Q
Neta X ผลิตที่ไหน?
Neta X ผลิตที่โรงงานในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งเป็นโรงงานแห่งแรกของ NETA นอกประเทศจีน การผลิตจะดำเนินการภายใต้การควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดและมาตรฐานการผลิตที่สูง เพื่อให้มั่นใจว่ารถมีคุณภาพและสมรรถนะที่ตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศไทยได้อย่างดีเยี่ยม
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Neta X มีอะไรบ้าง?
Neta X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้า อาจมีจุดอ่อนหลักในตลาดประเทศไทยอยู่ที่ความเข้ากันได้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในสภาพอากาศร้อน โดยอุณหภูมิที่สูงของไทยอาจทำให้ระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ต้องทำงานหนักขึ้น ขณะเดียวกัน เครือข่ายสถานีชาร์จในบางพื้นที่ห่างไกลยังไม่ครอบคลุม อาจกระทบต่อความสะดวกในการเดินทางระยะไกล
ระบบขับขี่อัจฉริยะของรถรุ่นนี้ยังต้องพิสูจน์ความสามารถในการปรับตัวให้เหมาะกับสภาพการจราจรที่ซับซ้อนของไทย เช่น การตรวจจับมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งอยู่บนถนนอย่างหนาแน่น นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิม รถยนต์ไฟฟ้ายังมีอัตราการคงมูลค่าในตลาดมือสองที่ต่ำกว่า ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณา
ในมุมการใช้งานจริง ผู้บริโภคชาวไทยควรพิจารณาด้วยว่ารถรุ่นดังกล่าวมีศูนย์บริการหลังการขายกระจายตัวเพียงพอหรือไม่ รวมถึงมีเทคโนโลยีป้องกันน้ำในแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับฤดูฝนของไทยหรือเปล่า เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อประสบการณ์ในการใช้งานโดยตรง
Q
Neta X จัดอยู่ในรถกลุ่มเซกเมนต์ไหน?
เนตา เอ็กซ์ เป็นรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ตำแหน่งทางการตลาดอยู่ในเซ็กเมนต์ C-SUV ที่มีการแข่งขันสูงในตลาดรถไฟฟ้าโลก สำหรับตลาดไทยแล้ว รุ่นนี้ได้รับความสนใจไม่น้อยเพราะตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองที่คล่องตัว และความประหยัดพื้นที่เหมาะกับครอบครัว ตัวถังมีความยาวประมาณ 4.6 เมตร ระยะฐานล้อ 2.77 เมตร จุผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง ซึ่งขนาดนี้เหมาะกับการขับขี่ในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ พร้อมกันนั้นยังช่วยให้รองรับสภาพถนนช่วงฤดูฝนได้ดีด้วย สเปคการขับขี่แบบ CLTC วิ่งได้ไกล 501-660 กิโลเมตร เมื่อรวมกับนโยบาย EV 3.5 ของรัฐบาลไทย เช่น การลดภาษีนำเข้าและสนับสนุนสถานีชาร์จ ก็ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางได้มาก ในส่วนระบบอัจฉริยะ มาพร้อมหน้าจอกลาง 15.6 นิ้ว และระบบช่วยขับขี่ระดับ L2+ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนถนนไทยที่การจราจรค่อนข้างซับซ้อน คู่แข่งในระดับเดียวกันอย่าง BYD Atto 3 และ MG ZS EV อาจสู้ไม่ได้ในจุดเด่นอย่างขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าและแบตเตอรี่จาก CATL ที่เนตา เอ็กซ์ นำมาใช้ ตอนนี้ตลาดรถไฟฟ้าไทยโตเกิน 300% ต่อปี โดยเฉพาะ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดในราคา 1-1.5 ล้านบาทกำลังมาแรง เมื่อมีแบรนด์จีนเข้ามาเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคก็จะมีทางเลือกเพื่อสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายขึ้นในอนาคต
Q
มูลค่าขายต่อของ Neta X คือเท่าไหร่?
