต่ำได้ แต่ต้องมั่นใจว่าเป็นรุ่นที่ผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกของไทยแล้วเท่านั้น
Q
ความกว้างของ Neta X คือเท่าไหร่?
รถ Neta X มีรุ่นย่อยให้เลือกหลายแบบ เช่น Neta X Comfort 2024 และ Neta X Smart 2024 ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้มีความกว้างตัวรถที่ 1,860 มม. เท่ากัน ความกว้างของรถเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อความมั่นคงในการขับขี่ การผ่านพ้นสิ่งกีดขวางบนถนน รวมถึงการจัดวางพื้นที่ภายในรถ รถที่มีความกว้างมากกว่าปกติมักจะให้พื้นที่ด้านข้างที่กว้างขวางกว่า ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่นั่งแถวหลังที่จะไม่รู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ ความกว้างของตัวรถยังช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถขณะขับเคลื่อนอีกด้วย
Q
แรงดันลมยางของ Neta X ควรเติมเท่าไหร่?
ค่าลมยางมาตรฐานของ Neta X อยู่ที่ประมาณ 2.3 ถึง 2.5 บาร์ (ประมาณ 33 ถึง 36 psi) ซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนในเมืองและทางหลวงที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อน ลมยางจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติเมื่อขับขี่ ดังนั้นควรเติมลมในขณะยางเย็นตามค่ามาตรฐานเพื่อความปลอดภัยและความนุ่มนวลในการขับขี่ หากต้องบรรทุกของหนักบ่อย หรือขับทางไกล แนะนำให้เพิ่มลมยางล้อหลังอีกประมาณ 0.1 ถึง 0.2 บาร์ แต่อย่าลืมตรวจสอบค่าที่แนะนำจากฉลากข้างประตูรถหรือฝาถังน้ำมันเป็นหลัก การตรวจสอบลมยางอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ ควรเช็คลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้งด้วยเกจวัดลม เพราะอุณหภูมิที่สูงในไทยอาจทำให้แรงดันลมยางผันผวนได้ หากลมยางต่ำเกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและเสี่ยงต่อการระเบิดของยาง แต่ถ้าลมยางสูงเกินไปจะลดการยึดเกาะถนนและเพิ่มระยะเบรก สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Neta X ลมยางยังมีผลต่อระยะทางที่สามารถขับได้ในแต่ละการชาร์จอีกด้วย การรักษาค่าลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงช่วยให้ประหยัดพลังงานและขับขี่ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Q
ยางของ Neta X ใช้ขนาดเท่าไหร่?
Neta X มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ซึ่งถือเป็นขนาดมาตรฐานในกลุ่มรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกลางในตลาดประเทศไทย ขนาดนี้สามารถให้ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลในการขับขี่และสมรรถนะการควบคุม เหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายในไทย ทั้งในเมืองและนอกเมือง ล้อขนาด 19 นิ้วยังช่วยเพิ่มความสปอร์ตให้กับรูปลักษณ์ของรถ และยังส่งผลดีต่อเสถียรภาพของตัวรถ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนของไทยที่ถนนเปียกบ่อย การใช้ล้อขนาดใหญ่ร่วมกับยางที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มการยึดเกาะบนพื้นผิวเปียกได้ดียิ่งขึ้น สำหรับผู้บริโภคชาวไทย การเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้านอกจากจะดูเรื่องขนาดล้อแล้ว ยังควรพิจารณาประเภทของยาง เช่น ยางที่มีแรงต้านการหมุนต่ำ (Low Rolling Resistance) เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น หรือยางที่มีร่องรีดน้ำดีเพื่อความปลอดภัยในฤดูฝน นอกจากนี้ วัสดุของล้อก็มีความสำคัญ ล้ออัลลอยที่ทำจากอะลูมิเนียมจะทนต่อการกัดกร่อนได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย และยังมีน้ำหนักเบา ช่วยลดการใช้พลังงาน หากผู้ใช้งานต้องการความโดดเด่นเฉพาะตัว ก็สามารถพิจารณาเปลี่ยนล้อจากศูนย์หรือชุดแต่งที่ถูกกฎหมายได้ แต่อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายจราจรในประเทศไทย

ข้อดี

ราคาประกอบด้วยคุณสมบัติที่ดีและได้รับรางวัลสองรางวัลในประเทศไทย
กำลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งและประสิทธิภาพการควบคุมที่แม่นยำ
ประสบการณ์ขับรถที่สบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทาง

ข้อเสีย

บริษัท NETA Auto ประเทศไทยประสบความสูญเสียและยอดขายลดลง
ความกังวลที่อาจเกิดขึ้นในด้านความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
การถอนออกจากตลาดบางแห่งทำให้ความกังวลเพิ่มขึ้น

Q&A ล่าสุด

Q
เครื่องยนต์ขนาดเท่าไหร่ที่อยู่ใน Ford Ranger รุ่นปี 2021?
รถกระบะ Ford Ranger รุ่นปี 2021 มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบให้เลือกตามความต้องการ โดยเครื่องยนต์ที่นิยมที่สุดคือเครื่องดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ ที่มีทั้งแบบเทอร์โบเดี่ยวและเทอร์โบคู่ รุ่นเทอร์โบเดี่ยวให้กำลังสูงสุดประมาณ 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นเทอร์โบคู่จะแรงกว่ามาก ให้กำลังถึง 213 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร เหมาะกับคนที่ต้องการบรรทุกหนักหรือลากจูงของเยอะ นอกจากนี้บางประเทศยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 270 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตรอีกด้วย เครื่องดีเซลของ Ranger นี่ประหยัดน้ำมันสุดๆ โดยเฉพาะแรงบิดต่ำๆ ที่ตอบโจทย์การขับทั้งในเมืองและทางไกล แถมยังออกแบบมาให้ทนทานและซ่อมบำรุงง่ายเป็นพิเศษ สำหรับเมืองร้อนแบบบ้านเรา ระบบระบายความร้อนก็ถูกปรับให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ Ranger เครื่องแรงแบบนี้ทั้งประหยัดและอุ้มงานได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะใช้งานก่อสร้างหรือขนส่งการเกษตรก็เอาอยู่ ถือเป็นรถกระบะที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องแรงและการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดตอนนี้
Q
ฉันควรจ่ายเงินเท่าไรสำหรับ Ford Ranger ปี 2021?
ราคาขายมือสองของ Ford Ranger รุ่นปี 2021 จะแตกต่างกันไปตามสภาพรถ ระยะทาง อุปกรณ์ และพื้นที่ โดยทั่วไปแล้วในตลาดตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 600,000 ถึง 900,000 บาท ถ้าเป็นรถที่ระยะทางน้อย (เช่น ไม่เกิน 30,000 กิโลเมตร) สภาพดี และเป็นเวอร์ชั่นอุปกรณ์สูง ราคาอาจจะพุ่งไปถึง 9 แสนบาท ส่วนรถที่ระยะทางสูงหรือเป็นแบบพื้นฐานก็จะถูกลง แนะนำให้ตรวจสอบราคาปัจจุบันผ่านแพลตฟอร์มขายมือสองหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ก่อนซื้อ และควรให้ช่างตรวจสอบสภาพรถให้ละเอียด Ranger เป็นปิคอัพที่ทนทานและใช้งานได้หลากหลาย ได้รับความนิยมในไทย โดยเฉพาะสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันหรือขับออฟโรดเล็กน้อย ระบบเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตรคู่กับเกียร์ออโต้ 10 สปีด ให้ทั้งพลังและประหยัดน้ำมัน แถมค่าบำรุงรักษาก็ไม่แรงและหาอะไหล่ได้ง่าย นับเป็นจุดเด่นที่น่าจับตา ก่อนตัดสินใจก็ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Hilux หรือ Isuzu D-MAX ได้ แต่สุดท้ายแล้วควรเลือกให้ตรงกับความต้องการและงบประมาณของตัวเองเป็นหลัก
Q
รถ Ford Ranger ปี 2021 ดีไหม?
