การผ่อนชำระค่างวดล่าสุดของ MG 4 ซึ่งน่าจะเป็น C-Segment SUV ที่มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด

ณัฐวุฒิOct 30, 2025, 03:19 PM

 ตารางผ่อนชำระ MG 4 แบบรูปภาพ

MG 4 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบแฮทช์แบคขนาดกะทัดรัดจาก SAIC Motor ของจีน ที่มาแรงในตลาดไทยด้วยราคาคุ้มค่าและการออกแบบที่ทันสมัย รุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าล้ำสมัย ให้เลือกสองแบบแบตเตอรี่ แบบมาตรฐานวิ่งได้ประมาณ 423 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) ส่วนแบบระยะไกลวิ่งได้ถึง 540 กม. เหมาะมากสำหรับการเดินทางในเมืองและการท่องเที่ยวระยะสั้นในไทย ด้วยระบบชาร์จเร็วที่เติมได้ 80% ในเวลาเพียง 30 นาที เมื่อรวมกับสถานีชาร์จที่มากขึ้นในไทย ก็ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางได้ดี ด้านในตกแต่งสไตล์มินิมอลแต่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี พร้อมหน้าจอกลาง 10.25 นิ้วและระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะที่ควบคุมด้วยเสียงและแอปได้ ในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบแอร์เย็นฉ่ำและระบบจัดการความร้อนแบตเตอรี่ทำงานมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ขับขี่สบายและแบตเตอรี่มีเสถียรภาพ ด้านความปลอดภัยมาพร้อมระบบ MG Pilot ที่รวมฟังก์ชันช่วยขับอย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและรักษาช่องทางเดินรถ ที่พิเศษคือกระโปรงหลังจุได้ 363 ลิตร และสามารถเพิ่มเป็น 1,177 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตครอบครัวคนไทย ยิ่งไปกว่านั้นในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ยังได้ประโยชน์จากภาษีรถ EV และทะเบียนรถฟรีเมื่อเทียบกับรถน้ำมันในระดับเดียวกัน ด้วยนโยบายส่งเสริม EV ของรัฐบาลไทย ทำให้ MG 4 รุ่นราคาจับต้องได้แบบนี้จะเป็นทางเลือกรักษ์โลกที่หลายคนกำลังมองหา

แผนผ่อนชำระรุ่น 2025 MG 4

 ตารางผ่อนชำระ MG 4 แบบรูปภาพ

รุ่น MG 4 Standard Range D 2025 ราคา 709,900 บาท

ดาวน์ยอดดาวน์48งวด60งวด72งวด84งวด
15%
106,485
13,566
10,781
9,304
9,020
20%
141,980
12,768
10,147
8,757
8,489
25%
177,475
11,970
9,512
8,210
7,959

รุ่น MG 4 Standard Range X 2025 ราคา 809,900 บาท

ดาวน์ยอดดาวน์48งวด60งวด72งวด84งวด
15%
121,485
15,476
12,299
10,615
10,290
20%
161,980
14,566
11,576
9,991
9,685
25%
202,475
13,656
10,852
9,366
9,080

รุ่น MG 4 Long Range V 2025 ราคา 889,900 บาท

ดาวน์ยอดดาวน์48งวด60งวด72งวด84งวด
15%
133,485
17,005
13,514
11,663
11,307
20%
177,980
16,005
12,719
10,977
10,642
25%
222,475
15,005
11,924
10,291
9,977

รุ่น MG 4 XPOWER 2025 ราคา 1,119,900 บาท

ดาวน์ยอดดาวน์48งวด60งวด72งวด84งวด
15%
167,985
21,400
17,007
14,678
14,229
20%
223,980
20,141
16,007
13,815
13,392
25%
279,975
18,883
15,006
12,951
12,555

รถ MG 4 รุ่นปี 2025 ราคาเท่าไหร่

MG 4 มีรุ่นย่อย 4 รุ่น

  • MG 4 Standard Range D 2025 ราคา 709900 บาท
  • MG 4 Standard Range X 2025 ราคา 809900 บาท
  • MG 4 Long Range V 2025 ราคา 889900 บาท
  • MG 4 XPOWER 2025 ราคา 1119900 บาท

รูปลักษณ์ภายนอกของ MG 4

MG 4 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ออกแบบภายนอกด้วยสไตล์ที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัยของเทคโนโลยีกับความสปอร์ต ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาวในไทยเป็นอย่างดี ด้านหน้าออกแบบด้วยกริลล์แบบปิด พร้อมไฟหน้า LED ที่ดูคมกริบและแถบไฟทอดยาว ช่วยเพิ่มความโดดเด่นและสอดคล้องกับภาพลักษณ์ล้ำสมัยของรถไฟฟ้า ด้านข้างตัวรถมีเส้นสายลื่นไหล การออกแบบช่วงล้อสั้นทั้งหน้าและหลังทำให้ตัวรถดูกะทัดรัดและคล่องตัว ในขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ภายใน ส่วนท้ายรถออกแบบเรียบง่ายแต่มีมิติ พร้อมไฟท้ายแบบทอดยาว ที่ให้ความสว่างโดดเด่นในเวลากลางคืน สำหรับสภาพอากาศในไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก MG 4 ยังได้รับการปรับปรุงเรื่องกระบวนการเคลือบสีและความแน่นหนาของตัวรถเป็นพิเศษ เพื่อให้ทนทานต่อทั้งความร้อนและความชื้นได้ดี นอกจากนี้ การออกแบบทางอากาศพลศาสตร์ยังช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ ทำให้เพิ่มระยะทางในการขับขี่และเพิ่มความมั่นคงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง สำหรับคนไทยแล้ว MG 4 เป็นรถไฟฟ้าที่ดีไซน์ตอบเทรนด์ความทันสมัยในเมือง แต่ยังคงไว้ความประโยชน์และทนทาน นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ

การตกแต่งภายในของ MG 4

MG 4 ออกแบบภายในให้ดูเรียบหรูแต่ได้ความรู้สึกไฮเทค พร้อมด้วยจอแสดงผลกลางแบบลอยตัวขนาด 10.25 นิ้วและหน้าปัดดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว ที่จัดวางตำแหน่งได้อย่างสมเหตุสมผล ใช้งานง่าย เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่เน้นความสะดวกเป็นหลัก วัสดุภายในเลือกใช้แบบนุ่มมือและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้สัมผัสดีและนั่งสบาย โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย ที่นั่งยังออกแบบให้ระบายอากาศได้ดี นอกจากนี้ MG 4 ยังรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ช่วยให้คนไทยเชื่อมต่อมือถือเพื่อใช้แผนที่หรือฟังเพลงได้ง่าย ๆ ถ้าพูดถึงจุดที่ตลาดรถไฟฟ้าไทยให้ความสำคัญเรื่องภายใน ก็คงหนีไม่พ้นความทนทานและทำความสะอาดง่าย ซึ่ง MG 4 ก็ตอบโจทย์ด้วยแผงกันรอยและผ้าหนังที่นั่งที่ดูแลง่าย โดยรวมแล้วดีไซน์ภายในของรุ่นนี้ไม่เพียงดูทันสมัย แต่ยังคำนึงถึงการใช้งานจริงในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทยด้วย

ระบบขับเคลื่อน MG 4

MG 4 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง ทั้งแบบมอเตอร์เดียวและแบบคู่มอเตอร์ ให้กำลังตั้งแต่ 125kW ไปจนถึง 330kW พร้อมแบตเตอรี่ความจุต่างกัน ช่วยให้วิ่งได้ไกลตั้งแต่ 423 ถึง 540 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) เหมาะสุดๆ สำหรับการขับขี่ในเมืองและการเดินทางใกล้ๆ ในไทย มอเตอร์ของ MG 4 ใช้เทคโนโลยีขดลวดแบบแบน ให้ความหนาแน่นพลังงานสูงกว่าและระบายความร้อนได้ดีขึ้น แถมยังมีระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะที่ช่วยให้การทำงานคงที่แม้ในอากาศร้อนของประเทศไทย ที่สำคัญ MG 4 ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มเฉพาะของ SAIC ที่มีสัดส่วนน้ำหนัก 50:50 ระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง ทำให้เข้าโค้งมั่นใจโดยเฉพาะในเส้นทางภูเขาของไทย ส่วนเรื่องการชาร์จก็ตอบโจทย์คนไทยด้วยระบบ DC Fast Charge ที่ชาร์จได้ 80% ในเวลาเพียง 30 นาที ตรงกับสถานการณ์ที่ไทยกำลังขยายสถานีชาร์จทั่วประเทศ ด้วยความที่รถ EV ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในไทย และเมื่อรวมกับจุดแข็งในการผลิตรถยนต์ MG ในประเทศ ทำให้ราคาของ MG 4 มีความคุ้มค่า สอดคล้องกับมาตรการของรัฐบาลไทยที่กำลังส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าประเภทนี้ MG 4 จึงตอบโจทย์ตลาดไทยได้ดียิ่งขึ้น

การกำหนดค่าภายนอกของ MG 4 รุ่นใหม่

อุปกรณ์ภายนอกที่มีให้เลือก

  • ไฟหน้า แอลอีดี
  • ไฟท้ายแอลอีดี
  • ไฟตัดหมอกหลัง
  • ระบบไฟสูงอัตโนมัติ
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน
  • ระบบเปิด / ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
  • ขนาดล้อหน้าคือ 235/45 R18
  • ขนาดล้อหลังคือ 235/45 R18
  • ระยะห่างจากพื้น 117 มม
  • ระบบเบรกล้อหน้าเป็น ดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อน, ระบบเบรกล้อหลังเป็น ดิสก์เบรก

ูปภาพภายนอกร MG 4ูปภาพภายนอกร MG 4

การกำหนดค่าภายในของ MG 4

MG 4 มีการตกแต่งภายในที่มาพร้อมกับการจัดสรรอันหลากหลาย ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

  • แอร์อัตโนมัติ
  • ช่องปรับอากาศตอนหลัง
  • ชขนาดหน้าจอ (นิ้ว): 10
  • ลำโพง:6
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
  • พวงมาลัยปรับได้
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย

MG 4 มีระบบความปลอดภัยอะไรบ้าง

การกำหนดค่าความปลอดภัยของ MG 4

  • ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
  • ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
  • ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC)
  • ระบบแจ้งเตือนลมยาง (TPMS)
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM)
  • ระบบเตือนออกนอกเลน
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
  • ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PCS)
  • จำนวนถุงลมนิรภัย SRS:6
  • ถุมลมนิรภัย คนขับ/ผู้โดยสารด้านหน้า SRS
  • ถุมลมนิรภัย คนขับ/ผู้โดยสารด้านหน้า SRS
  • กุงลมนิรภัยด้านข้าง SRS แถวหน้า
  • ถุงลมด้านหน้าแถวหน้า
  • ถุงลมด้านหน้าแถวหลัง
  • ISOFIX
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
  • สัญญาณกะระยะถอยหลัง
  • ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ
  • โหมดการขับขี่
  • ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
  • ระบบ Keyless Entry
  • สวิทช์ควบคุมระบบเซ็นทรัลล็อค

สรุปข้อดีข้อเสียของ MG 4

จุดแข็ง

-รถยนต์รุ่น X แบบประสิทธิภาพสูงและรุ่นพลังงาน มีความเร่งรวดเร็ว

-ได้รับใบประกอบการ MiT จากประเทศไทย มีความน่าเชื่อถือสูง

-เสนอโครงการรับประกันอิเล็กทรอนิกส์หลักตลอดชีวิต

-พัฒนาตามสถาปัตยกรรมไฟฟ้าพรีเมี่ยมล้ำหน้า

-เป็นที่นิยมในตลาดรถยนต์ไทย มีความยอมรับสูง

จุดอ่อน

ยังไม่พบข้อเสียเฉพาะสำหรับตอนนี้

โดยสรุปแล้ว รถยนต์ MG 4 มีศักยภาพในการแข่งขันที่แข็งแกร่งด้วยสมรรถนะและนโยบายการรับประกันที่สร้างความโดดเด่นให้กับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย และเป็นทางเลือกที่น่าพิจารณาสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่กำลังมองหารถยนต์พลังงานไฟฟ้า

# คำแนะนำในการซื้อ

คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์

ติดตามเรา

You Tube Facebook Google News

ข้อมูลยอดนิยม

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง

มีรายงานว่า Sensteed Hi-Tech วางแผนที่จะเข้าควบคุมบริษัทแม่ของ NETA คือ HOZON อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 โดยจะเสร็จสิ้นการโอนย้ายสินทรัพย์และทีมผู้บริหารทั้งหมด หลังจากนั้น NETA จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง

วิรุฬห์Sep 18, 2025
ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด

ในประเทศไทย ซันรูฟของรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อน สภาพการจราจรที่คับคั่ง และการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย — เพราะอุณหภูมิสูง 28-35℃ ตลอดทั้งปี ฝนตกบ่อยในช่วงฤดูฝน และการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อย่างกรุงเทพฯ มีผลต่อการใช้งานของซันรูฟโดยตรง

Kevin WongSep 12, 2025
Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?

Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?

รถ SUV ขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Suzuki Fronx จึงเข้าร่วมแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

LienOct 5, 2025
Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน

Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน

หลังสร้างกระแสแรงจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุด Omoda & Jaecoo เตรียมเดินหน้าส่งมอบรถล็อต 2 โดยมีกำหนดเดินทางจากจีนมาถึงประเทศไทยในวันที่ 14 กันยายน 2568 ก่อนจะทำการตรวจสอบคุณภาพและทยอยส่งมอบกว่า 1,000 คัน

ธนวัฒน์Sep 12, 2025
รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน

รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน

JAECOO 5 EV ล็อตที่สองจำนวน 1,000 คัน ถูกส่งจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทยแล้ว นับเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ครั้งที่สองของแบรนด์นี้ในตลาดไทย หลังจากการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการมาถึงของล็อตที่สอง การส่งมอบ JAECOO 5 EV ในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว

LienSep 18, 2025
ดูเพิ่มเติม
  • รถยอดนิยม

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

  • ภาพภายใน

  • รุ่นปีรถยนต์

  • รุ่นรถยนต์