เนต้า เอ็กซ์ ในฐานะรถอีวีเอสยูวีรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดไทย มูลค่าซื้อขายต่อในตลาดมือสองจะถูกกำหนดโดยหลายปัจจัย ทั้งการรับรู้ของคนไทยต่อแบรนด์ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ความต้องการในตลาด รวมถึงนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าจากรัฐบาลไทย ปัจจุบันตลาดอีวีในไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รัฐบาลออกมาตรการลดภาษีและให้เงินสนับสนุนเพื่อส่งเสริมให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าคงเหลือของเนต้า เอ็กซ์ ได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและความสะดวกในการหาสถานีชาร์จก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อมูลค่าซื้อขายต่อ ถ้าแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพคงที่และมีบริการหลังการขายที่ครบวงจร มูลค่าก็จะสูงกว่าปกติ โดยทั่วไปแล้วรถไฟฟ้าในไทยมักมีมูลค่าซื้อขายต่อต่ำกว่ารถน้ำมันเล็กน้อย แต่เมื่อโครงสร้างพื้นฐานพัฒนาไปและคนเริ่มนิยมมากขึ้น ช่องว่างนี้ก็กำลังลดลง สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อ แนะนำให้ศึกษานโยบายการรับประกันจากบริษัทและค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพราะสองเรื่องนี้ส่งผลโดยตรงต่อมูลค่ารถในระยะยาว รวมถึงสภาพอากาศร้อนของไทยก็อาจกระทบต่ออายุแบตเตอรี่ได้ การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอและการใช้งานอย่างเหมาะสมจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ และรักษามูลค่าของรถไว้ได้ในระดับที่ดี
Q
ขุมพลังใน Neta X คืออะไร?
Neta X มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง โดยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 120 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร รองรับการใช้งานทั้งในเมืองและการเดินทางระยะสั้นได้อย่างเหมาะสม แบตเตอรี่มีให้เลือกหลายขนาดตามแต่ละรุ่น โดยสามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและทริปท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์
ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย Neta X ยังมีระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ (BMS) ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้เสถียรแม้ในอุณหภูมิสูง และช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จเร็ว โดยสามารถชาร์จไฟจาก 0–80% ได้ภายใน 30 นาที ซึ่งตอบโจทย์กับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จที่กำลังขยายตัวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
Q
ขนาด PCD ของ Neta X คือเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสกรู) ของ Neta X ที่ 5×114.3 มิลลิเมตร เป็นหนึ่งในขนาดยอดนิยมสำหรับการติดตั้งล้อในตลาดไทย ซึ่งเหมาะกับการอัพเกรดรถ SUV และรถเก๋งส่วนใหญ่ในท้องตลาด โดยในประเทศไทย รุ่นยอดฮิตอย่าง Toyota Fortuner หรือ Honda CR-V ก็ใช้ขนาด PCD เดียวกัน ทำให้เจ้าของ Neta X สามารถหาล้อที่เข้ากันได้ง่ายหรืออัพเกรดล้อได้สะดวกกว่า PCD นับเป็นพารามิเตอร์สำคัญในการเลือกซื้อล้อ เพราะถ้าเลือกขนาดถูกต้องจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันปัญหาการสั่นสะเทือนหรือการสึกหรอจากขนาดที่ไม่พอดี สำหรับคนไทยที่อยากเปลี่ยนล้อ นอกจาก PCD แล้ว ควรเช็กค่ากลางล้อ (CB) และค่าโอฟเซ็ต (ET) ด้วย แนะนำให้ซื้อจากร้านมืออาชีพหรือช่องทางตัวแทนจำหน่ายแท้เพื่อความมั่นใจในความเข้ากันได้ อีกปัจจัยที่ต้องคำนึงคือสภาพอากาศเมืองไทยที่ฝนชุก ควรเลือกวัสดุล้อที่ป้องกันการกัดกร่อนได้ดี เช่น อลูมิเนียมอัลลอยด์ และเลือกลายดอกยางที่รีดน้ำได้มีประสิทธิภาพ เพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวขึ้น
Q
Neta X รับรอง Apple CarPlay หรือไม่?
