Ferrariเปิดตัว 296 Speciale ซูเปอร์คาร์ปลั๊กอินไฮบริด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 2.8 วิ

พงศธรApr 30, 2025, 02:26 PM

【PCauto】เมื่อเร็ว ๆ นี้ Ferrari ได้เปิดตัว 296 Speciale และรุ่นเปิดประทุนอย่างเป็นทางการ โดยทั้งสองรุ่นพัฒนาต่อยอดจาก Ferrari 296 ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญของสายผลิตภัณฑ์ปลั๊กอินไฮบริด ก่อนที่ Ferrari จะก้าวเข้าสู่ยุคไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

ตามคำกล่าวของนาย Enrico Galliera ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและพาณิชย์ของ Ferrari ระบุว่า 296 Speciale ได้รับการปรับปรุงทั้งด้านน้ำหนัก สมรรถนะของเครื่องยนต์ รวมถึงอากาศพลศาสตร์ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่และความสนุกในการควบคุมที่เหนือยิ่งขึ้น

เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า: “นี่ไม่ใช่รถที่ออกแบบมาเพื่อเจาะกลุ่มตลาดทั่วไป และเราก็ไม่ได้ตั้งใจใช้รุ่นนี้เพื่อขยายฐานลูกค้า แต่มันถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับลูกค้าผู้ภักดีที่คุ้นเคยกับแบรนด์ Ferrari และหลงใหลในสุดยอดประสบการณ์การขับขี่”

ในด้านการออกแบบภายนอก 296 Speciale มาพร้อมกับด้านหน้ารถที่เตี้ยและกว้าง เสริมด้วยชุดแอโรไดนามิกใหม่ทั้งหมด ที่ด้านหน้าทั้งสองฝั่งมีการติดตั้งครีบคาร์บอนไฟเบอร์ใหม่ ช่วยเพิ่มความดุดันและความเป็นรถสายสนามอย่างชัดเจน

ชุดไฟหน้ายังคงใช้ดีไซน์เดียวกับรุ่นมาตรฐานของ 296 ส่วนด้านล่างของกันชนหน้ามีช่องดักลมแนวนอนขนาดใหญ่แบบเต็มความกว้างของตัวรถ เพิ่มความดุดันและช่วยระบายอากาศได้ดีขึ้น บนฝากระโปรงหน้ามีการเพิ่มลวดลายแถบคู่สีขาวแบบรถแข่ง พร้อมช่องระบายอากาศ ซึ่งช่วยในเรื่องการระบายความร้อนของระบบเครื่องยนต์ รถรุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมสปริงไทเทเนียมแบบแข็งพิเศษ และโช้กอัปแบบ Multimatic พร้อมปรับลดความสูงของช่วงล่างลง 5 มิลลิเมตร

ที่ด้านข้างตัวรถ บริเวณใต้ประตูมีช่องรีดอากาศแบบใหม่ พร้อมเปลี่ยนเป็นล้ออัลลอยด์หลายก้านดีไซน์ใหม่ โดยยังคงติดตั้งจานเบรกขนาดใหญ่ภายในเหมือนเดิม

ส่วนท้ายของรถยังคงใช้ท่อไอเสียในตำแหน่งกลาง แต่ได้ปรับแต่งรูปทรง ที่เหนือไฟท้ายมีเสาอากาศสองชิ้น ที่ด้านล่างเป็นเท่ห์อันปราดเปรื่องขนาดใหญ่ที่กว้างขวาง

สำหรับภายใน แดชบอร์ดของ 296 Speciale หันไปทางด้านคนขับหน่อย ไม่เหมือนกับบางคันในปัจจุบันที่ใช้พลังงานงานใหม่ แต่ใช้ชุดหน้าปัดดิจิทัลเต็มรูปแบบควบคู่กับหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า

เบาะนั่งเป็นบัคเก็ตซีทคาร์บอนไฟเบอร์สไตล์รถแข่ง มาคู่กับเข็มขัดนิรภัยแบบ 4 จุด พนักพิงด้านข้างยกสูง ให้การพยุงแรงด้านข้างได้อย่างเพียงพอ ตอบโจทย์การขับขี่แบบดุดัน

ในด้านขุมพลัง 296 Speciale ยังคงใช้ระบบปลั๊กอินไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า แต่ได้รับการปรับจูนให้มีสมรรถนะสูงขึ้น ตัวเครื่องยนต์ V6 ใช้ก้านสูบไทเทเนียม ข้อเหวี่ยงและชุดเทอร์โบมีน้ำหนักเบาลง ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าก็ได้รับการอัปเกรดเช่นกัน ส่งผลให้พละกำลังรวมเพิ่มขึ้นเป็น 880 แรงม้า

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่แบบเปียก 8 สปีด สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 2.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 335 กม./ชม.

ในด้านอากาศพลศาสตร์ รถรุ่นใหม่นี้ได้นำเทคโนโลยี “แอร์โรแดมเปอร์” มาใช้ โดยออกแบบให้กระแสลมไหลจากด้านหน้าลงใต้ท้องรถ แล้วพุ่งขึ้นผ่านฝากระโปรงและเหนือกระจกบังลมหน้า ช่วยเพิ่มความเสถียรของรถในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง

บริเวณด้านหน้ามีช่องระบายแรงดันอากาศ ขณะที่ด้านท้ายติดตั้งโครงสร้างรูปทรงคล้ายปีกค้างคาว ซึ่งช่วยจัดการการไหลเวียนของอากาศบริเวณล้อหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกับระบบสปอยเลอร์แบบแอคทีฟ เพื่อเสริมสมรรถนะด้านแอร์โรไดนามิกให้สูงที่สุด

เพื่อการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ 296 Speciale ได้เลือกใช้วัสดุน้ำหนักเบาหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นล้อคาร์บอนไฟเบอร์ กันชน และฝากระโปรงหน้าที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ รวมถึงสปริงช่วงล่างและระบบไอเสียที่ผลิตจากไทเทเนียม นอกจากนี้ยังมีการลดน้ำหนักของเสื้อสูบเครื่องยนต์และห้องข้อเหวี่ยง พร้อมทั้งลดน้ำหนักของชุดเทอร์โบลงอีก 1.2 กิโลกรัม ส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักรวมเพียง 1,410 กิโลกรัมเท่านั้น

ในด้านการส่งมอบ Ferrari 296 Speciale รุ่นหลังคาแข็งมีกำหนดเริ่มส่งมอบในช่วงไตรมาสแรกของปี 2026 ส่วนรุ่นเปิดประทุนจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่สองของปีเดียวกัน

สำหรับราคาจำหน่ายในตลาดอิตาลี 296 Speciale รุ่นหลังคาแข็งมีราคาอยู่ที่ 407,000 ยูโร (ประมาณ 15,420,184 บาท) ขณะที่รุ่นเปิดประทุนมีราคาสูงขึ้นเป็น 462,000 ยูโร (ประมาณ 17,515,344 บาท) ซึ่งอยู่ในช่วงระดับราคากลางถึงสูงของไลน์อัป Ferrari

# ข้อมูลรถใหม่

คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์

ติดตามเรา

You Tube Facebook Google News

ข้อมูลยอดนิยม

นี่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังมากที่สุดของ Toyota เท่าที่เคยมีมา โดยจะเปิดตัวในยุโรปเป็นที่แรกในปีหน้า

นี่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังมากที่สุดของ Toyota เท่าที่เคยมีมา โดยจะเปิดตัวในยุโรปเป็นที่แรกในปีหน้า

【PCauto】bZ4X Touring มีแผนวางจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026 โดยเป็นรุ่นต่อยอดจาก bZ4X เวอร์ชันมาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการบรรทุกและการใช้งานแบบออฟโรดได้ดีขึ้น พร้อมกำลังรวมสูงสุด 280 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นระดับกำลังที่สูงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota จนถึงขณะนี้ bZ4X Touring มีขนาดตัวถังและพื้นที่ภายในที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในฐานะรุ่นแฝดของ Subaru Trailseeker รถรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA เช่นเดียวกัน แต่ได้รับการขยายมิติตัวรถเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

ณัฐวุฒิJun 9, 2025
iCar V23 กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ราคาจะต่ำกว่า Jaecoo 6 EV

iCar V23 กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ราคาจะต่ำกว่า Jaecoo 6 EV

【PCauto】มีรายงานว่า หลังจากการเปิดตัว Jaecoo 6 EV แล้ว iCar V23 จาก Chery อาจเตรียมทำตลาดในประเทศไทยเช่นกัน โดย iCar V23 และ iCar 03 (หรือ Jaecoo 6 EV) ได้รับความสนใจอย่างมากจากดีไซน์ภายนอกที่ดูล้ำอนาคต จนมีข่าวลือว่าทีมออกแบบของรถทั้งสองรุ่นนี้ อาจเป็นทีมเดียวกับ Redmi แบรนด์ลูกของ Xiaomi สำหรับ iCar V23 มาพร้อมสไตล์การออกแบบทรงเหลี่ยมและดูแข็งแกร่ง ด้วยดีไซน์สไตล์ออฟโรดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้รุ่นนี้ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาความแตกต่างและสมรรถนะในการลุยเส้นทางทุรกันดารได้เป็นอย่างดี

สุรเดชMay 7, 2025
หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน

หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน

【PCauto】หลังจาก Tank 300 รุ่นดีเซลประสบความสำเร็จเกินคาด GWM วางแผนนำ Tank 500 รุ่นดีเซลเข้าสู่ตลาดไทยในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 รถเอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่มาพร้อมขุมพลังดีเซล 24 เทอร์โบรุ่นนี้จะผลิตในประเทศที่โรงงานจังหวัดระยอง ราคาคาดการณ์ราวสองล้านบาท เจาะตลาดเดียวกับ Toyota Fortuner และ Isuzu MU X ซึ่งเป็นเอสยูวีดีเซลยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สุรเดชJun 12, 2025
Toyota ประกาศเปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ ครั้งแรกที่เพิ่มระดับ GR SPORT

Toyota ประกาศเปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ ครั้งแรกที่เพิ่มระดับ GR SPORT

【PCauto】Toyota เปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ในยุโรปโดยยังคงเอกลักษณ์เดิมพร้อมปรับดีไซน์ภายนอกและภายในเล็กน้อย ด้านรูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าทรงรังผึ้งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและส่งเสริมการไหลเวียนอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นระดับสูงมาพร้อมเทคโนโลยีไฟสูงอัตโนมัติแบบปรับอัจฉริยะ AHS เพื่อให้มุมมองการขับขี่ชัดเจนในทุกสภาพถนน ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่โดดเด่นด้วยแถบไฟ LED ภายในโคมที่ให้แสงสว่างสม่ำเสมอทั่วทั้งพื้นที่เพิ่มความทันสมัยและภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม

AshleyMay 8, 2025
สรุปยอดจองรถมาแรงในงานมอเตอร์โชว์ 2025 รุ่นไหนฮอตที่สุด!

สรุปยอดจองรถมาแรงในงานมอเตอร์โชว์ 2025 รุ่นไหนฮอตที่สุด!

สรุปยอดจองรถมาแรงในงานมอเตอร์โชว์ 2025 รุ่นไหนฮอตที่สุด! จบกันไปแล้วสำหรับงาน Bangkok

ณัฐวุฒิApr 22, 2025
ดูเพิ่มเติม