2012 Honda CR-V public

ฮอนด้า CR-V รุ่นไฮบริดใช้ระบบขับเคลื่อน i-MMD ที่มีความของแบรนด์ ระบบนี้ประกอบด้วยเครื่องยนต์อะตกินสันไซเคิล 20 ลิตร มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ทำงานในสามโหมดหลักคือขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอย่างเดียว ขับเคลื่อนแบบไฮบริด และขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์โดยตรง ในสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทย รถจะใช้โหมดไฟฟ้าเป็นหลักเพื่อลดการปล่อยมลพิษ เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดหรือจำเป็นต้องใช้กำลังสูง เครื่องยนต์จะทำหน้าที่ชาร์จแบตเตอรี่หรือขับเคลื่อนมอเตอร์โดยตรง ขณะขับทางไกลความเร็วสูงจะสลับเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนโดยตรงเพื่อเพิ่มความประหยัดน้ำมัน ระบบนี้เหมาะกับสภาพการจราจรที่ต้องหยุดและออกตัวบ่อยในไทย ลดอัตราการใช้น้ำมันรวมเหลือประมาณ 48-50 ลิตรต่อร้อยกิโลเมตร ประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่าเครื่องยนต์ปกติ นอกจากนี้อากาศร้อนชื้นในไทยทำให้ต้องมีการระบายความร้อนแบตเตอรี่ CR-V ไฮบริดจึงปรับปรุงระบบระบายความร้อน แบตเตอรี่ถูกติดตั้งใต้เบาะหลัง ไม่กระทบพื้นที่เก็บสัมภาระและลดปัญหาน้ำขังในฤดูฝน สำหรับผู้บริโภคไทย รถรุ่นนี้ยังมาพร้อมช่วงล่างปรับจูนเฉพาะท้องถิ่น เพื่อให้เหมาะกับสภาพถนนในประเทศมากที่สุด

ราคาของ Honda CR-V รุ่น Hybrid ในประเทศไทยตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 1.5 - 1.8 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือก นโยบายโปรโมชั่นของตัวแทนจำหน่าย และความแตกต่างของแต่ละพื้นที่ รุ่นนี้ใช้ระบบขับเคลื่อน i-MMD Hybrid ที่พัฒนามาอย่างดีจากฮอนด้า ให้ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันราว 20-22 กม./ลิตร ในสภาพการขับขี่ในเมืองแบบไทยๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย ถือว่าเหมาะมากๆ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถยนต์พลังงานสะอาด ทำให้รุ่น Hybrid มีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไป ในตลาดไทย CR-V Hybrid มีคู่แข่งหลักๆ อย่าง Toyota RAV4 Hybrid และ Mazda CX-5 ถ้าสนใจซื้อแนะนำให้เปรียบเทียบในเรื่องเครือข่ายบริการหลังการขาย มูลค่าการขายต่อ และความรู้สึกในการขับขี่ส่วนตัว ก่อนตัดสินใจซื้อสามารถเช็คข้อมูลรุ่นล่าสุดในเว็บไซต์ฮอนด้าไทย หรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายเพื่อทดลองขับและขอใบเสนอราคาแบบละเอียด บางรายอาจมีโปรโมชั่นผ่อนสบายๆ ดอกเบี้ยต่ำ หรือบริการฟรีเช็คระยะให้ด้วยนะ

ในตลาดไทย ฮอนด้า CR-V และโตโยต้า RAV4 เป็นเอสยูวีขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมสูงทั้งคู่มีความน่าเชื่อถือผ่านการใช้งานจริงในตลาดมานาน แต่มีจุดเด่นแตกต่างกัน โตโยต้า RAV4 โดดเด่นด้านความทนทานและอัตราขัดข้องต่ำ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 20 และ 25 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติที่มีเทคโนโลยีมั่นคง ดูแลรักษาง่าย เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกในไทย ฮอนด้า CR-V ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 15 ลิตรให้กำลังสูงและมีฟีเจอร์ภายในทันสมัย แต่ต้องบำรุงรักษาบ่อยกว่าเพื่อคงประสิทธิภาพ จากฟีดแบ็กผู้ใช้ไทย RAV4 มีมูลค่าขายต่อสูงกว่า สอดคล้องกับชื่อเสียงระดับโลก ส่วน CR-V ดึงดูดผู้บริโภครุ่นใหม่ด้วยประสบการณ์ขับขี่และอุปกรณ์ครบครัน ควรคำนึงถึงสภาพถนนและอากาศร้อนชื้นที่มีผลต่อระบบระบายความร้อนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แนะนำเข้าศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอ ทั้งสองรุ่นให้ความน่าเชื่อถือที่น่าพอใจ การเลือกขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล หากเน้นความทนทานและดูแลง่ายเลือก RAV4 หากชอบกำลังเครื่องและเทคโนโลยีเลือก CR-V

รถฮอนด้า ซีอาร์-วี ที่วางขายในตลาดไทยมักจะติดตั้งเซ็นเซอร์วัดออกซิเจน (O2 เซ็นเซอร์) ประมาณ 2-4 ตัว ขึ้นอยู่กับปีผลิต รุ่นเครื่องยนต์ และระบบควบคุมการปล่อยไอเสีย ยกตัวอย่างรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร ส่วนใหญ่จะมีเซ็นเซอร์ 4 ตัว (ด้านหน้าและด้านหลังอย่างละ 2 ตัว) ส่วนรุ่นเก่าที่ใช้เครื่องยนต์แบบแอทโมสเฟียร์ 2.0 หรือ 2.4 ลิตร อาจมีแค่ 2 ตัว เนื่องจากไทยเป็นประเทศเขตร้อนที่มีทั้งความร้อนและความชื้นสูง สภาพแบบนี้อาจทำให้เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบหรือเปลี่ยนเซ็นเซอร์เป็นประจำ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการเผาไหม้ของเครื่องยนต์และให้การปล่อยไอเสียเป็นไปตามมาตรฐาน หน้าที่หลักของ O2 เซ็นเซอร์คือวัดปริมาณออกซิเจนในไอเสียและส่งข้อมูลไปยัง ECU เพื่อปรับอัตราส่วนผสมอากาศ-เชื้อเพลิง ถ้าเซ็นเซอร์เสียอาจทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้นหรือไฟเตือนเครื่องยนต์ขึ้น เวลาซ่อมบำรุงในไทยสามารถเลือกใช้ของแท้จากศูนย์หรืออะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐาน JIS/DIN แนะนำให้หลีกเลี่ยงน้ำมันคุณภาพต่ำเพราะอาจทำให้เกิดคาร์บอนสะสมและส่งผลต่อการทำงานของเซ็นเซอร์ได้

ฮอนด้า ซีอาร์-วี เป็น SUV ยอดนิยมในตลาดไทย ที่ผ่านการอัพเกรดการออกแบบมาหลายรุ่น โดยปี 2002 (รุ่นที่ 2), 2007 (รุ่นที่ 3), 2012 (รุ่นที่ 4), 2017 (รุ่นที่ 5) และ 2022 (รุ่นที่ 6) ถือเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ โดยรุ่นปี 2017 เป็นที่พูดถึงมากในไทย ด้วยไฟหน้า LED ที่ดูเฉียบคมขึ้นและการออกแบบหลังคาลอยตัว ส่วนรุ่นล่าสุดปี 2022 ยิ่งเสริมลวดลายสปอร์ตและเพิ่มขนาดตัวรถให้ใหญ่ขึ้น ในตลาดไทย ซีอาร์-วี ติดท็อปขายดีมาอย่างยาวนาน เพราะมีพื้นที่กว้างขวางและประสิทธิภาพน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนในกรุงเทพฯ ทุกรุ่นที่ออกแบบมาจะมีการปรับปรุงระบบแอร์และป้องกันพื้นรถให้เหมาะกับสภาพอากาศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และล่าสุดยังเริ่มนำเข้ารุ่นไฮบริดมาให้เลือกในไทย เพื่อตอบเทรนด์รถประหยัดพลังงานที่คนไทยกำลังสนใจ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องเหล่านี้ทำให้ซีอาร์-วี ยังคงเป็นที่นิยมในตลาดอย่างเหนียวแน่น

โรงงานผลิต Honda CR-V Hybrid ส่วนใหญ่อยู่ในตลาดหลักอย่างญี่ปุ่น อเมริกา และจีน สำหรับรถ CR-V Hybrid ที่ขายในไทยนั้น มักนำเข้าจากโรงงานในญี่ปุ่นหรืออาเซียน โดยแหล่งที่มาอาจแตกต่างกันไปตามปีและรุ่นของรถ ในไทย CR-V Hybrid เป็นที่นิยมด้วยความประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด i-MMD ที่ฉลาดล้ำจากฮอนด้า ระบบนี้จะสลับโหมดการขับขี่ระหว่างไฟฟ้า ไฮบริด และเครื่องยนต์เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด คนไทยที่เลือก CR-V Hybrid จะได้สัมผัสเทคโนโลยีระดับโลก พร้อมบริการหลังการขายและการรับประกันจากเครือข่ายผู้จำหน่ายฮอนด้าในไทยที่ครบครัน ที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถไฮบริด เช่น การลดภาษี ทำให้ CR-V Hybrid มีความน่าสนใจในตลาดไทยมากขึ้น หากคุณกำลังคิดจะซื้อ CR-V Hybrid แนะนำให้ไปที่โชว์รูมฮอนด้าใกล้บ้านเพื่อสอบถามแหล่งนำเข้าและรายละเอียดรุ่นล่าสุด จะได้เลือกรุ่นที่เหมาะกับความต้องการของคุณที่สุด

ปัจจุบัน Honda CR-V ที่วางขายในตลาดประเทศไทย เน้นเสนอเครื่องยนต์ 2 แบบหลัก คือ 1.6 ลิตร เทอร์โบดีเซล และระบบไฮบริด 2.0 ลิตร โดยรุ่นไฮบริดเหมาะมากสำหรับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อย ช่วยประหยัดน้ำมันได้ชัดเจน ส่วนเรื่องความปลอดภัย ทาง Honda ติดตั้งระบบ Honda SENSING ให้เป็นมาตรฐานในรุ่นที่ขายในไทย ซึ่งมีฟังก์ชั่นอัตโนมัติและระบบช่วยเบรกป้องกันการชน ถือเป็นจุดเด่นที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและต่างจังหวัดของไทย ต้องบอกว่าจุดขายที่คนไทยชอบมากใน CR-V คือการจัดวางพื้นที่ภายในที่ยืดหยุ่น โดยเฉพาะเบาะหลังแบบ Magic Seat ที่พับลงเรียบได้หมด เหมาะมากสำหรับการเดินทางไกลช่วงวันหยุด ไม่ว่าจะไปหัวหินหรือเชียงใหม่ ก็สามารถขนของได้สบายๆ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน CR-V ในตลาดไทยยังได้เปรียบเรื่องเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม มีศูนย์บริการมากกว่า 150 แห่งทั่วประเทศ ที่สำคัญรุ่นล่าสุดยังอัพเกรดระบบแอร์ให้เหมาะกับอากาศร้อนของไทย พร้อมกระจกตัดแสง UV อีกด้วย ถ้าพูดถึงค่าใช้จ่ายในระยะยาว CR-V ถือเป็นรถที่มูลค่าการขายต่อสูงติดท็อป 3 ของตลาดรถมือสอง โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ให้ประกันแบตเตอรี่ยาวถึง 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร ทำให้คนไทยมั่นใจได้ว่าไม่ต้องกังวลเรื่องค่าซ่อมในภายหลัง

จากข้อมูลล่าสุดที่เรามีอยู่ รุ่นใหม่ล่าสุดของฮอนด้า ซีอาร์-วี คาดว่าจะเปิดตัวในตลาดไทยช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 โดยวันเวลาอาจมีการปรับเปลี่ยนตามแผนการตลาดของฮอนด้า ประเทศไทย รถ SUV ยอดนิยมระดับโลกรุ่นนี้ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องในไทย โดยรุ่นใหม่นี้คาดว่าจะยังคงจุดเด่นด้านความกว้างขวางและประโยชน์ใช้สอย พร้อมทั้งอาจมีการนำระบบไฮบริดที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไทยที่หันมาใส่ใจรถประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในตลาดไทย ซีอาร์-วี มีคู่แข่งสำคัญอย่างโตโยต้า RAV4 และมาสด้า CX-5 ซึ่งต่างก็มียอดขายดีในประเทศ สิ่งที่น่าสนใจคือไทยในฐานะฐานการผลิตรถยนต์สำคัญของอาเซียน การผลิตซีอาร์-วีในประเทศจะช่วยให้ราคาแข่งขันได้ ขณะที่นโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยในช่วงปีที่ผ่านมาอาจส่งผลต่อการเลือกระบบขับเคลื่อนของซีอาร์-วีรุ่นใหม่ด้วย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลประกาศเปิดตัวและรายละเอียดสเปคที่แน่นอนได้ทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของฮอนด้า ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่

ในตลาดประเทศไทย ฮอนด้า CR-V และ มาสด้า CX-5 เป็น SUV คอมแพคต์ที่ได้รับความนิยมสูงทั้งคู่ โดยแต่ละรุ่นมีความโดดเด่นด้านความทนทานต่างกันไป CR-V มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนที่พัฒนามาอย่างดีจากฮอนด้าและเครือข่ายบริการที่กว้างขวาง ทำให้อัตราการเสียหายจากการใช้งานระยะยาวต่ำ โดยเฉพาะเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตรที่ผ่านการพัฒนาต่อยอดมาหลายรุ่น มีความเสถียรแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย แถมยังมีมูลค่าซื้อขายต่อสูง ส่วน CX-5 นั้นโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Skyactiv ที่มีการจับคู่ระหว่างเครื่องยนต์แบบดูดอากาศธรรมชาติกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่เรียบเนียนและทนทาน พร้อมด้วยโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรง เหมาะกับสภาพถนนทางเขาของไทย อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศร้อนชื้นของไทยอาจส่งผลต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์และยางซีล จึงควรตรวจสอบระบบระบายความร้อนและจุดซีลเป็นประจำ ทั้งสองรุ่นมีระบบหลังการขายที่ครบครันในไทย โดย CR-V จะหาอะไหล่ได้ง่ายกว่า ส่วน CX-5 มีช่วงระยะการบำรุงรักษาที่นานกว่า ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการ หากเน้นการใช้สอยพื้นที่กว้างขวางแนะนำ CR-V แต่ถ้าชอบความรู้สึกในการขับขี่ละก็ CX-5 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน การปฏิบัติตามคู่มือการบำรุงรักษาและใช้อะไหล่แท้เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะบางพื้นที่ในไทยที่มีสภาพถนนไม่ดี แนะนำให้ตรวจสอบช่วงล่างบ่อยขึ้นเพื่อยืดอายุการใช้งานรถ

ฮอนด้า ซีอาร์-วี ในตลาดไทยมีตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน รุ่นที่วางขายอยู่ในตอนนี้ส่วนใหญ่ใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร (ซีรีส์ L15B) ที่ให้กำลังสูงสุด 193 แรงม้าและแรงบิด 243 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT ที่ช่วยให้ทั้งแรงขับและประหยัดน้ำมันไปพร้อมกัน โดยเฉพาะเหมาะกับการขับขี่ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องเจอกับการจราจรที่เป็นประจำ แม้ว่ารุ่นไฮบริด (เครื่องยนต์ 2.0L แบบ Atkinson Cycle + มอเตอร์คู่) ที่มีขายในบางประเทศจะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย แต่ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมสามารถติดตามข่าวการนำเข้ามาในอนาคตได้ เพราะรุ่นนี้มีความโดดเด่นในเรื่องการประหยัดน้ำมัน ต้องบอกว่าเครื่องยนต์ของ ซีอาร์-วี เวอร์ชั่นไทยได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนโดยเฉพาะ ทั้งระบบระบายความร้อนและการใช้งานกับน้ำมันเอธานอล E20 ที่นิยมใช้ในประเทศ แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐานและเปลี่ยนตามกำหนด สำหรับในกลุ่มรถขนาดเดียวกัน เทคโนโลยีเทอร์โบช่วยเพิ่มแรงบิดให้กับเครื่องยนต์ขนาดเล็กได้ดีกว่าเครื่องยนต์แบบปกติ ทำให้เวลาแซงหรือบรรทุกของจะรู้สึกถึงความแตกต่างชัดเจน แต่ต้องอย่าลืมเปลี่ยนสายพานตามระยะที่คู่มือกำหนดเพื่อความทนทานในระยะยาว