ตอนนี้รถรุ่น Neta X ที่วางขายในตลาดไทยมีการรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone ในไทยได้สัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อในรถที่สะดวกสบายมากขึ้น โดยสามารถใช้งานแอปพลิเคชันพื้นฐานอย่างแผนที่หรือเพลงผ่านหน้าจอกลางรถได้เลย สำหรับสภาพอากาศในไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ฟังก์ชันการเชื่อมต่อแบบไร้สายของ Apple CarPlay จะช่วยลดปัญหาสายชาร์จเสื่อมสภาพจากความร้อน ส่วนระบบควบคุมด้วยเสียงก็เหมาะกับการใช้งานในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ เพราะช่วยให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
ที่น่าสนใจคือรถบางรุ่นจากแบรนด์ญี่ปุ่นในตลาดไทยยังใช้ระบบ CarPlay แบบมีสาย ทำให้จุดเด่นของ Neta X ที่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายดูน่าสนใจกว่า แถมยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android อีกด้วย
ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ลองทดสอบระบบมัลติมีเดียในรถด้วยตัวเอง เพื่อเช็คความลื่นไหลและการทำงานร่วมกับบริการแผนที่ในไทย โดยเฉพาะการแสดงชื่อสถานที่แบบไทยและระบบแจ้งเตือนการจราจร เพราะปัจจุบันฟังก์ชันเชื่อมต่ออัจฉริยะแบบนี้กำลังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจรถ EV ในไทยซึ่งกำลังมาแรง
Q
Neta X ใช้ยางยี่ห้ออะไร?
Neta X ในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจในตลาดไทย ยางติดรถจากโรงงานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นย่อยและความต้องการของตลาด โดยทั่วไปมักเลือกใช้ยางจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Continental หรือ Michelin ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและการยึดเกาะบนถนนเปียก เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกบ่อยของประเทศไทย
สำหรับการเลือกยางในประเทศไทย นอกจากเรื่องยี่ห้อแล้ว ยังควรพิจารณาสภาพถนนในพื้นที่ใช้งาน เช่น การจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ หรือถนนที่ซับซ้อนนอกเมือง โดยควรให้ความสำคัญกับคุณสมบัติทนความร้อน การรีดน้ำ และความประหยัดน้ำมัน ยางอย่าง Michelin รุ่น Energy Saver หรือ Continental รุ่น EcoContact เป็นตัวเลือกที่ดีที่เน้นทั้งความสบายและความคุ้มค่า
ทั้งนี้ กฎหมายไทยกำหนดความลึกของดอกยางต้องไม่ต่ำกว่า 1.6 มิลลิเมตร จึงควรตรวจสอบสภาพดอกยางและแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในรถไฟฟ้าที่มีแรงบิดสูง ยิ่งต้องดูแลรักษายางอย่างใกล้ชิดเพื่อยืดอายุการใช้งาน หากผู้ใช้งานต้องการประสบการณ์ขับขี่ที่เงียบหรือประหยัดพลังงานมากขึ้น ก็สามารถปรึกษาร้านยางเพื่อเปลี่ยนเป็นยางแบบเงียบหรือแบบแรงต้านต่ำได้ แต่ต้องมั่นใจว่าเป็นรุ่นที่ผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกของไทยแล้วเท่านั้น
Q
ความกว้างของ Neta X คือเท่าไหร่?
รถ Neta X มีรุ่นย่อยให้เลือกหลายแบบ เช่น Neta X Comfort 2024 และ Neta X Smart 2024 ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้มีความกว้างตัวรถที่ 1,860 มม. เท่ากัน ความกว้างของรถเป็นพารามิเตอร์สำคัญที่ส่งผลต่อความมั่นคงในการขับขี่ การผ่านพ้นสิ่งกีดขวางบนถนน รวมถึงการจัดวางพื้นที่ภายในรถ รถที่มีความกว้างมากกว่าปกติมักจะให้พื้นที่ด้านข้างที่กว้างขวางกว่า ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่นั่งแถวหลังที่จะไม่รู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ ความกว้างของตัวรถยังช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถขณะขับเคลื่อนอีกด้วย
Q
แรงดันลมยางของ Neta X ควรเติมเท่าไหร่?
