Q
Tesla Model 3 จำเป็นต้องชาร์จไฟทุกคืนหรือไม่"
สำหรับคำถามว่า Tesla Model 3 เหมาะจะชาร์จทุกคืนไหม ตอบเลยว่าได้ แต่มีรายละเอียดนิดหน่อยที่ต้องระวัง ระบบจัดการแบตเตอรี่ของ Model 3 นั้นฉลาดมาก มันจะปรับการชาร์จอัตโนมัติตามสถานะของแบตเตอรี่ ทำให้ไม่เกิดการชาร์จเกินหรือร้อนเกิน ดังนั้นการชาร์จทุกวันปกติจะไม่ส่งผลเสียต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่มากนัก แต่แนะนำให้ตั้งค่าการชาร์จไว้ที่ 80%-90% โดยเฉพาะในพื้นที่อากาศร้อนแบบไทย จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้อีกหน่อย ถ้าต้องขับทางไกลบ่อยๆ ชาร์จเต็มบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่เต็ม 100% ตลอดเวลา นอกจากนี้เวลาชาร์จที่บ้านแนะนำให้ใช้โหมดชาร์จช้าจะดีต่อแบตเตอรี่มากกว่า ส่วนสถานีชาร์จเร็วเหมาะสำหรับกรณีจำเป็นจริงๆ และควรหลีกเลี่ยงการชาร์จทันทีเมื่อแบตเตอรี่ร้อนเกิน เช่น หลังจากจอดตากแดดนานๆ ควรพักสักครู่ก่อนชาร์จ โดยรวมแล้วแบตเตอรี่ของ Model 3 ออกแบบมาสำหรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ แค่ทำตามคำแนะนำพื้นฐานเหล่านี้ก็สามารถชาร์จได้ตามปกติโดยไม่ต้องกังวลมากเกินไป
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
รถยนต์ Tesla มีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหนในปี 2024?
ในปี 2024 รถยนต์ Tesla มีความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับกลางถึงดีเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าโดยรวม ระบบการจัดการแบตเตอรี่และเทคโนโลยีการอัพเกรดระยะไกล OTA มีวุฒิภาวะสูงกว่าสามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มประสิทธิภาพยานพาหนะอย่างต่อเนื่องเสถียรภาพของระบบปรับอากาศในสภาพอากาศเขตร้อนยังได้รับการปรับให้เหมาะสมกับเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม รุ่นเก่าบางรุ่นอาจมีอัตราเสียหายของหน้าจอสัมผัสสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเล็กน้อย แต่ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้วในรุ่นที่ผลิตหลังปี 2023 ผ่านการอัปเกรดฮาร์ดแวร์
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถไฟฟ้าต่ำกว่ารถยนต์น้ำมันประมาณ 30%-40% แต่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูงขึ้นจากอุบัติเหตุเล็กน้อยที่เกิดจากเทคโนโลยีการหล่อขึ้นรูปแบบบูรณาการของร่างกาย จึงแนะนำให้เลือกซื้อประกันที่รวมความคุ้มครองแบตเตอรี่ไว้ด้วย สำหรับเครือข่ายสถานีชาร์จ สถานี Supercharger ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหลักเช่น กรุงเทพฯ พัทยา เป็นต้น ส่วนสถานีชาร์จของบริษัทอื่นก็ใช้งานร่วมกันได้ดี แต่ยังต้องพัฒนาครอบคลุมในพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือเพิ่มเติม
สิ่งที่ควรทราบคือ ระบบขับขี่อัตโนมัติของ Tesla กำลังปรับปรุงให้เหมาะกับสภาพท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง แต่ในสภาพถนนที่ซับซ้อน แต่ผู้ขับขี่ยังคงต้องให้ความสนใจกับสภาพถนนที่ซับซ้อน เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้ารุ่นเดียวกัน Tesla ยังคงมีอัตราการรักษามูลค่าสูงในตลาดมือสอง แต่ปัจจัยนี้ขึ้นอยู่กับสภาพสุขภาพของแบตเตอรี่เป็นอย่างมาก จึงแนะนำให้ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำผ่านการวินิจฉัยของทางบริษัท
Q
ความจุแบตเตอรี่ของ Tesla Model 3 คือเท่าไหร่
ความจุแบตเตอรี่ของ Tesla Model 3 จะแตกต่างกันไปตามรุ่นรถ ในตลาดไทยปัจจุบัน รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มีความจุแบตเตอรี่ประมาณ 57.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ส่วนรุ่น Long Range และ Performance จะติดตั้งแบตเตอรี่ประมาณ 75 กิโลวัตต์-ชั่วโมง และ 82 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ตามลำดับ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตหรือการอัปเดตคอนฟิก จึงแนะนำให้ตรวจสอบสเปกล่าสุดผ่านเว็บไซต์ Tesla ประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการก่อนตัดสินใจซื้อรถ
สำหรับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เช่น การเปิดแอร์บ่อยขึ้นในสภาพอากาศร้อนจะทำให้ใช้พลังงานมากขึ้น ดังนั้นเจ้าของรถควรวางแผนการชาร์จให้เหมาะสม และใช้ประโยชน์จากเครือข่าย Supercharger ของ Tesla ที่กำลังขยายตัวในประเทศไทย
ที่น่าสนใจคือระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ของ Tesla สามารถตรวจสอบและควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสำคัญมากสำหรับประเทศเขตร้อนอย่างไทย ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่และรักษาความปลอดภัยในการขับขี่
Q
วิธีเปิดที่นั่งที่ทำความร้อนด้านหลัง Tesla Model 3
การเปิดใช้งานระบบทำความร้อนเบาะหลังใน Tesla Model 3 นั้นง่ายมาก แค่เข้าไปที่เมนูควบคุมแอร์ผ่านหน้าจอกลาง จากนั้นแตะไอคอนทำความร้อนเบาะที่ด้านล่างของหน้าจอ เลือกเบาะหลังก็สามารถปรับระดับความร้อนได้แล้ว โดยปกติแล้ว Model 3 จะมีให้เลือก 3 ระดับ เหมาะกับอากาศเย็นๆ ในช่วงฤดูฝนหรือทางเหนือของไทย ที่ควรรู้คือรุ่นเก่าบางคันอาจต้องอัปเดตซอฟต์แวร์ก่อนถึงจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ แนะนำให้ตรวจสอบการอัปเดตระบบรถอย่างสม่ำเสมอ เวลาใช้ในไทยแนะนำให้เปิดแอร์ควบคู่ไปด้วยเพื่อควบคุมความชื้นในรถ เพราะอากาศร้อนชื้นของไทยอาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ระบบทำความร้อนเบาะของ Tesla ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้ความร้อนสม่ำเสมอและประหยัดไฟกว่าวิธีแบบเดิมๆ ซึ่งเหมาะกับค่ากระแสไฟฟ้าในไทยที่ค่อนข้างสูง ถ้าใช้เป็นเวลานานแนะนำให้ปรับความร้อนอยู่ที่ระดับกลางแทนการเปิดเต็มกำลัง จะได้ทั้งความสบายและประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ในวันที่อากาศร้อนควรปิดระบบนี้เมื่อลงจากรถเพื่อไม่ให้เปลืองไฟโดยเปล่าประโยชน์ การดูแลรายละเอียดเล็กน้อยแบบนี้จะช่วยให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น
