Q

ยาง Dcenti มาจากประเทศอะไร

ยาง Dcenti เป็นแบรนด์ยางที่มาจากประเทศจีน ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยราคาที่คุ้มค่าและการใช้งานได้หลากหลายสภาพถนน ทำให้ยางแบรนด์นี้ได้รับความสนใจในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ยาง Dcenti ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพในการทนความร้อนและการยึดเกาะถนนเมื่อ路面เปียก โดยเฉพาะซีรี่ย์ยางสำหรับรถ SUV และรถกระบะที่ออกแบบมาสำหรับถนนขรุขระและการเดินทางไกลซึ่งเป็นที่นิยมในไทย สำหรับผู้บริโภคไทย นอกจากแบรนด์และประเทศต้นทางแล้ว ควรให้ความสำคัญกับดัชนีน้ำหนักบรรทุก, ระดับความเร็ว และมาตรฐานรับรองเช่น มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย (TIS) เพราะปัจจัยเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎหมาย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยางแบรนด์จีนได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในด้านเทคโนโลยีส่วนผสมยางและดีไซйнดอกยาง ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานและลดเสียงรบกวน ขอแนะนำให้ซื้อผ่านช่องทางทางการเพื่อให้ได้ยางที่ออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศร้อนโดยเฉพาะ และควรตรวจสอบลมยางกับสภาพดอกยางเป็นประจำเพื่อยืดอายุการใช้งาน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

Q&A ล่าสุด

Q
"น้ำมันเครื่องใน Honda CR-V รุ่นปี 2022 มีจำนวนกี่ควอร์ต?"
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 มีความจุน้ำมันเครื่องประมาณ 4.4 ควอร์ต (หรือประมาณ 4.2 ลิตร) นี่คือปริมาณมาตรฐานเมื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรวมถึงตัวกรองน้ำมันเครื่องด้วย แต่ปริมาณอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับรุ่นเครื่องยนต์ แนะนำให้ตรวจสอบคู่มือเจ้าของรถเพื่อความแน่ชัด สำหรับสภาพอากาศร้อนแบบเมืองไทย ที่อุณหภูมิสูงๆ น้ำมันเครื่องอาจเสื่อมสภาพได้ง่ายขึ้น แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 0W-20 ที่ฮอนด้าแนะนำโดยเฉพาะ เพราะน้ำมันเครื่องเกรดนี้มีความเสถียรในอุณหภูมิสูง ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ดี การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยทั่วไปควรเปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน แต่ถ้าต้องขับบ่อยในสภาพรถติดหรือถนนสภาพแย่ อาจต้องเปลี่ยนบ่อยขึ้น นอกจากน้ำมันเครื่องแล้ว ควรตรวจสอบระดับของเหลวอื่นๆ เช่น น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค เป็นประจำ เพื่อให้รถอยู่ในสภาพดีที่สุด ถ้าจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเอง ต้องระวังเรื่องการทิ้งน้ำมันเครื่องเก่าให้ถูกต้อง โดยนำไปทิ้งที่จุดรับทิ้งเฉพาะทาง เพื่อไม่ให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
Q
วิธีรีเซ็ตการแจ้งเตือนอายุการใช้งานน้ำมันเครื่องใน Honda CR-V ปี 2022?
การรีเซ็ตการแจ้งเตือนอายุการใช้งานน้ำมันเครื่องสำหรับ Honda CR-V รุ่นปี 2022 ก่อนอื่นให้เปิดสวิตช์จุดระเบิดแต่ยังไม่ต้องสตาร์ทเครื่องยนต์ จากนั้นใช้ปุ่มควบคุมที่พวงมาลัยด้านขวาเข้าไปในเมนูหน้าปัด หัวข้อ "การตั้งค่ารถ" แล้วเลือก "อายุการใช้งานน้ำมันเครื่อง" กดค้างปุ่ม "รีเซ็ต" ประมาณ 10 วินาที จนกว่าจะแสดงค่า "100%" ก็เป็นอันเรียบร้อย แต่ต้องระวังนิดนึงว่ารุ่นรถที่มีสเปคต่างกันอาจมีเมนูไม่เหมือนกันบ้าง ถ้าเจอปัญหาลองดูในคู่มือเจ้าของรถหรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ดู การบำรุงรักษาสม่ำเสมอและการรีเซ็ตการแจ้งเตือนน้ำมันเครื่องทันเวลานี่สำคัญมากสำหรับการรักษาสมรรถนะของเครื่องยนต์ แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามที่ผู้ผลิตกำหนดคือทุก 5,000 กิโลเมตรหรือ 6 เดือน (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) แต่ถ้าอยู่ในสภาพอากาศร้อนแบบเมืองไทยที่มีฝุ่นเยอะ อาจทำให้สภาพน้ำมันเครื่องเสื่อมลงเร็วขึ้น ก็ควรเปลี่ยนบ่อยกว่านั้นหน่อย จะดีกว่า อีกเรื่องที่ควรรู้คือควรใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มสูตรที่ได้มาตรฐาน API SN หรือสูงกว่า จะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น หรือถ้าไม่มั่นใจบางร้านซ่อมก็มีเครื่องมือตรวจสอบสภาพน้ำมันเครื่องให้ดูเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเปลี่ยนได้เหมือนกัน
Q
น้ำมันเครื่องที่แนะนำสำหรับ Honda CRV ปี 2022 คืออะไร?
สำหรับรถฮอนด้า CR-V รุ่นปี 2022 แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มสูตรเกรด 0W-20 เพราะน้ำมันชนิดนี้เหมาะกับเครื่องยนต์เทอร์โบมากกว่า ช่วยป้องกันการสึกหรอขณะสตาร์ทเครื่องในอุณหภูมิต่ำและยังรักษาความเสถียรในสภาพความร้อนสูง แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีอีกด้วย โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบบ้านเรา น้ำมันสังเคราะห์เต็มสูตรจะช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันจากความร้อนสูง ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์และยืดอายุการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน API SP หรือ ILSAC GF-6 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ออกแบบมาสำหรับเครื่องยนต์ยุคใหม่โดยเฉพาะ ถ้าคุณขับบินในเมืองหรือขับทางสั้นบ่อยๆ อาจต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเร็วขึ้นเป็นทุก 5,000 กิโลเมตร เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเสมอ อย่างไรก็ตาม แม้น้ำมันเครื่องเกรด 0W-20 แต่ละยี่ห้อจะใช้สูตรสารเติมแต่งต่างกัน แต่ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจากผู้ผลิต ก็สามารถใช้งานได้อย่างแน่นอน อย่าลืมว่าการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองตามระยะเป็นสิ่งสำคัญมาก หากละเลยอาจทำให้เกิดคาร์บอนสะสมและสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นได้
Q
ตารางการบำรุงรักษาสำหรับ Honda CRV ปี 2022
สำหรับรถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 แนะนำให้ทำการบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนดทุก 6 เดือน หรือทุก 10,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) โดยเน้นบริการพื้นฐานเช่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง สลับยางรถยนต์ ตรวจสอบระบบเบรก เป็นต้น หากใช้งานในสภาพอากาศร้อนชื้น ควรตรวจสอบไส้กรองอากาศบ่อยขึ้นกว่าเดิม ส่วนไส้กรองแอร์ควรเปลี่ยนทุก 20,000 กิโลเมตร ส่วนสายพานและหัวเทียนแนะนำให้ตรวจสอบทุก 40,000 กิโลเมตร และควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 60,000 กิโลเมตรเพื่อรักษาประสิทธิภาพที่ดีที่สุด สำหรับรถที่ใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นบ่อยๆ ควรให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดเขม่าคาร์บอน อาจพิจารณาใช้น้ำยาบำรุงระบบเชื้อเพลิงของทางศูนย์ทุก 30,000 กิโลเมตร ส่วนรุ่นไฮบริด ต้องทำความสะอาดฟิลเตอร์ระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ทุก 15,000 กิโลเมตร และควรพารถไปตรวจสอบระบบไฟฟ้าแรงสูงที่ศูนย์บริการเป็นประจำ แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบลมยางและระดับน้ำหล่อเย็นด้วยตัวเองทุกเดือน ในช่วงฤดูฝนควรตรวจสอบความชื้นในน้ำมันเบรกเป็นพิเศษ หากขับรถในพื้นที่ที่มีฝุ่นหรือทรายมาก อาจจำเป็นต้องตรวจสอบไส้กรองอากาศบ่อยขึ้นเป็นทุก 5,000 กิโลเมตร การปรับรายละเอียดเหล่านี้สามารถปรับให้เข้ากับสภาพถนนในท้องถิ่นได้ดีขึ้น
Q
"รถ Honda CR-V ปี 2022 ต้องใช้น้ำมันเครื่องกี่ควอร์ต?"
รุ่น CR-V ปี 2022 จะมีความจุน้ำมันเครื่องแตกต่างกันไปตามประเภทของเครื่องยนต์ โดยเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T ส่วนใหญ่ต้องการน้ำมันเครื่องประมาณ 3.7-4.2 ควอร์ต (ประมาณ 3.5-4 ลิตร) แต่ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องจากก้านวัดให้แน่นอนที่สุด แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มสูตรความหนืด 0W-20 ที่ผู้ผลิตแนะนำเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบเมืองไทย ควรตรวจสอบสภาพน้ำมันเครื่องเป็นประจำ เพราะความร้อนสูงอาจทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน (เลือกตามระยะที่ถึงก่อน) และควรเลือกน้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน API SP หรือ ILSAC GF-6 เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะของเครื่องยนต์เทอร์โบแบบฉีดตรง หากใช้รถในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นหรือขับระยะสั้นบ่อยๆ อาจต้องลดระยะการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องลงเหลือ 8,000 กิโลเมตร และหากใช้งานหนักเป็นประจำ ควรตรวจสอบการสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องเพิ่มเติมด้วย เมื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่องควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องแบบเดิมของรถไปพร้อมกัน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบตรวจสอบสภาพน้ำมันเครื่องบนหน้าปัดถูกรีเซ็ตแล้ว สำหรับบางรุ่นที่ใช้วัดระดับน้ำมันเครื่องแบบอิเล็กทรอนิกส์ อาจต้องทำการปรับเทียบผ่านหน้าจอกลางของรถอีกครั้ง
ดูเพิ่มเติม