Q

ซื้อ Bentley Continental GT รุ่นไหนดี

ในตลาดประเทศไทย Bentley Continental GT รุ่นปี 2025 GT Mulliner Plug in Hybrid เป็นตัวเลือกระดับสูงที่ผสมผสานสมรรถนะกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ระบบขับเคลื่อนไฮบริด 4.0T V8 ให้ประสบการณ์ขับขี่ทรงพลังและสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมนวัตกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ของไทย รุ่นหลังคาแข็งมีราคาจำหน่าย 3.583 ล้านบาท เหมาะกับการใช้งานจริงและคุ้มค่ากว่ารุ่นเปิดประทุน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเครื่องยนต์น้ำมันแบบดั้งเดิม รุ่นปี 2024 GT 4.0T V8 ราคาเริ่มต้น 2.925 ล้านบาท ให้สมรรถนะที่แข็งแกร่งเหมาะกับผู้รักความสนุกจากการขับขี่แบบบริสุทธิ์ สภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกในไทยทำให้รุ่นหลังคาแข็งเหมาะกับการใช้งานประจำวันมากกว่ารุ่นเปิดประทุนซึ่งถึงจะโดดเด่นแต่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา Bentley Continental GT ทุกรุ่นรองรับบริการปรับแต่งระดับสูง ตั้งแต่วัสดุภายในจนถึงสีตัวถังตามความชอบส่วนตัว และเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในไทยมีความครบครัน พร้อมให้บริการหลังการขายตามมาตรฐานสากล
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ราคาของรุ่นท็อปของ Continental GT คืออะไร
รุ่นสูงสุดของ Bentley Continental GT ในไทยปัจจุบันคือ Continental GT Speed ราคาประมาณสี่สิบห้าถึงห้าสิบล้านบาทขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนการตกแต่งและอุปกรณ์เสริม รุ่นนี้ติดตั้งเครื่องยนต์ดับเบิลยูสิบสองเทอร์โบคู่ขนาดหกลิตรให้กำลังสูงสุดหกร้อยห้าสิบแรงม้าเร่งจากศูนย์ถึงหนึ่งร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในสามจุดหกวินาที มาพร้อมระบบเบรกเซรามิกคาร์บอนช่วงล่างแบบสปอร์ตและชุดตกแต่งภายนอกแบบ Speed หากลูกค้าเลือกออปชันระดับสูงเช่นการตกแต่งแบบ Mulliner วัสดุภายในพรีเมียมเช่นหนังแท้ไม้จริงหรือคาร์บอนไฟเบอร์รวมถึงระบบเสียง Naim for Bentley ราคาจะสูงขึ้นอีก เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Rolls Royce Wraith หรือ Aston Martin DBS Superleggera Continental GT Speed ยังคงโดดเด่นในฐานะรถจีทีสมรรถนะสูงระดับหรู แนะนำให้ผู้สนใจติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Bentley ในไทยเช่น Bentley Bangkok เพื่อสอบถามราคาล่าสุดและตัวเลือกการปรับแต่งเฉพาะบุคคล
Q
Continental GT มีกี่ประเภท
Bentley Continental GT ปัจจุบันมีสองแบบคือรุ่นหลังคาแข็งสองประตูและรุ่นเปิดประทุนสองประตู ระบบขับเคลื่อนมีทั้งรุ่นเครื่องยนต์สันดาปและรุ่นปลั๊กอินไฮบริด รุ่นเครื่องยนต์มีทั้ง V8 เทอร์โบคู่ขนาด 4.0 ลิตร กำลัง 549 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร และ W12 เทอร์โบคู่ขนาด 6.0 ลิตร กำลัง 635 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร ใช้เกียร์ดูอัลคลัตช์ 8 สปีด ที่ผสมผสานสมรรถนะและความนุ่มนวล รุ่น Continental GT Speed เจนเนอเรชันที่ 4 เป็นรุ่นพิเศษที่เพิ่มระบบปลั๊กอินไฮบริดด้วยมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงและเครื่องยนต์ที่ปรับปรุงใหม่ กลายเป็นรุ่นแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ Bentley พร้อมตอบรับเทรนด์รักษ์โลก สำหรับตลาดไทย รุ่นเปิดประทุนได้รับความนิยมเพราะเหมาะกับสภาพอากาศเขตร้อน ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดได้รับความสนใจมากขึ้นด้วยการปล่อยมลพิษต่ำและประหยัดน้ำมัน Bentley ยังมีบริการปรับแต่งพิเศษสำหรับลูกค้าไทยให้เลือกสีตัวถัง วัสดุตกแต่งภายใน และระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ เช่น ไฟหน้า LED แบบแมทริกซ์ที่มีไฟแยกอิสระ 120 ดวงเพื่อความปลอดภัยขณะขับกลางคืน โครงสร้างช่วงล่างใช้หน้าปีกนกคู่และหลังมัลติลิงก์อิสระ ทำให้ขับขี่นุ่มนวลแม้บนถนนที่ซับซ้อนของกรุงเทพฯ
Q
Bentley Continental เป็นรถหรูหราหรือไม่
Bentley Continental GT คือรถสปอร์ตหรูระดับสูงที่ผสมผสานเอกลักษณ์ความเป็นชนชั้นสูงอังกฤษกับสมรรถนะขั้นสูงได้อย่างลงตัว ไม่เพียงแต่สืบทอดความหรูหราของแบรนด์ Bentley มายาวนานกว่า 100 ปี ยังแสดงศักยภาพด้านสมรรถนะที่โดดเด่นในฐานะรถคูเป้สองประตู ด้วยดีไซน์ภายนอกที่สง่างามและทรงพลัง กระจังหน้าแบบครอบครัวพร้อมโป่งล้ออะลูมิเนียมสามมิติและตัวถังลู่ลมช่วยลดแรงต้านอากาศและเสริมความสปอร์ต ส่วนภายในตกแต่งด้วยหนังแท้ Nappa ที่เย็บด้วยมือ ไม้วอลนัทลายเส้นตรง และวัสดุ Dinamica ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รายละเอียดทุกจุดสะท้อนถึงงานฝีมือและความหรูหรา ด้านขุมพลังเครื่องยนต์ W12 เทอร์โบคู่กำลัง 635 แรงม้า เร่ง 0-60 ไมล์ใน 4.7 วินาที พร้อมระบบไฮบริดประสิทธิภาพสูงที่ผสานความแรงกับความยั่งยืน แผงหลังแบบปรับได้และช่วงล้อหลังที่กว้างขึ้นช่วยเพิ่มความมั่นคงขณะขับขี่ความเร็วสูง สำหรับผู้บริโภคในไทย รถรุ่นนี้เหมาะทั้งการเดินทางในเมืองและทริประยะไกล เบาะนั่งระบายอากาศได้ดีและระบบปรับอากาศที่ละเอียดอ่อนตอบโจทย์สภาพอากาศเขตร้อน จึงเป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่แสวงหาความหรูหราพร้อมความสนุกในการขับขี่
Q
Bentley Continental GT อยู่ในคลาสอะไร
Bentley Continental GT เป็นรถสปอร์ตหรูระดับสูงที่เน้นทั้งสมรรถนะและความหรูหราในกลุ่มตลาดรถยนต์ระดับโลก รุ่นปี 2024 มีทั้งรุ่นหลังคาแข็งและรุ่นเปิดประทุน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบ 4.0 ลิตร หรือระบบไฮบริดสมรรถนะสูง เช่นรุ่นไฮบริด V8 ที่เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุดถึง 335 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยงานตกแต่งภายในที่ทำด้วยมือ เทคโนโลยีล้ำสมัย และบริการปรับแต่งเฉพาะบุคคลสูงสุด เช่น หน้าจอแสดงผลสามด้าน ระบบเสียง Bang & Olufsen และระบบปรับอากาศอัจฉริยะที่กรองฝุ่น PM2.5 ได้ พร้อมระบบช่วยขับขี่ในเมืองและระบบครูสคอนโทรลอัจฉริยะสำหรับการเดินทางไกล เหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมืองและบนถนนกว้างของไทย Bentley ยังมีบริการปรับแต่งพิเศษจากแผนก Mulliner สำหรับลูกค้าที่ต้องการความหรูหราสูงสุด เช่น กระจังหน้าแบบลายสี่เหลี่ยมลูกฟูก ไฟต้อนรับแบบไดนามิก และล้อขนาด 22 นิ้วที่ออกแบบเฉพาะตัว ปัจจุบันรุ่น Continental GT มีราคาจำหน่ายในไทยตั้งแต่ 2.925 ล้านถึง 3.670 ล้านบาท เป็นรถยนต์ที่ผสานพลังขับเคลื่อน งานฝีมือชั้นเยี่ยม และเทคโนโลยีล้ำยุคไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
Q
Bentley Continental GT เป็นรถที่นั่ง 4 คนหรือไม่
Bentley Continental GT เป็นรถสปอร์ตหรูสี่ที่นั่งแบบสองประตูที่ผสมผสานสมรรถนะการขับขี่กับความสะดวกสบาย เหมาะกับความต้องการหลากหลายของผู้บริโภคระดับสูงในไทย ตัวรถมีความยาว 4850 มิลลิเมตร กว้าง 1954 มิลลิเมตร สูง 1405 มิลลิเมตร และฐานล้อ 2851 มิลลิเมตร ให้พื้นที่ขากว้างขวางสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมเบาะหนังคุณภาพสูงเดินด้ายลายเพชรสองสีเพิ่มความหรูหรา รุ่นนี้มีเครื่องยนต์สองแบบคือ 6.0T W12 และ 4.0T V8 แบบเทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 373 กิโลวัตต์ ใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา ช่วยควบคุมรถได้มั่นคงในสภาพถนนที่หลากหลายของไทย ระบบช่วงล่างแบบถุงลมช่วยกรองแรงสั่นสะเทือนเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ Bentley Continental GT ยังมีรุ่นพวงมาลัยขวาตรงตามกฎหมายไทย ส่วนรุ่นเปิดประทุนเหมาะกับสภาพอากาศเขตร้อนของไทยตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและความโดดเด่นในสไตล์ เป็นรถที่ผสมผสานความหรูหราสไตล์อังกฤษกับสมรรถนะสปอร์ต พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วและแผงหน้าปัดแบบสามด้านที่พลิกได้ ซึ่งผสมผสานดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นตัวเลือกชั้นนำในตลาดรถหรูระดับสูงของไทย
Q
Bentley Continental GT มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเป็นอย่างมากหรือไม่?
Bentley Continental GT ในฐานะรถสปอร์ต GT หรูระดับสูง มีค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาสูงในไทยเนื่องจากภาษีนำเข้าสินค้าชิ้นส่วนระดับพรีเมียม เครื่องยนต์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ซับซ้อน รวมถึงมาตรฐานการบริการศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ การบำรุงรักษาเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรอง ค่าใช้จ่ายประมาณ 50000 ถึง 80000 บาท ส่วนการบำรุงรักษาใหญ่ เช่น เปลี่ยนน้ำมันเกียร์และตรวจสอบระบบเบรก อยู่ระหว่าง 150000 ถึง 250000 บาทหรือมากกว่า หากเปลี่ยนชิ้นส่วน เช่น จานเบรกหรือระบบช่วงล่างแบบถุงลม ค่าใช้จ่ายอาจสูงขึ้น ศูนย์ Bentley อย่างเป็นทางการในไทย เช่น Bentley Bangkok ใช้อะไหล่แท้และช่างมืออาชีพ แม้ราคาสูงแต่รับประกันคุณภาพและสิทธิ์การรับประกัน แนะนำซื้อแพ็กเกจรับประกันขยายหรือแผนบำรุงรักษาเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายระยะยาวและเข้ารับบริการตามระยะอย่างเคร่งครัดเพื่อรักษาสมรรถนะและมูลค่าขายต่อ เทียบกับรถหรูรุ่นอื่น เช่น Aston Martin DB12 หรือ Rolls Royce Wraith ค่าใช้จ่ายในการดูแล Bentley Continental GT ยังอยู่ในระดับคาดการณ์ได้แต่ควรวางแผนงบสำหรับการใช้งานประจำวันอย่างรอบคอบ
Q
2025 Continental GT ราคาเท่าไหร่
Bentley Continental GT รุ่นปี 2025 ยังไม่มีการประกาศราคาทางการในประเทศไทยจนถึงปี 2024 แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบันที่ราคาอยู่ระหว่าง 26 ถึง 40 ล้านบาทโดยอาจมีการปรับเล็กน้อยตามภาวะเงินเฟ้อโลก ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และนโยบายภาษีนำเข้าของไทยซึ่งมีอัตราสูงสำหรับรถยนต์หรู รุ่นใหม่อาจได้รับการอัปเกรดในด้านสมรรถนะหรือเทคโนโลยี เช่น ระบบป้องกันการเอียงแบบ 48 โวลต์ที่ทันสมัยขึ้นหรือรุ่นปลั๊กอินไฮบริด หากมีรุ่นไฮบริดสมรรถนะสูงหรือรุ่น Speed ราคาน่าจะเกิน 45 ล้านบาท เนื่องจากตลาดรถหรูได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าอย่างมาก จึงแนะนำให้ติดต่อผู้จำหน่าย Bentley อย่างเป็นทางการในไทย เช่น Bentley Bangkok หลังการเปิดตัวเพื่อรับข้อมูลราคาอย่างแม่นยำและสอบถามโปรโมชั่นหรือรุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน นอกจากนี้ควรเปรียบเทียบกับรถสปอร์ตระดับเดียวกันอย่าง Porsche 911 Turbo S หรือ Aston Martin DB12 เพื่อการตัดสินใจที่ดีที่สุด
Q
Bentley Continental GT รักษามูลค่าของมันได้หรือไม่
Bentley Continental GT มีอัตราการรักษามูลค่าปานกลางโดยแตกต่างกันตามรุ่นสภาพรถและระยะเวลาใช้งานโดยในช่วงห้าปีแรกจะอยู่ระหว่างร้อยละ 64.5 ถึง 37.6 และในปีที่เจ็ดประมาณร้อยละ 35 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางของรถสปอร์ตหรู สำหรับผู้บริโภคในไทยเนื่องจากตลาดในประเทศชื่นชอบรถนำเข้าระดับพรีเมียมรุ่นที่มีออปชันสูง ประหยัดน้ำมันและดูแลรักษาอย่างดีจึงเป็นที่นิยมเช่นรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ W12 หากสภาพรถดีหลังใช้งานสี่ปียังสามารถรักษามูลค่าได้ประมาณร้อยละ 73 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการรักษามูลค่าคือการบำรุงรักษาตามระยะ ไม่มีประวัติอุบัติเหตุและดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นโดยเฉพาะรถที่ดูแลภายในอย่างดีแม้ใช้งานไปแล้วหกหมื่นกิโลเมตรราคาขายต่อยังสูงกว่าร้อยละ 30 ของราคาป้ายใหม่แนะนำให้เจ้าของรถในไทยเลือกใช้บริการดูแลรักษาผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการและเก็บบันทึกครบถ้วนพร้อมหลีกเลี่ยงการขับขี่รุนแรงหรือเกิดอุบัติเหตุเพื่อชะลอการลดลงของมูลค่านอกจากนี้ความหายากและภาพลักษณ์พิเศษของแบรนด์ Bentley ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังช่วยเพิ่มมูลค่าเมื่อต้องการขายต่อได้อีกด้วย
Q
รุ่นไหนของ Continental GT ดีที่สุด
สำหรับผู้บริโภคไทย Bentley Continental GT รุ่นปลั๊กอินไฮบริดปี 2024 เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบด้วยระบบไฮบริด 4.0T V8 กำลังสูงสุด 782 แรงม้า เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.2 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 25.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกล 81 กิโลเมตร ตอบโจทย์ความต้องการด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้งานจริงโดยเฉพาะการเดินทางระยะสั้นในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ รถรุ่นนี้ติดตั้งระบบกระจายแรงบิดเพลาล้อหลังแบบใหม่เพิ่มความคล่องตัวในการควบคุม ออกแบบตัวถังให้เตี้ยลงล้อขนาด 22 นิ้วพร้อมคาลิเปอร์เบรกหน้า 10 พอตสะท้อนความสปอร์ต ภายในยังคงความหรูหราด้วยปุ่มควบคุมจริงและอัปเกรดระบบอินเทอร์เฟซอัจฉริยะ หากต้องการความเป็นเอกลักษณ์สูงสุดรุ่น Continental GT Mulliner เปิดประทุนมีบริการตกแต่งสั่งทำแต่ราคาจะสูงขึ้นอย่างมาก ควรพิจารณาภาษีนำเข้าและอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดไทยพร้อมติดต่อผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาตเพื่อรับข้อมูลราคาล่าสุดและตัวเลือกเฉพาะรุ่น Bentley ในภูมิภาคนี้มีบริการปรับแต่งและดูแลหลังการขายที่ตอบโจทย์ลูกค้าระดับพรีเมียมได้อย่างครบถ้วน
Q
Bentley Continental Speed และ GT มีความแตกต่างอย่างไร
ในตลาดไทยราคาของ Bentley Continental GT ขึ้นอยู่กับรุ่นและตัวเลือกเสริม รุ่นมาตรฐานมีราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการเริ่มต้นประมาณ 26 ล้านบาทยังไม่รวมออปชั่นเสริมหรือภาษี หากเลือก Continental GT Speed ที่มีกำลังสูงขึ้นหรือบริการปรับแต่งพิเศษเช่น Mulliner ราคาจะสูงขึ้นเป็นประมาณ 35 ถึง 40 ล้านบาทหรือมากกว่า ประเทศไทยมีการเก็บภาษีสรรพสามิตและภาษีนำเข้าสูงทำให้ราคาสูงกว่าตลาดยุโรปและอเมริกา รุ่นมาตรฐานติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 4.0 ลิตรมีกำลัง 550 แรงม้า ส่วนรุ่น W12 มีกำลัง 650 แรงม้าและรุ่น Speed มีกำลังสูงสุดถึง 659 แรงม้า ออปชั่นเสริมเช่นระบบเสียงคุณภาพสูง วัสดุหุ้มภายในที่หายาก และระบบเบรกเซรามิกคาร์บอนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากสนใจแนะนำติดต่อผู้แทนจำหน่าย Bentley อย่างเป็นทางการในกรุงเทพมหานครบนถนนสุขุมวิทเพื่อสอบถามราคาล่าสุดและตรวจสอบสถานะรถพร้อมส่งหรือระยะเวลารอคอย

ข้อดี

หน้าตาหรูหราและทันสมัย ดีไซน์ที่คมชัดและเด่นชัด ตรงกับสไตล์ Coupe Gran Tourer ที่เน้นการขับขี่ มีแท็งค์น้ำมันและปลายท่อของรถแข่งให้เลือก
การตกแต่งภายในหรูหราและสะดวกสบาย มีการตกแต่งภายใน 2 สี แต่งด้วยไฟเบอร์คาร์บอนเพื่อเพิ่มความรู้สึกขับขี่ที่แข็งแรง ที่นั่งด้านหลังสามารถเกินความแคบบ้างแต่การใช้งานสะดวกสบาย สบายกว่ารถแข่งหรูหรา
พลังงานทรงพลัง หนุนด้วยเครื่องยนต์ V8 สองทัวร์โบที่เพิ่มแรงดัน 4 ลิตร มีกำลังสูงสุด 521 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 680 นิวตันเมตร ขับขี่มันส์ แรงเร่งดี ขับขี่ราบลื่น การรถแซงและขึ้นลงโค้งง่ายๆ
ฐานรถแข็งแรง ด้านหน้าเป็นแขนงเดี่ยว ด้านหลังเป็นลิงค์หลายอัน มุ่งเน้นไปที่ความนุ่มนวลและความยืดหยุ่นของการขับขี่ การเลี้ยวง่ายและแม่นยำ รถมีความเสถียร ผลิตผลการลดแรงสั่นได้ดี

ข้อเสีย

ราคาสูงสุดตั้งแต่ 20.9 ล้านบาท จนถึง GT V8 ที่มีแต่พลังงานที่แตกต่างกันซึ่งคิดว่า GT V8 S แพงกว่า
ที่นั่งด้านหลังแคบเนื่องจากเป็นรถแต่งรูปร่าง ที่นั่งด้านหลังมีพื้นที่จำกัด สามารถนั่งได้ 2 คน เฉพาะคนที่สูงใหญ่มากจะรู้สึกที่คับแคบ
ศูนย์บริการน้อยมาก มีเพียงในกรุงเทพฯ และจำนวนจำกัด ทำให้การซ่อมแซมยานพาหนะทุกครั้งที่ต้อง
ราคาอะไหล่สูงรถมูลค่า 20 ล้านบาท ใช้วัสดุและอะไหล่ที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีคนใช้งานน้อย ซึ่งทำให้อะไหล่ที่สต็อคไม่มีมากนัก

Q&A ล่าสุด

Q
รถ Land Rover Discovery รุ่นปี 2020 จะใช้งานได้นานแค่ไหน?
รถ Land Rover Discovery รุ่นปี 2020 หากได้รับการบำรุงรักษาอย่างถูกต้องตามกำหนด สามารถใช้งานได้นานกว่า 15 ปี หรือวิ่งได้เกิน 250,000 กิโลเมตร โดยอายุการใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการขับขี่ ในประเทศไทยที่อากาศร้อนชื้น อาจส่งผลต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยางของรถ แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อน แอร์ และซีลอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือนตามที่ผู้ผลิตแนะนำ นอกจากนี้สภาพถนนบางพื้นที่ในไทยอาจขรุขระ จึงควรตรวจสอบระบบช่วงล่างและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นประจำเพื่อความมั่นใจเวลาขับบนเส้นทางยากลำบาก การเลือกใช้อะไหล่แท้หรืออะไหล่ทดแทนคุณภาพสูงจะช่วยยืดอายุรถได้ และควรหลีกเลี่ยงการใช้งานหนักหรือขับในสภาวะ extremes ต้องยอมรับว่ารถ SUV ระดับหรูอย่าง Discovery ค่าบำรุงจะสูงกว่าปกติ แต่การดูแลที่ดีจะช่วยเพิ่มความทนทานให้รถได้มาก สำหรับคนที่ใช้รถในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ ควรให้ความสนใจระบบเบรกและเกียร์เป็นพิเศษ เพราะการจอดเดินบ่อยๆ ทำให้ชิ้นส่วนเหล่านี้สึกหรอเร็ว
Q
รถ Land Rover Discovery Sport ปี 2020 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
รุ่นปี 2020 ของรถยนต์ Land Rover นั้นให้ความน่าเชื่อถือในระดับปานกลาง จุดเด่นอยู่ที่ความหรูหราของห้องโดยสาร ประสิทธิภาพการขับขี่ออฟโรดที่แข็งแกร่ง และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ทันสมัย โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายในช่วงฤดูฝนของไทย แต่ระบบอิเล็กทรอนิกส์อาจมีปัญหาเล็กน้อยบ่อยกว่ารถคู่แข่งจากญี่ปุ่น แนะนำให้ผู้บริโภคไทยตรวจสอบสภาพการทำงานของระบบกันสะเทือนแบบปรับระดับลม (ถ้ามี) ในสภาพอากาศร้อนชื้นเป็นพิเศษ และควรเปลี่ยนน้ำมันดิฟเฟอเรนเชียลเป็นประจำเพื่อรับมือกับการขับลุยน้ำบ่อยๆ ที่น่าสนใจคือตลาดไทยมีบริการรับประกันจากศูนย์ถึง 5 ปี ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้มาก แต่ถ้าซื้อรถมือสองต้องระวังเป็นพิเศษเรื่องความเร็วในการตอบสนองของหน้าจอกลางและสภาพการเสื่อมของยางรองรับช่วงล่าง เมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน Land Rover มีศูนย์บริการครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯ ค่อนข้างดี แต่ในต่างจังหวัดอาจต้องรออะไหล่นานกว่า สำหรับคนไทยที่เน้นการขับออฟโรด ระบบ Terrain Response ในรุ่น Discovery Sport ปี 2020 สามารถปรับตัวอัจฉริยะให้เข้ากับสภาพภูมิประเทศทุกแบบในไทย ตั้งแต่ภูเขาจนถึงชายหาด แนะนำให้ตรวจสอบสถานะของเหลวกรณีโอนทุก 20,000 กิโลเมตรในการใช้งานจริงเพื่อความน่าเชื่อถือ
Q
เครื่องยนต์ใน Discovery Sport คืออะไร?
Discovery Sport ในปัจจุบันมีตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่แตกต่างกัน ในประเทศไทยมักพบเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Ingenium เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ และเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 3 สูบ รุ่นดีเซลให้กำลัง 150 แรงม้าและแรงบิด 380 นิวตันเมตร เหมาะกับการขับทางไกลและเส้นทางภูเขาในไทย ส่วนรุ่นเบนซิน 1.5 ลิตรเน้นประหยัดน้ำมันในเมือง ทุกรุ่นมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ พิเศษสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย Discovery Sport มาพร้อมระบบจัดการอุณหภูมิอัจฉริยะที่ช่วยรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดีที่สุด นอกจากนี้ลูกค้าไทยยังสามารถเลือกรุ่นที่ติดตั้งระบบ Mild Hybrid 48V ซึ่งช่วยเก็บพลังงานขณะเบรกและจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าในรถ ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มักจะเผชิญกับการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ในส่วนของการดูแลรักษา แนะนำให้ผู้ใช้ในไทยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน และควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมาก เครื่องยนต์เหล่านี้ได้รับการปรับแต่งเฉพาะสำหรับสภาพอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ทำงานได้อย่างมั่นคงในสภาพอากาศร้อนชื้น
Q
เครื่องยนต์ที่ใช้ใน Discovery Sport 2020 มีอะไรบ้าง?
รถยนต์ Land Rover Discovery Sport รุ่นปี 2020 ในตลาดประเทศไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จจากซีรีส์ Ingenium และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ โดยรุ่นเบนซินให้กำลังสูงสุด 249 แรงม้า ส่วนรุ่นดีเซลอยู่ที่ 204 แรงม้า ทั้งคู่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวร ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและการลุยเส้นทางออฟโรดแบบเบาๆ ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย เครื่องยนต์ทั้งสองแบบนี้มีประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีและให้แรงบิดสูงที่รอบต่ำ (โดยเฉพาะเครื่องดีเซลที่เหมาะกับสภาพการจราจรที่ต้องหยุด-บ่อยครั้ง) พร้อมผ่านมาตรฐานการปล่อยไอเสีย Euro 5 ของไทย ที่น่าสนใจคือคนไทยนิยมใช้รุ่นดีเซลมากกว่า เพราะประหยัดน้ำมันเมาะมากสำหรับการเดินทางไกลและเส้นทางภูเขา แถมระบบ Hybrid แบบ 48V ยังช่วยให้การทำงานของระบบ Start-Stop นุ่มนวลขึ้นและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ถ้าพูดถึงรถนำเข้าแบบขนานในตลาดไทย อาจจะเจอรุ่น P300e แบบปลั๊กอินไฮบริดที่วิ่งได้ประมาณ 55 กิโลเมตรด้วยไฟฟ้าล้วน เหมาะกับเมืองติดจารจรอย่างกรุงเทพฯ แต่ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของสถานีชาร์จให้ดี ส่วนเรื่องการบำรุงรักษา ไม่ว่าจะเลือกใช้เครื่องยนต์แบบไหน การเปลี่ยนน้ำหล่อเย็นสม่ำเสมอและเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นก็สำคัญมากต่ออายุการใช้งานของเครื่องยนต์
Q
รถ Range Rover Sport ปี 2020 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
รถรุ่น Land Rover Range Rover Sport ปี 2020 ในด้านความน่าเชื่อถือถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ระบบขับเคลื่อนและสมรรถนะออฟโรดได้รับการยกย่องเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตรและระบบ Terrain Response ที่เหมาะกับสภาพทางภูเขาและถนนช่วงฤดูฝนของไทย แต่ระบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบช่วงล่างแบบลมอาจมีปัญหาเล็กน้อยบ้าง แนะนำให้ทำการบำรุงรักษาเป็นประจำ สำหรับการใช้ในไทยต้องระวังผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนชื้นต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่อาจเพิ่มภาระให้เกียร์ ดังนั้นการเลือกศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิตจึงสำคัญมาก เมื่อเทียบกับรถ SUV ระดับเดียวกัน รถคันนี้ทำออฟโรดได้ดีกว่าหลายรุ่น แต่ค่าซ่อมบำรุงแพงกว่ารถหรูจากญี่ปุ่น ในตลาดไทยมักพบเป็นรุ่นดีเซลที่ประหยัดน้ำมัน แต่ต้องระวังคุณภาพน้ำมันดีเซลท้องถิ่น ส่วนในตลาดรถมือสอง รุ่นที่มีประวัติการบำรุงรักษาครบถ้วนจะได้รับความนิยมมากกว่า แนะนำให้ตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนซื้อ
ดูเพิ่มเติม