2021 Ford Ranger เป็นรถกระบะขนาดกลางที่ความน่าเชื่อถือสูง เหมาะกับหลายสถานการณ์ทั้งขับขี่ในเมืองและลุยเส้นทางออฟโรดเล็กน้อย ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร หรือเครื่องเบนซินเทอร์โบ 2.3 ลิตร ที่ให้สมรรถนะสมดุลและประหยัดน้ำมัน โดยรุ่นดีเซลจะประหยัดกว่าสำหรับการเดินทางไกล ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งสบายตัว พร้อมระบบความบันเทิง SYNC 3 ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้ใช้งานได้สะดวก ระบบช่วงล่างถูกตั้งค่าให้เน้นความนุ่มสบาย แต่ยังคงความมั่นคงเมื่อบรรทุกของหรือขับออฟโรด ข้อควรรู้คือวัสดุภายในห้องโดยสารเป็นพลาสติกแข็งที่ดูไม่หรูเท่ารุ่นคู่แข่ง แต่ทนทานแน่นอน ส่วนเรื่องค่าตัวในตลาดมือสองอยู่ระดับกลาง ค่าบำรุงรักษาไม่แพง และหาอะไหล่ได้ง่าย ถ้าคิดจะซื้อมือสองแนะนำให้ตรวจสอบสภาพช่วงล่างและประวัติการดูแลเครื่องยนต์กับเกียร์ให้ดี เพราะรถกระบะมักถูกใช้งานหนัก พูดถึงความสามารถด้านออฟโรด รุ่นนี้ทำได้ดีกว่ารถ SUV เมืองทั่วไปแต่สู้รุ่นออฟโรดเฉพาะทางไม่ได้ เหมาะกับคนที่ต้องการใช้ทั้งงานบ้านและขนของเป็นครั้งคราว
Q
รถ Ford Ranger รุ่นปี 2021 มีคะแนนความปลอดภัยที่ดีหรือไม่?
2021 Ford Ranger ถือว่าทำได้ดีในเรื่องความปลอดภัย ได้รับการยอมรับจากหลายสถาบันทดสอบระดับโลก อย่างเช่นผลทดสอบจาก ANCAP ที่ได้คะแนน 5 ดาว ส่วนใหญ่ต้องขอบคุณโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรงและระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งถุงลมนิรภัยหลายจุด ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้ดีเวลาขับขี่ประจำวัน โดยเฉพาะในเมืองที่รถเยอะหรือเวลาขับทางไกลบนไฮเวย์ นอกจากนี้ เรนเจอร์ยังมีกล้องถอยหลังและระบบเตือนจุดบอด ช่วยคนขับที่ต้องเจอรถติดบ่อยหรือจอดในที่แคบได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง เช่น Option Adaptive Cruise และภาพพาโนรามา 360 องศา ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุได้อีก โครงสร้างรถปิคอัพอย่างเรนเจอร์มักจะเน้นความแข็งแรงของตัวถังเป็นพิเศษ ทำให้ผลทดสอบการชนออกมาได้ดี เหมาะกับคนที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของรถเป็นพิเศษ
Q
ระบบเกียร์ที่อยู่ใน Ford Ranger ปี 2021 คืออะไร?
รถ Ford Ranger รุ่นปี 2021 ในตลาดท้องถิ่นมีตัวเลือกเกียร์หลักๆ 2 แบบคือ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด โดยรุ่นเกียร์อัตโนมัติเป็นที่นิยมมากกว่าเพราะใช้งานในเมืองที่รถติดหรือขับทางไกลได้สะดวกกว่า เกียร์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีส่งกำลังที่พัฒนามาอย่างดี เปลี่ยนเกียร์ได้ลื่นๆ ประหยัดน้ำมันอยู่ในระดับดีเมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน โดยเฉพาะเหมาะสำหรับคนที่ต้องขนของหรือลากจูงบ่อยๆ ส่วนคนที่ชอบความรู้สึกในการควบคุมรถ รุ่นเกียร์ธรรมดาจะให้สัมผัสการขับที่ตรงไปตรงมาและค่าบำรุงรักษาก็ถูกกว่า ด้วย ข้อสังเกตสำคัญคือเกียร์รุ่นนี้ออกแบบมาโดยคำนึงถึงสภาพอากาศร้อนเป็นพิเศษ ระบบระบายความร้อนได้รับการปรับแต่งให้ทำงานได้เสถียรแม้ขับนานในอากาศร้อนจัด ถ้าอยากได้เกียร์ที่ทันสมัยขึ้นอาจเลือกรุ่นพิเศษที่อาจติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตาม สำหรับการใช้งานประจำวัน แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามกำหนด โดยเฉพาะถ้าต้องขับออฟโรดหรือบรรทุกหนักบ่อยๆ จะช่วยยืดอายุการใช้งานเกียร์ได้ดี
ดูเพิ่มเติม