Q
การปรับความสูงและตำแหน่งของพวงมาลัย Tesla Model 3 ต้องทำอย่างไร
การปรับความสูงและตำแหน่งพวงมาลัยของ Tesla Model 3 เมื่อขับขี่ในประเทศไทยนั้นทำได้ง่ายมาก แค่เข้าไปที่เมนู "ควบคุม" ในหน้าจอกลาง แล้วเลือก "คันเร่งและพวงมาลัย" จากนั้นกด "ปรับพวงมาลัย" ก็สามารถปรับพวงมาลัยด้วยมือให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับท่านได้ พอปรับเสร็จก็กดบันทึก แบบนี้คนไทยรูปร่างต่างกันก็ขับสบาย แถมยังช่วยให้ขับทางยาวๆ ไม่เมื่อยล้า อีกอย่างพวงมาลัยของ Model 3 ยังปรับโหมดการขับได้ตามใจเลย เช่น ในกรุงเทพฯ ที่รถติดๆ สามารถเลือกโหมด "สบายๆ" เพื่อให้พวงมาลัยเบาขึ้น หรือถ้าขับนอกเมืองหรือขึ้นทางด่วนก็สลับไปโหมด "สปอร์ต" ให้รู้สึกมันส์ๆ มากขึ้น แถมช่วงหน้าฝนหรืออากาศเย็นๆ ฟังก์ชันทำความร้อนพวงมาลัยก็ช่วยให้อุ่นมือได้ดี การออกแบบที่ชาญฉลาดของ Tesla ทําให้การปรับเปลี่ยนเหล่านี้ใช้งานง่ายมาก แม้แต่ผู้ใช้ชาวไทยที่สัมผัสกับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรกก็สามารถเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว
Q
วิธีการลบควันในรถ Tesla Model 3
สำหรับเจ้าของ Tesla Model 3 ที่ต้องเผชิญกับอากาศร้อนชื้นในประเทศไทย การเปิดโหมด "Bio Weapon Defense Mode" จะช่วยกำจัดควันหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในรถได้อย่างรวดเร็ว ระบบนี้ใช้แผ่นกรอง HEPA พร้อมระบบปรับอากาศประสิทธิภาพสูง ที่สามารถฟอกอากาศให้สะอาดได้ภายในไม่กี่นาที โดยเฉพาะเวลาติดรถยนต์ในกรุงเทพฯ ที่เจอกับไอเสีย หรือช่วงฤดูฝนที่ความชื้นสูง แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองแอร์เป็นประจำ (ในไทยควรตรวจสอบทุก 1-1.5 หมื่นกิโลเมตร) และใช้แอป Tesla เปิดระบบระบายอากาศล่วงหน้าเพื่อลดอุณหภูมิในรถ รถ EV นั้นมีความแน่นกระชับกว่าหากเทียบกับรถน้ำมัน แต่สภาพอากาศร้อนของไทยอาจทำให้สารระเหยจากวัสดุภายในรถกระจายตัวเร็วขึ้น อาจเสริมด้วยถ่านกัมมันต์หรือสเปรย์ photocatalyst ช่วยฟอกอากาศ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่อาจทำลายหน้าจอควบคุมส่วนกลาง หากต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ควรเลือกที่ร่มและใช้ม่านบังแดด พร้อมเปิดฟังก์ชัน cabin overheat protection ของ Tesla เพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในรถไม่ให้เกิน 40 องศา วิธีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถในเขตร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
สีที่ดีที่สุดสำหรับ Tesla Model 3 คืออะไร
การเลือกสีที่ดีที่สุดสำหรับ Tesla Model 3 ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและความต้องการในการใช้งาน แต่สี Pearl White และ Midnight Silver Metallic เป็นตัวเลือกยอดนิยม สี Pearl White ไม่เพียงแต่ดูแลง่ายและสะท้อนแสงแดดได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของไทย ในขณะที่สี Midnight Silver Metallic ให้ความรู้สึกหรูหราเรียบร้อยและไม่ค่อยเห็นฝุ่น นอกจากนี้สีแดงและสีน้ำเงินก็เป็นตัวเลือกสำหรับคนชอบความโดดเด่น แต่ต้องดูแลทำความสะอาดบ่อยครั้งเพื่อคงความสวยงาม สภาพแวดล้อมในไทยทั้งฝนตกบ่อยและอากาศร้อนมีผลต่อสีรถ ดังนั้นแนะนำให้เลือกการเคลือบสีหลายชั้นหรือขัดแว็กซ์เป็นประจำเพื่อยืดอายุสีรถ แม้ว่ารุ่น Model 3 จะมีกระบวนการทาสีที่ค่อนข้างดี แต่ด้วยมลภาวะและรังสี UV ในไทยที่ค่อนข้างแรง ไม่ว่าคุณจะเลือกสีไหนก็ควรดูแลรักษาอย่างเหมาะสม นอกจากนี้สภาพการจราจรในไทยที่ค่อนข้างแออัด รถสีอ่อนจะทำให้ผู้ขับขี่คนอื่นมองเห็นได้ง่ายขึ้นในเวลากลางคืน จึงปลอดภัยกว่า แต่สุดท้ายแล้วการเลือกสีควรคำนึงถึงความชอบส่วนตัวและงบประมาณ เพราะสีพิเศษบางสีอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Q
Tesla Model 3 จะเปิดตัวเมื่อไหร่
Tesla Model 3 เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมของ Tesla ที่ตอนนี้ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับวันวางจำหน่ายในประเทศไทย แต่จากแผนการตลาดระดับโลกของเทสลาและนโยบายส่งเสริมรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย คาดว่ารถรุ่นนี้น่าจะเข้ามาในตลาดไทยภายใน 1-2 ปีนี้ ลูกค้าชาวไทยสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดได้ทางเว็บไซต์ Tesla หรือตัวแทนจำหน่ายในประเทศ Model 3 ได้รับความนิยมทั่วโลกจากสมรรถนะการขับขี่ที่ยาวไกล ระบบช่วยขับอัตโนมัติอันล้ำสมัย และดีไซน์ภายในที่เรียบหรู ถ้าเข้ามาไทยก็จะเพิ่มทางเลือกให้คนรักสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งช่วยผลักดันให้โครงสร้างพื้นฐานด้าน EV ของไทยพัฒนาขึ้นอีกขั้น รัฐบาลไทยตอนนี้มีมาตรการลดภาษีสำหรับรถ EV นำเข้า และกำลังขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณดีสำหรับ Model 3 และรถ EV รุ่นอื่นๆ ที่จะมาแน่นอน ถ้าสนใจก็เตรียมตัวไว้ก่อนได้เลย ศึกษาข้อมูลการใช้รถ EV และจุดชาร์จให้พร้อม จะได้จับจองเมื่อถึงเวลา
Q
วิธีการเปิดใช้งานฟังก์ชัน Summon บน Tesla Model 3 ปี 2023
หากต้องการใช้ฟังก์ชัน Summon หรือระบบเรียกรถอัตโนมัติใน Tesla Model 3 รุ่นปี 2023 ที่ประเทศไทย สิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบคือรถต้องติดตั้ง Hardware 3.0 และต้องซื้อชุด Full Self-Driving (FSD) หรือสมัครบริการนี้ไว้แล้ว หลังจากนั้นก็แค่เปิดฟังก์ชันนี้ผ่านแอป Tesla ในส่วน "Summon" เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อนและฝนชุก แนะนำให้ใช้ในพื้นที่โล่งเพื่อป้องกันไม่ให้เซ็นเซอร์ได้รับผลกระทบจากฝนหรือความร้อนสูง ต้องระวังไว้ว่า Summon ในประเทศไทยถูกจัดอยู่ในระดับ L2 ซึ่งหมายความว่าคุณยังต้องคอยดูตลอดเวลาและพร้อมที่จะควบคุมรถได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะในที่จอดรถแคบๆ แบบไทย ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้รถเข้าออกจากช่องจอดได้เอง แต่ต้องคอยสังเกตสิ่งกีดขวางรอบข้าง