ค่าลมยางมาตรฐานของ Neta X อยู่ที่ประมาณ 2.3 ถึง 2.5 บาร์ (ประมาณ 33 ถึง 36 psi) ซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนในเมืองและทางหลวงที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อน ลมยางจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติเมื่อขับขี่ ดังนั้นควรเติมลมในขณะยางเย็นตามค่ามาตรฐานเพื่อความปลอดภัยและความนุ่มนวลในการขับขี่
หากต้องบรรทุกของหนักบ่อย หรือขับทางไกล แนะนำให้เพิ่มลมยางล้อหลังอีกประมาณ 0.1 ถึง 0.2 บาร์ แต่อย่าลืมตรวจสอบค่าที่แนะนำจากฉลากข้างประตูรถหรือฝาถังน้ำมันเป็นหลัก
การตรวจสอบลมยางอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ ควรเช็คลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้งด้วยเกจวัดลม เพราะอุณหภูมิที่สูงในไทยอาจทำให้แรงดันลมยางผันผวนได้ หากลมยางต่ำเกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและเสี่ยงต่อการระเบิดของยาง แต่ถ้าลมยางสูงเกินไปจะลดการยึดเกาะถนนและเพิ่มระยะเบรก
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Neta X ลมยางยังมีผลต่อระยะทางที่สามารถขับได้ในแต่ละการชาร์จอีกด้วย การรักษาค่าลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงช่วยให้ประหยัดพลังงานและขับขี่ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Q
ยางของ Neta X ใช้ขนาดเท่าไหร่?
Neta X มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ซึ่งถือเป็นขนาดมาตรฐานในกลุ่มรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกลางในตลาดประเทศไทย ขนาดนี้สามารถให้ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลในการขับขี่และสมรรถนะการควบคุม เหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายในไทย ทั้งในเมืองและนอกเมือง
ล้อขนาด 19 นิ้วยังช่วยเพิ่มความสปอร์ตให้กับรูปลักษณ์ของรถ และยังส่งผลดีต่อเสถียรภาพของตัวรถ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนของไทยที่ถนนเปียกบ่อย การใช้ล้อขนาดใหญ่ร่วมกับยางที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มการยึดเกาะบนพื้นผิวเปียกได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับผู้บริโภคชาวไทย การเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้านอกจากจะดูเรื่องขนาดล้อแล้ว ยังควรพิจารณาประเภทของยาง เช่น ยางที่มีแรงต้านการหมุนต่ำ (Low Rolling Resistance) เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น หรือยางที่มีร่องรีดน้ำดีเพื่อความปลอดภัยในฤดูฝน
นอกจากนี้ วัสดุของล้อก็มีความสำคัญ ล้ออัลลอยที่ทำจากอะลูมิเนียมจะทนต่อการกัดกร่อนได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย และยังมีน้ำหนักเบา ช่วยลดการใช้พลังงาน หากผู้ใช้งานต้องการความโดดเด่นเฉพาะตัว ก็สามารถพิจารณาเปลี่ยนล้อจากศูนย์หรือชุดแต่งที่ถูกกฎหมายได้ แต่อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายจราจรในประเทศไทย
Q&A ล่าสุด
Q
รถ Honda Accord ปี 2023 มี Apple CarPlay ไหม?
ใช่ Honda Accord ปี 2023 ทุกรุ่นในประเทศไทยมาพร้อมกับ Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งเข้าถึงได้ผ่านสาย USB ช่วยให้ผู้ใช้ iPhone เข้าถึงแอปพลิเคชันทั่วไปได้อย่างราบรื่น เช่น ระบบนำทาง เพลง และการโทร Android Auto ยังรองรับผู้ใช้โทรศัพท์ Android อีกด้วย หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วของแอคคอร์ดมาพร้อมดีไซน์ป้องกันแสงสะท้อนและตอบสนองได้ดีกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกของประเทศไทย ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบดูอัลโซนและเบาะนั่งแบบระบายอากาศช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างมาก ที่สำคัญ แอคคอร์ดรุ่นสเปคประเทศไทยยังมาพร้อมกับระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพถนนในท้องถิ่น และระบบความปลอดภัย Honda SENSING ซึ่งรวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันและระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน คุณสมบัติเหล่านี้ทำงานร่วมกับระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ทางไกล หากคุณเดินทางบ่อยครั้งบนถนนที่คับคั่งในกรุงเทพฯ ขอแนะนำรุ่นไฮบริดเพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน ปัจจุบันตัวแทนจำหน่าย Honda ในประเทศไทยเสนอการรับประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กม. เพื่อความอุ่นใจยิ่งขึ้น
Q
พื้นที่ภายในของ Honda Accord ปี 2023 เป็นอย่างไรบ้าง?
Honda Accord ปี 2023 มอบพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านความสะดวกสบายและการใช้งานจริงของผู้บริโภคชาวไทย ฐานล้อขนาด 2,830 มม. มอบพื้นที่วางขาที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยให้ผู้โดยสารที่มีรูปร่างสูงสามารถนั่งได้อย่างสบายยิ่งขึ้น พื้นที่เหนือศีรษะที่กว้างขวางขึ้น ประกอบกับซันรูฟแบบพาโนรามา (มีเฉพาะในรุ่นไฮเอนด์บางรุ่น) ช่วยเพิ่มความรู้สึกโล่งสบายยิ่งขึ้น ในส่วนของพื้นที่เก็บของ Accord ยังคงรักษาปรัชญา "MM" ของ Honda (ลดพื้นที่เครื่องยนต์ เพิ่มพื้นที่ผู้โดยสารให้สูงสุด) คอนโซลกลางมีช่องเก็บของหลายช่อง ที่วางแก้วน้ำและช่องเก็บของที่แผงประตูให้พื้นที่กว้างขวางสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถมีความจุ 473 ลิตร รองรับการพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ของครอบครัวชาวไทยหรือช้อปปิ้งครั้งใหญ่ได้อย่างสะดวกสบาย เบาะนั่งของ Accord ได้รับการออกแบบมาเพื่อสรีระชาวเอเชียโดยเฉพาะ ช่วยลดความเมื่อยล้าแม้หลังจากขับขี่เป็นเวลานาน ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญในสภาพการจราจรที่คับคั่งในประเทศไทย Accord ยังโดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางเหนือระดับเมื่อเทียบกับรถยนต์ระดับเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยพื้นรถที่นูนต่ำบริเวณกลางเบาะแถวหลัง มอบความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารตรงกลางมากกว่าคู่แข่งจากเยอรมนีบางรุ่น นอกจากนี้ Accord รุ่นสำหรับประเทศไทยยังมาพร้อมกับช่องระบายอากาศด้านหลังและผ้าหุ้มเบาะที่ระบายอากาศได้ดี ซึ่งทั้งสองคุณสมบัตินี้ได้รับการออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพอากาศในพื้นที่นั้นๆ
Q
2023 Honda Accord มีแรงม้าเท่าไหร่?
รถยนต์ Honda Accord รุ่นปี 2023 ในตลาดประเทศไทยมีให้เลือก 2 แบบคือ รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และรุ่นไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แบบดูดธรรมดาร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงถึง 204 แรงม้า ทั้งสองรุ่นตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลของคนไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนและสภาพถนนในเมืองที่ค่อนข้างซับซ้อน รุ่นไฮบริดได้รับความสนใจมากกว่าเนื่องจากประหยัดน้ำมันและให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่ลื่นไหล นอกจากนี้รัฐบาลไทยยังมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถไฮบริดในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้แอคคอร์ดรุ่นไฮบริดมีราคาจับต้องได้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน ระบบไฮบริด i-MMD ของฮอนด้าก็ได้รับการพิสูจน์แล้วในตลาดประเทศไทยมายาวนาน ความน่าเชื่อถือและค่าบำรุงรักษาต่ำก็ได้รับชื่อเสียงที่ดีเช่นกัน จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับการใช้งานจริงและการรักษาสิ่งแวดล้อม
Q
ระบบอินโฟเทนเมนต์ใน Honda Accord ปี 2023 เป็นอย่างไร
ระบบอินโฟเทนเมนต์อัจฉริยะของ Honda Accord ปี 2023 ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในตลาดประเทศไทย มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ช่วยให้ผู้ใช้ชาวไทยสามารถเชื่อมต่อกับแอปนำทางและแอปเพลงบนมือถือได้อย่างราบรื่น ระบบนี้ยังมาพร้อม Honda CONNECT ที่แสดงข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ ระบบสั่งการด้วยเสียงรองรับการสั่งการด้วยภาษาไทยเพื่อการใช้งานที่ตรงกับท้องถิ่นมากขึ้น และหน้าจอใช้งานง่าย ตอบสนองฉับไว นอกจากนี้ ระบบยังผสานการชาร์จแบบไร้สายและระบบเสียง Bose 12 ลำโพง ช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ทางไกล เมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกัน Accord มีขนาดหน้าจอและการเชื่อมต่อที่เหนือกว่า แต่ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ขอแนะนำให้ทำความสะอาดหน้าจอเป็นประจำเพื่อป้องกันการทำงานผิดปกติของหน้าจอสัมผัส แม้ว่าระบบจะยังไม่มีระบบนำทางภาษาไทย แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ง่ายผ่านแผนที่บนมือถือ โดยรวมแล้ว ระบบนี้ให้ความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีและการใช้งานจริง ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่ต้องการห้องโดยสารอัจฉริยะ
Q
รถ รุ่น Honda Accord ปี 2023 มีหน้าปัดดิจิทัลหรือไม่?
รุ่น Honda Accord 2023 นี่ติดตั้งหน้าปัดดิจิตอลจริงๆ รุ่นนี้ใช้หน้าจอ LCD แบบเต็มขนาด 12.3 นิ้ว แทนที่หน้าปัดแบบเข็มแบบเดิมๆ แสดงข้อมูลการขับขี่ได้ละเอียดมาก ทั้งเส้นทางจาก GPS สถานะระบบช่วยขับ ไปจนถึงเนื้อหามัลติมีเดีย ดูเท่มากและใช้งานได้จริง สำหรับตลาดไทยแล้ว คอนฟิกนี้ต้องถูกใจแน่นอน เพราะคนไทยสมัยนี้ให้ความสำคัญกับความไฮเทคและประสบการณ์อัจฉริยะในรถยนต์มากขึ้น ข้อดีของหน้าปัดดิจิตอลคือสามารถเปลี่ยนธีมการแสดงผลตามโหมดการขับได้ เช่น โหมดสปอร์ตจะเน้นแสดงความเร็วกับรอบเครื่อง ส่วนโหมดประหยัดจะโชว์ข้อมูลการกินน้ำมัน ประสบการณ์แบบ personalize แบบนี้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่เลย ที่น่าสนใจคือ แม้ว่าหน้าปัดดิจิตอลจะกลายเป็นมาตรฐานในรถรุ่นใหม่ๆ แล้ว แต่แต่ละแบรนด์ก็ยังมีความแตกต่างในเรื่องความสวยงามและฟังก์ชันการทำงาน ระบบของ Accord รองรับการตอบสนองเร็ว และโดยรวมถือว่าอยู่ในระดับดีกว่าค่าเฉลี่ย สำหรับคนไทยนอกจากหน้าปัดดิจิตอลแล้ว ยังควรสนใจระบบ Honda SENSING ที่มาพร้อมกับรถคันนี้ด้วย เพราะมีเทคโนโลยีความปลอดภัยหลายอย่างที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพการจราจรซับซ้อนแบบกรุงเทพฯ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวลือว่า Neta ค้างเงินเดือนพนักงานในประเทศจีน ซื้อ Neta X ได้หรือไม่
วิรุฬห์Nov 21, 2024

รถยนต์ไฟฟ้า NETA X 350 คัน เริ่มเดินทางจากเซี่ยงไฮ้มุ่งหน้าไปยังตลาดในประเทศไทย!
AshleyAug 16, 2024

Neta X นําแบรนด์จีนบุกเข้าไทย ยอดสั่งจองของไทยพุ่งทะลุ 1,000 คันภายใน 72 ชั่วโมง!
AshleyAug 2, 2024

THB 739,000! NETA X ไทยเปิดตัวบทใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้!
AshleyJul 26, 2024

NETA ไลฟ์โชว์การทดสอบมาตรฐานการกันน้ำของรถ จะเปิดตัวรถเอสยูวีไฟฟ้า NETA X!
AshleyJul 24, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย