Audi Q3 2026 จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบครั้งใหญ่หรือไม่? การปรับเปลี่ยนคันเกียร์ก่อให้เกิดข้อโต้แย้ง
AshleyJun 25, 2025, 06:12 PM
【PCauto】Audi Q3 รุ่นปี 2026 ที่เตรียมเปิดตัวกลายเป็นจุดสนใจของวงการยานยนต์จากการเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบที่โดดเด่น โดยตัดคันเกียร์แบบดั้งเดิมออกทั้งหมดและแทนที่ด้วยระบบเปลี่ยนเกียร์แบบแป้นควบคุมที่ฝังอยู่ทางขวาของพวงมาลัย การเปลี่ยนแปลงที่ล้ำสมัยนี้สร้างกระแสวิจารณ์ในหมู่ผู้ใช้รถ โดยบางส่วนตั้งคำถามถึงความซับซ้อนของตรรกะการใช้งานระบบใหม่นี้
แผงควบคุมด้านซ้ายของพวงมาลัยที่รวมฟังก์ชันที่มากเกินไปทำให้เกิดการถกเถียง
ตามแผนการออกแบบที่ Audi เปิดเผย ระบบใหม่จะรวมฟังก์ชันการเปลี่ยนเกียร์ไว้ในแป้นควบคุมคงที่ด้านขวาของพวงมาลัย โดยการโยกขึ้นลงเพื่อเปลี่ยนเกียร์ระหว่าง D R และ N ขณะเดียวกัน แป้นควบคุมด้านซ้ายของพวงมาลัยได้รับการออกแบบใหม่ให้เป็นศูนย์ควบคุมอเนกประสงค์ โดยปลายก้านควบคุมจะรวมฟังก์ชันไฟเลี้ยว ใบปัดน้ำฝน และมีปุ่มเปิดไฟสูงแยกต่างหาก ทีมออกแบบของ Audi อธิบายว่าการจัดวางแบบใหม่นี้ช่วยเพิ่มพื้นที่บริเวณคอนโซลกลาง เพื่อให้สามารถติดตั้งแท่นชาร์จไร้สายและที่วางแก้วได้สะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดระยะการเคลื่อนไหวของมือขณะขับขี่อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม วิดีโอการใช้งานที่หลุดออกมาก่อนเปิดตัวได้จุดกระแสวิจารณ์บนโซเชียลมีเดีย โดยมีผู้ใช้งานบางรายตั้งข้อสังเกตว่า ปลายก้านควบคุมด้านซ้ายรวมฟังก์ชันไว้ถึง 5 รูปแบบ ซึ่งผู้ใช้ต้องจดจำและเรียนรู้เมื่อลองใช้งานครั้งแรก สำหรับประเด็นนี้ ทีมวิศวกรของ Audi ชี้แจงว่า ระบบใหม่นี้ผ่านการทดสอบด้านสรีรศาสตร์มนุษย์มากกว่า 2000 ชั่วโมง และคาดว่าผู้ใช้จะสามารถปรับตัวเข้ากับรูปแบบการใช้งานได้ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์
จุดที่น่าสนใจคือการออกแบบนี้ไม่ใช่แนวคิดใหม่ในอุตสาหกรรม Mercedes-Benz ได้นำระบบเกียร์แบบก้านหลังพวงมาลัยมาใช้ในหลายรุ่นแล้ว Ford และ General Motors ก็เคยมีแนวคิดคล้ายกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ความโดดเด่นของ Audi อยู่ที่การรวมฟังก์ชันการใช้งานบ่อยอย่างไฟหน้า ที่ปัดน้ำฝน และระบบเปลี่ยนเกียร์ไว้บริเวณพวงมาลัย ซึ่งมีผู้แสดงความคิดเห็นว่าอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อผู้ขับต้องเปลี่ยนเกียร์ขณะหมุนพวงมาลัย อาจต้องปรับตัวใหม่ในแง่ความเคยชินของกล้ามเนื้อ
นอกเหนือจากระบบเปลี่ยนเกียร์แล้ว Audi Q3 รุ่นปี 2026 ยังมาพร้อมการอัพเกรดหลายอย่าง
รถรุ่นใหม่มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED แยกส่วน ซึ่งภายในประกอบด้วยหลอดไมโคร LED มากถึง 25,600 ดวง ส่วนไฟท้าย OLED รองรับเอฟเฟกต์การแสดงผลแบบไดนามิกได้ถึง 6 รูปแบบ ภายในติดตั้งหน้าจอโค้งคู่ ได้แก่ หน้าปัดดิจิทัลขนาด 11.9 นิ้ว และหน้าจอกลางขนาด 12.8 นิ้ว โดยทำงานบนระบบ Android Automotive อีกจุดเด่นคือการใช้วัสดุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น เบาะนั่งผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล และพรมปูพื้นทำจากอวนจับปลาที่นำกลับมาใช้ใหม่ ระบบความปลอดภัยยังรวมถึงระบบช่วยเหลือฉุกเฉินที่ตรวจจับพฤติกรรมผู้ขับ หากพบความผิดปกติจะทำการหยุดรถข้างทางโดยอัตโนมัติ
ตลาดต่าง ๆ มาพร้อมกับรุ่นเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน
ในตลาดยุโรปมีเครื่องยนต์ให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ เบนซินไฮบริดแบบเบา 1.5 ลิตร เทอร์โบ 148 แรงม้า เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ 261 แรงม้า และปลั๊กอินไฮบริดที่มีกำลังรวม 268 แรงม้า โดยรุ่นปลั๊กอินสามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนตามมาตรฐาน WLTP ได้ระยะทางสูงสุด 120 กิโลเมตร ส่วนตลาดอเมริกาเหนือเบื้องต้นยืนยันเฉพาะรุ่นเบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ 228 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด สำหรับรุ่นปลั๊กอินยังไม่มีแผนการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ระบบช่วงล่างมีให้เลือก 3 แบบ โดยรุ่นท็อปจะติดตั้งเทคโนโลยีโช้กอัพปรับอัตโนมัติแบบวาล์วคู่ ซึ่งสามารถควบคุมการยุบตัวและการคืนตัวแยกอิสระเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่
แผนการทำตลาดระบุว่า รถรุ่นใหม่นี้จะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรปเดือนตุลาคมปี 2025 โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 44,600 ยูโร หรือประมาณ 1,739,400 บาท ขณะที่ตลาดอเมริกาเหนือคาดว่าจะเริ่มส่งมอบในช่วงต้นปี 2026 โดยมีประเด็นที่น่าจับตามองคือ รุ่นอเมริกาอาจถูกตัดฟีเจอร์ขั้นสูงของไฟหน้าเมทริกซ์ เช่น ระบบฉายสัญลักษณ์เตือนพื้นถนนลื่นเป็นรูปไอคอนบนพื้นถนน
สุดท้าย เมื่อย้อนกลับมาที่ประเด็นการออกแบบใหม่ของ Audi Q3 ท่ามกลางแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มุ่งลดจำนวนปุ่มกดแบบกายภาพลงตามพัฒนาการของสถาปัตยกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ การที่ Audi เลือกย้ายฟังก์ชันเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งเป็นการใช้งานที่มีความถี่สูง ไปไว้ที่บริเวณพวงมาลัยนั้น ยังต้องรอการพิสูจน์จากประสบการณ์ใช้งานจริงของตลาดต่อไป
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

Nissan เตรียมพลิกโฉม SUV รุ่นสำคัญ หวังพาแบรนด์พ้นวิกฤตธุรกิจ
【PCauto】Nissan X-Trail ใหม่ (หรือ Rogue ในตลาดอเมริกาเหนือ) กำลังจะเปิดตัวโฉมใหม่ปลายปี 2025 นี้ พร้อมบทบาทสำคัญในการกู้วิกฤตของแบรนด์ ท่ามกลางแรงกดดันจากการลดกำลังการผลิตและผลประกอบการขาดทุน แม้จะยังพัฒนาบนแพลตฟอร์ม CMF-CD เดิม แต่รุ่นใหม่นี้มาพร้อมดีไซน์และระบบขับเคลื่อนที่เปลี่ยนใหม่หมด ใช้แนวทางออกแบบ “Nissan NEXT” ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถไฟฟ้า Ariya ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้า V-Motion ที่เล็กลง พร้อมไฟหน้าเลเซอร์แบบ Matrix ในรุ่นสูงสุด และไฟ DRL ทรงหกเหลี่ยมห้าชิ้นสุดเฉียบ ด้านข้างเน้นเส้น

เตรียมเปิดตัว! Toyota Yaris ATIV HEV ใหม่ 21 ส.ค.นี้ ใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross
【PCauto】Yaris ATIV HEV ใหม่ จ่อเปิดตัว 21 ส.ค.นี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดประหยัดสุด 26.3 กม./ลิตร Toyota เตรียมส่ง Yaris ATIV รุ่นไฮบริดบุกตลาดไทย 21 สิงหาคมนี้ โดยใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VEX ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวม 111 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 0.7 kWh รองรับน้ำมัน E20 ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองดีเยี่ยมที่ 26.3 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WMTC เตรียมเปิดศึกรถซีดานไฮบริดประหยั

Mitsubishiเปิดตัว SUV 7 ที่นั่งรุ่น Destinator เพื่อแข่งขันกับ Honda CR-V
【PCauto】Mitsubishi Motors ได้เปิดตัว SUV เจ็ดที่นั่งรุ่นใหม่ Destinator อย่างเป็นทางการที่จาการ์ต้า รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อครอบครัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ และจะเริ่มจำหน่ายในอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก ก่อนขยายตลาดไปยังไทยและประเทศในอาเซียนอื่นๆ Mitsubishi Destinator มาพร้อมกับฐานล้อยาวพิเศษ 2815 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดจากพื้นถึงตัวรถ 214 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ตั้งเป้าหมายในตลาด SUV ขนาดกลางที่มี Honda CR-V ครองตำแหน่งผู้นำอยู่แล้ว

หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน
【PCauto】หลังจาก Tank 300 รุ่นดีเซลประสบความสำเร็จเกินคาด GWM วางแผนนำ Tank 500 รุ่นดีเซลเข้าสู่ตลาดไทยในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 รถเอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่มาพร้อมขุมพลังดีเซล 24 เทอร์โบรุ่นนี้จะผลิตในประเทศที่โรงงานจังหวัดระยอง ราคาคาดการณ์ราวสองล้านบาท เจาะตลาดเดียวกับ Toyota Fortuner และ Isuzu MU X ซึ่งเป็นเอสยูวีดีเซลยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

BYD SEALION 8 ลุ้นขายไทย-ออสเตรเลียปีหน้า!
【PCauto】BYD SEALION 8 เตรียมบุกไทย-ออสซี่ปีหน้า! ใหญ่เทียบ Kluger พร้อมดีไซน์ล้ำยุคจาก Egger BYD SEALION 8 หรือ Tang L เวอร์ชันจีน เตรียมเปิดตัวไตรมาสแรกปี 2026 ในออสเตรเลีย และมีแผนรุกตลาดไทยพร้อมกัน จุดเด่นคือขนาดใหญ่กว่า Toyota Kluger ถึง 120 มม. กับตัวถังยาวกว่า 5 เมตร เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมขุมพลัง PHEV สองรุ่นย่อย และดีไซน์ “Loong Face” นำโดย Wolfgang Egger ไฟหน้า LED แยกส่วน-โลโก้ BYD เรืองแสง เสริมความพรีเมียมด้วยประตูไร้กรอบ ไฟท้าย “ปีกฟีนิกซ์” และหลังคาพาโนรามา ครบเครื่องทั้งความหรู
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน