Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Prime 2WD 6AT 2025

MG ZS ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี แต่ละสีมีความโดดเด่นและความสวยงามในสไตล์ของตัวเอง โดยคำนึงถึงทั้งความทันสมัยและประโยชน์ใช้สอย ARCTIC WHITE (สีขาวอาร์กติก) เป็นโทนขาวคลาสสิกที่ดูเรียบหรู สะท้อนแสงแดดได้ดี เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทย แถมยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่เพราะมองเห็นได้ชัดเจน และดูแลรักษาง่าย SCARLET RED (สีแดงสการ์เล็ต) เป็นสีแดงสดใสที่สื่อถึงความสนุกสนานและความสปอร์ตของแบรนด์ MG โดดเด่นเป็นสง่าในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ เหมาะสำหรับคนที่ชอบแสดงความเป็นตัวตน BLACK KNIGHT (สีดำแบล็คไนท์) ให้ความรู้สึกลึกลับและดูหรูหรา ช่วยเน้นเส้นสายของรถให้ดูคมชัดยิ่งขึ้น แต่อาจต้องล้างบ่อยหน่อยในเมืองไทยเพื่อรักษาความสวยงาม SILVER METALLIC (สีเงินเมทัลลิก) เป็นสีกลางๆ ที่ไม่เคยตกเทรนด์ ให้ความรู้สึกทันสมัยและดูมีเทคโนโลยี เหมาะกับการใช้งานในแวดวงธุรกิจ และยังเป็นสีที่ดูแลง่าย ทนต่อฝุ่นผงบนถนนไทยได้ดี ทุกสีใช้เทคโนโลยีการพ่นสีขั้นสูงจาก MG ที่ทนต่อรังสี UV และการกัดกร่อนได้ดี แต่ด้วยสภาพอากาศแบบไทย แนะนำให้ทำความสะอาดและบำรุงรักษาสีรถทุก 3 เดือน โดยเฉพาะสีขาวและสีเงินควรใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบที่มีส่วนผสมป้องกัน UV เพื่อรักษาความเงางามให้ยาวนาน

สำหรับโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ การเลือกสีขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งานส่วนตัว หากคุณขับรถในเมืองบ่อย ๆ สีขาวหรือสีเงินจะให้ลุคที่เรียบง่ายและดูสะอาดตา อีกทั้งยังไม่ค่อยเห็นรอยสกปรกง่าย หากคุณชื่นชอบความเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น สีดำหรือสีน้ำเงินเข้มจะทำให้รถดูมีความสง่างามและลึกลับ ส่วนสีเทาจะให้ความรู้สึกเรียบหรูและสงบง่าย ๆ ที่เหมาะสมในทุกสภาพแวดล้อม สุดท้ายแล้ว สีที่ดีที่สุดคือสีที่ตรงกับรสนิยมและการใช้งานของคุณครับ

Honda City รุ่นต่างๆ ใช้ขนาดยางแตกต่างกัน รุ่น Honda City 1.0 Turbo S 2024 Honda City 1.0 V 2024 และ Honda City 1.0 SV 2024 ใช้ยางหน้าและหลังขนาด 185 60 R15 ยางอะไหล่ขนาด T135 80D15 ส่วนรุ่น Honda City e HEV SV 2024 Honda City 1.0 RS 2024 และ Honda City e HEV RS 2024 ใช้ยางหน้าและหลังขนาด 185 55 R16 ตัวเลขด้านหน้าของขนาดยางหมายถึงความกว้างของยาง ตัวเลขกลางคืออัตราส่วนความสูงของแก้มยางต่อความกว้าง ตัวอักษร R หมายถึงยางเรเดียล และตัวเลขสุดท้ายหมายถึงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ ขนาดยางที่แตกต่างกันส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่และความสบายของรถยนต์

Toyota Yaris Cross ปกติจะผลิตในประเทศไทยหรือฐานการผลิตที่ได้รับการกำหนดโดย Toyota โดย Toyota จะพิจารณาความต้องการในตลาดและประสิทธิภาพด้านต้นทุนในการตัดสินใจสถานที่ผลิต

รถกระบะ Riddara RD6 เป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยรัศมีวงเลี้ยวประมาณ 6.2 เมตร ซึ่งถือว่าเหมาะสมสำหรับการขับขี่ในเมืองและเส้นทางชนบทของไทย รัศมีวงเลี้ยวเป็นตัวชี้วัดความคล่องตัวของรถ ยิ่งตัวเลขน้อยเท่าไหร่ ยิ่งทำให้รถสามารถเลี้ยวหรือกลับรถในพื้นที่จำกัดได้ง่ายขึ้น ซึ่งสำคัญมากสำหรับเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรคับคั่ง การออกแบบรัศมีวงเลี้ยวของ RD6 นั้นคำนึงถึงสภาพถนนจริงในไทย เพื่อให้ได้ทั้งความสะดวกในการควบคุมและความมั่นคงของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางคดเคี้ยวในภูเขาหรือการขับขี่ในเมืองที่รถติด คุณสมบัติการเลี้ยวนี้ช่วยให้ผู้ขับรู้สึกสบายใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม รัศมีวงเลี้ยวของรถได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น ระยะฐานล้อ ระยะระหว่างล้อ และระบบบังคับเลี้ยว ผู้ใช้ควรประเมินการขับขี่ตามสภาพถนนและสไตล์การขับของตัวเอง สำหรับคนที่มักต้องจอดในที่แคบๆ แนะนำให้ทดลองขับก่อนซื้อ เพื่อให้รู้สึกถึงการเลี้ยวจริงของ RD6 นอกจากนี้ การตรวจสอบสภาพยางและระบบบังคับเลี้ยวเป็นประจำก็ช่วยรักษาสมรรถนะการเลี้ยวของรถให้ดีที่สุดเช่นกัน

ฮอนด้าซิตี้แฮตช์แบ็กขนาดเครื่องยนต์ทั่วไปคือ 988cc และ 1,498cc

Neta V ในตลาดประเทศไทยมีให้เลือกสองรุ่นหลักคือรุ่นมาตรฐาน(Standard) และรุ่นระยะทางไกล(Long Range) ทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างกันในด้านความจุแบตเตอรี่ ระยะทางวิ่ง และออปชั่น รุ่นมาตรฐานติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตขนาด 31.2kWh ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน NEDC ประมาณ 301 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองประจำวัน ขณะที่รุ่นระยะทางไกลมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 38.5kWh ระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 401 กิโลเมตร(ตามมาตรฐาน NEDC) เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องเดินทางข้ามเมืองบ่อยครั้ง ทั้งสองรุ่นรองรับระบบชาร์จเร็ว โดยชาร์จไฟจาก 30 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ใช้เวลาประมาณ 40 นาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว กล้องมองหลัง และการเชื่อมต่อบลูทูธเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ความแตกต่างคือรุ่นระยะทางไกลจะมีระบบกุญแจอัจฉริยะและเบรกมือไฟฟ้า ส่วนรุ่นมาตรฐานใช้เบรกมือแบบกลไก ในตลาดไทยรุ่นรถยนต์ไฟฟ้ามักถูกปรับแต่งตามโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จและความต้องการใช้งานจริง รุ่น Neta V ทั้งสองจึงตอบโจทย์ผู้ใช้ที่มีงบประมาณและรูปแบบการใช้งานแตกต่างกัน ผู้ซื้อสามารถเลือกตามระยะทางเดินทางรายวันและความสะดวกในการชาร์จไฟได้อย่างเหมาะสม

Ora 07 เป็นรถยนต์จากแบรนด์จีน Ora ที่ได้รับความสนใจจากการออกแบบที่โดดเด่น การตั้งค่าที่สูงและสมรรถนะที่ดี มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ภายในรถมีการตั้งค่าที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย และมีสมรรถนะด้านพลังงานที่ดีเพียงพอต่อการเดินทางประจำวัน

Mitsubishi Xpander รุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่จำหน่ายในประเทศไทยส่วนใหญ่ผลิตโดยโรงงาน Mitsubishi Motors Indonesia (MMKI) ในจังหวัดชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่ตั้งแต่ต้นปี 2024 เป็นต้นไป รุ่นไฮบริดจะผลิตโดยโรงงาน Mitsubishi Motors Thailand (MMT) ในจังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ ยังมีการประกอบรุ่นนี้ที่โรงงาน Mitsubishi Motors Vietnam (MMV) ในจังหวัดบิ่ญเยือง ประเทศเวียดนาม และโรงงาน Hicom ในรัฐปะหัง ประเทศมาเลเซีย

MG Extender ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า (PS) โดยไม่ว่าจะเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ รุ่นขับเคลื่อนสองล้อหรือสี่ล้อ เครื่องยนต์ทุกรุ่นยังคงมีกำลังสูงสุดที่ 161 แรงม้า ระดับพละกำลังนี้เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมถึงสามารถรองรับสภาพถนนที่ซับซ้อนได้ เช่น การบรรทุกสัมภาระหรือการขับขี่แบบออฟโรด ซึ่ง MG Extender สามารถให้สมรรถนะที่เพียงพอและเชื่อถือได้ในทุกสถานการณ์