Q

ระบบจุดระเบิดของ Toyota

สำหรับระบบจุดระเบิดของรถ Toyota ในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบประเทศไทย แนะนำให้ตรวจสอบสภาพของหัวเทียนและคอยล์จุดระเบิดเป็นประจำ เพราะความร้อนและความชื้นสูงจะเร่งให้ระบบไฟฟ้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น รุ่น Toyota ส่วนใหญ่ใช้ระบบคอยล์คู่ซึ่งมีความทนทานดี แต่การสตาร์ทและหยุดบ่อยๆ ในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ จะเพิ่มภาระให้ระบบ สำหรับรถเก่าที่ใช้งานมากกว่า 10 ปี ควรเปลี่ยนหัวเทียนทุก 60,000 กิโลเมตร และตรวจสอบสายจุดระเบิดว่ามีรอยร้าวหรือไม่ ที่น่าสนใจคือเครื่องยนต์ 1.3L และ 1.5L ที่พบทั่วไปในตลาดไทยสามารถใช้งานกับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดี แต่การใช้เบนซิน 95 จะช่วยรักษาความสะอาดของระบบจุดระเบิดได้ดีกว่า หากพบปัญหาสตาร์ทติดยากตอนเช้าหรือรถกระตุกเวลาออกรถ แนะนำให้อ่านค่าผิดปกติผ่านเครื่อง OBD ก่อน รหัส P0300 ที่แสดงว่ามีการจุดระเบิดผิดพลาดมักเกี่ยวข้องกับระบบนี้ ปัจจุบันศูนย์บริการ Toyota ในไทยมีแพ็กเกจดูแลระบบจุดระเบิดแบบละเอียด รวมทั้งการตรวจสอบความต้านทานคอยล์และรีเซ็ตข้อมูล ECU เหมาะสำหรับทำก่อนเข้าฤดูฝน ส่วนรถไฮบริดนั้นระบบจุดระเบิดทำงานต่างจากรถทั่วไป ควรตรวจสอบตามคู่มือการดูแลรักษาที่กำหนด
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

Q&A ล่าสุด

Q
2021 Mazda CX-5 ต้องการน้ำมันเบนซินพรีเมียมหรือไม่?
คู่มือการใช้งานอย่างเป็นทางการของ Mazda CX-5 ปี 2021 แนะนำให้ใช้เชื้อเพลิงเบนซินที่มีค่าออกเทน 91 ขึ้นไปเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แต่ไม่ใช่ข้อบังคับ หากใช้เชื้อเพลิงเบนซินทั่วไปที่มีค่าออกเทน 87 เครื่องยนต์สามารถปรับจังหวะการจุดระเบิดได้ แม้ว่าอาจทำให้กำลังและประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันลดลงเล็กน้อยก็ตาม เทคโนโลยีเครื่องยนต์ Skyactiv-G ของ Mazda ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ด้วยการออกแบบอัตราส่วนการอัดสูง การใช้เชื้อเพลิงเบนซินที่มีค่าออกเทนสูงกว่าจะช่วยให้ใช้ประโยชน์จากข้อดีทางเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนหรือระหว่างการขับขี่ด้วยความเร็วสูงบ่อยครั้ง ซึ่งเชื้อเพลิงเบนซินที่มีค่าออกเทนสูงกว่าจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดการน็อค สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ การผสมเชื้อเพลิงเบนซินที่มีค่าออกเทนต่างกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดคราบคาร์บอนสะสมมากขึ้น ขอแนะนำให้เลือกใช้ตามความต้องการในการขับขี่จริง หากใช้เดินทางในเมืองเป็นหลัก เชื้อเพลิงเบนซินทั่วไปก็เพียงพอ ในขณะที่แนะนำให้ใช้เชื้อเพลิงเบนซินพรีเมียมสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ดีกว่าหรือเดินทางไกลโดยบรรทุกสัมภาระเต็มพิกัดบ่อยครั้ง สำหรับการเลือกปั๊มน้ำมัน ควรเลือกปั๊มขนาดใหญ่ เช่น PTT และบางจาก เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพน้ำมันที่สม่ำเสมอ การเติมสารเพิ่มประสิทธิภาพเชื้อเพลิงตามคำแนะนำของผู้ผลิตเป็นประจำจะช่วยรักษาระบบเชื้อเพลิงให้สะอาด นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลได้ เช่น การใช้เชื้อเพลิงเบนซินที่มีค่าออกเทนสูงกว่าในช่วงฤดูร้อนและแห้งแล้งอาจเป็นประโยชน์มากกว่า
Q
รถ Mazda CX-5 ปี 2021 มีไฟหน้า LED ไหม?
รุ่น Mazda CX-5 ปี 2021 ในบางรุ่นระดับสูงมีการติดตั้งไฟหน้าแบบ LED ซึ่งรวมถึงไฟต่ำ ไฟสูง และไฟกลางวัน เทคโนโลยีการให้แสงสว่างแบบนี้ไม่เพียงให้ทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้นตอนกลางคืน แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานและใช้งานได้ยาวนานกว่า เหมาะสมทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล ไฟหน้าแบบ LED เมื่อเทียบกับไฟหลอดฮาโลเจนแบบเดิมนั้นมีความโดดเด่นกว่าในหลายด้าน เช่น ตอบสนองเร็วกว่า ให้แสงสว่างมากกว่า และอายุการใช้งานยาวนานกว่า แม้ในวันที่ฝนตกหรือมีหมอกก็ยังให้แสงที่ทะลุผ่านได้ดี ถ้าคุณกำลังมองหารถมือสองหรือรถสต็อกใหม่ แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดในสเปคของรถหรือสอบถามกับตัวแทนจำหน่ายเพื่อยืนยันประเภทของไฟหน้า เพราะแต่ละรุ่นอาจมีความแตกต่างกัน นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาไฟ LED นั้นต่ำ แต่หากเกิดความเสียหายอาจต้องให้ช่างมืออาชีพซ่อมแซม โชคดีที่ศูนย์บริการ 4S ในท้องถิ่นมักให้บริการได้อย่างครบวงจร สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการขับขี่ตอนกลางคืน ไฟหน้าแบบ LED ถือเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจ และยังสามารถตรวจสอบเพิ่มเติมว่ารถมีระบบไฟอัตโนมัติหรือระบบปรับแสงไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติหรือไม่ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
Q
วิธีเปิดใช้งานหน้าจอสัมผัสบน Mazda CX-5 รุ่นปี 2021
ฟังก์ชันหน้าจอสัมผัสใน Mazda CX-5 ปี 2021 จำเป็นต้องเปิดใช้งานด้วยตนเองผ่านการตั้งค่าระบบ ขั้นตอนเฉพาะมีดังนี้: หลังจากสตาร์ทรถแล้ว ให้เข้าสู่เมนูคอนโซลกลางหลัก เลือก "การตั้งค่า" - "จอแสดงผล" - "การตั้งค่าหน้าจอสัมผัส" และเลือกตัวเลือก "เปิดใช้งานหน้าจอสัมผัส" ในบางรุ่นอาจต้องกดปุ่ม "ย้อนกลับ" และ "เพลง" บนพวงมาลัยค้างไว้พร้อมกันเป็นเวลา 10 วินาทีเพื่อเปิดใช้งานเมนูที่ซ่อนอยู่ สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ Mazda ปิดใช้งานหน้าจอสัมผัสโดยค่าเริ่มต้นขณะขับขี่ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย โดยรองรับการใช้งานเฉพาะที่ความเร็วต่ำหรือขณะจอดนิ่งเท่านั้น ปรัชญาการออกแบบนี้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในการขับขี่ที่เข้มงวดของกฎหมายจราจรในท้องถิ่น ตรรกะด้านความปลอดภัยที่คล้ายกันนี้ใช้ในรถ SUV สัญชาติญี่ปุ่นรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน เช่น Toyota RAV4 หรือ Honda CR-V ผู้ขับขี่ควรให้ความสำคัญกับการควบคุมแบบหมุนหรือคำสั่งเสียงที่ปลอดภัยกว่า หากหน้าจอสัมผัสทำงานผิดปกติหลังจากอัปเกรดระบบ ให้ลองถอดขั้วลบของแบตเตอรี่เป็นเวลา 5 นาทีเพื่อรีเซ็ตระบบสาระบันเทิง หรือไปที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตเพื่อตรวจสอบ ศูนย์บริการ 4S ในกรุงเทพฯ และเชียงหวู่ ให้บริการปรับแต่งระบบสาระบันเทิงฟรี แม้ว่าเทคโนโลยีหน้าจอสัมผัสจะถูกนำมาใช้ในรถยนต์สมัยใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่การสร้างสมดุลระหว่างความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ผลิตรถยนต์ต้องพิจารณา
Q
อายุการใช้งานเฉลี่ยของ Mazda CX-5 ปี 2021 คือเท่าไหร่?
รถยนต์ Mazda CX-5 รุ่นปี 2021 ในกรณีที่ใช้งานปกติและดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 150,000-200,000 กิโลเมตร หรือมากกว่า 10 ปี ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และความถี่ในการบำรุงรักษา เครื่องยนต์และเกียร์ Skyactiv ของรุ่นนี้มีชื่อเรื่องความทนทานเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้น แนะนำให้ดูแลระบบระบายความร้อนและแอร์เป็นพิเศษ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากความร้อนและความชื้นต่อยางและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์เต็มรูปแบบอย่างสม่ำเสมอ รักษาความดันลมยางให้เหมาะสม และทำความสะอาดคราบฝุ่นที่หม้อน้ำจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้ดี ส่วนระบบป้องกันสนิมของช่วงล่าง Skyactiv ช่วยรับมือกับสภาพอากาศชื้นในฤดูฝนได้ดี แต่ควรตรวจสอบช่วงล่างปีละครั้ง สำหรับรุ่นไฮบริด แบตเตอรี่อาจเสื่อมสภาพเร็วขึ้นเล็กน้อยในพื้นที่ร้อน แต่โดยทั่วไปยังใช้งานได้ปกติ 8-10 ปี การใช้อะไหล่แท้และศูนย์บริการที่ได้รับการรับถือมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะสำหรับระบบควบคุม G-Vectoring ที่ต้องการความแม่นยำ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน CX-5 มีอะไหล่พร้อมจำหน่ายและค่าบำรุงรักษาที่สมเหตุสมผล รวมถึงมีมูลค่าขายต่อในระดับปานกลางถึงค่อนข้างดี
Q
คุณควรจ่ายเท่าไหร่สำหรับ Mazda CX-5 ปี 2021?
ราคารถมือสอง Mazda CX-5 รุ่นปี 2021 จะขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทาง เวอร์ชั่นอุปกรณ์และพื้นที่ โดยราคาตลาดตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 800,000 ถึง 1,200,000 บาท ถ้าเป็นรุ่นพื้นฐานที่วิ่งน้อย (ประมาณไม่เกิน 30,000 กม.) อาจจะตกอยู่ที่ 800,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุดแบบเทอร์โบหรือรถที่วิ่งน้อยมากๆ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นรถใหม่ก็อาจจะพุ่งไปถึง 1,200,000 บาท แนะนำว่าก่อนซื้อควรเปรียบเทียบราคาในแพลตฟอร์มขายรถมือสองชื่อดังๆ และต้องเช็คประวัติการบริการให้ดี โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ Skyactiv และสภาพยางรองช่วงล่าง เพราะแม้การขับขี่ของ Mazda จะตอบโจทย์กับถนนโค้งๆ ในไทยได้ดี แต่ต้องระวังเรื่องค่าอะไหล่ของรุ่นท็อปที่นำเข้าซึ่งอาจจะแพงหน่อย ถ้าจะกู้ซื้อก็ลองเปรียบเทียบดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินในท้องถิ่นดู เพราะดอกเบี้ยรถมือสองมักจะสูงกว่าซื้อรถใหม่ประมาณ 2-3% ในราคาใกล้เคียงกันก็อาจจะมองรถญี่ปุ่นรุ่นอื่นๆ ที่ออกปีเดียวกันได้ แต่ต้องบอกว่า CX-5 ยังคงมีความโดดเด่นในเรื่องความเงียบและความรู้สึกหรูๆ ภายในห้องโดยสาร เหมาะกับคนที่ชอบความรู้สึกในการขับขี่แบบเน้นคุณภาพ
ดูเพิ่มเติม