Q

ฮอนด้าซิตี้ 2023 รุ่นไหนดี

ฮอนด้าซิตี้ 2023 มีหลายรุ่นที่โดดเด่น โดยทั่วไป รุ่นท็อปจะเน้นความสะดวกสบายและอุปกรณ์ที่ครบครัน เช่น ระบบช่วยขับขี่ที่ปลอดภัย วัสดุตกแต่งภายในระดับสูง และระบบเสียงคุณภาพสูง ขณะที่รุ่นกลางจะเน้นความคุ้มค่ามากกว่า ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี การเลือกว่าจะเลือกเวอร์ชันไหนขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ หากคุณให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและอุปกรณ์ระดับสูง รุ่นท็อปคือทางเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณต้องการความคุ้มค่า รุ่นกลางก็สามารถตอบโจทย์การขับขี่ประจำวันได้เต็มที่
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Honda City คืออะไร
Honda City แม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง ผู้ใช้บางส่วนให้ความเห็นว่าการออกแบบภายในดูธรรมดา ขาดความแปลกใหม่และความหรูหราในด้านวัสดุและรายละเอียดการผลิต ระบบเครื่องเสียงและเชื่อมต่อต่าง ๆ ยังขาดความเสถียร โดยในบางครั้งเกิดปัญหาสัญญาณหลุดหรือค้าง โดยเฉพาะเมื่อชาร์จมือถือในช่วงฤดูร้อนที่มีความร้อนสูง ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อการเล่นเพลงและฟังก์ชันอื่น ๆ ระบบช่วงล่างทำงานได้ตามมาตรฐานทั่วไป เมื่อผ่านถนนขรุขระหรือทางลดความเร็ว รถจะมีอาการโยกคลอนชัดเจน ส่งผลต่อความสบายในการขับขี่และโดยสาร อย่างไรก็ตาม ข้อด้อยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับมุมมองและความต้องการของแต่ละบุคคล ผู้ซื้อควรพิจารณาตามความชอบและความสำคัญส่วนตัวในการตัดสินใจเลือกซื้อรถ
Q
ฮอนด้า ซิตี้ อยู่ในเซกเมนต์ไหน
Honda City จัดอยู่ในกลุ่มตลาด C-Segment รุ่นนี้มีขนาดตัวถังค่อนข้างกะทัดรัดโดยมีความยาว 4580 หรือ 4589 มิลลิเมตร ความกว้าง 1748 มิลลิเมตร ความสูง 1467 หรือ 1480 มิลลิเมตร และฐานล้อยาว 2589 มิลลิเมตร ออกแบบเพื่อเน้นความคุ้มค่าในการใช้พื้นที่และความสะดวกสบายในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน มีตัวเลือกขุมพลังหลายแบบทั้งเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย ด้านอุปกรณ์มาตรฐานมีระบบความปลอดภัยอย่าง ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ บางรุ่นยังติดตั้งระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายระดับสูง ราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 599000 ถึง 799000 บาท โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัวทั่วไปและผู้ที่ต้องการรถใช้งานประจำวันในเมืองอย่างคุ้มค่า
Q
มูลค่าการขายต่อของ Honda City คืออะไร
Honda City ในฐานะรถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมสูง มักมีอัตราการรักษามูลค่ารถมือสองที่ดี ตัวอย่างเช่น รุ่นปี 2020 Honda City RS เมื่อใช้งานปกติและระยะทางไม่เกิน 5 หมื่นกิโลเมตร หลังผ่านไป 3 ปี มีอัตรามูลค่าคงเหลือประมาณ 65 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่ารถที่มีราคาต้นทางราว 8 แสนบาท ยังสามารถขายต่อได้ในราคา 5 ถึง 5.6 แสนบาท มูลค่าคงเหลือขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ ระยะทางการใช้งาน ประวัติการดูแลรักษา และสภาพรถ รุ่นไฮบริด (e HEV) มักรักษามูลค่าได้ดีกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินประมาณ 3 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลจากสมาคมประเมินราคายานยนต์ไทยหรือ TAVA ระบุว่า รถ Honda City ที่มีอายุ 5 ปี ยังรักษามูลค่าได้ประมาณ 50 ถึง 55 เปอร์เซ็นต์ ดีกว่ารถในกลุ่มเดียวกันรุ่นอื่น ๆ
Q
Honda City มีกี่ซีซี
Honda City รุ่นต่างๆ มีขนาดความจุกระบอกสูบแตกต่างกันไปบางรุ่นเครื่องยนต์เบนซินมีความจุ 988 มิลลิลิตร และบางรุ่นไฮบริด eHEV มีความจุ 1498 มิลลิลิตรโดยทั่วไปขนาดความจุกระบอกสูบจะส่งผลต่อสมรรถนะและอัตราการใช้น้ำมันเครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่าเช่น 988 มิลลิลิตรจะเน้นความประหยัดน้ำมันเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงขณะที่เครื่องยนต์ขนาด 1498 มิลลิลิตรให้กำลังที่มากกว่าเหมาะกับการขับขี่ที่ต้องการแรงบิดสูงเช่นการเร่งแซงหรือขึ้นทางชันผู้บริโภคจึงควรเลือกขนาดเครื่องยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการและรูปแบบการใช้งานในชีวิตประจำวันของตน
Q
เครื่องยนต์ของ Honda City คืออะไร
Honda City มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลายรุ่นบางรุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 10 ลิตร VTEC Turbo แบบ 3 สูบพร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า กำลังสูงสุด 90 กิโลวัตต์ที่ 5500 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตรที่ 4500 รอบต่อนาทีอีกรุ่นคือ eHEV ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 15 ลิตรแบบไม่มีระบบอัดอากาศหรือเครื่องอัดอากาศแบบตามธรรมชาติให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้ากำลังสูงสุด 72 กิโลวัตต์ที่ 6400 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตรที่ 5000 รอบต่อนาทีเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้สมรรถนะโดยรวมที่ทรงพลังยิ่งขึ้นเครื่องยนต์เหล่านี้มีเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีโดยบางรุ่นยังผสานนวัตกรรมที่เน้นทั้งสมรรถนะและการประหยัดพลังงานควบคู่กับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Q
เกียร์ของ Honda City เป็นแบบไหน
Honda City ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยปัจจุบันมีระบบเกียร์ให้เลือก 2 แบบตามประเภทของขุมพลังรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 15 ลิตรเช่นรุ่น SV และ RS มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่พัฒนาโดย Honda ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลในการเร่งความเร็วและประหยัดน้ำมันเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯส่วนรุ่นไฮบริด eHEV ใช้ระบบเกียร์ไฟฟ้าอัตโนมัติแบบ ECVT ที่ทำงานต่างจาก CVT ทั่วไปโดยอาศัยการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวและเครื่องยนต์เพื่อควบคุมการจ่ายกำลังซึ่งเป็นจุดแข็งของเทคโนโลยีไฮบริดจาก Honda ผู้บริโภคในไทยควรทราบว่าไม่ว่าจะเป็นเกียร์ CVT หรือ ECVT ทาง Honda แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 40000 กิโลเมตรหรือทุก 2 ปีตามสภาพอากาศร้อนในไทยและในช่วงฤดูฝนควรตรวจสอบการซีลของระบบเกียร์เป็นพิเศษเพราะจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของเกียร์และมูลค่าขายต่อของรถในอนาคตโดยตรง
Q
PCD Size ของ Honda City คืออะไร
Honda City ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นไฮบริดใช้ล้อแม็กที่มีค่า PCD หรือระยะรูน็อตเป็น 4x1143 หมายถึงมีรูน็อต 4 รูเรียงบนวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 1143 มิลลิเมตรซึ่งเป็นสเปกเดียวกับรถญี่ปุ่นรุ่นนิยมในไทยอย่าง Nissan Almera และ Mitsubishi Attrage ทำให้สะดวกในการเลือกเปลี่ยนล้อหรือยางอะไหล่สำหรับเจ้าของรถในประเทศไทยนอกจากค่า PCD แล้วควรตรวจสอบค่าหลักอื่นๆ ได้แก่รูดุมล้อหรือ Center Bore ขนาด 641 มิลลิเมตรเกลียวน็อตขนาด M12x15 และค่า Offset ที่แนะนำให้อยู่ในช่วงบวก 40 ถึง 50 เนื่องจากถนนในหลายจังหวัดของไทยมีสภาพไม่ราบเรียบแนะนำให้เลือกล้อแม็กขนาด 15 ถึง 16 นิ้ว J6 ถึง J7 แบบน้ำหนักเบาหรือฟอร์จเพื่อให้เหมาะสมกับระบบช่วงล่างและรองรับถนนในฤดูฝนได้ดียิ่งขึ้นหากต้องการเปลี่ยนแม็กในไทยควรซื้อจากร้านค้าที่จำหน่ายล้อที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือ TISI เช่นแบรนด์ Racing Star หรือ RS Wheels เพื่อไม่ให้มีปัญหาในการตรวจสภาพรถประจำปี
Q
รถ Honda City มี Apple Carplay ไหม
Honda City ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นไฮบริด eHEV ในรุ่นกลางถึงรุ่นท็อปเช่นรุ่น RS มาพร้อมฟังก์ชัน Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยสามารถเชื่อมต่อ iPhone แบบไร้สายผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้งานแผนที่เพลงและโทรศัพท์ได้สะดวกมากขึ้นในสภาพการจราจรที่หนาแน่นของประเทศไทยCarPlay ต้องใช้ iPhone ที่มีระบบปฏิบัติการ iOS 90 ขึ้นไประบบรถยนต์ในเวอร์ชันไทยยังรองรับเมนูภาษาไทยและมีตัวเลือกแผนที่ที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานในประเทศสำหรับรุ่นล่างอย่าง SV ที่ไม่มี CarPlay จากโรงงานสามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้ที่ร้านอัปเกรดรถยนต์เฉพาะทางในเมืองใหญ่เช่นศูนย์เครื่องเสียงใน Fortune Town กรุงเทพหรือร้านประดับยนต์ในเชียงใหม่เนื่องจากอากาศร้อนในไทยอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แนะนำให้ใช้ที่ยึดโทรศัพท์กับช่องแอร์เพื่อช่วยระบายความร้อนและตรวจสอบความเสถียรของพอร์ต USB ที่ศูนย์บริการฮอนด้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ใช้งาน CarPlay ได้อย่างราบรื่นหากต้องขับในพื้นที่ห่างไกลเป็นเวลานานควรดาวน์โหลดแผนที่แบบออฟไลน์ล่วงหน้าเนื่องจากบางพื้นที่ชนบทอาจไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต 4G ครอบคลุมเพียงพอ
Q
รถ Honda City เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
Honda City เป็นรถที่น่าสนใจและมีจุดเด่นหลายด้านด้านดีไซน์ภายนอกเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นโดยเฉพาะรุ่น City Hatchback ที่มาพร้อมกระจังหน้าแบบ Honey Comb กันชนหน้าใหม่และแถบตกแต่ง Honda Solid Wing สีดำแบบใหม่ที่มีขนาดเล็กลงไฟท้ายแบบสามมิติรมดำพร้อมสปอยเลอร์ดีไซน์สปอร์ตและล้อสีดำทั้งชุดให้ความรู้สึกดุดันภายในห้องโดยสารมีการเพิ่มรายละเอียดการตัดเย็บบริเวณแผงประตูพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วรุ่นย่อยบางรุ่นรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายพร้อมแท่นชาร์จไร้สายอุปกรณ์ความปลอดภัยจัดเต็มทุกรุ่นด้วยระบบ Honda Sensing ที่มีฟังก์ชันช่วยขับขี่เช่นกล้องมองหลังและระบบเตือนรถออกนอกเลนช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานแต่อาจมีข้อจำกัดบางประการเช่นพื้นที่ภายในไม่ได้กว้างขวางเท่ารุ่นที่เน้นเรื่องความจุเป็นหลักและระบบเกียร์ CVT บางรุ่นอาจตอบสนองได้ไม่ทันใจในจังหวะขับขี่แบบเร่งเร้าโดยรวมแล้ว Honda City เป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันและเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าน่าพิจารณา
Q
ราคาภาษีรถยนต์ของ Honda City คือเท่าไหร่ วิธีการคำนวณอย่างไร
การคำนวณภาษีรถยนต์สำหรับ Honda City ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับความจุกระบอกสูบและอายุการใช้งานตามหลักเกณฑ์ของกรมการขนส่งทางบกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินจะคิดภาษีโดย 1000cc แรกคิดที่ 2 บาทต่อ cc และส่วนที่เกิน 1000cc ถึง 1500cc คิดที่ 3 บาทต่อ cc ดังนั้นรุ่นเครื่องยนต์ 15 ลิตรหรือ 1497cc จะเสียภาษีปีละ 1000 คูณ 2 เท่ากับ 2000 บวก 497 คูณ 3 เท่ากับ 1491 รวมเป็น 3491 บาทสำหรับรุ่นไฮบริด eHEV ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 15 ลิตรเช่นกันจะได้รับส่วนลดภาษี 20 เปอร์เซ็นต์ตามนโยบายส่งเสริมรถพลังงานใหม่ทำให้จ่ายจริงเพียง 2792 บาทภาษีรถยนต์ต้องชำระก่อนวันครบอายุทะเบียนในแต่ละปีที่สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หากล่าช้าจะมีค่าปรับวันละ 1 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมาไทยมีนโยบายเพิ่มภาษีตามอายุรถกรณีรถมีอายุมากกว่า 10 ปีอัตราภาษีจะเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได 5 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ผู้ใช้รถในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM25 สูงเช่นกรุงเทพฯควรเก็บเอกสารผลตรวจไอเสียผ่านมาตรฐานไว้เพื่อแสดงเมื่อมีการตรวจสอบแม้อัตราภาษีจะเท่ากันทั่วประเทศแต่การจดทะเบียนในชื่อบริษัทสามารถใช้เป็นเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่มได้บางส่วน

ข้อดี

พื้นที่ภายในรถกว้างขวางและสบาย
ระบบดีเซลที่มีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยเทคโนโลยี รุ่น RS ยอดนิยมมีชุดสไตล์กีฬารอบคัน RS ซึ่งประกอบด้วยกริดหน้าของรถสีดำและกระจกข้าง กันชนหน้าสไตล์กีฬา ไฟหน้า LED ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมกับไฟวิ่งกลางวันและไฟหมอก LED
ภายในรถเรือนสวยงามและมีอุปกรณ์ครบครัน มีบรรยากาศกีฬาในรถ มีหน้าจอวิทยุชั้นสูงที่สามารถสัมผัสได้ 8 นิ้ว สนับสนุน Apple CarPlay และมีระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
เครื่องยนต์ที่แข็งแรง DOHC VTEC TURBO ขนาด 1.0 ลิตรแบบ 3 ลูกสูบ 12 วาล์ว ที่ 5500 รอบ/นาทีมีกำลังสูงสุดถึง 122 ม้า ซึ่งเป็นค่าที่สุดในหมวดเดียวกัน

ข้อเสีย

ความสบายและความสะดวกสบายมีข้อจำกัด
ประสิทธิภาพที่ความเร็วต่ำน้อย
ราคาสูงถึง 739000 บาท ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน และคู่แข่งมีระบบที่ไม่เยี่ยมเท่า City
ระบบความปลอดภัยไม่พอ ในด้านความปลอดภัย City แย่กว่าคู่แข่ง รุ่นใหม่ของ City ไม่มีชุด Honda Sensing เท่าที่มีเพียงระบบความปลอดภัยพื้นฐาน

Q&A ล่าสุด

Q
Audi RS4 จะเลิกผลิตหรือไม่?
ตอนนี้ทางออดี้ยังไม่ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับแผนการหยุดผลิต Audi RS4 แต่จากเทรนด์อุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกและรอบการอัปเดตสายผลิตภัณฑ์ของออดี้ ตลาดรถวากอนสมรรถนะสูงก็กำลังเผชิญกับความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคไฟฟ้า จริงๆ แล้วในตลาดไทย RS4 เป็นรถสมรรถนะสูงที่ขายน้อยอยู่แล้ว และยังได้รับผลกระทบจากนโยบายลดภาษีของรัฐบาลไทยสำหรับรถพลังงานสะอาด ทำให้ออดี้อาจจะเน้นทรัพยากรไปที่รถไฟฟ้าอย่างซีรีส์ e-tron มากกว่า แต่สำหรับคนไทยที่หลงใหลในรถสปอร์ตเครื่องยนต์สันดาป RS4 ยังคงมีความน่าสนใจไม่เสื่อมคลาย ด้วยเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ 2.9 ลิตร (450 แรงม้า) ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ที่เหมาะกับถนนภูเขาและการขับขี่ระยะไกลในไทย ถ้าในอนาคต RS4 ต้องยุติการผลิต รุ่นที่มาทดแทนน่าจะเป็นเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเพื่อตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะและกฎหมายสิ่งแวดล้อม แฟนรถไทยควรติดตามข่าวสารจากเว็บไซต์ออดี้ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างใกล้ชิด รวมถึงดูรถคู่แข่งอย่าง BMW M3 Touring หรือ Mercedes-AMG C63 Estate ที่ก็ให้ทั้งความแรงและพื้นที่ใช้งานได้เหมือนกัน
Q
Audi RS4 ใช้เครื่องยนต์ V6 หรือ V8?
Audi RS4 รุ่นปัจจุบันใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 2.9 ลิตร แบบทวินเทอร์โบ ไม่ใช่เครื่องยนต์ V8 โดยเครื่องยนต์นี้เป็นผลงานการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Audi และ Porsche ให้กำลังสูงสุดถึง 450 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Tiptronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเต็มเวลา quattro ที่ให้สมรรถนะยอดเยี่ยม ในตลาดประเทศไทย RS4 ถือเป็นรถแวกอนสมรรถนะสูงที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง และการผสานระหว่างความแรงกับความอเนกประสงค์ที่ลงตัว ทำให้ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ใช้ที่รักการขับขี่และต้องการความสะดวกในคันเดียว แม้ว่า RS4 รุ่นปัจจุบันใช้เครื่องยนต์ V6 แต่ในประวัติของ Audi ก็เคยมี RS หลายรุ่น เช่น RS6 ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 ซึ่งการเลือกใช้เครื่องยนต์ขึ้นอยู่กับการวางตำแหน่งของรถรุ่นนั้น ๆ และข้อจำกัดทางเทคนิค โดย V6 มีข้อได้เปรียบด้านความประหยัดน้ำมันและการปล่อยไอเสีย ซึ่งเป็นแนวโน้มสำคัญของรถสมรรถนะสูงยุคใหม่ สำหรับผู้ใช้ในไทย นอกจากประเภทเครื่องยนต์แล้ว ยังสามารถให้ความสำคัญกับรายละเอียดอื่น ๆ ของ RS4 เช่น ระบบเลือกโหมดการขับขี่ และการปรับแต่งช่วงล่าง ซึ่งช่วยให้รถตอบสนองได้อย่างหลากหลายตามสภาพถนน และยกระดับประสบการณ์การขับขี่ในทุกเส้นทาง
Q
Audi RS4 รุ่นไหนดีที่สุด?
ในตลาดประเทศไทย รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดในซีรีส์ Audi RS4 คือ RS4 Avant (รุ่น B9) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.9 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงถึง 450 แรงม้าและแรงบิด 600 นิวตัน-เมตร คู่กับเกียร์ 8 สปีด Tiptronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ที่สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.1 วินาที โดยรวมความแรงและการใช้งานจริงเข้าด้วยกันได้ดี เหมาะสมกับสภาพถนนในเมืองและทางเขาของประเทศไทยที่มีความหลากหลาย การออกแบบรุ่นสเตชันวากอนให้พื้นที่กระโปรงหลังกว้างขวาง เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวหรือการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ในขณะที่ระบบช่วงล่างได้รับการปรับแต่งให้เข้ากับถนนบางสายในไทยที่ขรุขระ RS4 Avant ยังมาพร้อมระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบรักษาเลน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ หากมองหารุ่นมือสอง ปี 2017-2018 ของรุ่น B9 จะคุ้มค่ากว่า แต่ควรตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดเนื่องจากสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยอาจส่งผลต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และยาง สำหรับคนที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่สมรรถนะสูง สามารถเลือกติดตั้งดิฟเฟอเรนเชียลสปอร์ตและระบบพวงมาลัยไดนามิกที่จะช่วยให้การควบคุมรถบนเส้นทางเขาของไทยแม่นยำยิ่งขึ้น
Q
Audi RS 4 ยังน่าซื้ออยู่ไหม?”
Audi RS 4 ในฐานะรถเอสเตทสมรรถนะสูง ถือว่ามีอัตราการรักษามูลค่าได้ค่อนข้างดีในตลาดไทย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการยอมรับในแบรนด์ ประสิทธิภาพที่โดดเด่น และจำนวนที่มีจำกัดในท้องตลาด RS 4 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.9 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ ควบคู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ที่ให้ทั้งพลังและความมั่นคงในการขับขี่ รถสมรรถนะสูงแบบนี้มักเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนรักรถในไทย โดยเฉพาะผู้ชื่นชอบรถสปอร์ตเยอรมัน แม้ว่าตลาดรถไทยจะถูกครอบครองโดยรถญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ แต่รถยุโรปสมรรถนะสูงอย่าง RS 4 ก็ยังมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะตัว โดยเฉพาะคนที่มองหาความสนุกในการขับและสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเรื่องอัตราการเสื่อมมูลค่าที่อาจเกิดขึ้นจากภาษีนำเข้า ค่าบำรุงรักษา และความพร้อมของอะไหล่ในไทย ซึ่งอาจทำให้ราคาตลาดมือสองของ RS 4 ตกเร็วกว่ารถทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับรถยุโรปสมรรถนะสูงรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี สำหรับผู้ที่สนใจ ถ้าตั้งใจจะใช้ยาวๆ RS 4 นั้นให้ทั้งประสบการณ์การขับและมูลค่าแบรนด์ที่คุ้มค่า แต่ถ้าคิดถึงเรื่องการขายต่อ อาจต้องพิจารณาความนิยมของรถประเภทนี้ในตลาดไทยให้ดีก่อน
Q
Audi RS4 เลิกผลิตปีไหน?
Audi RS4 รุ่นล่าสุดคือเวอร์ชั่นปี 2023 ที่เป็นรถสปอร์ตเอสเตทสมรรถนะสูงและได้รับความนิยมในตลาดไทยไม่น้อย รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 2.9 ลิตร เทอร์โบคู่ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 450 แรงม้า คู่กับเกียร์ 8 สปีด Tiptronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ที่ทำให้เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.1 วินาที สำหรับการขับขี่บนถนนคดเคี้ยวแบบไทยๆ หรือในเมืองแล้ว RS4 ถือว่าทั้งทรงพลังและใช้งานได้จริง ในไทย RS4 ได้ใจคนรักรถด้วยความลงตัวระหว่างสมรรถนะและการใช้งานประจำวัน โดยเฉพาะคนที่อยากได้ทั้งความสนุกในการขับและรถครอบครัวในคันเดียว RS4 ยังมาพร้อมระบบความบันเทิง MMI รุ่นล่าสุดและโหมดขับขี่หลากหลายที่ตอบโจทย์สภาพถนนแบบไทยๆ แม้ว่าตลาดรถสปอร์ตในไทยจะยังเป็นกลุ่มเล็ก แต่ RS4 ก็ยังมีแฟนคลับตัวยงด้วยจุดขายที่เฉพาะและแบรนด์ Audi ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศร้อนและฝนชุกของไทยอาจเป็นตัวท้าทายเรื่องระบบระบายความร้อนและยางรถ สำหรับเจ้าของ RS4 แนะนำให้ดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้รถแสดงสมรรถนะได้เต็มที่เสมอ
ดูเพิ่มเติม