ส่วนเรื่องพวงมาลัยที่ไทยเป็นแบบซ้ายมือนั้น ไม่มีปัญหากับการทำงานของ Summon เลย ไม่ต้องปรับอะไรเพิ่มเติม หากเจอปัญหาเรื่องสัญญาณเน็ตเวิร์ก ลองเชื่อมต่อกับเครือข่าย 4G/5G ของผู้ให้บริการในไทยอย่าง AIS หรือ TRUE เพื่อให้ระบบตอบสนองเร็วขึ้น Tesla จะอัปเดตระบบผ่าน OTA อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ Summon ทำงานได้ดีขึ้นในสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของไทย
Q
วิธีการดูแรงดันลมในยาง Tesla Model 3
ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย การรักษาความดันลมยางที่เหมาะสมสำหรับ Tesla Model 3 (แนะนำให้อยู่ที่ 2.9-3.1 bar เมื่อยางเย็น) เป็นเรื่องสำคัญมาก คุณสามารถตรวจสอบความดันลมยางแบบเรียลไทม์ผ่านหน้าจอสัมผัสในรถโดยไปที่ "บริการ - ระบบตรวจสอบความดันยาง" หรือจะใช้เครื่องวัดความดันยางแบบธรรมดาก็ได้ เนื่องจากอากาศร้อนในไทยมักทำให้ความดันลมยางเพิ่มขึ้น แนะนำให้ตรวจเช็คตอนเช้าที่รถยังเย็นจะได้ค่าที่แม่นยำกว่า ระบบตรวจสอบความดันยาง (TPMS) ของ Tesla จะแจ้งเตือนอัตโนมัติหากมีความผิดปกติ แต่การตรวจเช็คด้วยตนเองเป็นประจำก็เป็นนิสัยที่ดี โดยเฉพาะก่อนเดินทางไกล ในช่วงฤดูฝนของไทย ควรเช็คความลึกของดอกยางด้วยว่าเพียงพอสำหรับการระบายน้ำหรือไม่ เพื่อป้องกันการลื่นไถล หากไฟเตือนความดันยางขึ้น ควรจอดรถในที่ปลอดภัยและตรวจสอบทันที หากจำเป็นให้ไปที่ศูนย์บริการ การรักษาความดันลมยางที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ แต่ยังช่วยให้ปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย
Q
วิธีการใช้ควบคุมความเร็วอัตโนมัติในรถยนต์ Tesla Model 3
การใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติของ Tesla Model 3 ในประเทศไทยนั้นง่ายมาก แค่ดึงก้านบังคับด้านขวาของพวงมาลัยลงหนึ่งครั้งก็จะเปิดใช้งานระบบ Cruise Control แต่ถ้าดึงสองครั้งติดกันจะเป็นการเปิดระบบ Autopilot ที่สามารถปรับความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถข้างหน้าอัตโนมัติ เหมาะมากสำหรับขับบนทางด่วนกรุงเทพฯที่รถติดหรือเส้นทางขึ้นเขาที่เชียงใหม่ แต่อย่าลืมว่าอากาศร้อนและฝนตกบ่อยในไทยอาจส่งผลต่อความแม่นยำของเซนเซอร์ แนะนำให้ล้างกล้องและเรดาร์บริเวณตัวรถเป็นประจำ ส่วนป้ายจราจรในไทยก็ต่างจากมาตรฐานสากลนิดหน่อย ควรจับพวงมาลัยไว้เสมอเพื่อพร้อมควบคุมรถทุกเมื่อ Model 3 ยังมีระบบจดจำสัญญาณไฟจราจรได้ แต่บางสี่แยกที่ไม่มาตรฐานในไทยอาจทำให้ระบบทำงานไม่ถูกต้อง จะมีเสียงเตือนให้ผู้ขับเข้าไปควบคุมแทน ระบบความปลอดภัยเช่นเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติของ Tesla ช่วยลดความเครียดในการขับขี่ในสภาพการจราจรที่วุ่นวายของไทยได้ดี แต่ต้องจำไว้เสมอว่าระบบเหล่านี้ไม่สามารถแทนที่การตัดสินใจของมนุษย์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
Q&A ล่าสุด
Q
รถยนต์ Tesla มีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหนในปี 2024?
ในปี 2024 รถยนต์ Tesla มีความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับกลางถึงดีเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าโดยรวม ระบบการจัดการแบตเตอรี่และเทคโนโลยีการอัพเกรดระยะไกล OTA มีวุฒิภาวะสูงกว่าสามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มประสิทธิภาพยานพาหนะอย่างต่อเนื่องเสถียรภาพของระบบปรับอากาศในสภาพอากาศเขตร้อนยังได้รับการปรับให้เหมาะสมกับเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม รุ่นเก่าบางรุ่นอาจมีอัตราเสียหายของหน้าจอสัมผัสสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเล็กน้อย แต่ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้วในรุ่นที่ผลิตหลังปี 2023 ผ่านการอัปเกรดฮาร์ดแวร์
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถไฟฟ้าต่ำกว่ารถยนต์น้ำมันประมาณ 30%-40% แต่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูงขึ้นจากอุบัติเหตุเล็กน้อยที่เกิดจากเทคโนโลยีการหล่อขึ้นรูปแบบบูรณาการของร่างกาย จึงแนะนำให้เลือกซื้อประกันที่รวมความคุ้มครองแบตเตอรี่ไว้ด้วย สำหรับเครือข่ายสถานีชาร์จ สถานี Supercharger ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหลักเช่น กรุงเทพฯ พัทยา เป็นต้น ส่วนสถานีชาร์จของบริษัทอื่นก็ใช้งานร่วมกันได้ดี แต่ยังต้องพัฒนาครอบคลุมในพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือเพิ่มเติม
สิ่งที่ควรทราบคือ ระบบขับขี่อัตโนมัติของ Tesla กำลังปรับปรุงให้เหมาะกับสภาพท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง แต่ในสภาพถนนที่ซับซ้อน แต่ผู้ขับขี่ยังคงต้องให้ความสนใจกับสภาพถนนที่ซับซ้อน เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้ารุ่นเดียวกัน Tesla ยังคงมีอัตราการรักษามูลค่าสูงในตลาดมือสอง แต่ปัจจัยนี้ขึ้นอยู่กับสภาพสุขภาพของแบตเตอรี่เป็นอย่างมาก จึงแนะนำให้ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำผ่านการวินิจฉัยของทางบริษัท
Q
“Toyota Hilux Revo ราคาเท่าไหร่?”
รถ Toyota Hilux Revo มีหลายรุ่นด้วยกัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีราคาแตกต่างกันไป เช่น รุ่น GR Sport Wide Tread ราคาประจำการอยู่ที่ 1,499,000 บาท รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร 4 สูบ รหัส 1GD-FTV ให้กำลังสูงสุด 224 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร โดยทั่วไปแล้ว Hilux Revo จะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร 4 สูบ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่ที่แตกต่างกัน ราคาจะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์มาตรฐาน ฟังก์ชั่นการทำงาน รวมถึงพื้นที่และช่วงเวลาที่จำหน่ายด้วย หากต้องการทราบราคาที่แน่นอนและรายละเอียดเพิ่มเติม แนะนำให้ไปที่โชว์รูมโตโยต้าในพื้นที่ของคุณ พนักงานจะสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับราคาและโปรโมชั่นปัจจุบันได้ตามแบบที่คุณต้องการ
Q
2020 Hilux เปรียบเทียบกับ 2021 อย่างไร?
รุ่นปี 2020 และ 2021 ของ Toyota Hilux ยังคงใช้โครงสร้างหลักแบบเดียวกัน แต่รุ่นปี 2021 ได้รับการอัปเกรดในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ชอบความทันสมัย โดยเฉพาะระบบเทคโนโลยี ตัวรุ่นปี 2021 ได้เพิ่มหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว (จากเดิม 6.5 นิ้วในรุ่น 2020) พร้อมรองรับระบบ Apple CarPlay/Android Auto และยังสามารถเลือกติดตั้งระบบกล้องรอบคัน 360 องศาได้ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยอำนวยความสะดวกเวลาขับในเมืองหรือช่วงฤดูฝนได้ดีขึ้น ส่วนด้านสมรรถนะทั้งสองรุ่นยังใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร (204 แรงม้า/500 นิวตัน-เมตร) เหมือนเดิม แต่รุ่นปี 2021 ปรับปรุงระบบเกียร์ให้ทำงานลื่นไหลกว่าในความเร็วต่ำ สำหรับความปลอดภัย รุ่นปี 2021 ใส่ถุงลมนิรภัย 7 จุดและระบบป้องกันการชนเป็นมาตรฐานทุกรุ่น ในขณะที่รุ่นปี 2020 ต้องเลือกเพิ่มในแบบพื้นฐาน สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือรุ่นปี 2021 ติดตั้งโช้คแบบใหม่ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนบนถนนลูกรังได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องขับบนเส้นทางชนบทบ่อยๆ ทั้งสองรุ่นยังคงรักษาระยะความสูงจากพื้นรถ 220 มม. และความสามารถในการลากจูง 3.5 ตันเหมือนเดิม แต่รุ่นปี 2021 เพิ่มระบบควบคุมล็อกดิฟเฟอเรนเชียลอัตโนมัติ ทำให้การขับออฟโรดง่ายขึ้น ด้วยความที่ราคาตลาดมือสองของทั้งสองรุ่นไม่ต่างกันมาก ถ้ามีงบแนะนำให้เลือกรุ่นปี 2021 จะคุ้มค่ากว่า เพราะฟีเจอร์เพิ่มเติมช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันได้ชัดเจน
Q
ความแตกต่างระหว่าง Toyota HiLux รุ่นปี 2020 และ 2021 คืออะไร?
รุ่นปี 2020 และ 2021 ของ Toyota HiLux มีความแตกต่างหลักอยู่ที่การอัปเกรดระบบและปรับแต่งรายละเอียด โดยรุ่น 2021 ได้เพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ทันสมัยขึ้นในบางรุ่น เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ รวมถึงจอแสดงผลกลางที่ใหญ่ขึ้นและใช้งานง่ายกว่า ในส่วนของระบบขับเคลื่อนทั้งสองรุ่นยังใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกัน แต่รุ่น 2021 ได้ปรับระบบช่วงล่างเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลเวลาเดินทางบนถนนขรุขระ ด้านหน้าตัวรถก็มีการออกแบบกรอบหน้ารถและล้อใหม่ที่ดูทันสมัยขึ้น ส่วนวัสดุภายในห้องโดยสารก็ได้รับการปรับปรุงให้สัมผัสละเอียดนุ่มมือขึ้น ที่สำคัญรุ่น 2021 ในระดับสูงบางรุ่นยังเพิ่มฟังก์ชั่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายซึ่งสะดวกสบายมากเวลาการใช้งานประจำวัน ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องขับทางไกลบ่อยหรือชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ รุ่น 2021 น่าจะตอบโจทย์มากกว่า แต่ถ้าคิดถึงเรื่องงบประมาณ รุ่น 2020 ก็ยังเป็นตัวเลือกคุ้มค่า ทั้งสองรุ่นยังคงความทนทานและน่าเชื่อถือแบบฉบับ HiLux ที่เหมาะกับสภาพถนนและอากาศที่หลากหลายของประเทศไทย รวมถึงยังเป็นรุ่นที่มูลค่าการขายต่อสูงในตลาดมือสองด้วย
Q
2020 Hilux มีกำลังเท่าไหร่?
รถ Hilux ปี 2020 ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ต่างกันก็จะมีกำลังม้าแตกต่างกันไป โดยรุ่นที่นิยมคือเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า ช่วยให้รถมีพลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง เหมาะทั้งสำหรับการขับขี่ประจำวันและการรับมือกับถนนสภาพหลากหลายได้ดี ส่วนอีกรุ่นคือเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดประมาณ 150 แรงม้า ระดับกำลังนี้เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในเมืองและการขนส่งสินค้าในชีวิตประจำวัน การที่มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลากหลายแบบนี้ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการและการใช้งานของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์การขับขี่หรือความชอบส่วนบุคคล
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Tesla เจอศึกหนัก ลดราคา Model 3 สู้ตลาดจีน
ธนวัฒน์Sep 2, 2025

Tesla เตรียมเปิดตัว Model 3+ รุ่นใหม่ในประเทศจีน
ธนวัฒน์Jul 28, 2025

นอกจาก Model Y L แล้ว Tesla ยังจะเปิดตัว Model 3+ ในประเทศจีน
Kevin WongJul 18, 2025

Tesla Model 3ได้รับคะแนนสูงสุดจากEuro NCAPในปี 2025 กลายเป็นรถใหม่ที่ปลอดภัยที่สุดในยุโรป
Kevin WongJul 8, 2025

Tesla Model 3 รุ่นปี 2025 คว้ามาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP
พงศธรMay 23, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย