Q

Toyota Camry มีรุ่นย่อยอะไรบ้าง?

Toyota Camry ที่จำหน่ายในตลาดประเทศไทยมีรุ่นย่อยที่พบได้บ่อย ได้แก่ HEV Smart, HEV Premium และ HEV Premium Luxury
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Toyota Camry คืออะไร
Toyota Camry แม้จะเป็นรถยนต์ขนาดกลางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดประเทศไทย แต่ก็ยังมีข้อด้อยบางประการที่ควรพิจารณา ประการแรกคือด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะรุ่นพื้นฐานที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรแบบไม่มีระบบอัดอากาศ อาจให้กำลังที่ไม่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัดและอากาศร้อนของประเทศไทย การเร่งแซงหรือออกตัวอาจรู้สึกอืดเล็กน้อย ประการต่อมา ช่วงล่างของ Camry เน้นความนุ่มนวลเพื่อความสบายในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน จึงสามารถซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีบนถนนในเมือง แต่ในถนนต่างจังหวัดที่มีพื้นผิวไม่เรียบหรือขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง อาจรู้สึกถึงการโคลงของตัวถังมากกว่ารถบางรุ่นในระดับเดียวกัน อีกทั้งการออกแบบภายในแม้จะใช้งานง่ายแต่ในรุ่นกลางและรุ่นล่าง หน้าจออินโฟเทนเมนต์ยังมีขนาดเล็กและฟังก์ชันไม่หลากหลาย ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยที่ต้องการความล้ำสมัยด้านเทคโนโลยี สำหรับรุ่นไฮบริดแม้จะประหยัดน้ำมันได้ดีแต่มีราคาสูงกว่าและค่าดูแลรักษาแพงกว่าเครื่องยนต์ปกติจึงทำให้บางกลุ่มลังเล อย่างไรก็ตาม จุดแข็งของ Camry อยู่ที่ความทนทาน ความน่าเชื่อถือ และมูลค่าขายต่อที่ดี จึงยังเหมาะกับผู้ใช้ชาวไทยที่เน้นการใช้งานระยะยาว แต่หากให้ความสำคัญกับสมรรถนะหรือเทคโนโลยีล้ำสมัย อาจต้องพิจารณารุ่นอื่นในระดับเดียวกันเป็นอีกทางเลือก
Q
Toyota Camry อยู่ใน Segment ไหน
Toyota Camry ในตลาดประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลางระดับ D-Segment ซึ่งในไทยมักเรียกกันว่า Executive Sedan โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้ใช้ในครอบครัวระดับกลางถึงสูงและกลุ่มนักธุรกิจ คู่แข่งหลักในตลาดได้แก่ Honda Accord และ Mazda6 Camry มีตัวเลือกเครื่องยนต์ 3 แบบ ได้แก่ เบนซิน 2.0 ลิตร 2.5 ลิตร และไฮบริด 2.5 ลิตร ซึ่งรุ่นไฮบริดได้รับความนิยมเป็นพิเศษเนื่องจากรัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีให้กับรถยนต์ประหยัดพลังงาน ภายใต้สภาพอากาศร้อนของไทย Camry มาพร้อมระบบแอร์ที่เย็นเร็วและฟังก์ชันระบายอากาศที่เบาะนั่งซึ่งตอบโจทย์การใช้งานจริง อีกทั้งพื้นที่เบาะหลังที่กว้างขวางเหมาะกับครอบครัวไทยที่นิยมเดินทางพร้อมกันหลายคน อีกหนึ่งจุดเด่นคือ Camry ที่วางจำหน่ายในไทยเป็นรุ่นประกอบในประเทศจึงมีราคาที่สามารถแข่งขันได้มากกว่ารุ่นนำเข้าและเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Camry ได้รับความนิยมในกลุ่มรถราชการหรือรถสำหรับองค์กร
Q
มูลค่าการขายต่อของ Toyota Camry คืออะไร
Toyota Camry ในตลาดรถมือสองของประเทศไทยมีอัตราการคงมูลค่าที่ดีมาก โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดและรุ่นกลางถึงสูงที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากแบรนด์ Toyota มีความน่าเชื่อถือและเครือข่ายการบริการหลังการขายที่ครอบคลุม โดยทั่วไปรถ Camry อายุ 3 ปี สามารถรักษามูลค่าได้ประมาณ 60-70% และอายุ 5 ปี อยู่ที่ประมาณ 50% โดยขึ้นอยู่กับสภาพรถ กิโลเมตร และอุปกรณ์เสริม ผู้บริโภคไทยนิยมรถที่ประหยัดน้ำมันและทนทาน จึงทำให้รุ่นไฮบริดได้รับความนิยมมากกว่า มีมูลค่าคงเหลือสูงกว่ารุ่นเบนซินประมาณ 5-10% ตลาดรถมือสองในไทยให้ความสำคัญกับประวัติการบำรุงรักษา การมีประวัติซ่อมบำรุงจากศูนย์บริการ 4S อย่างครบถ้วนช่วยเพิ่มมูลค่าขายต่อได้อย่างมาก นอกจากนี้ Camry ที่ผลิตในไทยมีอะไหล่เพียงพอและราคาสมเหตุสมผลซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษามูลค่า หากต้องการถือครองระยะยาวหรือขายต่อ ควรเลือกสีที่ได้รับความนิยมเช่นสีขาวหรือสีเงิน และเก็บรักษาใบเสร็จการซ่อมบำรุงไว้ให้ครบถ้วน รายละเอียดเหล่านี้มีผลต่อราคาประเมินในตลาดมือสองอย่างมาก เมื่อเทียบกับ Honda Accord หรือ Mazda6 ในระดับเดียวกัน Camry มีความต้องการและความคล่องตัวในการขายต่อที่สูงกว่าโดยเฉพาะในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ แต่ในพื้นที่ชายฝั่งภาคใต้ที่มีความชื้นสูง อาจมีปัญหาเรื่องสนิมซึ่งอาจลดมูลค่ารถลงบ้างเล็กน้อย
Q
Toyota Camry มีกี่ซีซี
Toyota Camry ในตลาดประเทศไทยมีขนาดเครื่องยนต์แตกต่างกันตามรุ่นและปีผลิต โดยรุ่นที่พบได้บ่อยจะใช้เครื่องยนต์แบบดูดอากาศธรรมชาติขนาด 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร ซึ่งมีปริมาตรกระบอกสูบอยู่ที่ 1987CC และ 2494 CC ตามลำดับ ส่วนรุ่นไฮบริดจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ในประเทศไทย เนื่องจากนโยบายภาษีที่สนับสนุนรถยนต์เครื่องยนต์ขนาดเล็ก รุ่น 2.0 ลิตรจึงได้รับความนิยมมากกว่า แต่รุ่น 2.5 ลิตรให้พละกำลังที่สูงกว่า เหมาะสำหรับผู้ขับที่ต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น เครื่องยนต์ของ Camry เน้นความประหยัดน้ำมันและความทนทาน เหมาะสมกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทยและการขับขี่ระยะไกล ปริมาตรกระบอกสูบ (CC) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดขนาดเครื่องยนต์ แต่ประสิทธิภาพจริงขึ้นอยู่กับกำลังแรงม้าและแรงบิดด้วย ผู้บริโภคในไทยยังให้ความสนใจกับเทคโนโลยีไฮบริดอัจฉริยะของ Toyota ซึ่งมีจุดเด่นด้านการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลไทยที่ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด
Q
เครื่องยนต์ใน Toyota Camry คืออะไร
Toyota Camry ในตลาดประเทศไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์หลักสองรุ่นคือ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติ รหัส M20A-FKS และเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติ รหัส A25A-FKS ทั้งสองรุ่นใช้เทคโนโลยี Dynamic Force ล่าสุดของ Toyota เน้นการประหยัดน้ำมันและสมดุลของพละกำลัง เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรมีแรงม้าสูงสุดประมาณ 173 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรให้แรงม้าประมาณ 207 แรงม้า โดยจับคู่กับเกียร์ CVT สำหรับรุ่น 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด สำหรับรุ่น 2.5 ลิตร ให้ประสบการณ์ขับขี่ที่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทยและการขับขี่ระยะไกล นอกจากนี้ Camry ยังมีรุ่นไฮบริด 2.5 ลิตร ที่ผสมผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ เพื่อลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน ระบบระบายความร้อนของ Camry ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย Toyota มีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมในไทย ทำให้การบำรุงรักษาและซ่อมแซมสะดวกสบาย สำหรับผู้ที่มีงบประมาณเพียงพอ รุ่นไฮบริดถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาลไทยและช่วยประหยัดน้ำมันในระยะยาว
Q
ประเภทเกียร์ของ Toyota Camry คืออะไร
ประเภทเกียร์ที่ Toyota Camry มีจำหน่ายในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและระบบขับเคลื่อน รุ่นเครื่องยนต์เบนซินมักจะติดตั้งเกียร์ CVT ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งกับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่มีการหยุดและเคลื่อนที่บ่อย ๆ ส่วนรุ่นไฮบริดจะใช้ระบบเกียร์ E-CVT แบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ Toyota ได้พัฒนามาอย่างครบถ้วน ช่วยประสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันอย่างมาก เกียร์ทั้งสองแบบนี้ได้รับการปรับจูนเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ทั้งในเรื่องการระบายความร้อนและความทนทาน ที่น่าสนใจคือ ผู้บริโภคในไทยให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือและค่าบำรุงรักษาของรถยนต์เป็นพิเศษ การออกแบบเกียร์ของ Camry จึงคำนึงถึงจุดนี้ โดยมีระยะเวลาการบำรุงรักษาที่เหมาะสมกับสภาพถนนในประเทศ และมีเครือข่ายการจัดหาชิ้นส่วนที่ครอบคลุม นอกจากนี้ ด้วยความต้องการรถยนต์ไฮบริดที่เพิ่มขึ้นในตลาดไทย รุ่นที่ใช้ระบบ E-CVT จึงได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากเหมาะกับสภาพการจราจรที่แออัด แนะนำให้เลือกประเภทเกียร์ตามเส้นทางการขับขี่ประจำวันของคุณเพื่อให้เหมาะสมที่สุด
Q
PCD ของ Toyota Camry คืออะไร
ขนาด PCD (Pitch Circle Diameter) ของ Toyota Camry โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 5×114.3 มิลลิเมตร หมายความว่าล้อแม็กมีรูน็อต 5 รู โดยรูเหล่านี้จะกระจายอยู่บนวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มิลลิเมตร ขนาดนี้เหมาะกับรถ Camry ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในตลาดไทย ในประเทศไทย เจ้าของรถหลายคนชอบแต่งล้อแม็กเพื่อเพิ่มความสวยงามหรือสมรรถนะของรถ ดังนั้นการตรวจสอบขนาด PCD ให้ตรงกับล้อแม็กใหม่จึงสำคัญมาก หากไม่ตรงกันอาจทำให้ติดตั้งไม่มั่นคงหรือมีปัญหาด้านความปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้ เนื่องจากภูมิอากาศในไทยที่ร้อนและชื้น แนะนำให้เลือกวัสดุล้อแม็กลักษณะน้ำหนักเบาและระบายความร้อนได้ดี เช่น อะลูมิเนียมอัลลอย เพื่อรองรับสภาพแวดล้อมดังกล่าว หากไม่แน่ใจขนาด PCD ของ Camry รุ่นของตัวเอง สามารถตรวจสอบได้จากคู่มือรถ หรือวัดจากรูน็อตล้อโดยตรง หรือสอบถามจากตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าในพื้นที่ หรือร้านแต่งรถมืออาชีพที่จะให้คำแนะนำและบริการที่ถูกต้อง การรู้ขนาด PCD จะช่วยให้การเปลี่ยนล้อแม็กและเลือกยางเป็นไปอย่างเหมาะสม ปลอดภัย และนั่งสบายยิ่งขึ้นค่ะ
Q
Toyota Camry มี Apple Carplay หรือไม่
ใช่ครับ โตโยต้า คัมรี่ บางรุ่นที่จำหน่ายในตลาดไทยรองรับฟังก์ชัน Apple CarPlay ซึ่งขึ้นอยู่กับปีและรุ่นของรถยนต์ เช่น รุ่นท็อปตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมามักจะติดตั้ง Apple CarPlay เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานฟีเจอร์นำทาง เพลง และโทรศัพท์ผ่านหน้าจอรถได้อย่างสะดวก แต่บางรุ่นล่างหรือปีเก่ากว่าอาจไม่มีฟังก์ชันนี้ จึงแนะนำให้ตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าในไทยก่อนซื้อ ฟังก์ชัน Apple CarPlay เหมาะมากสำหรับการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ เพราะช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้งานแผนที่และรับสายโทรศัพท์ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ โตโยต้ายังมีฟังก์ชันเชื่อมต่ออื่น ๆ เช่น Android Auto และระบบนำทางที่รองรับการใช้งานในไทย รวมถึงบริการ T-Connect ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายในรถ เหมาะสำหรับผู้ใช้ในไทยที่ต้องการความสะดวกทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลครับ
Q
ยางรถยนต์ของ Toyota Camry คือยี่ห้ออะไร
โตโยต้า คัมรี่ ในตลาดไทยมักติดตั้งยางจากหลายแบรนด์ ขึ้นอยู่กับรุ่นและปีผลิต แบรนด์ที่พบบ่อยได้แก่ บริดจ์สโตน (Bridgestone) ดันลอป (Dunlop) และมิชลิน (Michelin) ซึ่งแบรนด์เหล่านี้มีความน่าเชื่อถือสูงและเครือข่ายบริการหลังการขายดี เช่น บริดจ์สโตนรุ่น Turanza เน้นความนุ่มนวลและลดเสียงรบกวน เหมาะกับรถยนต์ระดับกลางถึงสูงอย่างคัมรี่ ขณะที่มิชลินรุ่น Primacy โดดเด่นเรื่องความทนทานและสมรรถนะบนถนนเปียก เหมาะกับสภาพอากาศฝนตกบ่อยในไทย นอกจากนี้ ผู้ใช้ในไทยควรพิจารณาสภาพถนนในท้องถิ่น หากขับขี่ในเมืองบ่อยควรเลือกยางที่เน้นความสบาย แต่หากเดินทางไกลหรือต่างจังหวัดบ่อย ควรเลือกยางที่ทนทานต่อการสึกหรอ แนะนำให้ตรวจสอบสภาพยางและแรงดันลมยางเป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งาน และที่ร้านยางหลายแห่งในไทยมักมีบริการตรวจเช็คและเปลี่ยนยางฟรี ทำให้สะดวกต่อการดูแลรักษารถยนต์มากขึ้น
Q
โตโยต้า แคมรี่ เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
โตโยต้า คัมรี่ เป็นรถยนต์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดไทย มีจุดเด่นคือคุณภาพที่น่าเชื่อถือ ความสบายในการขับขี่ และค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูง เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและถนนที่ซับซ้อนในไทย ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันดี โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมันในเมืองที่รถติดอย่างกรุงเทพฯ ภายในกว้างขวาง เหมาะกับการใช้งานแบบครอบครัว อีกทั้งโตโยต้ามีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม อะไหล่มีพร้อม และการซ่อมบำรุงสะดวก อย่างไรก็ตาม คัมรี่มีดีไซน์ที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ขาดความทันสมัยที่วัยรุ่นบางกลุ่มชื่นชอบ และราคาสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน แม้จะมีอัตราการเก็บมูลค่าที่ดีในตลาดรถมือสอง แต่ส่วนลดสำหรับรถใหม่ค่อนข้างน้อย สำหรับผู้บริโภคในไทยที่เน้นความมั่นคงและต้นทุนการใช้ระยะยาว คัมรี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าต้องการความทันสมัยหรืองบประมาณจำกัด อาจพิจารณาฮอนด้า แอคคอร์ด หรือมาสด้า 6 ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ก็ได้รับเสียงตอบรับดีในตลาดไทย โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดของแอคคอร์ดที่ประหยัดน้ำมัน และมาสด้า 6 ที่เน้นการขับขี่สนุกและดีไซน์สวย แนะนำให้ไปทดลองขับที่โชว์รูมก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเพื่อให้ตรงกับความต้องการส่วนตัวมากที่สุด

ข้อดี

ภายในรถกว้างขวางและสบาย
เครื่องยนต์เชื่อถือได้และประหยัดน้ำมันมี 3 รุ่นของเครื่องยนต์ที่สามารถเลือก ตามราคา รุ่นเริ่มต้นคือเครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 สูบ 2.0 ลิตร ด้านกลางคือเครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 สูบ 2.5 ลิตร และฉบับเต็มรูปแบบคือ 2.5 ลิตร Dynamic Force Hybrid THS II ระบบกำลังผสมผสาน
รถรุ่นท็อปมีการกำหนดค่าความปลอดภัยที่อุดมสมบูรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน มีถุงลมนิรภัย 9 อันและมีระบบความปลอดภัยมากมาย เช่น LDA ที่ช่วยสนับสนุนการเลี้ยวที่อัตโนมัติ มันเป็นผู้นำในระดับเดียวกัน
ค่าซากเลิกสูง ง่ายต่อการซื้อและขาย ราคามือสองเสถียร ยังคงมีความต้องการ

ข้อเสีย

การออกแบบภายในเริ่มดูเก่าแก่
เครื่องยนต์น้ำมันเบนซินขาดแสงไฟการออกแบบผลิตภัณฑ์ระดับเริ่มต้นมีการสระ น้ำเช่น จำหน่ายล้ออลูมิเนียมขนาด 16 นิ้ว, ไม่มีกีบเปลี่ยนเกียร์บนวงเวียน, ขาดระบบกรองอากาศ, ไม่มีหลังคาสไลด์ทั้งหมด, ไม่มีระบบที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้การออกแบบภายนอกอาจไม่พอใจกับกลุ่มคนง่อนสาว การออกแบบอาจควรสะดุดตากว่าให้กับกลุ่มสาว แต่ในที่สุดคนที่ชอบลุคหรูหราอย่างง่ายอาจมองหา Honda Accord ที่มีลักษณะภายในและภายนอกที่ทันสมัยและมีความรู้สึกที่สูงขึ้น

Q&A ล่าสุด

Q
ราคาภาษีรถยนต์ของ Toyota Fortuner คือเท่าไหร่? วิธีการคำนวณอย่างไร?
ในประเทศไทย ค่าภาษีรถยนต์ (Road Tax) ของโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์จะคำนวณตามขนาดเครื่องยนต์และประเภทของรถ โดยกรมการขนส่งทางบก (DLT) เป็นผู้กำหนดอัตราค่าภาษี สำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน รถที่มีขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,800cc จะเสียภาษีปีละประมาณ 1,500 บาท ส่วนรถขนาด 1,800cc ถึง 2,000cc จะเสียภาษีประมาณ 2,000 บาท ส่วนรุ่นฟอร์จูนเนอร์ที่ใช้เครื่องเบนซิน 2.7L (2,700cc) จะเสียภาษีปีละประมาณ 6,000 บาท สำหรับรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลมักจะเสียภาษีสูงกว่าเล็กน้อย เช่น รถเครื่อง 2.4L จะเสียภาษีประมาณ 7,000 บาทต่อปี ส่วนเครื่อง 3.0L จะเสียภาษีประมาณ 10,000 บาทต่อปี วิธีการคำนวณจะอ้างอิงตามตารางขนาดเครื่องยนต์ที่ทางราชการกำหนดไว้ เจ้าของรถสามารถตรวจสอบจำนวนเงินที่ต้องชำระได้ผ่านเว็บไซต์ของ DLT หรือที่สำนักงานขนส่งในพื้นที่ ควรระวังว่าภาษีรถยนต์ต้องชำระทุกปี หากชำระล่าช้าอาจถูกปรับ นอกจากนี้รัฐบาลไทยอาจมีการปรับอัตราภาษีตามนโยบายสิ่งแวดล้อมเป็นครั้งคราว เช่น ให้ส่วนลดสำหรับรถที่ผ่านมาตรฐาน Euro 5 ดังนั้นเจ้าของรถควรติดตามข่าวสารล่าสุดอยู่เสมอ นอกเหนือจากภาษีรถยนต์แล้ว รถยังต้องทำประกันภาคบังคับ (พรบ.) ซึ่งมีค่าบริการประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อปี โดยปกติแล้วจะดำเนินการพร้อมกันกับการชำระภาษีรถยนต์ การเข้าใจค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของรถสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม และมั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานรถได้อย่างถูกกฎหมาย
Q
ความกว้างของ Toyota Fortuner คือเท่าไหร่
รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มีความกว้างตัวรถ 1,855 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่กว้างพอสมควรสำหรับ SUV ระดับกลางอย่างนี้ ความกว้างแบบนี้ทำให้มีพื้นที่ภายในรถโดยเฉพาะบริเวณช่วงสะโพกที่กว้างขวาง ช่วยเพิ่มความสบายให้กับผู้โดยสารได้ดีเลย โดยเฉพาะรุ่น 7 ที่นั่ง ที่แม้แต่แถวหลังก็ยังนั่งได้สบายไม่เบียด เหมาะกับการเดินทางไกลหรือใช้ในชีวิตประจำวันมาก นอกจากนี้ ความกว้างตัวรถที่พอดียังช่วยให้การควบคุมรถมีความสมดุล เบาะรถมั่นคงกว่าเวลาเข้าโค้งหรือเจอถนนหลากหลายสภาพ ก็ยังขับได้ลื่นไหลไม่สะดุด
Q
รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
Toyota Fortuner เป็นรถ SUV ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดประเทศไทย จุดเด่นของรุ่นนี้คือสมรรถนะในการลุยทางวิบากที่แข็งแกร่ง ความทนทานที่เชื่อถือได้ และการออกแบบตัวรถที่มีความสูงจากพื้นมาก เหมาะกับสภาพถนนที่หลากหลายในประเทศไทย ตัวรถมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.8 ลิตรที่ให้พละกำลังดีและประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับการขับทางไกลหรือการเดินทางแบบครอบครัว ภายในห้องโดยสารออกแบบมาให้ใช้งานได้จริงและกว้างขวาง โดยเฉพาะเบาะแถวที่สามที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน นอกจากนี้ Toyota ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้การซ่อมบำรุงสะดวกสบาย อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของ Fortuner คือระบบช่วงล่างที่ค่อนข้างแข็ง อาจทำให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ในเมืองลดลง และขนาดตัวรถที่ใหญ่ ทำให้จอดในพื้นที่แคบไม่สะดวกนัก สำหรับผู้บริโภคชาวไทย หากต้องขับผ่านถนนต่างจังหวัดหรือภูเขาเป็นประจำ Fortuner ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าใช้งานหลักในเมือง อาจต้องพิจารณาเรื่องความสบายและความคล่องตัวประกอบด้วย ปัจจุบันในตลาดยังมีรถรุ่นอื่นที่ใกล้เคียงให้เปรียบเทียบ แนะนำให้ทดลองขับก่อนตัดสินใจซื้อ และอย่าลืมดูแลรักษารถให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกชุกของไทย โดยเฉพาะระบบแอร์และการกันสนิมใต้ท้องรถซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการยืดอายุการใช้งานของรถ
Q
ราคาขายต่อของ Toyota Fortuner คือเท่าไหร่?
รถโฟร์จูนเนอร์ของโตโยต้าในตลาดมือสองของไทยมีอัตราการรักษามูลค่าได้ดีมาก สาเหตุหลักมาจากความนิยมสูงในท้องถิ่น ความทนทานที่เชื่อถือได้ และภาพลักษณ์แบรนด์ที่แข็งแกร่ง ในฐานะหนึ่งในรถ SUV ระดับกลางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไทย โฟร์จูนเนอร์ครองตำแหน่งผู้นำในตลาดย่อยมาอย่างยาวนานด้วยเครื่องยนต์ดีเซลที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อน ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเหมาะสำหรับครอบครัว และสมรรถนะออฟโรดที่ยอดเยี่ยม โดยทั่วไปแล้ว โฟร์จูนเนอร์ที่ใช้งานมาแล้ว 3 ปียังสามารถรักษามูลค่าได้ประมาณ 65%-70% ของราคาเดิม ส่วนรถอายุ 5 ปีก็ยังรักษามูลค่าได้เกิน 50% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งหลายรุ่นในระดับเดียวกัน สิ่งที่น่าสนใจคือรุ่นและอุปกรณ์ที่ต่างกันจะส่งผลต่ออัตราการรักษามูลค่า เช่น รุ่น GR Sport หรือรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมักจะรักษามูลค่าได้ดีกว่ารุ่นพื้นฐาน นอกจากนี้ การเข้าศูนย์บริการโตโยต้าอย่างสม่ำเสมอ การมีประวัติการซ่อมบำรุงครบถ้วน และรถที่ใช้งานมียอดไมล์ต่ำ จะได้ราคาที่ดีกว่าในตลาดมือสอง สำหรับผู้บริโภคไทยแล้ว อัตราการรักษามูลค่าที่สูงของโฟร์จูนเนอร์ยังเกี่ยวข้องกับความต้องการในตลาดที่มั่นคงและระบบจัดชิ้นส่วนที่ครบวงจร ทำให้มันเป็นตัวเลือกแรกๆ ของหลายครอบครัวเมื่อต้องการเปลี่ยนรถ
Q
Toyota Fortuner มีขนาดเครื่องยนต์กี่ซีซี?
รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์มีเครื่องยนต์หลายแบบให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้ โดยแต่ละรุ่นจะมีขนาดเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน บางรุ่นใช้เครื่องยนต์ขนาด 2,393 ซีซี เช่น รุ่น Toyota Fortuner 2.4 Leader S 6AT 2024 และ Toyota Fortuner 2.4 Leader G 6AT 4x2 2023 ซึ่งเป็นรุ่นในซีรีส์ 2.4 ส่วนรุ่นอื่นๆ จะใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ขึ้นที่ 2,755 ซีซี เช่น Toyota Fortuner 2.8 GR Sport 6AT 4×4 2024 และ Toyota Fortuner 2.8 Legender 6AT 4x2 2023 ในซีรีส์ 2.8 เครื่องยนต์แต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกัน รุ่นขนาดเล็กช่วยประหยัดน้ำมันกว่า ในขณะที่รุ่นใหญ่จะให้กำลังสูงกว่า เหมาะสำหรับคนที่ชอบความแรงและสมรรถนะ
ดูเพิ่มเติม