NISSAN X-Trail e-POWER จะเปิดตัวในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2025
วิรุฬห์Jun 06, 2025, 11:09 AM
【PCauto】Nissan มีแผนนำเข้า X-Trail e-POWER e-4ORCE รุ่นใหม่ล่าสุด (โค้ดภายใน T33) เข้าสู่ตลาดประเทศไทยในช่วงปลายปี 2025 โดยจะเป็นรถนำเข้าทั้งคันจากประเทศญี่ปุ่น สำหรับผู้ที่ให้ความสนใจกับรถรุ่นนี้ ราคาจำหน่ายถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นอันดับต้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
X-Trailใช้แพลตฟอร์ม CMF-C/D คาดว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,800,000 บาท
โดยพิจารณาจากราคาจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นซึ่งสูงกว่า Serena ประกอบกับราคาเริ่มต้นของ Serena e-POWER ในประเทศไทยที่ราว 1.59 ล้านบาท และราคาเริ่มต้นของ X-Trail e-POWER ในตลาดออสเตรเลียซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.55 ล้านบาท จึงคาดว่า X-Trail e-POWER เวอร์ชันนำเข้าจะมีราคาเริ่มต้นในประเทศไทยอยู่ในช่วง 1.8 ถึง 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่สูงกว่ารถ SUV ไฮบริดทั่วไปอย่างชัดเจน สะท้อนถึงการวางตำแหน่งทางตลาดที่พรีเมียมมากขึ้น
ด้านการออกแบบ X-Trail เจเนอเรชันใหม่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม CMF-C/D ของ Nissan ตัวรถมีขนาดความยาว x ความกว้าง x ความสูง อยู่ที่ 4680 x 1840 x 1725 มิลลิเมตร ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้า V-Motion ขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและทันสมัย อีกทั้งอาจมีตัวเลือกตัวถังแบบทูโทนเพื่อเพิ่มความสปอร์ตและมีสไตล์ ด้านภายในห้องโดยสารเน้นการออกแบบสมัยใหม่ ใช้วัสดุนุ่มพรีเมียมในจุดสัมผัสต่าง ๆ และอาจติดตั้งไฟสร้างบรรยากาศแบบ LED เพื่อยกระดับความหรูหราและความสบายในการใช้งาน
ใช้เครื่องยนต์น้ำมัน แต่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์
ระบบขับเคลื่อน e-POWER ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Nissan ทำงานแตกต่างจากระบบไฮบริดทั่วไปหรือรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ล้วนที่เราคุ้นเคย โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร ซึ่งไม่ได้มีหน้าที่ขับเคลื่อนล้อโดยตรง แต่ทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟเพียงอย่างเดียว ไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกส่งผ่านอินเวอร์เตอร์ไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ก่อนที่จะถูกจ่ายไปยังมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่ติดตั้งที่เพลาหน้า ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของรถ โดยมอเตอร์ไฟฟ้านี้ให้กำลังสูงสุด 157 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ระบบนี้หมายความว่าล้อของรถจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา มอบประสบการณ์การขับขี่แบบไฟฟ้า 100% พร้อมแรงบิดทันใจและความนุ่มนวลในการขับเคลื่อนคล้ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องยุ่งยากกับการชาร์จไฟจากภายนอกเหมือนรถ EV เพราะยังใช้เชื้อเพลิงเติมน้ำมันตามปกติ จึงให้ความสะดวกในการใช้งานเช่นเดียวกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปทั่วไป ตามข้อมูลจากผู้ผลิต รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยประมาณ 6.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามต้องการระหว่าง Eco (ประหยัด), Standard (ปกติ) และ Sport (สปอร์ต) อีกด้วย
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ e-4ORCE สามารถกระจายพลังงานได้อย่างแม่นยำกว่า
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ e-4ORCE ที่ติดตั้งในรถรุ่นนี้ได้ละทิ้งโครงสร้างเพลาขับและดิฟเฟอเรนเชียลแบบกลไกดั้งเดิม โดยเลือกใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอีกหนึ่งตัวเพิ่มเติมที่เพลาหลัง (ให้แรงบิด 195Nm) ด้วยการควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ทั้งหน้าและหลังอย่างแม่นยำ ระบบสามารถกระจายแรงขับเคลื่อนไปยังล้อหน้าและล้อหลังได้อย่างชาญฉลาดและรวดเร็ว ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่และการยึดเกาะถนนในทุกสภาพพื้นผิว
นอกจากนี้ e-4ORCE ยังผสานรวมระบบการชาร์จพลังงานจากการเบรก (Regenerative Braking) เข้ากับการควบคุมเบรกแต่ละล้ออย่างอิสระอย่างแม่นยำ ทำให้ระบบสามารถควบคุมแรงยึดเกาะของแต่ละล้อได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพถนนที่ลื่น เช่น พื้นผิวเปียกหรือหิมะ ส่งผลให้เพิ่มความมั่นคงและความปลอดภัยในการขับขี่อย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบกลไกทั่วไป ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ของ e-4ORCE มีการตอบสนองที่รวดเร็วกว่า และการส่งกำลังต่อเนื่องโดยแทบไม่รู้สึกถึงการสะดุดหรือชะงัก
Nissan e-POWERมีประสบการณ์การขับขี่ที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้า
เมื่อเทียบกับระบบไฮบริดของ Toyota และ Honda แล้ว กลยุทธ์ที่แตกต่างของ Nissan มีความชัดเจนอย่างมาก เพราะสามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้าล้วนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะความรู้สึกจากระบบขับเคลื่อน e-POWER ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และสมรรถนะขับเคลื่อนสี่ล้อที่ได้รับการเสริมด้วยระบบ e-4ORCE ระบบนี้จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความนุ่มนวลและคุณภาพการขับขี่แบบรถไฟฟ้า แต่ยังกังวลเรื่องความสะดวกในการชาร์จไฟ หรือผู้ที่ต้องเผชิญกับสภาพถนนที่ซับซ้อน เช่น ถนนลื่นในช่วงฤดูฝน
โดยรวมแล้ว ค่านิยมหลักของ X-Trail e-POWER คือการใช้ความสะดวกสบายของน้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นจุดแข็ง พร้อมกับให้ประสบการณ์และประสิทธิภาพของการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นในกลยุทธ์ไฟฟ้าของ Nissan อย่างแท้จริง
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

iCar V23 กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ราคาจะต่ำกว่า Jaecoo 6 EV
【PCauto】มีรายงานว่า หลังจากการเปิดตัว Jaecoo 6 EV แล้ว iCar V23 จาก Chery อาจเตรียมทำตลาดในประเทศไทยเช่นกัน โดย iCar V23 และ iCar 03 (หรือ Jaecoo 6 EV) ได้รับความสนใจอย่างมากจากดีไซน์ภายนอกที่ดูล้ำอนาคต จนมีข่าวลือว่าทีมออกแบบของรถทั้งสองรุ่นนี้ อาจเป็นทีมเดียวกับ Redmi แบรนด์ลูกของ Xiaomi สำหรับ iCar V23 มาพร้อมสไตล์การออกแบบทรงเหลี่ยมและดูแข็งแกร่ง ด้วยดีไซน์สไตล์ออฟโรดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้รุ่นนี้ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาความแตกต่างและสมรรถนะในการลุยเส้นทางทุรกันดารได้เป็นอย่างดี

Toyota ประกาศเปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ ครั้งแรกที่เพิ่มระดับ GR SPORT
【PCauto】Toyota เปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ในยุโรปโดยยังคงเอกลักษณ์เดิมพร้อมปรับดีไซน์ภายนอกและภายในเล็กน้อย ด้านรูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าทรงรังผึ้งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและส่งเสริมการไหลเวียนอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นระดับสูงมาพร้อมเทคโนโลยีไฟสูงอัตโนมัติแบบปรับอัจฉริยะ AHS เพื่อให้มุมมองการขับขี่ชัดเจนในทุกสภาพถนน ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่โดดเด่นด้วยแถบไฟ LED ภายในโคมที่ให้แสงสว่างสม่ำเสมอทั่วทั้งพื้นที่เพิ่มความทันสมัยและภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม

สรุปยอดจองรถมาแรงในงานมอเตอร์โชว์ 2025 รุ่นไหนฮอตที่สุด!
สรุปยอดจองรถมาแรงในงานมอเตอร์โชว์ 2025 รุ่นไหนฮอตที่สุด! จบกันไปแล้วสำหรับงาน Bangkok

เครื่องยนต์ใหม่และพื้นที่กว้างขวาง ทำไม Toyota Yaris ถึงกลายเป็นมาตรฐานของความคุ้มค่า?
【PCauto】Toyota Yaris เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับความน่าสนใจจากผู้บริโภคอย่างมาก ในฐานะรถรุ่นสำคัญของ Toyota Yaris เด่นด้วยการออกแบบภายนอกที่ทันสมัยและสวยงาม ลงตัวด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและภายในที่เต็มไปด้วยคุณสมบัติที่สะดวกสบาย ในขณะนี้ Toyota Yaris ยังคงเป็นรุ่นที่มีการขายอย่างดี ด้วยการเลือกอะไรนักรือให้กับความต้องการของผู้ใช้ ในส่วนถัดไป เราจะนำเสนอรายละเอียดของโมเดลย่อยและราคาขาย เพื่อช่วยให้คุณมีข้อมูลเพิ่มเติมในการตัดสินใจซื้อรถรุ่นนี้ราคาของ Toyota YarisToyota Yaris มีทั้งหมด 4

Xpeng X9 รุ่นปี 2025 เปิดตัวในตลาดจีน เพิ่มสีใหม่และปรับปรุงพื้นที่แถวสอง
【PCauto】Xpeng X9 ในไทยและมาเลเซียเพิ่งเริ่มส่งมอบไม่นานนี้ ส่วนในจีนได้เปิดตัวรุ่นปี 2025 ออกมาแล้ว อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของรุ่นใหม่ในจีนไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก คาดว่าจะไม่ทำให้ผู้ใช้ X9 รุ่นก่อนหน้านี้ผิดหวังมากนัก อีกทั้งทาง Xpeng ยังยืนยันหลายครั้งว่า X9 รุ่นเก่า ก็สามารถอัปเกรดภายหลังให้มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับรุ่นใหม่ได้
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน