Q

ยาง 265/50r20 ยี่ห้อไหนดี

สำหรับการเลือกยางขนาด 265/50R20 ในตลาดไทย คุณสามารถพิจารณายางแบรนด์ชั้นนำอย่าง มิชลิน บริดจสโตน หรือกูดเยียร์ ซึ่งทั้งสามแบรนด์นี้มีเครือข่ายการขายและบริการหลังการขายที่ครบครันในประเทศไทย ออกแบบมาเพื่อใช้งานได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นและถนนเปียกลื่น โดยยางมิชลินซีรี่ย์ Primacy จะโดดเด่นในเรื่องความเงียบและนุ่มสบาย บริดจสโตนรุ่น Dueler H/P Sport เหมาะกับ SUV เมือง ส่วนกูดเยียร์ Eagle F1 Asymmetric จะเน้นการยึดเกาะถนนเปียก นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ท้องถิ่นอย่าง Deestone รุ่น D5 AT Pro ที่น่าสนใจ เพราะใช้งานได้ดีบนถนนลูกรังและทางโคลน แถมยังคุ้มค่าเงิน ส่วนเรื่องที่ต้องดูให้ดีคือดัชนีรับน้ำหนักและระดับความเร็วต้องตรงกับที่รถคุณต้องการ ด้วยสภาพอากาศไทยที่ร้อนและฝนชุก แนะนำให้เน้นยางที่มีประสิทธิภาพบนถนนเปียกและทนความร้อนได้ดี การตรวจสอบลมยางและดอกยางเป็นประจำจะช่วยยืดอายุการใช้งาน และถ้าคุณขับบนเส้นทางภูเขาหรือชนบทบ่อยๆ อาจต้องใช้ยางออฟโรด (AT) แม้ว่าจะทำให้เสียงดังและกินน้ำมันเพิ่มขึ้นบ้างก็ตาม
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

Q&A ล่าสุด

Q
เครื่องยนต์อะไรที่อยู่ใน i8 2020?
รถ BMW i8 รุ่นปี 2020 มาพร้อมกับระบบไฮบริดปลั๊กอินที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 3 สูบ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 374 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนนี้ไม่เพียงแต่ให้ความแรงในการเร่งที่ยอดเยี่ยม จาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.4 วินาที แต่ยังประหยัดน้ำมันเหมาะกับการขับขี่ในเมืองสุดๆ แถวบ้านเรา รถไฮบริดกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและกินน้ำมันน้อย เอกลักษณ์ของ i8 คือตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ที่ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมากและยกระดับการควบคุม แถมดีไซน์ยังดูล้ำยุคจนเป็นที่สะดุดตาเมื่อขับบนถนน สำหรับคนที่ชอบเทคโนโลยีและการเดินทางแบบรักษ์โลก i8 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้ราคาจะค่อนข้างสูงแต่เมื่อคิดถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยและดีไซน์เฉพาะตัว ก็ยังมีคนไม่น้อยที่ยอมจ่าย ในส่วนของระบบไฮบริดถ้าสนใจอาจจะลองดูรุ่นอื่นๆ อย่าง Porsche 918 Spyder หรือ McLaren P1 ที่ก็ใช้ระบบไฮบริดเช่นกัน แต่ i8 อาจจะดูคุ้มค่าและใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีกว่าเมื่อเทียบกัน
Q
BMW i8 ยังมีอยู่ไหม?
รถสปอร์ตปลั๊กอินไฮบริดสุด iconic อย่าง BMW i8 ได้หยุดการผลิตไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2020 ตอนนี้ตามโชว์รูมอาจจะยังเหลือสต็อกบางคันหรือไม่ก็รถมือสองเท่านั้น รุ่นนี้เคยสร้างความฮือฮาด้วยดีไซน์ประตูผีเสื้อและโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมระบบขับเคลื่อนที่ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.5T กับมอเตอร์ไฟฟ้า ในตลาดรถมือสองบ้านเรายังพอเจอ BMW i8 รุ่นปี 2014-2020 อยู่บ้าง ราคาอยู่ที่ประมาณ 5-8 ล้านบาท สำหรับคนที่สนใจรถสปอร์ตพลังงานใหม่ตอนนี้สามารถไปดูที่รุ่น i4 และ iX ซีรีส์ล่าสุดของ BMW แทนได้ ซึ่งใช้เทคโนโลยี eDrive รุ่นที่ 5 ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ให้ระยะทางต่อการชาร์จที่ดีขึ้นมาก เช่นรุ่น i4 M50 ที่ให้กำลังสูงถึง 544 แรงม้าและวิ่งได้ไกลถึง 590 กม. (มาตรฐาน WLTP) ในขณะที่ i8 ในยุคก่อนๆ วิ่งได้แค่ 37 กม. เท่านั้น อย่างไรก็ตาม รถไฮบริดมักจะมีความ sensitive เรื่องการดูแลแบตเตอรี่ในสภาพอากาศร้อน แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนเป็นประจำ นอกจากนี้เบี้ยประกันรถสมรรถนะสูงแบบนี้จะแพงกว่ารถไฟฟ้าทั่วไปประมาณ 30-40% ควรสอบถามราคากับบริษัทประกันก่อนซื้อจะดีที่สุด
Q
ราคา i8 เท่าไหร่?
รถ BMW i8 เป็นรถสปอร์ตปลั๊กอินไฮบริดที่ราคาใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 14-16 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และตัวเลือกที่ติดตั้งมา ส่วนราคามือสองจะลดลงตามสภาพรถและเลขไมล์ อยู่ที่ประมาณ 8-12 ล้านบาท i8 ดึงดูดความสนใจด้วยดีไซน์ประตูผีเสื้อที่โดดเด่นและโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5T 3 สูบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงถึง 374 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.4 วินาที แถมยังประหยัดน้ำมัน เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการทั้งความเร็วและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในตลาดบ้านเรา รถรุ่นนี้มักจะพบเห็นได้ที่โชว์รูมรถหรูหรือผู้นำเข้ารถมืออาชีพ แนะนำให้บริการที่ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ BMW เพื่อความเชี่ยวชาญและได้ใช้อะไหล่แท้จากโรงงาน i8 มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ เช่น หน้าปัดดิจิตอลเต็มรูปแบบและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ แต่ต้องระวังเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่และค่าเปลี่ยนที่ค่อนข้างสูง เพราะเป็นรถไฮบริด อย่างไรก็ตาม BMW ให้ประกันแบตเตอรี่สูงถึง 8 ปีหรือ 100,000 กม. ทำให้เจ้าของรถสบายใจได้ในระยะยาว
Q
“BMW i8 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์ไหม
รถ BMW i8 ไม่ใช่รถไฟฟ้า 100% แต่เป็นรถสปอร์ตแบบปลั๊กอินไฮบริดที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนทั้งจากเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ 3 สูบและมอเตอร์ไฟฟ้า โดยสามารถวิ่งได้ประมาณ 37 กิโลเมตรด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนๆ เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้นในชีวิตประจำวัน ส่วนเครื่องยนต์จะช่วยให้ขับขี่ได้ระยะทางที่ไกลขึ้น ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ของ i8 ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดีไซน์แบบไฮบริดยังช่วยลดความกังวลเรื่องการชาร์จไฟระหว่างเดินทางไกลได้ดี สำหรับคนที่อยากรักษ์โลกแต่ยังไม่อยากเสียความสนุกในการขับขี่ i8 ถือเป็นทางเลือกที่ดี แต่ต้องระวังเรื่องความเข้ากันได้ของสถานีชาร์จ แนะนำให้ใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ได้มาตรฐานไฟฟ้าไทย รุ่นอื่นๆ ที่ใช้เทคโนโลยีคล้ายๆ กันก็อย่างเช่น Porsche 918 Spyder ซึ่งรถปลั๊กอินไฮบริดเหล่านี้ตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะและสิ่งแวดล้อมในช่วงเปลี่ยนผ่าน และในอนาคตเมื่อโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จพัฒนาเต็มที่ รถสปอร์ตไฟฟ้าล้วนๆ ก็อาจจะได้รับความนิยมมากขึ้น
Q
อัตราการประหยัดน้ำมันของ BMW i8 ปี 2020 เป็นเท่าไหร่?
รถ BMW i8 รุ่นปี 2020 เป็นรถสปอร์ตแบบปลั๊กอินไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันมาก ตัวเลขการบริโภคเชื้อเพลิงแบบผสมอยู่ที่ประมาณ 2.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนโหมดไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ไกลถึง 55 กิโลเมตร เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมือง รถคันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 3 สูบเทอร์โบชาร์จคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงถึง 374 แรงม้า ทั้งแรงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในสภาพการใช้งานจริง ระบบไฮบริดของ i8 ช่วยแก้ปัญหารถติดได้ดี โหมดไฟฟ้าใช้สำหรับเดินทางระยะสั้นในชีวิตประจำวัน ส่วนโหมดผสมเหมาะกับการเดินทางไกล การชาร์จไฟหากใช้ไฟบ้านจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงในการชาร์จเต็ม แต่ถ้าใช้โหมดชาร์จเร็วจะใช้เวลาเพียง 2.5 ชั่วโมง ข้อดีของรถปลั๊กอินไฮบริดคือนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานและลดมลพิษแล้ว ยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้งานถูกกว่ารถสปอร์ตทั่วไปมาก สำหรับคนที่อยากรักษ์โลกแต่ไม่อยากเสียสไตล์การขับขี่ i8 ถือเป็นตัวเลือกที่ดี แถมดีไซน์ประตูผีเสื้อและหน้าตาที่ดูล้ำยุคยังช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับเจ้าของอีกด้วย
ดูเพิ่มเติม