




MG VS HEV X 2022
อันดับ 43 ของ SUV ที่ดีที่สุดราคา
THB 759,000
ภาพรวม
ข้อมูลจำเพาะหลัก
ราคา
ไฮไลท์
ปัญหาทั่วไป
รุ่นอื่นๆ
ราคาขายต่อ
ตัวแทนจำหน่าย
Q&A เกี่ยวข้อง
ภาพรวม
พบกับรุ่น MG VS HEV X 2022 รถยนต์ประเภท B-Segment ที่เน้นการใช้งานจริง เปิดตัวตั้งแต่ปี 2022 ราคาเริ่มต้นที่ THB 759,000 รองรับผู้โดยสารได้ 5 คนอย่างสะดวกสบายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ขนาด 4370 x 1809 x 1653 มม เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและการใช้งานในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว
ขับทางไกลได้อย่างคล่องแคล่วด้วยความเร็วสูงสุด - กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์ขนาด 1498 ซีซี มอบทั้งพละกำลังและความประหยัด ใครที่มองหารถใช้งานง่าย ดีไซน์สวย รุ่น MG VS HEV X 2022 คือทางเลือกที่รวมความคุ้มค่า ความทันสมัย และสมรรถนะสำหรับทุกวันไว้ในคันเดียว
ขับทางไกลได้อย่างคล่องแคล่วด้วยความเร็วสูงสุด - กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์ขนาด 1498 ซีซี มอบทั้งพละกำลังและความประหยัด ใครที่มองหารถใช้งานง่าย ดีไซน์สวย รุ่น MG VS HEV X 2022 คือทางเลือกที่รวมความคุ้มค่า ความทันสมัย และสมรรถนะสำหรับทุกวันไว้ในคันเดียว
ข้อมูลจำเพาะหลัก

เซกเมนท์
B-Segment

ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี)
1498

ระบบเกียร์
E-CVT

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน (ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร)
4.1

ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)
48

ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
-

จำนวนที่นั่ง
5

ความยาว (มิลลิเมตร)
4370

ความกว้าง (มิลลิเมตร)
1809

ความสูง (มิลลิเมตร)
1653

ฐานล้อ (มิลลิเมตร)
2585

ท้าย(ลิตร)
-
รุ่นอื่นๆ
Q&A เกี่ยวข้อง
ดูเพิ่มเติม >Q
BYD M6 อยู่ใน Segment อะไร
BYD M6 ในตลาดไทยจัดอยู่ในกลุ่มรถ MPV หรือรถอเนกประสงค์ กลุ่มลูกค้าหลักคือครอบครัวและการใช้งานเชิงธุรกิจ ด้วยห้องโดยสารกว้างและการจัดวางเบาะที่ยืดหยุ่น เหมาะกับครอบครัวใหญ่หรือการเดินทางเป็นหมู่คณะซึ่งพบได้บ่อยในไทย รถรุ่นนี้มาพร้อมระบบไฟฟ้าหรือไฮบริดที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย ทั้งยังเด่นด้านความสะดวกสบายและการใช้งานจริง รองรับทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล ในไทยรถ MPV ได้รับความนิยมสูงเพราะใช้งานได้อเนกประสงค์ ทั้งขับในเมืองที่รถติดหรือเดินทางต่างจังหวัด BYD M6 จึงเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจในตลาดนี้ด้วยจุดเด่นด้านความประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ผู้ซื้อชาวไทยมักให้ความสำคัญกับความประหยัดน้ำมันและค่าดูแลรักษา BYD M6 ในฐานะรถพลังงานใหม่จึงได้เปรียบในเรื่องนี้ อีกทั้งยังมีนโยบายสนับสนุนจากรัฐ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจในตลาดได้มากขึ้น
Q
RAM 2500 มีระบบขับเคลื่อนแบบ AWD (ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบอัตโนมัติ) ไหม?
RAM 2500 บางรุ่นมาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ AWD (All Wheel Drive) หรือระบบขับเคลื่อนทุกล้อ โดยรุ่นที่มีระบบนี้ ได้แก่ Ram 2500 Laramie 6.4L V8 ปี 2023, Ram 2500 Rebel 6.4L V8 ปี 2023, Ram 2500 Power Wagon 6.4L V8 ปี 2023, Ram 2500 Limited Longhorn 6.7L I-6 ปี 2023 และ Ram 2500 Limited 6.7L I-6 ปี 2023 ซึ่งระบบขับเคลื่อนทุกล้อนี้ช่วยให้รถมีแรงเกาะถนนดีขึ้น โดยเฉพาะเวลาขับบนถนนลื่น ทางโคลน หรือในสภาพอากาศที่มีหิมะ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นคงขณะขับขี่ เพราะสามารถส่งกำลังไปยังทั้งสี่ล้อได้
ในขณะที่รุ่นอย่าง Ram 2500 Tradesman 6.4L V8 ปี 2023 และ Ram 2500 Big Horn 6.4L V8 ปี 2023 จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (4x2) ซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไปหรือใช้งานบนถนนเรียบ ผู้ซื้อสามารถเลือกประเภทระบบขับเคลื่อนตามลักษณะการใช้งานและความต้องการของตนเองได้เลย
Q
Jaguar I-PACE มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสูงหรือไม่?
ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา Jaguar I-PACE สูงหรือต่ำ เนื่องจากค่าใช้จ่ายดังกล่าวขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รายการบำรุงรักษาที่ต้องดำเนินการ พื้นที่หรือภูมิภาคที่ใช้งาน สภาพรถ และอายุการใช้งานของตัวรถ โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อได้เปรียบด้านการบำรุงรักษาเมื่อเทียบกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป เนื่องจากไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมัน หรือชิ้นส่วนสิ้นเปลืองบางรายการ อย่างไรก็ตาม Jaguar I-PACE เป็นรถยนต์ระดับพรีเมียม ดังนั้นราคาของอะไหล่และอุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น ระบบแบตเตอรี่ หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง อาจมีต้นทุนการตรวจเช็กหรือซ่อมแซมที่สูงกว่ารถทั่วไป สำหรับบางรุ่นที่ใช้ชิ้นส่วนเฉพาะ เช่น ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าหรือชิ้นส่วนตกแต่งระดับไฮเอนด์ อาจมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่ที่ค่อนข้างสูง แต่หากเปรียบเทียบกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับหรูจากแบรนด์อื่น หรือรถเครื่องยนต์ภายในของ Jaguar เอง จะสามารถประเมินได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าค่าใช้จ่ายอยู่ในระดับใด เพื่อความชัดเจน แนะนำให้สอบถามโดยตรงจากศูนย์บริการ Jaguar หรือผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในพื้นที่ เพื่อขอข้อมูลค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ถูกต้อง
Q
ยี่ห้อยางรถยนต์ของ Honda Jazz คืออะไร
ยางติดรถจากโรงงานของ Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันตามปีรุ่นและระดับการตกแต่ง โดยทั่วไปจะใช้ยี่ห้อญี่ปุ่นที่พบได้บ่อย เช่น Bridgestone Dunlop หรือ Yokohama ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีความนิยมสูงในไทยและเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศ เช่น ยางซีรีส์ ECOPIA ของ Bridgestone ที่เน้นความประหยัดน้ำมันและทนทาน เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง ผู้ใช้รถในไทยควรพิจารณาสภาพอากาศที่มีฝนตกบ่อย โดยแนะนำให้ตรวจสอบค่าการยึดเกาะบนถนนเปียก เช่น ระดับ Traction จากมาตรฐาน UTQG และเนื่องจากสภาพถนนในไทยมีความหลากหลาย จึงควรเลือกยางที่มีความแข็งแรงของแก้มยางที่เหมาะสม หากต้องการเปลี่ยนยางที่ไม่ใช่ของเดิมจากโรงงาน แนะนำให้ตรวจสอบสัญลักษณ์รับรองมาตรฐาน TISI จากกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้มั่นใจว่ายางนั้นปลอดภัยต่อการใช้งานในประเทศไทย ยางแบรนด์ระดับสากล เช่น Michelin ที่มีการผลิตในไทยก็เป็นทางเลือกที่ดี ทั้งในด้านความคุ้มค่าและการบริการหลังการขาย
Q
ขนาดยาง Honda City Hatchback คืออะไร ตรวจสอบมาตรฐานได้ที่นี่
รถฮอนด้า ซีวีแฮทช์แบ็กจะมีขนาดยางที่แตกต่างกันไปตามรุ่นและแบบที่เลือก โดยทั่วไปแล้วจะมีการใช้ล้อที่มีขนาดแตกต่างกัน เช่น 15 นิ้ว 16 นิ้ว หรือ 17 นิ้ว ซึ่งจะใช้ยางที่มีขนาดเหมาะสมกับล้อนั้นๆ ตัวอย่างขนาดยางที่อาจพบได้ เช่น 185/65 R15, 195/60 R16, 205/55 R17 เป็นต้น ในขนาดยางนี้ ตัวเลขแรกอย่าง 185, 195, 205 หมายถึงความกว้างของยางมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ตัวเลขกลางอย่าง 65, 60, 55 คืออัตราส่วนความสูงของยางต่อความกว้างเป็นเปอร์เซ็นต์ และตัวเลขสุดท้ายอย่าง R15, R16, R17 คือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว การเข้าใจขนาดยางเป็นสิ่งสำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับการควบคุมรถ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ควรตรวจสอบสภาพยางเป็นประจำเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
Q
ความเร็วสูงสุดของ Porsche 911 คือเท่าไหร่ มาดูความเร็วสูงสุดของมันกัน
Porsche 911 ในฐานะรถสปอร์ตคลาสสิก มีความเร็วสูงสุดที่แตกต่างกันตามแต่ละรุ่น เช่น รุ่น 911 Turbo S สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่รุ่นที่เน้นสมรรถนะในสนามแข่งอย่าง 911 GT3 RS ทำได้สูงสุดประมาณ 296 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญด้านสมรรถนะและแอโรไดนามิกของ Porsche ได้เป็นอย่างดี ในประเทศไทย แม้กฎหมายจำกัดความเร็วบนถนนเมืองจะเข้มงวด แต่ยังมีสนามแข่งมาตรฐาน เช่น สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ หรือสนามแข่งรถในจังหวัดชลบุรี ที่เปิดโอกาสให้ผู้รักความเร็วได้สัมผัสขีดสุดของรถสมรรถนะสูงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย Porsche 911 ไม่เพียงโดดเด่นด้านพละกำลัง แต่ยังมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ PDK แบบคลัตช์คู่และระบบช่วงล่างที่ปรับจูนมาอย่างแม่นยำ ทำให้สามารถควบคุมได้ดีแม้ในสภาพถนนเมืองไทยที่ร้อนจัดและมีโค้งเยอะ นอกจากนี้ 911 ยังมีโหมดการขับขี่หลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานประจำวันอย่างสะดวกสบาย และการขับขี่ในสนามแข่งที่เร้าใจ ถือเป็นตัวเลือกในฝันสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร็วและการควบคุมรถอย่างแท้จริงในประเทศไทย
Q
วิธีการใช้ไม้ปัดน้ำฝนด้านหลังรถยนต์โตโยต้า
ในประเทศไทย วิธีการใช้งานที่ปัดน้ำฝนหลังของรถยนต์ Toyota ค่อนข้างง่าย โดยปกติแล้วคันบังคับจะอยู่ที่ก้านขวาของพวงมาลัย หากดันก้านลงไปหนึ่งครั้ง ที่ปัดน้ำฝนหลังจะทำงานแบบกระตุก หากดันลงอีกครั้ง ที่ปัดน้ำฝนหลังจะทำงานต่อเนื่องแบบช้า และหากดันลงอีก ที่ปัดน้ำฝนหลังจะทำงานต่อเนื่องแบบเร็ว การดันก้านขึ้นจะหยุดการทำงานของที่ปัดน้ำฝนหลัง แม้ว่ารูปแบบการใช้งานอาจแตกต่างกันเล็กน้อยในบางรุ่น แต่หลักการใช้งานโดยรวมเหมือนกัน
Q
หัวเทียน Honda City หมายเลขอะไร
รุ่นของหัวเทียนที่ใช้ใน Honda City อาจแตกต่างกันไปตามปีและรุ่นของรถ โดยทั่วไปแล้ว รุ่นที่พบบ่อย เช่น NGK ILZKR7B-11S เป็นต้น แต่เพื่อความแน่ใจในการเลือกหัวเทียนที่เหมาะสมกับรถของคุณ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่าย Honda ในท้องถิ่นหรือร้านซ่อมรถที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมกับรถของคุณ
Q
"Xpander Cross มีระยะทางเท่าไหร่ต่อลิตรในระบบกิโลเมตร"
Mitsubishi Xpander Cross ในแต่ละรุ่นมีประเภทเชื้อเพลิงแตกต่างกัน ได้แก่ รุ่นที่ใช้เฉพาะน้ำมันเบนซิน และรุ่นไฮบริดที่ใช้น้ำมันเบนซินร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ต่อเชื้อเพลิง 1 ลิตร (อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง) จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุก โดยทั่วไปแล้ว หากวิ่งในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น รถยนต์ทั่วไปจะวิ่งได้ประมาณ 10–15 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนบนทางด่วนหรือถนนที่มีความเร็วคงที่ อัตราสิ้นเปลืองจะดีขึ้น โดยอาจวิ่งได้ประมาณ 20–30 กิโลเมตรต่อลิตร ตัวอย่างเช่น รถที่มีความจุกระบอกสูบ 1.6 ลิตร หากวิ่งบนทางด่วนจะมีอัตราสิ้นเปลืองประมาณ 6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือประมาณ 16.67 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนถ้าขับในเมืองจะอยู่ที่ประมาณ 8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือประมาณ 12.5 กิโลเมตรต่อลิตร ดังนั้น หาก Xpander Cross วิ่งในสภาพการใช้งานผสมทั้งในเมืองและทางไกล (สภาพการขับขี่ทั่วไป) คาดว่าอัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ในช่วงประมาณ 10–20 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่าเป็นค่าปกติสำหรับรถในกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม เพื่อความแม่นยำ แนะนำให้ผู้ใช้งานตรวจสอบข้อมูลเฉพาะรุ่นจากคู่มือรถ หรือสอบถามข้อมูลจากผู้จำหน่ายโดยตรง
Q
แบตเตอรี่ของ BMW X1 มีความจุกี่กิโลวัตต์ชั่วโมง?
ความจุแบตเตอรี่ของ BMW X1 นั้นขึ้นอยู่กับรุ่นและระบบขับเคลื่อนที่เลือกใช้ สำหรับในตลาดไทย รุ่น plug-in hybrid อย่าง BMW X1 xDrive25e จะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมความจุ 10kWh ให้ระยะทางไฟฟ้าล้วนประมาณ 50-55 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) เหมาะกับการขับขี่ในเมืองอย่างในกรุงเทพฯ ส่วนรุ่นที่ใช้น้ำมันจะใช้แบตเตอรี่ตะกั่วกรด 12V ความจุประมาณ 70Ah ในสภาพอากาศร้อนแบบประเทศไทย แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำ โดยเฉพาะระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่ในรุ่น plug-in hybrid เพราะความร้อนอาจส่งผลต่ออายุการใช้งาน BMW ศูนย์ไทยมีบริการตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ให้ และรัฐบาลไทยยังมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถพลังงานสะอาดอย่างรุ่น plug-in hybrid ของ X1 อีกด้วย อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่ย่อมเสื่อมสภาพไปตามการใช้งาน แต่ BMW ให้การรับประกันแบตเตอรี่สูงถึง 8 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร สำหรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ แนะนำให้ใช้บริการผ่านช่องทางทางการเพื่อให้ได้อะไหล่แท้ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย เพราะแบตเตอรี่จากแหล่งอื่นอาจมีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้