Suzuki ประกาศว่าจะนำเข้ารถยนต์ใหม่สองรุ่นในปีนี้ เพื่อเพิ่มยอดขายในประเทศให้สูงขึ้นถึง 41%
LienFeb 20, 2025, 11:53 AM
【PCauto】ในปี 2024 ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ยอดขายรถยนต์ใหม่ยังคงซบเซา โดยในปีที่แล้ว ยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศอยู่ที่ 572,675 คัน ลดลง 26.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน Suzuki ในประเทศก็มีผลการดำเนินงานที่ไม่ดีเช่นกัน โดยมียอดขายรวมเพียง 5,654 คัน และที่น่าเป็นห่วงคือ Suzuki ในประเทศประสบกับขาดทุนสุทธิอย่างต่อเนื่องมา 2 ปีแล้ว โดยในปี 2022 ขาดทุนกว่า 80 ล้านบาท และในปี 2023 ขาดทุนกว่า 264 ล้านบาท ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ ซูซูกิจึงประกาศว่าจะนำเข้ารถยนต์ใหม่สองรุ่นในปีนี้ เพื่อพยายามพลิกสถานการณ์
ถึงแม้ว่าทาง Suzuki จะไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าสองรุ่นใหม่ที่จะนำเข้าคือรุ่นไหน แต่คาดการณ์กันว่าอาจจะเป็น Suzuki Fronx และ e-Vitara
Suzuki Fronx เป็นรถครอสโอเวอร์ SUV รุ่นใหม่ที่มีการออกแบบรูปลักษณ์ด้วยภาษาการออกแบบล่าสุดของครอบครัว Suzuki ส่วนหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าหลายเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ผสานกับกระจังตาข่ายที่ได้รับการเคลือบสีดำและเส้นขอบโครเมียมที่ละเอียด ช่วยสร้างความโดดเด่นทางสายตา ไฟหน้าแบบแยกส่วนที่มีแถบไฟ LED สามเส้นภายในไม่เพียงแต่เพิ่มความรู้สึกทันสมัย แต่ยังช่วยขยายภาพลักษณ์ให้กว้างขึ้น ช่องลมทรงสี่เหลี่ยมที่ด้านล่างและเส้นสายตัวถังที่กระฉับกระเฉงช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ที่แตกต่างของ SUV สไตล์คูเป้
ด้านข้างของตัวรถ เส้นสายข้างตัวรถที่ไหลลื่น แก้มล้อสีดำ การออกแบบขอบข้างและล้อสีสองชั้น ช่วยสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเป็นออฟโรดและความทันสมัย การตกแต่งด้วยสีดำที่เสาหลัง B/C และขอบหน้าต่าง ช่วยสร้างลุคหลังคาลอยตัวที่เน้นสไตล์คูเป้ได้อย่างชัดเจน ส่วนท้ายรถ ปีกท้ายขนาดเล็กคู่กับไฟท้ายแบบยาวที่ได้รับความนิยม และการตกแต่งด้วยขอบดำและแผ่นกันกระแทกสีเงินที่ด้านล่าง ช่วยเสริมความโดดเด่นในด้านออฟโรดและความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
การออกแบบภายในของ Fronx ดูเหมือนจะมีความเป็นแบบดั้งเดิม พวงมาลัยแบบสามก้านที่หุ้มด้วยวัสดุนิ่มและมีฟังก์ชันหลากหลาย แผงหน้าปัดแบบเข็ม และหน้าจอกลางแบบลอยขนาด 9 นิ้วสะท้อนแนวคิดในการออกแบบที่เน้นความใช้งานจริง ด้านอุปกรณ์ต่างๆ มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่รองรับการเชื่อมต่อมือถือไร้สายผ่าน Android Auto และ Apple CarPlay การแสดงผลข้อมูลแบบ HUD กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา การชาร์จไร้สาย และระบบเข้าออกโดยไม่ใช้กุญแจ
ในด้านระบบขับเคลื่อน Fronx มีตัวเลือกเครื่องยนต์สองรุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0T ที่มาพร้อมกับระบบมิกซ์ 48V และเครื่องยนต์ 1.2L แบบดูดธรรมชาติ ซึ่งทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเกียร์ 5MT และ 6AT การผสมผสานของระบบขับเคลื่อนนี้ทำให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างราบรื่นและทรงพลัง พร้อมทั้งมีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม โดยอัตราการใช้น้ำมันอยู่ที่ 3 - 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งสามารถตอบโจทย์ทั้งด้านสมรรถนะการขับขี่ ความประหยัด และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อีกหนึ่งรุ่นคือ e-Vitara ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของกระบวนการไฟฟ้าของซูซูกิ e-Vitara สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มใหม่ Heartect-e ที่ออกแบบมาสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดยใช้โครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาและการออกแบบที่ป้องกันแรงดันสูง ด้วยการย่อโครงสร้างช่วงล่างหน้าและหลัง ทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้กว้างขวางขึ้น และการจัดวางแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
e-Vitara ผสมผสานความทันสมัยของรถไฟฟ้ากับสไตล์ที่ดุดันของ SUV ล้ออัลลอยมีดีไซน์ที่เต็มไปด้วยความเป็นออฟโรด กันชนหน้าถูกออกแบบให้มีช่องระบายอากาศด้านล่างคล้ายกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ส่วนประตูหลังใช้การออกแบบมือจับแบบซ่อน และที่ท้ายรถมีไฟ LED แบบยาวที่ต่อเนื่อง ส่วนกันชนหลังยังใช้พลาสติกกันขีดข่วนเพื่อเน้นย้ำตำแหน่งของรถไฟฟ้าออฟโรดสำหรับการเดินทาง
ในด้านขนาดตัวถัง e-Vitara มีความยาว 4275 มม. ความกว้าง 1800 มม. และความสูง 1635 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2700 มม. ซึ่งเป็น SUV ขนาด 5 ที่นั่งที่มีระยะฐานล้อยาวที่สุดในบรรดารถยนต์ของแบรนด์ Suzuki ในปัจจุบัน
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับพวงมาลัยแบบสองก้าน การเปลี่ยนเกียร์ด้วยปุ่มหมุน และหน้าจอแสดงผลแบบรวมที่เชื่อมต่อแผงหน้าปัดดิจิตอลและหน้าจอกลางไว้ด้วยกัน คอนโซลกลางและแผงต่างๆ มีรูปทรงสี่เหลี่ยมที่เน้นสไตล์ที่ดุดัน ช่องระบายอากาศแบบสี่เหลี่ยมช่วยเพิ่มบรรยากาศของ SUV ออฟโรด พร้อมทั้งยังคงความรู้สึกทันสมัยของเทคโนโลยี ภายในคอนโซลกลางลดจำนวนปุ่มจริงลง ใช้การออกแบบที่เน้นพื้นที่ใหญ่บริเวณที่วางแขนกลางและเกาะกลาง สร้างบรรยากาศของพื้นที่นั่งคู่หน้าแบบหุ้มรอบ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกการตกแต่งภายนอกและภายในแบบสองสี ซึ่งช่วยเสริมความหรูหรามากยิ่งขึ้น
ในด้านอุปกรณ์ e-Vitara มาพร้อมกับระบบช่วยเบรกลงทางลาดชัน แอร์คอนดิชันแบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ระบบเบรกมืออิเล็กทรอนิกส์ + ระบบเบรกจอดอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับตัว และระบบช่วยขับขี่ระดับ L2 ในด้านระบบขับเคลื่อน มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า eaxle ที่มีประสิทธิภาพ และแบตเตอรี่ลิเธียมเฟอริคฟอสเฟตความจุ 49kWh หรือ 61kWh โดยคาดการณ์ระยะทางที่สามารถขับได้ในแต่ละรุ่นจะอยู่ที่ 321 กิโลเมตรหรือ 500 กิโลเมตร นอกจากนี้ e-Vitara ยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า AllGrip-e ที่มีการขับเคลื่อนแยกอิสระทั้งที่เพลาหน้าและเพลาหลัง ช่วยให้การควบคุมมีความแม่นยำสูงและประสิทธิภาพดีขึ้น พร้อมทั้งยังมีโหมดออฟโรดที่ช่วยกระจายแรงขับเคลื่อนด้วยฟังก์ชันคล้ายกับการจำกัดการหมุนล้อ ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ในสภาพเส้นทางออฟโรด
ในปี 2025 Suzuki จะนำ Fronx และ e-Vitara เข้าสู่ตลาดไทย ทั้งสองรุ่นนี้ด้วยจุดเด่นที่แตกต่างกัน อาจจะสามารถสร้างกระแสในตลาดรถยนต์ไทยได้ Suzuki กำหนดเป้าหมายยอดขายในปีนี้ไว้ที่ 8,000 คัน ซึ่งหมายถึงการเติบโต 41% เป้าหมายนี้จะสำเร็จได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ Fronx และ e-Vitara
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

นี่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังมากที่สุดของ Toyota เท่าที่เคยมีมา โดยจะเปิดตัวในยุโรปเป็นที่แรกในปีหน้า
【PCauto】bZ4X Touring มีแผนวางจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026 โดยเป็นรุ่นต่อยอดจาก bZ4X เวอร์ชันมาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการบรรทุกและการใช้งานแบบออฟโรดได้ดีขึ้น พร้อมกำลังรวมสูงสุด 280 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นระดับกำลังที่สูงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota จนถึงขณะนี้ bZ4X Touring มีขนาดตัวถังและพื้นที่ภายในที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในฐานะรุ่นแฝดของ Subaru Trailseeker รถรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA เช่นเดียวกัน แต่ได้รับการขยายมิติตัวรถเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

iCar V23 กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ราคาจะต่ำกว่า Jaecoo 6 EV
【PCauto】มีรายงานว่า หลังจากการเปิดตัว Jaecoo 6 EV แล้ว iCar V23 จาก Chery อาจเตรียมทำตลาดในประเทศไทยเช่นกัน โดย iCar V23 และ iCar 03 (หรือ Jaecoo 6 EV) ได้รับความสนใจอย่างมากจากดีไซน์ภายนอกที่ดูล้ำอนาคต จนมีข่าวลือว่าทีมออกแบบของรถทั้งสองรุ่นนี้ อาจเป็นทีมเดียวกับ Redmi แบรนด์ลูกของ Xiaomi สำหรับ iCar V23 มาพร้อมสไตล์การออกแบบทรงเหลี่ยมและดูแข็งแกร่ง ด้วยดีไซน์สไตล์ออฟโรดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้รุ่นนี้ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาความแตกต่างและสมรรถนะในการลุยเส้นทางทุรกันดารได้เป็นอย่างดี

หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน
【PCauto】หลังจาก Tank 300 รุ่นดีเซลประสบความสำเร็จเกินคาด GWM วางแผนนำ Tank 500 รุ่นดีเซลเข้าสู่ตลาดไทยในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 รถเอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่มาพร้อมขุมพลังดีเซล 24 เทอร์โบรุ่นนี้จะผลิตในประเทศที่โรงงานจังหวัดระยอง ราคาคาดการณ์ราวสองล้านบาท เจาะตลาดเดียวกับ Toyota Fortuner และ Isuzu MU X ซึ่งเป็นเอสยูวีดีเซลยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Toyota ประกาศเปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ ครั้งแรกที่เพิ่มระดับ GR SPORT
【PCauto】Toyota เปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ในยุโรปโดยยังคงเอกลักษณ์เดิมพร้อมปรับดีไซน์ภายนอกและภายในเล็กน้อย ด้านรูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าทรงรังผึ้งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและส่งเสริมการไหลเวียนอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นระดับสูงมาพร้อมเทคโนโลยีไฟสูงอัตโนมัติแบบปรับอัจฉริยะ AHS เพื่อให้มุมมองการขับขี่ชัดเจนในทุกสภาพถนน ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่โดดเด่นด้วยแถบไฟ LED ภายในโคมที่ให้แสงสว่างสม่ำเสมอทั่วทั้งพื้นที่เพิ่มความทันสมัยและภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม

สรุปยอดจองรถมาแรงในงานมอเตอร์โชว์ 2025 รุ่นไหนฮอตที่สุด!
สรุปยอดจองรถมาแรงในงานมอเตอร์โชว์ 2025 รุ่นไหนฮอตที่สุด! จบกันไปแล้วสำหรับงาน Bangkok
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน